View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 22/01/2007 11:43 am Post subject: |
|
|
คาดส่วนต่อขยาย BTS สะพานตากสิน - แยกตากสิน แล้วเสร็จ เม.ย.
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 21 มกราคม 2550 18:17 น.
นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า หลังจากที่สภากรุงเทพมหานคร อนุมัติโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอส จากสะพานตากสิน ถึงแยกตากสิน ระยะทาง 2.2 กิโลเมตร ผู้รับเหมาลงมือก่อสร้างทันที จนถึงขณะนี้การก่อสร้างแล้วเสร็จกว่า 80 เปอร์เซนต์ เหลือเพียงการวางราง และสถานีที่พักผู้โดยสาร ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายนนี้ จากนั้นจะเร่งคืนผิวจราจร บริเวณที่มีการก่อสร้าง และทดสอบระบบการให้บริการด้านเทคนิค คาดว่าจะเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2551
โครงการดังกล่าว นอกจากจะช่วยลดปัญหาการจราจรบนสะพานตากสิน ที่คับคั่งในช่วงเช้าและเย็นแล้ว ยังสามารถขนคนเข้าสู่ตัวเมืองชั้นในได้วันละไม่น้อยกว่า 70,000 คน |
|
Back to top |
|
|
shinoda
3rd Class Pass (Air)
Joined: 16/10/2006 Posts: 309
Location: พิจิตร
|
Posted: 24/01/2007 7:48 pm Post subject: ม.ร.ว.ปรีดิยาธรเตรียมเสนอแผนสร้างรถไฟฟ้า 5 สายต่อ ครม. |
|
|
ม.ร.ว.ปรีดิยาธรเตรียมเสนอแผนสร้างรถไฟฟ้า 5 สายต่อ ครม.อีก 2 สัปดาห์
ทำเนียบรัฐบาล 24 ม.ค.- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เตรียมเสนอแผนการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 5 เส้นทางให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยจะมีแผนชัดเจนว่า โครงการแต่ละเส้นทางจะเริ่มประมูลเมื่อไร พร้อมแบ่งโครงการออกเป็น 3 ระบบ ซึ่งโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายจะเริ่มดำเนินการได้ 2 โครงการแรก ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมเกี่ยวกับความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้า 5 สาย ว่า ที่ประชุมมีข้อสรุปว่า โครงการรถไฟฟ้าทั้งหมดจะเรียกว่าระบบขนส่งมวลชนทางรางสำหรับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่จะมี 3 ระบบ คือ 1.รถไฟฟ้า กทม. 2.รถไฟฟ้า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) และ 3.รถไฟฟ้าชานเมือง ที่จะเชื่อมระหว่างรังสิตถึงใจกลาง กทม. ตลิ่งชัน-กทม. ฉะเชิงเทรา-กทม. ซึ่งทั้ง 3 ระบบจะเสนอแผนเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยจะเสนอแผนชัดเจนว่าจะเริ่มการประมูลเมื่อใดและทยอยประกวดราคา โดยในส่วนโครงการรถไฟฟ้าของ กทม.จะต้องดำเนินการล่าช้าที่สุด เพราะแบบไม่พร้อม ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ และสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-ท่าพระ และบางซื่อ-ท่าพระ-บางแค จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อพิจารณาเรื่องความคุ้มค่าในการลงทุน ไม่เช่นนั้นจะดำเนินการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐไม่ได้ จากนั้นจะพิจารณาโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงรังสิต-บางซื่อ-ตลิ่งชัน และบางซื่อ-มักกะสัน-หัวหมาก และสายสีเขียวเข้ม ช่วงสถานีหมอชิต-ตลาดยิ่งเจริญ-สะพานใหม่ สายสีเขียวอ่อนช่วงซอยแบริ่ง สำโรง-สมุทรปราการ ส่วนเงินลงทุนจะกู้จากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิก) และบางส่วนจะมีการออกพันธบัตรระดมทุน.-สำนักข่าวไทย
