RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311216
ทั่วไป:13151197
ทั้งหมด:13462413
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 

เชิญร่วมงาน Asia Pacific Rail 2024 วันที่ 29-30 พ.ค. 2567 ที่ไบเทคบางนา
 
ข่าวประชาสัมพันธ์
     งาน Asia Pacific Rail ก้าวเข้าสู่ปีที่ 26 และสำหรับปี 2024 นี้ถือเป็นโอกาสอันดี ที่เว็บไซต์รถไฟไทยดอทคอม ได้รับเกียรติให้ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ อย่างเป็นทางการ
 
     โดยในการจัดงานในปี 2024 นี้ Asia Pacific Rail จะครอบคลุมถึงนวัตกรรมล่าสุด, ข้อมูลดิจิทัลเชิงลึกเกี่ยวกับระบบ, ระบบอาณัติสัญญาณและการสื่อสาร, การดำเนินงานและการบำรุงรักษา, การจัดการสินทรัพย์, เรื่องของรถไฟสายหลัก ระบบรถไฟขนส่งมวลชน และการเพิ่มการขนส่งสินค้าในรูปแบบใหม่ๆ
 
     สามารถเข้าร่วมงาน Asia Pacific Rail 2024 ได้ตั้งแต่ วันที่ 29 - 30 พฤษภาคม 2567 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ
 
 
Asia Pacific Rail 2024

ผู้บันทึก Editor เมื่อ Tuesday 19 Mar 24@ 12:57:20 +07 (2 ครั้ง)
(แสดงความเห็น? | คะแนน: 0)

 
 
การรถไฟฯ ประเดิมรับมอบ หัวรถจักรดีเซลไฟฟ้ารุ่นใหม่ น้ำหนักกดเพลา 16 ตัน/เพลา
 
ข่าวจาก รฟท.

     เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ณ สถานีรถไฟศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีรับมอบรถจักรดีเซลไฟฟ้า (Diesel Electric Locomotive) โครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า น้ำหนักกดเพลา 16 ตัน/เพลา พร้อมอะไหล่ ระยะที่ 1 จำนวน 20 คัน จากกิจการร่วมค้า เอสเอฟอาร์ ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่างบริษัท ซานโฟโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท ริเวอร์เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด โดยมีคณะผู้บริหารการรถไฟฯ หน่วยงานภาคเอกชน คณะสื่อมวลชน ร่วมเป็นสักขีพยานในการรับมอบ

     นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรับมอบรถจักรดีเซลไฟฟ้า (Diesel Electric Locomotive) ระยะที่ 1 จำนวน 20 คัน เป็นส่วนหนึ่งในแผนการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพ การให้บริการและสร้างรายได้ของการรถไฟฯ โดยถือเป็นรถจักรดีเซลไฟฟ้ารุ่นใหม่ คุณภาพสูง ที่ผลิตโดยบริษัท ซีอาร์อาร์ซี ซิชูเยียน (CRRC Qishuyan) ผู้ผลิตรถจักรดีเซลชั้นนำของประเทศจีน และมีเครื่องยนต์ที่ผลิตจากประเทศเยอรมนี ซึ่งจะนำมาใช้ทดแทนรถจักรเดิมที่มีอายุการใช้งานมายาวนาน และบางคันมีการใช้งานมากกว่า 50 ปี จึงถือเป็นการพลิกโฉมการการให้บริการครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่ง การได้มาซึ่งหัวรถจักรในครั้งนี้ จะช่วยให้การรถไฟฯ มีรถจักรเพียงพอต่อการให้บริการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าได้มากขึ้น เพื่อรองรับโครงการรถไฟทางคู่ที่ทยอยเปิดใช้งานในอนาคต

