View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
tamz
3rd Class Pass (Air)
Joined: 01/10/2008 Posts: 457
Location: พัทยา
|
Posted: 04/07/2014 4:05 pm Post subject: สภาพบุรุษจุฑาเทพตัวจริง กับ -การรถไฟ- |
|
|
เมื่อประมาณปี 2556 มีละครซีรี่ย์แนวพีเรียดที่โด่งดังมากๆ จนกระทั่งใครๆ ก็ติดตามกัน (รวมทั้งผม) เรื่องนั้นก็คือละครเรื่อง สภาพบุรุษจุฑาเทพ โอ้ยยยย... ติดมากมายครับ ทั้งดูในวันที่ลงจอ ทั้งดูย้อนหลังในยูทูบ ทั้งซื้อหนังสือมาอ่านยกชุด... อิอิ อิอิ
ครั้งนั้น ชาว RFT.com เราก็วิพากษ์กันใหญ่เลยครั้งเพราะเนื้อหาเป็นแนวพีเรียดย้อนยุค ว่ากันว่ารถไฟมันจะเป็นยังไง จะสมจริงมั๊ย บลาๆๆๆๆ ก็ว่ากันไปครับ.... และก็มีอยู่ตอนนึงที่พอมานึกๆ ดูแล้วก็ค้นประวัติต่างๆ ดูแล้วก็พบว่า การรถไฟฯ ก็เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณชายจุฑาเทพเช่นกันครับ... ลองมาดูกันครับ
สุภาพบุรุษจุฑาเทพตอนดังกล่าว คือตอน คุณชายรัชชานนท์ นั่นเองครับ...
_________________ ผู้โดยสารโปรดทราบ ที่นี่สถานีพัทยา |
|
Back to top |
|
|
tamz
3rd Class Pass (Air)
Joined: 01/10/2008 Posts: 457
Location: พัทยา
|
Posted: 04/07/2014 4:14 pm Post subject: |
|
|
เรื่องย่อ...
เมื่อ ม.ร.ว.รัชชานนท์ จุฑาเทพ หรือคุณชายเล็ก หนีการดูตัวที่หม่อมย่าเอียดต้องการจับคู่กับ ม.ล.ศินีนุช เทวพรหม เพื่อทำตามพระประสงค์ของหม่อมเจ้าวิชชากรที่ต้องการดองกับเทวพรหมให้จงได้ รัชชานนท์จึงร่วมวางแผนกับรณพีร์ น้องชายคู่หูคู่เที่ยว หนีการดูตัวกับศินีนุชได้อย่างเฉียดฉิว โดยรีบหนีไปรับตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิศวกรรมโยธาประจำที่จังหวัดหนองคายและออกเดินทางไปโดยไม่บอกใคร การไปของรัชชานนท์ทำให้ทุกคนที่วังจุฑาเทพวุ่นวายกันไปหมด
ที่หนองคายรัชชานนท์ได้ช่วยจันทา สาวบ้านป่าลูกสาวของพรานเจ้ยจากการข่มเหงของทหารเวียงพูคำ รัชชานนท์เป็นขาลุยชอบเดินป่าถ่ายรูปจึงขอให้พรานเจ้ยนำทางเที่ยวในป่า โดยมีจันทาร่วมเดินทางไปด้วย ซึ่งไม่ได้รู้เลยว่าการเดินทางเข้าป่าครั้งนี้ทำให้ชีวิตของรัชชานนท์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อต้องเจอกับกลุ่มทหารเวียงพูคำตามมาแก้แค้น ทั้งจันทาและรัชชานนท์ถูกยิงบาดเจ็บ ส่วนพรานเจ้ยปกป้องลูกสาวจนตัวตาย แต่ก่อนหน้านั้นได้ให้สร้อยรูปพระจันทร์แก่จันทาไว้ตามหาพ่อแม่ที่แท้จริงของเธอรัชชานนท์และจันทารอดชีวิตเพราะได้สร้อยสาวบ้านป่าลึกลับและ จ่อย เพื่อนคู่หูได้ช่วยไว้
สร้อยกับจ่อยช่วยกันพารัชชานนท์กับจันทาเข้ามารักษาตัวอยู่ที่หมู่บ้านวลาหก ซึ่งเป็นหมู่บ้านลี้ภัยของชาวเวียงพูคำ สร้อยค้นพบว่ารัชชานนท์คือคนในคำทำนายของแม่เฒ่าที่จะมาทำลายมนต์หมอกที่ปกป้องหมู่บ้านวลาหกให้เสื่อมคลาย จึงพยายามจะกำจัดรัชชานนท์ออกไปแต่ก็ไม่สำเร็จ อีกทั้งพ่อใหญ่ พ่อของสร้อยและเป็นผู้นำหมู่บ้านได้สั่งไว้ให้ดูแลรัชชานนท์จนกว่าจะถึงเวลา เพราะรัชชานนท์จะเป็นผู้นำของสำคัญกลับมาสู่ชาวเวียงพูคำ สร้อยทำอะไรไม่ได้เพราะไกรสรและแฮรี่มือขวาของพ่อใหญ่ต่างเห็นชอบในทางเดียวกัน....
