Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311331
ทั่วไป:13292510
ทั้งหมด:13603841
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - แผนปฏิบัติการด้านคมนาคม พ.ศ.2566-2570
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

แผนปฏิบัติการด้านคมนาคม พ.ศ.2566-2570
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 8, 9, 10, 11  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44916
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/12/2023 7:22 am    Post subject: Reply with quote

นายกฯรับตกใจ เช็กสุขภาพพบเครียดสะสม
Source - ไทยรัฐ
Monday, December 04, 2023 05:01

ใช้'หนองบัวลำภูโมเดล' เอาชุมชนบำบัดสู้ยานรก โพลเชียร์เดียร์หน.ปชป.

“เศรษฐา” นำทีมลุย ครม.สัญจรนัดแรก กลุ่มอีสานตอนบน1 เจอกองเชียร์รุมหอมแก้ม หนุนอยู่ยาว 12 ปี ลองเช็กสุขภาพจิตพบสภาวะเครียดสะสม ระบบประสาทอัตโนมัติทั้ง 2 ด้านไม่สมดุลกัน แต่การไหลเวียนหลอดเลือดแดงดีมาก เจ้าตัวรับผลตรวจแม่นมาก ก่อนออกสเต็ปชู้ตบาสโชว์ แถมซัลโวฟุตบอลคนเดียวไป 2 ลูก“เกรียง” จี้ ผวจ.-ผบก.เคลียร์ ขู่ยึดทรัพย์จัดการนายทุนเงินกู้รายใหญ่ “อนุทิน” ลั่นอย่าริเป็นผู้มีอิทธิพล “วราวุธ” แย้มงดดอกเบี้ยโรงจำนำ “อนุชา” ปลื้ม Agri-Map พลิกชีวิตเกษตรกร หนองคายทลายแก๊งรับจำนำรถขูดดอกโหด ปลัด มท.สรุปยอด 3 วัน ลงทะเบียน 45,564 ราย พท.แย้มเสนอ ก.ม.นิรโทษฯ ประกบร่างฯ ก้าวไกล “สุทิน” พลิ้วไม่ร่วมวงด้วย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง นำทีมคณะรัฐมนตรี ตระเวนลงพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาค อีสานตอนบน 1 บึงกาฬ-เลย-หนองคาย-หนองบัวลำภู- อุดรธานี ตรวจราชการ และติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติด ก่อนประชุม ครม.สัญจร ที่ถือเป็น ครม. สัญจรครั้งแรกของรัฐบาลชุดนี้

“เศรษฐา” ลุย ครม.สัญจรนัดแรก

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 3 ธ.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เดินทางถึงท่าอากาศยานทหารกองบิน 23 อ.เมืองอุดรธานี ลงพื้นที่ตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ตอนบน 1 บึงกาฬ-เลย-หนองคาย-หนองบัวลำภู-อุดรธานี ระหว่างวันที่ 3-4 ธ.ค. ก่อนจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 1/2566 ที่ จ.หนองบัวลำภู วันที่ 4 ธ.ค. จุดแรกนายกฯลงพื้นที่บ้านภูดินทอง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติด กลไกการบำบัดฟื้นฟูผู้ใช้ยาเสพติดโดยชุมชนเป็นฐาน จุดนี้มี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข นายไชยา พรหมา รมช. เกษตรและสหกรณ์ เจ้าของพื้นที่นำทีม สส.หนองบัวลำภู มารอต้อนรับกันคึกคัก

เจอรุมหอมแก้มเชียร์อยู่ยาว 12 ปี

ต่อมา นายเศรษฐาเดินเยี่ยมชมนิทรรศการแก้ปัญหายาเสพติดที่มีการตั้งบูธศูนย์ดำรงธรรมรับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนในพื้นที่ และให้บริการ ประชาชนลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือหนี้นอกระบบ โดยมีประชาชนมาต่อแถวลงทะเบียน นายกฯ กล่าวทักทายประชาชนที่มาต้อนรับ โดยมีชาวบ้านส่วนหนึ่งนำผ้าขาวม้ามาผูกที่เอว บางรายเข้ามาสวมกอด และหอมแก้มซ้ายขวา และขอเซลฟี่ด้วย มีบางคน อวยพรให้เป็นที่พึ่งของประชาชนไปอีก 12 ปี ขณะที่ บรรยากาศรอบบริเวณมีการขึ้นป้ายต้อนรับนายกฯ ลงพื้นที่เป็นระยะ

เช็กผลพบสภาวะเครียดสะสม

จากนั้นนายกฯเดินทางไปที่ว่าการอำเภอสุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู สักการะศาลหลักเมืองพระยาไชยเชษฐาธิราช พร้อมติดตามการดำเนินงาน ป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด และความยากจน “หนองบัวลำภูโมเดล” เยี่ยมชมการให้บริการรถฉุกเฉิน พระราชทาน รถเอกซเรย์ระบบดิจิทัลพระราชทาน รถเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ รพ.สุวรรณคูหา โดยนายกฯ ได้ทดลองใช้บริการรถโมบายคลายเครียดจากโรงพยาบาล สวนปรุง ที่นำหมอออกไปให้คำปรึกษาประชาชน ทดลองเครื่องไบโอฟีดแบ็ก หรือเครื่องคัดกรองสภาวะ สุขภาพจิตใช้เครื่องมือวัดระดับความเกร็งของกล้ามเนื้อ บริเวณนิ้วชี้ด้านซ้าย เป็นเวลา 1 นาที โดยเจ้าหน้าที่ขอให้นายกฯ นั่งสบายๆไม่เกร็ง หายใจปกติ และนั่ง 1 นาที ห้ามขยับห้ามพูด เพื่อทดสอบว่า มีระดับความ เครียดมากน้อยแค่ไหน ก่อนแปลผลการสะสมความ เครียด โดยเจ้าหน้าที่แจ้งผลตรวจว่าระดับความเครียดถือว่ามีสภาวะความเครียดอยู่ มีความกดดัน ตื่นเต้นสูง ส่วนระบบประสาทดี ความบาลานซ์ของระบบประสาท อัตโนมัติทั้งสองด้านไม่สมดุลกัน แต่สุขภาวะหลอดเลือด เมื่อเทียบกับอายุแล้วถือว่าอยู่ในระดับที่ดี การไหลเวียน หลอดเลือดแดงดีมาก

เจ้าตัวรับผลตรวจแม่นมากเลย

ทั้งนี้ นายกฯได้สอบถามถึงระบบประสาทความ บาลานซ์ไม่สมดุลกันหมายถึงอะไร เจ้าหน้าที่จึงชี้แจงว่า มีเรื่องของความตื่นเต้นและมีสภาวะความเครียดสูง ระดับ very high มีความเหนื่อยล้าของสภาวะร่างกาย จังหวะนี้นายกฯกล่าวว่า “แม่นมากเลย” ขณะเจ้าหน้าที่ กล่าวว่า ส่วนความฟิตของร่างกายตอนนี้ไม่ค่อยฟิต เท่าไหร่ พร้อมแนะนำให้นายกฯ พักผ่อนเยอะๆ ทำให้ นพ.ชลน่านเอ่ยแซวว่า นายกฯ ไม่ได้เครียดแต่จะรีบ ไปงาน กลัวไม่ทันกำหนดการ เพราะมีอีกหลายงาน เลยตื่นเต้น แต่ทำงานขนาดนี้ไม่เครียดได้ไง นายเศรษฐา ถึงกับหัวเราะออกมา จากนั้นเดินเยี่ยมชมนิทรรศการผลการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และการดูแลผู้ป่วยจิตเวชจากการใช้ ยาเสพติด จำนวน 6 บูธ จาก 6 อำเภอ และตรวจเยี่ยม กระบวนการบำบัดรักษาผู้ป่วยจิตเวช รพ.สุวรรณคูหา (Mini-ธัญญารักษ์) และพบปะพูดคุยถ่ายรูปร่วมกับ ประชาชน และ อสม.อย่างเป็นกันเอง

มาดูจังหวัดรายได้ต่อหัวต่ำสุด

ต่อมานายเศรษฐาตรวจเยี่ยมแถวกองกำลังชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) จำนวน 6,000 นาย ที่ปฏิบัติงานตามมาตรการป้องกันและ แก้ไขปัญหายาเสพติดหนองบัวลำภูโมเดล และสักการะ อนุสาวรีย์ไทยอาสาป้องกันชาติ ก่อนมอบนโยบายแก่ ชรบ. ว่า เป็นเกียรติที่ได้มาประชุม ครม.สัญจรครั้งแรก ตั้งใจว่าจะมาหนองบัวลำภูเป็นจังหวัดแรก เพราะมี รายได้ต่อหัวต่ำสุด ต้องการมาดูชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน จริงๆแล้วจังหวัดนี้มีปัญหาเรื่องยาเสพติดเยอะ ได้ไปดู มาหลายที่เข้าใจถึงชุมชนบำบัด ทางพื้นที่กับกระทรวงสาธารณสุขทำงานร่วมกันอย่างดี ดูแลบำบัดประชาชนที่ติดยาและเป็นผู้ป่วยรักษาจนหายคืนสู่อ้อมกอดสังคมได้อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี

โชว์สเต็ปชู้ตบาส–ซัลโวบอล 2 ลูก

กระทั่งเวลา 17.22 น. ที่สนามฟุตบอลโรงเรียนอนุบาลสุวรรณคูหา นายเศรษฐาโชว์สเต็ปชู้ตบาสเกตบอล ในสนามของโรงเรียน และร่วมการแข่งขันฟุตบอลกับทีมเยาวชนฮีโร่สุวรรณคูหา โดยนายกฯ สวมเสื้อกีฬาโปโลสีขาวของสำนักนายกรัฐมนตรี กางเกงวอร์ม ขายาวสีดำ รองเท้าสตั๊ดสีแดง ลงสนามแข่งขัน หลังจาก ลงสนามผ่านไปเพียง 10 นาที นายกฯ มีโชว์ลีลายิง ประตูด้วยเท้าซ้าย ทำให้ทีมของนายกฯ ได้ประตูออกนำ 1-0 พอเริ่มครึ่งหลังไปไม่กี่นาที นายกฯเตะบอลด้วยเท้าซ้ายทำประตูได้อีก เป็นประตูที่ 2 เรียกเสียงเชียร์จากบรรดากองเชียร์ที่อยู่ข้างสนาม หลังทีมออกนำไป 2-0 ก่อนที่ทีมคู่แข่งจะยิงประตูตีไข่แตกได้ สุดท้ายจบเกมผลการแข่งขันทีมนายกฯเป็นฝ่ายชนะไป 2 ประตูต่อ 1

เครียดเพราะแบกความหวัง ปชช.

นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงการทดลองเครื่องไบโอฟีดแบ็ก และพบมีความเครียดสูงว่า รู้สึกตกใจเหมือนกัน แต่ตำแหน่งนี้แบกความหวังของพี่น้องประชาชน 68 ล้านคนไว้ ปัญหาเต็มไปหมดก็ต้องเป็นธรรมดา ถ้าไม่เครียดก็ไม่ใช่คนที่แคร์ ต้องแคร์ครับเรื่องสำคัญพวกนี้ แต่ไม่เป็นไรแบกได้ พยายามออกกำลังกายประจำ มีโอกาสก็วิ่งบ้างอะไรบ้าง แต่น้อยลงตั้งแต่รับตำแหน่งมา เป็นจังหวัดแรกที่มาประชุม ครม.นอกสถานที่ เพราะมีรายได้ต่ำที่สุด อยากมาเห็นปัญหาด้วยตัวเอง เห็นแล้วก็อยากให้เป็นแรงบันดาลใจทำงานหนักขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ สุขภาพ ยาเสพติด ยืนยันไม่ได้มาสร้างภาพ

เชื่อมีอีกเยอะนี่ยังไม่คิกออฟเลย

เมื่อถามว่าการเปิดให้ลงทะเบียนหนี้นอกระบบวันแรกพบมีคนเข้าลงทะเบียนจำนวนมาก นายกฯตอบว่า คิดว่ายังต้องไปอีกไกลไปได้อีกเยอะ เพราะมีอีกเยอะมาก พี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่ยังไม่ทราบวิธีการลงทะเบียน เมื่อคิกออฟอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 ธ.ค. จะเชิญนายอำเภอ ผู้กำกับ เข้ามาประชุมที่อิมแพ็คเมืองทองธานี ให้ทราบนโยบายและไปลงพื้นที่ เมื่อถามว่ามีผู้ที่เป็นเจ้าหนี้อยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยแก้ปัญหาลูกหนี้บางคนชิ่งหนี นายเศรษฐาตอบว่า ต้องเอาตัวเลขมาดูกัน มีหลักฐานอยู่แล้วว่ากันตามกฎหมาย สำคัญที่สุดคืออัตราดอกเบี้ย ตรงนี้เราต้องดูให้ดี ต้องเป็นอัตราสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ถ้าเกิน แสดงว่าผิดกฎหมายต้องดูรายละเอียดของทั้งสองฝ่าย เมื่อถามว่าใน 3 เดือนนี้ ตั้งเป้าจะพบหนี้นอกระบบเท่าไหร่ นายเศรษฐาตอบว่า ยังไม่เห็นตัวเลข ขอดูตัวเลขทั้งหมดก่อน เพิ่งเริ่มได้ 2-3 วัน ยังไม่คิกออฟเลย

ร่วม “ตุ้มโฮม พาแลงฯ” ม่วนซื่น

ช่วงค่ำที่วัดสุวรรณาราม อ.สุวรรณคูหา นายเศรษฐาและคณะเดินเยี่ยมชมกิจกรรมประเพณีวิถีพื้นถิ่น แวะชิมกาแฟโรงคั่วกาแฟหม้อดินลุงหวังอุดหนุน ซื้อกาแฟอเมริกาโน่เย็น 1 แก้ว แล้วเดินเยี่ยมชมบูธต่างๆ ถือเป็นวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของชาวอีสาน แวะกินข้าวจี่ 1 ไม้ ต่อมาตัวแทนผู้สูงอายุทำพิธีผูกข้อต่อแขนรับขวัญ ขณะที่เจ้าอาวาสวัดสุวรรณารามนำสายสิญจน์ผูกข้อมือ ก่อนมอบพระพุทธรูปนาคปรก เป็นที่ระลึก นายเศรษฐากล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า วันนี้มีความสุขมากชาวบ้านต้อนรับอย่างอบอุ่น และร่วมรับประทานอาหารเย็น “ตุ้มโฮม พาแลง ฮักแพง สุวรรณคูหา” เป็นอาหารพื้นบ้าน อาทิ ปลานึ่ง ต้มไก่ น้ำพริกผักลวก ข้าวจี่ พร้อมกับชมการแสดงหมอลำเต้ยจากเยาวชนโรงเรียนบ้านโคกทุ่งน้อย ช่วงหนึ่งนายกฯได้ลุกขึ้นนำโทรศัพท์มือถือส่วนตัวมาถ่ายรูป พร้อมเซลฟี่กับเยาวชนที่ทำการแสดงเป็นที่ระลึก และยังร่วมรำวงย้อนยุค ก่อนขึ้นไปสักการะพระธาตุสุวรรณเจดีย์ศรีจตุรพิธพร บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและสนุกสนาน

“เกรียง” จี้ ผวจ.-ผบก.เคลียร์เจ้าหนี้

ที่ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย มีการมอบนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบว่า เรื่องนี้จะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และสรรพากรจังหวัด ฝากไปแล้ว เรื่องหนี้นอกระบบที่มีการทารุณกรรมรุนแรง จะมาจากนายทุนที่ไม่ได้อยู่ในจังหวัด ในจังหวัดไม่มีการทำร้ายร่างกายกัน เชื่อว่าผู้ว่าฯและผู้การฯสามารถเคลียร์ได้ ส่วนรายใหญ่ที่เรียกว่าหัวปิงปอง ตรงนี้การเมืองระดับชาติต้องลงมาช่วย และฝากผู้ว่าฯไว้ว่า การแก้หนี้นอกระบบที่สำคัญคือการแก้เรื่องหนี้เทียมระหว่างผู้กู้กับผู้ให้กู้ร่วมกันหลอกเงินรัฐ เราเคยทำมาแล้วสมัยปี 2545-2546 ตอนรัฐบาลพรรคไทยรักไทย

ขู่ยึดทรัพย์จัดการนายทุนเงินกู้

ผู้สื่อข่าวถามว่า เจ้าหนี้ที่มาจากนอกจังหวัดจะจัดการอย่างไร นายเกรียงตอบว่า ต้องยึดทรัพย์ถึงจะจัดการได้ ไม่อย่างนั้นสลายพวกนี้ไม่ได้ ส่วนพวกหัวปิงปองในแต่ละจังหวัดเขาไม่ซัดทอด เมื่อถามว่าจะทำให้เข้าถึงตัวการเลยใช่หรือไม่ นายเกรียงตอบว่า แน่นอน นายกฯเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้มาก อย่างที่เห็นว่าปีนี้นายกฯมาอีสาน น้ำไม่ท่วม ทั้งที่ท่วมทุกปีมาตั้งแต่ปี 2561 ตนเป็นคนออกหน้างานจริง เป็นคนประสานให้อ่างเก็บน้ำปล่อยน้ำทัน นายกฯลงพื้นที่จริง เอาจริงเอาจัง เรื่องหนี้นอกระบบเช่นกัน เพราะนโยบายของรัฐบาลคือเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส หนี้นอกระบบเป็นรายจ่ายที่ไม่ควรจ่าย แต่ต้องจ่าย

“รัดเกล้า” ย้ำไกล่เกลี่ยเป็นธรรม

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงกรณียังมีผู้เข้าใจผิดกับนโยบายแก้ปัญหาหนี้นอกระบบว่า รัฐบาลไม่ได้เข้าไปใช้หนี้นอกระบบหรือยกหนี้ให้ แต่เข้าไปช่วยไกล่เกลี่ย โดยบูรณาการหลายภาคส่วน ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ และกระทรวงการคลัง ดูแลทั้งเจ้าหนี้ ลูกหนี้อย่างเป็นธรรม ตั้งแต่ต้นกระบวนการไปจนถึงปิดหนี้ ช่วยปรับโครงสร้างหนี้โดยกระทรวงการคลัง ให้ประชาชนสามารถชดใช้หนี้ได้อย่างมีศักดิ์ศรีและมีมาตรการต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ไม่ให้ประชาชนกลับเข้าสู่วงจรหนี้นอกระบบอีก นายกฯให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ขอประชาชนอย่ากังวลกับการเป็นหนี้นอกระบบ เชิญชวนให้มาลงทะเบียนไว้

“สุริยะ” สั่งเร่งพัฒนาโครงสร้าง

ที่ห้องประชุมแขวงทางหลวงอุดรธานีที่ 1 สำนักทางหลวงที่ 7 จ.ขอนแก่น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม พร้อมนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ประชุมมอบนโยบายและรับทราบปัญหาเกี่ยวกับการพัฒนาเส้นทางคมนาคมขนส่งของหน่วยงานแขวงทางหลวง หน่วยงานทางหลวงชนบท ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดอีสานตอนบน นายสุริยะกล่าวว่า นโยบายที่กำลังเร่งดำเนินการ คือ การพัฒนาก่อสร้างเส้นทางมอเตอร์เวย์ เส้นทางรถไฟรางคู่ เส้นทางรถไฟความเร็วสูง เชื่อม กทม.กับจังหวัดสำคัญของอีสาน ผ่านนครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี ข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว เวียดนาม และจีน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว เชื่อมั่นว่าจะทำให้เศรษฐกิจคึกคักมากขึ้น

“อนุชา” ปลื้ม Agri–Map พลิกชีวิต

ที่ อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี นายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวระหว่างเป็นประธานพิธีเปิดโครงการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรมตามแผนที่เกษตรเชิงรุก (Zoning by Agri-Map) กิจกรรมพัฒนาที่ดินเพื่อสนับสนุนการปรับเปลี่ยนการผลิตพื้นที่ไม่เหมาะสมตาม Agri-Map (เกษตรผสมผสานและปศุสัตว์) ว่า กระทรวงเกษตรฯให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการพื้นที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกข้าวและพืชเศรษฐกิจอื่น ให้ปรับเปลี่ยนการผลิตไปสู่กิจกรรมการผลิตที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ประเทศไทยมีเกษตรกรเป็นกำลังหลัก จึงมีนโยบาย “เงินบาทแรกของแผ่นดิน” คือให้ความสำคัญกับเงินจากน้ำ เงินจากดิน เงินจากหญ้า ซึ่งเป็นกำลังซื้อหลักของประเทศ สร้างเม็ดเงินภาคเกษตร เป้าหมายหลักต้องการเห็นพี่น้องเกษตรกรหลุดพ้นความยากจน และต้องการเห็นลูกหลานเกษตรกรไทยมีอนาคตที่ดี มีรายได้