[ 2007-01-24 : 16:42:44 ]
ที่มา : http://tna.mcot.net/search.php?type=3# _________________
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 29/01/2007 9:44 am Post subject: |
|
|
กทม.เตรียมใช้วิธีพิเศษเรียกอัลคาเทลวางระบบสัญญาณรถไฟฟ้าไปฝั่งธนฯ
Dailynews - Jan 29, 2007
นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า จากการประชุม ติดตามความคืบหน้าและปัญหาอุปสรรคการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายจากสาทร-ตากสิน ระยะทาง 2.2 กม. ไปฝั่งธนบุรี พบว่า ขณะนี้การก่อสร้างสถานีและวางรางได้ผลงานแล้ว 84% จะเสร็จ 100% ภายในเดือน เม.ย. นี้
ขณะเดียวกันได้ให้คณะกรรมการเร่งพิจารณาสรุปเงื่อนไขข้อกำหนดหรือทีโออาร์การจัดเดินรถ เพราะล่าสุดได้รับหนังสือแจ้ง จากบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ บีทีเอสซี อย่างเป็นทางการแล้วว่า บริษัทจะเปลี่ยนระบบอาณัติสัญญาณจากระบบ ฟิทติ้ง บล็อก มาเป็นมูฟวิ่ง บล็อก คือ การติดระบบอาณัติสัญญาณที่ตัวรถ จากเดิมที่ติดตั้งบนตัวราง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ ซึ่งบีทีเอสจะคัดเลือกบริษัทอัลคาเทลเป็นผู้ปรับระบบใหม่ ดังนั้น กทม. ต้องติดตั้งระบบให้สอดคล้องกับบีทีเอสเพื่อไม่ให้มีปัญหาในการเดินรถ ซึ่งมีแนวโน้มว่า กทม. จะใช้วิธีพิเศษ ในการเรียกบริษัทมาเจรจาวางระบบอาณัติสัญญาณเพื่อความรวดเร็ว และมีความเป็นไปได้ สูงที่จะเลือกบริษัทอัลคาเทลเพื่อให้สอดคล้องกับบริษัท บีทีเอส
นายพนิช กล่าวต่อว่า ภายในเดือน ก.พ. น่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องระบบอาณัติสัญญาณ จากนั้นบริษัทจะได้เริ่มติดตั้งระบบ ใช้เวลาติดตั้งราว 6 เดือน ระหว่างนี้จะหาข้อสรุปในเรื่องการเดินรถ ซึ่งต้องรอกฤษฎีกาตีความสถานะของกรุงเทพธนาคมที่ กทม. จะให้เข้ามาบริหารว่าจะเข้าข่าย พ.ร.บ. ร่วมทุนหรือไม่ อย่างไรก็ตามแม้จะเข้า พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ ก็ไม่มีปัญหาเพราะได้เตรียมขั้นตอนต่าง ๆ ไว้แล้ว ทั้งการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เหลือเพียงขั้นตอนการสรุปโครงการเสนอ ครม. เท่านั้น มั่นใจว่าจะเปิดให้บริการรถไฟฟ้าไปฝั่งธนบุรีได้ภายในสิ้นปีนี้แน่นอน. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 05/02/2007 11:56 am Post subject: |
|
|
คีรีเล็งพันธมิตรดูไบร่วมทุนรถไฟฟ้า ซีเมนส์- มิตซุย ชิงดำขายโบกี้12 ขบวน
ประชาชาติธุกิจ - 5 กุมภาพันธ์ 2550
แผนปรับโครงสร้างหนี้ 5.9 หมื่นล้าน บีทีเอส ผ่านฉลุย ศาลเห็นชอบให้ทำตามแผนแล้วเสร็จภายใน 180 วัน ด้าน "คีรี" วิ่งวุ่นหาเงินกว่า 2 หมื่นล้าน ชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ เตรียมดึงพันธมิตรจากดูไบร่วมทุน ลั่น "ธนายง" ไม่เข้ามาลงทุนอีกต่อไป ส่วนซื้อรถไฟฟ้าใหม่ 12 ขบวน เหลือ "ซีเมนส์ - มิตซุย" ชิงดำกันเอง คาดภายในกุมภาพันธ์นี้ได้ข้อสรุป
