View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47105
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47105
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 24/08/2014 10:29 am Post subject: |
|
|
เปิดตำนานพิมพ์ตั๋วรถไฟ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 23 ส.ค. 2557 19:51
คลิปวิดีโอ http://www.thairath.co.th/clip/3805
ตั๋วรถไฟแบบที่เรียกว่า "ตั๋วหนา" ใบเล็กๆหลากสี ยกเลิกใช้ไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน โรงพิมพ์ตั๋วรถไฟจึงหลงเหลือเพียงเรื่องราวเล่าขานจากรุ่นสู่รุ่น แต่ปัจจุบันเครื่องพิมพ์ตั๋วยังใช้การได้และพิมพ์ขึ้นเฉพาะโอกาสพิเศษ ทีมข่าวไทยรัฐทีวี มีโอกาสได้เปิด "ห้องตั๋ว" อีกครั้ง พร้อมๆกับพูดคุยพนักงานพิมพ์ตั๋วที่ได้กลับมาทำหน้าที่ของเขาอีกครั้ง ติดตามจากรายงาน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43916
Location: NECTEC
|
Posted: 29/08/2014 8:23 pm Post subject: |
|
|
ตอนนี้ Thai Publica ได้เปิดประเด็น โครงการทางรถไฟ ที่ บิ๊กตู่ยังเข้าใจผิดอยู่มาก - หน้านี้เอาตอนที่ 1 ก่อน
ข้อเท็จจริงระบบรถไฟไทย (ตอนที่1): ความเข้าใจผิดและความจริงเกี่ยวกับระบบ ราง ของไทยและอาเซียน
Thai Publica
26 สิงหาคม 2014
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2557 กระทรวงคมนาคมเผยแผนพัฒนาระบบคมนาคมว่าปี 2558 จะมีโครงการระยะเร่งด่วนของการรถไฟ ประกอบด้วย โครงการพัฒนาปรับปรุงเส้นทางเดิม หรือรถไฟทางคู่ขนานเส้นทางเดิม ขนาดราง 1 เมตร 6 เส้นทาง วงเงิน 127,472 ล้านบาท และ โครงการวางมาตรฐานใหม่สำหรับอนาคต หรือ รถไฟทางคู่สายใหม่ ขนาดราง 1.435 เมตร 2 เส้นทาง วงเงิน 741,460 ล้านบาท โดยจะใช้รางระบบ Standard Gauge กว้าง 1.435 เมตร แต่ใช้ความเร็วเพียง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คือ
1. เส้นทางหนองคาย-โคราช-สระบุรี-แหลมฉบัง-มาบตาพุด รวมระยะทาง 737 กิโลเมตร ใช้งบประมาณ 392,570 ล้านบาท
2. เส้นทางเชียงของ-เด่นชัย-บ้านภาชี-แหลมฉบัง รวมระยะทาง 655 กิโลเมตร ใช้งบประมาณ 348,890 ล้านบาท
โดยทั้ง 2 เส้นทางเพื่อการขนส่งทั้งคนและสินค้า ซึ่งเป็นเส้นทางที่ถูกจับตาและถูกตั้งคำถามค่อนข้างมากว่ามีความคุ้มค่าหรือไม่เพราะใช้เงินถึง 7 แสนล้านบาท ทั้งนี้นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ขนาดราง 1.435 เมตร ของสองโครงการนี้ จะเป็นการรองรับการเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟที่จะเชื่อมต่อกับ สปป.ลาวและจีน รวมไปถึงระบบรถไฟฟ้าในอนาคตได้ ซึ่งจะวิ่งได้เร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อย่างไรก็ดี ข้อเท็จจริงของระบบรางในภูมิภาคอาเซียนระบุว่าภูมิภาคนี้มีระบบรางขนาด 1 เมตร เป็นส่วนใหญ่ โดยข้อมูลของ CIA The World Factbook ระบุว่าในภูมิภาคอาเซียน มี 5 ประเทศ คือ เมียนมาร์, กัมพูชา, มาเลเซีย, เวียดนาม และไทย ที่ใช้ระบบรางรถไฟ 1 เมตร รวมกัน 13,660 กิโลเมตร คิดเป็น 67% ของระบบรางทั้งหมดในอาเซียน ซึ่งมีระยะทาง 20,310 กิโลเมตร ด้านประเทศฟิลิปปินส์และประเทศอินโดนีเซีย มีระบบรางขนาด 1.067 เมตร ระยะทางรวมกัน 6,037 กิโลเมตร ขณะที่ประเทศบรูไนและสิงคโปร์ ไม่มีข้อมูล
