แด่การจากไปของขบวนรถเร็วที่ ๑๓๗/๑๓๘ และ ๑๐๑/๑๑๐

[tuie]

ขอบคุณครับพี่ตึ๋งที่กรุณาเล่าถึงความเป็นมาของสีรถโดยสารจากอดีตถึงปัจจุบัน ผมว่าเป็นเรื่องน่าศึกษาค้นคว้าเรื่องหนึ่งนะครับ

ท่านใดมีวารสารรถไฟสัมพันธ์ฉบับดังกล่าวลองพลิกดูคำบรรยายภาพหน้าปกระบุว่า “ขบวนที่ ๒๙ ก่อนเข้าถ้ำพังเหย” เป็นข้อผิดพลาดนะครับ เพราะขบวนรถเร็วที่ ๒๙ กรุงเทพ-หนองคาย (ขบวน ๑๓๓ ในปัจจุบัน)เป็นรถเร็วกลางคืน อีกทั้งในยุคนั้นขบวน ๒๙ ยังใช้เส้นทางสายชุมทางแก่งคอย-ชุมทางถนนจิระ-ชุมทางบัวใหญ่ ไม่มีทางที่ขบวน ๒๙ จะผ่านถ้ำเขาพังเหยดังคำบรรยายภาพดังกล่าวได้ 8)



ผู้อ่านคงเห็นข้อผิดพลาดเช่นเดียวกับที่ผมพบ เลยมีจดหมายมาทักท้วง เพื่อแก้ไขให้ถูกต้องในวารสารรถไฟสัมพันธ์ ฉบับที่ ๕ ปี ๒๕๒๙





แหม! จะปล่อยให้ขบวน ๒๙ มาแย่งซีนขบวน ๓๓ ซึ่งเป็นพระเอกของเราไปได้อย่างไรล่ะครับ

[tuie]

กำหนดเวลาเดินรถขบวน ๓๓ ปี ๒๕๒๙ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับ ปี ๒๕๓๐

กรุงเทพ ออก 06.30
สามเสน ออก 06.41
บางซื่อ ออก 06.51
ดอนเมือง ออก 07.11
อยุธยา ออก 07.51
บ้านภาชี ออก 08.11
สระบุรี ออก 08.33
แก่งคอย ออก 08.47
แก่งเสือเต้น ออก 09.21
ลำนารายณ์ ออก 10.09
โคกคลี ออก 10.39
บำเหน็จณรงค์ ออก 11.31
จัตุรัส ออก 11.49
บัวใหญ่ ออก 12.53
เมืองพล ออก 13.23
บ้านไผ่ ออก 13.50
ขอนแก่น ออก 14.31
น้ำพอง ออก 15.03
กุมภวาปี ออก 15.49
อุดรธานี ถึง 16.19
หนองคาย ถึง 17.10

กำหนดเวลาเดินรถขบวน ๓๔ ปี ๒๕๒๙ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับปี ๒๕๓๐

หนองคาย ออก 06.40
อุดรธานี ออก 07.31
กุมภวาปี ออก 08.04
น้ำพอง ออก 08.50
ขอนแก่น ออก 09.29
บ้านไผ่ ออก 10.07
เมืองพล ออก 10.33
บัวใหญ่ ออก 11.13
จัตุรัส ออก 12.15
บำเหน็จณรงค์ ออก 12.33
โคกคลี ออก 13.26
ลำนารายณ์ ออก 13.57
แก่งเสือเต้น ออก 14.42
แก่งคอย ออก 15.17
สระบุรี ถึง 15.30
บ้านภาชี ออก 15.53
อยุธยา ออก 16.15
ดอนเมือง ถึง 16.58
บางซื่อ ถึง 17.19
สามเสน ถึง 17.29
กรุงเทพ ถึง 17.40

ตามกำหนดเวลาเดินรถขบวน ๓๓/๓๔ ปี ๒๕๒๙ และ ๒๕๓๐ นั้น ขบวน ๓๓ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพถึงหนองคาย ๑๐ ชั่วโมง ๔๐ นาที ขบวน ๓๔ ใช้เวลาเดินทางจากหนองคายถึงกรุงเทพ ๑๑ ชั่วโมง วิเคราะห์จากกำหนดเวลาเดินรถช่วงสถานีจัตุรัสและชุมทางบัวใหญ่แล้ว คาดว่าทั้งสองขบวนน่าจะสวนกันที่สถานีหนองฉิมนะครับ