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี มูลค่า 59,000 ล้านบาทแล้ว หลังจากได้เลื่อนการพิจารณาคดีในช่วงก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีเจ้าหนี้ที่มีหลักประกัน จำนวน 7 รายยื่นคัดค้านแผนฟื้นฟู ซึ่งศาลเห็นว่าแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทบีทีเอสที่นายคีรี กาญจนพาสน์ เป็นผู้จัดทำแผน จะทำให้เจ้าหนี้มีโอกาสได้รับการชำระหนี้คืนมากกว่าจะปล่อยให้บริษัทตกอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถ ดำเนินการใดๆ ได้อย่างเวลานี้
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานบริหารบีทีเอสซี เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังศาลล้มละลายมีคำสั่งเห็นชอบแผนฟื้นฟูของบริษัท จากนี้ไปจะต้องดำเนินการตามแผนให้แล้วเสร็จภายใน 180 วันหรือ 6 เดือน โดยหาเงินทุน 600 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 20,000 กว่าล้านบาท เพื่อนำมาชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ทั้ง 14 กลุ่ม โดยบางส่วนต้องแปลงหนี้เป็นทุน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
"ในการหาเงินทุนใหม่ ผมจะหาพันธมิตรใหม่เข้ามา ทั้งชาวต่างชาติและนักลงทุนไทย โดยในส่วนของต่างชาตินั้นจะเข้ามาในสัดส่วนไม่เกิน 49% ตามกรอบกฎหมาย ที่เหลือ 51% จะเป็นนักลงทุนในประเทศ โดยกลุ่มที่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเข้ามาร่วมทุน คือ กลุ่มดูไบ ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยลงทุนในบริษัทธนายง จำกัด (มหาชน) แต่ต้องรอเจรจากันก่อน"
นายคีรีกล่าวว่า สำหรับผู้ถือหุ้นที่เป็นคนไทยจะไม่มีชื่อของกลุ่มบริษัทธนายงเข้ามาถือหุ้นอีกต่อไป จากเดิมที่เป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ เนื่องจากหลังจากที่บริษัทธนายงออกจากแผนฟื้นฟูกิจการแล้ว ได้ปรับแผนการดำเนินงานของบริษัทใหม่ชัดเจน จะไม่ลงทุนในส่วนของธุรกิจอินฟราสตรักเจอร์เหมือนที่ผ่านมา จะเน้นลงทุนเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพียงอย่างเดียว
"ส่วนตัวผม ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเข้ามาถือหุ้นบีทีเอสอีกหรือไม่ คงต้องรอดูผลการหาพันธมิตรก่อน ว่าลงตัวมากน้อยแค่ไหน ตอนนี้ยังตอบไม่ได้"
นายคีรีกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะดำเนินการตามแผนฟื้นฟูเสร็จเรียบร้อยและออกจากแผนฟื้นฟูได้ตามกำหนดระยะเวลาที่ศาลระบุคือภายใน 180 วัน แม้เจ้าหนี้บางรายยังยื่นคัดค้านอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่เมื่อบริษัทสามารถดำเนินการตามแผนได้ครบถ้วนตามที่ศาลได้เห็นชอบไปแล้ว คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร หลังจากออกจากแผนฟื้นฟูจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯต่อไป คาดว่าไม่น่าจะเกินไตรมาสที่ 2 ปีนี้
"ตามแผนใหม่ เมื่อออกจากแผนแล้วจะทำให้บริษัทมีกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ประมาณ 20,000 ล้านบาท หนี้สินจะลดลงจำนวนมาก เพราะมีการแปลงหนี้เป็นทุน และลดทุน ทำให้ บริษัทมีความเข้มแข็ง การดำเนินงานต่อจากนี้ไปจะมีกำไรแน่นอน"