ขนาดรางรถไฟในอาเซี่ยน
ขณะเดียวกัน จากข้อมูลของสำนักงานเลขาธิการอาเซียน (The ASEAN Secretariat) พบว่า อาเซียนได้พยายามผลักดันโครงข่ายรถไฟเชื่อมต่อภูมิภาคอาเซียนและจีนด้วยระบบราง 1 เมตร หรือโครงการ Singapore-Kunming Rail Link (SKRL) มานานแล้ว (ดูภาพ) โดยริเริ่มตั้งแต่ปี 2538 และศึกษาความเป็นไปได้โครงการ (Feasible Study) แล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2542
ทั้งนี้ ความก้าวหน้าล่าสุดของโครงการในปี 2550 ระบุว่า
1) กัมพูชาได้สร้างส่วนขาด (Missing Link) ได้ตามกำหนดการ
2) เวียดนามได้ศึกษาความเป็นได้ที่จะสร้างส่วนขาดเส้นทางโฮจิมินห์ซิตี้ จังหวัด Loc Ninh (จุด 3 ในแผนที่) ซึ่งติดกับชายแดนของกัมพูชาแล้วเสร็จ และกำลังเจรจาหาสถานที่ตั้งจุดเชื่อมต่อ รวมไปถึงกำลังดำเนินการสร้างทางรถไฟเชื่อมใหม่ (Spur Line) จากลาวมายังเวียดนาม
3) ในปี 2549 ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) ได้อนุมัติวงเงิน 60 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ให้กับเวียดนาม และอีก 42 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ให้กับกัมพูชา เพื่อฟื้นฟูทางรางไฟที่ทรุดโทรม ซึ่งบางส่วนก็อยู่ในโครงการ SKRL ด้วย นอกจากนี้ ADB ยังรับผิดชอบการศึกษาความเป็นไปได้เส้นทางพนมเปญ-จังหวัด Loc Ninh (จุด 2 ในแผนที่) ด้วยเงินทุนจากจีน
4) เกาหลีใต้ได้ศึกษาความเป็นไปได้ในเส้นทางจากย่างกุ้งกรุงเทพฯ แล้วเสร็จ
จากข้อเท็จจริงดังกล่าว ชมรมวิศวฯ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมปฏิรูปประเทศไทย (วศ.รปปท.) ได้เสนอแนวปฏิรูปรถไฟไทยว่า เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ทั้งสองควรจะสร้างทางคู่ใหม่อีก 2 รางแยกออกจากรางเดิม รวมเป็น 3 ราง โดยใช้รางขนาด 1 เมตร ทั้งหมด โดยยุทธศาสตร์เชื่อมต่อกับจีนและภูมิภาคผ่านเส้นทาง SKRL ซึ่งใช้ระบบราง 1 เมตรเหมือนกัน ขณะเดียวกัน ยุทธศาสตร์การปรับปรุงทางเดิม เมื่อแยกทางรถไฟออกมาเป็นสามรางแล้ว จะทำให้สามารถแยกการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารออกจากกัน โดยให้รางเดิมใช้ขนสินค้า รางคู่ใหม่ใช้ขนผู้โดยสาร ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจใช้บริการได้สะดวกขึ้น เพราะสามารถจัดสรรเวลาได้ ไม่ต้องรอหลีกขบวนรถไฟของผู้โดยสาร เช่นเดียวกัน ผู้โดยสารก็สามารถเดินทางได้รวดเร็วขึ้นเช่นกัน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องหยุดหลีกขบวนรถไฟผู้โดยสารอีกด้านหนึ่ง นอกจากนี้ ในทางวิศวกรรมศาสตร์แล้ว ราง 1 เมตร สามารถรองรับพิกัดความเร็วสูงสุดได้ถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งสอดคล้องกับแผนงานของกระทรวงคมนาคม (คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)
ประเภทรางรถไฟทั่วโลก
ปัญหาการปฏิรูประบบรถไฟของไทย โครงการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า-ไม่สมเหตุผล
