Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311283
ทั่วไป:13263458
ทั้งหมด:13574741
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - การเสด็จประพาสทางรถไฟ สมัย ร. ๖
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

การเสด็จประพาสทางรถไฟ สมัย ร. ๖
Goto page Previous  1, 2, 3, 4 ... 9, 10, 11  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 22/08/2006 7:18 am    Post subject: Reply with quote

19 ธันวาคม 2454เวลาบ่าย 3 โมงเศษ พระบาทสวมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินด้วยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระราชวังดุสิต มายังท่าวาสุกรี เพื่อประทับเรือพระที่นั่งยนต์ไปยังสถานีบางกอกน้อย มีพระบรมวงศานุวงศ์และข้าทูลละอองธุลีพระบาทมารับเสด็จที่สถานีบางกอกน้อยมากมาย พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสแก่บรมวงศานุวงศ์และข้าทูลละอองธุลีพระบาทที่มาเข้าเฝ้าฯ อยู่ ณ สถานีบางกอกน้อย พอสมควรก่อนเสด็จประทับรถพระที่นั่ง

เวลาบ่าย 3 โมง 50 นาที เจ้าพนักงานรถไฟใช้จักรจูงรถพระที่นั่งออกจากสถานีบางกอกน้อย เพื่อเสด็จประพาสมณฑล นครไชยศรี ประทับแรมที่พระที่นั่งพระราชวังสนามจันทร์

20 ธันวาคม 2454 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานสัญญาบัตรแก่ข้าราชการโดย หลวงจันทรภูมิพิทักษ์ เป็นพระจันทรภูมิพิทักษ์ มีราชการในกรมมหาดเล็กถือศักดินา 600 ขณะประทับ ณ พระที่นั่งพิมานปฐม

22 ธันวาคม 2454 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จกลับจากประพาสมณฑลนครไชยศรี โดยทางรถกลไฟพระที่นั่ง ถึงสถานีบางกอกน้อย เวลาเช้า 4 โมงเศษ มีพระบรมวงศานุวงศ์และข้าทูลละอองธุลีพระบาทมารับเสด็จที่สถานีบางกอกน้อยมากมาย พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสแก่บรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทที่มาเข้าเฝ้าฯ อยู่ ณ สถานีบางกอกน้อยพอสมควร

จากนั้น จึงประทับเรือพระที่นั่งยนต์พระที่นั่ง มายังท่าวาสุกรี จากนั้น จึงประทับรถพระที่นั่งยนต์เสด็จมาพระราชวังดุสิต ขึ้นประทับ ณ พระที่นังอัมพรสถาน


13 มกราคม 2454 เวลาบ่าย 3 โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินด้วยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระราชวังดุสิต มายังท่าวาสุกรี เพื่อประทับเรือพระที่นั่งยนต์ไปยังสถานีบางกอกน้อย มีพระบรมวงศานุวงศ์และข้าทูลละอองธุลีพระบาทมารับเสด็จที่สถานีบางกอกน้อยมากมาย พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสแก่บรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทที่มาเข้าเฝ้าฯ อยู่ ณ สถานีบางกอกน้อยพอสมควร ก่อนเสด็จประทับรถพระที่นั่ง

เวลาบ่าย 4 โมงเศษ เจ้าพนักงานรถไฟใช้จักรจูงรถพระที่นั่งออกจากสถานีบางกอกน้อย เพื่อเสด็จประพาสมณฑล นครไชยศรีและมณฑลราชบุรี

18 มกราคม 2454เวลาเช้า 2 โมงเศษ สมเด็จพระบรมราชินีพระพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนิน จาก ตำหนักพญาไท ( พระราชวังพญาไท ) ด้วยรถพระที่นั่งยนต์ไปที่สถานีสามเสน มีพระบรมวงศานุวงศ์รับเสด็จเป็นจำนวนมาก สมเด็จพระพันปีหลวง ได้มีพระราชดำรัสกับพระบรมวงศานุวงศ์ที่มาเข้าเฝ้า ก่อนประรับรถไฟพระที่นั่ง เพื่อเสด็จประพาส มณฑลนครราชสีมา เพื่อไปชม ไทรงามที่พิมาย เป็นต้น