นายคีรีกล่าวต่อว่า สำหรับการจัดซื้อรถไฟฟ้า จำนวน 12 ขบวน ขณะนี้กำลังเร่งพิจารณาข้อเสนอที่ผู้ผลิตรถไฟฟ้าเสนอมา จากเดิมเสนอตัว 3 บริษัท ปัจจุบันเหลือ 2 บริษัท คือ บริษัทซีเมนส์ และบริษัทมิตซุยคาดว่าจะได้ตัวผู้ผลิตรถภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เนื่องจากปัจจุบันรถไฟฟ้าที่ให้บริการอยู่ไม่เพียงพอกับจำนวนผู้โดยสารที่มาใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสเพิ่มขึ้นมากเกือบ 5 แสนคนต่อวัน หลังจากที่เซ็นสัญญาแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาประ มาณปีครึ่งกว่ารถไฟฟ้าขบวนใหม่จะเข้ามา ส่วนการปรับเปลี่ยนระบบอาณัติสัญญาณกำลังเจรจากับทางซัพพลายเออร์ คาดว่าจะได้สรุปเร็วๆ นี้ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 05/02/2007 12:49 pm Post subject: |
|
|
สน.บีทีเอส สื่อความเป็นไทย
[ไทยรัฐ - 5 ก.พ. 50 - 04:41]
แบบสถานีรถไฟฟ้าชนะเลิศ
นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ รอง ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า บริษัทอิตาเลียนไทยผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าจากอ่อนนุช-แยกบางนา จัดให้มีการประกวดออกแบบสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ซึ่งดำเนินการตามเงื่อนไขที่รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) กำหนด เพื่อดึงการมีส่วนร่วมของประชาชน ปรากฏว่ามีบริษัทผู้สนใจยื่นแบบทั้งสิ้น 4 ราย ทั้งหมดได้ส่งแบบจำลอง พร้อมแนวคิดการออกแบบมาให้กรรมการ ซึ่งมีนางอรศิริ ปาณินท์ อาจารย์คณะสถาปัตยกรรม ม.เกษตรฯ และสถาปนิก วิศวกรอีกหลายคนร่วมพิจารณาโดยให้คะแนนแยกในแต่ละด้าน ดังนี้
1. รูปลักษณ์ด้านสถาปัตยกรรม
2. ภูมิสถาปัตยกรรม
3. ความเป็นไปได้ด้านวิศวกรรมโครงสร้าง
4. สิ่งแวดล้อม และ
5. งบประมาณการก่อสร้าง
ปรากฏว่าแบบของบริษัทสถาปนิกหนึ่งร้อยสิบ ชนะเลิศได้รับเงินรางวัล 600,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 3 บริษัท แยกเป็นได้รับรางวัลที่ 2 รวม 2 บริษัท ได้รับเงินรางวัลบริษัทละ 300,000 บาท สุดท้ายได้รับรางวัลชมเชย 1 รางวัล เป็นเงิน 70,000 บาท โดยขณะนี้สำนักการจราจรและขนส่งกำลังรวบรวมรายละเอียดทั้งหมดเสนอต่อคณะผู้บริหาร เมื่อรับทราบแล้วจะได้แจ้งให้บริษัทอิตาเลียนไทยทราบเพื่อจัดพิธีมอบรางวัลต่อไป
นายพนิชกล่าวถึงแบบสถานีที่ได้รับรางวัลชนะเลิศว่า มีจุดเด่นตรงที่หลังคาสถานีโค้งมนคลุมพื้นที่ชานชาลาทั้งหมด ขณะที่กำหนดให้หลังคามี 2 ระดับเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ส่วนหลังคาบริเวณเหนือทางวิ่งกำหนดให้ใช้หลังคาแบบโปร่งเพื่อให้แดดส่องกระทบมาภายในสถานีได้ เพียงบางส่วน นอกจากนี้ตัวสถานียังได้ออกแบบแฝงความเป็นไทยไว้ด้วยหลายจุด เช่น ฝ้า และพื้นทางเดินออกแบบด้วยลวดลายแบบย่อมุม 8 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมไทยในอดีตและยังได้กำหนดให้ใช้สีจากเครื่องเบญจรงค์ ทั้งนี้ ได้จำแนกการใช้งานให้สอดคล้องกับพื้นที่ใช้สอยแต่ละส่วน อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานครสามารถนำแบบที่ชนะเลิศไปปรับปรุงแก้ไขหรือเพิ่มรายละเอียดในส่วนอื่นๆ ก่อนจะนำไปเป็นแบบสถานีบีทีเอสที่กำลังก่อสร้างรวม 4 สถานี ได้แก่ สุขุมวิท 95 (E 10) สุขุมวิท 101 (E11) สุขุมวิท 103 (E12) และกรมอุตุนิยมวิทยา (E13) ต่อไป.