แหล่งข่าวในแวดวงนักวิชาการเกี่ยวกับระบบรางให้ความเห็นว่า รู้สึกไม่สบายใจเลย เพราะความจริงมันไม่จำเป็นเลย เสียเงินตั้ง 7.4 แสนล้านบาท เพียงเพื่อต้องการต่อกับจีนและมีอคติกับทางกว้าง 1 เมตร ซึ่งความจริงเรามีวิธีเชื่อมต่อการขนถ่ายสินค้าจากจีนได้ง่ายและราคาถูกกว่านั้นมากมายมหาศาล คือ มันมีพวกชักใบให้เรือเสียอยู่หลังฉาก คอยเสนอเรื่องรางกว้าง 1.435 เมตร (European Standard Gauge) อยู่ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนรัฐบาลที่ผ่านมาเลย เพราะเป็นพวกมีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้ผลิตระบบนี้ อ้างเหตุผลว่ามันดีกว่าทางรถไฟกว้าง 1 เมตร (Meter Gauge) ทำให้คนทั่วไปคิดว่า มันดีกว่าในระยะยาว แต่ข้อเท็จจริงคือ เราไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อของที่เราไม่จำเป็นต้องใช้ ทั้งนี้เพราะประเทศไทยที่มีทาง 1 เมตร ที่สมบูรณ์และเชื่อมถึงกันเป็นโครงข่ายอยู่แล้ว มันเก่าแก่ ต้องบูรณะเสริมให้แข็งแรง และใช้งบไม่มากก็เปลี่ยนรางเป็น Heavy duty ได้ และการรถไฟก็ได้ดำเนินการเปลี่ยนไปเยอะแล้ว
แหล่งข่าวรายเดิมกล่าวต่อว่า หากเราจะใช้ Standard Gauge ก็จะใช้กับทางรถไฟความเร็วสูงเท่านั้น เหมือนกับที่ญี่ปุ่น เขาตัดสินใจใช้กับชินคันเซนเท่านั้น เพราะเขาคิดถึงความคล่องตัวในการเชื่อมต่อกันเป็นโครงข่ายที่มีอยู่เดิมเป็นหลัก และรถไฟขนส่งสินค้าทั่วโลกเขาก็วิ่งกันไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เท่านั้น เพราะมันจะเบรกไม่ทัน และอันตราย
ดังนั้นหากจะมีการสร้างทางรถไฟสายใหม่เพื่อขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร ที่วิ่งไม่เกิน 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประเทศไทยควรสร้างทางระบบ 1 เมตร เพิ่มจะถูกกว่ามากเลย เพราะเราสามารถใช้ศูนย์ซ่อมบำรุง ย่าน และศูนย์ขนถ่ายสินค้าร่วมกับของเดิมได้ เพียงแค่ปรับปรุงเพิ่มเติม
และถ้าหากเราต้องการเชื่อมต่อกับประเทศลาวและจีน เราก็มีโครงการความร่วมมือสาย SKRL Route (Singapore-Kunming Rail Link) ด้วยระบบทางกว้าง 1 เมตร อยู่แล้ว และประเทศกัมพูชากับเวียดนามก็กำลังดำเนินการเชื่อมต่อ Missing Link อยู่ (ดูภาพประกอบ
นอกจากนั้น ประเทศไทยยังมีทางรถไฟระบบ 1 เมตร จากจังหวัดหนองคายไปถึงท่านาแล้งแล้ว ประเทศไทยเคยจะช่วยลาวสร้างทางรถไฟระบบ 1 เมตร ต่อไปอีกเพียง 10 กิโลเมตร เท่านั้นก็จะไปถึงเวียงจันทน์ และหากมีการสร้างทางแยก (Spur Line) สั้นๆ จากเวียงจันทน์ไปเชื่อมต่อกับทางรถไฟขนาด 1 เมตรของเวียดนามที่ Vung Anh เราก็ไปถึงคุนหมิงของจีนได้แล้ว เพราะเวียดนามมีทางรถไฟขนาด 1 เมตรเชื่อมต่อกับจีนด้วยระบบ Meter Gauge อยู่แล้ว
เราจะเห็นได้ชัดว่า นี่คือความพยายามอีกครั้งหนึ่งที่จะยัดเยียดรางรถไฟระบบ Standard Gauge 1.435 เมตรที่ไม่จำเป็นต้องใช้ให้กับประเทศไทยโดยที่มีเหตุผลไม่เพียงพอแต่อย่างใด ซึ่งคนกลุ่มนี้เข้ามาทำยุ่งทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ และทาง สนข. และการรถไฟรู้เรื่องนี้ดี