[tuie]

รำลึกถึงขบวนรถเร็วที่ ๓๓/๓๔ แล้วไม่นำตั๋วโดยสารรถขบวนนี้มาให้ชมเดี๋ยวเสียชื่อนักสะสมตั๋วผู้มีนามกรว่า “ตุ้ยตั๋วแข็ง” (จะได้ไม่ซ้ำกับ “ตุ้ย” คนอื่นๆไงครับ) หมด เลยนำภาพตั๋วแข็ง(ตั๋วหนา) ขบวน ๓๔ เมื่อปี ๒๕๒๙ มาให้ชมครับ 8)



เห็นตั๋วแล้วก็อดนึกถึงความหลังไม่ได้ (อีกแล้วครับท่านผู้ชม) ความจริงตั๋วที่ใช้โดยสารจริงๆยังมีตั๋วค่าธรรมเนียมรถเร็วซึ่งมีสีแดงคาดกลางอีกใบนะครับ แต่ผมหาตั๋วค่าธรรมเนียมรถเร็วที่ใช้ควบตั๋วค่าโดยสารชั้นสองตามภาพข้างต้นยังไม่พบน่ะครับ จำได้ว่าวันที่เดินทางวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๒๙ นั้น เป็นวันกีฬาสีของโรงเรียน ไหนๆก็ไม่มีเรียนแล้วถึงเราไม่ไปเชียร์สีของเราก็คงแพ้อยู่ดี(ถ้าเพื่อนที่เป็นนักกีฬาสีเดียวกันรู้ว่าคิดแบบนี้ มันคงรุมทุบผมแน่ๆ) เลยแอบไปนั่งขบวน ๓๓ ชมวิวลอดถ้ำเขาพังเหยแล้วกลับขบวน ๓๔ ถึงบ้านก่อนค่ำดีกว่า โปรแกรมนี้เก็บเป็นความลับมากว่า ๒๐ ปีแล้วนะครับ เพิ่งมาเปิดเผยในโอกาสนี้เพื่อเป็นที่ระลึกแก่ขบวน ๓๓/๓๔ 8)

พอตัดสินใจไปก็รีบไปสถานีกรุงเทพก่อนเวลารถออกเล็กน้อย เงินในกระเป๋าก็มีไม่เท่าไรแต่ยอมทุ่มทุนสร้าง ซื้อตั๋วรถ บชท. เลยครับ เพราะกลัวถ้าว่านั่งชั้นสามอาจจะไม่ได้ที่นั่งริมหน้าต่างน่ะครับ สมัยนั้นแม้จะเป็นวันธรรมดา ขบวน ๓๓ ก็ยังมีผู้โดยสารมากพอสมควรมาซื้อตั๋วขึ้นรถช้าๆแบบนี้มีโอกาสได้นั่งริมทางเดินสูงมากเดี๋ยวงานจะกร่อยเสียเปล่าๆ ขบวน ๓๓ มีรถนั่งชั้นสอง(บชท.)พ่วงต้นขบวนถัดจาก บพห. เพียงโบกี้เดียว ไม่ได้พ่วงโบกี้ชั้นสองและชั้นสามอย่างละครึ่งในคันเดียวกัน (บสส.)แบบในปัจจุบันนะครับ จอดเทียบขบวนชานชาลาที่ ๘ เพื่อนบ้านข้างเคียงในชานชาลาที่ ๗ คือ ขบวนรถเร็วที่ ๓๑ กรุงเทพ-อุบลราชธานี ออก ๐๖.๕๐ น. ส่วนชานชาลาที่ ๙ เป็นขบวนรถเร็วที่ ๕๙ กรุงเทพ-เด่นชัย ออก ๐๖.๔๐ น. (รถเร็วขบวนนี้ก็คือรถเร็วที่ ๑๐๑ กรุงเทพ-เชียงใหม่ ในเวลาต่อมาซึ่งจะเล่าถึงเมื่อจบเรื่องขบวน ๓๓/๓๔ ครับ)

