RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13273147
ทั้งหมด:13584443
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 172, 173, 174 ... 198, 199, 200  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/03/2021 9:57 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟฯปรับที่หน้าสถานีหาดใหญ่ เก็บค่าจอดรถปั้นรายได้ปีละ2ล้าน
ฐานเศรษฐกิจ 27 Mar 2021 09:05 น.

Click on the image for full size

รถไฟฯปรับที่หน้าสถานีหาดใหญ่ เก็บค่าจอดรถปั้นรายได้ปีละ2ล้าน
รฟท.ปรับที่ทำเลทองหน้าห้างฯโรบินสันหาดใหญ่ เป็นที่จอดรถได้ถึง 600 คัน ตามนโยบายเร่งสร้างรายได้จากที่ว่าง เก็บค่าบริการได้วันละ 5,000 บาท หรือปีละเฉียด 2 ล้านบาท

ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สั่งปรับพื้นที่ทำเลทองสถานีชุมทางหาดใหญ่ หน้าห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เก็บค่าที่จอดรถคันละ 10 บาทต่อวัน ตามนโยบายสร้างรายได้จากพื้นที่ว่างเปล่า รองรับได้ 500-600 คัน ทำรายได้ให้รฟท. เฉลี่ยวันละ 4,000-5,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่วัน 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยฝ่ายการเดินรถ รฟท.มอบหมายให้สถานีชุมทางหาดใหญ่ ดำเนินการจัดเก็บค่าจอดรถ บริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าโรบินสัน หาดใหญ่ ตามนโยบายของผู้ว่าการ รฟท. ในการจัดหาประโยชน์จากพื้นที่ว่างที่มีศักยภาพของรฟท. ทั่วประเทศ เดิมพื้นที่แปลงบริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าโรบินสัน หาดใหญ่ เป็นพื้นที่ของรฟท.ที่ให้ทางห้างฯเช่า สำหรับให้ลูกค้าของห้างฯไว้จอดรถ ล่าสุดทางห้างฯไม่ได้ทำสัญญาเช่าต่อ ขณะที่ทางสถานีชุมทางหาดใหญ่ ก็ยังไม่มีแผนเข้าไปดำเนินการอะไร ทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการห้างสรรพสินค้าโรบินสัน หาดใหญ่ ยังสามารถนำรถมาจอดในบริเวณดังกล่าวได้ “พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไม่ใช่ที่ของห้างสรรพสินค้าโรบินสัน หรือห้างยังเช่าจากการรถไฟฯอยู่อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ที่ผ่านมาทางการรถไฟฯ ยังไม่ได้เข้าไปดำเนินการอะไรเท่านั้นเอง”ที่รถไฟ
ที่รถไฟ

แต่หลังจากที่ผู้ว่าการ รฟท.เดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงที่สถานีชุมทางหาดใหญ่ ได้เห็นว่าฟื้นที่แปลงดังกล่าวมีศักยภาพที่จะพัฒนา เพื่อสร้างรายได้ให้กับรฟท. ได้ จึงมอบหมายให้ทางสถานีชุมทางหาดใหญ่ มาดำเนินการ ทางสถานีจึงได้ติดประกาศเพื่อแจ้งให้ทราบล่วงหน้าประมาณ 3 เดือน เพื่อให้ผู้ที่เคยมาใช้บริการได้รับทราบก่อนที่จะมีการจัดเก็บค่าที่จอดรถ สำหรับอัตราในการจัดเก็บนั้นแบ่งออกเป็น 2 ราคา คือ สำหรับผู้จอดบริเวณลานด้านหน้าห้างสรรพสินค้าโรบินสัน หาดใหญ่ จัดเก็บวันละ 10 บาท ซึ่งมีพื้นที่สามารถรองรับจำนวนรถได้ประมาณ 500-600 คัน หลังจากที่มีการดำเนินการจัดเก็บค่าที่จอดรถมาตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา สร้างรายได้ให้ รฟท.เฉลี่ย 4,000-5,000 บาทต่อวัน หรือเดือนละ 120,000-150,000 บาท สำหรับบริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าโรบินสัน หาดใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่พอดีสมควร เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นทำเลทอง อยู่หน้าห้างสรรพสินค้า ที่ ลูกค้าที่มาใช้บริการห้างฯ ส่วนใหญ่นิยมมาจอดมากกว่าไปจอดในอาคารจอดรถ

หน้า 17 ฉบับที่ 3,664 วันที่ 25 - 27 มีนาคม พ.ศ. 2564
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 29/03/2021 1:27 pm    Post subject: Reply with quote

เปิดหนังสือ“ขอให้ไต่สวน-ดำเนินคดี” “รัฐมนตรีคมนาคม”พัวพันที่ดินรถไฟ (1)
ออนไลน์เมื่อ 26 มีนาคม 2564 เวลา 17:30 น.
คอลัมน์ทางออกนอกตำรา
โดย... บากบั่น บุญเลิศ
ฐานเศรษฐกิจ
ฉบับ 3665 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 28-31 มีนาคม 2564

หลังจากผมนำเสนอบทความเรื่อง “ฮึดทวง”ที่เขากระโดง “แทนคนไทย”พ.ต.อ.ทวี “นักต่อสู้ตัวจริง” ไปเมื่อฉบับที่แล้ว มีคนแชร์ไปราว 1,500 คน และมีการขอให้ผมนำเอกสารฉบับที่ร้องต่อประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ที่ขอให้ไต่สวนและดำเนินคดีกับ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม มาเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมด เพื่อจะได้รู้เรื่องใน “คดีดินเขากระโดง” ที่เกี่ยวพันกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ผมจึงนำหนังสือร้องขอให้ป.ป.ช.ไต่สวนและดำเนินคดี ...มาเสนอให้ทราบกัน ดังนี้...

ด้วยสืบเนื่องจากประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ) ได้มีหนังสือที่ ปช.๐๐๑๘/๑๐๘๕ ถึงผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๔ เรื่องให้ดำเนินการกับผู้บุกรุกที่ดินของรัฐ (ตามหนังสือที่ส่งมาด้วย ๑)ของโฉนดที่ดินเลขที่ ๓๔๖๖ (นายชัย ชิดชอบเป็นผู้ขอออกโฉนด) และโฉนดเลขที่ ๘๕๖๔( นางกรุณา ชิดชอบ ) ถือกรรมสิทธิ์ ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ออกทับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้ไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วมีมติว่า “การออกโฉนดที่ดินเลขที่ ๓๔๖๖ และ ๘๕๖๔ เป็นการออกโฉนดในที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นที่สงวนหวงห้ามมิให้ออกโฉนดที่ดิน จึงเป็นการออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ให้แจ้งกรมที่ดินดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา ๖๑ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๙๙” จนถึงปัจจุบันก็ ไม่ปรากฏว่ามีการดำเนินการกับผู้บุกรุกที่ดินของการรถไฟแต่ประการใด.... โดย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๒ และเป็นผู้กำกับดูแล “การรถไฟแห่งประเทศไทย” ซึ่งทราบปัญหาการบุกรุก ครอบครองที่ดิน และออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบดังกล่าวมาก่อนที่จะรับตำแหน่งแล้ว แต่กลับมีพฤติกรรม เพิกเฉย ละเลยไม่ดำเนินการที่จะรักษา “ที่ดินรถไฟ” ซึ่งเป็นที่ดินสงวนหวงห้ามไว้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันของประชาชน และใช้เพื่อบริการสาธารณะ ซึ่งโฉนดที่ดินเลขที่ ๓๔๖๖ และ ๘๕๖๔ ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่สงวนหวงห้ามบริเวณเขากระโดงด้วย จงใจกระทำผิดกฎหมายฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต เป็นตัวการ และหรือผู้สนับสนุนให้ตนเอง ญาติพี่น้อง และพวกพ้องยึดถือครอบครอง ที่ดินของการรถไฟ ใช้อำนาจช่วยเหลือเพื่อไม่ให้ตนเอง เครือญาติ และพวกพ้อง ถูกดำเนินคดีและไม่ให้ถูกับงคับคดี ในที่ดินของการรถไฟ อย่างไม่เกรงกลัวและไม่เคารพต่อกฎหมาย นอกจากนี้ ไม่สั่งการให้ผู้ว่าการรถไฟดำเนินการบังคับคดีและเรียกค่าเสียหายกับผู้บุกรุกที่ดินของการรถไฟ ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๘๔๒-๘๗๖/๒๕๖๐ และ ๘๐๒๗ / ๒๕๖๑ ทำให้การรถไฟซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐได้รับความเสียหายอย่างยิ่ง เนื่องจากที่ดินดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย มีจำนวนเนื้อที่ ๕,๐๘๓ ไร่ ๘๐ ตารางวา อันเป็นที่หวงห้ามที่ดินรกร้างว่างเปล่าใช้เพื่อประโยชน์ของทางราชการเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน เข้าลักษณะเป็นที่ดินรถไฟมาตรา ๓ (๒) ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติจัดวางทางรถไฟและทางหลวง พ.ศ. ๒๔๖๔ และได้รับความคุมครองตามมาตรา ๖ (๑) (๒)