     ทั้งนี้ ที่ผ่านมา การรถไฟฯ ได้มีการเปิดประกวดราคา และลงนามในสัญญาในโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า น้ำหนักกดเพลา 16 ตัน/เพลา พร้อมอะไหล่ จำนวน 50 คัน วงเงิน 6,525 ล้านบาท กับกิจการร่วมค้า เอสเอฟอาร์ ไปเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2563 โดยมีกำหนดระยะเวลาการส่งมอบรถจักรแบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดยระยะที่ 1 จำนวนไม่น้อยกว่า 20 คัน ภายในระยะเวลา 540 วัน นับจากวันลงนามฯ หรือภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 และระยะที่ 2 จำนวนที่เหลืออีก 30 คัน ส่งมอบภายใน 915 วัน นับจากวันลงนามฯ หรือ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566

     “การรถไฟฯ มั่นใจว่าโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าดังกล่าว จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ พี่น้องประชาชน เพราะถือเป็นรถจักรที่มีความทันสมัย มีสมรรถนะการใช้งานที่ดีกว่าเดิม ซึ่งช่วยให้ทั้งการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารมีความรวดเร็ว ปลอดภัย รวมถึงช่วยสร้างโอกาสในการหารายได้ของการรถไฟฯ ตลอดจนเสริมศักยภาพการขนส่งทางรางให้กับประเทศไทยได้อย่างเป็นอย่างดี”

     สำหรับจุดเด่นของรถจักรดีเซลไฟฟ้าดังกล่าว ได้ถูกออกแบบและผลิตด้วยเทคโนโลยีทันสมัย มีสมรรถนะในการลากจูงขบวนรถโดยสารได้ความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และลากจูงขบวนรถสินค้าที่ความเร็วสูงสุด 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้ มีการติดตั้งระบบห้ามล้ออัตโนมัติ (Automatic Train Protection - ATP) รองรับกับมาตรฐาน ETCS level 1 : (European Train Control System: ETCS) รวมถึง มีเครื่องยนต์รถจักร ผลิตจากประเทศเยอรมนี ซึ่งมีค่ามาตรฐานในการปล่อยควันไอเสียต่ำตามมาตรฐานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนได้ติดตั้งระบบกล้อง CCTV เพื่อบันทึกเหตุการณ์ด้านหน้ารถจักร และเครื่องพ่วงเพื่อยกระดับความปลอดภัยในการเดินรถอีกด้วย

CRRC (CSY) Locomotive

ที่มา : ทีมพีอาร์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ : 04/02/2565

ผู้บันทึก Editor เมื่อ Sunday 06 Feb 22@ 08:30:00 +07 (601 ครั้ง)
(แสดงความเห็น? | คะแนน: 0)

 
 
การรถไฟฯ พร้อมเปิดให้บริการเดินรถโดยสารรุ่นใหม่ใน 4 เส้นทาง
 
ข่าวจาก รฟท.

     การรถไฟฯ พร้อมเปิดให้บริการเดินรถโดยสารถรุ่นใหม่ใน 4 เส้นทาง เส้นทาง “อุตราวิถี” กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ และเส้นทาง “อีสานวัตนา” กรุงเทพ-อุบลราชธานี-กรุงเทพ เริ่มวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 ขณะที่เส้นทาง “อีสานมรรคา” กรุงเทพ-หนองคาย-กรุงเทพ และเส้นทาง “ทักษิณารัถย์” กรุงเทพ-หาดใหญ่-กรุงเทพ เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2559 โดยเริ่มให้จองตั๋วโดยสารแล้ว ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป

     สืบเนื่องจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มีการดำเนินการจัดหาและได้ทยอยรับมอบรถโดยสาร รุ่นใหม่ สำหรับบริการเชิงพาณิชย์จำนวน 115 คัน เพื่อนำมาปรับปรุงการให้บริการเดินทางแก่พี่น้องประชาชน พร้อมทั้งได้รับพระราชทาน ชื่อขบวนและพระราชทานอนุญาต ให้เชิญชื่อพระราชทานประดับที่ตู้โดยสารรถไฟใหม่ทั้ง 115 คัน จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ใน 4 เส้นทาง ได้แก่

