RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13273380
ทั้งหมด:13584676
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 102, 103, 104 ... 198, 199, 200  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 03/07/2014 9:58 am    Post subject: Reply with quote

กทม.ขอคสช.คืนตลาดจตุจักรให้บริหาร


โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 2 กรกฎาคม 2557 20:49 น.


นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า หลังจากที่ กทม.ได้ยื่นหนังสือไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอพิจารณาให้ กทม. กลับมาเช่าพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร และบริหารจัดการตลาด หลังจากที่สัญญาเช่ากับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) สิ้นสุดเมื่อปี 55 นั้น ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งคงจะต้องรอคำตอบจาก คสช. ก่อน แต่ทั้งนี้ ตนได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการตลาดนัด กทม.และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้วางแผนเพื่อเตรียมความพร้อม หากร.ฟ.ท.ยินดีมอบพื้นที่ตลาดจตุจักรคืนให้ กทม. ดำเนินการบริหารงานต่อ

ทั้งนี้ ได้ให้จัดเตรียม 3 แนวทางหลัก ได้แก่
1. เตรียมการรับการบริหารจัดการตลาดให้เป็นระบบ
2. จัดเตรียมแผนการปรับปรุงพื้นที่ให้มีความทันสมัย รองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ อีกทั้งจะต้องปรับปรุงสิ่งแวดล้อมภายในตลาดให้ถูกสุขลักษณะ ทั้งสถานที่ค้าขายของอุปโภค-บริโภค รวมถึงห้องน้ำ และ
3. ให้บริหารงานอย่างเป็นวิชาชีพ โดยให้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมกับส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อความโปร่งใส และตรวจสอบได้

สำหรับพื้นที่ภายในตลาดที่มีบางส่วนทรุดโทรม เช่น ตัวอาคารสำนักงาน หรือทางเดินเท้า ได้มอบให้หน่วยงานไปศึกษา และจัดงบประมาณที่มีอยู่แล้วไว้ เพื่อเตรียมซ่อมแซมบำรุงทันที
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 14/07/2014 10:26 am    Post subject: Reply with quote

บขส.เร่งถกย้ายหมอชิต-เอกมัย
ข่าวเศรษฐกิจ เดลินิวส์
วันอาทิตย์ 13 กรกฎาคม 2557 เวลา 19:00 น.

บขส.ถกย้ายสถานีขนส่งหมอชิต-เอกมัยสัปดาห์นี้ ก่อนชง คสช. พิจารณา หลังถูกรถไฟทวงที่ดินคืน คาดใช้เวลาไม่ต่ำกว่า3ปี ไม่ทัน1ปีตามร.ฟ.ท.ขีดเส้นตาย

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมเรื่องการย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต) ออกไปสถานที่อื่น เพื่อสรุปแนวทางและนำเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณา โดยการหารือจะนำข้อมูลที่สถาบันพระจอมเกล้าธนบุรีศึกษาว่า ควรจะย้ายไปพื้นที่ใด และควรลงทุนแบบไหนมาประกอบการพิจารณาให้เกิดความชัดเจนที่สุด

ทั้งนี้แนวทางการลงทุนจะพิจารณาจาก 3 แนวทาง คือ การลงทุนโดยใช้เงินทุนของ บขส.เองทั้งหมด ซึ่งอาจใช้การกู้เงิน หรือนำกำไรสะสมที่มีอยู่ประมาณ 3,000 ล้านบาทมาใช้ หรือให้มีการร่วมทุนระหว่าง บขส.กับ ภาคเอกชน และแนวทางสุดท้ายให้ภาคเอกชนลงทุนเองทั้งหมด และให้สิทธิบริหารเชิงพาณิชย์เป็นการตอบแทน ส่วนการใช้งบประมาณเบื้องต้นประเมินว่าจะใช้ประมาณ1,500 ล้านบาท เป็นค่าที่ดิน 150 ไร่ เฉลี่ยไร่ละ 10 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่พิจารณาว่าจะย้ายสถานีขนส่งหมอชิตออกไปพื้นที่ใด แต่หลักการเบื้องต้นจะต้องมีพื้นที่ขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 100 ไร่ เพราะสถานีขนส่งปัจจุบันมีขนาด 80 ไร่ซึ่งค่อนข้างเล็กไป ส่วนทำเลอาจเลือกย่านถนนพหลโยธิน เพราะสถานีขนส่งใหม่จะต้องรองรับการขนส่งทั้งสายเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งมีปริมาณผู้โดยสารใช้จำนวนมาก อีกทั้งถนนพหลโยธินยังเป็นเส้นทางสายหลักในการเดินทางไปทั้ง 2 ภาคได้ด้วย

“ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า ถึงอย่างไร สถานีขนส่งหมอชิตก็ต้องย้ายแน่ เพราะเจ้าของพื้นที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ต้องการนำพื้นที่ไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นต่อ แต่การย้ายคงไม่ทัน 1 ปีตามที่การรถไฟฯขอ เพราะการก่อสร้างสถานีขนส่งใหม่ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปีถึงจะย้ายได้”

นายวุฒิชาติกล่าวว่า บขส.ยังเตรียมพิจารณาย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสารสายตะวันออก หรือเอกมัย ออกจากพื้นที่เดิมเช่นกัน เนื่องจากปัจจุบันเป็นพื้นที่ไม่เหมาะกับการให้บริการเดินรถ เพราะมีพื้นที่เพียง 7 ไร่ ไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวยังกลายเป็นพื้นที่ใจกลางเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยหรือห้างสรรพสินค้าทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดอย่างหนัก