.......................... (ย่อไว้ก่อนครับ ตามไปอ่านในลิงค์นะครับ...) ......................
http://drama.kapook.com/view50187.html
.......พอดีรัชชานนท์ได้อ่านข่าวหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการประท้วงครั้งใหญ่ของราชอาณาจักรเวียงพูคำที่มีนายพลเซกองกุมอำนาจปกครองอยู่ และปกครองแบบเอารัดเอาเปรียบจนชาวบ้านต้องการฟื้นฟูระบอบเดิมที่เคยมีเจ้าหลวงสุริยวงศ์ปกครอง เซกองจึงบุกไปที่หมู่บ้านจับตัวเจ้าหลวงสุริยวงศ์มาขังไว้ที่เวียงพูคำ ทำให้รัชชานนท์ตกใจเพราะเมื่อเห็นภาพของเจ้าหลวงสุริยวงศ์เป็นคนเดียวกับพ่อใหญ่ ดังนั้นสร้อยจึงต้องเป็นเจ้าหญิงสร้อยฟ้าแห่งราชอาณาจักรเวียงพูคำที่เขาเคยได้ยินชื่อนั่นเอง แต่เขาก็ปิดเป็นความลับเพราะเกรงว่าสร้อยจะวู่วามหนีกลับไปช่วยพ่อเสียก่อน
ต่อมาได้มีการจัดเลี้ยงต้อนรับคณะกรรมการยูเนสโกเพื่อหาทางแก้ปัญหากรณีประท้วงของราชอาณาจักรเวียงพูคำ รัชชานนท์พยายามปิดบังเรื่องนี้กับสร้อยแต่ไม่สำเร็จ สร้อยจึงร่วมอยู่ด้วยในฐานะพลเมืองของเวียงพูคำ ในงานเลี้ยงนี้เองสร้อยก็ทำให้ทุกคนทึ่งในความสามารถจากความคิดว่าเธอเป็นเพียงสาวชาวป่าไร้การศึกษา แต่เธอกลับต้อนรับพูดคุยกับคณะกรรมการระดับรัฐมนตรีต่างประเทศด้วยภาษาอังกฤษ และภาษาอื่น ๆ อีกหลายภาษา สร้อยซักถามการเมืองเกี่ยวกับประเทศของเธอและรู้ว่าจะมีการเดินทางไปเจรจาในเร็ว ๆ นี้เพื่อคลี่คลายด้วย สร้อยดีใจมาก
แต่แล้วเรื่องราวไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกเมื่อความจริงเปิดเผยว่า ม.ล.ชัชวีร์ เทวพรหม แท้จริงแล้วเป็นเจ้าชายรังสิมันตุ์ที่หายสาบสูญไปเมื่อ 18 ปีก่อน หลังจากเจ้าส่องดาวถูกไล่ล่าจึงนำโอรสมาฝากไว้กับ ม.ร.ว.อนุพันธ์ ที่เป็นพระสหาย จึงเลี้ยงรับไว้เป็นลูกอีกคน เมื่อเรื่องราวกระจ่างทำให้ ม.ล.ชัชวีร์ สำนึกในหน้าที่ที่ต้องกลับไปกู้บัลลังก์และช่วยพระบิดาที่ถูกจับไว้ด้วย เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วคุณชายรัชชานนท์จึงเปิดเผยเรื่องที่ตนเองรู้ว่าสร้อยก็คือเจ้าหญิงสร้อยฟ้าพระขนิษฐาของเจ้าชายรังสิมันตุ์ ซึ่งสร้อยเองก็ไม่เคยรู้ฐานะตัวเองมาก่อนทำให้สองพี่น้องได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรก
คุณชายทั้งสามยกเว้นคุณชายปวรรุจที่ไม่อยู่จึงตกลงใจที่ร่วมกันช่วย ม.ล.ชัชวีร์ กู้บัลลังก์คืนมาให้ได้ ทั้งหมดจึงเดินทางไปที่เวียงหูคำพร้อมกับคณะยูเนสโก แต่ปรากฏว่าถึงสนามบินถูกทหารดักจับตัวทุกคนไป ยกเว้นเจ้าหน้าที่ยูเนสโกเท่านั้น ทำให้รัชชานนท์ใช้โอกาสอันน้อยนิดสารภาพรักกับเจ้าหญิงสร้อยฟ้า เพราะไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน และทั้งคู่ก็ยอมรับในความรักที่มีต่อกันอย่างเปิดเผยเป็นครั้งแรก.........
