นางสาวมณฑกาญจน์ ศรีวิลาศ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการรถไฟฯ เห็นชอบให้การรถไฟฯ ปรับแผนกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยใช้มาตรการจูงใจ ให้ประชาชนหันมาใช้บริการรถไฟมากยิ่งขึ้น ควบคู่กับการเร่งพัฒนาคุณภาพบริการ ที่ได้เปิดโครงการ "ปีแห่งการบริการ" ไปแล้ว อาทิ การพัฒนาด้านความสะอาด ความปลอดภัย และการพัฒนาสุขภาพอนามัยตามโครงการส้วมสะอาด เป็นต้น 

     อย่างไรก็ดี ผู้ว่าการรถไฟฯ ได้มุ่งเน้นให้ประชาชน หันมาเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยจะร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อให้การสนับสนุน การเดินทางโดยรถไฟ ในหลายเส้นทาง ซึ่งจะมีการปรับปรุงตู้รถโดยสาร กำหนดเวลาในการเดินทางให้เหมาะสม ในขณะเดียวกัน ได้จูงใจให้ประชาชน และนักท่องเที่ยว ได้โดยสารขบวนรถไฟท่องเที่ยวที่การรถไฟฯ เปิดให้บริการเป็นประจำ คือ ขบวนรถพิเศษท่องเที่ยวสายน้ำตกกาญจนบุรี และท่องเที่ยวชายทะเลสวนสนประดิพัทธ์ ซึ่งมีบริการ ไป – กลับ ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ โดยเปิดโอกาสให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเป็นหมู่คณะ รวมกลุ่มกัน 10 คน จะได้รับตั๋วฟรี 1 คน แผนการตลาดครั้งนี้ เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึง 30 กันยายน 2552 นี้เท่านั้น

     สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นายสถานีรถไฟทุกแห่งหรือ Call Center 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ www.railway.co.th

ที่มา : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ฯ การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ : 21/05/2552

     เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมหารือร่วมกันระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยมีนายวิโรจน์ เตรียมพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ (รฟท.) และ นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการ ด้านตลาดภายในประเทศ (ททท.) ร่วมเป็นประธาน และผู้เกี่ยวข้องของทั้งสองหน่วยงาน ร่วมหารือเกี่ยวกับการจัดการท่องเที่ยว ในเส้นทางที่น่าสนใจ และมีเอกลักษณ์ในเส้นทางรถไฟทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศ ตามนโยบายของรัฐ

     นายกมลชนก มุกดา หัวหน้ากองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยว แจ้งว่า การรถไฟฯ เริ่มโครงการนำร่องส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีใหม่ ไม่เร่งรีบ (Slow Travel) ในชื่อโครงการ "เที่ยวรถไฟครึกครื้นเศรษฐกิจไทยคึกคัก" ภายใต้การสนับสนุนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการปรับปรุงตู้โดยสาร ชั้น 3 เป็นรถแฟนซีที่สวยงาม เพื่อนำมาให้บริการนำเที่ยวเดือนละครั้งมาตั้งแต่ต้นปี อาทิ ย้อนอดีต นั่งรถไฟไปเล่นกอล์ฟที่หัวหิน, เที่ยววาเลนไทน์สไตล์คาวบอย มวกเหล็ก สระบุรี และเที่ยวใกล้ๆ หัวใจเปิดหวูด ถวิลหาอดีต ราชบุรี ซึ่งทั้ง 3 รายการ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย

     จากเสียงตอบรับของนักท่องเที่ยว รวมถึงบริษัท เอกชน สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวต่างๆ ททท. จึงเสนอให้การรถไฟฯ ตกแต่ง และปรับปรุงตู้รถไฟเพิ่มเติม เป็นรถนั่งปรับอากาศชั้น 2 เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยว พร้อมกับเสนอเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ๆ ซึ่งก็สอดคล้องกับนโยบายของ ผู้ว่าการรถไฟฯ ที่มีดำริให้ดำเนินโครงการปรับปรุงตู้โดยสารรถไฟ เพื่อการท่องเที่ยว มาให้บริการในเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ โดยปรับปรุงตู้รถดีเซลราง (แสตนเลส) จำนวน 1 ชุด (2 ตู้) เป็นขบวนท่องเที่ยวตลาดร่มหุบ ที่สถานีแม่กลอง, ปรับปรุงตู้รถโดยสารเป็นรถโถงโล่ง 1 ตู้ และตู้โดยสาร 15 คัน สำหรับนักท่องเที่ยว สามารถชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางรถไฟ ในเส้นทางรถไฟสายมรณะ (กาญจนบุรี) และปรับปรุงรถปรับอากาศ พ่วงเพิ่มกับขบวนรถที่ ข้ามไปเที่ยว สปป.ลาว หนองคาย-ท่านาแล้ง

