เมื่อเมืองพัทยาจะมีระบบรถไฟฟ้าบ้าง

[boatteam]

แต่ที่ผมได้ไปพัทยามาเมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว
เห็นมีข้อความ และป้ายต่อต้าน โครงการนี้ตามตลาดสด แถวพัทยากลาง
และในตรอก/ซอย บางที่ก็มี
ทุกอย่างมี 2 ด้านเสมอ
_________________
สถานีบ้านเกิดอรัญประเทศ สุดเขตแดนสยามฝั่งตะวันออก

[Wisarut]

'โมโนเรล'หมื่นล้านพัทยาใกล้คลอด
เขียนโดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
หน้า อสังหาฯ-คมนาคม
ออนไลน์เมื่อ วันศุกร์ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2011 เวลา 13:48 น
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,607 6 - 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เมืองพัทยาเร่งสรุปผลการศึกษาโครงการโมโนเรลบนถนนสาย 2 เล็งจับมือสมาคมโรงแรมจัดแพ็กเกจพิเศษรวมอยู่ในค่าห้องพัก คาดใช้งบลงทุนไม่เกิน 10,000 ล้านบาท ระยะทาง 12 กิโลเมตร พร้อมเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนระยะเวลา 30 ปี เผยจีน เกาหลี ญี่ปุ่นและสวีเดน สนใจร่วมลงทุน คาดปี 55 ตอกเสาเข็ม

ดร.วิชณุ พะลายานนท์ ที่ปรึกษานายกเมืองพัทยา เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งรัดสรุปผลการศึกษาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลในพื้นที่เมืองพัทยาตามนโยบายของคณะกรรมการพัฒนาเมืองพัทยาชุดปัจจุบัน ที่มีนายอิทธิพล คุณปลื้ม เป็นประธาน โดยตามแผนเดิมจะมีการก่อสร้างแนวเส้นทางอยู่บนถนนสาย 1 และพื้นที่ริมชายหาด แต่ได้รับการท้วงติงจากหลายฝ่ายว่าน่าจะไม่ผ่านการรับรองสิ่งแวดล้อม จึงได้ปรับเปลี่ยนแนวเส้นทางใหม่ไปอยู่บนถนนพัทยาสาย 2 แทน ซึ่งเมื่อผลการศึกษาแล้วเสร็จจะส่งรายละเอียดทั้งหมดให้ข้าราชการประจำของเมืองพัทยารับไปดำเนินงานต่อไป

"คาดว่าใช้งบลงทุนไม่เกิน 10,000 ล้านบาท ในรูปแบบการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนระยะเวลา 30 ปี ส่วนเมืองพัทยาเป็นผู้จัดหาเดโป คาดว่าจะมีประมาณ 10-11 สถานี ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร รูปแบบซิงเกิลแท็กบนตอม่อเดียว เมื่อได้ความชัดเจนเรื่องรูปแบบ เส้นทาง และแผนการบริหารจัดการจราจรต่อจากนี้ก็จะยื่นรายละเอียดเพื่อศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ดีเทลดีไซน์ และเปิดรับฟังความเห็นประชาชนอย่างเป็นทางการ ซึ่งในเบื้องต้น 70% เห็นด้วย คาดภายในปี 2554 นี้จะต้องเสร็จสิ้นทั้งหมด ส่วนการก่อสร้างคาดว่าจะเริ่มในปี 2555"

ทั้งนี้โครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลพัทยา จะก่อสร้างเสาตอม่ออยู่บนเกาะกลางผ่านจุดสำคัญ ๆ ของเมืองพัทยาดังนี้ คือ
ถนนพัทยาใต้
เขาพระตำหนัก
ถนนพัทยาเหนือ
ศาลากลางเมืองพัทยา
จุดชมปลาโลมา
ถนนอรรถจินดา
ถนนชัยพรวิถี

โดยล่าสุดนั้นได้มีการหารือกับสมาคมโรงแรมและกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวแล้วได้มีการนำเสนอว่า จะมีการบรรจุเป็นแพ็กเกจไว้ในราคาห้องพักรวมไว้ด้วย อีกทั้งยังมีกลุ่มนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น จีน เกาหลี สวีเดน ให้ความสนใจในโครงการดังกล่าวนี้แล้ว ล่าสุดนั้นศูนย์การค้าเซ็นทรัลพัทยาได้แสดงความสนใจที่จะสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างสถานีด้านหน้าเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าแล้ว

[Mongwin]

อิทธิพล คุณปลื้ม ลุยสร้าง"พัทยา"เมืองเวิลด์คลาส-เอ็กซ์โปซิตี้ โมเดลต้นแบบเมืองชายหาดทั่วปท.
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 09 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 17:51:02 น.

