ส่วนต่อขยายบีทีเอสที่ กทม. จะทำ

Mongwin · Posted: 19/12/2013 9:31 am Post subject:

ลาก'บีทีเอส'ถึงตลิ่งชัน กทม.เร่งศึกษา6สถานีเชื่อมสายสีแดง-สีส้ม
Thursday, 19 December 2013 08:32
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556

"สุขุมพันธุ์" ดันแผนพัฒนาพื้นที่ย่านตลิ่งชันรับความก้าวหน้าระบบโครงข่ายคมนา คม จี้สจส.-กรุงเทพธนาคมเร่งศึกษาเพิ่มส่วนต่อขยายบีทีเอสจากบางหว้า-บรมราชชนนี อีก 6 สถานี คาดใช้งบถึงหมื่นล้านบาท ยันพร้อมลงทุนเองเร่งเปิดใช้ปี 62 หวังเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีแดงโยงสายสีส้ม ต่อจิ๊กซอว์รูปแบบการเดินทางอย่างเต็มที่มากขึ้น บิ๊กเคทีรับลูกหวังสกัดรถยนต์ส่วนบุคคลเข้าสู่เมืองชั้นใน

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพ มหานคร (กทม.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าได้มอบหมายให้สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กรุงเทพ มหานครประสานกับบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด(เคที) ให้เร่งศึกษาเพื่อดำเนินการเพิ่มสถานีส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีลม (ส่วนต่อขยาย) จากสถานีบางหว้า-บรมราชชนนี ออกไปอีก 6 สถานี เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงกับรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อตลิ่งชันที่ย่านบรมราชชนนี และสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชันมีนบุรี ที่รัฐบาลมีแผนดำเนินการ โดยปัจจุบันยังมีรถไฟระบบธรรมดาของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดให้บริการซึ่งเป็นการเชื่อมโยงการเดินทางด้วยระบบโครงข่ายคมนาคมเพื่อให้เข้าถึงชุมชนอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะพื้นที่โซนตะวันตกของกทม.

ประกอบกับขณะนี้โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีลม (สนามกีฬา-วงเวียนใหญ่บางหว้า) ได้เปิดให้บริการครบทั้งเส้นทางเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา กทม.ยังมีแนวคิดที่จะพัฒนารถไฟฟ้าส่วนต่อขยายจากสถานีบางหว้าไปจนถึงสถานีตลิ่งชัน รวมจำนวน 6 สถานี ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 1.1 หมื่นล้านบาท โดยกทม.พร้อมลงทุนเองทั้งหมดเพื่อให้ชาวกรุงเทพฯ ในฝั่งธนบุรี สามารถเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนสาธารณะของกทม. ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562

"โดยต้องการให้ขยายพื้นที่บริการไปยังย่านตลิ่งชันเพื่อเป็นการขยายระบบโครงข่ายคมนาคมด้วยระบบรางให้สามารถเข้าถึงประชาชนได้อย่างเชื่อมโยงและเต็มรูปแบบการเดินทางมากขึ้น นอกจากจะเปิดให้บริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายแล้ว ยังได้เตรียมประสานกรมเจ้าท่า เพื่อเปิดให้บริการเดินเรือโดยสารในคลองภาษีเจริญ ระยะทาง 11.5 กม.อีกด้วย ซึ่งการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าและเรือโดยสารดังกล่าวจะสามารถตอบสนองความต้องการในการเดินทางของพี่น้องประชาชนได้ครอบคลุมและทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยอยู่ในฝั่งธนบุรีจะสามารถเดินทางด้วยระบบรถไฟฟ้าเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกประหยัดและปลอดภัย"

นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกทม. กล่าวว่ากทม.ได้เปิดให้บริการรถไฟฟ้าโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ส่วนต่อขยายสายสีลมช่วง สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ-สถานีวงเวียนใหญ่-สถานีบางหว้าครบทั้งเส้นทางตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการ 5-7 หมื่นเที่ยวคน/วัน ดังนั้นเมื่อมีการพัฒนาโครงการความเจริญจะเกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวจากกรณีมีรถไฟ-รถไฟฟ้า 3-4 สายเชื่อมโยงกัน