     เพื่อเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ททท.ยังได้เข้ามามีส่วนร่วม ในการส่งเสริมและสนับสนุน ผลิตสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวทางรถไฟ ให้อีกทางหนึ่งด้วย ตามนโยบายของ ททท.ที่ต้องการรณรงค์การท่องเที่ยวแบบประหยัดพลังงาน หรือ พลังงานหาร 100 ซึ่งเดินทางท่องเที่ยวโดยทางรถไฟ เป็นการเดินทางที่แสนคลาสสิค มีมนต์เสน่ห์ ไม่เร่งรีบ สามารถใช้เวลาอยู่ร่วมกับคนที่ท่านรักได้อย่างคุ้มค่าจริงๆ

ที่มา : กองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยว รฟท.
วันที่ : 13/05/52

     จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ณ เว็บบอร์ดฟรีที่ยิ้มสยามดอทคอม หรือที่รู้จักกันในชื่อของ "เว็บบอร์ดแฟนรถไฟไทย" โดยพี่หมอรักษ์พงศ์ แชมป์แฟนพันธุ์แท้รถไฟไทยคนแรก และคนเดียว จนกระทั่งพัฒนา่ต่อยอด มาเป็น "รถไฟไทยดอทคอม" ชุมชนออนไลน์สำหรับคนรักรถไฟไทย อันดับหนึ่งของประเทศอย่างในปัจจุบัน กับวันเวลาที่ผ่านไปกว่า 6 ปี หากนับตั้งแต่วันแรก บ้านของคนรักรถไฟไทยแห่งนี้ ก็ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านประสบการณ์ที่ดีอันน่าจดจำ และประสบการณ์ที่เลวร้ายมามากมาย ถึงขนาดที่ว่า มีครั้งหนึ่งต้องปิดเว็บล้างไพ่เริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่ เพื่อสะสางปัญหาที่เกิดขึ้น แต่นั่นก็เป็นเหมือนบทพิสููจน์ ที่ทำให้เราก้าวเดินมา จนถึงทุกวันนี้ได้อย่างมั่นคง ตลอดจนได้รับการยอมรับ จากหน่วยงานราชการ และบุคคลภายนอกอย่างกว้างขวาง

      เมื่อช่วงสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค. 2552 ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่สำคัญอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากเราได้ตัดสินใจลงทุน สำหรับรองรับการเติบโต และความมั่นคงในอนาคต ด้วยการสั่งซื้อเซิร์ฟเวอร์ใหม่ คือ Dell PowerEdge R200 Server ซึ่งใช้ Quad Core Intel Xeon processor 2.40 GHz (X3220) เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อน เพื่อนำมาใช้กับเว็บไซต์รถไฟไทยดอทคอม และเว็บไซต์อื่นๆ ที่อยู่ในความดูแลของเราโดยเฉพาะ พร้อมทั้งวางเครื่อง (Co-Location) ไว้กับ Internet Data Center รายใหญ่ของประเทศ จากเดิมที่เรา ใช้บริการแบบเช่าพื้นที่ (Share Host) จากผู้ให้บริการเป็นรายปีเหมือนเว็บไซต์เล็กๆ ทั่วไป ซึ่งถึงแม้ว่าจะใช้รองรับการใช้งานได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ก็ด้วยข้อจำกัดในด้านทรัพยากรระบบ ที่จะต้อง Share ร่วมกันพร้อมๆ กับผู้ใช้บริการรายอื่น ทำให้ที่ผ่านมา เว็บเราอาจจะประสบปัญหาเข้าเว็บได้บ้างไม่ไ่ด้บ้าง หรือเว็บล่มแล้วล่มอีกบ้างในบางครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพรวมการให้บริการ และสร้างความหงุดหงิดใจให้กับสมาชิกและผู้ชม เป็นต้น แต่หลังจากนี้แล้ว ปัญหาดังกล่าวน่าจะลดน้อยลง เนื่องจากเราไม่ต้องแชร์ทรัพยากรกับใครอีก ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งในขณะนี้เว็บไซต์ในความดูแลของเรา ก็ได้ย้ายมาใช้งานที่เซิร์ฟเวอร์ตัวใหม่ เป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งหมด

     การลงทุนในครั้งนี้ อาจจะสูงในระดับเฉียดๆ แสนบาท (ค่าเครื่อง + ค่าวาง Colo รายปี) แต่หากมองเพื่ออนาคต เพื่อความสะดวกสบาย ในการใช้งานของทุกคน ตลอดจนความสะดวก ในการบริหารจัดการระบบ และใช้ทรัพยากรของระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนในเรื่องของความเร็ว และความเสถียรของเว็บไซต์ ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆ แต่หากมองในเรื่องของเงินทุนในการดำเนินการ ก็ต้องยอมรับว่า จะทำให้เรามีภาระแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งในอนาคต อาจจะมีความจำเป็น ที่จะต้องมีการหารายได้ จากการจัดทำของที่ระลึก เช่น เสื้อ เข็มกลัด หมวก พวงกุญแจ ฯลฯ เพื่อมา Support กับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หรือเปิดรับการสนับสนุน จากสมาชิกในระดับ VIP โดยตรง ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น เราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คงจะได้รับการสนับสนุน จากสมาชิกในทุกระดับด้วยดีดังเช่นที่ผ่านมาครับ