การวางรางบนสะพานตากสิน |
|
Back to top |
|
|
KaittipsBOT
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 4150
|
Posted: 07/02/2007 1:35 pm Post subject: |
|
|
เมื่อเช้าฟังข่าว โครงการรถไฟฟ้า มีการอนุมัติโครงการแล้วทั้งหมดตามที่เสนอ โดยมีลำดับการก่อสร้างที่จำได้คร่าวๆ มี
ลำดับที่ 1 สาย บางซื่อ - ตลิ่งชัน คาดว่าเริ่มก่อสร้างได้ในปลายปีนี้
ลำดับที่ 2 สาย บางซื่อ - บางใหญ่ คาดว่าเริ่มก่อสร้างได้ในปีหน้า
ส่วนสายอื่นๆ จำไม่ได้ หากใครมีข้อมูลข้อแผนที่แบบพอสังเขป สำหรับ 2 สายแรก หรือสายอื่นๆ ถ้ามี อยากดูเส้นทางว่าพาดผ่านส่วนใดของ กทม. บาง ในทางแต่ละสาย
ขอบคุณครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 07/02/2007 2:11 pm Post subject: |
|
|
พี่ห่าน เบิ่งดูแผนที่สายสีม่วงของ รฟม.ได้ที่นี่ครับ ภาพจากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ส่วนทางรถไฟฟ้าสายแดง (บางซื่อ - ตลิ่งชัน) จะเป็นแบบนี้ครับ จากประชาชาติธุรกิจ
ส่วนตำแหน่งสถานีตาม Blue RIng ส่วนทะลุเกาะรัตนโกสินทร์จะเป็นแบบนี้ ภาพนี้โดยคุณ totomaru
ส่วนตำแหน่งสถานีตาม Blue RIng ส่วนไปบางโพ และ จรัญสนิทวงศ์จะเป็นแบบนี้ ภาพนี้โดยคุณ totomaru
นี่ก็ แผนที่ ในรูปไดอาแกรม ภาพนี้โดยคุณ totomaru เช่นกัน
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 08/02/2007 11:20 am Post subject: |
|
|
รถไฟฟ้าตากสินใกล้เสร็จ กทม.ลงนามเพิ่มสร้างบีอาร์ที
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 กุมภาพันธ์ 2550 19:20 น.
ฝันคนกรุงใกล้เป็นจริงส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าจากสถานีตากสินถึงแยกตากสินคืบหน้ากว่า 90% คาดเมษายนนี้คืนผิวจราจรได้ มั่นใจต้นปี 2551 เปิดให้บริการได้แน่ ขณะที่สายตากสิน-บางหว้าต้นปี 2552 ได้ใช้ ส่วนสายอ่อนนุช-แบริ่ง เดินหน้าไปไวกว่าแผน เผย กทม.ลงนามสร้างบีอาร์ทีเพิ่มอีกในสัปดาห์หน้าเชื่อมขนส่งมวลชนทั้งระบบบริการคนเมือง
นายพนิช กิตติเศรษฐ์ รองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมโครงการระบบขนส่งมวลชน กทม.ว่า คณะกรรมการได้รายงานความคืบหน้าการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีลม จากสถานีตากสินถึงแยกตากสินระยะทาง 2.2 กิโลเมตร คืบหน้าแล้วกว่า 90% ในส่วนของการวางรางและสร้างสถานีจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายนนี้ จากนั้นจะคืนผิวจราจรได้โดยทันที ส่วนระบบอาณัติสัญญาณที่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะใช้ของอัลคาเทลหรือซีเมนส์นั้น ทางบริษัทที่ปรึกษาได้เสนอว่า กทม.ควรใช้ระบบอาณัติสัญญาณที่เชื่อมโยงหรือเป็นระบบสัญญาณเดียวกับของบีทีเอสซี ซึ่งจะลงนามสัญญาณระบบอาณัติสัญญาณให้ได้ภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเปลี่ยนจากระบบ fix blog เป็น moving blog เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเดินรถไฟฟ้ายิ่งขึ้น แต่ไม่จำเป็นที่ กทม.