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการแก้ปัญหาระบบขนส่งของประเทศที่ถูกต้องคือ จะต้องแยกระบบรถไฟขนส่งสินค้าออกจากทางรถไฟโดยสาร ไม่ต้องให้รถไฟขนสินค้าเป็นลูกเมียน้อย จอดรอให้รถไฟโดยสารแซงเสมอ ถ้าเราแค่สร้างทางรถไฟ 1 เมตร อีก 1 ทาง ตามที่ คสช. อนุมัติมานี้ เราจะไม่มีทางแก้ไขปัญหาโลจิสติกส์ของประเทศได้อยู่ดี และไม่มีทางเป็นไปตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 ได้เลย เพราะพวก freight forwarders ก็จะไม่ยอมกลับมาใช้บริการขนส่งสินค้าทางรถไฟอย่างแน่นอน เพราะไม่สามารถการันตีเวลาถึงจุดหมายปลายทางให้ลูกค้าได้ และนี่คือสาเหตุที่ทำให้ประเทศชาติต้องสิ้นเปลืองพลังงานในการขนส่งทางรถบรรทุกมากกว่าถึง 3.5 เท่าตัว และถนนพังหมด เสียงบประมาณการซ่อมถนนมากมายมหาศาล แถมก่อมลพิษมากมาย แหล่งข่าวกล่าว
พร้อมกับกล่าวย้ำว่า เรากำลังเกาไม่ถูกที่คันเลย จะไปเกาความเร็วสูงแบบไม่สูงจริง และจะไปทำ 1.435 เมตร ให้ได้โดยไม่เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียให้รอบคอบ และทำอย่างรีบเร่งแบบผิดปรกติอย่างน่าสงสัย และการสร้างทางเดี่ยวอีก 1 เส้นกลายเป็นทางคู่ ก็แก้ได้เฉพาะเพิ่มผู้โดยสารเท่านั้น แล้วทำไมประเทศไทยต้องเสียเงินมากมายแบบไม่สมควรอยู่เรื่อยเลย และเรื่องนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เคยศึกษาเรื่องรถไฟทางคู่ตั้งแต่สมัยเป็นรองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจสมัย คมช. และเป็นผู้อนุมัติให้เดินหน้าโครงการรถไฟทางคู่ระบบ Meter Gauge |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43916
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
headtrack
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/05/2009 Posts: 1627
Location: ละแวกภาคกลางตอนบน และภาคเหนือตอนล่าง
|
Posted: 30/08/2014 10:03 am Post subject: |
|
|
...ขอคั่นเรื่องหนักๆ ด้วยข่าวน่ารักๆ ...!?!
...
พิษณุโลกฮอตนิวส์
แปลกดี
! นกเขาคู่รักทำรังกกไข่บนที่กั้นรถไฟ
โพสเมื่อ: วันพฤหัส 28 สิงหาคม 2014, หมวดหมู่: ข่าวทั่วไป, ข่าวเด่น, คลิปวีดีโอ
อันนี้จากเพจ โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=746176788774185&id=222323771159492
...
ภาพและข่าวเข้าอ่านตามลิงค์เลยครับ
...
อาจเป็นเพราะที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติถูกคุกคามจากการขยายตัวของชุมชน ดังที่พบในหลายๆ กระทู้ นกเขาคู่นี้เลยต้องมาเข้าเวรกับ พ.กั้นถนน เสียนี่
(ตามข่าวบอกเป็นเครื่องกั้นอัตโนมัติ แต่ผ่านไปล่าสุดเครื่องกั้นในเมืองพิษณุโลก ใช้ พ.กั้น นะ อาจเพราะปริมาณรถมาก...!?!) _________________
Find me on Instagram: @632knongtsaikhaow |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47105
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 30/08/2014 10:23 am Post subject: |
|
|
หวังว่าไข่ทั้งสองฟองจะฟักออกมาเป็นลูกนกได้ปลอดภัยนะครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47105
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 01/09/2014 12:03 pm Post subject: |
|
|
เผย′รฟท.-ขสมก.′ยังไม่ส่งแผนฟื้นฟูให้ซูเปอร์บอร์ด
มติชนออนไลน์ วันที่ 01 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 11:15:24 น.