ระหว่างเดินทางก็ได้ชมวิวเพลิดเพลินยิ่งกว่าไปเชียร์กีฬาที่โรงเรียนเป็นไหนๆ สมหวังละครับ ยิ่งตอนรถขึ้นภูเขาช่วงสถานีโคกคลี-ช่องสำราญ-บ้านวะตะแบก(สมัยนั้นที่ป้ายสถานียังไม่มีคำว่า “เทพสถิต” มากำกับให้ดูยืดยาว )-ห้วยยายจิ๋ว(ชอบชื่อนี้มากครับ) วิวดีและรู้สึกว่าอากาศจะเย็นกว่าแผ่นดินพื้นที่ราบภาคกลาง ได้ลอดอุโมงค์เขาพังเหย(แต่ที่ปากอุโมงค์ใช้คำว่า “ถ้ำ” นะครับ) ซึ่งเป็นอุโมงค์รถไฟที่อยู่ใกล้กรุงเทพมากที่สุดในยุคนั้น ถึงปัจจุบันจะมีอุโมงค์พระพุทธฉายซึ่งอยู่ใกล้กรุงเทพมากกว่าก็ไม่มีขบวนรถโดยสารวิ่งผ่านนะครับ วันนั้นขบวน ๓๓ เสียเวลาประมาณ ๒๐ นาที ดูตามตารางเดินรถ ปี ๒๕๒๙ แล้ว ขบวน ๓๓ น่าจะเปลี่ยนไปสวนกับขบวน ๓๔ ที่จัตุรัสแน่ๆ ขืนผมนั่งไปลงจัตุรัสตามแผนเดิมก็อาจจะตกรถ หรือไม่ตกรถก็ซื้อตั๋วไม่ทันจะโดนปรับเสียเปล่าๆ เลยลงที่บำเหน็จณรงค์แทนรอสักพักขบวน ๓๔ ก็มาตามเวลาแล้ว แสดงว่าตัดสินใจไม่ผิด

[tuie]

ตอนซื้อตั๋วจากบำเหน็จณรงค์กลับกรุงเทพนั้น ความจริงผมก็อยากจะซื้อตั๋วชั้นสองเหมือนอย่างเที่ยวไปเหมือนกันครับ แต่ต้องไม่ลืมว่าในยุคนั้นยังไม่มีระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์ในการสำรองที่นั่งและจำหน่ายตั๋วอย่างในปัจจุบัน ผู้โดยสารที่ขึ้นกลางทางหากไม่ซื้อตั๋วล่วงหน้าก่อนวันเดินทางแล้ว ทางสถานีไม่อาจจำหน่ายตั๋วรถโดยสารที่มีการสำรองที่นั่ง/นอน เช่น รถ บชท. ให้ได้ เพราะข้อมูลที่นั่งว่างอยู่กับพนักงานบนขบวนรถแล้วครับ สถานีกลางทางจะจำหน่ายให้แต่ตั๋วชั้นสามซึ่งสามมารถใช้โดยสารได้แม้ที่นั่งเต็ม พูดง่ายๆก็คือยืนโดยสารได้น่ะครับ ต่างจากชั้นสอง-ชั้นหนึ่ง ที่ตามปกติจะไม่จำหน่ายตั๋วยืนให้ผู้โดยสาร ยกเว้นรถชั้นสองสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย นะครับ ผมก็เลยซื้อตั๋วชั้นสามรวมค่าธรรมเนียมรถเร็ว บำเหน็จณรงค์-สามเสน มาก่อน



พอขึ้นรถ พหล. มาตัดตั๋วผมก็ถามว่าที่นั่งชั้นสองว่างไหมครับ ปรากฎว่าว่างหลายที่ก็เลยเสียเงินเลื่อนชั้นตั๋วตามส่วนต่างของราคาค่าโดยสารชั้นสามกับชั้นสองในระยะทางดังกล่าว เป็นเงิน ๕๙ บาท โดย พหล. เขียนตั๋วบางเที่ยวเดียวตามภาพข้างต้นให้ผมอีกใบหนึ่ง โดยหมายเหตุในตั๋วบางว่า ควบตั๋วชั้นสามหมายเลข ๔๔๔๕ าจ.-สส. เป็นตัวย่อชื่อสถานีต้นทาง-ปลายทางตามตั๋วแข็งใบเดิม หมายความว่า บำเหน็จณรงค์-สามเสน พร้อมขีดฆ่าหมายเลขที่นั่งของผมในผังที่นั่งว่างของรถ บชท. หนึ่งเดียวของขบวน ๓๔ ซึ่งพ่วงอยู่เป็นคันสุดท้าย ได้ชมวิวท้ายขบวนเป็นมุมมองแปลกใหม่ไปจากเที่ยวไปด้วยครับ