เจ้าพนักงานรถไฟเปิดจักรรถไฟลากจูงรถพระที่นั่ง ออกจากสถานีสามเสน ไปที่สถานี โคราช มณฑล นครราชสีมา เวลาเช้า 3 โมงเศษ

6 กุมภาพันธ์ 2454สมเด็จพระบรมราชินีพระพันปีหลวงเสด็จกลับจากประพาสมณฑลนครราชสีมา โดยทางรถไฟ ถึงสถานีสามเสนเวลา บ่าย 5 โมงเศษ สมเด็จพระพันปีหลวงได้มีพระราชดำรัสกับพระบรมวงศานุวงศ์ที่มาเข้าเฝ้า ตามสมควร ก่อนประทับรถยนต์พระที่นั่งกลับประทับตำหนัก พญาไท

3 มีนาคม2454เวลาเช้า 4 โมง สมเด็จพระบรมราชินีพระพันปีหลวง เสด็จประพาสมณฑลนครไชยศรีโดยทางรถไฟ เพื่อเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขณะประทับแรมที่พระราชวังสนามจันทร์ ครั้นวันที่ 5 มีนาคม2454เวลาบ่าย 5 โมง จึงเสด็จกลับกรุงเทพพระมหานคร แล้วเสด็จประทับ ณ ตำหนักพญาไท


9 มีนาคม2454พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จกลับจากประพาสมณฑลนครไชยศรี โดยทางรถพระที่นั่งกลไฟ ถึงสถานีบางกอกน้อย เวลาบ่าย 4 โมงเศษ มีพระบรมวงศานุวงศ์และข้าทูลละอองธุลีพระบาทมารับเสด็จที่สถานีบางกอกน้อยมากมาย พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสแก่บรมวงศานุวงศ์และข้าทูลละอองธุลีพระบาทที่มาเข้าเฝ้าฯ อยู่ ณ สถานีบางกอกน้อยพอสมควร

จากนั้น จึงประทับเรือพระที่นั่งยนต์พระที่นั่งมายังท่าราชวรดิษฐ์ มายังพระราชวังดุสิตเพื่อทอดพระเนตรการแห่และสมโภชพระเสวตรวชิรพาหน์เข้ายืนโรง จากนั้น จึงเสด็จด้วยรถยนต์พระที่กลับเข้าประทับพระบรมมหาราชวัง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 23/08/2006 2:15 am    Post subject: Reply with quote

13 มกราคม 2453 ( ร.ศ. 129 ) เวลาบ่าย 3 โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องแบบครึ่งยศขาวทหารบก เสด็จจากพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ด้วยรถยนต์พระที่นั่ง ออกประตูวิเศษไชยศรี เลี้ยวถนนหน้าพระลาน เลี้ยวถนนเชิงกำแพงพระบรมมหาราชวัง ประทับพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย ท่าราชวรดิษฐ์ เพื่อประทับเรือยนตร์พระที่นั่งข้ามไปประทับที่สถานีบางกอกน้อย มีพระราชปฏิสันฐานกับพระบรมวงศานุวงษ์และข้าราชการที่มาส่งเสด็จ รถไฟพิเศษใช้จักรจูงรถพระที่นั่ง จากสถานีบางกอกน้อย ไปหยุดที่สถานีศาลายา


เมื่อถึงสถานีศาลายา พระศรีวิชัยปลัดมณฑลนครไชยศรี ได้นำเครื่องสักการะในฐานะที่พระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จมายังมณฑลนครไชยศรี ที่สถานีมีตำรวจภูธร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ราษฎร คอยโห่ถวายชัย นักเรียนร้องสรรเสริญพระบารมี จากนั้นรถไฟใช้จักรต่อไปยังสถานีนครปฐม โดยที่พระศรีวิชัยตามเสด็จมาในรถใช้จักรด้วย