สำหรับทำเลที่จะย้ายสถานีออกไปนั้น จะนำผลการศึกษาของสถาบันพระจอมเกล้าธนบุรีมาพิจารณาเช่นกัน โดยบขส.สนใจพื้นที่บริเวณถนนบางนา-ตราด เพราะอยู่รอบนอกที่การจราจรคล่องตัวเหมาะกับการนำมาทำเป็นสถานีขนส่งสาธารณะ ส่วนการลงทุนก็มี 3 แนวทาง เช่นเดียวกับการย้ายหมอชิต คือ บขส.ลงทุนเอง การร่วมทุน หรือให้เอกชนลงทุนทั้งหมด

ส่วนแผนปรับปรุงการให้บริการภายในรถ บขส.ยังคงเดินหน้าเช่นเดิม เช่น การทำสัญญาเช่ารถชั้นเดียว ขนาด 15 เมตร จำนวน 100 คัน เพื่อทดแทนรถโดยสาร 2 ชั้น รุ่นเก่าที่ปลดระวางในปีนี้ ได้แจ้งให้ คสช.ทราบแล้ว แต่ก็อยู่ระหว่างรอให้ คสช.เห็นชอบอีกครั้ง
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/07/2014 12:26 pm    Post subject: Reply with quote

กลุ่มผู้ค้าบนพื้นที่รถไฟร้อง“คสช.” ถูกนายทุนอิทธิพลฉ้อโกงสูญกว่า 100 ล้าน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 กรกฎาคม 2557 11:26 น.

ศรีสะเกษ - กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าผู้ประกอบการบนพื้นที่การรถไฟ ร้อง “คสช.” ถูกนายทุนอิทธิพลฉ้อโกง เสียหายกว่า 100 ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษหลังเก่า อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าได้รับความเดือดร้อนกรณีถูกฉ้อโก ในการซื้ออาคารที่นายทุนสร้างขายให้พร้อมสิทธิการเช่าจากการรถไฟแห่งประเทศ ประมาณ 20 คน นำโดย นางสาววิริญสิริ สะโสดา เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พ.อ.ณรงค์ กลิ่นวารี รองผู้บังคับกองกำลังรักษาความสงบประจำพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ หลังจากก่อนหน้านี้เคยไปร้องทุกข์กับนายสถานีรถไฟศรีสะเกษ และ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่กระทั่งถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด

นางสาววิริญสิริ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องเดินทางมาร้องทุกข์ต่อ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอความอนุเคราะห์ให้ตรวจสอบนายทุนผู้มีอิทธิพลซึ่งได้รับสิทธิในการเช่าที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยตั้งแต่เส้นทางรถไฟ จ.นครราชสีมา - จ.อุบลราชธานี โดยพฤติกรรมของนายทุนคนนี้ จะได้รับสิทธิการประมูลที่ของการรถไฟเป็นจำนวนมาก หลายพื้นที่ และทุกพื้นที่จะดำเนินการก่อสร้างแบบไม่ถูกตามกระบวนการ โดยมีเจ้าหน้าที่ของการรถไฟบางรายร่วมมือทำเอกสารเท็จ

จากการกระทำดังกล่าว ส่งผลให้มีประชาชนที่มาซื้ออาคารบนที่ดินของการรถไฟ ได้รับความเดือดร้อนกว่า 100 คูหา และได้รับความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท เช่น พวกตนได้ทำสัญญาเช่าซื้ออาคารมาตั้งแต่ปี 2547 โดยซื้อจากนายทุนที่ไปเช่าที่ดินจากการรถไฟมาสร้างอาคารขายให้กับพวกตน จำนวนทั้งสิ้น 15 ห้อง ๆ ละ 1,200,000 บาท และพวกตนได้จ่ายเงินครบแล้วตั้งแต่ปี 2555

นางสาววิริญสิริ กล่าวต่อว่า จากนั้นพวกตนได้ไปพบกับนายทุนเพื่อขอให้โอนสิทธิการเช่าให้กับพวกตนไปเช่ากับการรถไฟโดยตรง แต่ปรากฏว่านายทุนได้บ่ายเบี่ยง พวกตนจึงได้ไปยื่นหนังสือร้องทุกข์กับการรถไฟแห่งประเทศไทย และทราบข้อเท็จจริงว่า นายทุนสร้างอาคารให้เช่าซื้อผิดแบบแปลน โดยได้รับอนุญาตให้สร้างเพียงแค่ 9 ห้อง แต่วไปสร้างเพิ่มเติมขึ้นมาอีกเป็น 15 ห้อง ทำให้การรถไฟไม่สามารถให้พวกตนโอนสิทธิการเช่าไปเช่ากับการรถไฟโดยตรงได้

ต่อมานายทุนได้มาเรียกเก็บเงินจากพวกตนอีกห้องละ 400,000 บาท โดยอ้างว่าถูกเรียกเงินค่าเช่าจากการรถไฟ จำนวน 5 ล้านบาทเศษ ให้พวกตนมาเฉลี่ยเงินกันจ่ายค่าเช่า แต่พวกตนไม่มีใครจ่าย และเมื่อไปตรวจสอบกับการรถไฟจึงทราบว่า นายทุนไม่จ่ายเงินค่าเช่าที่ดินให้กับการรถไฟมาตั้งแต่ปี 2547 ทำให้พวกตนไม่สามารถโอนสิทธิการเช่าที่ดินไปเช่ากับการรถไฟได้