ช่วยยกระดับรายได้เพิ่มสิบเท่า

นายอนุชากล่าวว่า ต้องการมุ่งเน้นให้เปลี่ยนจากการทำเกษตรแบบเดิมที่ปลูกพืชชนิดเดียว ให้มีอาชีพเสริมด้วยการปรับเปลี่ยนพื้นที่บางส่วนมาทำปศุสัตว์ เช่น ปลูกหญ้าอาหารสัตว์ หรือเลี้ยงโค เพราะเป็นที่ต้องการของตลาด เพียงแค่ปลูกหญ้าอาหารสัตว์ก็มีรายได้เลี้ยงครอบครัวให้มั่นคงได้ เช่นเดียวกับพื้นที่แปลงเกษตรแห่งนี้ของนายวิชาญ นามอาษา หมอดินอาสา ต.นาม่วง อ.ประจักษ์ศิลปาคม ที่ประสบความสำเร็จ นับเป็นการดำเนินการที่ยอดเยี่ยม ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ตัวอย่าง นำไปขยายผลต่อยอดในพื้นที่อื่นทั่วประเทศ จากเดิมพื้นที่ปลูกข้าว 15 ไร่ มีรายได้ตลอดปี 14,940 บาท หลังปรับเปลี่ยนพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 148,700 บาท กรมพัฒนาที่ดินได้จัดทำกิจกรรมพัฒนาที่ดินตาม Agri-Map ตั้งแต่ปี 2560-2566 สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ 649,532 ไร่ แบ่งเป็นปลูกพืชผสมผสาน 542,217 ไร่ ประมง 20,178 ไร่ เลี้ยงสัตว์ 87,137 ไร่

“สุทิน” ปิ๊งเปิดค่ายทหารบำบัดยา

ที่กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี อ.เมืองอุดรธานี นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวหลังร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดว่า เป็นภารกิจกองทัพที่ช่วยแก้ปัญหายาเสพติดมาทุกรัฐบาล รัฐบาลนี้มีความเด่นชัดมากขึ้น กองทัพจึงต้องเข้มขึ้นตาม กองทัพเคยมีค่ายวิวัฒน์พลเมือง ดังนั้นครั้งนี้กองทัพคงต้องมีค่ายบำบัดโดยปรับตามกฎหมายใหม่ให้เป็นในลักษณะการปรับค่ายทหารใหม่หรือทหารเกณฑ์ เป็นค่ายบำบัดยาเสพติดด้วย ต้องยอมรับว่าเยาวชนจำนวนไม่น้อยที่เข้ารับการเกณฑ์ทหารติดยาเสพติด ดังนั้น การเชิญชวนให้มาสมัครทหารเกณฑ์ อาจเป็นช่องทางหนึ่งที่เอามาฝึกเพื่อบำบัด เหมือนยิงนัดเดียวได้นกสองตัว คือฝึกทหารพร้อมรบกับแก้ปัญหายาเสพติด กองทัพจึงช่วยรัฐบาลได้เยอะในเรื่องนี้

รับลูก “อุ๊งอิ๊ง” สาดน้ำตลอดเดือน

นายสุทินกล่าวถึงของขวัญปีใหม่ที่กระทรวงกลาโหมจะมอบให้พี่น้องประชาชนว่า มีหลายเรื่อง อาทิ ด้านสวัสดิการทหารใหม่เพิ่มขึ้น ทหารยังเป็นที่พึ่งของประชาชนในการดูแลชุมชน ช่วยตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อย รวมถึงด้านการพัฒนาอื่น เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสนอไอเดียจัดงานสงกรานต์ตลอดทั้งเดือน เม.ย. นายสุทินตอบว่า หากจัดนานก็ต้องดูแลความเรียบร้อยมากขึ้น เพราะกำลังตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองไม่พอ ทหารยินดีให้การสนับสนุน เมื่อถามว่าเห็นด้วยที่ให้จัดงานสงกรานต์ตลอดทั้งเดือน เม.ย.ใช่หรือไม่ นายสุทินตอบว่า เห็นด้วย ส่วนเรื่องระยะเวลามากน้อยอย่างไรคงต้องดูกันอีกครั้ง

“อนุทิน” ลั่นอย่าริเป็นผู้มีอิทธิพล

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า จากการมอบนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพล การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ มีการเร่งดำเนินการให้เกิดความเป็นรูปธรรมสูงสูด มีการออกฎเกณฑ์มากมายเพื่อควบคุมอาวุธปืน ทั้งห้ามนำเข้า ห้ามพกพา เพื่อลดจำนวนปืนในสังคม ลดโอกาสความสูญเสีย ไปจนถึงสิ่งเทียมอาวุธปืนก็อยู่ในข่ายที่กำลังจัดการ มีการจัดทำบัญชีผู้มีอิทธิพลไว้ ใครเข้าไปอยู่ในบัญชีจะถูกตรวจสอบความเคลื่อนไหวละเอียด รวมถึงเส้นทางการเงินด้วย เตือนหลายครั้งแล้วว่าอย่าริทำตัวเองจนเข้าไปมีชื่ออยู่ในบัญชี เข้าไปแล้วก็เหมือนถูกจำกัดอิสระ ทำอะไรลำบากถูกเพ่งเล็งตรวจสอบอยู่ตลอด ต่อให้ทำตัวดีขึ้นใช่ว่าจะออกจากบัญชีง่ายๆ และกระทรวงมหาดไทยได้รับคำสั่งจากนายกฯ เข้ามามีบทบาทสำคัญแก้ไขปัญหาเงินกู้นอกระบบ ให้ไกล่เกลี่ยหนี้เอาหนี้เข้าระบบ หากใครทำผิดจะใช้กฎหมายเข้าไปแก้ปัญหา

ฝังค่านิยมรักชาติรักความเป็นไทย

นายอนุทินกล่าวด้วยว่า อีกเรื่องที่มีความสำคัญมาก และเป็นภารกิจของกระทรวงมหาดไทย นอกจากบำบัดทุกข์บำรุงสุข คือการรณรงค์ปลูกฝังค่านิยมรักชาติ รักความเป็นไทย สร้างคนเก่ง คนดี คนมีคุณธรรม มีศีลธรรม เป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่า พูดหลายครั้งแล้วว่าสังคมจะธำรงอยู่ได้หากคนในชาติรู้จักเคารพกัน ไม่เอาเปรียบเบียดเบียนกัน กลัวการทำผิด ละอายต่อบาป เราปลูกฝังกันได้ผ่านวิชาศีลธรรมจริยธรรม หน้าที่พลเมือง เราร่วมมือกับหลายกระทรวง และจะกำชับให้การเรียนการสอนต้องเข้มข้นเรื่องวิชาประวัติศาสตร์มากขึ้น ให้คนไทยเข้าใจในความเป็นคนไทย ภูมิใจในความเป็นชาติ เกิดความรักและเคารพสถาบันหลักของชาติ

“วราวุธ” แย้มงดดอกโรงรับจำนำ

ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กชั่วคราว บริเวณโรงเรียนบ้านหนองกรุงศรีโพธิ์ศรีสมพร อ.นากลาง จ.หนอง บัวลำภู นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงมาตรการแก้หนี้ของรัฐบาลว่า พม.มีการทำงานหลายมิติ ทั้งเงินสนับสนุนครอบครัวเด็กและเยาวชน เงินสนับสนุนผู้สูงอายุ และการพัฒนาศักยภาพคนพิการ ยังมีสถานธนานุเคราะห์หรือโรงรับจำนำ ที่พร้อมจะงดดอกเบี้ย 5,000 บาทแรกให้ประชาชนสามารถตั้งตัวได้ง่ายขึ้น ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการแก้หนี้ไม่ต่างกับรูปแบบเดิมนั้น ขอให้รอดูผลงานก่อน ตอนนี้ยังทันใช้นโยบาย พม.ก็รับนโยบายรัฐบาลมา จะเร่งทำงานให้ดีที่สุด รอดูว่านโยบายที่รัฐบาลออกมาจะช่วยลดภาระประชาชนได้อย่างไร ขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการ ขอให้รอดูผลก่อน

ทลายแก๊งรับจำนำรถขูดดอก

เวลา 09.00 น.ที่ สภ.โพนพิสัย จ.หนองคาย นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผวจ.หนองคาย พร้อม พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จ.หนองคาย พ.ต.อ.ธนากร พัฒนนันแก้ว ผกก.สภ.โพนพิสัย พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวการทลายขบวนการรับจำนำรถหนี้นอกระบบในพื้นที่หมู่ 6 บ้านดงสะพัง ต.นาหนัง อ.โพนพิสัย เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาชาย 2 ราย อายุ 67 ปี และอายุ 49 ปี ตรวจยึดรถยนต์ได้ 23 คัน, รถจักรยานยนต์ 11 คัน และอาวุธปืน 3 กระบอก เครื่องกระสุน 10 นัด ตามนโยบายรัฐบาลเดินหน้าแก้ไขหนี้นอกระบบ หลังเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียน และได้รับข้อมูลว่ามีบุคคลมีพฤติการณ์รับจำนำรถ โดยคิดดอกเบี้ยสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ไปสังเกตการณ์และรวบรวมพยานหลักฐานเข้าตรวจค้น จำนวน 2 จุด ตามหมายค้นศาลจังหวัดหนองคาย โดยตำรวจภูธรภาค 4 จะทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลดำเนินคดีถึงกลุ่มนายทุนรายใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง รวมถึงกลุ่ม นายทุนอื่นที่มีลักษณะพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้นอกระบบในลักษณะดังกล่าวต่อไป

3 วันยอดลงทะเบียน 45,564 ราย

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สรุปรายงานวันที่ 3 ของการเปิดรับลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ยอดรวม 3 วันมีประชาชนลงทะเบียนทั้งสิ้น 45,564 ราย แบ่งเป็นลงผ่านระบบออนไลน์ 44,264 ราย ลงผ่านศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 1,300 ราย รวมเจ้าหนี้ 23,214 ราย มูลหนี้ 1,863.065 ล้านบาท 5 จังหวัดที่มาลงทะเบียนมากสุด คือ กทม. 2,969 ราย เจ้าหนี้ 1,779 ราย มูลหนี้ 161.817 ล้านบาท สงขลา 1,938 ราย นครศรี ธรรมราช 1,838 ราย นครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน 1,775 ราย สมุทรปราการ 1,145 ราย ส่วน 5 จังหวัด ที่มีผู้ลงทะเบียนน้อยที่สุด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน 55 ราย ระนอง 91 ราย สมุทรสงคราม 132 ราย ตราด 143 ราย และสิงห์บุรี 159 ราย ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบยังสามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐผ่านระบบออนไลน์ https://debt.dopa.go.th หรือไปลงทะเบียนด้วยตนเองได้

ไทยก้าวหน้าวอนให้โอกาส “ปูอัด”

นายวัชรพล บุษมงคล หัวหน้าพรรคไทยก้าวหน้า กล่าวถึงการขับเคลื่อนงานในสภาฯ หลังรับนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. ที่ถูกพรรคก้าวไกลขับพ้นพรรคเข้าสังกัดว่า จากการพูดคุยทัศนคติการทำงานสอดคล้องกัน อาจต้องปรับเข้าหากันบ้าง นายไชยามพวานเป็น สส.รุ่นใหม่ ตั้งใจทำงานช่วยเหลือชาวบ้าน ส่วนเรื่องที่ถูกยื่นตรวจสอบจริยธรรมประเด็นคุกคามทางเพศนั้น เป็นสิทธิของนักร้องมักร้องทุกเรื่อง แต่ควรให้โอกาสนายไชยามพวานทำงาน การถูกพรรคก้าวไกลขับออกเพราะรักษาภาพลักษณ์พรรค หลังถูกกระแสโหมหนัก มองว่านายไชยามพวานคือคนรุ่นใหม่ ทำงานดีกว่าหลายคน ลงพื้นที่เกือบทุกวัน คนที่คิดร้องเรียนควรให้โอกาสในการทำงาน แต่หากมีพฤติกรรมแบบเดิมซ้ำอีกก็ไม่ขัดข้องที่จะยื่นให้ตรวจสอบ