กล่าวคือ ห้ามมิให้ยกอายุความขึ้นต่อสู้สิทธิของแผ่นดินเหนือที่ดินรถไฟหรืออสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นของรถไฟ ห้ามไม่ให้เอกชนหรือบริษัทใดๆ ถือกรรมสิทธิ์เข้าครอบครองทำประโยชน์ด้วยวิธีใดๆ ตราบใดที่ยัง “ไม่มีประกาศกระแสพระบรมราชโองการเป็นพิเศษว่าทรัพย์นั้นๆ ขาดจากเป็นที่ดินรถไฟ และมีการเพิกถอน หรือ แก้ไขพระราชกฤษฎีกาสงวนที่ดินของการรถไฟฯ”ข้อเท็จจริงยัง ได้ปรากฏว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้แจ้งที่อยู่ต่อรัฐสภา เมื่อครั้นได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า ตนเองอยู่บ้านเลขที่ ๓๐/๒ หมู่ที่ ๑๕ ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งบ้านเลขที่ดังกล่าวนั้นได้ตั้งอยู่ในโฉนดที่ดินเลขที่ ๘๕๖๔ ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ในที่ดินของการรถไฟ นอกจากนี้ยังพบว่ามีบรรดาเครือญาติ และบุคคลใกล้ชิดของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้บุกรุก ครอบครอง ใช้ประโยชน์ที่ดินของการรถไฟโดยมิชอบด้วยกฎหมายจำนวนมาก พฤติกรรมดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชนและสื่อมวลชนอย่างกว้างขวางจากกรณีดังกล่าว พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ ๑๖- ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ กระทำการจงใจบริหารราชการแผ่นดินโดยเห็นแก่ประโยชน์ของตนเอง เครือญาติและพวกพ้องไม่คำนึงถึงผลเสียแก่ประเทศชาติและประชาชน ไม่รักษาผลประโยชน์ของรัฐ มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทุจริตต่อหน้าที่และปล่อยปละละเลย สมคบกันเพื่อปิดบังการทุจริต ไม่ยึดถือและปฏิบัติตามหลักการบริหารบ้านเมืองที่ดี ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะ “ต้องถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน และ ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อตนเองและผู้อื่น” และกระทำผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีมีการบุกรุก ครอบครอง ทำประโยชน์ ตลอดจนออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ของการรถไฟโดยมิชอบ อีกทั้งจงใจละเว้นไม่บังคับคดีให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยข้อเท็จจริงดังกล่าวมีรายละเอียดตามข้อกล่าวหาดังต่อไปนี้๑. เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๔๖๒ ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตร์ให้สร้างทางรถไฟหลวงต่อจากนครราชสีมาถึงอุบลราชธานี ให้กรมทางหลวงตรวจและวางแนวทางรถไฟตั้งแต่นครราชสีมา ไปยังบุรีรัมย์ จนถึงอุบลราชธานี ให้เสร็จภายใน ๒ ปี โดยได้แต่งตั้งข้าหลวงพิเศษจัดการทที่ดิน ดำเนินการปักหลักเขตทที่ดินที่เป็นที่รกร้างว่างเปล่าห้ามผู้หนึงผู้ใดจับจองเป็นเจ้าของ ส่วนที่ดินที่มีการครอบครองก่อน ๘ พฤศจิกายน ๒๔๖๒ ห้ามมิให้เจ้าของนำที่ดินที่อยู่ในเขตที่ดินรถไฟตามที่ปรากฏในแผนที่(ตามที่ส่งมาด้วย) ไปยกหรือซื้อขาย และเปลี่ยนกับผู้หนึ่งผู้ใดห้ามมิให้สร้างบ้านเรือน ปลูกต้นไม้ หรือทำไร่ ก่อนได้รับอนุญาตจากข้าหลวงพิเศษ และกรมรถไฟหลวงเห็นว่า การก่อสร้างทางรถไฟมีความจำเป็นต้องใช้หินโรยทางจึงวางแนวและดำเนินการก่อสร้างทางรถไฟเข้าไปลำเลียงหินที่บริเวณ “เขากระโดง”และบ้านตะโกอันเป็นแหล่งระเบิดหินและย่อยหิน มีระยะทาง ๘ กิโลเมตรในช่วง ๔ กิโลเมตรแรก มีผู้เป็นเจ้าของที่ดินจำนวน ๑๘ รายมีความกว้างจากกึงกลางทางรถไฟข้างละ ๑๕ – ๒๐ เมตรส่วนอีก ๔ กิโลเมตรต่อไปจนถึงบริเวณที่มีการระเบิดและย่อยหิน ขณะนนไม่มีเจ้าของหรือผู้ครอบครอง โดยข้าหลวงพิเศษจัดการที่ดินได้จัดทำแผนที่ไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งถือได้ว่าที่ดินของการรถไฟที่เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินไม่มีเอกชนรายใดอ้างสิทธิ์ครอบครองได้เว้นแต่อาศัยอำนาจแห่งบทกฎหมายเฉพาะหรือพระราชกฤษฎีกาหรือประกาศกระแสพระบรมราชโองการ ที่ดินดังกล่าวจึงเป็นที่ดินรถไฟตามพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ. ๒๔๖๔ มาตรา ๓ (๒) บุคคลใดจะเข้าครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทมานานเท่าใดก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท และตามมาตรา ๖(๑),(๒) แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวห้ามไม่ให้เอกชนเข้าหวงห้ามหรือถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินรถไฟห้ามมิให้ยกอายุความขึ้น ต่อสู้สิทธิของแผ่นดินเหนือที่ดินรถไฟ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๓๐๔ต่อมาเมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๑๓ ข้อเท็จจริงปรากฏว่าเกิดข้อพิพาทระหว่างนายชัย ชิดชอบ และราษฎรบุกรุกที่ดินของการรถไฟในพื้นที่ “เขากระโดง” ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ กับการรถไฟแห่งประเทศไทย ภายหลังการประชุมเจรจากันนายชัย ชิดชอบ รับว่าที่ดินที่ตนครอบครองเป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟ และทำหนังสือขออาศัยในที่ดินของการรถไฟ และการรถไฟตกลงยินยอมให้อาศัย ปรากฏตามบันทึกการประชุมร่วมที่ส่งมาด้วยลำดับที่ ๒
ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๑๕ นายชัย ชิดชอบ กลับนำที่ดินไปทำการออกโฉนดที่ดินเลขที่ ๓๔๖๖ เนื้อที่ ๗ ไร่ ๑ งาน ๕๕ ตารางวา ในพื้นที่การรถไฟซึ่งตั้งอยู่ “เขากระโดง” ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ หลังจากออกโฉนดแล้วได้นำที่ดินขายให้กับ นางละออง ชิดชอบ เมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๓๕ และต่อมานางละออง ชิดชอบ ได้นำที่ดินแปลงดังกล่าวขายต่อให้กับบริษัท ศิลาชัย บุรีรัมย์ฯนอกจากนี้เมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๑๘ ได้ปรากฏว่านายประพันธ์ สมานประธาน ได้นำที่ดินบริเวณพื้นที่ “เขากระโดง” ไปออกโฉนดเลขที่ ๘๕๖๔ เนื้อที่ ๓๗ ไร่ ๑ งาน ๕๖ ตารางวา และนำที่ดินขายต่อเป็นทอดๆ จนกระทั่งเมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๔๐ ที่ดินแปลงดังกล่าวมีการโอนขายให้กับนางกรุณา ชิดชอบ และทำนิติกรรมการจดจำนองกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยสำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์มีหนังสือถึงธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน) เลขที่ ๑๓๑๒๙/๘๕๖๗ ลงวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๔๐ แจ้งและยืนยันว่าที่ดินที่จดจำนองอยู่ในเขตทางรถไฟ จนกระทั่งเมื่อปี ๒๕๓๙ เกิดมีกรณีพิพาทบุกรุกในที่ดินบริเวณพื้นที่ “เขากระโดง”ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ระหว่างราษฎรรวมถึงนายชัย ชิดชอบ และ นางกรุณา ชิดชอบ กับการรถไฟ ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๔๐ จังหวัดบุรีรัมย์ได้ส่งเรื่องข้อพิพาทดังกล่าว ให้คณะกรรมกฤษฎีกาวินิจฉัย จนในที่สุด คณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นว่าที่ดินพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟฯ ตามหนังสือ นร.๐๖๐๑/๒๑๑ ลงวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๔๑นอกจากนี้ เมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๔ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) มีมติว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ ๓๔๖๖,๘๕๖๔ ทั้ง ๒ แปลง ซึ่ง นายชัย ชิดชอบ และ นางกรุณา ชิดชอบ ครอบครองอ้างกรรมสิทธิ์บริเวณพื้นที่ “เขากระโดง”นั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟ อันเป็นที่หวงห้ามเป็นการออกโฉนดโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และได้ดำเนินการส่งเรื่องให้กับกรมที่ดินทำการเพิกถอนโฉนดที่ดินทั้ง ๒ แปลง ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา ๖๑ ประกอบพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒นอกจากนี้ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ยังได้มีหนังสือที่ ปช.๐๐๘๑/๑๐๘๕ ลงวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๔ ถึงผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เรื่องให้ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกที่ดินทั้ง ๒ แปลงที่ขอออกโฉนดที่ดินของการรถไฟที่สงวนหวงห้ามไว้ปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ลำดับที่ ๔จนในที่สุดเมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ฎีกาที่ ๘๔๒-๘๗๖/๒๕๖๐ คดีระหว่างราษฎรจำนวน ๓๕ รายเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง การรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นจำเลยที่ ๑ และ กรมที่ดินเป็นจำเลยที่ ๒ เพื่อขอออกโฉนดที่ดิน ซึ่งศาลฎีกาพิพากษาว่าที่ดินพิพาทในพื้นที่ “เขากระโดง”ตามแผนที่ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินของการรถไฟ พิพากษาให้ขับไล่ รื้อถอน และให้ราษฎรชดใช้ค่าเสียหายให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย ปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ลำดับที่ ๕นอกจากนี้ยังปรากฏข้อเท็จจริงว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ศาลฎีกามีคำพิพากษา ที่ ๘๐๒๗/ ๒๕๖๑ คดีซึ่ง นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องการรถไฟเป็นจำเลย เพื่อรังวัดขอออกโฉนดที่ดินที่ซื้อมาจากนายชัย ชิดชอบ ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ น.ส.๓ ข เลขที่ ๒๐๐ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เนื้อที่ ๒๔ ไร่ ๔ ตารางวา ซึ่งการรถไฟ ทำหนังสือคัดค้านและต่อสู้คดีอ้างว่าที่ดินที่ขอออกโฉนดเป็นที่ดินของการรถไฟทั้งแปลง ซึ่งศาลฎีกามีคำพิพากษายกฟ้องและวินิจฉัยทำนองเดียวกันกับคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๘๔๒-๘๗๖/๒๕๖๐ ปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วยลำดับที่ ๖เห็นรายละเอียดแล้วเป็นอย่างไร ยังไม่จบนะครับ ฉบับหน้าผมจะลงอีกตอนครับ....