เมืองท่องเที่ยวติดตลาดโลก "พัทยา" ผู้นำสีสันชายฝั่งทะเลตะวันออกมายาวนาน กำลังมาถึงจุดเปลี่ยนที่จะยกระดับเป็น "ศูนย์กลางครบวงจร" เติบโตและขยายตัวได้เทียบเท่าสดใสกว่าเมืองมหานครใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ทั้งทางด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การลงทุน การค้า ธุรกิจที่อยู่อาศัย ชุมชนใหม่ของชาวต่างชาติ

"อิทธิพล คุณปลื้ม" นายกเมืองพัทยา ให้สัมภาษณ์พิเศษ "ประชาชาติธุรกิจ" เกี่ยวกับแผนพัฒนาเมืองพัทยาก้าวสู่การเป็น world class city และเขตปกครองพิเศษที่จะเป็นโมเดลต้นแบบของเมืองชายหาดทั่วประเทศ

วางขั้นตอนการพัฒนาเป็นเมืองเวิลด์คลาสไว้อย่างไร

ทางเมืองกับผู้ประกอบการท่อง เที่ยวและเจ้าของพื้นที่ริมชายหาด ตกลงกันแล้วที่จะเดินไปด้วยกันตามยุทธศาสตร์การเป็นเมืองท่องเที่ยวทางทะเลที่สะดวก สบาย ปลอดภัย พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ครบครัน และนำกิจกรรมเข้ามา สร้างสีสันการพักผ่อนด้วยเทศกาล กีฬา ดนตรี กิจกรรมทางน้ำมาตรฐานสากล บวกกับการวางตำแหน่งพัทยาเป็นเมืองศูนย์กลางไมซ์ (สัมมนา-ได้รางวัลท่องเที่ยวฟรี-ประชุมระดับนานาชาติ-จัดนิทรรศการแสดง : Meeting-Incentive-Convention-Exhibition : MICE) เพิ่มรายได้และวันพักอีกปีละ 30% ขยับรายได้จากนักท่องเที่ยวใช้เงินเฉลี่ยจากทุกวันนี้ 3,000 เป็น 4,000 บาท/คน/วัน พักเฉลี่ยครั้งละ 3 วันขึ้นไป/คน/ทริป

โครงการแรกทำสำเร็จแล้ว คือจัดระเบียบการค้าขายชายหาด โดยทางเมืองได้จัดสรรพื้นที่แก่ผู้ประกอบการ อาชีพบริการร่มเตียงริมหาดใช้ 49% ปล่อยเป็นที่ว่างเปล่าเพื่อให้มีทัศนียภาพทะเลและพื้นที่สาธารณะสำหรับนักท่องเที่ยวใช้อีก 51% ต่างจากเดิมพื้นที่ทั้งหมดถูกยึดไปทำธุรกิจร่มกับเตียงจนหมด สร้างปัญหากับการท่องเที่ยว อย่างมาก

แผนงานขณะนี้ผมวางแผนพัฒนาเมืองแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะสั้น 3 ปีแรก ระยะกลาง 5 ปี ระยะยาว 10 ปีขึ้นไป ปีนี้เริ่มทำต่อเนื่องกัน 2 ระยะ คือ วางโครงสร้างพื้นฐานจัดหมวดหมู่และระบบหน่วยงานราชการให้บริการประชาชนให้สอดคล้องกับการเป็นเมืองพักผ่อน จึงเพิ่มส่วนงานใหม่จากเดิมเป็นฝ่ายก็ยกขึ้นเป็นสำนักการท่องเที่ยว รับผิดชอบการวางแผนตั้งเป้ารายได้ คิดกลยุทธ์ให้นักท่องเที่ยวใช้เงินเพิ่มต่อคนต่อวัน พร้อมกับดูแลการให้บริการ นักท่องเที่ยวไปด้วย

แผนต่อเนื่องได้เชื่อมโยงยุทธศาสตร์เมืองโดยรวมกลุ่มเป็นหนึ่งเดียวกันกับเทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 8 องค์กร รวมพัทยาด้วยก็เป็น 9 องค์กร เพื่อสร้างน้ำหนักการเสนอของบประมาณก้อนใหญ่นำมากระจายลงทุนพัฒนาจุดขายแหล่งท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่เป็นเส้นทางเดียวกันภายใต้แบรนด์ "พัทยา" ตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวที่กระจายตัวอยู่พื้นที่อื่นก็มีพัทยา ครอกโคไดล์ฟาร์ม สวนนงนุช อบต.นาจอมเทียนดูแลอยู่ ต่อไปเมื่อรวมกันแล้วก็สามารถขายไปด้วยกันได้ เพราะเดิม อบต.แต่ละแห่งแยกกันของบฯไม่ได้เกิน 50 ล้านบาท

จะพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าพัทยาหรือไม่

ต้องทำอย่างจริงจังจะนำร่องลงทุนทำรถไฟฟ้าโมโนเรลนำระบบรางทั้งบนดิน ใต้ดิน ยกระดับ เข้ามาแก้ปัญหาจราจรที่คับคั่ง ตอนนี้ทำประชาพิจารณ์รอบแรกและศึกษาขั้นแรกแล้ว ขั้นตอนจากนี้เตรียมลงรายละเอียดเลือกความเหมาะสมตามแบบคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ต้องยื่นขออนุมัติจากกรมควบคุมมลพิษและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ภายใน 1-2 ปีนี้โครงการน่าจะเกิดได้