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม และ กรรมการในคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือ ซุปเปอร์บอร์ด เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการเสนอต่อซุปเปอร์บอร์ดไม่ทันเนื่องจากครบกำหนดเสนอแผนงานวันที่ 28สิงหาคมจึงต้องขอนำส่งแผนงานล่าช้า
ในส่วนของรฟท.นั้น ไม่ต้องมีการตรวจสอบสถานะของกิจการ หรือ ดีลดิลิเจ้นท์ แต่ก็ต้องมาดูเรื่องการขาดทุน และหนี้ที่มีอยู่ถึง 1 แสนล้านบาท โดยเป็นหนี้ที่มาจากการจ่ายบำนาญให้กับพนักงานที่เกษียณอายุกว่าปีละ 3 พันล้านบาท และต้องมาดูการบริหารทรัพย์สิน ก่อนหน้ามีการเสนอให้โอนสินทรัพย์มามาให้กระทรวงการคลังบริหาร แต่ก็ไม่ได้มีการพูดถึงว่า เมื่อโอนไปแล้ว รฟท.จะได้อะไรกลับมา
ปัญหาของรฟท.มีทั้งส่วนที่ถูกกระทำ และเกิดจากตัวรฟท.เอง แม้ว่ารฟท.จะมีหนี้สูงกว่า 1 แสนล้านบาท แต่สินทรัพย์มีอยู่จำนวนมากโดยมีสินทรัพย์กว่า 2 แสนล้านบาท ก็ไม่ได้เลวร้าย อย่างไรก็ตามรฟท.ก็ต้องทำแผนการแก้ปัญหาเสนอต่อซุปเปอร์บอร์ดต่อไปนางสร้อยทิพย์
สำหรับแผนการฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) (THAI)นั้น ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ (บอร์ด)แล้ว พร้อมกับได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อมาดูแลการฟื้นฟูกิจการด้วย โดยหลังจากนี้ การบินไทยก็ต้องส่งแผนงานดังกล่าวมาให้กระทรวงคมนาคมด้วย |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43916
Location: NECTEC
|
Posted: 02/09/2014 5:17 pm Post subject: |
|
|
กองปราบฯ ส่ง ตร.ดูแลผู้โดยสารบนโบกี้รถไฟสายใต้
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม
ASTV ผู้จัดการ
2 กันยายน 2557 15:19 น.
กองปราบปรามร่วมกับตำรวจรถไฟ ขยายผลโครงการ โปลิศอินเทรน สู่เส้นทางรถไฟสายใต้ เพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยให้ผู้โดยสาร จัดตั้งชุดปฏิบัติการตำรวจคอมมานโด 2 นาย กับตำรวจรถไฟ 2 นาย เดินตรวจตราความเรียบร้อยบนขบวนรถไฟอย่างเข้มงวด
วันนี้ (2 ก.ย.) ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังกำลังตำรวจคอมมานโด กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกับตำรวจรถไฟ จัดทำโครงการ โปลิศอินเทรน (Police in train) เพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นบนขบวนรถไฟ โดยมีการจัดชุดปฏิบัติการเข้าตรวจตราความเรียบร้อยบนขบวนรถไฟสายเหนือ เป็นเวลากว่า 2 เดือนนั้น เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผกก.รักษาราชการแทน ผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท.ปิยรัช สุภารัตน์ สว.รฟ.ศิลาอาสน์ จ.อุตรดิตถ์ พร้อมกำลังได้ขยายโครงการดังกล่าวไปยังเส้นทางรถไฟสายใต้
พ.ต.ท.ต่อศักดิ์เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือนที่ดำเนินโครงการนี้กับขบวนรถไฟสายเหนือได้รับผลการตอบรับเป็นอย่างดี มีประชาชนให้ความสนใจ และจากการสอบถามผู้โดยสารบนตู้โบกี้รถไฟต่างรู้สึกว่าได้รับความปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ สถิติการก่อเหตุต่างๆ ก็ลดลงจนถึงไม่มีเหตุเกิดขึ้นจึงขยายโครงการไปสู่เส้นทางรถไฟสายใต้ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุอาชญากรรมเพราะมีระยะทางยาว ทั้งนี้ได้จัดตั้งชุดปฏิบัติการตำรวจคอมมานโด 2 นาย กับตำรวจรถไฟ 2 นายเดินตรวจตราความเรียบร้อยบนขบวนรถไฟอย่างเข้มงวด