“พวกเราสงสัยว่า เพราะเหตุใดการรถไฟจึงปล่อยให้นายทุนค้างค่าเช่าที่ดินมาตั้งแต่ปี 2547 ทำให้พวกเราได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของนายทุนคนนี้เป็นอย่างมาก ดังนั้น กลุ่มผู้ได้รับความเสียหาย จึงเดินทางมาร้องทุกข์ ต่อ คสช. เพื่อให้ตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้ด้วย” นางสาววิริญสิริ กล่าว

ทางด้าน พ.อ.ณรงค์ กล่าวว่า เรื่องนี้ได้ให้กลุ่มที่ได้รับผลกระทบทำหนังสือทำหนังสือแจ้งรายละเอียดเป็นรายบุคคล โดยให้นำส่งมาให้ตนในวันที่ 16 ก.ค. นี้ เพื่อจะได้นำเรื่องเสนอไปยังหน่วยเหนือเพื่อให้การช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 17/07/2014 11:48 am    Post subject: Reply with quote

รฟท.เล็งปรับเพิ่มค่าเช่าที่ดิน-หาเงินล้างหนี้
ข่าวสดรายวัน
ปีที่ 24 ฉบับที่ 8632
วันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2557


นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมเตรียมทบทวนการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ใหม่ทั้งหมด เพื่อเสนอกลับไปยังอนุกรรมการแก้ไขและกลั่นกรองปัญหารัฐวิสาหกิจ ภายใน 15 วัน ในระหว่างนี้คณะกรรมการการรถไฟฯ ต้องกลับไปจัดทำร่างแผนฟื้นฟูใหม่ให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อนำมาเสนอและหารือร่วมกับกระทรวงอีกครั้งก่อนสรุปเสนอให้อนุกรรมการพิจารณา


"รฟท.ต้องจัดทำรายละเอียดแผนการลดภาระหนี้ที่มีอยู่กว่าแสนล้านให้ชัดเจน เนื่องจากมองว่ารถไฟยังเดินต่อไปได้ เพราะปัจจุบันยังมีทรัพย์สินอยู่กว่า 2-3 แสนล้านบาท โดยเฉพาะที่ดินที่นำออกให้เช่าจะต้องกลับไปทำแผนพัฒนาเชิงพาณิชย์ให้ได้ประโยชน์สูงสุด เช่น การปรับขึ้นค่าเช่าที่ดินให้เป็นธรรม อย่างกรณีการเช่าที่ของบริษัทปตท. บริเวณถนนพหลโยธิน, การเร่งจัดเก็บค่าเช่าในพื้นที่ที่ยังไม่เคยจัดเก็บ เป็นต้น" ปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าว



ด้านนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดได้ตั้งนายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รองผู้ว่าการ หัวหน้าหน่วยธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รฟท. รักษาการตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท. พร้อมให้พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานกรรมการสรรหาให้แล้วเสร็จภายใน 5 เดือน



"ในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้บริการ ประสานไปยังตำรวจรถไฟ ให้ดูแลความปลอดภัยบริเวณสถานีและบนขบวนรถ นอกจากนี้ จะจัดให้มีการสุ่มตรวจสารเสพติดพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ พร้อมจัดให้มีเลดี้โบกี้ เป็นทางเลือกให้ ผู้โดยสารหญิงและเด็กชายที่มีอายุต่ำกว่า 10 ขวบ โดยจะใช้ผู้หญิงเป็นพนักงานประจำตู้โดยสารทั้งหมด คาดเปิดให้บริการในวันที่ 1 ส.ค. ในเส้นทางภาคเหนือ, ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 21/07/2014 3:09 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคมเตรียมแผนย้าย"หมอชิต" คาดไม่เกินปี 61 ย้ายออกหมด
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 กรกฎาคม 2557 14:46 น.

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมหารือถึงการจัดสรรพื้นที่บริเวณย่านถนนพหลโยธิน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ให้กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) โดยได้มอบหมายให้ ร.ฟ.ท. , ขสมก. และ บขส. เร่งจัดทำกรอบเวลาในการย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ จตุจักร รวมทั้งสรุปแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดินของ ร.ฟ.ท. ในพื้นที่บริเวณย่านถนนพหลโยธินด้วย

ทั้งนี้ ได้ให้ สนข.จัดเตรียมแผนความพร้อมรับการจราจรเมื่อมีการย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ ในเบื้องต้น บขส. และ ขสมก. จะทยอยย้ายออกจากพื้นที่เดิม โดยให้สอดคล้องกับแผนการก่อสร้างระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะย้ายออกทั้งหมดไม่เกินปี 2561
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/07/2014 5:20 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคมเบรกแผนรถไฟยกที่ใช้หนี้
เดลินิวส์ วันอังคาร 22 กรกฎาคม 2557 เวลา 16:59 น.

ปลัดคมนาคม แตะเบรกแผน ยกที่ดินริมแม่น้ำ-มักกะสัน ให้กระทรวงการคลังบริหาร แลกล้างหนี้รถไฟ เล็งสั่งรื้อค่าเช่าที่ดินใหม่