เพราะการวางระบบจราจรเป็นหัวใจของเมืองที่ตั้งเป้าจะเป็น "ศูนย์กลางการประชุมนานาชาติ" และ "เวิลด์คลาสซิตี้" ส่วนที่ต้องลงทุนควบคู่กัน คือ ระบบไฟฟ้า ประปา การสื่อสาร ตอนนี้ก้าวหน้าไปมากทำเป็น Wi-Fi Beach ได้แล้ว คือการติดตั้งเคเบิลใยแก้วนำแสงลงใต้ดินติดอุปกรณ์ไร้สายเชื่อมเข้าไปโดยมี "การสื่อสารแห่งประเทศไทย : CAT" ดูแลทั้งหมด

ส่วนการจัดระเบียบรถบริการสาธารณะ ตอนนี้มีรถสองแถว 750 คัน ทำเป็นรถประจำทางและแท็กซี่ รถบีชบัส รถมอเตอร์ไซค์ กำหนดให้ทะเบียนเลขคู่วิ่งวันคู่ เลขคี่วันคี่

โครงการสำคัญปี 2554 ก็มี 1.เตรียมทำศูนย์ขนส่งสาธารณะเป็นที่พักรถขนาดใหญ่ไว้นอกเมืองแล้วมีรถเล็กวิ่งวนรับไปส่งตามจุดหมาย กำลังเจรจาขอใช้ที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย 100 ไร่ 2.โครงการฟื้นฟูชายหาด 3.โครงการพัฒนาพื้นที่นาเกลือ เป็นเมืองท่องเที่ยวอนุรักษ์แบบเก่าดั้งเดิม หรือ old town ซึ่งมีศาลเจ้า ตลาด ประมง สะพานปลา

เตรียมชิงเป็นเจ้าภาพเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 ด้วยกลยุทธ์ใด

เมื่อวางตำแหน่งเป็นเมืองศูนย์กลางการประชุมนานาชาติ MICE City พอสำนักงานส่งเสริมการจัดนิทรรศการแสดง "สสปน." เป็นแกนหลักขอคณะรัฐมนตรีนำประเทศไทยไปชิงจัดงาน World Expo 2020 โดยเลือก 1 ใน 3 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ หรือชลบุรี กำลังรอฟังประกาศผลการตัดสินเลือกจังหวัดภายในเมษายนนี้ ตอนนี้พัทยาเดินหน้าเตรียมที่ดิน 1,500 ไร่ ติดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วางระบบโครงข่ายคมนาคมจากกรุงเทพฯรัศมีไม่เกิน 200 ก.ม. จากสุวรรณภูมิเข้าสู่พัทยาสะดวกรวดเร็ว ตกลงกับโรงแรมทั้งหมดซึ่งมีห้องพักเพียงพอ

ตั้งเป้าหากชลบุรีได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 งานใหญ่ระดับโลกที่จะมีคนเดินทางเข้ามาร่วม 30-40 ล้านคน เกิดการลงทุนสร้างพาวิเลียนของแต่ละประเทศมูลค่านับแสนล้านบาท สามารถขยายเมืองใหม่ได้จึงต้องเร่งลงมือสร้างโลจิสติกส์ทันทีจะได้ทั้งรถไฟฟ้าความเร็วสูง รถโมโนเรล ทางด่วนสายใหม่ พัฒนาทุกจุดรองรับการขนส่งทั้งระบบ และทำพัทยาโซนนิ่ง จัดโซนพื้นที่ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์เพื่อที่อยู่อาศัย แหล่งบันเทิง ท่องเที่ยว

พัทยาพร้อมแล้วที่จะเป็น The Best Destination in Thailand หรือเมือง จุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดของประเทศไทย

[Wisarut]

เมืองพัทยาดัน”รถไฟฟ้ารางเดี่ยว”อีกรอบ มั่นใจมีข้อดีมากกว่าเสีย

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 13 เมษายน 2554 13:49 น.


ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยายันนโยบายพัฒนาเมืองสู่ความเป็นอินเตอร์ ต้องมีรถไฟฟ้ารางเดี่ยว เตรียมนัดประชุมใหม่หารือแนวทางการดำเนินโครงการต้นมิ.ย. ชี้ข้อดีมากกว่าเสีย ส่วนที่ประชาชนคัดค้านเป็นเพราะไม่เข้าใจเนื้อหาของโครงการที่ชัดเจนเท่านั้น

