View previous topic :: View next topic
Author
Message
nutsiwat
2nd Class Pass Joined: 03/03/2011 Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร
Posted: 12/06/2017 8:48 pm Post subject:
Wisarut wrote:
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-เดือนกันยายน 2560 กระทรวงคมนาคม จะทยอยเสนอโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 จำนวน 9 เส้นทาง เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา ประกอบด้วย
1. เส้นทางสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ รวมระยะทาง 326 กิโลเมตร
2. สาย บ้านไผ่ มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม.
3. ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัยระยะทาง 285 กม.
4. ช่วงชุมทางถนนจิระ- อุบลราชธานี ระยะทาง 309 กม.
5. ช่วงขอนแก่น-หนองคายระยะทาง 174 กม.
6. ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 167 กม.
7. ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 339 กม.
8. ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. และ
9. ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 217 กม.
ขณะที่ในส่วนโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ประกอบด้วย
เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร
ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กิโลเมตร
ช่วงมาบกะเบาชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร
ช่วงลพบุรี -ปากนําโพ ระยะทาง 116 กิโลเมตร
ช่วงนครปฐม หัวหิน ระยะทาง 169 กิโลเมตร
ได้สั่งให้ทบทวนทีโออาร์ใหม่เพื่อให้มีความโปร่งใส โดยคาดว่าจะเริ่มทยอยเปิดประมูลได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2560
ทางคู่ตั้งแต่ช่วงหาดใหญ่ - สุไหงโกลก น่าจะติดบอร์ดด้วยนะครับ ต่อให้เป็นเส้นทางที่ผ่านดงอันตราย ผ่านจุดที่เสี่ยงภัยต่อชีวิต เสี่ยงภัยต่อการก่อการร้าย หรือเสี่ยงภัยต่อการถูกลอบวางระเบิดหรือถูกโจมตีก็ตาม แต่ถ้าเรานำความเจริญไม่ว่าจะเป็นการรับส่งผู้โดยสารที่เส้นทางสายนี้ก็มีผู้โดยสารใช้ในการเดินทางมากพอสมควร รวมทั้งมีขบวนรถสินค้า ขบวนรถน้ำมันลงไปยังเส้นทางสายนี้บ้าง น่าจะมีการสร้างทางคู่เพิ่มในเส้นทางสายดังกล่าวด้วย ต่อไปในอนาคตสถานีสุไหงโกลก อาจจะเป็นสถานีที่เชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซียอีกเส้นทางที่รองรับการแออัดของด่านปาดังเบซาร์ได้ สะพานดำที่ข้ามแม่น้ำโกลกก็มีอยู่แล้ว รอทางด่านมาเลเซียเปิดการเชื่อมต่อเท่านั้น สำหรับประเทศไทยเราก็น่าจะพร้อมเช่นกันที่จะเปิดเดินรถระหว่างประเทศในสายนี้ได้ครับ รอทางผู้ใหญ่จะให้ความสำคัญหรือไม่ ถ้าหากว่ายังมองว่าเป็นเส้นทางที่อันตราย ซึ่งประชาชนก็ยังคงใช้บริการในเส้นทางนี้อยู่ไม่ขาดสาย _________________
--------------------------
สถานีต่อไป สถานีเรณูนคร
next station Renunakorn
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48310
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44638
Location: NECTEC
Posted: 13/06/2017 5:16 pm Post subject:
ชงรถไฟทางคู่3.9แสนล.เข้าครม.เร่งประมูลไฮสปีดกทม.-ระยอง-แอร์พอร์ตลิงก์
ข่าวพัฒนาสาธารณูปโภค
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
วันที่ 13 มิถุนายน 2560
คมนาคมเดินหน้ารถไฟทางคู่เฟส 2 เป็นระยะเร่งด่วน 3.9 แสนล้าน ชงครม.มิ.ย.-ส.ค.นี้ 'สมคิด' ให้ 'อาคม' หารือญี่ปุ่นเพิ่ม ที่เสนอขยายไฮสปีด กทม.-ระยอง ยาวถึงอยุธยา สนข.ยันไม่ล้มรถไฟฟ้าสายสีแดง มักกะสัน-หัวหมาก
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายที่กระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ว่า ขอบคุณกระทรวงคมนาคมที่ผลักดันโครงการโครงสร้าง พื้นฐานคืบหน้าเป็นไปตามแผนงาน เบิกจ่ายงบตามเป้าหมาย ทำให้ดัชนีแข่งขันของไทยปีนี้ปรับขึ้นจากอันดับ 28 เป็น 27
ส่วนปัญหาสายการบินนกแอร์นั้น การบินไทยต้องแก้ปัญหาและตัดสินใจเร็วว่าจะเข้าไปถือหุ้นเพิ่มทุน หรือจะให้นกแอร์ร่วมทุนกับหุ้นส่วนอื่นๆ สั่งให้กระทรวงคมนาคม เข้าดูแลเรื่องนี้ ส่วนที่รัฐบาลญี่ปุ่นเสนอขยายเส้นทางรถไฟความเร็วสูงกทม.-ระยอง เชื่อมต่อ 3 สนามบิน ถึงอยุธยา มอบหมายให้กระทรวงหารือรายละเอียดกับญี่ปุ่น