ตามสถานีรายทาง มีพระสงฆ์ และ ราษฎรคอยเฝ้ารับเสด็จ เมื่อผ่านหน้ากรมทหารบกราบที่ 12 มณฑลนครไชยศรี ( แถวต้นสำโรง ) มีกองทหารตั้งแถววันทยาวุธ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ถึงสถานีพระปฐมเจดีย์เวลา บ่าย 4 โมงเศษ พระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้ากรมขุนลพบุรีราเมศวร์ ข้าราชการทหารพลเรือนชั้นผู้ใหญ่ผู้น้อย นักเรียน ตำรวจภูธร และ ราษฎรได้รับเสด็จทีสถานีพระปฐมเจดีย์ มีการบรรเลงพิณพาทย์ทั้งที่สถานี และพระปฐมเจดีย์ จากนั้น จึงประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จตามถนนรถไฟยังบรรไดนาค เสด็จยังวิหารหลวงพระปฐมเจดีย์ พระสงฆ์นำโดยพระธรรมโกษาจารย์ สวดพระไชยปริต ทรงจุดธูปเทียนนมัสการพระปฐมเจดีย์ พระสงฆ์ถวายอติเรก พระยาสุนทรบุรี ข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลนครไชยศรี ได้นำธงชัยกระบี่ธุชพระครุธพ่าห์ ที่เป็นของโบราณซึ่งขุดได้ ที่พระปฐมเจดีย์ทูลเกล้าถวาย

จากนั้น พระองค์เสด็จทางประตูยักษ พระจีน สวดรับเสด็จที่ศาลากัสสะปะ ข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลนครไชยศรี พร้อมข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ได้เข้าเฝ้าทูลถวายพระพรไชยมงคลพระองค์ได้พระราชทานพระแสงกระบี่ให้ข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลนครไชยศรี ข้าราชการถวายดอกไม้ธูปเทียน จากนั้น พระองค์ประทับรถยนต์พระที่นั่งที่ถนนหน้าพระ แล้วเลี้ยวถนนขวาพระ เสด็จไปยังพระราชวังสนามจันทร์ ทอดพระเนตรพระที่นั่งพระตำหนัก จุดเที่ยนที่พระภูมิ จากนั้นจึงเสด็จขึ้นพระตำหนัก

ครั้นเวลา 2 ทุ่มเศษ ได้นิมนต์พระสงฆ์ 5 รูป เจริญชัยมงคลคาถาที่พระแท่นบรรทม ประศิริธรรมมุนีเป็นประธาน พระสงฆ์ตั้งต้นพระพุทธมนตร์ จากนั้นจึงประเคนไตรให้พระสงฆ์ที่จะมาเจริญพระพุทธมนตร์ อีก 10 รูป โดยพระธรรมโกษาจารย์เป็นประธาน พระสงฆ์ครองผ้าไตรแล้ว จึงจุดเทียนทรงศีล จากนั้น พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์สัตตปริต พระครูปัจจิมทิศบริหารขัดตำนาน พระสงฆ์ในพระแทนบรรธมเจริญพะพุทธมนต์ด้วย เวลายามเศษ พระสงฆ์สวดจบ ถวายอติเรก ถวายพระพรลา แล้วจึงลงมาเสวยพระกระยาหารร่วมกับพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เสวยแล้วเวลา 4 ทุ่มเศษจึงกราบบังคมทูลลา จากนั้น จึงเสด็จห้องสรงเพื่อสรงน้ำพระพุทธมนตร์ เวลาคำให้พระศิริธรรมมุนี และ พระอโนมาคุณมุนี ประพรหมน้ำพระพุทธมนต์ และ โปรยทราย รอบพระราชวังสนามจันทร์

.............................

21 มกราคม 2453 ( ร.ศ. 129 ) เสด็จกลับพระนคร ด้วยรถไฟพระที่นั่งจากสถานีสนามจันทร์ โดยก่อนประทับรถไฟพระที่นั่ง ได้พระราชทานพัดตราครุธ ให้พระอธิการวัดพระประโทน และ เจ้าอธิการรอง ผุ้ขุดพบธงชัยกระบี่ธุช และ ครุธพ่าห์ พระราชทานพระแสงให้พระสุนทรบุรี

รถไฟหยุดที่สถานีพระปฐมเจดีย์ ให้ประชาชนได้เข้าเฝ้าฯ มีการจุดธูปเทียนบูชาพระปฐมเจดีย์ ที่หลวงพุทธเกษตรานุรักษ์ ได้ถวายให้พระองค์

