เช้าวันหนึ่งที่สถานีรถไฟลำพูน และสะพานข้ามแม่น้ำกวง

[ExtendeD]

กลับมาที่รางประธานอีกครั้งครับ คราวนี้จะมาดูป้ายสัญญาณที่อยู่บริเวณข้าง ๆ รางประธานกันบ้าง ป้ายที่ติดอยู่ทางขวาของรางประธานที่เห็นอยู่นี้คือ " ป้ายพิกัดความเร็วสูงสุดในทางประธาน " * สำหรับในที่นี้อนุญาตให้รถดีเซลรางใช้ความเร็วในทางประธานไม่เกิน 105 กม. / ชม. ส่วนขบวนรถที่ใช้รถจักรลากจูง อนุญาตให้ใช้ความเร็วในทางประธานไม่เกิน 80 กม. / ชม. ครับ




เดินถอยหลังมาเรื่อย ๆ จากจุดนี้จะเห็นว่าทางฝั่งทิศเหนือจะมีเสาสัญญาณไฟสี ที่ใช้เป็นเสาสัญญาณออกของสถานีลำพูนอยู่ 3 จุดครับ




ถอยออกมาอีก ก็จะเห็นป้าย " ที่หยุดรถจักร " กับ " ป้ายจำกัดความเร็ว " * ซึ่งในจุดนี้อ่านความหมายได้ว่า ขบวนรถจะวิ่งผ่านป้ายนี้ไปด้วยความเร็วไม่เกิน 30 กม. / ชม. จนกว่าท้ายขบวนจะพ้นจากป้ายปกติ




* อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับป้ายสัญญาณต่าง ๆ ได้จาก " การรถไฟแห่งประเทศไทย " หรือ download file signalsign.pdf จากทาง http:// portal.rotfaithai.com ก็ได้ครับ
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

เดินดูทางด้านทิศเหนือกันจนทั่วแล้ว ต่อไปผมก็จะไปเดินทางด้านทิศใต้ของสถานีลำพูนกันบ้างครับ จากจุดนี้จะเห็นว่าทางฝั่งทิศใต้จะมีเสาสัญญาณไฟสี ที่ใช้เป็นเสาสัญญาณออกของสถานีลำพูนอยู่ 3 จุดเหมือนกับทางฝั่งทิศเหนือครับ




บริเวณนี้จะมีประแจแยกเข้ารางที่ 3 - 4 อยู่ครับ ข้าง ๆ จะเห็นว่ามีไม้หมอนวางกองกันอยู่หลายกอง เป็นไม้หมอนเก่านะครับ




จากรูปที่แล้วจะเห็นว่ามีรางวางต่อเข้ากับรางที่แยกออกจากรางประธานด้วย ก็เพราะว่าใกล้ ๆ กันเป็นที่ตั้งของ " ที่ทำการนายตรวจทางลำพูน " ครับ แล้วก็แน่นอนต้องมีโรงเก็บรถตรวจทางอยู่แถว ๆ นี้ด้วย


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ประแจตัวนี้เป็นประแจที่แยกออกจากรางประธาน เลี้ยวเข้ารางที่ 3 - 4 ครับ ก็ยังจะเห็น " ที่ทำการนายตรวจทางลำพูน " อยู่ริมถนนทางขวาครับ




มาดูที่รางที่ 1 จะมีประแจตัวที่ไม่เหมือนกับที่เคยเห็นที่จุดอื่น ๆ ในสถานีลำพูนนี้ นั่นก็เพราะว่าประแจตัวนี้เป็นประแจมือครับ ทางข้างหน้าตรงไปไหนหนอ...




กลับมาที่รางประธานกันบ้าง จากในรูปนี้จะเห็นป้ายหลายป้ายเลย เริ่มจากที่ใกล้ตัวที่สุดก็เป็นป้าย " ที่หยุดรถจักร " ถัดไปก็เป็น " ป้ายเตือนจำกัดความเร็ว " ให้วิ่งผ่านไปด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กม. / ชม. จนกว่าท้ายขบวนจะพ้นจากป้ายปกติ ( ป้ายคู่แบบนี้ไม่มีใน file ที่ผม download มา ถ้าผิดพลาดก็ช่วยบอกด้วยนะครับ ) ถัดไปอีกก็เป็น " ป้ายพิกัดความเร็วสูงสุดในทางประธาน " ความหมายก็เหมือนกับป้ายที่ติดอยู่ข้างรางประธานทางด้านทิศเหนือ และสุดท้ายก็คือ " ป้ายหวีดรถจักรสำหรับถนนผ่านเสมอระดับทางรถไฟ ไม่มีเครื่องกั้นถนน " ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ทางด้านทิศใต้ของสถานีลำพูน จะมีจุดตัดถนนเสมอระดับ ไม่มีเครื่องกั้นอยู่ ถ้าเดินข้ามถนนนั้นมา ก็จะเห็นว่าประแจมือที่ติดอยู่ที่รางที่ 1 จะเป็นทางแยกเข้าสู่รางจอดรถโบกี้บรรทุกปูนซีเมนต์เทล่างระบบลมอัด ( บซล. ) ของ TPI ครับ




พอจะเดินต่อไปตามทางข้างหน้า ก็มาเจอกับสะพานแบบนี้อีกแล้ว แต่คราวนี้อยู่ในทางตรงครับ