"จะเป็นศูนย์การเชื่อมโยงระบบโครงข่ายคมนาคมที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น สำหรับในเรื่องของผังเมืองนั้นจะต้องมีการหารือหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนเรื่องนี้อีกครั้งเพื่อให้สอดคล้องกันต่อไป ปัจจุบันความเจริญของเมืองในพื้นที่ก้าวนำไปเร็วมาก โดยเฉพาะวงการอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้นหากรัฐบาลยังล่าช้าก็จะเกิดผลเสียตามมาในอนาคต กทม.จึงเร่งนำเสนอเพื่อให้มีการผลักดันในเรื่องนี้โดยเร็วต่อไป"

ดร.ไมตรี วสันติวงศ์ กรรมการผู้อำนวยการบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด กล่าวว่าหากสามารถเพิ่มพื้นที่การขยายระบบโครงข่ายคมนาคมให้เชื่อมโยงกันได้ดีที่ตลิ่งชันจะทำให้พื้นดังกล่าวมีแนว ทางการเติบโตที่ชัดเจน โดยจะสามารถป้องกันรถยนต์ส่วนบุคคลไม่ให้เข้ามาสู่พื้นที่ชั้นในเมืองได้ ซึ่งเป็นไปตามแนว ทางการแก้ไขปัญหาจราจรในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร-ปริมณฑลที่ต้องการให้ประชาชนปรับเปลี่ยนมาใช้บริการด้วยระบบรางมากขึ้น

"ปัจจุบันระบบโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่มีทั้งรถเมล์ขสมก.เส้นทางหลักได้แก่ สาย 28, 40, 57, 66, 79, 123,124, 125, 127, 146, 149, 507, 511, 515, 516 รถตู้โดยสารสาธารณะ และรถสองแถวสาย 1475 ที่สามารถเชื่อมโยงไปยังนครปฐม เพชรเกษม บางบัวทอง และเข้าสู่ชั้นในเมืองได้อย่างครอบคลุม ซึ่งหากเปิดให้บริการบีทีเอสช่วงดังกล่าวผู้โดยสารสามารถใช้บริการเข้าสู่ใจกลางเมืองได้รวดเร็วขึ้นโดยไม่ต้องฝ่ากระแสการจราจรที่นับวันติดหนักขึ้นทุกวันอีกต่อไป"

Mongwin · Posted: 06/01/2014 7:49 am Post subject:

6 ม.ค. 57
ส่วนต่อขยาย BTS สายสีลม (โพธิ์นิมิตร, ตลาดพลู, วุฒากาศ, บางหว้า) เริ่มเก็บค่าบริการวันแรก 10 บาทตลอดสาย

Wisarut · Posted: 06/01/2014 11:47 am Post subject:

วันนี้เก็บค่ารถไฟฟ้า สายสีลม 10 บาท
ข่าวกทม.
เดลินิวส์
วันจันทร์ 6 มกราคม 2557 เวลา 06:00 น.

หลังเปิดให้บริการฟรี1 เดือน กทม.เริ่มเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีลมวงเวียนใหญ่-สถานีบางหว้าในราคา10 บาท

นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)เปิดเผยว่าในวันจันทร์ที่ 6 ม.ค.57 นี้ กทม.จะจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีลม ตั้งแต่สถานีวงเวียนใหญ่- สถานีบางหว้า จำนวน 4 สถานี ในราคา 10 บาทตลอดสาย เช่นเดียวกับสายสุขุมวิท หลังจากที่เปิดให้บริการสถานีโพธิ์นิมิต เมื่อ 12 ม.ค.56 และสถานีตลาดพลู ที่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 14 ก.พ.56 โดยทั้ง 2 สถานีมีผู้ใช้บริการเฉลี่ย 20,000 คน/เที่ยว/วัน ส่วนสถานีวุฒากาศ และสถานีบางหว้า )เปิดให้บริการฟรีเป็นเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.2556 ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อเปิดให้บริการตลอดเส้นทางส่วนต่อขยายแล้วน่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 50,000 เที่ยวคน ซึ่งคาดการณ์ว่า แม้จะเก็บค่าโดยสารแล้วประชาชนก็จะยังใช้บริการในจำนวนใกล้เคียงกัน เนื่องจากค่าโดยสารในส่วนต่อขยายเก็บเพียง 10 บาท และ จะช่วยให้ชาวฝั่งธนบุรีเดินทางเข้าสู่ศูนย์กลางเมืองได้สะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของผู้โดยสาร กรุงเทพมหานครยังได้ติดตั้งกล้อง CCTV โดยรอบสถานี รวมจำนวน 64 ตัว พร้อมทั้งติดตั้งลิฟต์โดยสารเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พิการและผู้สูง อายุในทุกสถานีอีกด้วย ทั้งนี้ในส่วนของการเปิดทดลองให้บริการเดินเรือในคลองภาษีเจริญระยะทาง 11.5 กิโลเมตร เพื่อเป็นการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าและเพิ่มเส้นทางการเดินทางในพื้นที่นั้น ขณะนี้ยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยจะมีการรวบรวมข้อมูลต่างที่ กทม.ดำเนินการปรับปรุงแก้ไข ปัญหาการชำรุดของท่าเทียบเรือและส่วนอื่น ๆตามที่ กรมเจ้าท่าแนะนำ หลังจากนั้นจะมีการขอเข้าพบหารือกับกรมเจ้าท่าเพื่อขออนุญาตการเปิดทดลองเดินเรือต่อไป