จากนั้น รถไฟใช้จักรเดินทางยังกรุงเทพ ถึง สถานีบางกอกน้อย เวลาบ่าย 4 โมงครึ่ง จากนั้นจึงประทับเรือพระที่นั่งยนตร์ จากท่าบางกอกน้อยไปยังท่าราชวรดิษฐ์ เสด็จขึ้นประทับรถยนตร์พระที่นั่งก่อนเสด็จเข้าพระบรมมหาราชวัง

// -------------------------------------------------------------------------
16 มกราคม 2456 เวลาบ่าย 3 โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ประทับรถพระที่นั่งยนตร์ เสด็จจากพระราชวังดุสิต มายังท่าวาสุกรี เพื่อประทับเรือพระที่นั่งยนตร์ ไปยังสถานีบางกอกน้อย เมื่อเสด็จขึ้นจากท่า ได้มีพระราชดำรัสแก่พระบรมวงศานุวงศ์และข้าทูลละอองธุลีพระบาท ก่อนประทับรถไฟพระที่นั่ง

ครั้งเวลาบ่าย 4 โมง เจ้าพนักงานรถไฟ ใช้จักรจูงรถพระที่นั่ง ออกจากสถานีบางกอกน้อย เสด็จพระราชดำเนิน ณ เมืองนครปฐม จากนั้นจึงประทับที่พระราชวังสนามจันทร์
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 27/09/2006 1:46 am    Post subject: Reply with quote

25 มิถุนายน 2454 ( รศ. 130 ) สมเด็จพระราชชนนีพันปีหลวง เสด็จกลับจากการเสด็จประพาสหัวเมืองอินโดจีนฝรั่งเศส ( หัวเมืองฝรั่งเศสในอินโดจีน ) และฮ่องกง แบบ Incognito ซึ่งจากพระนครตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2454 โดยเรื่อพระที่นั่งมหาจักรีจอดที่ท่าหน้าเมืองสมุทรปราการ พระพันปีหลวงเสด็จประทับรถไฟ รถไฟใช้จักรออกจากหน้าเมืองสมุทรปราการ เข้าสู่พระนคร ถึงสถานีหัวลำโพงเวลา 1 ทุ่ม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปรับเสด็จ แล้วส่งพระพันปีหลวงไปส่งที่ตำหนักพญาไท มีทหารมหาดเล็กตั้งแถวรับเสด็จ ทหารถวายวันทยาวุธและบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี มีพระบรมวงศานุวงศ์และคณะทูตานุทูตรับเสด็จ มีพระราชเสาวนีย์ปฏิสันฐานพอสมควร
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 27/09/2006 1:51 am    Post subject: Reply with quote

3 กันยายน 2454 ( ร.ศ. 130 ) เวลาเช้า 5 โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จจากพระราชวังดุสิต โดยทางรถยนต์ไปยังท่าราชวรดิษฐ์ เพื่อประทับเรือยนตร์พระที่นั่ง ล่องไปประทับที่สถานีบางกอกน้อย มีพระราชปฏิสันฐานกะบพระบรมวงศานุวงษ์และข้าราชการที่มาส่งเสด็จ

เวลาเที่ยง รถไฟพิเศษใช้จักรจูงรถพระที่นั่งจากสถานีบางกอกน้อย ไปยังมณฑทนครไชยศรี

19 กันยายน 2454 ( ร.ศ. 130 ) เวลาบ่าย 2 โมงครึ่ง เสด็จพระราชดำเนินจากพระราชวังสนามจันทร์ ไปประทับรถไฟพระที่นั่ง ณ สถานีรถไฟหน้าพระราชวังสนามจันทร์ พวกเสือป่าตั้งแถววัทยาหัตถ์ พระราชทานพระแสงให้สมุหเทศาภิบาลมณฑลนครไชยศรี จากนั้นรถไฟใช้จักรจูงรถพระที่นั่ง จากสถานีหน้าพระราชวังสนามจันทร์ ไปหยุดที่ สถานีพระปฐมเจดีย์ ทรงจุดธูปเทียนพระราชทานให้หลวงเกษตรานุรักษ์นำไปสักการะบูชาพระปฐมเจดีย์ จากนั้นรถไฟใช้จักรไปตามทาง

