ในวันศุกร์ที่ ๓๐ ธันวาคม๒๕๕๔ เวลา ประมาณ ๐๘.๓๐ น. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลตำรวจโท ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้แทนพระองค์ ในการดำเนินโครงการ “หนึ่งใจ.....ให้ประชาชน” และเป็นประธานพิธีปล่อยขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษสำหรับประชาชน ณ สถานีรถไฟกรุงเทพ(หัวลำโพง) เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

     มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้ดำเนินโครงการ “หนึ่งใจ....ให้ประชาชน” โดยมอบหมายให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จัดเดินรถไฟเที่ยวพิเศษ ในวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๔ วิ่งในเส้นทางสายเหนือ (กรุงเทพ-เชียงใหม่) ออกเวลา ๐๙.๒๐ น. สายตะวันออกเฉียงเหนือ (กรุงเทพ-อุบลราชธานี) ออกเวลา ๐๙.๓๐ น. และสายใต้ (กรุงเทพ-หาดใหญ่) ออกเวลา ๑๒.๐๐ น. ซึ่งขบวนรถดังกล่าว จะพ่วงด้วยรถนั่งชั้นที่ ๒ และรถโดยสารชั้น ๓ ปรับอากาศ

     สำหรับขบวนรถไฟที่เดินพิเศษตามโครงการ หนึ่งใจ ......ให้ประชาชน ได้กำหนดให้เป็นขบวนรถไฟฟรี ประชาชนที่จะเดินทาง สามารถมาติดต่อขอรับตั๋วโดยสารและเลขที่นั่ง ในวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๔ ตั้งแต่เวลา ๐๗.๐๐ น.เป็นต้นไป ทั้งนี้ จะมีที่นั่งจำนวนจำกัด เพียงขบวนละประมาณ ๒๐๐ ที่นั่งเท่านั้น โดยสอบถามรายละเอียด ในการเดินทาง ที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์สายด่วน Call Center ๑๖๙๐ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง

ที่มา : กองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ : 29/12/54

     นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดเหตุผู้ขับขี่รถยนต์ ได้ฝ่าเครื่องหมายจราจรและเครื่องกั้นถนน เข้ามาในเขตทางรถไฟ เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา ทำให้เกิดอุบัติเหตุขบวนรถไฟที่ ๔๐ ชน ส่งผลให้ขบวนรถไฟตกรางมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย จำนวนมากนั้น

     ในส่วนของการรถไฟฯ ได้มีมาตรการต่าง ๆ โดยเฉพาะเปิดพื้นที่สองข้างทาง ที่พนักงานขับรถไฟสามารถมองเห็น รถยนต์ที่จะขับผ่านได้อย่างชัดเจน ส่วนจุดเสี่ยงที่เดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ได้เปลี่ยน ปรับปรุงทาสีแผงกั้น หรือเครื่องกั้นอัติโนมัติให้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขั้น พร้อมกำชับให้พนักงานขับรถ ได้ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับขบวนรถไฟ และยวดยานที่จะอาศัยเส้นทางในการสัญจร และอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ เวลาในการเดินทางของประชาชนอื่นๆ ด้วย

     สำหรับผู้ขับขี่ยวดยาน ที่ต้องการอาศัยถนน ที่มีจุดตัดผ่านทางรถไฟเพื่อสัญจร ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรทางบก อย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืน นอกจากจะเกิดความสูญเสีย เสียหายแล้ว ยังจะทำให้ผู้ขับขี่ยวดยาน ที่อาศัยสัญจรถูกดำเนินคดีทางด้านกฎหมายอีกด้วย

     ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ การรถไฟฯ มีการจัดเดินขบวนรถถึงวันละ กว่า ๒๕๐ ขบวน ซึ่งเป็นรถที่วิ่งปกติ โดยจะมีเวลาเดินทางประจำ แต่ในช่วงนี้ การถไฟฯ ยังมีการจัดเดินขบวนรถพิเศษ เพิ่มขึ้นอีกกว่า ๒๐ ขบวน จึงต้องขอวิงวอน ให้ผู้ที่จะขับยวดยานผ่านจุดตัดผ่านทางรถไฟ ได้ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษด้วย นอกจากนี้ การรถไฟฯ ได้ประสานขอความร่วมมือ ไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ๔๗ จังหวัด ได้ออกสำรวจจุดตัดถนน กับทางรถไฟ เพื่อปักป้ายเตือนประชาชน ที่ไม่ชำนาญเส้นทาง หรือไม่ทราบว่าทางข้างหน้าเป็นทางรถไฟ ได้เพิ่มความระมัดระวัง ถึงความปลอดภัยอีกทางหนึ่งด้วย