จากกรณีที่เมืองพัทยาได้ริเริ่มแนวคิดในการจัดทำโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือ โมโนเรล ซึ่งถือเป็นโครงการที่นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้ทำสัญญาประชาคมและชี้แจงไว้แก่ประชาชนในช่วงของการหาเสียงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ตามแผนงาน 1 ใน 14 นโยบายเร่งด่วนที่เมืองพัทยาจะจัดทำขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจร พัฒนาระบบขนส่งมวลชน และสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บ.โชติจินดา มูเชล คอนซัลแตนท์ จำกัด และ บ.เทสโก้ จำ กัด เข้ามาศึกษา วิเคราะห์ปัญหาด้านการจราจรและระบบขนส่งมวลชนทั้งปัจจุบันและอนาคต เพื่อจัดทำแผนแม่บทระบบรถไฟฟ้ารอบเมืองพัทยาที่มีความยาวไม่น้อยกว่า 25 กิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันได้มีการนำ เสนอโครงการนำร่องที่มีระยะทางไม่น้อยกว่า 6 กิโลเมตร โดยมีเส้นทางหลักอยู่บนถนนพัทยาสาย 2 ทั้งนี้ จะไม่มีการเวนคืนที่ดิน และหากดำเนินการแล้วเสร็จก็คงจะทำให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น แต่พบว่าที่ผ่านมามีประชาชนบางส่วนคัดค้านเกี่ยวกับการดำเนินโครงการดังกล่าวนั้น

กรณีดังกล่าว ดร.พิษณุ พะลายานนท์ ประธานที่ปรึกษากลุ่มยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองท่องเที่ยวน่าอยู่เมืองพัทยา กลุ่มที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มแนวคิดดังกล่าวเปิดเผยว่าในวันที่ 3 มิ.ย. เมืองพัทยาจะเรียกประชุมคณะกรรมการในกลุ่มยุทธศาสตร์ ตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือ โมโนเรล มาเข้าร่วมทำการหารือใหม่อีกครั้ง เพื่อกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์การจัดทำโครงการที่ชัดเจน

ทั้งนี้ต้องขอยืนยันว่าโครงการดังกล่าวถือเป็นนโยบายสำคัญของเมืองพัทยาที่มีเจตนารมณ์ในการพัฒนาเมืองพัทยาไปสู่ความเป็นนานาชาติ รวมทั้งยังเป็นการแก้ไขปัญหาระบบขนส่งมวลชนและการจราจรในพื้นที่อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การจัดทำโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว สิ่งสำคัญคือเรื่องของการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งได้ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว ส่วนที่ก่อนหน้านี้ในการระดมความคิดเห็นจากประชาชน และที่มีการคัดค้านจากคนบางกลุ่ม เมืองพัทยาไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไร เพราะทุกขั้นตอนทำเพื่อประโยชน์ในภาพรวม และที่คัดค้านก็คงเป็นเพราะประชาชนเหล่านั้นยังคงขาดความเข้าใจในภาพรวมของโครงการมากกว่า

โดยเฉพาะพื้นที่การจัดสร้างโครงการนั้นแต่เดิมมีแผนการลง ทุนบริเวณตามแนวถนนสายชายหาด แต่พบว่าอาจมีปัญหาเรื่องของสิ่งแวดล้อมและการบดบังสภาพภูมิทัศน์ จึงเปลี่ยนย้ายโครงการมายังบริเวณถนนพัทยาสาย 2 ซึ่งไม่มีการกระทบต่อสภาพความเป็นอยู่ และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งบดบังสภาพภูมิทัศน์แต่อย่างใด อีกทั้งพื้นที่ตามแนวถนนเส้นนี้ก็มีความเหมาะสมทั้งเป็นแหล่งการค้าการลงทุน และนักท่องเที่ยวจำนวนมากจึงน่าจะเหมาะสม

ที่สำคัญการก่อสร้างรางเดินรถและสถานีขนส่งก็อยู่กลางแนวถนนที่จะไม่กีดขวางทางเดินเท้า และสถานประกอบการแต่อย่างใด เพราะมีขนาดความกว้างของเสาตอม่อเพียงไม่ถึง 1 เมตร ซึ่งเบื้องต้นได้วางเส้นทางเดินรถไว้ในระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร

ดร.พิษณุ กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องของการลงทุน ก็ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่หลายฝ่ายเป็นห่วง แต่ข้อสรุปล่าสุดนั้นมีแนวคิดที่จะเปิดให้ภาคเอกชนมาลงทุน โดยไม่จำเป็นต้องของบประมาณซึ่งเป็นภาษีของรัฐมาใช้แต่อย่างใด โดยจะดำเนินการในลักษณะของการร่วมทุนตาม พ.ร.บ.ที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยจะมีรูปแบบ ระยะทาง รูปลักษณะของรถ ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและอื่นๆ เพื่อนำเสนอตามความเหมาะสม ซึ่งคาดว่าคงจะใช้งบประมาณราว 5-6 พันล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีผู้สนใจหลายรายแสดงความจำนงที่จะเข้ามาสัมปทานโครงการไม่ว่าจะเป็นจากประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น จีน หรือยุโรปอย่างประเทศสวีเดน โดยคาดว่าคงจะใช้เวลาการเตรียมการอีกประมาณ 1-1.5 ปี

สำหรับโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือโมโนเรล ถือเป็นโครงการที่มีประโยชน์ และจากการสุ่มสำรวจความคิดเห็นจากนักท่องเที่ยวและประชาชน ก็พบว่าส่วนใหญ่เห็นชอบด้วย เนื่องจากจะเป็นโครงการที่เชิดหน้าชูตาให้กับเมืองพัทยาเป็นอย่างดี และถือเป็นโครงการที่มีความทันสมัย ในการยกระดับการท่องเที่ยวให้กับเมืองพัทยามากขึ้น ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปี 2554 คงจะมีการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมขึ้นอย่างแน่นอน

[Wisarut]

เมืองพัทยาดัน “รถไฟฟ้ารางเดี่ยว” อีกรอบ มั่นใจมีข้อดีมากกว่าเสีย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 เมษายน 2554 14:25 น.