เวลาบ่าย 4 โมงเศษ ถึงสถานีบางกอกน้อย เสด็จลงจากรถพระที่นั่ง มีพระราชปฏิสันฐานกับบรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทตามสมควร จากนั้น ประทับเรือยนต์พระที่นั่งขึ้นไปยังท่าวาสุกรี ทหารมหาดเล็กในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ ตั้งแถวกองเกียรติยศบรรเลงงเพลงสรรเสริญพระบารมี กองเสือป่า และ กองมณฑลกรุงเทพ ได้ ตั้งแถวรับเสด็จและวันทยาหัตถ์ตลอดทาง จากท่าวาสุกรี ยังพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 30/09/2006 12:37 am    Post subject: Reply with quote

7 มกราคม 2457 เจ้าดารารัศมีๆ ได้เสด็จไปประทับที่เชียงใหม่ เป็นการถาวร หลังจากเจ้าแก้วนวรัฐ ได้เป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ที่ 9 โดยที่กรมรถไฟได้จัดขบวนรถไฟพิเศษวิ่งจากสามเสน ไปยังสถานีผาคอ แม้สมัยนั้นปลายรางยังอยู่ที่เด่นชัย

จากสถานีผาคอ ได้มีกระบวนช้าง กระบวนม้านับร้อย พร้อมคานหามเจ้าดารารัศมี และบรรดาเจ้านาย มายังเมืองเชียงใหม่

22 มกราคม 2457 ถึงกำแพงพระนครเชียงใหม่ มีการแห่สมโภชเจ้าดารารัศมี กันครื้นเครง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 16/11/2006 6:09 pm    Post subject: Reply with quote

ตอนเสด็จภาคใต้ ปี 2458 ได้รถพระที่นี่ง 4 ล้อ พ่วงไปกะอี - คลาส ที่พหุมา แต่พอเสด็จภาคใต้ ปี 2460 ใช้รถโบกี้พระที่นั่งกลางวัน คันขาวแทน เจ้ารถพระที่นั่ง 4 ล้อที่โดนปลดประจำการ หลังปี 2458
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 26/11/2006 7:05 pm    Post subject: Reply with quote

เนื่องจาก ร.6 ท่านโปรดการซ้อมรบเสือป่าเป็นอันมาก นอกเหนือจากการโปรดเมืองนครปฐม ดังนั้น จึงมีบันทึกเกี่ยวกับการเสด็จค่ายหลวงบ้านโป่งอยู่ใน จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว อยู่มากพอสมควร

อย่างไรก็ตาม การเสด็จราชบุรีนั้น แม้จะการพูดถึงว่าได้เสด็จในปี 2454 - 55 แต่น่าเสียดายที่ยังค้นไม่พบจดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน ฉบับปี 1911 - 1912 ( พ.ศ.2454 - 2455 ) เท่าที่พบ ก็ได้รับการคัดลอกลงใน พระบรมราชจักรีวงศ์ กับเมืองราชบุรี ฉบับพิมพ์ ปี2525

18 กันยายน 2456 เวลาเช้า 5 โมง ทรงรถพระที่นั่ง จากสวนจิตรลดา ลงเรือยนต์ที่ท่าวาสุกรี เพื่อเสด็จยังสถานีบางกอกน้อย จากนั้นประทับรถไฟพระที่นั่ง เสด็จราชบุรีพร้อมเจ้านายและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่

เมื่อถึงเมืองราชบุรี กรมหมื่นอดิศร หม่อมเจ้าสฤษฎิเดช พระธรรมวโรดม พระพุทธวิริยากร ผู้ว่าราชการเมือง และข้าราชการทหาร พลเรือน มาเข้าเฝ้า มีทหารกองพลที่ 4 เป็นกองเกียรติยศ จากนั้นจึงเสด็จประทับแรมที่จวน