     ขอให้ผู้ขับขี่ยวดยานได้คำนึงถึงว่า ผู้โดยสารที่จะเดินทางโดยรถไฟ ก็ต้องการเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทาง หรือไปพบปะญาติพี่น้อง เช่นเดียวกับท่าน ขอให้ทุกคนร่วมมือกัน ปฏิบัติตามกฎ ก็จะช่วยลดปัญหาอุบัติเหตุลงได้ และมีของขวัญปีใหม่ คือมีชีวิตที่ดีในวันและปีต่อ ๆ ไป

ที่มา : กองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ : 29/12/54

     นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) แจ้งว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๕ เป็นช่วงที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๔ ถึง วันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๕ สถานการณ์ด้านการโดยสารรถไฟ มีการสำรองที่ล่วงหน้า กับขบวนรถโดยสารปกติเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรถชั้นหนึ่งและชั้นสอง ที่มีการสำรองที่นั่งล่วงหน้า ๖๐ วัน จนเต็ม ทั้งเที่ยวไป-กลับ

     สำหรับในช่วงวันดังกล่าว มีประชาชนอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้ซื้อตั๋วล่วงหน้าไว้ และจะมาซื้อตั๋วในวันเดินทาง ฉะนั้น การรถไฟฯ (ร.ฟ.ท.) จึงได้เตรียมขบวนรถเที่ยวพิเศษชั้นสาม เที่ยวไปส่งประชาชนในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ สายเหนือ มีปลายทางที่สถานีอุดรธานี,อุบลราชธานี และสถานีศิลาอาสน์ จำนวน ๑๐ ขบวน ดังนี้ โดยผู้โดยสาร สอบถามรายละเอียดการเดินทาง ได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ โทรสายด่วน ๑๖๙๐ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง

กำหนดเวลาเดินรถพิเศษช่วยการโดยสารเทศกาลปีใหม่ 2555 เที่ยวไป

กำหนดเวลาเดินรถพิเศษช่วยการโดยสารเทศกาลปีใหม่ 2555 เที่ยวกลับ

ที่มา : กองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ : 29/12/54

     นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ ว่าระดับน้ำท่วมทางรถไฟ ในเส้นทางช่วงดอนเมือง-รังสิต-เชียงราก ลดระดับลงเหลือท่วมสูงประมาณ 25 เซนติเมตร การรถไฟฯ จึงอนุญาตให้เดินขบวนรถสายหลัก ซึ่งเป็นขบวนรถด่วนพิเศษเที่ยวขึ้น ที่ 1 และขบวนรถด่วนพิเศษเที่ยวล่อง ที่ 2 (กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ) เดินผ่านสถานีบางซื่อ - บางเขน - หลักสี่ - ดอนเมือง - รังสิต - อยุธยา โดยตรง ไปยังปลายทาง โดยไม่ต้องอ้อมไปฉะเชิงเทรา เริ่มวันที่ 25 พฤศจิกายน 2554 เป็นต้นไป ซึ่งนอกจากจะช่วยลดเวลาในการเดินทาง ของประชาชน ที่ใช้บริการเส้นทางสายเหนือแล้ว ยังช่วยลดความแออัดในทางช่วงแก่งคอย - คลองสิบเก้า - ฉะเชิงเทรา และประหยัดค่าน้ำมันลากจูงที่ต้องวิ่งอ้อมอีกด้วย

     ผู้ว่าการรถไฟฯ กล่าวด้วยว่า เมื่อวันวานนี้ได้มีการประชุม คณะทำงานด้านปฏิบัติการของการรถไฟฯ (OCC) ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้รายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วม รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะเร่งเปิดการเดินขบวนรถ เพื่อให้บริการประชาชน เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางหรือขนส่งสินค้า ในขณะที่พื้นที่อีกหลายจังหวัดยังประสบอุทกภัยอยู่ สำหรับเส้นทาง ที่ได้รับผลกระทบ จากน้ำท่วมทางสายเหนือที่ เหลือเพียง 2 แห่ง คือ ระหว่างสถานีดอนเมือง-รังสิต และช่วงรังสิต-เชียงราก มีระดับน้ำท่วมกว่าสันรางประมาณ 20-25 เซนติเมตร ได้มีการตรวจสอบสภาพทาง สะพาน ความมั่นคงของทาง สภาพประแจ ระบบสัญญาณและโทรคมนาคม ระบบการเดินรถเรียบร้อยแล้ว