จะต้องใช้ระบบอาณัติสัญญาณ ของบริษัทที่ลงนามสัญญากับบีทีเอสซี เพราะมีหลายบริษัที่มีระบบ moving blog อย่างไรก็ตาม การลงนามสัญญาของบีทีเอสซีจะช่วยให้ กทม.ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งทางคณะกรรมการชุดของนายรัฐพล มีธนาถาวร รองปลัด กทม. เป็นประธานประชุมร่วมกับตัวแทนจากสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปไม่เกินเดือนมีนาคม 2550 และทดสอบระบบพร้อมกับการทดลองเดินรถภายในเดือนธันวาคมปีนี้เช่นกัน ก่อนจะเปิดบริการต้นปี 2551 แน่นอน
นายพนิช กล่าวอีกว่า สำหรับส่วนต่อขยายจากแยกตากสินถึงบางหว้า ระยะทาง 4.5 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้ก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานแล้วเสร็จเป็นระยะทาง 3.7 กิโลเมตร เหลือเพียง 800 เมตร ซึ่งตนจะเสนอแผนให้ผู้ว่าฯ กทม.รับทราบ โดยขณะนี้ กทม.กำลังร่างทีโออาร์ในส่วนที่เหลืออีก 800 เมตร โดยทีโออาร์ดังกล่าวจะครอบคลุมการสร้างทางวิ่งการวางราง และสร้างสถานีอีก 5 สถานี เนื่องจากระยะทาง 3.7 กิโลเมตรเป็นทางวิ่งเท่านั้น และสถานีสุดท้ายของบีทีเอสจะเชื่อมต่อกับ สถานีสุดท้ายของรถเมล์ด่วนพิเศษ(บีอาร์ที)พอดี โดยส่วนต่อขยาย 4.5 กิโลเมตรนี้ จะสามารถเปิดให้บริการได้ในต้นปี 2552
สำหรับส่วนต่อขยายสายสุขุมวิทจากสถานีอ่อนนุชถึงแบริ่งขณะนี้คืบหน้าแล้ว 9% เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ ส่วนส่วนต่อขยายจากแบริ่งถึงสมุทรปราการและสถานีหมอชิตถึงสะพานใหม่ที่ ครม.อนุมัติ ให้ กทม.ดำเนินการ ก็จะรอให้ สนข.ออกแบบรายละเอียดต่างๆ ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน แต่ทั้งนี้ กทม.จะได้นำแบบที่ กทม.ได้เตรียมไว้เสนอให้ สนข.พิจารรณาอีกทางหนึ่งด้วย ส่วนงบประมารในการก่อสร้าง ซึ่งรัฐบาลเป็นผู้ลงทุนให้ทั้งหมดนั้น ตนจะเข้าไปหารือที่กระทรวงการคลัง เพื่อรับฟังนโยบายด้านการระดมทุน เพื่อมาใช้ในโครงการดังกล่าว เพื่อตนจะได้วางแผนในการทำงานต่อไป
ส่วนความคืบหน้าโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษนั้น นายพนิช กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า กทม.จะลงนามสัญญาก่อสร้างสถานี และทางวิ่งกับบริษัทยูนิคเอนจิเนียริ่ง แอนคอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) โดยจะใช้เวลาก่อสร้าง 180 วัน นับจากวันลงนาม นอกจากนี้ ตนยังมีโอกาสได้เข้าไปหารือกับอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ซึ่งเห็นด้วยกับโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษ และสนับสนุนให้รถบีอาร์ทีสามารถใช้สะพานพระราม 3 แต่จะไม่มีการกั้นช่องทางวิ่ง สำหรับบีอาร์ทีเฉพาะเนื่องจากจะทำให้เกิดปัญหาจราจรตามมา หากต้องกั้นช่องจราจรพิเศษบนสะพาน นอกจากนี้ในส่วนของสะพานข้ามแยกที่ กทม.สร้างเองก็จะตีช่องทางเฉพาะให้กับบีอาร์ทีแต่รถยนต์อื่นก็สามารถใช้บริการได้ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 09/02/2007 11:17 am Post subject: |