เดินข้ามสะพานไปสักพัก มองทางขวาก็จะเห็นแป้นปะทะของรางที่เอาไว้สำหรับจอด บซล. ที่เห็นเมื่อสักครู่ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ในที่สุดผมก็เดินมาถึงจุดหมายที่ผมคิดว่าจะสิ้นสุดการสำรวจที่นี่ครับ นั่นก็คือสะพานข้ามแม่น้ำกวงนั่นเอง




แต่พอมองเลยจากสะพานข้ามแม่น้ำกวงไปไม่ไกล จะมีสะพานเล็ก ๆ อีก 1 แห่ง ( ได้ของแถมแล้ว ) ก็เลยต้องขยายขอบเขตการสำรวจไปอีกสักหน่อย


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

เอาล่ะครับ ผมจะเริ่มเดินย้อนกลับไปดูสะพานทั้ง 2 แห่งนี้แบบละเอียดแล้วล่ะครับ ถ่ายรูปจากมุมนี้ ไม่ย้อนแสงสักเท่าไหร่




ถ้าดูจาก " แผนที่ตัวเมืองลำพูนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย " ตำแหน่งของสะพานทั้ง 2 แห่งนี้ ก็คือ วงกลมสีน้ำเงิน ครับ




จริง ๆ แล้ว ผมก็เดินมาจากสถานีลำพูนไม่ไกลสักเท่าไหร่เลยครับ แต่ถ้ามาดูจากในแผนที่เหมือนว่าไกล มิน่าล่ะอาร์ตถึงบอกว่าตัวเมืองอยู่ห่างจากสถานีรถไฟแค่ประมาณ 2 กิโลเมตรเอง
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

สะพานแห่งนี้เป็นสะพานเหล็กแบบแผงขึ้น ข้ามลำน้ำขนาดเล็ก ( เล็กจริง ๆ ครับ ) ผมพยายามมองหา nameplate แต่หายังไงก็หาไม่เจอ จะเจอก็แต่ตัวอักษรที่ใช้สีพ่นแบบนี้ครับ




ก้มดูข้างล่าง จะเห็นทั้งหมุดยึดราง และน๊อตยึดไม้หมอนเลย




มองออกไปข้าง ๆ สะพานจะเห็นลำน้ำขนาดเล็ก เล็กอย่างที่บอกหรือเปล่าล่ะครับ นี่อาจจะเป็นคลองระบายน้ำก็ได้ครับ เพราะว่าดูจากลักษณะแล้วเป็นเหมือนคลองที่ขุดขึ้นมา


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

เดินมาถึงสะพานข้ามแม่น้ำกวงอีกครั้งครับ สะพานข้ามแม่น้ำกวงแห่งนี้ประกอบด้วยช่วง span ที่เป็นโครงเหล็กขนาดใหญ่แบบสะพานโครงขึ้น 3 span ครับ




ทางด้านซ้ายของสะพานจะมีทางเดินอยู่เหมือน ๆ กับสะพานใหญ่แห่งอื่น ๆ แต่... สภาพทางเดินนั้นเป็นแบบนี้ครับ เห็นแบบนี้แล้ว เข้าไปเดินข้างในสะพานดีกว่า




มองออกไปด้านข้างของตัวสะพาน ในตอนนั้นกำลังมีการก่อสร้างสะพาน ( ถนน ) ด้วยครับ ถ้าการก่อสร้างแล้วเสร็จ สะพานโครงเหล็กแห่งนี้จะถูกขนาบข้างด้วยสะพานคอนกรีตครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

อย่างแรกที่ผมมองหาหลังจากเดินเข้ามาภายในสะพานก็คือ nameplate ครับ แต่ก็เหมือนกับสะพานที่แล้ว ก็คือ หาไม่เจอครับ จะเจอก็แต่ตัวอักษรนูนแบบนี้




ที่เห็นนี้อาจจะเป็น nameplate ของสะพานนี้ก็เป็นได้ ( แปลกดีแท้ )

มองลงไปข้างล่าง... ไม่อยากบรรยาย ฟ้องด้วยภาพแล้วกันครับ




เดินต่อไปข้างหน้า ก็จะเป็นช่วง span ที่ 2 ของสะพานแห่งนี้แล้วครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

พอเดินมาถึงช่วง span ที่ 2 ที่เป็นช่วงตรงกลาง ก็ขอมองออกไปข้างนอกสักหน่อย ฝั่งที่เห็นนี้คือฝั่งขวาของสะพานครับ จะเห็นว่ามีสะพานคอนกรีตทอดตัวข้ามแม่น้ำกวงอยู่เช่นกันครับ




ส่วนฝั่งทางซ้าย ตอนนี้ยังโล่งอยู่ แต่อีกไม่นานก็คงจะมีสภาพเหมือนกับฝั่งทางขวาล่ะครับ




สำหรับแม่น้ำกวงสายนี้ ถ้าดูจากแผนที่ท่องเที่ยวจังหวัดลำพูนแล้วจะเห็นว่า หลังจากที่แม่น้ำกวงไหลผ่านบริเวณนี้ไปแล้ว ก็จะไปรวมกับแม่น้ำปิงบริเวณรอยต่อระหว่างอำเภอเมืองลำพูน กับ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูนครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.