     ด้านรถจักรลากจูง ฝ่ายการช่างกล การรถไฟฯ ได้สั่งดัดแปลงรถจักรดีเซลระบบไฮโดรลิก            ให้วิ่งผ่านระดับน้ำ ที่ท่วมสูงกว่าสันรางได้สูงถึง 45 เซนติเมตร (รถจักรดีเซลปัจจุบันที่ใช้ระบบไฟฟ้า วิ่งผ่านได้สูงได้เพียง 5 เซนติเมตร และระบบไฮโดรลิก วิ่งผ่านระดับน้ำ สูงกว่าสันรางได้ไม่เกิน 15 เซนติเมตร ) สามารถลากจูงขบวนรถได้ สำหรับตู้รถโดยสาร ก็ได้มีการใช้พลาสติกหุ้มอุปกรณ์สำคัญ ที่อยู่ใต้ท้องรถ ฉะนั้น ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2554 การรถไฟฯ จะให้ขบวนรถสายเหนือผ่านเส้นทางเดิม จากดอนเมืองไปอยุธยาได้แล้ว โดยจะเริ่มที่ขบวนรถสินค้า 2 ขบวน และรถโดยสารอีก 2 ขบวน หลังจากนั้นจะทยอยเปลี่ยนเส้นทางวิ่ง จากกรุงเทพ - มักกะสัน - ฉะเชิงเทรา - แก่งคอย มาวิ่งในเส้นทางสายหลักตามเดิมต่อไป ฉะนั้นเส้นทางสายเหนือ ยังมีรถที่ต้องวิ่งผ่านจังหวัดฉะเชิงเทราอีก 2 ขบวน คือ ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 9 และ 12 (กรุงเทพ - ฉะเชิงเทรา - เชียงใหม่ ไม่ผ่านสถานีดอนเมือง) ส่วนขบวนรถสายตะวันออกเฉียงเหนือ ยังต้องวิ่งผ่านจังหวัดฉะเชิงเทราเช่นเดิมไปก่อน

     สำหรับเส้นทางสายใต้ สถานการณ์น้ำลดระดับลงอย่างมาก มีปริมาณน้ำสูงสุดระหว่างสถานีศาลายา - วัดสุวรรณ สูงเหนือระดับสันรางประมาณ 35 เซนติเมตร และได้มีการเปิดเดินขบวนรถ โดยใช้เส้นทางร่วมมาตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2554 ที่ผ่านมา เนื่องจากช่วงที่ถูกน้ำท่วม เป็นเส้นทางรถไฟทางคู่ จึงสามารถสลับเส้นทางวิ่งได้ไม่เป็นอุปสรรค แต่บางจุดยังมีน้ำท่วมบ้าง เช่น สายสุพรรณบุรี ซึ่งต้องรอสถานการณ์ เพื่อประกาศเดินขบวนรถให้บริการประชาชนในโอกาสต่อไป

     ผู้โดยสารที่ประสงค์จะเดินทางด้วยขบวนรถไฟสายต่าง ๆ ขอให้ติดต่อศูนย์บริการ ข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์สายด่วน 1690 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มา : กองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ : 25/11/54

     ปริมาณน้ำยังคงไหลทะลัก เข้าสู่กรุงเทพอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์ล่าสุดในขณะนี้ น้ำได้เข้าสู่ดอนเมืองแล้ว ขณะที่ปริมาณน้ำช่วงลพบุรี-อยุธยายังคงทรงตัว ซึ่งการรถไฟฯ ยังคงให้บริการรถชานเมือง ช่วยเหลือประชาชน ในพื้นที่เขตดอนเมือง และพื้นที่ใกล้เคียง ที่ประสบความเดือดร้อน เรื่องการเดินทางอย่างต่อเนื่อง

     นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟฯ รายงานความคืบหน้า ของสถานการณ์น้ำท่วมทางรถไฟประจำวันที่ 21 ตุลาคม 2554 ว่า ยังน่าเป็นห่วง ซึ่งวันนี้ปริมาณน้ำ ได้ท่วมขังเส้นทางรถไฟสายเหนือ ในหลาย ๆ จุดเพิ่มขึ้น โดยการรถไฟฯ ยังคงประกาศหยุดการเดินรถ ในช่วงต่างๆ ได้แก่.-

• ช่วง สทล.ที่29/14-15 ช่วงระหว่างสถานีดอนเมือง-สถานีรังสิต ปริมาณน้ำสูงเหนือสันรางกว่า 64 เซนติเมตร
• ช่วง สทล.ที่ 30-1-32/16 ช่วงระหว่างสถานีรังสิต-สถานีเชียงราก ปริมาณน้ำสูงเหนือกว่า 56 เซนติเมตร
• ช่วง สทล.ที่ 58/8-60/11 ช่วงระหว่างสถานีบางปะอิน-สถานีบ้านโพ ปริมาณน้ำสูงเหนือกว่า 22 เซนติเมตร
• ช่วง สทล.ที่ 62/12-66/6 ช่วงระหว่างสถานีบ้านโพ-สถานีอยุธยา ยังมีระดับน้ำสูงเหนือสันรางกว่า 71 เซนติเมตร
• ช่วง สทล.ที่ 71/11-72/11 ช่วงระหว่างสถานีอยุธยา-สถานีบ้านม้า ยังมีระดับน้ำสูงเหนือสันรางกว่า 73 เซนติเมตร
• ช่วง สทล.ที่ 135/5-135/9 ช่วงระหว่างสถานีลพบุรี-สถานีท่าแค ยังมีระดับน้ำสูงเหนือสันรางกว่า 73 เซนติเมตร

     นางนวลอนงค์ฯ เพิ่มเติมว่า ในขณะนี้ช่วงรังสิต – ดอนเมือง น้ำเริ่มไหลทะลัก เข้าพื้นที่ทางรถไฟช่วงเชียงราก - รังสิต - ดอนเมือง จึงทำให้ประชาชน ที่อาศัยอยู่ในเขตชานเมือง ได้รับความเดือดร้อน การรถไฟฯ ได้จัดเดินรถช่วยเหลือประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และมีความจำเป็นต้องเดินทาง ในระยะสั้นๆ ไป-กลับ จำนวนทั้งสิ้น 54 ขบวนต่อวัน ได้แก่.- เดินรถช่วงสถานีดอนเมือง - อยุธยา - ดอนเมือง จำนวน 6 ขบวน กรุงเทพ - ดอนเมือง - กรุงเทพ จำนวน 18 ขบวน , ช่วงสถานีชุมทางแก่งคอย-สถานีมาบพระจันทร์-สถานีชุมทางแก่งคอย จำนวน 6 ขบวน, ช่วงสถานีลพบุรี-มาบพระจันทร์-ลพบุรี จำนวน 10 ขบวน ส่วนช่วงนครสวรรค์สถานการณ์น้ำในขณะนี้ได้ลดลง สามารถเดินรถในเส้นทางสายเหนือ จากสถานีบ้านหมี่-เชียงใหม่-บ้านหมี่ และช่วงสถานีโคกกระเทียม-พิษณุโลก-โคกกระทียม เพิ่มเป็น 14 ขบวนแล้ว สำหรับเส้นทางสายสุพรรณบุรีวันนี้ น้ำได้ท่วมเหนือสันรางช่วง สทล.ที่ 130/3-9 ระหว่างชุมทางหนองปลาดุก - สุพรรณบุรี ปริมาณน้ำสูงเหนือสันรางกว่า 18 เซ็นติเมตร ทำให้ขบวนรถชานเมืองที่ 355/356 กรุงเทพ-สุพรรณบุรี-กรุงเทพ เดินรถได้ถึงสถานีชุมทางหนองปลาดุกเท่านั้น

     หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ฯ เสริมว่า สำหรับผู้ที่จะเดินทางโดยรถไฟในช่วงนี้ ทั้งนี้ขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมทางรถไฟอย่างต่อเนื่อง ซึ่งท่านสามารถข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์สายด่วน 1690 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ www.railway.co.th

ที่มา : กองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ : 21/10/54