  1. เส้นทางกรุงเทพ - เชียงใหม่ - กรุงเทพ พระราชทานชื่อว่า “อุตราวิถี” 
  2. เส้นทางกรุงเทพ-อุบลราชธานี-กรุงเทพ พระราชทานชื่อว่า “อีสานวัตนา” 
  3. เส้นทางกรุงเทพ-หนองคาย-กรุงเทพ พระราชทานชื่อว่า “อีสานมรรคา” 
  4. เส้นทางกรุงเทพ-หาดใหญ่-กรุงเทพพระราชทานชื่อว่า “ทักษิณารัถย์” 

      นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ การรถไฟฯ มีความพร้อมที่จะการเปิดให้บริการเดินรถโดยสารรุ่นใหม่ใน 4 เส้นทาง และกำหนดวันเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการใน  2 เส้นทางแรก เส้นทาง “อุตราวิถี” กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ และเส้นทาง “อีสานวัตนา”กรุงเทพ-อุบลราชธานี-กรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 เป็นต้นไป ขณะที่อีก 2 เส้นทาง เส้นทาง“อีสานมรรคา” กรุงเทพ-หนองคาย-กรุงเทพ และเส้นทาง “ทักษิณารัถย์” กรุงเทพ-หาดใหญ่-กรุงเทพ เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2559 เป็นต้นไป ทั้งนี้ การให้บริการรถโดยสารรุ่นใหม่ใน 4 เส้นทาง จะนำมาให้บริการเดินรถทดแทนรถโดยสารปัจจุบัน ตามตารางเวลาเดินรถเดิม 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ เส้นทางกรุงเทพ-หนองคาย-กรุงเทพ และเส้นทางกรุงเทพ-หาดใหญ่-กรุงเทพ ยกเว้นเส้นทาง กรุงเทพ-อุบลราชธานี-กรุงเทพ ที่จะเปิดให้บริการทั้งขบวนรถโดยสารใหม่ และขบวนรถปัจจุบันควบคู่กัน แต่จะให้ขบวนรถใหม่เดินรถทดแทนเวลาเดิมของรถปัจจุบัน ขณะที่ขบวนรถปัจจุบันจะมีการขยับเวลาการให้บริการที่เหมาะสมต่อไป

     สำหรับรายละเอียดตารางเวลาเดินรถประจำวันของรถโดยสารรุนใหม่ ประกอบด้วย 

  • ขบวน 9 รถด่วนพิเศษอุตราวิถีเส้นทางกรุงเทพ–เชียงใหม่ ออกเวลา 18.10 น.ถึงเวลา 07.15 น. 
  • ขบวน 10 รถด่วนพิเศษอุตราวิถีเส้นทางเส้นทางเชียงใหม่-กรุงเทพ ออกเวลา 18.00 น.ถึงเวลา 06.50 น. 
  • ขบวน 23 รถด่วนพิเศษอีสานวัตนาเส้นทางกรุงเทพ–อุบลราชธานี ออกเวลา 20.30 น.ถึงเวลา 06.35 น. 
  • ขบวน 24 รถด่วนพิเศษอีสานวัตนาเส้นทางอุบลราชธานี-กรุงเทพ ออกเวลา 19.00 น.ถึงเวลา 05.16 น. 
  • ขบวน 25 รถด่วนพิเศษอีสานมรรคาเส้นทางกรุงเทพ-หนองคาย ออกเวลา 20.00 น.ถึงเวลา 06.45 น.
  • ขบวน 26 รถด่วนพิเศษอีสานมรรคาเส้นทางหนองคาย-กรุงเทพ ออกเวลา 19.10 น.ถึงเวลา 06.00 น. 
  • ขบวน 31 รถด่วนพิเศษทักษิณารัถย์เส้นทางกรุงเทพ-หาดใหญ่ ออกเวลา 14.45 น.ถึงเวลา 06.35 น. 
  • ขบวน 32 รถด่วนพิเศษทักษิณารัถย์เส้นทางหาดใหญ่-กรุงเทพ ออกเวลา 18.45 น.ถึงเวลา 10.30 น.