พท.แย้มเสนอ ก.ม.นิรโทษฯประกบ

อีกเรื่อง นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของพรรคเพื่อไทยประกบกับร่างฯของพรรคก้าวไกลว่า เราคุยเป็นการภายในว่าจะมีการเสนอร่างฯประกบกับของพรรคก้าวไกล แต่ของเราออกไปในรูปแบบเสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ และยังไม่ได้ถกกันในรายละเอียดว่าเน้นในเรื่องใด เมื่อถามว่ามองว่าการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะสามารถช่วยยุติความขัดแย้งได้จริงหรือไม่ นายสรวงศ์ตอบว่า ตราบใดที่ทุกคนเคารพกติกาว่าหากท้ายสุดจะออกมาเป็นอย่างไร เรารับกันได้ ทุกอย่างก็จะผ่านไปได้ เมื่อถามว่าพร้อมจะสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายสรวงศ์ตอบว่า “อะไรที่เห็นตรงกันก็พร้อมอยู่แล้ว แต่ในรายละเอียดยังไม่เห็นว่าอะไรที่เห็นตรงกัน หรือไม่เห็นตรงกันอยู่”

ไม่ตั้งทีมองครักษ์พิทักษ์งบฯ 67

นายสรวงศ์ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร วาระแรก วันที่ 3-4 ม.ค.2567ว่า ไม่ได้มีมาตรการรับมืออะไรเป็นพิเศษ งบประมาณ ปี 2567 เราไม่ได้ทำ เป็นรัฐบาลที่ผ่านมาทำ แต่เราต้องไปดูในรายละเอียดอีกครั้ง ไม่แน่ใจว่ามีอะไรที่เขาตั้งป้อมไว้ แต่มั่นใจว่าทุกกระทรวง ทบวง กรม เน้นย้ำถึงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนประชาชนอยู่แล้ว ส่วน สส.ที่ประสงค์เข้าไปเป็นกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ต้องมีความชำนาญ มีความรู้เรื่องงบประมาณพอสมควร ที่สำคัญคือรู้ปัญหาในพื้นที่ว่างบประมาณที่ลงไปเหมาะสมหรือทำประโยชน์ให้พื้นที่ได้มากน้อยแค่ไหน จะไม่มีการตั้งทีมองครักษ์ในการอภิปราย

“สุทิน” พลิ้วไม่ร่วมวงนิรโทษกรรม

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวว่าตามที่พรรคก้าวไกลวิพากษ์วิจารณ์พรรคเพื่อไทยว่าไม่ช่วยสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า เรามีส่วนได้เสียในเรื่องนี้ คนที่มีส่วนได้เสียไม่ควรตัดสินใจ เกรงสังคมจะมองเราในแง่ไม่ดี คนของเราอาจได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ ต้องรอดูท่าทีสังคมก่อน ให้สังคมขับเคลื่อนดีกว่าพรรคก้าวไกลต้องเข้าใจเราว่าถ้าเรานิ่ง เรื่องนี้อาจสำเร็จง่ายกว่าการที่เราไม่นิ่ง ฝากบอกพรรคก้าวไกลว่าถ้าเรานิ่งจะสำเร็จง่ายกว่า และสำเร็จในเป้าหมายที่คุณอยากได้

รำลึก “วันคนพิการสากล” ปี 66

วันเดียวกัน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ กล่าวผ่านเพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า เนื่องในวันคนพิการสากล ประจำปี 2566 ว่า วันที่ 3 ธ.ค.ของทุกปี องค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็น “วันคนพิการสากล” เพื่อส่งเสริมความเข้าใจในปัญหาความทุพพลภาพ และระดมการสนับสนุน เพื่อศักดิ์ศรี สิทธิ และสวัสดิภาพของคนพิการ ปี 2566 องค์การสหประชาชาติได้กำหนดประเด็นหลักคือ “รวมพลังเป็นหนึ่งเดียวเพื่อพลิกฟื้นและบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ร่วมกับคนพิการ เพื่อคนพิการ” ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเปราะบาง คนพิการ ผู้สูงอายุ และกลุ่มชาติพันธุ์ จะดูแลให้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีงาน มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิมด้วยสวัสดิการโดยรัฐ ที่เราพยายามทำคือการจัดสวัสดิการตั้งแต่ต้นตอ คือสร้างรายได้ให้คนไทยทุกคน สู่การยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทยทุกคน ขจัดความเหลื่อมล้ำที่มีอยู่มากลง

“เดียร์” เดินสายอีสานขอเสียง

ช่วงบ่ายที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น นางวทันยา บุนนาค “มาดามเดียร์” ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ปชป. ร่วมเป็นกรรมการตัดสินกิจกรรมการประกวดนโยบาย Policy Hackathon ในงาน “มหกรรมสิงห์วิชาการครั้งที่ 9” จัดโดยสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.ขอนแก่น พร้อมพบปะตัวแทนสาขาพรรคประจำจังหวัด และสมาชิกพรรคภาคอีสานหลายจังหวัด เพื่อชี้แจงความตั้งใจในการประกาศตัวลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรค และแนวทางการทำงาน เพื่อฟื้นฟูอุดมการณ์และความศรัทธาของพรรคให้ได้รับการยอมรับและเป็นที่ไว้ใจแก่ประชาชนอีกครั้ง พร้อมแลกเปลี่ยนรับฟังถึงปัญหาและความต้องการจากตัวแทนสาขาพรรค

นิด้าโพลจัดแรงกิ้งหัวหน้า ปชป.

ด้านนิด้าโพลเปิดผลสำรวจความเห็น “เรื่องวุ่นๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ ภาค 2” จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 39.62 มองว่าสาเหตุที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ยืนหยัดในการเมืองไทยได้จนถึงปัจจุบัน เพราะมีแฟนคลับ/ฐานทางการเมืองที่มั่นคง เช่น ฐานในภาคใต้ รองลงมาเป็นผู้นำพรรคที่ผ่านมาส่วนใหญ่มีศักยภาพในการนำพรรค มีความเป็นสถาบันทางการเมืองที่มั่นคง มีอุดมการณ์ชัดเจนในการต่อสู้กับระบบเผด็จการ และการคอร์รัปชัน สส.หรือแกนนำส่วนใหญ่มีความเชี่ยวชาญทางการเมือง เมื่อถามถึงบุคคลที่เหมาะสมจะเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนต่อไป อันดับ 1 ร้อยละ 28.32 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ อันดับ 2 ร้อยละ 27.10 น.ส.วทันยา บุนนาค อันดับ 3 ร้อยละ 20.46 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อันดับ 4 ร้อยละ 9.39 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อันดับ 5 ร้อยละ 7.94 นายนราพัฒน์ แก้วทอง ตามด้วยนายชวน หลีกภัย นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน

เลื่อนอ่านคดี “ยิ่งลักษณ์” ย้าย “ถวิล”

อีกเรื่อง ตามที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อม.11/2565 ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีมีคำสั่งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ขณะนั้นมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีโดยมิชอบ โดยนัดอ่านไปเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมาแต่เนื่องด้วยนายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ องค์คณะผู้พิพากษาในคดีนี้ (อดีตโฆษกศาลยุติธรรม) ถึงแก่อนิจกรรม เข้าข้อกฎหมายวิธีพิจารณาคดีอาญานักการเมืองประกอบกฎหมายพระธรรมนูญศาล ที่ว่ากรณีที่ผู้พิพากษาคนใดในองค์คณะผู้พิพากษามีเหตุสุดวิสัยทำให้ผู้พิพากษานั้นไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ และที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเลือกนายกษิดิศ มงคลศิริภัทรา มาเป็นองค์คณะผู้พิพากษาแทน ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาตรา 11 เพื่อให้ผู้พิพากษาที่ได้รับเลือกเข้ามาเป็นองค์คณะแทนที่มีเวลาเพียงพอ จึงมีคำสั่งให้ยกเลิกวันนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา และนัดอ่านอีกครั้งวันที่ 26 ธ.ค. เวลา 13.30 น.

บรรยายใต้ภาพ

ซัลโว 2 ลูก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง โชว์ลีลาเลี้ยงบอลผ่านผู้เล่นทีมเยาวชนฮีโร่สุวรรณคูหา ซัลโวคนเดียว 2 ลูก เอาชนะทีมคู่แข่งไปได้ 2-1 ประตู ระหว่าง นำ นำทีมรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติด กลไกการบำบัดฟื้นฟูผู้ใช้ยาเสพติด โดยชุมชนเป็นฐาน ก่อนจะมีการประชุม ครม.สัญจร นัดแรก ที่ จ.หนองบัวลำภู.

ที่มา: นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 5 ธ.ค. 2566 (กรอบบ่าย)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42796
Location: NECTEC

PostPosted: 04/12/2023 11:13 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
นายกฯรับตกใจ เช็กสุขภาพพบเครียดสะสม
Source - ไทยรัฐ
Monday, December 04, 2023 05:01

ใช้'หนองบัวลำภูโมเดล' เอาชุมชนบำบัดสู้ยานรก โพลเชียร์เดียร์หน.ปชป.