Wisarut wrote:
“คนรถไฟ” ทวงคืนสมบัติของแผ่นดิน จี้มหาดไทย เพิกถอนโฉนด ‘เขากระโดง’
หน้า Politics
ออนไลน์เมื่อ 25 มีนาคม 2564 เวลา 18:55 น.
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ฉบับ 3,665 หน้า 12
วันที่ 28 - 31 มีนาคม 2564
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 30/03/2021 5:31 pm    Post subject: Reply with quote

มาแล้ว! เปิดหน้าดินที่รถไฟฝั่งศิริราช | ลึกแต่ไม่ลับ THAN TALK | 30 มี.ค.64

หน้าแรก / THAN TALK
30 มีนาคม 2564 เวลา 14:22 น.


มาแล้ว! เปิดหน้าดินที่รถไฟฝั่งศิริราช ติดตามได้ใน ลึกแต่ไม่ลับ รายการ THAN TALK ประจำวันที่ 30 มี.ค.64
https://www.youtube.com/watch?v=Xor6ss2e3ro


Last edited by Wisarut on 30/03/2021 6:59 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 30/03/2021 6:21 pm    Post subject: Reply with quote

'ศักดิ์สยาม' สั่งรฟท.ยึดกฎหมายปัญหาที่ดินเขากระโดง
29 มีนาคม 2564
(ชมคลิปข่าวด้านล่าง) ‘ศักดิ์สยาม’ ชี้ข้อพิพาทที่ดินเขากระโดงเป็นหน้าที่รฟท.แก้ไขปัญหา สั่งยึดข้อกฎหมายและหลักธรรมาภิบาล ด้าน ผู้ว่าการรฟท.ตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหา ขีดเส้น 2 เดือนได้ข้อสรุป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 31/03/2021 6:33 pm    Post subject: Reply with quote

เปิดหนังสือ “ขอให้ไต่สวน-ดำเนินคดี” “รัฐมนตรีคมนาคม”พัวพันที่ดินรถไฟ (จบ)
หน้า คอลัมน์ทางออกนอกตำรา
โดย... บากบั่น บุญเลิศ
ออนไลน์เมื่อ พุธที่ 31 มีนาคม 2564 เวลา 14:15 น.
ตีพิมพ์ใน ฐานเศรษฐกิจ
ฉบับ 3666 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 1-3 เมษายน 2564

มาติดตามมหากาพย์การบุกรุกที่ดินการรถไฟฯ ที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ที่ร้องต่อป.ป.ช.ขอให้ไต่สวนและดำเนินคดีกับ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ซึ่งฉบับที่แล้วผมนำหนังสือที่อ้างถึงศาลฎีกามีคำพิพากษา ที่ 8027/2561 คดีซึ่ง นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องการรถไฟเป็นจำเลย เพื่อรังวัดขอออกโฉนดที่ดินที่ซื้อมาจากนายชัย ชิดชอบ ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ น.ส.3 ข เลขที่ 200 ซึ่งการรถไฟ ทำหนังสือคัดค้านและต่อสู้คดีอ้างว่าที่ดินที่ขอออกโฉนดเป็นที่ดินของการรถไฟทั้งแปลง ซึ่งศาลฎีกามีคำพิพากษายกฟ้องและวินิจฉัยทำนองเดียวกันกับคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842-876/2560
ADVERTISEMENT

ในหนังสือที่พ.ต.อ.ทวี ร้องต่อป.ป.ช.ระบุว่า กรณีของ นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ที่ยื่นฟ้องการรถไฟนั้น ข้อเท็จจริงปรากฏว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินเมื่อปี 2560-2561 ต่อ ป.ป.ช.ว่า ได้เป็นที่ปรึกษาให้กับ บริษัท ศิลาชัย บุรีรัมย์ 1991 และ หจก.บุรีเจริญคอนสตัคชั่น ซึ่งมี นายศุภวัฒน์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ได้รับค่าตอบแทนปีละ 4 แสนบาท นอกจากนี้ นายศุภวัฒน์ ยังได้บริจาคเงินให้กับพรรคภูมิใจไทย 2.77 ล้านบาท เมื่อเดือน ม.ค.2562 แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดระหว่าง นายศุภวัฒน์ ผู้ฟ้องคดีการรถไฟ กับ นายศักดิ์สยาม รมว.คมนาคม ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลการรถไฟ และเป็นที่น่าสังเกตว่า ในส่วนข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างภาคภาครัฐ พบว่า หจก.บุรีเจริญคอนสตัคชั่น เป็นคู่สัญญากับภาครัฐ อันเป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม เช่น กรมทางหลวง และ กรมทางหลวงชนบท ได้รับงานเป็นจำนวนมาก และเป็นช่วงเวลาที่ นายศักดิ์สยาม ดำรงตำแหน่ง รมว.คมนาคม แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดสนิทสนมอย่างยิ่งระหว่างนายศักดิ์สยาม กับ นายศุภวัฒน์ ดังนั้น เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว การที่ นายศักดิ์สยาม จงใจละเว้นไม่สั่งการให้การรถไฟบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลฎีกาสังการให้การรถไฟขับไล่เรียกค่าเสียหายนายศุภวัฒน์ และราษฎร 35 ราย จึงเป็นการส่อเจตนาให้เห็นประจักษ์ชัดว่าต้องการช่วยเหลือนายศุภวัฒน์ ซึ่งเป็นพรรคพวกของตนเอง อีกทั้งเชื่อว่าการละเว้นการสังการดำเนินคดีกับผู้บุกรุกหรือการบังคับคดีจะทำให้ตนเองและเครือญาติที่ยู่ในที่ดินของการรถไฟจะได้รับผลกระทบไปด้วย