      นายวุฒิชาติกล่าวต่อว่า ในเส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ และกรุงเทพ-อุบลราชธานี-กรุงเทพ การรถไฟฯ ได้เปิดให้ผู้โดยสารสามารถซื้อตั๋วโดยสาร สำหรับใช้บริการรถโดยสารรุ่นใหม่ได้แล้ว ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเส้นทางกรุงเทพ-หนองคาย-กรุงเทพ และกรุงเทพ-หาดใหญ่-กรุงเทพ สามารถจองตั๋วโดยสารได้ทุกสถานีทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2559 เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารที่ได้จองตั๋วโดยสารไว้ล่วงหน้าแล้ว และมีกำหนดเดินทางหลังจากขบวนรถใหม่เริ่มให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน และวันที่ 2 ธันวาคม 2559 นั้น การรถไฟฯ อนุญาตให้ผู้โดยสารสามารถใช้บริการรถโดยสารรุ่นใหม่ได้ทันที โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม 

      อัตราค่าโดยสารรถโดยสารรุ่นใหม่ทั้ง 4 เส้นทาง ประกอบด้วย 

  1. เส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ 
    รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 เตียงบน 791 บาท เตียงล่าง 881 บาท 
    รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 1 เตียงบน 1,253 บาท เตียงล่าง 1,453 บาท 
  2. เส้นทางกรุงเทพ-อุบลราชธานี-กรุงเทพ
    รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 เตียงบน 731 บาท เตียงล่าง 821 บาท 
    รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 1 เตียงบน 1,120 บาท เตียงล่าง 1,320 บาท 
  3. เส้นทางกรุงเทพ-หนองคาย-กรุงเทพ
    รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 เตียงบน 748 บาท เตียงล่าง 838 บาท 
    รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 1 เตียงบน 1,157 บาท เตียงล่าง 1,357 บาท 
  4. เส้นทางกรุงเทพ-หาดใหญ่-กรุงเทพ
    รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 เตียงบน 855 บาท เตียงล่าง 945 บาท 
    รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 1 เตียงบน 1,394 บาท เตียงล่าง 1,594 บาท

      การรถไฟฯ ได้ทยอยรับมอบตู้รถโดยสาร ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และได้มีการดำเนินการตรวจรับ พร้อมกับทดลองการเดินรถอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีความมั่นใจว่ารถโดยสารรุ่นใหม่มีความพร้อม เปิดให้บริการตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกระทรวงคมนาคม ซึ่งขณะนี้ การรถไฟฯ มีความมั่นใจรถโดยสารชุดใหม่มีความพร้อมเต็มที่แล้ว และสามารถนำมิติใหม่แห่งการเดินทางทางรถไฟที่ดีมาสู่พี่น้องประชาชนคนไทย สำหรับขบวนรถโดยสารรุ่นใหม่ แต่ละขบวนประกอบด้วย รถพ่วงเป็นรถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 1 (บนอ.ป.) รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 (บนท.ป.) ในจำนวนนี้มีรถสำหรับผู้พิการ 1 คัน รถโบกี้ขายอาหารปรับอากาศ (บกข.ป.) และรถกำลังไฟฟ้า (Power Car) ที่สามารถทำให้ขบวนรถไฟขบวนนี้เป็นขบวนรถ ที่ช่วยลดปัญหามลภาวะทางอากาศ อีกทั้งยังประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทันสมัยครบครัน อาทิ ห้องน้ำระบบสุญญากาศ ระบบกันสะเทือนแบบรถไฟความเร็วสูง ระบบทีวีแจ้งเตือน ปลั๊กไฟบริการทุกที่นอน จอทีวีส่วนตัวสำหรับผู้โดยสารชั้น 1 กล้องวงจรปิด ควบคุมความปลอดภัย รถสำหรับคนพิการ เป็นต้น

      ทั้งนี้สามารถ สอบถามรายละเอียดการเดินทาง ตารางเวลาเดินรถ และข้อมูลต่างๆ ได้ที่ CALL CENTER 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มา: กองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
ภาพ: Tsongwudh Kh
วันที่: 26/10/2559

