นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสะพานประวัติศาสตร์ สร้างขึ้นในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา (สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2) โดยใช้แรงงานเชลยศึกสัมพันธมิตร และกรรมกรรับจ้างชาวเอเชีย ทำการก่อสร้าง ทำให้เชลยศึกและกรรมกรเสียชีวิต กันหลายหมื่นคน จนได้รับสมญานามว่า “ทางรถไฟสายมรณะ” ต่อมาได้พัฒนาทางรถไฟ และสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ จนมีชื่อเสียงทั้งในประเทศ และต่างประเทศ จังหวัดกาญจนบุรี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย และกองพลทหารราบที่ 9 จึงได้ร่วมกันจัด “งานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว และงานกาชาด ประจำปี 2550” ขึ้นเป็นประจำทุกปี

     โดยร่วมกับหน่วยงานราชการทั้งภาครัฐ เอกชน กำหนดจัด งานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควและงานกาชาด ประจำปี 2550” ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 9 ธันวาคม 2550 รวม 12 วัน ณ บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการรำลึก ถึงโศกนาฏกรรมอันโหดร้ายของมนุษยชาติ และความหายนะที่เกิดขึ้นจากสงคราม ด้วยความหวังว่าการจัดงานในครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสันติภาพ ที่ถาวรขึ้นในโลก จุดเด่นของงานคือ การแสดงแสงและเสียง เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การสร้างทางรถไฟสายมรณะ การจัดนิทรรศการ ขบวนแห่รถบุปผชาติ ซึ่งแสดงออก ให้มีความหมายส่งเสริมสันติภาพและความรัก ในส่วนของสวนสนุก จังหวัดกาญจนบุรีได้ร่วมกับภาคเอกชน จัดกิจกรรมการแสดงต่างๆ อีกมากมาย เช่น การประกวดเทพีสันติภาพ การแสดงคอนเสิร์ต การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน มหรสพ การจัดนิทรรศการของส่วนราชการภาครัฐ เอกชน รัฐวิสาหกิจ การออกร้านผลิตภัณฑ์ OTOP นอกจากนี้ ยังได้จัดให้มีร้านกาชาดในงาน เพื่อจะให้ผู้มาเที่ยวงาน ได้มีโอกาสทำบุญทำกุศล โดยซื้อบัตรมัจฉากาชาด เพียงบัตรละ 10 บาท ฉลากกาชาด ใบละ 50 บาท ทุกท่านจะมีโอกาสได้รางวัลอีกมากมาย รายได้ทั้งหมด เหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี จะนำไปช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยต่าง ๆ ในจังหวัดกาญจนบุรี

     จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างประเทศ และประชาชนทั่วไป ร่วมงานดังกล่าว และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี หรือโทร 0-3451-2399 , 0-3451-2511 และ 0-3451-1778 ทุกวันในเวลาราชการ

รายละเอียดรอบการแสดง การสำรองที่นั่ง และข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่

ข้อมูล : ชัยพฤกษ์ แสงอรุณ ส.ปชส.กาญจนบุรี
ขอขอบคุณ ภาพประกอบ จาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

     มีเรื่องน่ายินดีส่งท้ายช่วงสิ้นปี สำหรับเราอีกแล้ว ก็คือ หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับ วันพฤหัสบดีที่ 15 พ.ย. 2550 ได้ให้เกียรติตีพิมพ์ แนะนำเว็บไซต์รถไฟไทยดอทคอมของเรา ลงใน คอลัมน์วิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี หัวข้อ ส่องเว็บ-รถไฟไทย ซึ่งเป็นฉบับรายวัน ที่ออกวางจำหน่าย แก่ประชาชนทั่วประเทศด้วยครับ ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นคอลัมน์สั้นๆ แต่ก็ถือเป็นนิมิตหมายอันดี ที่เป็นการเปิดโอกาส ในการประชาสัมพันธ์ ให้เว็บไซต์รถไฟไทยดอทคอม ได้เป็นที่รู้จัก ต่อสายตาของประชาชนทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงกลุ่มคน เพียงกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเว็บไซต์รถไฟไทยดอทคอม ต้องขอขอบพระคุณ หนังสือพิมพ์คมชัดลึก เป็นอย่างสูง มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

     และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถไฟไทย ในหลายๆ แง่มุม ที่นำเสนอภายในเว็บไซตรถไฟไทยดอทคอม อาทิ ข้อคิดเห็น, บทสนทนา, ภาพถ่าย, บันทึกประสบการณ์การเดินทาง, เรื่องราวทางเทคนิคและประวัติศาสตร์ ฯลฯ คงจะเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจ ในเรื่องราวเกี่ยวกับรถไฟไทยได้ตามสมควร และทำให้หลายๆ คนได้รู้จัก และสัมผัสกับรถไฟไทย ยานพาหนะที่อยู่คู่คนไทย มากว่า 110 ปี ได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วยครับ

ติดตามกระทู้และรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่

     เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วัน ก็จะถึงวันสำคัญที่สุดอีกวันหนึ่ง สำหรับปวงชนชาวไทย ซึ่งก็คือ "วันเฉลิมพระชนมพรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" วันที่ 5 ธันวาคม 2550 ซึ่งในปีนี้ ยังเป็นปีมหามงคล ที่พระองค์ทรงเจริญพระชนมายุ ครบ 80 พรรษา อีกด้วย และในวันเดียวกัน การรถไฟแห่งประเทศไทย ก็ได้จัดเดิน ขบวนรถพิเศษรถจักรไอน้ำนำเที่ยวจาก กรุงเทพ - อยุธยา เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ และเพื่อน้อมรำลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย

     ขบวนรถพิเศษรถจักรไอน้ำ จะออกจากสถานีกรุงเทพ เวลา 08.00 น. จอดรับนักท่องเที่ยวที่สถานีสามเสน, ชุมทางบางซื่อ1, สถานีบางเขน, สถานีหลักสี่, สถานีดอนเมือง และสถานีบางปะอิน ถึงสถานีอยุธยา เวลา 10.10 น. เมื่อถึงสถานีแล้ว จะมีรถยนต์โดยสารนำเที่ยว พร้อมมัคคุเทศก์ รอรับนักท่องเที่ยว เพื่อชมโบราณสถาน ชมวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ ของชาวเมืองอยุธยา อาทิ วัดใหญ่ชัยมงคล ชมอนุสาวรีย์แห่งชัยชนะ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ทรงทำสงครามยุทธหัตถี ชนะสมเด็จพระมหาอุปราชาแห่งพม่า วิหารพระมงคลบพิตร พระพุทธรูปสำริด ขนาดใหญ่ที่สุดในอยุธยา มีอายุประมาณ 500 ปี, วัดพระศรีสรรเพ็ชญ์ เคยเป็นพระราชวังหลวง และต่อมาได้อุทิศถวายให้เป็นพระอารามหลวง ต้นแบบของวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ในปัจจุบัน, วัดสุวรรณดาราราม วัดประจำราชวงศ์จักรี ชมจิตรกรรมฝาผนัง แสดงพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

     ในเที่ยวกลับ ขบวนรถพิเศษรถจักรไอน้ำ จะออกจากสถานีอยุธยา เวลา 17.25 น. ถึงสถานีกรุงเทพ เวลา 19.20 น. ค่าโดยสาร ผู้ใหญ่/เด็ก ราคาเดียว คนละ 120.- บาท ค่ารถยนต์นำเที่ยวพร้อมมัคคุเทศก์ คนละ 180.- บาท ซึ่งขณะนี้เปิดให้สำรองที่นั่งแล้ว โดยผู้สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ สายด่วน 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ เว็บไซต์ของ การรถไฟแห่งประเทศไทย

ข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม จากการรถไฟแห่งประเทศไทย คลิกที่นี่