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยายันนโยบายพัฒนาเมืองสู่ความเป็นอินเตอร์ ต้องมีรถไฟฟ้ารางเดี่ยว เตรียมนัดประชุมใหม่หารือแนวทางการดำเนินโครงการต้น มิ.ย. ชี้ข้อดีมากกว่าเสีย ส่วนที่ประชาชนคัดค้านเป็นเพราะไม่เข้าใจเนื้อหาของโครงการที่ชัดเจนเท่านั้น

จากกรณีที่เมืองพัทยาได้ริเริ่มแนวคิดในการจัดทำโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือ โมโนเรล ซึ่งถือเป็นโครงการที่นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้ทำสัญญาประชาคมและชี้แจงไว้แก่ประชาชนในช่วงของการหาเสียงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ตามแผนงาน 1 ใน 14 นโยบายเร่งด่วนที่เมืองพัทยาจะจัดทำขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจร พัฒนาระบบขนส่งมวลชน และสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บ.โชติจินดา มูเชล คอนซัลแตนท์ จำกัด และ บ.เทสโก้ จำ กัด เข้ามาศึกษา วิเคราะห์ปัญหาด้านการจราจรและระบบขนส่งมวลชนทั้งปัจจุบันและอนาคต เพื่อจัดทำแผนแม่บทระบบรถไฟฟ้ารอบเมืองพัทยาที่มีความยาวไม่น้อยกว่า 25 กิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันได้มีการนำเสนอโครงการนำร่องที่มีระยะทางไม่น้อยกว่า 6 กิโลเมตร โดยมีเส้นทางหลักอยู่บนถนนพัทยาสาย 2 ทั้งนี้ จะไม่มีการเวนคืนที่ดิน และหากดำเนินการแล้วเสร็จก็คงจะทำให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น แต่พบว่าที่ผ่านมามีประชาชนบางส่วนคัดค้านเกี่ยวกับการดำเนินโครงการดังกล่าวนั้น

กรณีดังกล่าว ดร.พิษณุ พะลายานนท์ ประธานที่ปรึกษากลุ่มยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองท่องเที่ยวน่าอยู่เมืองพัทยา กลุ่มที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มแนวคิดดังกล่าวเปิดเผยว่าในวันที่ 3 มิ.ย. เมืองพัทยาจะเรียกประชุมคณะกรรมการในกลุ่มยุทธศาสตร์ ตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือ โมโนเรล มาเข้าร่วมทำการหารือใหม่อีกครั้ง เพื่อกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์การจัดทำโครงการที่ชัดเจน

ทั้งนี้ ต้องขอยืนยันว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นนโยบายสำคัญของเมืองพัทยาที่มีเจตนารมณ์ในการพัฒนาเมืองพัทยาไปสู่ความเป็นนานาชาติ รวมทั้งยังเป็นการแก้ไขปัญหาระบบขนส่งมวลชนและการจราจรในพื้นที่อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การจัดทำโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว สิ่งสำคัญคือเรื่องของการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งได้ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว ส่วนที่ก่อนหน้านี้ในการระดมความคิดเห็นจากประชาชน และที่มีการคัดค้านจากคนบางกลุ่ม เมืองพัทยาไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไร เพราะทุกขั้นตอนทำเพื่อประโยชน์ในภาพรวม และที่คัดค้านก็คงเป็นเพราะประชาชนเหล่านั้นยังคงขาดความเข้าใจในภาพรวมของโครงการมากกว่า

โดยเฉพาะพื้นที่การจัดสร้างโครงการนั้นแต่เดิมมีแผนการลงทุนบริเวณตามแนวถนนสายชายหาด แต่พบว่าอาจมีปัญหาเรื่องของสิ่งแวดล้อมและการบดบังสภาพภูมิทัศน์ จึงเปลี่ยนย้ายโครงการมายังบริเวณถนนพัทยาสาย 2 ซึ่งไม่มีการกระทบต่อสภาพความเป็นอยู่ และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งบดบังสภาพภูมิทัศน์แต่อย่างใด อีกทั้งพื้นที่ตามแนวถนนเส้นนี้ก็มีความเหมาะสมทั้งเป็นแหล่งการค้าการลงทุน และนักท่องเที่ยวจำนวนมากจึงน่าจะเหมาะสม

ที่สำคัญการก่อสร้างรางเดินรถและสถานีขนส่งก็อยู่กลางแนวถนน ที่จะไม่กีดขวางทางเดินเท้า และสถานประกอบการแต่อย่างใด เพราะมีขนาดความกว้างของเสาตอม่อเพียงไม่ถึง 1 เมตร ซึ่งเบื้องต้นได้วางเส้นทางเดินรถไว้ในระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร

ดร.พิษณุกล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องของการลงทุน ก็ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่หลายฝ่ายเป็นห่วง แต่ข้อสรุปล่าสุดนั้นมีแนวคิดที่จะเปิดให้ภาคเอกชนมาลงทุน โดยไม่จำเป็นต้องของบประมาณซึ่งเป็นภาษีของรัฐมาใช้แต่อย่างใด โดยจะดำเนินการในลักษณะของการร่วมทุนตาม พ.ร.บ.ที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยจะมีรูปแบบ ระยะทาง รูปลักษณะของรถ ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและอื่นๆ เพื่อนำเสนอตามความเหมาะสม ซึ่งคาดว่าคงจะใช้งบประมาณราว 5-6 พันล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีผู้สนใจหลายรายแสดงความจำนงที่จะเข้ามาสัมปทานโครงการไม่ว่าจะเป็นจากประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น จีน หรือยุโรปอย่างประเทศสวีเดน โดยคาดว่าคงจะใช้เวลาการเตรียมการอีกประมาณ 1-1.5 ปี

สำหรับโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือโมโนเรล ถือเป็นโครงการที่มีประโยชน์ และจากการสุ่มสำรวจความคิดเห็นจากนักท่องเที่ยวและประชาชน ก็พบว่าส่วนใหญ่เห็นชอบด้วย เนื่องจากจะเป็นโครงการที่เชิดหน้าชูตาให้กับเมืองพัทยาเป็นอย่างดี และถือเป็นโครงการที่มีความทันสมัยในการยกระดับการท่องเที่ยวให้กับเมืองพัทยามากขึ้น ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปี 2554 คงจะมีการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมขึ้นอย่างแน่นอน

[Wisarut]

พัทยาพร้อมแจ้งเกิดโครงการรถไฟฟ้าหากคนในพื้นที่ต้องการ
หน้าข่าวภูมิภาค วส่วน ภาคกลาง - ตะวันออก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 มิถุนายน 2554 14:06 น.

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยา ประกาศเจตนารมณ์ผลักดันโครงการรถไฟฟ้าให้เกิดขึ้นจริง แต่ต้องไม่ลงทุนเอง ไม่กระทบสิ่งแวดล้อม และเป็นไปตามความต้องการของประชาชน โดยผลการศึกษาเบื้องต้นระบุต้องใช้เงินกว่า 8 พันล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีภาคเอกชนสนใจเข้าลงทุนแล้วถึง 5 ราย

นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวในที่ประชุมคณะที่ปรึกษายุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองท่องเที่ยวน่าอยู่เกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือโมโนเรล เมื่อเร็วๆนี้ ว่าเมืองพัทยายังคงมีนโยบายในการเดินหน้าโครงการนี้ต่อเนื่อง เพราะถือเป็นสัญญาประชาคมที่ทำไว้กับพี่น้องในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง และยังเห็นว่าโครงการดังกล่าวน่าจะมีประโยชน์ต่อภาพรวมของเมืองพัทยา

อย่างไรก็ตาม ได้กำหนดข้อแม้ในการจัดทำโครงการดังกล่าวไว้ 3 ประเด็นหลัก คือ

1.เมืองพัทยาจะต้องไม่เป็นผู้ลงทุนเอง แต่จะเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนที่สนใจเข้ามาจัดทำโครงการในรูปแบบสัมปทาน ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทผู้ผลิตเสนอตัวเข้ามาแล้ว 4-5 ราย
2.ต้องจัดทำรายงานและป้องกันปัญหาอันอาจก่อให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และภูมิทัศน์ด้านการท่องเที่ยว และ
3.ซึ่งถือเป็นหัวข้อสำคัญที่สุดคือการรับฟังเสียงประชาชนในพื้นที่ว่ามีความต้องการมากน้อยเพียงใด

ซึ่งหากผ่านทั้ง 3 ขั้นตอน เมืองพัทยาก็พร้อมผลักดันให้โครงการเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

ขณะที่ตัวแทนจากบริษัท โชติจินดา มูเชล คอนซัลแตนท์ จำกัด ซึ่งได้รับการว่าจ้างให้ศึกษาและวางแผนเกี่ยวกับโครงการเผยว่า ขณะนี้ได้กำหนดเส้นทางนำร่องโครงการไว้แล้ว โดยจะเป็นการก่อสร้างรถไฟฟ้าแบบรางเดี่ยวไป-กลับ ในเส้นทางแหลมบาลีฮาย-ถนนพัทยาสายสอง-ถนนพัทยาเหนือ-ถนนสุขุมวิท-สถานีจอดและซ่อมบำรุงภายในซอยชัยพรวิถี ในระยะทาง 10.3 กิโลเมตร โดยจะใช้แบบรถรางขนาดความยาว 30 เมตรที่บรรจุคนได้ 130 คน จำนวน 12 ขบวน ซึ่งคาดว่าจะใช้ลงทุนกว่า 8,600 ล้านบาท