ผู้บันทึก Editor เมื่อ Thursday 27 Oct 16@ 09:00:00 +07 (3765 ครั้ง)
(มีต่อ... | 1 ข้อคิดเห็น | คะแนน: 0)

 
 
รฟท. จัดพิธีเปิดตัวรถนอนปรับอากาศชุดใหม่จำนวน 39 คัน
 
ข่าวจาก รฟท.     วันที่ 14 กรกฎาคม 2559 นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เดินทางไปทำพิธีเปิดตัวรถโดยสารชุดใหม่จากบริษัท CRRC (China Railway Rolling Stock Corporation Limited ที่สถานีชุมทางศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยมีนายประสิทธิ์ โพธสุธน ผู้แทนจากกิจการร่วมค้า BBC Ms. Zhang Peidong ทูตพาณิชย์สาธารณรัฐประชาชนจีน และนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี มาเป็นสักขีพยานในพิธีเปิดตัวครั้งนี้

     นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การจัดหารถโดยสารใหม่ชุดนี้ ถือเป็นย่างก้าวสำคัญของการรถไฟฯ ในการเปลี่ยนแปลงการให้บริการรถโดยสารให้ทันสมัย เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกสบาย ตามนโยบายของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่ารัฐบาลชุดปัจจุบัน มีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะพัฒนาระบบรางของประเทศให้มีความสมบูรณ์ และเมื่อการตรวจสอบเสร็จสิ้น และนำขบวนรถไปทดสอบการเดินรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การรถไฟแห่งประเทศไทย จะเชิญสื่อมวลชนร่วมเดินทางไปกับรถนอนปรับอากาศชุดใหม่นี้ ในเส้นทาง กรุงเทพ-เชียงใหม่ ในเดือนสิงหาคม โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานในพิธีเปิดเดินรถอย่างเป็นทางการ

     นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จะมีการทยอยรับมอบรถโดยสารรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง จนครบทั้งหมด 115 คัน ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ และการรถไฟฯ มีแผนนำรถโดยสารชุดใหม่ทั้งหมด ไปเปิดเดินขบวนให้บริการเป็นขบวนรถด่วนพิเศษใน 4 เส้นทางด้วยกัน ระหว่างสถานีกรุงเทพ–เชียงใหม่, อุบลราชธานี, หนองคาย และหาดใหญ่ ไป-กลับ วันละ 2 ขบวนต่อเส้นทาง รวม 8 ขบวน ซึ่งจะเปิดให้บริการได้ครบทั้ง 4 เส้นทาง ในปีงบประมาณ 2560 และการรถไฟฯ จะมีการจัดหาขบวนรถมาประจำการเพิ่มเติมต่อไปในอนาคต

     นายวุฒิชาติกล่าวต่อว่า รถโดยสารรุ่นใหม่ทั้งหมดจะมีระบบการทำงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย โดยในส่วนรถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 1 (เฟิร์สคลาส) ซึ่งมี 24 ที่นั่ง 12 ห้อง ได้มีการติดตั้งจอแอลซีดีสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง เพื่อใช้เป็นช่องทางแจ้งข้อมูลข่าวสารของการรถไฟฯ ถึงผู้โดยสาร รวมถึงรวบรวมรายการบันเทิงชั้นนำ เช่น ภาพยนตร์ เพลง เพื่อให้ความบันเทิงตลอดการเดินทาง ขณะเดียวกันผู้โดยสารยังใช้ช่องทางนี้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่บนรถไฟ เช่น สั่งอาหารได้จากที่นั่งทันที รวมไปถึงมีไฟสำหรับอ้านหนังสือหัวเตียง ช่องเสียบ USB และปลั๊กไฟ