ลิงก์มาแล้วครับ
https://www.thairath.co.th/news/politic/2745374
https://www.thairath.co.th/video/news/topnews/hotclip/772136
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42796
Location: NECTEC

PostPosted: 07/12/2023 9:13 pm    Post subject: Reply with quote

อัปเดต! แผนลงทุนบิ๊กโปรเจกต์ 'คมนาคม' ปี 67-68 ‘สุริยะ’ ดันประมูลตอกเข็ม 23 โครงการ วงเงินรวม 6.79 แสนล้านบาท
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 7 ธ.ค. 2566 07:05
ปรับปรุง: 7 ธ.ค. 2566 09:05

รัฐบาล "เศรษฐา ทวีสิน" มีนโยบายเร่งการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ทั้งสนามบิน ระบบราง ถนน มอเตอร์เวย์ และท่าเรือ หวังอัดฉีดการลงทุนภาครัฐที่เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จึงประกาศเร่งแผนขับเคลื่อนผลักดันโครงการลงทุนตามนโยบาย Quick win ทุกมิติ ทั้งทางบก ทางราง ทางอากาศ และทางน้ำ ซึ่งมีจำนวนถึง 72 โครงการ ซึ่งมีทั้งโครงการที่ใช้งบประมาณแผ่นดิน ใช้เงินกู้ และโครงการที่ร่วมลงทุนกับเอกชน (PPP) ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ในแผนของกระทรวงคมนาคมอยู่แล้ว เพียงแต่นำมาจัดลำดับความสำคัญและวางแผนการทำงาน วางไทม์ไลน์ให้ชัดเจน โดยมีคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามฯ ที่ รมว.คมนาคมเป็นประธาน มี รมช.คมนาคม คือ นางมนพร เจริญศรี และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ เป็นรองประธาน และมีเลขานุการ รมว.คมนาคม โฆษกกระทรวงฯ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงฯ และหัวหน้าหน่วยงานกระทรวงคมนาคม เป็นกรรมการ เพื่อติดตามเร่งรัดตรวจสอบการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามแผนงานและไทม์ไลน์

“ในการดำเนินทุกโครงการมักจะมีอุปสรรคปัญหา ดังนั้นจึงต้องโฟกัสติดตามแต่ละโครงการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย ให้สามารถนำไปสู่การปฏิบัติและก่อสร้างได้แล้วเสร็จจริงตามกรอบเวลาที่วางไว้ คณะกรรมการฯ จะมอนิเตอร์ทุกขั้นตอนตั้งแต่โครงการที่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ, เตรียมเสนอของบประมาณ, เตรียมเสนอ ครม., กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ขออนุมัติเซ็นสัญญา จนเข้าสู่ขั้นตอนการก่อสร้าง ที่จะมีปัญหาอุปสรรคอีกมากมาย” นายสุริยะกล่าว

ทั้งนี้ วันที่ 20-21 ธ.ค. 2566 กระทรวงคมนาคมจะมีการสัมมนาเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายคมนาคมเพื่อความอุดมสุขของประชาชน (เวิร์กชอป) จะสรุปว่ามีโครงการใดที่แล้วเสร็จเปิดให้บริการได้แล้ว และมีโครงการใดบ้างที่จะดำเนินการในปี 67-68

สำหรับ 72 โครงการด้านคมนาคมขนส่ง ซึ่งประเมินว่ามีวงเงินลงทุนมากกว่า 1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น 5 กลุ่ม คือ 1. โครงการที่มีความสำคัญเชิงพื้นที่จำนวน 13 โครงการ
2. ด้านคมนาคมขนส่งทางบกจำนวน 29 โครงการ 3. ด้านคมนาคมขนส่งทางราง จำนวน 22
โครงการ 4. ด้านคมนาคมขนส่งทางอากาศ จำนวน 4 โครงการ 5. ด้านคมนาคมขนส่งทางน้ำจำนวน 4 โครงการ



@ปี 67 เปิดบริการ 9 โครงการ "ทางคู่-มอเตอร์เวย์-รันเวย์ 3"

โครงการลงทุนไปแล้ว และอยู่ระหว่างก่อสร้าง กำหนดแล้วเสร็จเปิดให้บริการในปี 2567 จำนวน 9 โครงการได้แก่ 1. รถไฟทางคู่สายใต้ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กม. วงเงิน 15,728 ล้านบาท 2. รถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 12,457 ล้านบาท 3. รันเวย์ที่ 3 สนามบินสุวรรณภูมิ วงเงิน 9,700 ล้านบาท 4. ศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าเชียงของ จ.เชียงราย ระยะที่ 1

5. มอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) วงเงิน 67,652 ล้านบาท (ทดลองเปิดให้บริการ) เปิดเต็มรูปแบบปี 2568 6. ท่าเรือแม่น้ำเจ้าพระยา (Smart Pier) จำนวน 5 แห่ง 7. สนามบินกระบี่ เปิดอาคารผู้โดยสารรองรับ จาก 4 ล้านคน/ปี เป็น 8 ล้านคน/ปี วงเงิน 4,700 ล้านบาท 9. รถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. วงเงิน18,699 ล้านบาท

และเปิดให้บริการในปี 2568 จำนวน 6 โครงการ ได้แก่ 1. รถไฟทางคู่ช่วงมาบกระเบา- ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 32 กม. วงเงิน 16,850 ล้านบาท 2. ศูนย์การขนส่งชายแดน จ.นครพนม 3. ศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าเชียงของ จ.เชียงราย 4. มอเตอร์เวย์สายบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว (M82) ระยะทาง 24.7 กม. วงเงิน 31,700 ล้านบาท 5. ทางด่วนสายพระราม 3 -ดาวคะนอง-ถนนวงแหวนรอบนอกฯ ระยะทาง 18.7 กม. วงเงิน 30,437 ล้านบาท 6. มอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) ระยะทาง 96 กม. วงเงิน 84,600 ล้านบาท



@อัดลงทุนปี 67-68 ต่อเนื่อง 23 โปรเจกต์กว่า 6.79 แสนล้านบาท จ่อคิวเซ็นสัญญา

สำหรับแผนปี 2567 คาดว่าจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติเปิดประมูลและเริ่มการก่อสร้างจำนวน 14 โครงการ ได้แก่ 1. รถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 29,748 ล้านบาท ครม.อนุมัติแล้ว คาดเปิดประมูลเดือนเม.ย. 2. รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (PPP) ก่อสร้างงานโยธาฝั่งตะวันตก (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ) และงานระบบ ตลอดสาย วงเงินลงทุน 1.4 แสนล้านบาท คาดเริ่มก่อสร้างในเดือน พ.ค. 67

3. ขยายช่องจราจรทางหลวงหมายเลข 4027 ช่วง บ.พารา-บ.เมืองใหม่ ค่าก่อสร้าง 510 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเดือน ส.ค. 67, 4. Service Center ศรีราชา มอเตอร์เวย์ (M7) ช่วงชลบุรี-พัทยา วงเงิน 1,615 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเดือน ส.ค. 67, 5. Service Area บางละมุงมอเตอร์เวย์ (M7) ช่วงพัทยา-มาบตาพุด วงเงิน 766 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเดือน ส.ค. 67

6. มอเตอร์เวย์ ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา (M7) ระยะทาง 1.92 กม. วงเงิน 4,508 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเดือน ก.ย. 67, 7. ทางแยกต่างระดับที่จุดตัด ทล.402 กับ ทล.4027 และ ทล.4025 วงเงินกว่า 2,380 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเดือน ก.ย. 67

8. รถไฟสายสีแดง ช่วงรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ระยะทาง 8.84 กม. วงเงิน 6,468.69 ล้านบาท, 9. รถไฟสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.80 กม. วงเงิน 10,670.27 ล้านบาท, 10. รถไฟสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.70 กม. วงเงิน 4,694.36 ล้านบาทเริ่มก่อสร้างเดือน ก.ย. 67

11. รถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 307.6 กม. วงเงิน 37,527 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเดือน ก.ย. 67, 12. ทางด่วนสายกะทู้-ป่าตอง ระยะทาง 3.98 กม. วงเงิน 16,190 ล้านบาท ก่อสร้างเดือน ก.ย. 67, 13. ทางด่วนสายจตุโชติ-ถนนวงแหวนรอบนอกฯ รอบที่ 3 ระยะทาง 17 กม. วงเงิน 24,060 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเดือน ต.ค. 67 และ 14. รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน นครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356 กม. วงเงิน 310,000 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเดือน ธ.ค. 67



และโครงการที่จะเริ่มต้นก่อสร้างในปี 2568 มีจำนวน 9 โครงการ ได้แก่ 1. ท่าเรือแม่น้ำเจ้าพระยา (Smart Pier) จำนวน 15 แห่ง วงเงิน 305.30 ล้านบาท ซึ่งจะครบตามแผนที่จะพัฒนาท่าเรือทั้งสิ้น 29 แห่ง 2. โครงการก่อสร้างทางแนวใหม่ ช่วง บ.เมืองใหม่-สามแยกเข้าสนามบินภูเก็ต ระยะทาง 1.95 กม. วงเงิน 1,067.78 ล้านบาท

3. Rest Area มอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) จำนวน 15 แห่ง วงเงิน 3,270 ล้านบาท 4. Rest Area มอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) จำนวน 6 แห่ง วงเงิน 2,355 ล้านบาท

5. ทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ (N2) ถนนประเสริฐมนูกิจ- วงแหวนตะวันออก ระยะทาง 11.3 กม. วงเงิน 16,960 ล้านบาท 6. สะพานเกาะลันตา ระยะทาง 2.2 กม. วงเงิน 1,800 ล้านบาท 7. สะพานทะเลสาบสงขลา ระยะทาง 7 กม. วงเงิน 4,700 ล้านบาท

8. มอเตอร์เวย์สายวงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก ช่วงบางบัวทอง-บางปะอิน (M9) ระยะทาง 36 กม. วงเงิน 23,025 ล้านบาท 9. โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองระยะที่ 3 วงเงิน 37,000 ล้านบาท



นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมยังมีภารกิจที่จะต้องดำเนินการด้านกฎหมายเพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการและกำกับดูแลการให้บริการที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานความปลอดภัย โดยจะเร่งผลักดัน พ.ร.บ.การขนส่งทางรางฯ และ พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ โดยมีเป้าหมายนำเสนอสภาพิจารณาและประกาศในราชกิจจานุเบกษาภายในเดือน ธ.ค. 67

ใน 72 โครงการ มีหลายโครงการที่ตกค้าง ล่าช้ามานาน เช่น การจัดหารถโดยสารของ บขส.และ ขสมก.ที่เป็นบริการสาธารณะ ซึ่งประชาชนรอคอยมานานมากแต่ถูกรื้อมาหลายรอบ จนเอกชนกินรวบเส้นทางสัมปทานตามแผนปฏิรูปรถเมล์ไปกว่าครึ่งแล้ว รวมไปถึงเผือกร้อน อย่างรถไฟฟ้าสายสีส้ม จะฝ่ามรสุมได้เซ็นสัญญาเริ่มก่อสร้างในปี 67 หรือไม่!!!
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42796
Location: NECTEC