ปัจจุบันพบว่าโครงการนี้ได้รับความสนใจจากภาคเอกชนเป็นอย่างมากและมีการเสนอขอรับสัมปทานในระยะเวลา 30 ปีแล้วกว่า 5 ราย แต่ขั้นตอนการศึกษาในปัจจุบันยังถือว่าไม่เสร็จสมบูรณ์ 100 % เนื่องจากจะต้องทำการสำรวจแนวเส้นทางเรื่องอาคารที่จอดรถรับส่งจำนวน 10 สถานี รูปแบบการเดินรถและมูลค่าโครงการ รวมถึงการศึกษารายงานวิ เคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือ EIA การทำประชาพิจารณ์จากประชาชน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 18 เดือน จากนั้นต้องทำเรื่องเสนอ ครม.เพื่อขอความเห็นชอบที่จะให้เอกชนเข้าลงทุนตามกฎหมาย ซึ่งจะใช้เวลาอีกประมาณ 6 เดือนและเมื่อรวมระยะเวลาแล้วคาดว่าการพิจารณารายละเอียดต่างๆ จะต้องใช้เวลากว่า 2 ปี จึงจะแล้วเสร็จ

[donatt76]

กลุ่มเดียวที่ไม่ต้องการอย่างยิ่ง....คือบรรดารถสองแถวขูดเลือดที่วิ่งในตัวเมือง...ยิ่งถ้ารถไฟฟ้าวิ่งออกไปจอมเทียน - วัดญาณสังวราราม - สวนนงนุช - บางละมุง ด้วยแล้วล่ะก็....ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ ได้ขายรถทิ้งกันหมดแน่ๆ
_________________

[tamz]

[donatt76]

ด้วยความเคารพครับท่านนายกเล็ก เมืองพัทยา....(และทั่วประเทศ)

ถ้าท่านยังกำจัดระบบสองแถวไม่ได้ ก็อย่างหวังว่ารถไฟฟ้าจะเกิดง่ายๆครับ เพราะไม่มีใครอยากจะเสียรายได้หรอกครับ...เนื่องจากรายได้หลักของพวกนี้คือชาวต่างชาติ ทั้งที่เต็มใจและไม่เต็มใจให้หลอก เมื่อไหร่ที่มีระบบรถไฟเข้ามา และมีเคลือข่ายครอบคลุมพอ...พวกนี้รายได้หดอย่างน้อยๆ 50% แน่ๆครับ
_________________

[Wisarut]

ผุดโมโนเรลหัวเมืองหลัก
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
หน้า อสังหา REAL ESTATE - อสังหาฯ REAL ESTATE
ออนไลน์เมื่อ วันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2012 เวลา 10:48 น.
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,705 15-18 มกราคม พ.ศ. 2555

คมนาคมหนุนสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลในเขตเมืองหลักทั่วประเทศ หวังแก้ปัญหาจราจรในภาพรวมและลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว สนข.เร่งดันโมโนเรลเมืองพัทยา ใช้เป็นต้นแบบนำร่องก่อนเตรียมขยายสู่เชียงใหม่ ภูเก็ต โคราช นครสวรรค์ ชี้รัฐควรส่งเสริมการลงทุนแบบ PPP เพื่อดึงจีน เกาหลีที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาลงทุน เผยต้นแบบเมืองพัทยาคาดใช้งบ 1 หมื่นล้านบาท มี 10-11 สถานี ระยะ 12 กิโลเมตร เล็งให้ได้ข้อยุติภายในปีนี้

นายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า มีนโยบายสนับสนุนให้มีการศึกษาความเหมาะสมในการสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลขึ้นในหัวเมืองหลัก เช่น เชียงใหม่ นครสวรรค์ นครราชสีมา และภูเก็ต เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรในภาพรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลลงให้ได้มากที่สุด เพื่อส่งเสริมให้หันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนกันมากขึ้น โดยเตรียมเร่งผลักดันที่เมืองพัทยาก่อน หลังจากที่พบว่าประสบปัญหาการสร้างความเข้าใจประชาชน แต่คิดว่าในเร็วๆ นี้เมืองพัทยาจะมีปัญหาจราจรไม่ต่างกับเมืองอื่นๆ จึงควรวางแผนแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนตั้งแต่วันนี้

"คิดว่าโมโนเรลน่าจะช่วยแก้ไขปัญหาได้ดีกว่า แต่ต้องศึกษาความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่แต่ละเมืองอีกครั้ง เพราะต้องการให้ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวลงไปให้มากที่สุด แม้บางพื้นที่จะใช้รถเมล์โดยสาร แต่ก็ยังพบว่าปริมาณการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นหากสามารถช่วยให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชน โดยเฉพาะระบบรางแล้วไปกำหนดมาตรการในการจำกัดรถเข้าไปในพื้นที่นั้นๆ เช่นเดียวกับต่างประเทศที่ดำเนินการ ก็น่าจะทำให้เมืองไทยโดยเฉพาะหัวเมืองหลักน่าอยู่มากขึ้น ไม่แออัดจนเกิดปัญหาจราจร"