     ขณะที่รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 มีการติดตั้งจอแอลซีดีขนาดใหญ่ 4 จอ ใช้แจ้งข้อมูลข่าวสารให้ผู้โดยสาร เช่น การแจ้งเตือนระยะเวลาถึงสถานีปลายทาง ข้อมูลข่าวสารอื่นๆ เช่นเดียวกับป้ายบอกข้างตัวรถได้ทำเป็นระบบดิจิทัลสำหรับบอกชื่อสถานี ไฟหัวเตียง และปลั๊กไฟในทุกที่นั่ง ในส่วนของบริการห้องน้ำ การรถไฟฯ ได้นำห้องน้ำระบบปิดสุญญากาศ ซึ่งมีความทันสมัยเท่ากับห้องน้ำบนเครื่องบินมาให้บริการ มีความสะอาด สะดวก ลดปัญหากลิ่นเหม็น และประหยัดน้ำกว่าเดิม

     ขบวนรถนอนชุดใหม่นี้เป็นขบวนรถที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะได้นำระบบ Power Car ที่ใช้รถคันเดียวติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าในการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับขบวนรถ เมื่อเทียบกับระบบเดิมที่ใช้เครื่องยนต์ติดตั้งใต้ท้องรถโดยสารทุกคัน ทำให้ลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารขณะเดินทาง และประหยัดพลังงานมากขึ้นกว่าเดิมถึง 13% รถเสบียงหรือรถขายอาหารก็จะปรับจากการทำอาหารสด มาเป็นอาหารจากเตาไมโครเวฟ และมีบริการเข็นขายอาหารในขบวนรถด้วย ด้านระบบรักษาความปลอดภัย ภายในรถโดยสารใหม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดโดยรอบตลอดทั้งคันเพื่อสร้างความอุ่นใจในการเดินทาง รวมถึงมีการติดตั้งระบบห้ามล้อแบบดิสเบรก ระบบอัตโนมัติแจ้งเตือนการปิดประตูรถไม่สนิทก่อนขบวนออกจากสถานี รวมถึงการทำทางเชื่อมระหว่างตู้โดยสารบนขบวนรถ ทำให้ไม่มีช่องว่างระหว่างข้อต่อขบวน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง นอกจากนี้ในรถรุ่นใหม่ยังมีบริการตู้โดยสารสำหรับผู้พิการ และผู้สูงวัยเพื่อใช้เดินทาง โดยมีลิฟท์สำหรับยกรถวีลแชร์ รวมถึงบริการรถวีลแชร์สำรอง นอกจากนี้ยังมีเครื่องดับเพลิงภายในรถทุกคน รวมไปถึงที่ทุบกระจกไว้สำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินด้วย

     ทั้งนี้ในช่วงแรกของการให้บริการ ราคาค่าบริการจะยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง ถือเป็นช่วงโปรโมชั่นให้กับผู้ใช้บริการ และจะมีการปรับราคาเพิ่มเติมให้เหมาะสมต่อไปในอนาคต ทั้งหมดนี้นับเป็นมิติใหม่ในการยกระดับการให้บริการ เพื่อพารถไฟก้าวไปสู่อนาคต และเป็นความภาคภูมิใจ ของประชาชนชาวไทยต่อไป

     อนึ่ง การจัดหารถโดยสารรุ่นใหม่ สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ทั้ง 115 คัน แบ่งเป็นการจัดหารถพ่วงเป็นรถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่1 (บนอ.ป.) 9 คัน, รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 (บนท.ป.) 88 คัน ในจำนวนนี้มีรถสำหรับผู้พิการ 9 คัน, รถโบกี้ขายอาหารปรับอากาศ (บกข.ป.) 9 คัน และรถกำลังไฟฟ้า (Power Car) 9 คัน และในจำนวนทั้งหมดแบ่งเป็นรถสำหรับใช้งาน 104 คัน ส่วนอีก 11 คัน ใช้เป็นรถสำรองรวมทั้งสิ้น 115 คัน

ที่มา : กองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ : 14/07/2559

ผู้บันทึก Editor เมื่อ Friday 15 Jul 16@ 09:00:00 +07 (2941 ครั้ง)
(แสดงความเห็น? | คะแนน: 0)

 
 
รฟท. เตรียมรับมอบรถโดยสารรุ่นใหม่ สำหรับให้บริการเชิงพาณิชย์
 
ข่าวจาก รฟท.