มีข้อน่าสังเกตว่า การเลื่อนชั้นบนขบวนรถนั้น แม้ว่าจะตัดสินใจเลื่อนชั้นตอนรถออกจากสถานีที่ขึ้นโดยสารไปไกลแล้ว เช่น เพิ่งจะตัดสินใจเลื่อนชั้นจากชั้นสามเป็นชั้นสองตอนรถวิ่งถึงลำนารายณ์แล้ว จะขอเสียส่วนต่างค่าโดยสารชั้นสองกับชั้นสามเฉพาะช่วงลำนารายณ์-สามเสน ตามที่ใช้บริการชั้นสองจริงไม่ได้นะครับ เพราะมีระเบียบให้คิดค่าโดยสารส่วนต่างตามระยะทางในตั๋วใบเดิมคือ ตั๋วค่าโดยสารชั้นสามรวมค่าธรรมเนียมรถเร็วจาก บำเหน็จณรงค์-สามเสน เป็นหลัก ตัดปัญหาความยุ่งยากไปได้เยอะเชียวครับ มิฉะนั้นอาจมีผู้โดยสารแบบผมที่พอขึ้นจากบำเหน็จณรงค์ก็ขอไปฟังเสียงน้าต้อมชัดๆแถวๆต้นขบวน ๓๔ ซึ่งมีแต่ บชส.ก่อน พอถึงลำนารายณ์ชักจะเมื่อยค่อยมาขอเลื่อนชั้นแล้วมานั่ง บชท. ชมวิวท้ายขบวนให้ พหล. ปวดหัวเรื่องคิดค่าโดยสารส่วนต่างที่เลื่อนชั้นระหว่างทางก็ได้ครับ

สมัยนั้นขบวนรถไม่ค่อยจะเสียเวลานัก จะช้าบ้างก็แค่ ๑๐-๒๐ นาที เป็นอย่างมาก ขบวน ๓๔ ก็ไม่ทำให้ผมผิดหวังเพราะสามารถพาผมกลับถึงสามเสนได้ในเวลาประมาณ ๑๗.๓๐ น. กลับเข้าบ้านทันเวลารับประทานอาหารมื้อเย็น ไม่เป็นที่ผิดสังเกตของทางบ้านออกจะเข้มงวดเรื่องความตรงต่อเวลา เว้นเสียแต่อาจสงสัยได้ว่าลูกคนนี้มันไปเชียร์กีฬาประสาอะไรถึงได้ผมยุ่งหน้ามันนัก

[Rakpong]

มุขท่องเที่ยวทางรถไฟ ของคุณตุ้ยในวันเดียว ไม่ให้ที่บ้านจับได้ นี่สมาชิก RFT.com ค่อนข้างชำนาญกัน

ยกตัวอย่าง มากินแกงป่าที่น้ำตกไทรโยคน้อย มาขบวน 909 แล้วกลับขบวน 258 ถ้าเสียเวลา รีบบึ่งเข้าเมืองกลับรถทัวร์กันทัน

แต่ปัญหาเรื่องกลิ่นเหล็ก กลิ่มลมติดตัวนี่ ถ้าได้อาบน้ำก่อนเข้าบ้านนี่รับรองจับไม่ได้แน่

[Wisarut]

พี่หมอ, อาจารย์ตุ้ย

เมื่อวานได้ขึ้น 137 ไปสำรวจทำ track map จากบัวใหญ่ถึงหนองคาย แล้วตีรถ 134 กลับมาทันงานแต่งงาน เพื่อนที่ซอยสวนพลู ... ตอนสำรวจทางเจอขี้เถ้าจากกองไฟที่ชาวไร่อ้อยที่ขอนแก่นและอุดร เผาใบอ้อยที่แห้ง มันปลิวเข้าตัวรถ ตั้งหลายยกจนกลายเปนหนุมานคลุกฝุ่นเลยเทียวครับ