นี่คือเจ้ารังสิมันต์ หรือ หม่อมหลวงชัชวีร์ เทวพรหม เพื่อนของเหล่าคุณชายจุฑาเทพครับ...
_________________ ผู้โดยสารโปรดทราบ ที่นี่สถานีพัทยา |
|
Back to top |
|
|
tamz
3rd Class Pass (Air)
Joined: 01/10/2008 Posts: 457
Location: พัทยา
|
Posted: 15/07/2014 5:20 pm Post subject: |
|
|
ขอโทษที่หายไปนานครับ...
ช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤติสำหรับพี่น้องรถไฟและคนที่ชื่นชอบระบบรางจริงๆ หวังว่า ครฟ.ทุกท่าน จะอดทนและสู้กับงานเพื่อบริการประชาชนอย่างไม่ย่อท้อนะครับ www.rotfaithai.com ชุมชนคนรักรถไฟ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ...
ดูละครแล้วย้อนมาดูตัว... ภาษิตนี้ยังใช้ได้อยู่เสมอ กงล้อประวัติศาสตร์ย่อมจะย้อนกลับมาที่เดิมไม่วันใดก็วันหนึ่ง... จากละครเรื่องสุภาพบุรุษจุฑาเทพนี้ก็เช่นกัน แรงบันดาลใจก็มาจากเรื่องจริงที่มีความคล้ายคลึงกันอย่างนี้แหล่ะครับ...
สุภาพบุรุษจุฑาเทพท่านนี้ก็คือ พลเอกไสว ไสวแสนยากร เอกบุรุษผู้เคยดำรงตำแหน่งหลายหลากมาแล้วนั่นเองครับ...
ขออภัยนะครับ ภาพท่านเล็กไปหน่อย... ภาพสมัยยังหนุ่มครับ...
_________________ ผู้โดยสารโปรดทราบ ที่นี่สถานีพัทยา |
|
Back to top |
|
|
tamz
3rd Class Pass (Air)
Joined: 01/10/2008 Posts: 457
Location: พัทยา
|
Posted: 17/07/2014 4:24 pm Post subject: |
|
|
พลเอกไสว ไสวแสนยากร หรือพลตำรวจเอกไสว ไสวแสนยากร หรือราชทินนามของท่าน ก่อนที่จะยกเลิกและเวณคืนการใช้บรรดาศักดิ์ก็คือ ขุนไสวแสนยากร
คุณลุงเจียวต้าย... นักประวัติศาสตร์ นักคิด นักเขียนและกวีชื่อดังได้กล่าวถึงท่านไสวฯ ไว้ว่า
สมัยที่ท่านไสวฯ ดำรงตำแหน่งจเรทหารสื่อสารอยู่นั้น ขณะนั้นเป็นช่วงเวลาที่ทหารสื่อสารเพิ่งจะแยกเหล่าออกมาจากเหล่าทหารช่าง จึงต้องเร่งพัฒนาการสื่อสารของทหารไทยให้ทันกับความเจริญของเหล่าทหารสื่อสารของกองทัพบกชาติอื่นๆ ท่านยังมองการณ์ไกลไปอีกว่า บ้านเมืองไทยนั้นทหารกับประชาชนแยกกันไม่ออก นอกจากจะแยกกันไม่ออกแล้ว ทหารยังมีความจำเป็นที่จะช่วยรัฐโดยนำเอาประชาชนมาเป็นพวกเดียวกับรัฐ ไม่แยกไปจากรัฐ วิธีการที่จะทำได้วิธีหนึ่งก็คือ การประชาสัมพันธ์ให้ถึงประชาชน อย่างน้อยก็ประชาชนที่ทำงานร่วมกับทหาร ประชาชนที่อยู่ใกล้ทหาร ให้มีความเข้าใจรัฐ ฉะนั้นท่านจึงได้ดำริตั้งสถานีวิทยุการะจายเสียงสำหรับกองทัพบกขึ้น เป็นครั้งแรกในวงการทหารไทย ซึ่งตั้งชื่อว่า สถานีวิทยุ จส. ขึ้นอยู่ในกรมการทหารสื่อสาร