PostPosted: 08/12/2023 4:17 pm    Post subject: Reply with quote


จัดไป!! แผนพัฒนาระบบราง 20 ปี มูลค่า 2.7 ล้านล้านบาท


ลพบุรี-ปากน้ำโพ (148 กม. 18,699 ล้านบาท) Track capacity จะติดลบ ในปี 2565 กำลังก่อสร้าง กว่าจะเสร็จก็ตุลาคม 2567 และ สัญญา ECTS-1 จะติดตั้งเสร็จ เมษายน 2568
ปากน้ำโพ-เด่นชัย (281 กม. 81,726.98 ล้านบาท) Track capacity จะติดลบ ในปี 2570 ตอนนี้ EIA ผ่านแล้วรอเปิดประมูล
เด่นชัย-เชียงใหม่ (189 กม. 56,837.78 ล้านบาท) Track capacity จะติดลบ ในปี 2570 ตอนนี้ พิจารณา EIA
มาบกะเบา-ชท.ถนนจิระ (132 กม. 23,910.58 ล้านบาท) Track capacity จะติดลบ ในปี 2565 กำลังก่อสร้าง จะเปิดช่วงแรก มกราคม 2567 - มีนาคม 2568 และ ช่วงสอง ปี 2571 โดยสัญญา ECTS-1 จะเสร็จ ช่วงแรก มกราคม 2567
ชท.ถนนจิระ-ขอนแก่น (185 กม. 24,326 ล้านบาท) Track capacity จะติดลบ ในปี 2565 เปิดการใช้งานแล้ว สิงหาคม 2562
ขอนแก่น-หนองคาย (174 กม. 29,748 ล้านบาท) Track capacity จะติดลบ ในปี 2565 ตอนนี้ EIA ผ่านแล้วรอเปิดประมูล เพื่อเสริม เขตเศรษฐกิจพิเศษหนองคายและ สปป.ลาว
ชท.ถนนจิระ-อุบลราชธานี (308 กม. 44,068.75 ล้านบาท) Track capacity จะติดลบ ในปี 2565 ตอนนี้ EIA ผ่านแล้วรอเปิดประมูล
นครปฐม-หัวหิน (169 กม. 15,718 ล้านบาท) Track capacity จะติดลบ ในปี 2565 เปิดใช้งานธันวาคม 2566 - เมษายน 2567
หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ (84 กม. 5,807 ล้านบาท) Track capacity จะติดลบ ในปี 2565 เปิดใช้งาน กันยายน 2566
ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร (167 กม. 12,457 ล้านบาท) Track capacity จะติดลบ ในปี 2565 เปิดใช้งานธันวาคม 2566 - เมษายน 2567
ชุมพร-สุราษฎร์ธานี (167 กม. 23,285 ล้านบาท) Track capacity จะติดลบ ในปี 2565 พิจารณา EIA
สุราษฎร์ธานี-ชท.หาดใหญ่ - สงขลา (321 กม. 57,375.43 ล้านบาท) Track capacity จะติดลบ ในปี 2565 พิจารณา EIA
ชท.หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ (45 กม. 7,900.89 ล้านบาท) Track capacity จะติดลบ ในปี 2570 ตอนนี้ EIA ผ่านแล้วรอเปิดประมูล โครงข่ายทางรถไฟของมาเลเซีย และเขตเศรษฐกิจพิเศษสงขลา
ชท.หาดใหญ่–สุไหงโกลก (216 กม. 31,273 ล้านบาท) Track capacity จะติดลบ ในปี 2580 โครงข่ายทางรถไฟของมาเลเซีย และเขตเศรษฐกิจพิเศษ นราธิวาส ส่งเสริมด้านความมั่นคง

ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย (106 กม. 10,232.86 ล้านบาท) Track capacity จะติดลบ ในปี 2565 เปิดใช้งาน กันยายน 2562
ชท.คลองสิบเก้า–อรัญประเทศ (174 กม. 26,100 ล้านบาท) Track capacity จะติดลบ ในปี 2575 โครงข่ายทางรถไฟของกัมพูชา เขตเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว และแนวระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ของ GMS
ชท.ศรีราชา–มาบตาพุด (70 กม. 8,247 ล้านบาท) Track capacity จะติดลบ ในปี 2570 แนวระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ของ GMS และ EEC

แผนระยะเร่งด่วน 839 กม. 167,761 ล้านบาท
1 เด่นชัย – เชียงของ 323.1 กม. 85,345 ล้านบาท => ก่อสร้างแล้ว
1 บ้านไผ่ – นครพนม 355 กม. 66,848 ล้านบาท => ก่อสร้างแล้ว

3 สุราษฎร์ธานี – ท่านุ่น 158 กม. 34,237 ล้านบาท ออกแบบรายละเอียด

แผนระยะกลาง 642 กม. 184,746 ล้านบาท

1 นครสวรรค์ – กำแพงเพชร – ตาก - แม่สอด 256 กม. 96,785 ล้านบาท ศึกษาความเหมาะสมและ รอให้พม่าบ้านเมืองสงบจริงๆ
2 กาญจนบุรี –- บ้านภาชี (เชื่อมแหลมฉบัง) 221 กม. 41,771 ล้านบาท ศึกษาความเหมาะสมและ รอให้พม่าบ้านเมืองสงบจริงๆ

3 สงขลา – ปากบารา 142 กม. 43,140 ล้านบาท กก.วล. เห็นชอบรายงาน EIA => โครงการแท้ง
4 ชท.บ้านภาชี – อ.นครหลวง 23 กม. 3,050 ล้านบาท -
แผนระยะยาว 871 149,183

1 มาบตาพุด-ระยอง-จันทบุรี-ตราด 197 กม. 34,649 ล้านบาท ศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้น
2 อุบลราชธานี– ช่องเม็ก 87 กม. 9,197 ศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้น => รอให้ลาวทำทางรถไฟมาถึงจำปาศักดิ์ก่อนก็ได้
3 กาญจนบุรี – บ้านพุน้ำร้อน 36 กม. 6,497 ล้านบาท ศึกษาความเหมาะสม และ รอให้พม่าบ้านเมืองสงบจริงๆ
4 นครสวรรค์ – บ้านไผ่ 291 กม. 47,712 ล้านบาท รอให้ สายไปแม่สอด และ สายไป นครพนม เปิดการเดินรถก่อนค่อยพิจารณา
5 ทับปุด – กระบี่ 68 กม. 15,223ล้านบาท ศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้น => รอให้สายไปท่านุ่นเปิดการเดินรถก่อนค่อยพิจารณา
6 สุราษฎร์ธานี – ดอนสัก 76 กม. 17,147 ล้านบาท ระหว่างการออกแบบรายละเอียด => รอให้สายไปท่านุ่นเปิดการเดินรถก่อนค่อยพิจารณา
7 ชุมพร – ระนอง กม. 116 18,748 ล้านบาท ระหว่างการออกแบบรายละเอียด => รอให้ท่าเรือที่หลังสวนและที่อ่าวอ่างแถวระนองเกิดขึ้นก่อนก็ได้

Note:
เส้นทางสายเชียงใหม่–เชียงราย เชื่อมโยงจังหวัดทั้งสองที่เป็นทั้งเมืองศูนย์กลาง
ของภูมิภาคและเมืองหลักด้านการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเส้นทางจะมีข้อจำกัดด้านลักษณะ ทางกายภาพของพื้นที่ที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา และเป็นพื้นที่อ่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม จึงส่งผลต่อมูลค่าการลงทุนและความคุ้มค่าของโครงการ
อีกทั้ง เชียงรายจะมีโครงข่ายรถไฟที่เข้าถึงได้จากการพัฒนาเส้นทาง เด่นชัย–เชียงราย-เชียงของ ที่อยู่ในแผนปฏิบัติการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ของกระทรวงคมนาคม
ดังนั้น จึงไม่รวมแนวเส้นทางเชียงใหม่–เชียงราย ใน Shortlist ของแผนแม่บทฯ ฉบับนี้
https://www.isranews.org/article/isranews-scoop/123878-isranews-355.html
https://www.isranews.org/article/isranews/124489-isranews-359.html
https://drive.google.com/file/d/1KYEFrHjGSo-g09UzO5wcoVamXlEG4zKp/view
https://www.youtube.com/watch?v=yhg24BGGe3E
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42796
Location: NECTEC

PostPosted: 20/12/2023 10:52 pm    Post subject: Reply with quote

“สุริยะ”โชว์ผลงานรถไฟฟ้า 20 บาทลุยขยายทุกสาย เร่งพ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ ตั้งกองทุนฯ เล็งขึ้นราคาน้ำมันเขตกทม.ชดเชยสัมปทาน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 20 ธันวาคม 2566 เวลา 17:30 น.
ปรับปรุง: 20 ธันวาคม 2566 เวลา 17:30 น.



“สุริยะ”โชว์ผลงาน”99 วัน 9 เรื่องเด่น“ชูโบว์แดงนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาท นำร่อง สีแดง-สีม่วง ใช้ได้ทุกสายใน 2 ปี เร่งดันพ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ เดินหน้าตั้งกองทุนฯ เล็งขึ้นราคาน้ำมันในเขตกทม.-ปริมณฑล ระดม 7-8 พันล้านบาทชดเชยรายได้สัมปทาน ปลื้มเปิดสนามเชียงใหม่ 24 ชม.เพิ่มผู้โดยสาร 30%

วันที่ 20 ธ.ค. 2566 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นางมนพร เจริญศรี และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ร่วมกันแถลงผลงาน 99 วัน 9 โครงการสำคัญเร่งด่วน พร้อมขับเคลื่อนโครงการสำคัญ ของกระทรวงคมนาคม ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ รวมถึงการให้บริการระบบคมนาคมขนส่งในทุกมิติ ตามนโยบาย Quick win เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการและเดินทางด้วยความปลอดภัย สะดวกรวดเร็ว ตรงเวลา ราคาสมเหตุสมผล เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างเป็นรูปธรรม




นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้นำนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภา มอบให้ทุกหน่วยงานนำไปดำเนินการ ซึ่งนับจากวันที่ 14 ก.ย. 1566 จนถึงปัจุบัน ตนและรัฐมนตรีช่วยฯ ได้เร่งขับเคลื่อนโครงการสำคัญ ซึ่งในช่วงระยะเวลา 99 วัน มี 9 โครงการเด่น ที่ดำเนินการผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรม คือ 1. มาตรการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 20 บาท หรือนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา นำร่อง 2 โครงการ คือ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - คลองบางไผ่ และรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ - รังสิต และช่วงบางซื่อ - ตลิ่งชัน และต่อมาได้ขยายใช้ในการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างสายสีแดงและสายสีม่วงได้ด้วย ซึ่งถือเป็นนโยบาย Quick Win นโยบายแรกของรัฐบาล เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนและจูงใจให้เปลี่ยนมาใช้ระบบรางในการเดินทาง



@ลุยรถไฟฟ้า20 บาททุกสาย ดันพ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ เล็งขึ้นราคาน้ำมันเขตกทม.ชดเชยรายได้สัมปทาน
ทั้งนี้จะเร่งขยายมาตรการค่าโดยสาร 20 บาท ในรถไฟฟ้าเส้นทางอื่น ๆ ภายใน 2 ปี โดยขณะนี้ กระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างการหารือและพิจารณาร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประเมินทั้งโครงข่ายทุกสาย กรณีลดค่าโดยสารเหลือไม่เกิน 20 บาท รายได้ของผู้ให้บริการจะลดลง ซึ่งจะต้องมีเงินอุดหนุนประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท/ปี