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) มีแนวคิดนำที่ดินบริเวณโรงงานมักกะสัน 497 ไร่ และที่ดินสถานีรถไฟแม่น้ำ ย่านช่องนนทรี 277 ไร่ ไปให้กระทรวงการคลังเข้ามาพัฒนาเชิงพาณิชย์ เพื่อแลกกับการล้างหนี้สะสมของร.ฟ.ท.กว่าแสนล้านบาทว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าเรื่องนี้เป็นแนวคิดของนายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. แต่ไม่ได้เป็นมติจากคณะกรรมการร.ฟ.ท. ดังนั้นนโยบายในเรื่องนี้ต้องทบทวน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อ ร.ฟ.ท.อย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้มอบนโยบายให้คณะกรรมการร.ฟ.ท.ชุดใหม่ เร่งรัดจัดทำแผนพัฒนาเชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างรายได้จากทรัพย์สิน และที่ดินของร.ฟ.ท. ให้เกิดเป็นรูปธรรมและคุ้มค่ามากที่สุดโดยเฉพาะการบริหารจัดเก็บค่าเช่าพื้นที่ให้เหมาะสม โดยพื้นที่ใดหากเก็บค่าเช่าต่ำไป จะต้องปรับเพิ่มเพราะมั่นใจถ้าดูแลการจัดเก็บรายได้เพิ่ม และป้องกันการรั่วไหลของงบประมาณ จะทำให้ร.ฟ.ท.มีรายได้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่จัดเก็บได้เพียงปีละ1,600 ล้านบาทเท่านั้น

ส่วนประเด็นการเช่าที่ดินสำนักงานใหญ่บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ถนนพหลโยธิน ขนาด 24 ไร่ ที่ยังมีข้อพิพาทถึงการต่อสัญญาเช่าใหม่ ที่ ร.ฟ.ท.ต้องการคิดค่าเช่าสัญญา 30 ปี รวม 1,792 ล้านบาท แต่ ปตท.ขอจ่าย 800ล้านบาท ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งเรื่องนี้ต้องเข้าไปดูในรายละเอียดเงื่อนไขก่อนแต่หลักการแล้ว การกำหนดอัตราค่าเช่าจะต้องเหมาะสม และสอดคล้องกับสภาพของพื้นที่แถบนั้นเช่น อาจเทียบเคียงได้กับค่าเช่าพื้นที่ ของห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว

นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมเจ้าท่า หนึ่งในคณะกรรมการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาบอร์ด ร.ฟ.ท.ยังไม่เคยนำเสนอหรือหยิบยกเรื่องการนำที่ดินไปให้กระทรวงการคลังบริหาร เพื่อแลกกับหนี้สินสะสม เบื้องต้นจึงคาดว่าเป็นเพียงแนวนโยบายของอดีตผู้ว่า ร.ฟ.ท. เท่านั้น

ด้านนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานบอร์ด ร.ฟ.ท.กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง จึงต้องขอเวลาพิจารณาข้อดีข้อเสียก่อน แต่หลังจากนี้จะให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์มากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ และแก้ปัญหาขาดทุนให้ร.ฟ.ท. ซึ่งขณะนี้สั่งให้ฝ่ายบริหารร.ฟ.ท.ส่งแผนพัฒนาเชิงพาณิชย์ฉบับเดิมมาให้พิจารณาก่อนแล้ว ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ หากเหมาะสม จะให้เดินหน้าต่อได้หากเห็นว่ายังไม่เหมาะสม ก็ต้องมาจัดทำแผนใหม่ทั้งหมด

ปัจจุบัน ร.ฟ.ท.มีที่ดินอยู่ทั่วประเทศ 234,976.96 ไร่แบ่งเป็นที่ดินเพื่อการเดินรถ 198,674.71 ไร่ ที่ดินเพื่อการพาณิชย์ 36,302.18 ไร่ ในส่วนของที่ดินเชิงพาณิชย์แบ่งเป็นที่ดินที่มีศักยภาพต่ำ 21,536.80 ไร่ ปานกลาง 7,218.12 ไร่ และสูง 7547.26 ไร่ส่วนที่ดินที่มีศักยภาพสูงที่นำไปพัฒนาเชิงพาณิชย์ได้มี 3 แปลง คือ ที่ดินย่านมักกะสันพื้นที่ 512 ไร่ มูลค่าที่ดิน 55,816 ล้านบาท ที่ดินย่านพหลโยธิน บริเวณ กม.11พื้นที่ 359 ไร่ มูลค่าที่ดิน 18,370 ล้านบาท และที่ดินย่านสถานีแม่น้ำ พื้นที่ 277 ไร่ มูลค่าที่ดิน 10,413 ล้านบาท ซึ่งเฉพาะพื้นที่ 3 แปลงนี้มีมูลค่ารวม 84,599 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 23/07/2014 2:21 am    Post subject: Reply with quote

ศรีสะเกษเต้นเร่งช่วยเหลือผู้ค้าเช่าที่การรถไฟถูกนายทุนโกง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 กรกฎาคม 2557 19:08 น.



ศรีสะเกษ - พ่อค้า- แม่ค้าเช่าซื้ออาคารบนที่ดินการรถไฟบุกยื่นหนังสือร้องทุกข์ถูกนายทุนโกงการโอนสิทธิเช่า ทางด้านจังหวัดฯ เต้นเรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหารือเร่งช่วยเหลือด่วน แยกเป็น 6 กรณี

วันนี้ (22 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสระกำแพงใหญ่ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ ได้มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ได้รับผลกระทบจากการเช่าที่ซึ่งนายทุนได้เช่าที่จากการรถไฟแห่งประเทศไทยแล้วนำมาสร้างอาคารพาณิชย์ขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าเช่าซื้อเป็นสถานที่ขายของ นำโดย น.ส.วิริญสิริ สะโสดา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 644 / 61 ถ.ราชการรถไฟ 3 ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้เข้าร้องทุกข์กับ นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อขอให้ช่วยเหลือด่วน

ทั้งนี้เนื่องจากได้เช่าซื้อที่ดินสร้างอาคารพาณิชย์จากนายทุนคนหนึ่งที่เช่าที่จากการรถไฟมาสร้างอาคารพาณิชย์ขายให้กับพ่อค้าแม่ค้า แต่เมื่อมีดำเนินการผ่อนชำระค่าเช่าซื้อหมดแล้ว นายทุนไม่สามารถโอนสิทธิการเช่าจากการรถไฟให้กับผู้เช่าซื้อได้ จึงได้มาขอให้ทางผู้ว่าฯศรีสะเกษ และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้พิจารณาหาทางช่วยเหลือ

นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ได้เป็นตัวแทนของ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ รับเรื่องร้องทุกข์ไว้และได้ประชุมหารือกับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยที่ฝ่ายนายทุนไม่ได้มาเข้าร่วมประชุมหารือแต่อย่างใด

นายสุริยะ เปิดเผยภายหลังการประชุมแล้วว่า สำหรับปัญหาที่ชาวบ้านได้ยื่นร้องเรียนกับทาง จ.ศรีสะเกษ ได้แบ่งเป็น 6 กรณีหลัก และบางข้อได้ดำเนินการเร่งแก้ไขปัญหาแล้ว ดังนี้ 1. กรณีผู้เช่าที่ดินการรถไฟผิดสัญญาห้ามปลูกสร้างสิ่งใด ๆ แต่ผู้เช่าสร้างอาคารนำมาให้ชาวบ้านเช่า ทำให้รถไฟสั่งรื้อถอน ซึ่งเรื่องนี้ การรถไฟได้ยกเลิกสัญญาเช่ากับนายทุนแล้ว และรถไฟจะดำเนินการให้ผู้ที่เช่าอยู่จริงทำสัญญาเช่าต่อไป

2.กรณีผู้เช่าที่ดินการรถไฟสร้างอาคารพาณิชย์ขายให้ชาวบ้าน แต่ไม่ยอมโอนสิทธิ์การเช่าต่อ เรื่องนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะนายทุนยังเป็นคู่สัญญาเช่ากับทางการรถไฟอยู่ จะต้องให้ทางผู้ร้องทุกข์ไปเจรจากับนายทุนในการโอนสิทธิ์การเช่าต่อไป โดยตนจะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาเจรจาพร้อมกับนายทุนอีกครั้ง

3. กรณีที่นายทุนบุกรุกที่ดินทางรถไฟ นำไปสร้างอาคารให้ชาวบ้านเช่า ศาลตัดสินว่า ผิด แต่จนกระทั่งถึงปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ นั้น เรื่องนี้ยังสรุปไม่ได้ โดยได้มอบให้ นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ เรียกนายทุนมาเจรจาว่า จะมีการดำเนินการแก้ไขอย่างไร

4.กรณีผู้เช่าที่ดินการรถไฟบริเวณเสาธงหน้าสถานีรถไฟจากนายทุน โดยพื้นที่ดังกล่าวห้ามปลูกสร้าง แต่นายทุนได้สร้างห้องแถวให้ชาวบ้านเช่า ทำให้ผิดสัญญา และการรถไฟบอกเลิกสัญญาแล้ว ทำให้ชาวบ้านที่จ่ายเงินครบ ได้รับความเดือดร้อนนั้น ขณะนี้รถไฟได้บอกเลิกสัญญาเช่ากับนายทุนแล้ว และจะให้ชาวบ้านเช่าโดยตรงกับรถไฟต่อไป

5.พื้นที่ทางรถไฟบริเวณใกล้ห้างเทสโก้-โลตัส นายทุนเช่าเพื่อทำการเกษตร แต่นายทุนกลับมีการนำไปก่อสร้างห้องเช่าให้กับชาวบ้าน ทำให้การรถไฟยกเลิกสัญญา และทำให้ชาวบ้านที่เช่าอยู่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเรื่องนี้ทางการรถไฟกำลังหาทางแก้ไขช่วยเหลือแล้ว

และ 6.กรณีปลอมแปลงเอกสารสัญญาเช่า โดยใช้เอกสารปลอมแปลงแอบอ้างชื่อผู้อื่นให้ชาวบ้านเช่า เรื่องนี้ได้ให้ผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายทุนแล้ว ซึ่งจากกรณีทั้งหมดนี้ เบื้องต้น ได้ประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่การรถไฟ เพื่อให้เร่งดำเนินการหาข้อเท็จจริง เพื่อหาข้อยุติในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนต่อไปแล้ว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 23/07/2014 10:35 am    Post subject: Reply with quote

คมนาคมเบรกรถไฟยกที่ล้างหนี้คลัง จี้ทำแผนพัฒนาเชิงพาณิชย์ เล็งทบทวนสัญญาเช่าปตท.
ข่าวเศรษฐกิจ
ไทยโพสต์
พุธที่ 23 กรกฎาคม 2557 - 00:00

“สร้อยทิพย์” เบรกแผนยกที่ให้คลังบริหารล้างหนี้รถไฟ ชี้เป็นแค่แนวคิดของอดีตผู้ว่าฯ ยังไม่เคยเสนอขออนุมัติจากบอร์ด สั่งทบทวนแผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้เกิดเป็นรูปธรรม คำนึงถึงประโยชน์ของ ร.ฟ.ท.เป็นหลัก พร้อมเล็งรื้อค่าเช่าที่ดิน ปตท.ชี้ต้องเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพของพื้นที่