ที่มา : รถไฟไทยดอทคอมย้าย Server ใหม่
ข่าว : CivilSpice

     นางสาวมณฑกาญจน์ ศรีวิลาศ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟฯ ได้ทดลองให้ ขบวนรถเร็วที่ 171 กรุงเทพ – สุไหงโก-ลก หยุดรับส่งผู้โดยสารที่สถานีบ้านกรูด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่ออำนวยความสะดวก แก่ผู้โดยสาร และนักท่องเที่ยวที่ประสงค์จะเดินทาง ไปยังสถานีบ้านกรูด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และภายหลังจากการทดลองหยุดรับ-ส่งให้บริการแล้ว พบว่ามีจำนวนประชาชน หันมาใช้บริการของการรถไฟฯ เพิ่มขึ้น ฉะนั้น การรถไฟฯ จึงได้สั่งการให้ขบวนรถเร็วที่ 171 หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ที่สถานีแห่งนี้เป็นการถาวรต่อไป โดยขบวนรถจะออกจากต้นทางสถานีกรุงเทพ เวลา 13.00 น. ถึงสถานีบ้านกรูดเวลา 19.13 น.

     สถานีรถไฟบ้านกรูด อยู่ใกล้กับหาดบ้านกรูด อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หาดบ้านกรูดมีชายหาดยาว 12 กม. มีภูเขาขนาดกลางตั้งอยู่ที่หัวหาด ปัจจุบันมีบ้านพักให้บริการหลายแห่ง ประกอบกับ มีแหล่งธรรมชาติ น้ำทะเลใสสะอาด ปราศจากมลพิษ ไม่มีตึกสูง เป็นชายหาดที่สงบแห่งหนึ่ง จึงเหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยว ได้โดยสารกับขบวนรถเร็วที่ 171 เพื่อไปลงยังพื้นที่สถานีบ้านกรูด โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ www.railway.co.th

ที่มา : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ฯ การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ : 13/05/2552

     นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมความพร้อมรับมือกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยนายยุทธนาฯ กล่าวว่า ขณะนี้ ยังไม่ได้รับรายงานผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่อย่างใด แต่เพื่อความปลอดภัยของผู้เดินทาง การรถไฟฯ ได้เตรียมแผนการเฝ้าระวัง และเตรียมความพร้อมไว้ โดยได้สั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง กวดขันการดำเนินการตามแผนงานอย่างเคร่งครัด เริ่มจากด้านการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้และความเข้าใจ พร้อมวิธีการป้องกันให้กับผู้โดยสาร และพนักงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่สถานีรถไฟ และบนขบวนรถ, จัดหาอุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาด อาทิเช่น หน้ากากอนามัย, ถุงมือยาง, รองเท้ายาง, กระดาษชำระ ฯลฯ, ประสานงานจัดหาเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ หรือเครื่องเทอร์โมสแกน ประจำไว้ที่สถานี ที่มีผู้โดยสารเดินทางเป็นจำนวนมาก

     นอกจากนั้น ยังมีการเตรียมความพร้อมที่สถานีทุกแห่ง ให้นายสถานีเป็นผู้เฝ้าระวัง ติดตาม และให้ความร่วมมือเตรียมเครื่องมือ สนับสนุนให้ความช่วยเหลือ โดยประสานงานกับสาธารณสุขจังหวัด, สาธารณสุขอำเภอ และหากสถานีใดที่ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) นายสถานีต้องเข้มงวด ให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเพิ่มมากขึ้น และต้องจัดเตรียมถุงขยะ และถุงคัดแยกขยะ (สีแดง) เพื่อรองรับเศษสิ่งปฏิกูลหรือเศษกระดาษชำระ, มอบหมายให้นายสถานี คอยหมั่นตรวจ การทำความสะอาดของผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือผู้รับเหมาบริเวณห้องน้ำ ห้องสุขา พื้นชานชาลา และบริเวณที่พักรอการโดยสาร

     ทั้งนี้การรถไฟฯ ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณะสุข เพื่อเตรียมความพร้อมด้านข้อมูลข่าวสารต่างๆ เพื่อให้ผู้โดยสารเดินทางได้อย่างมั่นใจ ผู้โดยสารสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มา : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ฯ การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ : 06/05/2552