ภายหลังเมื่อได้ทดลองกิจการกระจายเสียงแห่งนี้ ว่าเป็นผลดีตามที่คิดไว้ ท่านก็คิดไกลออกไปอีกว่า กิจการโทรทัศน์เป็นสื่อมวลชนที่มีคุณค่ายิ่งอันหนึ่ง จึงเสนอเรื่องต่อท่านผู้บัญชาการทหารบก (จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์) ซึ่งท่านผู้บัญชาการทหารบกก็ได้ให้ความเห็นชอบและสนับสนุนด้วยดี ท่านจึงได้รีบดำเนินการและเปิดสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง ๗ (ขาวดำ) ออกอากาศเป็นครั้งแรกที่สวนอัมพรในวันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ.๒๕๐๑ และดำเนินการเรื่อยมา ได้เปลี่ยนเป็นสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง ๕ ในเวลาต่อมา
กิจการด้านวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ของกองทัพบกทั้ง ๒ แห่งนี้ เป็นสื่อมวลชนที่ทำประโยชน์เอนกประการแก่กิจการทหารตั้งแต่นั้นมาจนปัจจุบัน"
ที่มา : http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=pn2474&date=21-04-2010&group=29&gblog=24
แหม่... คิดนอกกรอบและพัฒนาสุดๆ เลยนะครับ... _________________ ผู้โดยสารโปรดทราบ ที่นี่สถานีพัทยา |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 17/07/2014 4:45 pm Post subject: |
|
|
พลเอกไสว ไสวแสนยากร เคยเป็นผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยด้วยนะครับ ตอนเปิดการเดินรถไฟลำนารายณ์หนะครับ |
|
Back to top |
|
|
tamz
3rd Class Pass (Air)
Joined: 01/10/2008 Posts: 457
Location: พัทยา
|
Posted: 18/07/2014 1:15 pm Post subject: |
|
|
Wisarut wrote: | พลเอกไสว ไสวแสนยากร เคยเป็นผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยด้วยนะครับ ตอนเปิดการเดินรถไฟลำนารายณ์หนะครับ |
ขอบคุณพี่หมีวิซซี่มากครับ... สมกับเป็น หจช. ผู้ทรงความรู้ของเว็บฯ ชั้นเลิศของเราครับ...
มาต่อกันครับ...
นอกจากจะเป็นนักการทหารผู้มีวิสัยทัศน์ยาวไกลแล้ว ท่านไสวฯ ก็ยังเคยได้รับความไว้วางใจให้ไปดำรงตำแหน่งในฝ่ายพลเรือนระดับสูงอีกด้วย...