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) มีแนวคิดที่จะนำที่ดินบริเวณโรงงานมักกะสัน 497 ไร่ และที่ดินสถานีรถไฟแม่น้ำ บริเวณช่องนนทรี 277 ไร่ โดยให้กระทรวงการคลังเข้ามาพัฒนาเชิงพาณิชย์เพื่อแลกกับการล้างหนี้สะสมของ ร.ฟ.ท.กว่า 8 หมื่นล้านบาท ว่า จากการศึกษาและตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ พบว่าเรื่องนี้เป็นแนวคิดของ นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. แต่ไม่เคยมีการเสนอเรื่องนี้เพื่อขออนุมัติเป็นมติจากคณะกรรมการ ร.ฟ.ท. ดังนั้นนโยบายในเรื่องนี้อาจต้องมีการทบทวน แต่ในหลักการนั้นจะดำเนินการโดยคำนึงถึงประโยชน์ของ ร.ฟ.ท.เป็นหลัก

“ก่อนหน้านี้ได้มอบนโยบายให้บอร์ด ร.ฟ.ท. เร่งรัดจัดทำแผนพัฒนาเชิงพาณิชย์ ในการสร้างรายได้จากทรัพย์สินและที่ดินของ ร.ฟ.ท. เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรม และสิ่งสำคัญจะต้องเกิดความคุ้มค่ามากที่สุด โดยเฉพาะการบริหารจัดเก็บค่าเช่าพื้นที่ให้ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย การกำหนดอัตราค่าเช่าที่ดินจะต้องเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง ดังนั้นพื้นที่ใดมีการจัดเก็บค่าเช่าที่ต่ำเกินไปจะต้องพิจารณาปรับให้เหมาะสม เชื่อว่าการดูแลจัดเก็บรายได้และอุดจุดรั่วไหลต่างๆ จะทำให้ ร.ฟ.ท.มีรายได้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่จัดเก็บได้เพียงปีละ 1,600 ล้านบาทเท่านั้น” นางสร้อยทิพย์กล่าว

นางสร้อยทิพย์กล่าวว่า กรณีการเช่าที่ดินของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พื้นที่ 24 ไร่ และได้สิ้นสุดสัญญาไปแล้วตั้งแต่ 31 มี.ค.2556 และมีการต่อสัญญาอีก 30 ปี โดย ร.ฟ.ท.ขอเก็บค่าเช่า 1,792 ล้านบาท แต่ ปตท.ขอจ่าย 800 ล้าน ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปนั้น และต้องไปดูในรายละเอียดเงื่อนไขต่างๆ ก่อน โดยเน้นในหลักการแล้ว การกำหนดอัตราค่าเช่าจะต้องเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพของพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณนี้อาจเทียบเคียงได้กับพื้นที่ใกล้เคียงบริเวณห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เป็นต้น

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานบอร์ด ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้พิจารณาเรื่องการนำที่ดิน ร.ฟ.ท.ไปแลกหนี้ เนื่องจากเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งประธานบอร์ด ขอเวลาในการพิจารณารายละเอียดทั้งข้อดี-ข้อเสียก่อน แต่หลังจากนี้จะให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับ ร.ฟ.ท. เนื่องจากในปัจจุบัน ร.ฟ.ท.ประสบกับการขาดทุน ขณะนี้ได้สั่งให้ฝ่ายบริหาร ร.ฟ.ท.ส่งแผนพัฒนาเชิงพาณิชย์ฉบับเดิมมาให้พิจารณาก่อน ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ หากเหมาะสมจะให้เดินหน้าต่อได้ หากเห็นว่ายังไม่เหมาะสมก็ต้องมาจัดทำแผนใหม่ทั้งหมด

ทั้งนี้ ปัจจุบัน ร.ฟ.ท.มีที่ดินกระจายอยู่ทั่วประเทศ 234,976.96 ไร่ แบ่งเป็น
ที่ดินเพื่อการเดินรถ 198,674.71 ไร่
ที่ดินเพื่อการพาณิชย์ 36,302.18 ไร่
ในส่วนของที่ดินเชิงพาณิชย์แบ่งเป็น
ที่ดินที่มีศักยภาพต่ำ 21,536.80 ไร่
ที่ดินที่มีศักยภาพปานกลาง 7,218.12 ไร่ และ
ที่ดินที่มีศักยภาพสูง 7547.26 ไร่

ส่วนที่ดินที่มีศักยภาพสูงที่นำไปพัฒนาเชิงพาณิชย์ได้มี 3 แปลง คือ
1.ที่ดินย่านมักกะสัน พื้นที่ 512 ไร่ มูลค่าที่ดิน 55,816 ล้านบาท
2.ที่ดินย่านพหลโยธิน บริเวณ กม.11 พื้นที่ 359 ไร่ มูลค่าที่ดิน 18,370 ล้านบาท และ
3.ที่ดินย่านสถานีแม่น้ำ พื้นที่ 277 ไร่ มูลค่าที่ดิน 10,413 ล้านบาท

เฉพาะพื้นที่ 3 แปลงนี้มีมูลค่ารวม 84,599 ล้านบาท.

//--------------

[url=http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd05qQTROek13TWc9PQ==&subcatid= ]คมนาคมเมินให้คลังพัฒนาที่ดินมักกะสัน รฟท.หัวทิ่ม-เบรกล้างหนี้แสนล.[/url]
ข่าวสดออนไลน์
วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 10:48 น.