     การรถไฟฯ เตรียมรับมอบรถโดยสารรุ่นใหม่ สำหรับให้บริการเชิงพาณิชย์ ชุดแรก (13 คัน ) ในวันที่ 12 มิถุนายน 2559 และหลังจากนั้นทยอยรับมอบรถโดยสารรุ่นใหม่ทั้งหมดจนครบ 115 คัน ช่วงเดือนพฤศจิกายน พร้อมเปิด ให้บริการ เป็นขบวนรถด่วนพิเศษ 4 เส้นทาง ระหว่างสถานีกรุงเทพ–เชียงใหม่, อุบลราชธานี, หนองคาย และหาดใหญ่ ไป – กลับ วันละ 2 ขบวนต่อเส้นทาง

     นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยความคืบหน้า การดำเนินโครงการจัดหารถโดยสารรุ่นใหม่ เพื่อให้บริการในเชิงพาณิชย์ จำนวน 115 คัน ในวันที่ 12 มิถุนายน 2559 ตามนโยบาย ของกระทรวงคมนาคม และรัฐบาล ในการมุ่งยกระดับการให้บริการของการรถไฟฯ โดยจะได้รับรถโดยสารรุ่นใหม่ชุดแรก จำนวน 13 คัน จากคู่สัญญา บริษัท CNR (China CNR Corporation Limited) โดยในจำนวนรถโดยสารชุดแรกทั้ง 13 คัน แบ่งเป็นรถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 1 (บนอ.ป.) จำนวน 1 คัน รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่2 (บนท.ป.) 10 คัน รถโบกี้ขายอาหารปรับอากาศ (บกข.ป.) 1คัน และรถกำลังไฟฟ้า (Power Car) 1 คัน โดยหลังจากมีการรับมอบรถโดยสารชุดแรกแล้ว การรถไฟฯ จะทยอยได้รับมอบรถโดยสารชุดต่อไป อย่างต่อเนื่องเดือนละ 2 ชุด จนครบ 115 คัน ในเดือนพฤศจิกายน 2559

     ทั้งนี้ การรถไฟฯ มีแผนนำรถโดยสารชุดใหม่ทั้งหมด ไปเปิดเดินขบวนให้บริการเป็น ขบวนรถด่วนพิเศษ 4 เส้นทาง ระหว่างสถานีกรุงเทพ – เชียงใหม่, อุบลราชธานี,หนองคาย และหาดใหญ่ ไป – กลับ วันละ 2 ขบวนต่อเส้นทาง รวม 8 ขบวน ซึ่งจะเปิดให้บริการได้ครบทั้ง 4 เส้นทาง ในปีงบประมาณ 2560 โดยวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดประมาณ 120 กม.ต่อชม. หากการก่อสร้างทางคู่แล้วเสร็จ สามารถถึงที่หมายปลายทางได้เร็วขึ้นเฉลี่ย3 ชั่วโมง คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยประมาณปีละ 1.073 ล้านคน และก่อให้เกิดรายได้เฉลี่ยประมาณปีละ 1,250.9 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนร้อยละ 11.0

     “การดำเนินโครงการจัดหารถโดยสารรุ่นใหม่ สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ จำนวน 115 คัน ของการรถไฟฯ เป็นส่วนหนึ่ง ในแผนการลงทุน ด้านโครงสร้างพื้นฐานระยะเร่งด่วนของการรถไฟฯ ปี 2553 – 2557 วงเงินลงทุนรวม 176,806.28 ล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรี มติเห็นชอบเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2553 ซึ่งการรถไฟฯได้ดำเนินการโครงการฯ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการมุ่งยกระดับบริการของการรถไฟฯ ให้เป็นที่พึ่งพิงของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกระดับ” นายวุฒิชาติกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันรถโดยสารประเภทรถนอนปรับอากาศ ที่พ่วงให้บริการในขบวนรถต่างๆ มีจำนวนไม่เพียงพอกับการใช้งาน ส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานมานาน จึงมีสภาพค่อนข้างเก่า อุปกรณ์บางส่วนชำรุด ดังนั้นเพื่อเป็นการสนองตอบความต้องการของตลาด เพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพ ในการให้บริการขนส่งผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะผู้โดยสารระดับกลางและระดับบนที่มีกำลังซื้อและต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง ตลอดเพื่อให้สอดคล้องกับแผนการก่อสร้างทางคู่ระยะเร่งด่วน