พ.ต.ท.ต่อศักดิ์เปิดเผยด้วยว่า หลังจากดำเนินการแล้วก็จะมีการประเมินผลทุก 10 วัน เพื่อบันทึกว่ามีผลตอบรับเป็นอย่างไร โดยอนาคตอาจจะมีการขยายไปยังรถไฟสายอีสาน เพื่อให้ความปลอดภัยกับพี่น้องประชาชนที่ใช้บริการรถไฟได้อย่างทั่วถึง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการพูดคุยกับผู้โดยสารบนขบวนรถไฟสายใต้ ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37 วิ่งบริการระหว่างสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง)-สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ผู้โดยสารส่วนใหญ่รู้สึกมั่นใจในความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น นอกจากนี้ในระหว่างที่ตำรวจเดินปฏิบัติงาน ผู้โดยสารต่างให้ความร่วมมือและมีรอยยิ้มให้ ส่งผลให้ตำรวจกับประชาชนมีความใกล้ชิดกันมากขึ้นด้วย
//----------------
โปลิศอินเทรน ขยายโครงการสู่รถไฟสายภาคใต้
ข่าวอาชญากรรม : ข่าวทั่วไป
วันพุธที่ 3 กันยายน 2557
โปลิศอินเทรน ขยายโครงการรถไฟสายภาคใต้ ชุดปฎิบัติงานคอมมานโด 2 นาย ตำรวจรถไฟ 2 นาย เดินตรวจความเรียบร้อย พร้อมประเมินผลทุก 10 วัน เตรียมขยายรถไฟสายอีสาน
จากกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโดกองปราบปรามได้ร่วมกับตำรวจรถไฟ ทำโครงการ โปลิศอินเทรน (Police in train) ที่จัดขึ้นเพื่อเป็นป้องกันเหตุอาชญากรรมที่อาจจะเกิดขั้นบนขบวนรถไฟ โดยมีการจัดตั้งชุดปฎิบัติงานขึ้นเพื่อเดินตรวจความเรียบร้อยบนขบวนรถไฟสายภาคเหนือ เป็นเวลากว่า 2 เดือน
ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รักษาราชการแทน ผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท.ปิยรัช สุภารัตน์ สว.สรฟ.ศิลาอาสน์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโด และเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ ได้ร่วมกันขยายโครงการ โปลิศอินเทรน (Police in train) สู่รถไฟสายภาคใต้ ตามแผนดำเนินโครงการ
พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ เปิดเผยว่า ในระยะเวลากว่า 2 เดือน ที่ได้เริ่มทำโครงการดังกล่าวจากรถไฟสายภาคเหนือได้รับผลการตอบรับเป็นอย่างดี มีประชาชนให้ความสนใจและจากการสอบถามพบว่าผู้โดยสารบนรถไฟรู้สึกว่าได้รับความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้สถิติการก่อเหตุต่าง ๆ ก็ลดลงเหลือ 0 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมาได้ขยายโครงการดังกล่าวสู่รถไฟสายใต้ ที่ตั้งใจจะทำตั้งแรกอยู่แล้ว เนื่องจากรถไฟสายใต้เป็นสายที่มีความเสี่ยงมากที่สุดที่จะเกิดเหตุอาชญากรรม โดยจะจัดตั้งชุดปฎิบัติงานมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโด 2 นาย ตำรวจรถไฟ 2 นาย ร่วมกันปฎิบัติงานเดินตรวจสอบความเรียบร้อยบนรถไฟสายใต้
" หลังจากนี้จะมีการประเมินผลทุก ๆ 10 วัน เพื่อทำบันทึกว่ามีผลตอบรับอย่างไร ทั้งนี้ในอนาคตอาจจะมีการขยายไปยังรถไฟสายอีสานอีกด้วย เพื่อที่จะให้ความปลอดภัยกับพี่น้องประชาชนให้ทั่วถึง" พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการพูดคุยกับผู้โดยสารบนขบวนรถไฟสายใต้ ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37 วิ่งระหว่าง สถานีหัวลำโพง(กรุงเทพฯ) - สุไหงโกลก พบว่าผู้โดยสารรู้สึกว่ามีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น นอกจากนี้ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินตรวจปฎิบัติงานนั้นผู้โดยสารต่างให้ความร่วมมือและมีรอยยิ้มตลอดการปฎิบัติงานอีกด้วย
Last edited by Wisarut on 03/09/2014 9:56 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47105
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 03/09/2014 11:52 am Post subject: |
|
|
... |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 47105
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 03/09/2014 12:12 pm Post subject: |
|
|
... |
|
Back to top |
|
|
|