คมนาคมเบรกรฟท.ให้คลังมาพัฒนาที่ดินมักกะสัน และสถานีแม่น้ำแลกล้างหนี้กว่า 1 แสนล้าน ชี้เป็นไอเดียของอดีตผู้ว่าฯ รฟท.เท่านั้น แต่ให้พิจารณานำที่ดินของรฟท.หาประโยชน์เชิงพาณิชย์ให้มากกว่าที่เป็นอยู่



นาง สร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีแนวคิดของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) นำที่ดินบริเวณโรงงานมักกะสัน 497 ไร่ และที่ดินสถานีรถไฟแม่น้ำ บริเวณช่องนนทรี 277 ไร่ ให้กระทรวงการคลังเข้ามาพัฒนาเชิงพาณิชย์ เพื่อแลกกับการล้างหนี้สะสมของ รฟท. กว่า 1 แสนล้านว่า จากการศึกษาและตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่อง ดังกล่าว พบว่าเป็นเพียงแนวคิดของนายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าฯ รฟท. เท่านั้น



นาง สร้อยทิพย์กล่าวอีกว่า แนวคิดดังกล่าวไม่เคยเสนอเพื่อขออนุมัติเป็นมติจากคณะกรรมการ รฟท. ดังนั้นนโยบาย ในเรื่องนี้อาจต้องมีการทบทวน แต่ในหลักการนั้นจะดำเนินการโดยคำนึงถึงประโยชน์ของ รฟท.เป็นหลัก อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ให้บอร์ด รฟท. เร่งรัดจัดทำแผนพัฒนาเชิงพาณิชย์ สร้างรายได้จากทรัพย์สินและที่ดินของ รฟท.เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมและสิ่งสำคัญจะต้องเกิดความคุ้มค่ามากที่สุด



"โดย เฉพาะการบริหารจัดเก็บค่าเช่าพื้นที่ให้ได้เต็มเม็ด เต็มหน่วย การกำหนดอัตราค่าเช่าที่ดินจะต้องเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง ดังนั้นพื้นที่ใดมีการจัดเก็บค่าเช่าที่ต่ำเกินไปจะต้องพิจารณาปรับให้เหมาะ สม เชื่อว่าการดูแลจัดเก็บรายได้และอุดจุดรั่วไหลต่างๆ จะทำให้ รฟท.มีรายได้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่จัดเก็บได้เพียงปีละ 1,600 ล้านบาทเท่านั้น" ปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าว



นางสร้อยทิพย์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่ดินที่ตั้งสำนักงานของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พื้นที่ 24 ไร่ ซึ่งหมดสัญญาไปเมื่อ 31 มี.ค.2556 โดยปตท.เสนอจ่ายเงิน 800 ล้านบาท ค่าสัญญาเช่า 30 ปี แต่รฟท.ต้องการ 1,792 ล้านบาท จึงยังตกลงไม่ได้ จะขอเข้าไปดูในรายละเอียดเงื่อนไขต่างๆ ก่อน



แหล่งข่าวจาก รฟท.กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวนั้นรฟท. อยากได้ค่าเช่าเทียบเคียงกับที่ดินบริเวณห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เนื้อที่ 47.22 ไร่ ซึ่งต่อสัญญาเช่าให้กลุ่มเซ็นทรัล 20 ปี มูลค่า 21,298 ล้านบาท ดังนั้นที่ดินในส่วนของ ปตท.แม้จะไม่ได้ทำธุรกิจเชิงพาณิชย์ แต่มีการก่อสร้างอาคารและจัดเก็บค่าเช่าจึงต้องเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ด้วย



ด้าน นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานบอร์ด รฟท. กล่าวว่า ยังไม่ได้พิจารณาเรื่องการนำที่ดิน รฟท.ไปแลกหนี้ แต่หลังจากนี้จะให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับ รฟท.เพื่อชดเชยการขาดทุน



ผู้ สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า รฟท.มีที่ดินกระจายอยู่ทั่วประเทศมากถึง 234,976.96 ไร่ แบ่งเป็นที่ดินเพื่อการพาณิชย์ 36,302.18 ไร่ ที่ดินเชิงพาณิชย์แบ่งเป็นที่ดินที่มีศักยภาพต่ำ 21,536.80 ไร่ ปานกลาง 7,218.12 ไร่ และสูง 7,547.26 ไร่ ที่ดินแพงสุดคือย่านมักกะสัน 512 ไร่, ที่ดินย่านพหลโยธิน ก.ม.11 พื้นที่ 359 ไร่ และที่ดินย่านสถานีแม่น้ำ 277 ไร่ มูลค่ารวมกันประมาณ 8.4 หมื่นล้านบาท


Last edited by Wisarut on 24/10/2014 10:56 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/07/2014 10:39 am    Post subject: Reply with quote

'คสช.' ปลดแอก หนี้รถไฟแสนล้าน โละที่ดิน 'มักกะสัน-แม่น้ำ' ล้างขาดทุน
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Click on the image for full size

Click on the image for full size
สแกนโดยคุณหนุ่มเมืองใต้
http://pantip.com/topic/32360999
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 27/07/2014 10:38 am    Post subject: Reply with quote

EMC ขอเช่าที่ดิน ร.ฟ.ท.สร้างคอมมูนิตี้มอลล์แห่ง 2,เชื่อปีนี้พลิกเป็นกำไร

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 กรกฎาคม 2557 11:27:58 น.

นายศิริพงศ์ ว่องวุฒิพรชัย กรรมการผู้จัดการ สายงานบริหาร บมจ.อีเอ็มซี(EMC)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเช่าที่ดินจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)ในจังหวัดแห่งหนึ่ง เพื่อพัฒนาเป็นคอมมูนิติมอลล์ แห่งที่ 2 มูลค่าโครงการราว 800-900 ล้านบาท คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนช่วงปลายเดือน ก.ค.-ต้นเดือน ส.ค. จากนั้นในปี 58 จะพัฒนาเพิ่มอีก 1-2 แห่ง โดยเน้นในต่างจังหวัดเป็นหลัก