//-------------------

เริ่มแล้วเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีลม 4 สถานี 10 บาทตลอดสาย
มติชน
วันที่ 07 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 08:12:15 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่วานนี้(6 ม.ค.57) รถไฟฟ้าบีทีเอสได้เริ่มจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีลม ตั้งแต่สถานีวงเวียนใหญ่- สถานีบางหว้า จำนวน 4 สถานี ในราคา 10 บาทตลอดสาย เช่นเดียวกับสายสุขุมวิท หลังจากที่เปิดให้บริการสถานีโพธิ์นิมิต เมื่อ 12 ม.ค.56 และสถานีตลาดพลู ที่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 14 ก.พ.56

นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)เปิดเผยว่า ทั้ง 2 สถานีมีผู้ใช้บริการเฉลี่ย 20,000 คน/เที่ยว/วัน ส่วนสถานีวุฒากาศ และสถานีบางหว้า )เปิดให้บริการฟรีเป็นเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.2556 ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อเปิดให้บริการตลอดเส้นทางส่วนต่อขยายแล้วน่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 50,000 เที่ยวคน

อย่างไรก็ตาม แม้จะเก็บค่าโดยสารแล้ว เชื่อว่าประชาชนยังคงใช้บริการในจำนวนใกล้เคียงกัน เนื่องจากค่าโดยสารในส่วนต่อขยายเก็บเพียง 10 บาท และ จะช่วยให้ชาวฝั่งธนบุรีเดินทางเข้าสู่ศูนย์กลางเมืองได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

Wisarut · Posted: 01/03/2014 1:12 am Post subject:

BTS ลุ้นสจส.เปิดประมูลใหม่
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ อสังหา REAL ESTATE
คอลัมน์ : อสังหาฯ-คมนาคม
ออนไลน์เมื่อ วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 15:33 น. -
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,926
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม พ.ศ. 2557

ลุ้นสจส.เปิดร่างทีโออาร์ใหม่ประมูลสร้างทางเดินเลื่อนอัตโนมัติ ทดแทนการทุบรื้อสถานีสะพานตากสินในเส้นทางบีทีเอสายสีลม หลังเปิดประกาศรอบแรกไร้เงาผู้รับเหมา เหตุระยะเวลาสั้นและราคาถูก บีทีเอส วอนเร่งดำเนินการ คาดเปิดประมูลรอบใหม่เม.ย.นี้ หวังแก้ไขปัญหาการเดินรถจุดคอขวด เตรียมความพร้อมรับเปิดส่วนต่อขยายถึงแยกบรมราชชนนีอีก 6 สถานีที่สจส.เตรียมจ้างที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสมและออกแบบ

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการ/ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือบีทีเอสซี เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าอยู่ระหว่างการรอลุ้นให้สำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) กรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยร่างทีโออาร์เปิดประมูลจัดหาผู้รับเหมาเพื่อดำเนินการก่อสร้างทางเดินเลื่อนอัตโนมัติ(วอล์กสเลเตอร์) ทดแทนการทุบรื้อสถานีสะพานตากสินของรถไฟฟ้าบีทีเอส(สายสีลม)ให้เชื่อมโยงระหว่างสถานีสะพานตากสิน(S6)กับสถานีสุรศักดิ์(S5)
เนื่องจากการประกาศครั้งแรกนั้นพบว่าไม่มีผู้รับเหมารายใดสนใจยื่นประมูล แม้ว่าจะมีผู้รับเหมาขอรับร่างทีโออาร์ไปทั้งสิ้นจำนวน 7 ราย สาเหตุเป็นเพราะสจส.กำหนดทีโออาร์ที่เข้มงวดมากเกินไป อีกทั้งระยะเวลาสั้นแถมราคายังถูกไม่ดึงดูดใจ โดยก่อนจะยกเลิกสถานีสะพานตากสินกทม.จะต้องก่อสร้างทางเดินเชื่อมให้แล้วเสร็จก่อน
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับร่างทีโออาร์ให้เหมาะสมโดยเฉพาะเรื่องระยะเวลาและราคาจากเดิมที่สั้นเกินไปและราคาถูกจนไม่ได้รับความสนใจจากผู้รับเหมา คาดว่าภายในเดือนมีนาคมนี้จะประกาศร่างทีโออาร์ฉบับใหม่ให้ทราบกันอีกครั้ง ก่อนที่น่าจะสามารถเปิดประมูลได้ในเดือนเมษายน 2556 จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี หลังจากนั้นจึงจะใช้วิธีเดินรถผ่านสถานีสะพานตากสินโดยไม่หยุด ต่อมาจึงค่อยทุบรื้อสถานีดังกล่าวในช่วงกลางคืน
"ขณะนี้การเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีลมช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-สถานีบางหว้าประสบปัญหาอย่างมาก สาเหตุเพราะต้องรอสับหลีกช่วงสถานีสะพานตากสิน ซึ่งสจส.มีแผนสร้างทางเดินเชื่อมรูปแบบวอล์กสเลเตอร์จากสถานีสะพานตากสินไปถึงสถานีสุรศักดิ์ให้แล้วเสร็จก่อนจะทุบรื้อสถานีสะพานตากสินให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป"
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงสจส.กล่าวว่าตามร่างทีโออาร์ฉบับเดิมนั้นได้กำหนดราคาไว้จำนวนประมาณ 413 ล้านบาทจากนั้นจึงจะเริ่มการรื้อสถานีตากสินบริเวณชั้นชานชาลาและทุบรื้อโครงสร้างหลังคาออกเพื่อเพิ่มรางช่วงบริเวณที่เป็นคอขวดให้เป็นรางคู่ โดยในส่วนการรื้อสถานีจะเริ่มได้ทันทีเมื่อทางเดินเลื่อนอัตโนมัติเปิดใช้งานแล้ว จะใช้งบจำนวนประมาณ 62 ล้านบาทปรับปรุงสถานีเพื่อเพิ่มราง ส่วนบริเวณชั้นจำหน่ายตั๋วโดยสารในปัจจุบันจะปรับเป็นห้องสมุดบริการประชาชน และบริเวณชั้นล่างซึ่งเป็นพื้นที่ของกรมทางหลวงชนบท(ทช.)จะมีการประสานเรื่องการจัดการพื้นที่ในบริเวณดังกล่าวต่อไป
สำหรับผู้รับเหมาที่สนใจรับเอกสารประกวดราคาสร้างวอล์กสเลเตอร์ (Walkalator) เชื่อมโยงระหว่างสถานี S5-S6 ในรอบแรกปรากฏว่ามีทั้งสิ้น 7 รายประกอบด้วย

1. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน )
2. บริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน)
3. บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน)
4. บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน)
5. บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด(มหาชน)
6. บริษัท เอ เอส แอสโซซิเอท เอ็นจิเนียริ่ง(1964) จำกัด และ
7. บริษัท พี เค อี ที จำกัด

โดยการดำเนินงานในครั้งนี้น่าจะแยกเป็น 2 สัญญาคือ
1. สัญญาการก่อสร้างสกายวอล์กพร้อมวอล์กสเลเตอร์ และ
2. สัญญาการทุบรื้อสถานีสะพานตากสิน

โดยการดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวเพื่อแก้ไขปัญหาจุดคอขวดจนก่อปัญหาสับหลีกการเดินรถไฟฟ้าในสายสีลมและยังเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดเส้นทางเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายถึงแยกบรมราชชนนีอีก 6 สถานีที่ขณะนี้อยู่ระหว่างสจส.จัดงบประมาณปี 2558 เพื่อจ้างที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสมและออกแบบต่อไป

Mongwin · Posted: 16/04/2014 6:59 pm Post subject:

พรุ่งนี้ 17 เม.ย. 57 กทม.เปิดเดินเรือคลองภาษีเจริญ
ให้บริการฟรี7เดือน ช่วงเช้า07.00-10.00น.ช่วงเย็น16.00-19.00น.ออกทุกครึ่งชั่วโมง
เดิลินิวส์ วันพุธ 16 เมษายน 2557 เวลา 15:40 น.

นายอมรกิจเชวงกุลรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)กล่าวว่ากล่าวถึงโครงการทดลองเดินเรือคลองภาษีเจริญว่าโครงการดังกล่าวมีสร้างทางเลือกในการเดินทางให้แก่ประชาชนเนื่องจากการเดินทางโดยเรือมีความรวดเร็วมากโดยขณะนี้ทางกรมเจ้าท่ากระทรวงคมนาคมได้เห็นชอบให้กทม.เริ่มทดลองเดินเรือได้แล้วโดยมีการกำหนดข้อตกลง 3ข้อให้กทม.ดำเนินการคือ
1.กทม.ต้องเดินเรือด้วยความเร็วต่ำเพื่อรักษาระดับคลื่นไม่ให้กระทบกับประชาชนริมคลอง
2.กทม.ต้องเตรียมการรับมือหากการเดินเรือเกิดผลกระทบกับบ้านเรือประชาชนในละแวกดังกล่าว
3.กทม.ต้องส่งแผนการดำเนินโครงการแก้กรมเจ้าท่าว่าจะเดินเรืออย่างไรในช่วงเวลาใดบ้าง

ซึ่งกทม.ยืนยันและพร้อมทำตามข้อตกลงกับกรมเจ้าท่าทุกประการโดยกทม.ได้มอบหมายให้บริษัทกรุงเทพธนาคม(เคที)ดำเนินการจัดหาเรือในการทดลองเดินเรือเบื้องต้นมีเรือขนาด60ที่นั่ง ทั้งสิ้น10ลำอีกทั้ง ยังมีการปรับปรุงท่าเรือซึ่งมีทั้งสิ้น 15ท่าโดยอยู่ในเขตภาษีเจริญจำนวน11ท่าและอยู่ในเขตบางแค จำนวน 4ท่าปรับปรุงทางเดินติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างและติดตั้งกล้องซีซีทีวีจำนวน 60ตัวในทุกๆท่าเรือโดยกทม.จะทดลองเดินเรือให้บริการประชาชนฟรีโดยแบ่งเป็นวันธรรมดาจะเดินเรือ 2ช่วงเวลาคือช่วงเช้า07.00-10.00 น. และช่วงเย็น16.00-19.00น.ส่วนในวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์จะให้บริการตลอดทั้งวันโดยจะมีความถี่ของเรือทุก30นาทีทั้งนี้เรือจะวิ่งโดยใช้ความเร็วต่ำ10กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพื่อไม่ให้เกิดคลื่นกระทบบ้านเรือนประชาชนซึ่งจะใช้เวลาการเดินทางตลอดสายประมาณ1ชั่งโมงโดยจะเป็นส่วนช่วยประชาชนประหยัดเวลาในการเดินทางได้มากเนื่องจากบริเวณดังกล่าวบนท้องถนนมีสภาพการจราจรที่ติดขัดมาก

นายอมรกล่าวต่อว่ากทม.จะเริ่มทดลองการเดินเรือคลองภาษีเจริญเริ่มตั้งแต่วันที่ 17เม.ย.นี้เป็นต้นไปโดยมีระยะเวลาการทดลองเดินเรือทั้งสิ้น7เดือน จากนั้นจะสรุปผลการให้บริการส่งให้ผู้บริหารต่อไป ทั้งนี้ ทางจังหวัดสมุทรสาครยังได้ติดต่อประสานให้กทม.เดินเรือคลองภาษีเจริญเข้าไปในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนเพิ่มเติมด้วยเนื่องจากการเดินทางโดยเรือจะมีความรวดเร็วกว่าการเดินทางโดยรถโดยสารและบริเวณดังกล่าวก็มีผู้สัญจรค่อนข้างมากอย่างไรก็ตามกทม.คงหารือถึงความเป็นไปได้ต่อไป.

Mongwin · Posted: 17/04/2014 5:11 pm Post subject:

กทม.เลื่อนเดินเรือคลองภาษีฯ เหตุต้องทดลองระบบเดินเรือ ให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ยันเปิดได้จริง24 เม.ย.นี้
เดิลินิวส์ วันพฤหัสบดี 17 เมษายน 2557 เวลา 13:01 น.

เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 17 เม.ย. นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า จากเดิมที่กทม.มีกำหนดจะเปิดทดลองการเดินเรือโดยสารคลองภาษีเจริญ ในวันนี้(17เม.ย.)นั้น ปรากฎว่า ในวันนี้เรือยังไม่สามารถเปิดทดลองและให้บริการประชาชนได้ เนื่องจาก บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัดหรือเคที ซึ่งเป็นผู้บริหารจัดการเดินเรือ รายงานว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการอบรมพนักงานประจำเรือและกำจัดสิ่งกีดขวางการเดินเรือในคลองภาษีเจริญ อีกทั้งจะมีการทดลองระบบเดินเรือ และแสดงแผนการเดินเรือกับสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.)อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้โดยสาร ทั้งนี้เรือจะเปิดให้บริการรับผู้โดยสารได้อย่างแน่นอน ในวันที่ 24 เม.ย.นี้ ใน 2 ช่วงเวลาคือ ตั้งแต่ 6:00 – 9:00 และ 16:00 -19:30 น.

Mongwin · Posted: 24/04/2014 7:25 pm Post subject:

เดินเรือคลองภาษีเจริญวันแรกเงียบเหงา
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 24 เมษายน 2557 11:10

ทดลองเดินเรือคลองภาษีเจริญวันแรกเงียบเหงา ประชาชนบ่นไม่ทราบว่าเปิดให้บริการ ขอให้ กทม. เพิ่มการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านริมคลองมากขึ้น

บรรยากาศการเดินเรือในคลองภาษีเจริญ เส้นทางเดินเรือจากท่าเรือวัดปากน้ำภาษีเจริญ ถึงท่าเรือเพชรเกษม 69 ระยะทาง 11.5 กิโลเมตร จำนวน 15 ท่า ที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดให้บริการวันนี้เป็นวันแรก โดยที่ท่าเรือวัดปากน้ำภาษีเจริญ ที่ถือเป็นสถานีต้นทาง เช้าวันนี้บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงามีประชาชน นักเรียน นักศึกษา มาใช้บริการน้อยมาก จากการสอบถามประชาชนที่มาใช้บริการ รวมถึงประชาชนที่อยู่ในละเเวกริมคลองภาษีเจริญ กล่าวว่า ส่วนใหญ่ยังไม่ทราบว่ามีบริการเดินเรือของ กทม.เพิ่งจะมาทราบตอนเดินออกมารอใช้บริการเรือหางยาวของชาวบ้าน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเพิ่มการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านในพื้นที่ริมคลอง และใกล้เคียงทราบ

นางสุชิน ชลสุข กล่าาว่า ปกติตนเองใช้บริการเรือหางยาวเป็นประจำ ทราบข่าวทางทีวีจึงลองมาใช้บริการ ถือว่าช่วยย่นระยะเวลาการเดินทางเมื่อเทียบบนท้องถนนได้ครึ่งหนึ่ง แม้ว่าเรือ กทม.จะวิ่งด้วยความเร็วที่ค่อนข้างต่ำแต่ก็เข้าใจ เพราะไม่ต้องการให้กระทบบ้านเรือนริมคลอง และตอนนี้อยากให้ กทม. และเขตช่วยทำป้ายประชาสัมพันธ์ กระจายข่าวให้คนในพื้นที่ทราบมากกว่านี้ และเพื่อจะได้มีประชาชนมาใช้บริการให้บริษัทรับสัมปทานพอมีกำไรบ้าง ไม่ใช่ต้องยกเลิกกลางคันเหมือนในหลายปีก่อน

สำหรับการให้บริการเรือคลองถาษีเจริญ มีท่าเทียบเรือจำนวน 15 ท่า ประกอบด้วย ท่าเรือประตูน้ำภาษีเจริญ ท่าเรืออู่รถเมล์สาย 9 ท่าเรือประชารัฐ ท่าเรือสะพานตากสิน-เพชรเกษม ท่าเรือวัดอ่างแก้ว ท่าเรือเพชรเกษม 31 ท่าเรือวัดรางบัว ท่าเรือเพชรเกษม 35 ท่าเรือเพชรเกษม 37 ท่าเรือเพชรเกษม 39 ท่าเรือวัดนิมมานรดี ท่าเรือเกษตร-บางแค ท่าเรือสะพานกาญจนาภิเษก ท่าเรือวัดม่วง และท่าเรือเพชรเกษม 69 ซึ่งประชาชนสามารถเดินจากท่าเรือไปใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสได้ที่สถานีบางหว้า ได้ที่สถานีท่าเรือสะพานตากสิน-เพชรเกษม

โดยจะมีเรือให้บริการทั้งสิ้น 10 ลำ ให้บริการ 2 ช่วงเวลา คือ รอบเช้า ระหว่างเวลา 06.00-09.00 น. และรอบเย็น ระหว่างเวลา 16.00-19.30 น. ของทุกวัน ซึ่งจะมีเรือออกจากท่าเทียบเรือทุก ๆ 15 นาที ยกเว้นวันหยุด และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เรือจะออกทุก 30 นาที