วันที่ 20 กันยายน 2456 เสด็จเยี่ยมกองพลที่ 4 ( ปัจจุบันคือกองพลทหารช่างค่ายภาณุรังษี ) กรมหมื่นกำแพงเพชรอัครโยธิน ( มทภ. 1 ) กรมหมื่นอดิศร ( ผบ. พล. ร. 4 ) คอยรับเสด็จ มีการละเล่น วิ่งเปี้ยว ดึงเชือก แย่งธง 4 มุม วิ่งทางกันดาร วิ่งสวมกระสอบ วิ่งสามขา สวมหัวโขนจับกัน เสร็จแล้ว เสด็จทอดพระเนตรโรงทหาร ก่อนเสด็จเสวยเครื่องว่าง ที่สโมสรเสือป่าเมืองราชบุรี ( ปัจจุบันอาคารสโมสรเสือป่า อยุ่ในบริเวณโรงพยาบาลแม่และเด็ก ) จากนั้นเสด็จทอดพระเนตรไฟฉายของทหารหน้าสโมสรเสือป่า

วันที่ 21 กันยายน 2456 เวลาเช้า 4 โมงเศษ ทรงเรือเสด็จไปตามลำน้ำแม่กลอง ยังวัดสัตตนารถปริวัตร เสด็จประทับอุโบสถ จุดธูปเทียนนมัสการ ทรงศีล แล้วทรงเลี้ยงพระ 21 รูป แล้วสดัปกรณ์พระบรมทนต์พระพุทธเจ้าหลวง

จากนั้น จึงเสด็จไปยังโรงเรียนซึ่งชาวเมืองนั้นได้สร้างขึ้นเป็นอนุสาวรีย์พระพุทธเจ้าหลวง มีกรมทหารราบ 14 ( เพชรบุรี ) และกองลูกเสือมณฑลราชบุรี ตั้งแถวรับเสด็จ หม่อมเจ้าสฤษดิเดช ทรงอ่านรายงานการสร้างโรงเรียน ทรงมีพระราชดำรัสตอบ พระราชทานนามโรงเรียนว่า " โรงเรียนเบณจมราชูทิศ ราชบุรี " แล้วทรงรับไว้เป็นโรงเรียนหลวง เสด็จกลับไปประทับยังพระอุโบสถ พระสงฆ์ 61 รูป มีพระธรรมวโรดม เป็นประธาน และเจ้าคุณเมืองเพชรบุรี ราชบุรี และสมุทรสงคราม สวดมนตร์จบ แล้วพระธรรมวโรดมถวายเทศน์กัณฑ์ 1 จบ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก โปรดให้พนักงานภูษามาลา เชิญพระบรมทนต์กลับ มีทหารตำรวจ และข้าราชการมณฑล ในกระบวนแห่กลับเข้าพลับพลา เสด็จกลับทางเรือประทับพลับพลา



วันที่ 25 กันยายน 2456 เวลาเช้า 2 โมงครึ่ง เสด็จกลับกรุงเทพ ทางเรือโดยกรมหมื่นกำแพงเพชรอัครโยธิน กรมหมื่นอดิศร สมุหเทศาภิบาล และ ข้าราชการส่งเสด็จเป็นอันมาก

5 กุมภาพันธ์ 2456 ( นับอย่างใหม่ต้องปี 2457 ) เวลาบ่าย 2 โมงครึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องสนามทหารบก เสด็จไปประทับรถไฟพิเศษจากสถานีบ้านโป่ง ไปสรงน้ำพระศพ จอมพล พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช พระนามเดิม พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช ( เสนาบดีกระทรวงกลาโหมผู้เป็นที่สนิทชิดเชื่อกับพระเจ้าอยู่หัวเป็นอย่างมาก ) เมื่อสรงน้ำพระศพแล้ว รีบเสด็จกลับไปประทับแรมที่ค่ายหลวงบ้านโป่งในคืนนั้น


Last edited by Wisarut on 19/02/2024 1:24 am; edited 2 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 26/11/2006 7:29 pm    Post subject: Reply with quote

11 มกราคม 2457 ( นับอย่างใหม่ต้องปี 2458 ) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จประทับรถไฟจากสถานีบางกอกน้อย ไปยังเมืองเพชรบุรี เมื่อขบวนผ่าน นครปฐม และ ราชบุรี มีกระบวนรับเสด็จ พร้อมกองเกียรติยศที่สถานี เมื่อถึงเมืองเพชรบุรีได้ประทับแล้วที่พระรามราชนิเวศน์ (วังบ้านปืน)

16 มกราคม 2457 เสด็จประทับค้างแรมที่บ้านห้วยโรง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี รอยต่อแดนกับ อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี

17 มกราคม 2457 เวลาย่ำรุ่ง ออกเดินทางต่อ ผ่านบ้านดอนยายมอญ ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี เวลา 1 โมง 25 นาที ตกเย็นเสด็จถึงตำบลอ่างทอง ที่วัดเขาน้อยเทียมสวรรค์ จึ่งให้พักแรม เปิดการแสดงเสือป่า มีซ้อมลูกบทเข้าแตร เวลา 2 ทุ่ม ร้องเพลงจนเวลายาม 1 สวดมนต์ไหว้พระ

18 มกราคม 2457 ออกจากตำบลอ่างทองเวลาย่ำรุ่ง 20 นาที เสด็จยังเขาวังเวลา 1 โมง 25 นาที ให้หยุดพัก 20 นาที ก่อนเสด็จต่อยังค่ายหลุมดิน ระหว่างคลอง บางสองร้อย กับคลองหลุมดิน ตลอดไปตามฝั่งขวาแม่น้ำแม่กลอง ประทับแรมที่ ค่ายหลุมดิน 2 คืน

.......
20 มกราคม 2457 เสด็จจากค่ายหลุมดิน ไปหนองสองห้อง ตำบลเกาะพลับพลา อ. เมืองราชบุรี เวลาบ้านเสด็จถึงที่ประทับที่ ตำบลปากช่อง อำเภอจอมบึง จ.ราชบุรี ....

21 มกราคม 2457 เสด็จจากปากช่อง ไปประทับแรมหนองบัวค่าย

22 มกราคม 2457 เสด็จจากหนองบัวค่าย ไปประทับแรม ด่านทับตะโก อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี เวลาค่ำให้มีการแสดงละคอนเรื่อง คนหูหนวก คนเป็นอ่าง ( ติดอ่าง ) และ ละคอนนกหุ่นกระบอก และได้ประทับแรมต่อที่ ด่านทับตะโกอีก 1 วัน

24 มกราคม 2457 เสด็จจากด่านทับตะโก ไปประทับร้อนที่ห่วยท่าช้าง จากนั้นเสด็จประทับร้อนหนองแฟบ

.....

30 มกราคม 2457 เวลาบ่าย 3 โมงเสด็จจาก หนองกระจับ ไปประทับแรม ค่ายหลวงบ้านโป่ง ซึ่งอยู่เหนือตัวอำเภอเมืองบ้านโป่งไปทางเหนือ 400 เมตร มีอาณาเขตตั้งแต่ริมแม่น้ำแม่กลอง จรดถนน 18 ( บ้านโป่ง - กาญจนบุรี ) และประทับแรมร่วมการซ้อมรบเสือป่า จนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2457


16 กุมภาพันธ์ 2457 เวลาบ่าย 4 โมง 30 นาที พระเจ้าอยู่หัวเสด็จประทับรถไฟพระที่นั่งจาก สถานีบ้านโป่ง ไปยังสถานีนครปฐม แล้วเสด็จประทับยังพระที่นั่งพิมานปฐม พระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 26/11/2006 7:49 pm    Post subject: Reply with quote

4 มิถุนายน - 4 สิงหาคม 2458 เสด็จพระราชดำเนิน เลียบมณฑลปักษ์ใต้

4 มิถุนายน 2458 เสด็จรถไฟพระที่นั่ง จากบางกอกน้อย ถึงราชบุรี เวลาประมาณ 5 โมงเช้า รถไฟหยุดที่ชานชลาพิเศษ ที่ทางกองพลทหารบกราบที่ 4 ได้จัดสร้างขึ้น เพื่อที่พระองค์จะไม่ต้องข้ามสะพานไปฝั่งทหาร มีปะรำรับเสด็จ มีข้าราชการทหาร พลเรือน ตามเสด็จพระราชดำเนินเป็นจำนวนมาก เช่น นายพลโทหม่อมเจ้าคำรบ ( อธิบดีกรมตำรวจภูธร ) พลตรีพระยาพิไชยชาญฤทธิ์ ( ผบ. พล. 4 ) มีทหารกองเกียรติยศ

จากนั้น ได้ประทับพระเก้าอี้ที่ทางทหารได้ถวายเป็นพระราชยาน เสด็จยังปะรำทหาร มีการไชยโยโห่ร้องกัน ... ทหารกองเกียรติยศได้ร้องเพลงสำหรับกรมที่พระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานไว้เมื่อ เดือนกุมภาพันธ์ 2457 ต้นฉบับเพลงดังกล่าวได้เข้ากรอบติดไว้ที่ว่าการกองพล ... ยังไม่ทราบว่าสาบสูญไปไหนก็ไม่ทราบ ....