นอกจากนี้ยังปรากฏว่า การรถไฟเป็นเคยเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องเพิกถอนโฉนดที่ดิน, หนังสือรับรองการทำประโยชน์ น.ส.3 ขับไล่และเรียกค่าเสียหายราษฎร 4 รายเป็นจำเลย ซึ่งครอบครองอยู่ในที่ดินบริเวณ “เขากระโดง” ดังกล่าวข้างต้น ศาลจังหวัดบุรีรัมย์พิพากษาให้เพิกถอนโฉนด และให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และให้ชดใช้ค่าเสียหายให้การรถไฟฯ จำเลยทั้ง 4 ราย ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น ซึ่งต่อมาวันที่ 22 เมษายน 2563 ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน ต่อมามีการอุทธรณ์คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 นายศักดิ์สยาม เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 กำกับดูแลการรถไฟฯ พบว่า ไม่ได้มีการปฏิบัติสั่งการให้ผู้ว่าการรถไฟฯ ดำเนินการฟ้อง รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง บังคับคดีขับไล่ผู้บุกรุกครอบครองที่ดิน อันเป็นที่สงวนหวงห้ามดังที่เคยฟ้องร้องก่อนที่นายศักดิ์สยาม เข้ารับตำแหน่งแต่อย่างใด จากคำพิพากษาของศาลฎีกา และมติคณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงถือเป็นข้อยุติว่าที่ดินบริเวณ “เขากระโดง” ตามแผนที่ของการรถไฟทั้งแปลงเนื้อที่ 5,083 ไร่ 80 ตารางวา ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ดังกล่าวข้างต้นเป็นของการรถไฟฯ ดังนั้น เอกสารสิทธิ์ใดที่ออกทับซ้อนพื้นที่ในที่ดินรถไฟจึงออกไม่ชอบด้วยกฎหมาย






เมื่อมีคำพิพากษาของศาลฎีกาถึงที่สุด และมติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้เคยชี้มูลจนเสร็จสิ้นยุติเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า ที่ดินเป็นของการรถไฟ การที่นายศักดิ์สยาม รมว.คมนาคม, สนามกีฬาช้างอารีน่า, บริษัท ศิลาชัย บุรีรัมย์ฯ นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ และพวกพ้อง ได้บุกรุกครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินในพื้นที่ของการรถไฟโดยผิดกฎหมาย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เข้ารับตำแหน่ง รมว.คมนาคม เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 จนถึงขณะวันที่มีการตอบชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ย่อมเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งว่า นายศักดิ์สยาม ในฐานะ รมว.คมนาคม ได้รู้ข้อเท็จจริงการกระทำความผิดของตนเองและเครือญาติโดยสมบูรณ์แล้ว ดังนั้น จึงถือว่า นายศักดิ์สยาม จงใจบริหารราชการแผ่นดิน โดยเห็นแก่ประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง ไม่คำนึงถึงผลเสียแก่ประเทศชาติและประชาชน ไม่รักษาผลประโยชน์ของรัฐ มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทุจริตต่อหน้าที่และปล่อยปละละเลย สมคบกันเพื่อปิดบังการทุจริต ไม่ยึดถือและปฏิบัติตามหลักการบริหารบ้านเมืองที่ดี ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะ “ต้องถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน และ ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อตนเองและผู้อื่น” และกระทำผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้าผู้มีรายชื่อท้ายคำร้องฉบับนี้ จึงขอกราบเรียนให้ประธานป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนและฟ้องร้องคดีต่อศาลฎีกากับ นายศักดิ์สยาม รมว.คมนาคม ให้ถึงที่สุด ในข้อหากระทำผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบและโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นตัวการ และหรือผู้สนับสนุนให้ตนเอง ญาติพี่น้องและพวกพ้อง ที่ได้ยึดถือครอบครองเบียดบังที่ดินของการรถไฟอันเป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมายและโดยทุจริต ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ปกป้องละเว้นและเลือกปฏิบัติ มีผลประโยชน์ทับซ้อน โดยไม่ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับเครือญาติ พวกพ้องและตนเอง และกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ซึ่งให้ใช้บังคับแก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และคณะรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 219 วรรคสอง ประกอบข้อ 7 ข้อ 8 และข้อ 11 อันเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม รมว.คมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 160 (5) และมาตรา 170 (4)


อนึ่ง ด้วยพฤติการณ์เหล่านี้เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาเมื่อ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 842-876 /2560 วินิจฉัยว่าที่ดินพิพาทเป็นที่ดินของการรถไฟ ให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์โฉนดที่ดินหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3) และสิทธิครอบครอง(ส.ค.1)เพราะการออกโฉนดหรือเอกสารสิทธิ์ใดๆไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นการที่ศาลวินิจฉัยตามแผนที่พิพาทของการรถไฟซึ่งมีเนื้อที่ 5,038 ไร่ 80 ตารางวา เป็นการวินิจฉัยครอบคลุมที่ดินทั้งแปลง (มิใช่เฉพาะราย) และคดีเป็นที่ยุติสิ้นสุดแล้วและคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติแล้วด้วย เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 61 ที่บัญญัติรองรับว่า “เมื่อความปรากฏว่าได้ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์.....ให้แก่ผู้ใดคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายซึ่งดำรงตำแหน่งรองอธิบดี หรือผู้ตรวจราชการกรมที่ดินมีอำนาจหน้าที่สั่งเพิกถอนหรือแก้ไขได้...” มาตรา 62 บัญญัติว่า “ บรรดาคดีที่เกิดขึ้นเกี่ยวด้วยเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ได้ออกโฉนดที่ดินแล้วเมื่อศาลพิจารณาพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้ว ให้ศาลแจ้งผลของคำพิพากษาอันถึงที่สุดหรือคำสังนั้น ต่อเจ้าพนักงานที่ดินแห่งท้องที่ซึ่งที่ดินนั้นตั้งอยู่ด้วย”





พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ซึ่งเป็น รมว.มหาดไทย กำกับดูแลกรมที่ดินมาตั้งแต่ปี 2557 รวมดำรงตำแหน่งกว่า 6 ปี เศษ ย่อมเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งว่า พล.อ.อนุพงษ์ น่าจะรู้ปัญหาและทราบคำพิพากษาของศาลฎีกาดังกล่าวแล้ว เนื่องจากในคดีที่ศาลฎีกาคำพิพากษากรมที่ดินนั้นตกเป็นจำเลยด้วย และศาลได้แจ้งผลคำพิพากษา ตามประมวลกฎหมายที่ดินดังกล่าวข้างต้นแล้ว แต่ พล.อ.อนุพงษ์ กลับละเลย เพิกเฉยละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่ดำเนินการสังการให้กรมที่ดินดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินที่ศาลมีคำพิพากษา ตลอดรวมทั้งโฉนดเลขที่ 3466 และ 8564 ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ศิลาชัย บุรีรัมย์ฯ, นางกรุณา ชิดชอบ และบุคคลที่บุกรุกที่ดินองการรถไฟซึ่งเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินในพื้นที่ทั้งหมด การละเว้นปฏิบัติหน้าที่และการไม่บังคับใช้กฎหมายเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 53 บัญญัติว่า “รัฐต้องดูแลให้มีการปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด” และเมื่อกำหนดให้เป็นหน้าที่ของรัฐแล้ว หากมีการปล่อยปละละเลย ประชาชนอาจฟ้องร้องหน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ ตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 51 ด้วยข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น พล.อ.อนุพงษ์ รมว.มหาดไทย ต้องดำเนินการให้กรมที่ดินเพิกถอนคำสังต่างๆ ของกรมที่ดินที่ออกไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเพิกถอนโฉนดที่ดินที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842-876/2560 ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 แต่กลับปรากฏว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2561 พล.อ.อนุพงษ์ รมว.มหาดไทย ซึ่งกำกับดูแลกรมที่ดิน กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังสนามฟุตบอล ช้างอารีน่า หรือ สนามฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ที่เป็นของเครือญาติของนายศักดิ์สยาม ครอบครองใช้ประโยชน์บุกรุกที่ดินของการรถไฟแห่งนี้ด้วย ย่อมแสดงให้เห็นถึงการละเว้นการปฏิบัติตามหน้าที่ ไม่รับผิดชอบไม่ปกป้องผลประโยชน์ของรัฐ แต่กลับแสดงพฤติกรรมเสมือนเป็นผู้สนับสนุน ช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ เพื่อประโยชน์ทางการเมือง และไม่ใช้อำนาจทำหน้าที่ของตนทำการเพิกถอนโฉนดที่ 3466 และ 8564 ซึ่งออกทับที่การรถไฟ ทั้งที่มีความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาฯ ปี 2541ผลการสอบสวนของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯวุฒิสภาเมื่อปี 2548 และผลการไต่สวนของ ป.ป.ช.ปี 2554 ตลอดจนมีคำพิพากษาศาลฎีกาปี 2560-2561 การไม่ยอมเพิกถอนเป็นการแสดงให้เห็นว่า กรมที่ดินตกอยู่ใต้อิทธิพลการเมือง อันเป็นแหล่งทุจริตคอร์รัปชันมาโดยตลอด ทำให้รัฐต้องสูญเสียที่ดินที่เป็นสาธารณะประโยชน์ของแผ่นดินจำนวนมหาศาล อันเป็นปัญหาสำคัญของประเทศชาติ จึงแจ้งมาเพื่อเป็นเบาะแสข้อมูลให้กับคณะกรรมการป.ป.ช.เพื่อดำเนินการต่อไป
จึงกราบเรียนมาเพือโปรดดำเนินการ ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 234 (1) ต่อไปด้วยต้องรอดูว่า ป.ป.ช.จะไต่สวนและดำเนินการอย่างไร ขอบอกว่าที่ดินของรัฐนั้น เป็นเรื่องของคนไทยทุกคนที่ต้องร่วมกันปกป้อง!
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 02/04/2021 11:59 am    Post subject: Reply with quote

พลิกโฉม “สนามกอล์ฟหัวหิน” ดึงทุนยักษ์ลุยมิกซ์ยูส 500 ไร่ 6 พันล้าน
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 2 เมษายน 2564 - 09:40 น.

เป็นที่ชัดเจนแล้ว “ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย” จะนำที่ดิน “สนามกอล์ฟรถไฟหัวหิน” กว่า 500 ไร่ ติดสถานีรถไฟ ที่ “บจ.บุญรอดบริวเวอรี่” ธุรกิจใต้ปีกตระกูลภิรมย์ภักดีหมดสัญญาเช่าเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2558 เปิดประมูลหาเอกชนรายใหม่มาลงทุนพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส

จ้างนิด้าเขย่าผลศึกษาใหม่
โดยว่าจ้าง “นิด้า-สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์” ทบทวนรูปแบบการพัฒนาใหม่ จากผลศึกษาเดิมที่ “นิด้า” ทำไว้เมื่อ 5 ปีแล้ว เพื่อประเมินมูลค่าโครงการเจรจากับผู้เช่าเดิม

ในครั้งนั้นประเมินจะใช้เงินลงทุน 1,101 ล้านบาท ประกอบด้วย ปรับปรุงสนามกอล์ฟ มูลค่า 185 ล้านบาท สร้างคลับเฮาส์ใหม่ มูลค่า 45 ล้านบาท ปรับโรงแรมกอล์ฟอินน์เป็นอาคาร 8 ชั้น 2 อาคาร พร้อมสระว่ายน้ำ มูลค่า 658 ล้านบาท สร้างพูลวิลล่าในพื้นที่นอกสนามกอล์ฟ มูลค่า 213 ล้านบาท ระยะเวลาเช่า 26 ปี แยกเป็นก่อสร้าง 1 ปี และเช่าจัดหาประโยชน์ 25 ปี

สำหรับครั้งล่าสุดนี้ จะเปิดให้มีการลงทุนหลากหลายกิจกรรมมากขึ้น เพื่อให้สอดรับศักยภาพทำเล มีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง และเทรนด์ธุรกิจ หลังเกิดสถานการณ์โควิด-19 โดยจัดรับฟังความคิดเห็นของเอกชนไปแล้ววันที่ 24 มี.ค. 2564 ที่ผ่านมา

ปั้นหัวหินฮับภาคใต้
ผศ.ดร.ประดิษฐ์ วิธิศุภกร ผู้จัดการโครงการ กล่าวว่า ผลการศึกษาจะแล้วเสร็จในเดือน เม.ย.นี้ ทั้งโครงการคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 6,000 ล้านบาท มีผลตอบแทน 12% โดยจะเสนอให้ ร.ฟ.ท.เปิดประมูลเป็นรายแปลง ระยะเวลา 30 ปี เพื่อให้ได้เอกชนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในแต่ละธุรกิจมาพัฒนา ส่วนการเปิดประมูลหาเอกชนมาลงทุนขึ้นอยู่กับ ร.ฟ.ท. แต่คาดว่าคงจะเร็วเพราะไม่ต้องเข้า พ.ร.บ.ร่วมทุนฯปี 2562 เป็นการดำเนินการตามระเบียบของการรถไฟแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 129 ว่าด้วยการจัดหาประโยชน์ในทรัพย์สินของการรถไฟแห่งประเทศไทย

“สนามกอล์ฟหัวหิน เป็นสนามกอล์ฟแห่งแรกของประเทศไทย ที่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ทุกคนรู้สึกว่านี่คือมรดกสำคัญ เมื่อ 5 ปีที่แล้วคีย์การศึกษาคือการอนุรักษ์ความเป็นสนามกอล์ฟแห่งแรกไว้ แต่อินฟราสตรักเจอร์ ยุทธศาสตร์ของประเทศ มีกำหนดชายทะเลทางเพชรบุรี ภาคใต้เป็นริเวียร่าของเอเชีย เรามองว่ากรุงเทพฯมีพื้นที่เป็นเพชรเม็ดงามอยู่ที่สถานีกลางบางซื่อ ภาคใต้จะมีเพชรเม็ดงามอยู่ที่สถานีหัวหิน การพัฒนาต้องผสมผสานระหว่างสนามกอล์ฟเก่าแก่และศูนย์กลางเศรษฐกิจ ท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้นหลังโควิด”

แบ่งประมูลพัฒนา 9 แปลง
“ฐากร ปาลิเอกวุฒิ” สถาปนิกผู้ออกแบบโครงการ กล่าวว่า โครงการเข้า-ออกได้ 2 ทาง คือ ด้านถนนหินเหล็กไฟและถนนหัวหิน 88 มีเนื้อที่ทั้งหมด 503 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่สนามกอล์ฟ 500 ไร่ และโรงแรมกอล์ฟอินน์ 3 ไร่ จำนวน 16 ห้อง อยู่ด้านหลังสถานีรถไฟหัวหิน จากการประเมินมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ 2,198 ล้านบาท



“ปัจจุบันที่ดินสนามกอล์ฟจาก 502 ไร่ เหลือพัฒนา 483 ไร่เศษ มีนำที่ดิน 19 ไร่ไปสร้างรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูงในอนาคต”

ด้านการพัฒนาจะแบ่งเป็น 9 แปลง รวมพื้นที่ก่อสร้าง 672,667 ตร.ม. ไล่จากพื้นที่ติดถนนหินเหล็กไฟ จะเป็น
แปลง A พื้นที่เชิงพาณิชย์ (TOD) เนื้อที่ 8 ไร่เศษ พื้นที่ 15,000 ตร.ม. พัฒนาเป็นทัวริสทาวน์และออฟฟิศ ลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท,

แปลง B ไมซ์ (MICE) เนื้อที่ 16 ไร่เศษ พื้นที่ 15,000 ตร.ม. เช่น ศูนย์ประชุม ศูนย์แสดงสินค้านิทรรศการ ลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท

แปลง C ศูนย์สุขภาพ (health community mall) เนื้อที่ 11 ไร่ พื้นที่ 15,000 ตร.ม. ลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท,

แปลง D โรงแรมระดับ 5 ดาว เนื้อที่ 16 ไร่ พื้นที่ 10,000 ตร.ม. จำนวน 200 ห้อง รองรับคนมาใช้บริการสนามกอล์ฟและนักท่องเที่ยว และมีสกายวอล์กเชื่อมจากสถานีรถไฟ ลงทุนประมาณ 1,200 ล้านบาท