นอกจากนี้ มีการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัย คือ จำกัดความเร็วเดินเรือไม่เกิน 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อไม่ให้กระทบกับบ้านเรือนประชาชนริมตลิ่ง จำกัดผู้โดยสารไม่เกิน 60 คน มีที่นั่งทุกที่โดยจะไม่ให้มีการยืนบนเรือเด็ดขาด มีอุปกรณ์ชูชีพสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง ตรวจสอบตำแหน่งเรือด้วยระบบจีพีเอส

Wisarut · Posted: 29/04/2014 10:38 am Post subject:

Wisarut · Posted: 05/08/2014 7:01 pm Post subject:

กทม.ได้รับอนุมัติงบทุบ BTS ตากสิน-ทำสกายวอล์กสถานีสุรศักดิ์แล้ว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 สิงหาคม 2557 17:26 น.

นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงความคืบหน้าการรื้อถอนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีตากสิน และการก่อสร้างทางเดินลอยฟ้าจากสถานีสุรศักดิ์-ตากสิน รวมระยะทาง 700 เมตร ว่า ได้รับอนุมัติงบประมาณการก่อสร้างจากสภากรุงเทพมหานครแล้ว จำนวน 600 ล้านบาท เหตุผลที่ต้องสร้างทางเดินเชื่อมดังกล่าว เนื่องจากสะพานตากสิน เป็นสถานีระบบรางเดี่ยว ทำให้รถไฟฟ้าบีทีเอสต้องเสียเวลาจอดรถเพื่อสับเปลี่ยนรถไฟฟ้า ถึงมอบหมายให้บริษัท กรุงเทพธนาคม ดำเนินการหาผู้รับจ้าง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปลายปีนี้ ใช้ระยะเวลาการก่อสร้างประมาณ 9 เดือน

Wisarut · Posted: 06/08/2014 11:07 am Post subject:

ทุบสถานีสะพานตากสินไม่ง่าย/ลุ้น'ประจิน'เร่งเคลียร์
กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ อสังหา REAL ESTATE -
คอลัมน์ : อสังหาฯ-คมนาคม
ออนไลน์เมื่อ วันจันทร์ที่ 04 สิงหาคม 2014 เวลา 09:09 น.
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,971 วันที่ 3 - 6 สิงหาคม พ.ศ. 2557

โครงการทุบสถานีสะพานตากสินส่อเค้ายาว ทช.จี้ กทม.-บีทีเอส เร่งส่งรูปแบบทุบสะพานและสถานีเพื่อแก้ปัญหาคอขวดโดยไม่กระทบโครงสร้างสะพานตากสิน ยันให้ความร่วมมือ ลุ้นบิ๊ก"ประจิน"เรียกเคลียร์เกาเหลา 4 ฝ่าย หลังกลุ่มประชาคมเขตและกลุ่มผู้ใช้บริการสถานีรถไฟฟ้าตากสินออกโรงต้าน
altนายชาติชาย ทิพย์สุนาวี อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า เดิมกรุงเทพมหานครเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสมาสิ้นสุดที่สถานีสะพานตากสิน ซึ่งสะพานดังกล่าวนั้นกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ก่อสร้างไว้พร้อมกับเว้นพื้นที่ช่วงกลางสะพานเอาไว้เพื่อรองรับหากบีทีเอสจะเดินรถเชื่อมไปยังฝั่งธนบุรีในอนาคต โดยขณะนั้น กทม.ยื่นขออนุญาตก่อสร้างสถานีสะพานตากสินเป็นการชั่วคราว ปัจจุบันพบว่ามีการเดินรถเชื่อมโยงไปยังฝั่งธนบุรี ซึ่งส่งผลให้จุดดังกล่าวเป็นจุดคอขวดต้องใช้เวลาหลีกการเดินรถตามมาเพราะเป็นทางเดี่ยว จึงมีแนวคิดทุบสะพานและสถานีตากสินเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว

"ปมปัญหาคือกทม.ขอให้ทช.ทุบโครงสร้างสะพานออกบางส่วนด้านละประมาณ 2 เมตรหรือด้านละประมาณ 1 เลน หลังจากนั้นจะให้ไปขยายปีกอีกด้านหนึ่งทดแทนส่วนที่ทุบออกไป ซึ่งทช.ไม่ได้ขัดข้องแต่ขอให้กทม.เสนอรูปแบบในการทุบให้ทช.พิจารณา ประการสำคัญโครงสร้างสะพานตากสินเป็นแบบบล็อกเซ็กเมนต์ทุบออกแล้วจะมีผลกระทบต่อโครงสร้างสะพาน พร้อมกับจะเกิดผลกระทบต่อการจราจรในภาพรวม เกิดคอขวดขึ้นมาทันทีส่งผลให้รถติดเป็นระยะทางยาวอย่างแน่นอนซึ่งกทม.ก็ไม่ได้ส่งแบบให้ทช.พิจารณา ทวงถามหลายครั้งอีกทั้งยังมีการประชุมร่วมกันหลายครั้งก็ยังไม่นำเสนอแบบดังกล่าวให้ทช.พิจารณาแต่อย่างใด"
ด้านนายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่ากทม.กล่าวว่า สถานี S6 (สถานีสะพานตากสิน) เป็นสถานีชั่วคราวซึ่งผู้รับสัญญาสัมปทานคือบริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือบีทีเอสเป็นผู้ขอขยายสถานีระยะทางประมาณ 400 เมตรไปไว้ช่วงกลางสะพานตากสิน ยื่นขอต่อกรมทางหลวงชนบทโดยยืนยันว่าจะใช้เป็นสถานีชั่วคราว เมื่อเดินรถมากว่า 10 ปี กทม.ได้ขยายเส้นทางเดินรถเชื่อมโยงไปยังฝั่งธนบุรี จนถึงสถานีปลายทางที่บางหว้าจึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้สถานีสะพานตากสินอีกต่อไป อีกทั้งยังเกิดจุดคอขวดช่วงสถานีดังกล่าวที่มีผลกระทบต่อช่วงเวลาการเดินรถของบีทีเอสอีกด้วย

"บีทีเอสต้องการเดินรถให้เป็นไปตามเวลามาตรฐานจึงเสนอให้ทำเป็นทางคู่ซึ่งกทม.มีพื้นที่ก่อสร้างรองรับไว้แล้วแต่จะไปกระทบพื้นที่รองรับผู้โดยสารเนื่องจากพื้นที่แคบลง ประการสำคัญหากจะเดินรถ 4 ตู้ยังพบอีกว่าพื้นที่ของสถานีมีความยาวไม่เพียงพอ ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของการเดินรถ ซึ่งในยุคที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นผู้ว่ากทม.ก็ได้เสนอให้มีการย้ายสถานีสะพานตากสิน(S6)มารวมกับสถานีสุรศักดิ์(S5)แทน ซึ่งได้มีการประสานร่วมกับทช.มาอย่างต่อเนื่อง และหลังจากนี้กทม.จะเร่งส่งรูปแบบการทุบสถานีดังกล่าวให้ทช.พิจารณาโดยเร็วต่อไป"

ขณะแหล่งข่าวจากกลุ่มประชาคมเขตและกลุ่มผู้คัดค้านการทุบสถานีสะพานตากสินของโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอส กล่าวว่า กรณีดังกล่าวส่อเค้าว่าจะวุ่นไม่จบเนื่องจากกทม.และบีทีเอสเสนอข่าวต่อสื่อมวลชนว่าทช.ไม่อนุญาตให้ทุบสะพานตากสินเพื่อก่อสร้างชานชาลารองรับผู้โดยสาร โดยทช.ได้กันพื้นที่ก่อสร้างไว้ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างโครงการไว้ช่วงกลางสะพานอย่างเพียงพอแล้ว ดังนั้นหากจะต้องทุบสะพานแล้วไปก่อสร้างใหม่ในอีกด้านหนึ่งจะสูญเสียงบประมาณจำนวนมากไปโดยเปล่าประโยชน์ทั้งๆที่สามารถออกแบบก่อสร้างสถานีใหม่โดยไม่ต้องทุบ

"เห็นว่าจะกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการอีกทั้งยังไม่สอดคล้องกับการเชื่อมต่อระบบอำนวยความสะดวกต่อการเดินทาง การที่กทม.เลือกจะสร้างวอล์กสเลเตอร์ยาวเกือบ 1กม.แทนนั้นประชาคมเห็นว่าไม่เหมาะสมและสิ้นเปลืองงบประมาณกว่า 600 ล้านบาทโดยไม่จำเป็น ดังนั้นจึงนำเสนอความเดือดร้อนต่อพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ไปแล้ว ซึ่งคาดว่าจะเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้ง 3-4 ฝ่ายคือ กทม.-ทช.-บีทีเอสและกลุ่มประชาคมเข้าหารือร่วมกัน"