     สำหรับรายละเอียดการจัดหารถโดยสารรุ่นใหม่ สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ทั้ง 115 คัน แบ่งเป็น การจัดหารถพ่วงเป็นรถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่1 (บนอ.ป.) 9 คัน, รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่2 (บนท.ป.) 88 คัน ในจำนวนนี้มีรถสำหรับผู้พิการ 9 คัน, รถโบกี้ขายอาหารปรับอากาศ (บกข.ป.) 9 คัน และรถกำลังไฟฟ้า (Power Car) 9 คัน และในจำนวนทั้งหมดแบ่งเป็นรถสำหรับใช้งาน 104 คัน ส่วนอีก 11 คัน ใช้เป็นรถสำรอง รวมทั้งสิ้น 115 คัน

ที่มา: กองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ 06/06/2559

ผู้บันทึก Editor เมื่อ Tuesday 07 Jun 16@ 14:00:00 +07 (2973 ครั้ง)
(แสดงความเห็น? | คะแนน: 0)

 
 

359 เรื่อง (72 หน้า, 5 เรื่องต่อหน้า)
[ 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 ]


Languages

 
เลือกรูปแบบภาษา:

English Thai
 

Follow Us

 
Facebook Twitter
 

User Info

 
สวัสดี Guest


User ID

Password


Security Code
Enter Code

Type Security Code
 

ข้อมูลสมาชิก

 · สมาชิกวันนี้

0

 · สมาชิกเมื่อวาน

0

 · สมาชิกรออนุมัติ

0

 · สมาชิกทั้งหมด

2670


สมาชิกใหม่ล่าสุด
 01:06/09/2016wanwis
 02:05/09/2016TingHon
 03:29/08/2016Tanakrit
 04:29/08/2016yokpalm
 05:29/08/2016munco645utt

ผู้ที่กำลังใช้งานขณะนี้

 สมาชิก (0%)

1

 01:Forum profile Wisarut Wisarut

 ทั่วไป (100%)

795

 ทั้งหมด online

796


เข้าใช้งานมากที่สุด

 · ทั้งหมด

2386

 · สมาชิก

0

 · ทั่วไป

2386


สถิติการเข้าชม
 · วันนี้

60672

 · เมื่อวาน

77825

 · ทั้งหมด

308687710


สถิติการเข้าชมเฉลี่ย
 ·  ต่อชั่วโมง

1,797

 ·  ต่อวัน

40,241

 ·  ต่อเดือน

1,224,951

 ·  ต่อปี

14,699,415


เวลาของระบบ
 · เวลา

15:31:07

 · วัน

19/03/24

 · เขตเวลา

GMT + 7

 

Top Posters

 
   Mongwin 
 Posts: 
 44251 

   Wisarut 
 Posts: 
 42554 

   tuie 
 Posts: 
 12156 

   CivilSpice 
 Posts: 
 11192 

   black_express 
 Posts: 
 10060 

   ExtendeD 
 Posts: 
 9054 

   heerchai 
 Posts: 
 7730 

   alderwood 
 Posts: 
 6593 

   pattharachai 
 Posts: 
 6536 

   ksomchai 
 Posts: 
 6384 

 

Survey

 
ถ้าต้องเลือก Mega project ของรถไฟไทยในอนาคต คุณอยากได้อะไร ?

รถไฟความเร็วสูง (HST)
Rehab ทางรถไฟเดิม
สร้างทางคู่ทั้งประเทศ
จัดซื้อรถจักร/รถพ่วงใหม่
ก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่
ระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน



ผลสำรวจ
แบบสำรวจอื่นๆ

จำนวนผู้ลงคะแนน: 1946
คำแนะนำ: 6