|
|
"พนิช"ยันรถไฟฟ้าตากสินวิ่งปี" 51 เล็งสร้างต่ออีก 4.5 กม.ไปบางหว้า
มติชน - 9 กุมภาพันธ์ 2550
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยเปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ว่าคณะกรรมการรายงานความคืบหน้าการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้ากรุงเทพฯ สายสีลม จากสถานีตากสิน-แยกตากสิน ระยะทาง 2.2 กิโลเมตร ในส่วนของการวางรางและสร้างสถานี มีคืบหน้าแล้วกว่า 90% จะแล้วเสร็จในเดือนเมษายนนี้
จากนั้นจะคืนผิวจราจรให้ประชาชนสัญจรบนพื้นราบได้ตามปกติ ส่วนระบบอาณัติสัญญาณที่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะใช้ของบริษัทอัลคาเทล หรือซีเมนส์ บริษัทที่ปรึกษาเสนอว่า กทม.ควรใช้ระบบอาณัติสัญญาณที่เชื่อมโยงหรือเป็นระบบสัญญาณเดียวกับของบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ บีทีเอสซี ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส (หวยออกซีเมนส์)
นายพนิชกล่าวว่า บีทีเอสซีจะลงนามระบบอาณัติสัญญาณสัปดาห์หน้าเปลี่ยนจากระบบ fix blog เป็น moving blog เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเดินรถไฟฟ้ายิ่งขึ้น แต่ไม่จำเป็นที่ กทม.จะต้องใช้ระบบอาณัติสัญญาณ ของบริษัทที่ลงนามสัญญากับบีทีเอสซี เพราะมีหลายบริษัทที่มีระบบ moving blog ซึ่งคณะกรรมการร่างข้อกำหนดด้านเทคนิค TOR ที่มีนายรัฐพล มีธนาถาวร รองปลัด กทม. เป็นประธาน จะประชุมเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปไม่เกินเดือนมีนาคมนี้และทดสอบระบบพร้อมกับการทดลองเดินรถอีก 6-9 เดือน ซึ่งคาดว่า น่าจะไม่เกินเดือนธันวาคมเช่นกัน ก่อนจะเปิดให้บริการต้นปี 2551
นายพนิชกล่าวอีกว่า สำหรับส่วนต่อขยายจากแยกตากสินถึงบางหว้า ระยะทาง 4.5 กิโลเมตร ขณะนี้ก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานแล้วเสร็จเป็นระยะทาง 3.7 กิโลเมตร เหลือเพียง 800 เมตร ซึ่งจะนำเสนอแผนให้ผู้ว่าฯ กทม.รับทราบ โดยขณะนี้ กทม.กำลังร่างทีโออาร์ในส่วนที่เหลืออีก 800 เมตร โดยทีโออาร์ดังกล่าวจะครอบคลุมการสร้างทางวิ่ง การวางราง และสร้างสถานีอีก 5 สถานี เนื่องจากระยะทาง 3.7 กิโลเมตรเป็นทางวิ่งเท่านั้น และสถานีสุดท้ายของบีทีเอสจะเชื่อมต่อกับ สถานีสุดท้ายของรถเมล์ด่วนพิเศษ (บีอาร์ที) พอดี โดยส่วนต่อขยาย 4.5 กิโลเมตร จะสามารถเปิดให้บริการได้ในต้นปี 2552
นายพนิชกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการบีอาร์ทีว่า ในสัปดาห์หน้า กทม.จะลงนามสัญญาก่อสร้างสถานีและทางวิ่งกับบริษัทยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อก่อสร้างทางวิ่งและสถานีในสายสุรวงศ์-ราชพฤกษ์ และสุรวงศ์-ประชาอุทิศ ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร โดยจะใช้เวลาก่อสร้าง 180 วัน นับจากวันลงนาม นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้เข้าไปหารือกับอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ซึ่งเห็นด้วยกับโครงการรถบีอาร์ที และสนับสนุนให้รถบีอาร์ทีใช้สะพานพระราม 3 แต่จะไม่มีการกั้นช่องทางวิ่งสำหรับรถบีอาร์ทีเฉพาะ เนื่องจากจะทำให้เกิดปัญหาจราจรตามมาหากต้องกั้นช่องจราจรพิเศษบนสะพาน นอกจากนี้ในส่วนของสะพานข้ามแยกที่ กทม.สร้างเองจะตีช่องทางเฉพาะให้กับบีอาร์ที แต่รถยนต์อื่นก็ใช้บริการได้เพียงแต่ทำให้ช่องทางเกิดความแตกต่างเท่านั้น |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 13/02/2007 1:29 pm Post subject: |
|
|
บีทีเอสพร้อมปรับค่ารถไฟฟ้าอีก5บ.เริ่ม1มี.ค.นี้
Dailynews - Feb 13, 2007
นายอาณัติ อาภาภิรม ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอส) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. นี้ บริษัทจะปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าอัตราใหม่ หลังจากที่จัดโปรโมชั่นขยายเวลาการปรับราคา 3 เดือน จากเดิมที่จะเริ่มปรับอัตราใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2549 ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ทำการประชาสัมพันธ์อัตราค่าโดยสารใหม่ทั้งการแจกใบปลิว ติดตารางค่าโดยสารใหม่บนทุกสถานีให้ประชาชนทราบ รวมทั้งเตรียมการเซตระบบข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์เพื่อหักค่ารถไฟฟ้าจากบัตรโดยสาร โดยในส่วนของตั๋ววัน และตั๋วเดือนจะไม่มีผลกระทบเพราะยังจ่ายในอัตราเดิมคือเหมาจ่าย แต่ตั๋วเที่ยวเดียวจะต้องปรับราคาเพิ่มอีก 5 บาท ซึ่งจะมีผลตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันที่ 1 มี.ค. ดังนั้นขอความร่วมมือประชาชนให้เตรียมพร้อม ซึ่งขณะนี้ยังเหลือเวลาอีกราว 2 สัปดาห์เข้าใจว่าประชาชนน่าจะทราบข้อมูลทั้งหมดแล้ว
นายอาณัติกล่าวต่อว่า สำหรับอัตราค่าโดยสารใหม่ จะเป็นราคาขั้นต่ำเริ่มที่ 15 บาทจนถึง 40 บาท จากเดิมที่เก็บ 10-40 บาท อย่างไรก็ตามบริษัทสามารถเก็บเต็มเพดานได้ถึง 15-45 บาท แต่บริษัทก็ปรับเฉพาะอัตราเริ่มต้นเท่านั้น หากเดินทางเพียง 1 สถานี เสียค่าโดยสาร 15 บาท และค่าโดยสารจะเพิ่มขึ้นทุก ๆ 2 สถานีในอัตราอีก 5 บาท ผู้ที่ได้รับผลกระทบจะเป็นผู้ที่ใช้บริการในสถานีเลขคี่ เช่น สถานีที่ 1, 3, 5, 7 แต่หากเดินทางมากกว่า 10 สถานีขึ้นไปจะเก็บค่าโดยสารคงที่ที่อัตรา 40 บาท การปรับราคาดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อผู้ที่เดินทางระยะสั้นเพราะจะเสียค่าโดยสารเพิ่มขึ้นโดยตรง แต่จะไม่สร้างปัญหากับผู้ที่เดินทางมากกว่า 10 สถานีขึ้นไปหรือผู้โดย สารที่เดินทางไกล และอยากให้ประชาชนใช้ตั๋วเดือนเพราะจะไม่กระทบต่อการปรับราคาค่าโดยสารดังกล่าว ทั้งนี้คาด ว่าการปรับขึ้นราคาจะทำให้บริษัทมีรายได้จากค่าโดยสาร เพิ่มเป็นเดือนละ 10.6 ล้าน จากเดิมเดือนละ 9.5 ล้านบาท. |
|
Back to top |
|
|
|