รองปลัดคมนาคม กล่าวอีกว่า หากมองไปถึงเรื่องศักยภาพการลงทุน ภาครัฐควรเข้าไปสนับสนุน เนื่องจากงบประมาณของท้องถิ่นยังมีจำนวนไม่มาก แต่หากรัฐส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการที่ดี เปิดโอกาสให้นักลงทุนจากต่างประเทศ เช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่นที่มีความชำนาญในเรื่องระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลเข้ามาร่วมลงทุนแบบภาครัฐและเอกชน หรือPPP: public-private partnership ก็จะสามารถผลักดันโครงการให้ประสบความสำเร็จได้

"ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการที่ดี จัดงบประมาณในเบื้องต้นให้เหมาะสมจนสามารถเลี้ยงตนเองได้อย่างไม่เป็นภาระรัฐบาล โดยเทศบาลเมืองนั้นๆ รับผิดชอบและเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าไปสนับสนุน ก็จะสามารถปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการระบบขนส่งมวลชนรูปแบบใหม่เพื่อสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่นั้นๆ ได้อย่างแน่นอน"

นายประณต สุริยะ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) กล่าวว่า เรื่องการส่งเสริมระบบขนส่งมวลชนและรถโดยสารสาธารณะในเมืองหลักปัจจุบันเริ่มมีความสำคัญมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถไฟฟ้า รถเมล์โดยสาร รถสองแถว รถแท็กซี่สาธารณะ เช่น ในพื้นที่เมืองเชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต และนครราชสีมา

"ต้องมีการศึกษาความเหมาะสมก่อน โดยเฉพาะรูปแบบว่ามีความเหมาะสมกับพื้นที่นั้นๆ อย่างไร ต่อจากนั้นจึงจะไปพิจารณาเรื่องงบประมาณการลงทุน และเรื่องการรับฟังความคิดเห็นประชาชน เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทาง สิ่งสำคัญต้องพิจารณาเรื่องวินัย การรับรู้ ระเบียบกฎหมาย การบริหารจัดการ โดยเฉพาะนโยบายรัฐบาลต้องชัดเจน เรื่องการผลักดันระบบขนส่งมวลชนและรถโดยสารสาธารณะเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยง โดยตัวอย่างที่น่าจะเห็นภาพชัดมากขึ้นคือที่เชียงใหม่และขอนแก่น โดยเฉพาะขอนแก่นที่จะมีโครงการรถเมล์บีอาร์ที ซึ่งบริหารจัดการโดยเทศบาลเมืองขอนแก่นและเอกชนในพื้นที่เข้าไปสนับสนุน พร้อมกับคณะอนุกรรมการจัดระบบจราจรทางบกจังหวัด ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ก็ให้ความสำคัญกับโครงการนี้จึงน่าจะเป็นต้นแบบให้เมืองอื่นๆ นำไปพัฒนาต่อไป"

นายประณต ยังได้ยกตัวอย่างผลการศึกษาระบบโมโนเรลของเมืองพัทยาว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชน เพื่อให้เห็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาจราจรในอนาคต เนื่องจากเมืองพัทยาปัจจุบันก้าวหน้าไปมาก จึงควรมีระบบขนส่งมวลชนเข้ามารองรับโดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลในพื้นที่เมืองพัทยาตามนโยบายของคณะกรรมการพัฒนาเมืองพัทยาชุดปัจจุบัน เนื่องจากเมืองมีพื้นที่จำกัด โดยตามแผนเดิมจะมีการก่อสร้างแนวเส้นทางอยู่บนถนนสาย 1 และพื้นที่ริมชายหาด แต่ได้รับการท้วงติงจากหลายฝ่ายว่าน่าจะไม่ผ่านการรับรองสิ่งแวดล้อม จึงได้ปรับเปลี่ยนแนวเส้นทางใหม่ไปอยู่บนถนนพัทยาสาย 2 แทน

"ขณะนี้ได้ความชัดเจนเรื่องรูปแบบ เส้นทาง และแผนการบริหารจัดการจราจรแล้วอยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ดีเทล ดีไซน์ และเปิดรับฟังความเห็นประชาชนอย่างเป็นทางการ ซึ่งภายในปี 2555 นี้จะต้องชัดเจน ส่วนการก่อสร้างคาดว่าจะใช้งบลงทุนไม่เกิน 10,000 ล้านบาท โดยต้องการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนระยะเวลา 30 ปี ส่วนเมืองพัทยาเป็นผู้จัดหาเดโป้ คาดว่าจะมีประมาณ 10-11 สถานี ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร รูปแบบซิงเกิลแท็กบนตอม่อเดียว"

ทั้งนี้โครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลพัทยา จะผ่านจุดสำคัญ ๆ ของเมืองพัทยา ดังนี้ ถนนพัทยาใต้ เขาพระตำหนัก ถนนพัทยาเหนือ ศาลากลางเมืองพัทยา จุดชมปลาโลมา ถนนอรรถจินดา ถนนชัยพรวิถี โดยล่าสุดมีกลุ่มนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น จีน เกาหลี สวีเดน ให้ความสนใจในโครงการดังกล่าวนี้แล้ว