จากนั้น พระเจ้าอยู่หัวประทับที่ว่าการกองพล เสวยพระกระยาหารกลางวันร่วมกับ พลตรีพระยาพิไชยชาญฤทธิ์ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่ร่วมโต๊ะเสวย

เวลาบ่าย 3 โมง เสด็จจากโรงทหารกองพลที่ 4 เสด็จประทับรถไฟพระที่นั่งที่ชานชลาพิเศษ เดินทางต่อไปยัง จังหวัดเพชรบุรีต่อไป โดยมี มหาอำมาตย์ตรีหม่อมเจ้าสฤษดิเดช ( สมุหเทศาภิบาลมณฑลราชบุรี ) และ พลตรีพระยาพิไชยชาญฤทธิ์ ( ผบ. พล. 4 ) ส่งเสด็จ


5 - 26 กุมภาพันธ์ 2458 ( นับอย่างใหม่ 2459 ) เสด็จไปซ้อมรบเสือป่าโดยเริ่มจากการซ้อมรบย่อย ระหว่างกองร้อย ที่นครปฐม ก่อนซ้อมรบระหว่างกองพัน ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2458มายุติการซ้อมรบ ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2458

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2458 มีสวนสนามหน้าองค์พระปฐมเจดีย์ เวลาค่ำมีพระราชทานเลี้ยง และการรื่นเริง ก่อนเสด็จกลับพระนครในวันรุ่งขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 26/11/2006 8:08 pm    Post subject: Reply with quote

วันอังคารที่ 14 มกราคม 2461( นับอย่างใหม่ ปี 2462 ) เสด็จพระราชวังสนามจันทร์ ให้มีการซ้อมรบเสือป่าที่สนามจันทร์

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2461 เสือป่ากองเสนาหลวงรักษาพระองค์ เดินทางจากสนามจันทร์ ยังค่ายหลวงบ้านโป่ง มีการซ้อมรบเสือป่าระดับกองพัน

วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2461 เสือป่าทั้งหมดไปยังคลองตาคต

วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2461 นายพลสตีเวนสัน นายทหารอังกฤษได้ชมการซ้อมรบเสือป่าที่คลองตาคต เมื่อซ้อมรบเสร็จ มีพระราชทานเลี้ยง

วันที่ 1 มีนาคม 2461 พระเจ้าอยู่หัวเสด็จตรวจภูมิประเทศ ที่จะซ้อมรบ

วันที่ 2-3 มีนาคม 2461 ซ้อมรบใหญ่ที่ดอนก้างปลา

วันที่ 4 มีนาคม 2461 มีซ้อมรบย่อยพิเศษ ให้หม่อมเจ้าชัชชวลิตนำทัพไปตีสนามเพลาะ ซึ่งมีเจ้าคุณสุรบดินทร์ เป็นฝ่ายรับ เสร็จแล้วกลับเข้าค่ายหลวงโพธาราม

วันที่ 5 มีนาคม 2461 มีการเลี้ยงรื่นเริงส่งเสือป่า มีการเล่นกล ดนตรี

วันที่ 6 มีนาคม 2461 เสือป่าแยกกองกลับ โดยขึ้นรถไฟที่บ้านโป่ง
แต่พระเจ้าอยู่หัว ยังประทับที่ค่าหลวงบ้านโป่งอีก 8 วัน ได้ทอดพระเนตรภาพยนตร์ เรื่อง Grey Ghost และ Red Ace เรื่องละ 2 คืน ทีการเล่นเทนนิส ฟุตบอล แบดมินตัน

วันที่ 12 มีนาคม 2461 ได้เสด็จนมัสการพระเท่นดงรัง ที่เมืองกาญจนบุรี ก่อนเสด็จกลับพระนคร
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, 4 ... 9, 10, 11  Next
Page 3 of 11

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©