แปลง E พื้นที่สีเขียว (green area) เนื้อที่ 15 ไร่ พื้นที่ 34,800 ตร.ม. ลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท,

แปลง F โรงเรียนนานาชาติ เนื้อที่ 17 ไร่ พื้นที่ 12,000 ตร.ม. ลงทุนประมาณ 350 ล้านบาท,



แปลง G ศูนย์การแพทย์ (health center) เนื้อที่ 34 ไร่ พื้นที่ 23,667 ตร.ม. เช่น ศูนย์สุขภาพครบวงจร มีพูลวิลล่า 20 หลัง กับอพาร์ตเมนต์ 200 ห้อง สำหรับผู้สูงวัยและผู้มาพักฟื้น ลงทุนประมาณ 500-600 ล้านบาท, แปลง H สนามกอล์ฟ เนื้อที่ 363 ไร่ ขนาด 18 หลุม เงินลงทุนประมาณ 1,200 ล้านบาท และ แปลง I โรงแรมกอล์ฟอินน์ เนื้อที่ 3 ไร่เศษ อยู่ฝั่งตรงข้ามสนามกอล์ฟติดสถานีรถไฟจะปรับปรุงเป็นโรงแรม 8 ชั้น ระดับ 3-4 ดาว 266 ยูนิต ลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท

เบียร์สิงห์สนสนามกอล์ฟ-โรงแรม
“นิวัฒน์ ตั้งก้องเกียรติ” ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า มีนักลงทุนสนใจหลายราย อย่างเช่น บริษัท บุญรอดฯผู้เช่ารายเดิม สนใจสนามกอล์ฟกับโรงแรม กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพสนใจศูนย์สุขภาพ ส่วนของโรงเรียนนานาชาติมีกลุ่มโรงเรียนปัญญาดี ด้านเชิงพาณิชย์มีกลุ่มมาบุญครอง, บมจ.สยามฟิวเจอร์ดีเวลลอปเมนท์ เป็นต้น

ถ้าทำได้อย่างที่คิด คงจะสร้างรายได้ให้กับ ร.ฟ.ท.ได้ไม่น้อยกว่า 1,600 ล้านบาท

“บุญรอดฯ” ชิงเหลี่ยม ที่ดินสนามกอล์ฟรถไฟหัวหิน
ออนไลน์เมื่อ วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2564 เวลา 14:25 น.
ตีพิมพ์ใน หน้า 19-20
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,666 วันที่ 1 - 3 เมษายน พ.ศ. 2564

ที่ดินสนามกอล์ฟรถไฟ 503 ไร่ ติดสถานีรถไฟ หัวหิน เนื้อหอมทุนยักษ์รุมตอม พลิกโฉมรูปแบบมิกซ์ยูส มูลค่า 5,600 ล้านบาทเป็นศูนย์สุขภาพ-โรงแรม-ศูนย์ประชุม “บุญรอดบริวเวอรี่” ผู้เช่ารายเดิม สนใจ บริหารต่อระยะยาว

ที่ดินแปลงศักยภาพเนื้อที่ 503 ไร่ ติดสถานีรถไฟหัวหินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มูลค่าไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท เตรียมนำออกประมูลให้เอกชนเช่าระยะยาว 30 ปีตามระเบียบ รฟท. เนื่องจากสัญญาเช่าหมดอายุลงตั้งแต่ปี 2558 แบ่งออกเป็นส่วนสนามกอล์ฟ รถไฟหัวหินที่สถานีหัวหินเนื้อที่กว่า 500 ไร่ พื้นที่ที่เหลือเป็นส่วนโรงแรมรถไฟ คลับเฮ้าส์ ศูนย์การประชุมฯลฯ ปัจจุบันรฟท.จ้างศูนย์วิจัยขีดความสามารถในการแข่งขันสำนักวิจัยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ทบทวนผลการศึกษาและวิเคราะห์โครงการเดิม ที่ศึกษาในรูปแบบ PPP ตามพระราชบัญญัติ (พรบ.)การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 เมื่อมีการยกเลิกโครงการแบบ PPP ส่งผลให้ต้องนำโครงการมาศึกษาใหม่ แต่มีเงื่อนไขเกี่ยวกับผลตอบแทนที่เอกชนให้รฟท.อาจต้องสูงขึ้น ซึ่งต้องรอผลศึกษาว่าจะออกมาแบบใด เปิดขุมทรัพย์ รถไฟหัวหิน
เปิดขุมทรัพย์ รถไฟหัวหิน

ทั้งนี้ในระหว่างรอผลการศึกษารฟท.ใช้วิธีต่อสัญญากับผู้เช่ารายเดิมปีต่อปีคือ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด แต่เบื้องลึก นายประยูร สุขดำเนิน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพย์สิน รฟท.ระบุว่า ทางบริษัท บุญรอดฯ ให้ความสนใจ อยากดูแลสนามกอล์ฟผืนนี้ต่อไปแต่ทั้งนี้ ต้องแข่งขันประมูลโครงการ และสามารถรับเงื่อนไขใหม่ได้หรือไม่ นายประยูรกล่าวต่อว่า สำหรับโรงแรมอาจจะอาจมีการปรับรูปแบบใหม่อาจเป็นธุรกิจเชิงสุขภาพเพราะโรงแรมอาจไม่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยทั้งโครงการจะใช้เงินลงทุน เป็นค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกว่า 5,600 ล้านบาท และรฟท.จะมีรายได้จากค่าเช่าที่ดินประมาณ 1,604 ล้านบาท“ที่ดินสนามกอล์ฟหัวหิน 503 ไร่ เป็นตัวสนามกอล์ฟ 500 ไร่ ที่เหลือเป็นโรงแรมกอล์ฟอิน 3 ไร่ ทำเลมีศักยภาพ ติดสถานีรถไฟหัวหิน ที่จะพัฒนาเส้นทาง ที่ผ่านมา ทางบุญรอดบริวเวอรี่ เป็นผู้เช่าและหมดสัญญา วันที่ 31 มี.ค. 2558 ที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันได้ต่อสัญญาปีต่อปี ในอัตราค่าเช่า 476,000 บาทต่อปี แต่เงื่อนไขใหม่ไม่แน่ใจว่า บุญรอดฯจะยอมรับเงื่อนไขได้หรือไม่”



ขณะความคืบหน้า สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์หรือนิด้าได้ศึกษาโครงการพัฒนารูปแบบมิกซ์ยูส แบ่งพื้นที่พัฒนา 480 ไร่ โดยแบ่งที่ดินบางส่วน นำไปสร้างทางรถไฟทางคู่ ล่าสุดวันที่ 24 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้รฟท.ได้เชิญเอกชน เข้าร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็น (Market Sounding) ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจชั้นำของเมืองไทยทั้งอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม โรงพยาบาล ค้าปลีก ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ทีซีซีกรุ๊ป ซี.พี.แลนด์ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) บริษัทอัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) โรงพยาบาลธนบุรี โรงพยาบาลบางปิยะเวช โรงพยาบาลบางปะกอก 9 ฯลฯ
รูปแบบการพัฒนาแบ่งออกเป็น 8 โซน อาทิ ส่วนสนามกอล์ฟ ,TOD พื้นที่พัฒนารอบสถานีรถไฟหัวหิน,โรงแรม 5-6ดาว,โรงแรม 3-4ดาว ศูนย์ประชุม คอมมูนิตี้มอลล์ ฯลฯแหล่งข่าวจากนิด้าระบุว่าได้ออกเอกสารเชิญภาคเอกชนจำนวน 100ราย ส่วนใหญ่ให้ความสนใจตอบรับเข้ามา โดยภายในเดือนเมษายน นี้จะสรุปผลศึกษา เสนอต่อรฟท.และกำหนดเปิดประมูลภายในปีนี้

Mongwin wrote:
Wisarut wrote:
รฟท.เปิด ประมูลใหม่ ที่ดิน"สนามกอล์ฟ รถไฟหัวหิน"
หน้าอสังหาริมทรัพย์
23 มีนาคม 2564 เวลา 20:53 น.

รถไฟล้างไพ่ที่ดินทำเลหัวหิน เปิดประมูลแข่ง “สิงห์-เซ็นทรัล”
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 24 มีนาคม 2564 - 10:03 น.


Last edited by Wisarut on 02/04/2021 8:00 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 02/04/2021 1:37 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท. ขอคืนพื้นที่ ริมทางรถไฟเมืองโคราช 390 ครัวเรือน หวั่นเป็นคนไร้บ้าน
Korat : เมืองที่คุณสร้างได้
วันที่ 2 เมษายน 2564 - 09:39 น.