เรื่องของเรื่องก็คือ เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๓ เมื่อเกิดกรณีพิพาทเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับอินโดจีนฝรั่งเศส นายจันทา ราษฎรไทยได้ถูกตำรวจฝ่ายฝรั่งยิงตายที่เวียงจันทน์เมื่อ ๒๖ กันยายน ๒๔๘๓ และเหตุการณ์ได้ขยายตัว รุนแรง จนมีการสู้รบกันทั้งทางบกเรือและอากาศ
ต่อมาวันหนึ่ง พันเอกหลวงเสรีเริงฤทธิ์ หัวหน้าเหล่าทหารสื่อสาร และอธิบดีกรมรถไฟในขณะนั้น ได้ปรารภว่า พลตรีหลวงพิบูลสงคราม กลุ้มใจในการหาคนสักคนหนึ่งที่เป็นเชื้อพระวงศ์ทางหลวงพระบางหรือเวียงจันทน์ เพื่อจะมอบให้ไปทำงานเฉพาะที่ชายแดนกับประเทศลาว ได้มีผู้เสนอชื่อคุณหลวงท่านหนึ่ง แต่คุณหลวงพิบูลไม่ชอบ บอกว่าคุณหลวงคนนั้นขี้เมา แสงพอจะรู้จักใครบ้างไหม ผมก็เลยเรียนท่านไปว่า ผู้กองไสวนี่แหละครับ ไม่ต้องไปหาใครที่ไหนอีกแล้ว คุณหลวงเสรีฯ ท่านถามว่าจริงหรือ
พันเอกแสง จุละจาริตต์ ได้เล่าเรื่องนี้ย้อนหลังไปว่า เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๙ ท่านรับราชการและมีบ้านพักอยู่ในบริเวณกองโรงเรียนทหารสื่อสาร สะพานแดง (กรมการทหารสื่อสารในปัจจุบัน) ขุนไสวฯ และท่านมีบ้านพักใกล้กันวันหนึ่งเมื่อท่านกลับจากการฝึกจะเข้าบ้านพัก ขุนไสวได้เรียกเข้าไปคุยและถามว่า เรื่องสัมพันธภาพระหว่างสยามกับฝรั่งเศส ที่ผมเขียนลงวาสารทหารบกต่อเนื่องกันมาเป็นเวลาหลายเดือนทำไมจึงหายไป ท่านก็บอกว่าทางกองทัพบกขอให้ระงับไว้ก่อน เพราะอาจจะกระทบกระเทือนสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศสได้
ขุนไสวฯ จึงถามว่า คุณแสงเขียนมาถึงประเทศลาวและมีกล่าวถึงเจ้าอุ่นคำด้วย คุณแสงใช้หลักฐานมาจากหนังสืออะไร ท่านก็บอกว่าได้สั่งหนังสือมาจากประเทศฝรั่งเศส โดยสั่งที่ร้านหนังสือกรุงเทพบรรณาคาร (พันเอกแสงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกฝรั่งเศส) และบอกว่ามีภาพเจ้าอุ่นคำในหนังสือนั้นด้วย ขุนไสวได้สนใจขอดูหนังสือนั้น ท่านจึงได้ข้ามถนนไปหยิบหนังสือเล่มดังกล่าวจากบ้านพัก มาเปิดตรงหน้าที่มีภาพเจ้าอุ่นคำให้ดู ขุนไสวดูอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วน้ำตาก็ไหลและบอกว่า คุณแสงอย่าบอกให้ใครรู้นะ เจ้าอุ่นคำตามภาพนี้เป็นปู่ของผมเอง.......
เพิ่มเติมของผมเองนะครับ...
พระเจ้ามหินทรเทพนิภาธร (เจ้าอุ่นคํา) พระมหากษัตริย์องค์ที่ 11 แห่งราชอาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง เสด็จพระราชสมภพ ณ นครหลวงพระบาง เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2354 เจ้าปู่ของท่านไสวฯ ครองราชย์ ระหว่าง 15 ธันวาคม พ.ศ.2415 - 25 มีนาคม พ.ศ.2431 รวมระยะครองราชย์ 15 ปี ทรงเคยร่วมทำศึกกับพันเอกเจ้าหมื่นไวยวรนาท (เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี เจิม แสง-ชูโต) ในการป้องกันพระราชอาณาเขตกับจีนฮ่อด้วยครับ
ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki _________________ ผู้โดยสารโปรดทราบ ที่นี่สถานีพัทยา |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 18/07/2014 3:53 pm Post subject: |
|
|
^^^
แถมพกอีกหนึ่งตอนที่ พลเอกไสว ไสวแสนยากร ยังคุมแม่ทัพภาค 2 ที่โคราชก็เชิญนักข่าวกินลาบเลือด เหล้าสาโท และอาหารอีสานอื่นๆ รู้แต่ว่ามื้อนักข่าวพากัน เมาจนเอาขาชี้ฟ้าไปตามๆกัน |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46876
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 19/07/2014 8:16 am Post subject: |
|
|
ตอนเปิดรถไฟสายสุพรรณบุรี ปี 2506 อยู่ในยุคผู้ว่าฯ พลเอกไสว ด้วยหรือเปล่าครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 19/07/2014 11:32 am Post subject: |
|
|
^^^
ใช่แล้วครับ |
|
Back to top |
|
|
|