"ปัจจุบันทางบริษัทได้มองหาธุรกิจใหม่นอกจากธุรกิจเดิมที่ทำอยู่ ที่มีตอนนี้คือการเป็นผู้พัฒนาที่ดินทำคอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อขอเช่าที่ดันกับทางการรถไฟฯ โดยปีนี้เชื่อว่าจะได้เห็น 1 แห่ง"นายศิริพงศ์ กล่าว

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ EMC เปิดตัวคอมมูนิตี้มอลล์ 1 แห่ง ที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร
นายศิริพงศ์ กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่าในปีนี้จะสามารถกลับมามีผลประกอบการที่เป็นบวกได้ จากปีก่อนที่ขาดทุนสูงถึง 1,348.54 ล้านบาท หลังจากที่บริษัทฯหันมาทำงานที่ถนัดมากขึ้น คือ งานก่อสร้างโครงการแนวราบ ซึ่งช่วงนี้มีงานเข้ามาค่อนข้างมาก และสามารถเลือกรับงานในกลุ่มที่ทำกำไรได้ดี อาทิ งานสร้างโรงงาน ประกอบกับ ช่วงต้นปีที่ผ่านมางานประมูลต่างๆ ชะลอออกไป บริษัทจึงได้มีการปรับกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงให้ดียิ่งขึ้นด้วยการขยายธุรกิจไปยังภาคอสังหาริมทรัพย์

"ปีนี้เราเชื่อว่าผลประกอบการของเราจะกลับมา turnaround หลังจากในช่วงต้นปีที่ผ่านมางานประมูลต่างๆที่ชะลอออกไป เราก็ได้มีการปรับกระบวนการทำงานภายในให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการหันกลับมาทำงานที่เราถนัดมากกว่าคืองานที่เป็นแนวราบ ในขณะเดียวกันเราก็ได้เข้ามามองการบริหารความเสี่ยง การกระจายความเสี่ยงที่ดีมากขึ้น เช่นการที่เราเข้าไปทำอสังหาฯ ที่มีผลตอบแทนค่อนข้างดี เช่น การเข้าไปทำคอมมูนิตี้มอลล์ เราก็มีความสนใจที่ดินที่เป็นพื้นที่เช่า เพราะจะไม่มีภาระเรื่องของต้นทุนที่ดินมากนัก"นายศิริพงศ์ กล่าว

บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปีนี้ไว้ที่ 2.5 พันล้านบาท สูงขึ้นจากปี 56 ที่มีรายได้ 1,677.27 ล้านบาท โดยขณะนี้มีงานในมือ(Backlog) ประมาณ 2.5 พันล้านบาทที่จะสามารถรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในปีนี้ราว 70% และช่วงที่ผ่านมายังได้รับงานใหม่มาอีก 2 งาน คือ งานสร้างอาคารของโรงเรียนวชิราวุธมูลค่าราว 450 ล้านบาท และงานจากเทสโก้ โลตัส มูลค่าราว 105 ล้านบาท

นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการประมูลงานใหม่ 3 งานคือ คอนโดมิเนียม 2 แห่ง และคอมมูนิตี้มอลล์ 1 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 700 ล้านบาท โดยมีโอกาสที่จะได้รับงานเกิน 50% ปัจจุบันอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการประมูล ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทก็ยังเตรียมจะเข้าประมูลงานใหม่ๆ อีกมูลค่าไม่ต่ำกว่า 4-5 พันล้านบาท

"เราตั้งเป้ารายได้ว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท ซึ่งเรามีงานอยู่ในมือแล้วและจะสามารถรับในปีนี้ถึง 70% ปีนี้เป็นปีที่เราเริ่มกลับมารับงานอีกครั้งหลังจากปีก่อนที่เราชะลอการรับงานออกไปเพื่อที่จะเคลียร์โครงการเก่าๆให้จบก่อน ช่วงที่ผ่านมาเราก็ได้งานใหม่มาแล้ว 2 งาน และเราก็ยังประมูลงานใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง และงานใหม่ๆที่เข้ามาก็จะมารับรู้รายได้บางส่วนในปีนี้ ทำให้เรามั่นใจว่ารายได้ของเราจะเป็นไปตามเป้าหมาย ส่วนของมูลค่างานที่เหลือที่ที่รับรู้ในปีนี้ไม่ทันก็จะไปเป็น Backlog ให้กับปีหน้าเพื่อที่จะให้บริษัทฯมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง"นายศิริพงศ์ กล่าว

สำหรับบริษัท SANKEN-EMC ที่บริษัทได้ร่วมลงทุนกับบริษัท SANKEN SETSUBI KOGYO ปัจจุบันอยู่ระหว่างประมูลงานของบริษัทญี่ปุ่นในไทยจำนวน 2 งาน ซึ่งจะเป็นงานวางระบบประกอบอาคาร มูลค่าราว 500-600 ล้านบาท คาดว่าจะรู้ผลการประมูลทั้งหมดในช่วงปลายไตรมาส 3/57-ต้นไตรมาส 4/57

"จริงๆแล้วบริษัทร่วมทุนนี้เราเริ่มงานจริงๆก็ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้งานปรับโรงงานญี่ปุ่นเข้ามาเล็กๆน้อยๆ มูลค่าไม่มากเพียง 10-20 ล้านบาท แต่เป็นการปูพื้นฐาน เพราะลูกค้าของ SANKEN ที่ญี่ปุ่นก็เข้ามาตั้งโรงงานในประเทศไทยเยอะ อาทิ Panasonic เราจึงมองว่าจากความเข้มแข็งของ SANKEN ในญี่ปุ่นจะส่งผลตีต่อ SANKEN-EMC ในประเทศไทย"นายศิริพงศ์ กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 102, 103, 104 ... 198, 199, 200  Next
Page 103 of 200

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©