แย่หน่อยที่พอพ้นสถานีอุดรธานี ทางก็เริ่มมืด ทำให้สำรวจทางช่วงอุดร - หนองคายไม่ได้อย่างใจ สมัยก่อนเคยนั่งเจ้า 33 (ก็เจ้า 137 นั่นไง) มาถึงตลาดหนองคายตอน 5 โมงครึ่ง หรอื 6 โมง ... ถ้ารักษาเวลาได้อย่างเมื่อก่อน ก็หวานหละครับสำหรับการสำรวจทางช่วงอุดร และ หนองคาย ไม่งั้นก็ต้องอาศัย 415/418 ซะแล้วหละ

[tuie]

ขอบคุณพี่หมอที่กรุณาแวะมาเยี่ยมชมครับ

[tuie]

กำหนดเวลาเดินรถขบวน ๓๓ ระหว่างปี ๒๕๓๓-๒๕๓๗ ยังคงที่ตลอดระยะเวลาห้าปีครับ

กรุงเทพ ออก 06.15
สามเสน ออก 06.26
บางซื่อ ออก 06.33
ดอนเมือง ออก 06.54
อยุธยา ออก 07.32
บ้านภาชี ออก 07.52
สระบุรี ออก 08.14
แก่งคอย ออก 08.27
แก่งเสือเต้น ออก 09.00
ลำนารายณ์ ออก 09.45
โคกคลี ออก 10.13
บำเหน็จณรงค์ ออก 11.04
จัตุรัส ออก 11.22
บัวใหญ่ ออก 12.29
เมืองพล ถึง 13.02
บ้านไผ่ ถึง 13.29
ขอนแก่น ถึง 14.06
น้ำพอง ถึง 14.38
กุมภวาปี ถึง 15.24
อุดรธานี ถึง 15.56
หนองคาย ถึง 16.50

ขบวน ๓๔ ก็เช่นกันนะครับ มีกำหนดเวลาเดินรถปี ๒๕๓๓-๒๕๓๗ เป็นเวลาเดิมตลอดระยะเวลาห้าปี

หนองคาย ออก 07.40
อุดรธานี ออก 08.34
กุมภวาปี ออก 09.10
น้ำพอง ออก 10.00
ขอนแก่น ออก 10.32
บ้านไผ่ ออก 11.08
เมืองพล ออก 11.34
บัวใหญ่ ออก 12.22
จัตุรัส ออก 13.19
บำเหน็จณรงค์ ออก 13.37
โคกคลี ออก 14.29
ลำนารายณ์ ออก 14.59
แก่งเสือเต้น ออก 15.40
แก่งคอย ออก 16.15
สระบุรี ออก 16.30
บ้านภาชี ออก 16.55
อยุธยา ถึง 17.16
ดอนเมือง ถึง 17.55
บางซื่อ ถึง 18.17
สามเสน ถึง 18.28
กรุงเทพ ถึง 18.40

ตามกำหนดเวลาเดินรถในช่วงปี ๒๕๓๓-๒๕๓๗ ขบวน ๓๓ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพถึงหนองคาย ๑๐ ชั่วโมง ๓๕ นาที ขบวน ๓๔ ใช้เวลาเดินทางจากหนองคายถึงกรุงเทพ ๑๑ ชั่วโมง ขบวน ๓๔ ชักจะเริ่มมีแววถึงกรุงเทพค่ำมากขึ้นเรื่อยๆแล้วนะครับ ดูข้อมูลตามตารางแล้วขบวน ๓๓ สวนกับขบวน ๓๔ ที่สถานีชุมทางบัวใหญ่ครับ

[box_car]

[black_express]

เป็นสถานีปลายทางขบวนรถด่วนระหว่างประเทศ กรุงเทพ - ไปร สมัยก่อน

ตอนหลัง ทางการรถไฟมาเลเซียได้ปรับปรุงสถานี บัตเตอร์เวอร์ธ เป็นสถานีปลายทางเสร็จเรียบร้อย เลยขยับปลายทางไปที่สถานีบัตเตอร์เวอร์ธ ส่วนสถานีไปร ( เดิม ) ทราบว่า ปัจจุบันทำเป็นลานกองคอนเทนเนอร์ ไปแล้ว