ในการดำเนินงาน จะเร่งผลักดัน ร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. … เข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนฯ ในสมัยแรกนี้ และหลังพ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯมีผลบังคับใช้ จะสามารถจัดตั้งกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม ที่จะระดมเงินรายได้เข้ากองทุนฯต่อไป โดยกำลังศึกษาแนวทาง ซึ่งมีหลายแนวคิด เช่น ใช้กลไกลราคาน้ำมัน โดยปัจจุบัน การปรับขึ้นลงของราคาน้ำมันจะเป็นไปตามราคาตลาดโลก มองว่าในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล หากจัดเก็บราคาน้ำมันเพิ่มอีก 50 สต./ลิตร เพื่อนำรายได้ส่วนนี้เข้ากองทุนฯ การลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะจูงใจให้ประชาขนหันมาเดินทางด้วยขนส่งสาธารรณะ ลดค่าใช้จ่ายและลดมลพิษทางอากาศ ขณะที่ปัจจุบันมีรถยนต์ ในพื้นที่กทม.และปริมณฑลประมาณ 1 ล้านคัน

“นโยบายค่าโดยสารสูงสุด 20 บาท นำร่อง 2 สาย ถือเป็นนโยบายที่นำมาปฎิบัติได้จริงและรวดเร็ว ประชาชนตอบรับ ส่วนจะเร่งผลักดันให้ใช้ได้ทุกสายนั้น ไม่ได้จะเป็นการบังคับเอกชนผู้ให้บริการ เพราะมีเงื่อนไขสัญญาสัมปทานกำหนดไว้ ไม่สามารถแก้ไขได้ จึงต้องหาแนวทางอุดหนุนรายได้ที่จะหายไป



@ปลื้มเปิดสนามเชียงใหม่เปิด24 ชม.เพิ่มผู้โดยสาร 30%

2. การเปิดใช้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ 24 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เพื่อรองรับปริมาณเที่ยวบินในปัจจุบัน และกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้จำนวนผู้โดยสารของสนามบินเชียงใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากปัจจุบันที่มีผู้โดยสารระหว่างประเทศเฉลี่ย 4,800 คน/ วัน จำนวน 20 เส้นทาง ปริมาณเที่ยวบิน 36 เที่ยวบิน/วัน

3. เปิดอาคารเทียบเครื่องบินรอง หลังที่ 1 (SAT-1) พร้อมทั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติเชื่อมต่อระหว่างอาคาร SAT-1 กับอาคารผู้โดยสารหลัก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 ทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นจาก 45 ล้านคน/ปี เป็น 60 ล้านคน/ปี รองรับเที่ยวบินจาก 68 เที่ยวบิน/ชั่วโมงเป็น 94 เที่ยวบิน/ชั่วโมง รองรับนักท่องเที่ยวตามนโยบายวีซ่าฟรี ตามนโยบายรัฐบาล



@เปิดมอเตอร์เวย์ 2 สาย วิ่งฟรีหลังปีใหม่ต่อเนื่อง

X

4. เร่งรัดการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน – นครราชสีมา (M6) และ สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี (M81) รวมถึงการเปิดให้ใช้ฟรี 2 เส้นทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 โดย M6 ช่วงปากช่อง - ทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา ระยะทาง 77 กม. M81 ช่วงนครปฐม ฝั่งตะวันตก – กาญจนบุรี ระยะทาง 51 กม. เปิดทดลองใช้ฟรีปีใหม่ ตั้งแต่ 28 ธ.ค.66 ต่อเนื่องจนกว่าด่านเก็บค่าผ่านทางจะแล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกรวดเร็วในการเดินทาง

ขณะเดียวกัน ยังได้เร่งรัดโครงการรถไฟทางคู่สายใต้ เส้นทางนครปฐม - ชุมพร และได้เปิดให้บริการช่วงสถานีบ้านคูบัว จ.ราชบุรี ถึงสถานีสะพลี จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 เดินทางเร็วขึ้นถึง 1 ชั่วโมง 30 นาที

5. การพัฒนาท่าเรืออัจฉริยะ เป็นสถานีเรือ (ระบบปิด) ทั้งหมด 29 ท่า ซึ่งขณะนี้ปรับปรุงเสร็จแล้ว จำนวน 9 ท่า อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงและก่อสร้าง จำนวน 5 ท่า และในส่วนที่เหลืออีกจำนวน 15 ท่า จะมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องต่อไป 6. เดินหน้าโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมทะเลอ่าวไทย - อันดามัน (Landbridge) ผลักดันการพัฒนาท่าเรือชุมพรและระนอง รวมถึงรถไฟทางคู่ และมอเตอร์เวย์ เพื่อเชื่อมขนส่งระหว่าง 2 ท่าเรือ ให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อพลิกโฉมพื้นที่ภาคใต้เป็นศูนย์กล่างโลจิสติกส์ระดับโลก ซึ่งได้โรดโชว์ ที่สหรัฐอเมริกา และ ญี่ปุ่น นักลงทุนสนใจเป็นจำนวนมาก โดยทางธนาคารโลกพร้อมให้การสนับสนุนโครงการแลนด์บริดจ์ ขณะนี้ทางสภาผู้แทนราษฎร ได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาขับเคลื่อนโครงการ เช่นเดียวกับการพัฒนาพื้นที่ระเบียบเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) แล้ว”



7. การปรับเปลี่ยนรถยนต์ใช้น้ำมัน (สันดาป) เป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยร่วมกับก.พลังงานในการขับเคลื่อนการปรับปรุงรถสาธารณะทุกชนิดให้เป็น EV และให้ทุกหน่วยงานคมนาคม เปลี่ยนรถยนต์ที่หมดสัญญาเช่าเป็นรถยนต์ EV ทั้งหมด 8. โครงการพัฒนาระบบโครงข่ายคมนาคมจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ การพัฒนาทาาอากาศยานภูเก็ต (ระยะที่ 2) คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2572, โครงการก่อสร้างขยายช่องจราจร ทล.4027 ช่วง บ.พารา - บ. เมืองใหม่, โครงการทางพิเศษ สายกระทู้ - ป่าตอง, การพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ตแห่งที่ 2 จ.พังงา โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 (ช่วงท่าอากาศยานฯ - ห้าแยกฉลอง) ซึ่งการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ (รฟม.) อยู่ระหว่างศึกษาทบทวนรายละเอียดความเหมาะสมคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2574 และ9. การปราบส่วยทางหลวง แก้ปัญหาการทุจริต
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42796
Location: NECTEC

PostPosted: 20/12/2023 11:01 pm    Post subject: Reply with quote

‘คมนาคม’ ผุดตั้งกองทุนตั๋วร่วมเดินหน้ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทุกเส้นทาง
20 ธันวาคม 2566 เวลา 14:07 น.

‘สุริยะ’ ดันตั้งกองทุนตั๋วร่วมต้นปีหน้า หนุนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทุกเส้นทางเกิดภายใน 2 ปี พร้อมเร่งศึกษาโมเดลหางบ 7 – 8 พันล้านบาทจ่ายชดเชยเอกชน เล็งขอเงินสนับสนุนกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ย้ำ’แลนด์บริดจ์’ ยังเป็นพระเอกขับเคลื่อนการลงทุน จ่อโรดโชว์ต่อเนื่องจีน – ตะวันออกกลาง ก่อนเปิดประมูลปี 68

20 ธ.ค.2566-นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขับเคลื่อนนโยบายปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 20 บาท หรือนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดยระบุว่า ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2566 ที่ผ่านมา ใน 2 โครงการ คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – คลองบางไผ่ และโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ – รังสิต และช่วงบางซื่อ – ตลิ่งชัน ซึ่งถือเป็นนโยบาย Quick Win นโยบายแรกของรัฐบาล

นายสุริยะ กล่าวว่า ส่วนการประกาศใช้มาตรการดังกล่าวในโครงการรถไฟฟ้าในเส้นทางอื่นๆ นั้น ปัจจุบันกระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างการหารือและพิจารณาร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้ใช้บริการรถไฟฟ้าทุกสายอัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายได้ตามเป้าหมายภายใน 2 ปีหลังจากนี้ เนื่องจากปัจจุบันกระทรวงฯ อยู่ระหว่างผลักดัน พรบ.ตั๋วร่วม และคาดว่าจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ภายในไตรมาส 1 ปีหน้า

อย่างไรก็ตาม การผลักดันนโยบายดังกล่าวให้เกิดขึ้นกับรถไฟฟ้าที่มีสัญญาสัมปทานร่วมกับเอกชน นอกจากต้องใช้ พรบ.ตั๋วร่วมเพื่อขับเคลื่อนแล้ว ยังมีความจำเป็นต้องชดเชยส่วนต่างที่หายไป เพื่อไม่ให้กระทบต่อสัญญาสัมปทาน ดังนั้นกระทรวงฯ จึงอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางที่จะนำเงินไปจ่ายชดเชยเอกชน โดยเบื้องต้นจะจัดตั้งกองทุนตั๋วร่วมที่นำเงินมาจากหลายส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนอนุรักษ์พลังงาน และการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล

By TaboolaSponsored
ใกล้เข้ามาแล้ว! โปรดเลือกฮีโร่ของคุณตอนนี้!
Dragonheir: Silent Gods
การปลูกผมในปี 2567 มีค่าใช้จ่ายเท่าไร? เช็คราคา
การปลูกถ่ายผม | ค้นหาโฆษณา
รวมไปถึงการระบุใน พรบ.ตั๋วร่วม เกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น อาทิ ในอัตรา 50 สตางค์ เฉพาะสถานีน้ำมันในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อนำเงินสนับสนุนเข้ากองทุน ซึ่งอาจจะส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น แต่สามารถจูงใจประชาชนให้เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่จะปรับราคาลงเหลือ 20 บาทตลอดสาย ทำให้ต้นทุนค่าครองชีพของประชาชนปรับลดลง

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นกระทรวงฯ ประเมินวงเงินที่ใช้หมุนเวียนในกองทุนตั๋วร่วมเพื่อชดเชยส่วนต่างค่าโดยสารรถไฟฟ้าอยู่ที่ 7 – 8 พันล้านบาทต่อปี ซึ่งมั่นใจว่าแนวทางที่อยู่ระหว่างศึกษาขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนอนุรักษ์พลังงานมีความเป็นไปได้ เนื่องจากเป็นโมเดลที่หลายประเทศใช้กัน อีกทั้งจากการตรวจสอบพบว่าการนำเงินจากกองทุนดังกล่าวมาสนับสนุนไม่ขัดต่อหลักการของการจัดตั้งกองทุน เนื่องจากบริการรถไฟฟ้านับเป็นบริการที่เข้าข่ายอนุรักษ์พลังงาน

นายสุริยะ กล่าวต่อว่าโครงการลงทุนในปี 2567 ขณะนี้ต้องยอมรับว่าช่วงครึ่งปีแรก ระหว่าง ม.ค. – พ.ค. 2567 จะยังไม่สามารถผลักดันการลงทุนที่ใช้งบประมาณประจำปี 2567 ได้ เนื่องจากปัจจุบันงบประมาณดังกล่าวยังไม่ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถเสนอตามขั้นตอนและได้รับการอนุมัติในเดือน พ.ค.ปีหน้า