ที่ห้องประชุมอาคารคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา (มร.นม.) คณะทำงานสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน) หรือ พอช. พร้อมเจ้าหน้าที่กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา บุคลากร มร.นม. และผู้แทนชุมชนริมทางรถไฟโคราชร่วมประชุมหาแนวทางแก้ไขผลกระทบจากการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-นครราชสีมา
และรถไฟทางคู่มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ซึ่งมีเส้นทางผ่านเขตเมือง นครราชสีมา ส่งผลให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ต้องขอคืนพื้นที่เขตทางรถไฟด้านละ 40 เมตร ล่าสุดได้ทยอยอนุมัติให้มีการก่อสร้างเป็นช่วง ๆ พร้อมขอคืนพื้นที่ตามแนวเขตรถไฟ เพื่อพัฒนาที่ดินรถไฟ
ทั้งนี้การสำรวจครั้งแรกพบกว่า 700 หลังคาเรือน ในเขต 13 ชุมชน ได้รับผลกระทบ หลังได้คัดกรองตามตามหลักเกณฑ์คงเหลือ 9 ชุมชน รวม 390 ครัวเรือน ประกอบด้วยถนนเลียบนคร, ประสพสุข, สองข้างทางรถไฟ, หลังจวน, ราชนิกูล 1, ราชนิกูล 2 ,ราชนิกูล 3, เบญจรงค์ ,ทุ่งสว่าง-ศาลาลอยและมหาชัย-อุดมพร ซึ่งมีสัญญาเช่าถูกต้องแต่ครบกำหนดเวลาและ รฟท.ไม่มีนโยบายให้ต่อสัญญาและกลุ่มที่มาจับจองเขตทางรถไฟเป็นเวลาหลายสิบปี
ส่วนหนึ่งมีฐานะยากจน ทั้งตระเวนเก็บของเก่าขายและหาเช้ากินค่ำหรือประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป การหาข้อสรุปที่ต่างบริบทจึงไม่ตกผลึก มติที่ประชุมจึงให้จัดตั้งเครือข่ายริมรางเมืองย่าโม เพื่อสำรวจให้ครอบคลุมและเตรียมแผนรับการถูกไล่รื้อ จากนั้นจะได้รวบรวมข้อมูลนำเสนอคณะกรรมการ รฟท.ให้พิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยชุมชนที่อยู่ในที่ดินของ รฟท. หรือชดเชยเยียวยาตามกฎหมาย
เบื้องต้นได้ร้องขอที่ดินที่เป็นทรัพย์สินของ รฟท. ประมาณ 53 ไร่ บริเวณข้างวัดป่าสาลวัน หากมีอุปสรรคขอให้จัดหาที่ดินตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองไม่เกิน 5 กิโลเมตร กรณีให้เช่าที่ดินหรือขายราคาประเมินต้องเหมาะสมและเป็นธรรม มิเช่นนั้น 390 ครัวเรือน จะกลายเป็น “คนไร้บ้าน”
นายวิชยะพงศ์ ปิยะธัญญานนท์ ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ เปิดเผยว่า พวกเราได้รวมตัวเคลื่อนไหวมาตั้งแต่ปี 2558 ตั้งแต่ทราบจะมีการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ตระเวนยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมทั้งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ช่วงที่เดินทางมาประชุม ครม.สัญจร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย
ประเด็นสำคัญชาวบ้าน 9 ชุมชน มิได้คัดค้านโครงการหรือถ่วงความเจริญของบ้านเมืองแต่อย่างใด ขอให้รัฐจัดสรรที่ดินให้มีที่ซุกหัวนอนตั้งอยู่ในละแวกเขตเมือง โดยยินดีเช่าหรือซื้อลักษณะเงินผ่อนดอกเบี้ยไม่แพงมากนัก ขณะนี้พวกเรากังวลใจมาก ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ รฟท. ได้มาแจ้งประมาณ 3 เดือน จะมีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง
เครดิต : มติชน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 06/04/2021 11:40 pm    Post subject: Reply with quote

เริ่มแล้ว รฟท.เปิดประมูลเช่าอาคาร ย่านพหลโยธิน ปั้นรายได้แตะ 23 ล้าน

วันที่ 2 เมษายน 2564 เวลา 20:05 น.

รฟท.เดินหน้าเปิดประมูลเช่าอาคารชั่วคราวชั้นเดียว ย่านพหลโยธิน แปลง 6/1 โซนเอ (ศรีสมรัตน์) กว่า 71 ห้อง สัญญาเช่า 3ปี บูมทำเลทำการค้า หวังเพิ่มรายได้จากการบริหารธุรกิจแบบ Non-core แตะ 5%ต่อปี

นายสมยุทธิ์ เรือนงาม ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการพัฒนาที่ดิน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ได้อนุมัติประกาศเชิญชวนให้กับผู้ที่สนใจเสนอราคาค่าธรรมเนียมจัดประโยชน์ เพื่อเช่าอาคารชั่วคราวชั้นเดียว ในพื้นที่ย่านพหลโยธิน แปลง 6/1 โซนเอ หรือ ตลาดศรีสมรัตน์ ด้วยวิธีประมูล จำนวน 71 ห้อง มีอายุสัญญาเช่าไม่เกินวันที่ 31ธันวาคม 2566 ตามสภาพปัจจุบัน เพื่อทำการค้าที่สอดคล้อง หรือ สนับสนุนการทำการค้าในปัจจุบัน รวม 9 รอบ ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม - 4 กรกฎาคม 2564 ให้กับผู้สนใจประมูลและเสนอราคาค่าธรรมเนียมจัดประโยชน์ โดยห้องขนาด 12 ตารางเมตร ราคาตั้งต้นไม่ต่ำกว่า ห้องละ 50,900 บาท และราคาตั้งต้นไม่ต่ำกว่า ห้องละ 67,900 บาท สำหรับห้องขนาด 16 ตารางเมตร

ทั้งนี้รฟท.ขอสงวนสิทธิ์ในการจัดกลุ่มห้อง และกำหนดราคาตั้งต้นในการประมูลตามความเหมาะสม กำหนดจำหน่ายเอกสารเสนอราคา ในราคาชุดละ 2,140 บาทต่อห้อง (ขนาด 12 ตารางเมตร) และราคาชุดละ 2,675 บาทต่อห้อง (ขนาด 16 ตารางเมตร) สามารถยื่นซองเสนอราคาในวันเสาร์ถัดไป หลังจากการซื้อซองเสนอราคา และกำหนดเปิดซองเสนอราคาในวันเดียวกันกับการยื่นซองเสนอราคา ซึ่งผู้เสนอราคาสูงสุดจะต้องชำระเงินค่าธรรมเนียมจัดประโยชน์ในวันอาทิตย์ถัดจากวันประกาศผลการเสนอราคาสูงสุด นายสมยุทธิ์ฯ เพิ่มเติมว่า พื้นที่ย่านพหลโยธิน แปลง 6/1 โซนเอ หรือ ตลาดศรีสมรัตน์ เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วไปว่าเป็น “ตลาดปลาสวยงาม” มีพื้นที่กว่า 17,516 ตารางเมตร เป็นอาคารชั่วคราวชั้นเดียว จำนวนกว่า 574 ห้อง ปัจจุบันการรถไฟฯ ได้ให้ผู้เช่าเดิมที่สนใจทำสัญญาเช่าภายในอาคาร กับการรถไฟฯ มีระยะเวลา 3 ปี มาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา และสำรวจพบว่ายังมีอาคารที่ไม่มีผู้ยื่นเสนอขอเช่า จำนวน 71ห้อง ดังนั้น การรถไฟฯ จึงพิจารณาประกาศเชิญชวนให้ผู้สนใจเสนอผลตอบแทนการเช่าการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ต่อไป ซึ่งในอนาคต คาดว่าการรถไฟฯ จะสามารถเพิ่มรายได้จากการบริหารธุรกิจแบบ Non-core ในกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์ได้ปีละกว่า 23,592,012 ล้านบาท บาท และเพิ่มร้อยละ ๕ ต่อปี ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ ติดต่อซื้อเอกสารเสนอราคา ได้ที่สำนักงานชั่วคราว การรถไฟแห่งประเทศไทย ภายในตลาดนัดจตุจักร ประตู 1 ข้างธนาคารออมสิน สาขาตลาดนัดจตุจักร ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 17.00 น. หรือ โทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมที่ โทรศัพท์ 0-2220-4614 และ 0-2220-4615 ในวันและเวลาราชการ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 07/04/2021 2:57 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.ลุยหารายได้เพิ่มประกาศประมูลเช่าอาคารดันรายได้โต5%ต่อปี

06 เมษายน พ.ศ. 2564 เวลา 15:59 น.