รายละเอียดการเดินทางเพิ่มเติม สำหรับสมาชิกเว็บไซต์รถไฟไทยดอทคอม คลิกที่นี่

     ช่วงปลายฝนต้นหนาว เริ่มเข้ามาเยือนแล้ว เหมือนเป็นสัญญาณเริ่มต้น ของเทศกาลท่องเที่ยวชมทุ่งทานตะวัน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่เวียนมาบรรจบกันอีกครั้ง ซึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวนี้ ได้รับความนิยม จากนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย เป็นประจำทุกปี และในปีนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ก็ได้มีส่วน ร่วมส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยว ด้วยการจัดเดินขบวนรถไฟพิเศษนำเที่ยว "ชมทุ่งทางตะวันและรถไฟลอยน้ำ ที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์" โดยจะเดินขบวนรถ ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2550 เป็นต้นไป จนถึงเดือนมกราคม 2551

     นักท่องเที่ยวท่านใดที่ประสงค์จะเดินทาง กับขบวนรถพิเศษนำเที่ยว ทุ่งทานตะวันและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สามารถติดต่อสำรองที่นั่ง ได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่ง ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล โดยมีอัตราค่าโดยสาร ชั้น 1 ราคา คนละ 640 บาท ชั้น 2 คนละ 440 บาท และชั้น 3 คนละ 240 บาท (ไป-กลับ ราคาเดียว ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และไม่มีบริการอาหารบนขบวนรถ)

     หากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ ที่ หน่วยบริการเดินทาง สายด่วน 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2621-8701 ต่อ 5217, 0-2225-6964 (ในเวลาทำการ 08.30-16.00 น.) หรือที่สถานีรถไฟทุกแห่ง

บันทึกการเดินทางและภาพความประทับใจ คลิกที่นี่

รายละเอียดข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมจากการรถไฟฯ คลิกที่นี่

ที่มา : กองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ : 31/10/2550

     นายบัญชา คงนคร รองผู้ว่าด้านปฏิบัติการ 1 รักษาการในตำแหน่ง ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ (31 ตุลาคม 2550) ได้รับรายงาน จากผู้บังคับบัญชาระดับต้น ว่า มีพนักงานขับรถ (พขร.) จำนวน 110 นาย และช่างเครื่อง (ชค.) 104 นาย สังกัดฝ่ายการช่างกล ใช้สิทธิการลา ตามพระราชบัญัติกฎหมายแรงาน (ลาป่วย 2 วัน) ซึ่งทำให้การเดินรถต้องขาดแคลน พนักงานขับรถจักรระยะหนึ่ง ทำให้ขบวนรถโดยสาร และรถสินค้าที่ให้บริการ ต้องหยุดชะงักหลายขบวน แต่อย่างไรก็ดี ยังมีพนักงานขับรถอีกส่วนหนึ่ง ที่เห็นถึงความเดือดร้อน ของประชาชน ยินดีที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ

     การเดินทางของประชาชน ในเส้นทางสายใต้ ตั้งแต่ทุ่งสง ไปยังหาดใหญ่, ปัตตานี, ยะลา และสุไหงโกลก นั้น การรถไฟฯ ได้ดำเนินการจัดหารถยนต์ (บัส) ขนถ่ายผู้โดยสาร ถึงปลายทางต่อไปแล้ว ส่วนขบวนรถเร็วที่ 169 (กรุงเทพ-ยะลา) งดเดินในช่วงสถานีหาดใหญ่ - ยะลา พร้อมกับคืนเงิน ค่าโดยสารให้ผู้โดยสารแล้ว โดยการรถไฟฯ ต้องขออภัยผู้โดยสาร ที่ไม่ได้ รับความสะดวกในการเดินทาง มา ณ ที่นี้

     สำหรับประชาชนที่ประสงค์จะเดินทาง โดยรถไฟในวันนี้ ขอให้ติดต่อสอบถาม เรื่องกำหนดเวลาเดินทาง ที่ หน่วยบริการเดินทาง โทรศัพท์สายด่วน 1690 และที่ กองประชาสัมพันธ์ โทรศัพท์หมายเลข 0-2222-0175 ต่อไป

ที่มา : กองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ : 31/10/2550