อย่างไรก็ตามดังนั้นโครงการลงทุนที่ต้องจัดใช้งบประมาณประจำปี 2567 โดยเฉพาะโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จะยังไม่สามารถเดินหน้าได้ แต่อย่างไรก็ดี กระทรวงฯ ได้วางแผนเร่งรัดการดำเนินงาน โดยสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำร่างเอกสารประกวดราคา (TOR) หากงบประมาณผ่านการอนุมัติจะต้องสามารถเริ่มกระบวนการประมูลและลงนามสัญญาได้โดยเร็ว

“ปีหน้ามีโครงการลงทุนสำคัญของกระทรวงฯ 72 โครงการที่จะต้องเร่งรัดการลงทุน โดยแม้ว่างบประมาณปี 2567 จะดีเลย์ออกไป แต่กระทรวงฯ ได้กำชับทุกหน่วยงานให้เตรียมพร้อมประมูล และจัดซื้อจัดจ้าง หากงบประมาณได้รับจัดสรรแล้ว จะต้องเดินหน้าทันที เพื่อเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจจากการลงทุนภาครัฐ เพราะปัจจุบันเชื่อว่าเอกชนก็พร้อมประมูลงาน”นายสุริยะ กล่าว

นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า แม้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 จะยังไม่สามารถผลักดันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานได้จากการจัดใช้งบประมาณที่ล่าช้า แต่กระทรวงฯ ยังคงมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่มีความพร้อมจากการจัดใช้เงินลงทุนในรูปแบบอื่นๆ อาทิ การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (พีพีพี) และเงินจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFFIF) ซึ่งขณะนี้มีโครงการที่พร้อมเปิดประกวดราคา ได้แก่ โครงการทางพิเศษฉลองรัช ช่วงจตุโชติ-ลำลูกกา ระยะทาง 16.2 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 2.4 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ในปี 2567 กระทรวงฯ จะยังเดินหน้าโปรโมทดึงเอกชนร่วมลงทุนในโครงการสะพานเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน หรือ แลนด์บริดจ์ เนื่องจากการจัดโรดโชว์ที่ผ่านมาทั้งสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยในปีหน้ากระทรวงฯ จะเดินทางไปโรดโชว์แก่นักลงทุนต่างชาติ อาทิ จีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ และหลายประเทศในตะวันออกกลาง ก่อนเปิดประมูลในปี 2568
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42796
Location: NECTEC

PostPosted: 21/12/2023 1:00 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
‘คมนาคม’ ผุดตั้งกองทุนตั๋วร่วมเดินหน้ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทุกเส้นทาง
20 ธันวาคม 2566 เวลา 14:07 น.


ขึ้นภาษีวุ่นหาเงิน8พันล./ปีชดเชยเอกชนรถไฟฟ้า20บ.
*ยืนยันทำทุกสายภายในปี 68ตามนโยบายหาเสียง
*สุริยะนำทีมรมช.คมนาคมแถลงผลงานชิ้นโบว์แดง
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/906253567618545
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44916
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/12/2023 2:47 pm    Post subject: Reply with quote

วีดิทัศน์แถลงผลงาน 99 วัน 9 เรื่องเด่นของกระทรวงคมนาคม l 21 ธ.ค. 66
Daoreuk Channel
Dec 25, 2023


https://www.youtube.com/watch?v=Y_bS_CJcC5c

วีดิทัศน์แถลงผลงาน ”99 วัน 9 เรื่องเด่น“ เร่งรัดทุกโปรเจกต์คมนาคม เชื่อมโยงบก – น้ำ – ราง – อากาศ
วันที่ 21 ธันวาคม 2566
โดยกระทรวงคมนาคม

****************************************************************
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมนางมนพร เจริญศรี และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
ได้เข้ามาเร่งรัดขับเคลื่อนระบบคมนาคมขนส่งทุกมิติ เพื่อให้บริการประชาชนได้เดินทางสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ตรงเวลา ราคาสมเหตุผล และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โดยมี ผลงาน 99 วัน 9 เรื่องเด่น ซึ่งสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทันที ดังนี้ ดังนี้
1. ส่งเสริมการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า พร้อมลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน ด้วยการลดราคารถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย เริ่ม 16 ตุลาคม 2566
2. รองรับนักท่องเที่ยวช่วง Hi-Season แบบไม่จำกัดเวลา เพิ่มความสะดวกในการเดินทาง ด้วยการเปิดให้บริการสนามบินเชียงใหม่ตลอด 24 ชั่วโมง เริ่ม 1 พฤศจิกายน 2566
3.สนับสนุนการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นจาก นโนบาย VISA Free ของรัฐบาล โดยการเปิดให้บริการอาคาร SAT-1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 29 กันยายน 2566
4.ลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและการเดินทาง
พัฒนาระบบราง โดยเร่งเปิดให้บริการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ทั่วประเทศ รวม 697 กิโลเมตร ในปี 2567
และพร้อมเร่งรัดผลักดันทางคู่กระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนอีก 3 เส้นทาง รวม 845 กิโลเมตร
พร้อมทั้งเร่งรัดโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ สาย 6 บางปะอิน-นครราชสีมา และ สาย 81 บางใหญ่ -กาญจนบุรี
5.ประชาชนสามารถเดินทางและท่องเที่ยวทางน้ำได้อย่างสะดวก สะอาด ปลอดภัยทั้งท่าเรือและบนเรือ
ด้วยการเปิดให้บริการท่าเรืออัจฉริยะริมแม่น้ำเจ้าพระยา 5 แห่ง ในปี 2567
โดยเป็นท่าเรือที่สวยงามมีอัตลักษณ์ และทันสมัยด้วยเทคโนโลยี
พร้อมเดินหน้าพัฒนาท่าเรือสำราญ หรือ ท่าเรือ Cruise ขนาดใหญ่
6.สร้างไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์แห่งใหม่ของโลก ด้วยการเดินหน้าโครงการ Landbridge
7. ปรับเปลี่ยนรถยนต์สันดาปเป็นรถยนต์ไฟฟ้า แก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5
โดยมอบนโยบายให้ทุกหน่วยของกระทรวงคมนาคมที่ต้องจัดซื้อจัดจ้างรถยนต์ใหม่ หรือหมดสัญญาเช่า เปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด
8.พัฒนาระบบโครงข่ายคมนาคมในจังหวัดภูเก็ตให้สมบูรณ์ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ด้วยการเร่งยกระดับบริการด้านคมนาคมของเมืองภูเก็ตอย่างบูรณาการ
ทั้งด้านการบิน โดยปรับปรุงขยายท่าอากาศยานภูเก็ตให้ รองรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น และเตรียมพัฒนาท่าอากาศยานคู่แฝดของภูเก็ตที่จังหวัดพังงา
รวมถึงแก้ไขปัญหาอุโมงค์ป่าตอง เพื่อให้โครงการดำเนินการต่อไปได้
และเร่งพัฒนาโครงข่ายทางหลวงในจังหวัดภูเก็ตให้เชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ
9.ปราบส่วยทางหลวง แก้ปัญหาทุจริต
********************************************************************
บริษัท ดาวฤกษ์ คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด ดำเนินการผลิตวีดิทัศน์


Last edited by Mongwin on 26/12/2023 1:25 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44916
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/12/2023 4:55 pm    Post subject: Reply with quote

ของขวัญปีใหม่ 2567 กระทรวงคมนาคม
กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
Dec 25, 2023

การดำเนินโครงการเพื่อมอบของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2567
ให้แก่ประชาชนของกระทรวงคมนาคม


https://www.youtube.com/watch?v=NrsBoUkOiWg
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44916
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/12/2023 10:24 am    Post subject: Reply with quote

“สุริยะ” เช็กความพร้อม “คมนาคม” ชี้แจงงบปี 67 กว่า 2.29 แสนล้าน
เดลินิวส์ 28 ธันวาคม 2566 9:23 น.
นวัตกรรมขนส่ง
    “สุริยะ” เชิญหน่วยงาน 9 ส่วนราชการ 5 รัฐวิสาหกิจ เช็กความพร้อม “คมนาคม” เตรียมชี้แจงงบปี 67 กว่า 2.29 แสนล้านบาท ต่อรัฐสภา ม.ค.67 เน้นย้ำจัดลำดับความสำคัญ สนองความต้องการประชาชน พัฒนาระบบคมนาคมขนส่งให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ประชุมเตรียมความพร้อมหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม 9 ส่วนราชการ 5 รัฐวิสาหกิจ สำหรับการชี้แจงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ต่อรัฐสภา ในช่วงต้นเดือน ม.ค.67 ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้รับการจัดสรรงบประมาณปี 67 รวม 229,433.8539 ล้านบาท แบ่งเป็น ส่วนราชการ 9 หน่วยงาน 183,635.0399 ล้านบาท ได้แก่
กรมทางหลวง (ทล.) 121,827.3559 ล้านบาท,
กรมทางหลวงชนบท (ทช.) 47,926.3593 ล้านบาท,
กรมท่าอากาศยาน (ทย.) 4,624.1804 ล้านบาท,
กรมเจ้าท่า (จท.) 4,364.6429 ล้านบาท,
กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) 3,509.4083 ล้านบาท,
สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม 635.0409 ล้านบาท,
สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) (สทร.) 381.7964 ล้านบาท,
กรมการขนส่งทางราง (ขร.) 115.3823 ล้านบาท
และ
สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) 250.8735 ล้านบาท

สำหรับรัฐวิสาหกิจ 5 หน่วยงาน ได้รับงบประมาณรวม 45,798.8140 ล้านบาท ได้แก่
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) 21,092.6810 ล้านบาท,
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) 20,045.0349 ล้านบาท,

องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) 3,249.6410 ล้านบาท,
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) 1,251.1939 ล้านบาท และ
สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) 160.2632 ล้านบาท

โดยจำแนกตามโหมดการเดินทาง 5 ด้าน ได้แก่
ด้านการขนส่งทางบก 77.48%
ด้านการขนส่งทางราง 18.15%
ด้านการขนส่งทางอากาศ 2.09%
ด้านการขนส่งทางน้ำ 1.90% และ
ด้านนโยบาย 0.39%

นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานจัดลำดับความสำคัญของโครงการ พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนได้ตรงกับตามความต้องการของประชาชน รวมทั้งดำเนินโครงการตามขั้นตอน และถูกต้องตามหลักของกฎหมาย และมีการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน เพื่อให้การนำงบประมาณไปพัฒนางานด้านคมนาคมเกิดประสิทธิภาพสูงสุด สอดคล้องกับนโยบายสำคัญของรัฐบาล และเพื่อความอุดมสุขของประชาชน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 8, 9, 10, 11  Next
Page 9 of 11

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©