6 เมษายน 2564 นายสมยุทธิ์ เรือนงาม ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการพัฒนาที่ดิน การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ได้อนุมัติประกาศเชิญชวนให้กับผู้ที่สนใจเสนอราคาค่าธรรมเนียมจัดประโยชน์ เพื่อเช่าอาคารชั่วคราวชั้นเดียว ในพื้นที่ย่านพหลโยธิน แปลง 6/1โซนเอ หรือ ตลาดศรีสมรัตน์ ด้วยวิธีประมูล จำนวน 71ห้อง มีอายุสัญญาเช่าไม่เกินวันที่ 31ธันวาคม 2566ตามสภาพปัจจุบันเพื่อทำการค้าที่สอดคล้อง หรือ สนับสนุนการทำการค้าในปัจจุบัน รวม 9 รอบ ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.-4 ก.ค.64 ให้กับผู้สนใจประมูลและเสนอราคาค่าธรรมเนียมจัดประโยชน์ โดยห้องขนาด 12 ตารางเมตร ราคาตั้งต้นไม่ต่ำกว่า ห้องละ 50,900 บาท และราคาตั้งต้นไม่ต่ำกว่า ห้องละ 67,900 บาท สำหรับห้องขนาด 16 ตารางเมตร

เทรดฟอเร็กซ์ไปกับโบรกฯที่มีความน่าเชื่อถือระดับโลก
IC Markets
ทั้งนี้ การรถไฟฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการจัดกลุ่มห้อง และกำหนดราคาตั้งต้นในการประมูลตามความเหมาะสม กำหนดจำหน่ายเอกสารเสนอราคา ในราคาชุดละ 2,140 บาทต่อห้อง (ขนาด 12 ตารางเมตร) และราคาชุดละ 2,675 บาทต่อห้อง (ขนาด 16 ตารางเมตร) สามารถยื่นซองเสนอราคาในวันเสาร์ถัดไป หลังจากการซื้อซองเสนอราคา และกำหนดเปิดซองเสนอราคาในวันเดียวกันกับการยื่นซองเสนอราคา ซึ่งผู้เสนอราคาสูงสุดจะต้องชำระเงินค่าธรรมเนียมจัดประโยชน์ในวันอาทิตย์ถัดจากวันประกาศผลการเสนอราคาสูงสุด

นายสมยุทธิ์ฯ เพิ่มเติมว่า พื้นที่ย่านพหลโยธิน แปลง 6/1โซนเอ หรือ ตลาดศรีสมรัตน์เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วไปว่าเป็น “ตลาดปลาสวยงาม” มีพื้นที่กว่า 17,517ตารางเมตร เป็นอาคารชั่วคราวชั้นเดียว จำนวนกว่า 574ห้อง ปัจจุบันการรถไฟฯ ได้ให้ผู้เช่าเดิมที่สนใจทำสัญญาเช่าภายในอาคาร กับการรถไฟฯ มีระยะเวลา 3ปี มาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา และสำรวจพบว่ายังมีอาคารที่ไม่มีผู้ยื่นเสนอขอเช่า จำนวน 71ห้อง ดังนั้น การรถไฟฯ จึงพิจารณาประกาศเชิญชวนให้ผู้สนใจเสนอผลตอบแทนการเช่าการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ต่อไป ซึ่งในอนาคต คาดว่าการรถไฟฯ จะสามารถเพิ่มรายได้จากการบริหารธุรกิจแบบที่ไม่ใช่กิจกรรมหลัก (Non-core)ในกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์ได้ปีละกว่า 23,592,012บาท และเพิ่ม5%ต่อปี

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ ติดต่อซื้อเอกสารเสนอราคา ได้ที่สำนักงานชั่วคราว การรถไฟแห่งประเทศไทย ภายในตลาดนัดจตุจักร ประตู 1 ข้างธนาคารออมสิน สาขาตลาดนัดจตุจักร ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 17.00 น. หรือ โทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมที่ โทรศัพท์ 0-2220-4614 และ 0-2220-4615 ในวันและเวลาราชการ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 24/04/2021 8:26 pm    Post subject: Reply with quote

จับตาโรงแรมรถไฟหัวหิน บอร์ดรถไฟใจหิน ส่อเลิกสัญญากลุ่มเซ็นทรัล เหตุขอลดค่าเช่ายาวอีก1ปี
24 เมษายน พ.ศ. 2564 เวลา 12:44 น.

แหล่งข่าวจาก การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)เปิดเผย ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ร.ฟ.ท.ในรอบที่ผ่านมามีการพิจารณามาตรการเยียวยาอันเนื่องจากผลกระทบจากระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของ บริษัท เซ็นทรัล หัวหิน บีช รีสอร์ท จำกัด ที่เป็นคู่สัญญาเช่าที่ดิน อาคาร ทรัพย์สินของโรงแรมรถไฟหัวหิน พื้นที่ราว 72 ไร่ และได้ร้องขอให้ ร.ฟ.ท.ลดค่าเช่าลงมาให้อีกเป็นระยะเวลา 1 ปี จนถึงวันที่ 15 พ.ค.2565 จะสิ้นสุดสัญญาเช่าชั่วคราวที่ได้รับอนุมัติ ประเด็นนี้ คณะกรรมการใช้เวลาพิจารณานานพอสมควร เพราะก่อนหน้านี้เคยลดค่าเช่าให้กับกลุ่มเซ็นทรัลมาแล้วในช่วง 2 ปี ที่มีการต่อสัญญาให้ โดยในปีแรกลดค่าเช่าลงมาให้ 50% ปีที่สองลดค่าเช่าลงให้อีก 30% ตอนนี้บริษัทเซ็นทรัลจะขอลดค่าเช่าลงมามากกว่านี้อีก คณะกรรมการหลายคยเห็นว่าควรขยายระยะเวลาการลดค่าเช่าให้แค่ 6 เดือน ไม่ใช่ลดค่าเช่าให้ 1 ปีตามที่กลุ่มเซ็นทรัลร้องขอ แต่มีกรรมบสงคนเห็นว่าสถานการณ์โควิดทำให้ต้องพิจารณาในการดูแลคู่สัญญาด้วย เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงแต่ค่าเช่ายังต้องจ่าย




อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมเห็นว่าควรจะลดให้แค่6 เดือน อยู่ที่ทางกลุ่มเซ็นทรัลว่า จะรับข้อเสนอนี้หรือไม่ หากไม่รับรฟท.พร้อมจะยกเลิกสัญญา เพราะยังไง ร.ฟ.ท.จะนำที่ดินเปิดประมูลใหม่อยู่แล้ว ซึ่งในสัญญาเปิดช่องให้บริษัทยกเลิกสัญญาได้ แต่ปัญหาคือเลิกแล้วใครจะบริหารช่วง 1 ปีนี้ ร.ฟ.ท.คงไม่สามารถดำเนินการเองได้ ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการมอบหมายให้รองผู้ว่าการด้านบริหารทรัพย์สินไปหารือกับทางกลุ่มเซ็นทรัลใหม่ ปัจจุบันทางเซ็นทรัลเสียค่าเช่าให้ ร.ฟ.ท.อยู่เดือนละ 9 ล้านบาท แต่เอกชนมีรายได้ขณะนี้ไม่ถึงเดือนละ 2 ล้านบาท สำหรับที่ดินแปลงดังกล่าวมีอายุการเช่าเหลืออีกเพียง 1 ปี และ ร.ฟ.ท.ก็มีแผนพัฒนาที่ดินให้มีมูลค่าเพิ่มอยู่แล้วจึงไม่ควรยึดติดกับสัญญาเช่าอย่างเดียวแต่ควรมีแผนที่บริหารอย่างอื่นควบคู่ไปด้วยเช่น การหารือกับเอกชนใหม่ การทำมาเก็ตซาวน์ดิ้งว่ามีใครสนใจเพิ่มเติมหรือไม่ นการโดยให้นำเสนอโครงการโรงแรมรถไฟหัวหินให้ทราปนะชุมรับทราบในครั้งต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 172, 173, 174 ... 198, 199, 200  Next
Page 173 of 200

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©