นายสมคิดกล่าวต่อว่า สำหรับรถไฟความเร็วสูงไทย-ญี่ปุ่น เส้นทางกทม.-เชียงใหม่ เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและญี่ปุ่นนั้นยังเดินหน้าตามเดิม ไม่ได้ยกเลิก ซึ่งประเด็น ความคุ้มค่า อย่ามองผลตอบแทนการเงินอย่างเดียว
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวถึงกรณีญี่ปุ่นเสนอขยายรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 ท่าอากาศยาน อู่ตะเภา-สุวรรณภูมิ-ดอนเมืองไปถึงจ.พระนครศรีอยุธยานั้น เบื้องต้นเป็นเพียงข้อเสนอ ตอนนี้ยังเดินหน้าแผนเดิม ให้ญี่ปุ่นศึกษารถไฟความเร็วสูง กทม.-พิษณุโลก-เชียงใหม่ และให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ศึกษารถไฟความเร็วสูง กทม.-พัทยา-ระยอง
ด้านโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทาง 211 ก.ม. วงเงิน 9.4 หมื่นล้านบาท ได้เปิดรับฟังความคิดเห็น และกระทรวงมีเป้าหมายจะเสนอโครงการรถไฟทางคู่ในแผนปฏิบัติการขนส่งระยะเร่งด่วน (Action Plan) ปี 2560 (รถไฟทางคู่เฟส 2) ระยะทาง 2,217 กิโลเมตร มูลค่ารวม 3.9 แสนล้านบาทให้ครม.เห็นชอบได้ครบทั้งหมดในเดือนมิ.ย.-ส.ค.นี้
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผอ.สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) เปิดเผยว่า คาดว่าจะมีการรวมโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เข้ารถไฟฟ้าความเร็วสูง กทม.-พัทยา-ระยอง เพื่อเปิดประมูลแบบ PPP พร้อมกัน ขณะเดียวกัน รฟท.ต้องหาข้อสรุปว่า จะดำเนินการอย่างไรกับบริษัท รถไฟฟ้า รฟท. จำกัด บริษัทลูกของรฟท. และผู้บริหารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ในปัจจุบัน คาดว่าบริษัท รถไฟฟ้า รฟท. จะบริหารรถไฟฟ้าสายสีแดงแทน
ขณะเดียวกัน จะไม่มีการยกเลิกโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง มักกะสัน-หัวหมาก ระยะทาง 10 ก.ม. ซึ่งวิ่งคู่ขนานกับโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ เพราะเป้าหมายแตกต่างกัน รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์เชื่อมท่าอากาศยาน แต่สายสีแดง รถไฟฟ้าท้องถิ่น เชื่อมกทม.กับปริมณฑล
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44638
Location: NECTEC
Posted: 13/06/2017 11:10 pm Post subject:
รฟท.แจงไม่ล็อคสเปครถไฟทางคู่
กม.กำหนด แค่ลดผลงาน ใช้ผลงานก่อสร้างทางรถไฟเพียงร้อยละ 10 ของมูลค่างาน จากเดิมกำหนดไว้ที่ 20-30
เดลินิวส์
อังคารที่ 13 มิถุนายน 2560 เวลา 19.37 น.
รฟท.ชี้แจงกรณีมีผู้วิจารณ์เกี่ยวกับเงื่อนไขการประกวดราคา โครงการประมูลรถไฟทางคู่ ส่อล็อกสเปคไม่เปิดช่องให้ผู้รับเหมาทั่วไปยื่นประมูลและทีโออาร์ อยู่ในเกณฑ์
ชี้แจงกรณีการล็อคสเปคการประมูลรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง จาก FM 101 Talk
https://www.youtube.com/watch?v=nAevUPrIHXE
รฟท.ย้ำประมูลรถไฟทางคู่ไม่มีล็อคสเปค
โพสต์ทูเดย์
12 มิถุนายน 2560 เวลา 19:50 น.
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่า จากกรณีกระแสข่าวการประมูลรถไฟทางคู่ 5 เส้นที่ถูกกล่าวหาว่ามีการล็อคสเปคและไม่เปิดกว้างให้ผู้รับเหมาทั่วไปได้เข้าร่วมประมูล ซึ่งตามความจริงแล้วเรื่องดังกล่าวนั้นเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
รักษาการผู้ว่ารฟท.แจงประมูลรถไฟทางคู่ 5 เส้นไม่มีการล็อคสเปค ชี้กลุ่มที่ออกมาให้ข่าวเป็นกลุ่มผิดหวังจากการประกวดราคา เนื่องจากที่ระบุว่ามติเดิมให้แยกเป็นงานโยธา ราง และอาณัติสัญญาณ รวม 3 อย่างนั้น อันที่จริงงานโยธาและงานราง จะรวมกันเป็น 1 สัญญา ส่วนงานอาณัติสัญญาณแยกเป็น 1 สัญญา ส่วนการกำหนดให้มีผลงานก่อสร้างที่เกี่ยวเนื่องกันก็เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ส่วนประเด็นเรื่องผู้รับเหมาต้องการเสนอตัวเข้าร่วมประกวดราคาแบบเดี่ยวนั้น จะสามารถเข้าร่วมประกวดราคาได้ประมาณ 15-16 ราย แต่หากจับคู่เป็นกิจการร่วมค้าทางผู้รับเหมาที่ไม่เคยทำงานก่อสร้างทางรถไฟจะเข้าร่วมได้อีก 50 ราย ที่สามารถไปจับมือกับ 15-16 ราย ที่มีประสบการทางราง โดยเฉพาะผู้รับเหมาก่อสร้างที่ผ่านงานถนนกับกรม
ทางหลวง(ทล.)ที่มีมูลค่าเกิน 500 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าดังกล่าวถือว่าน้อยมากไม่ถึง 10% ของมูลค่าโครงการที่อยู่ระดับ 6,000-10,000 ล้านบาท โดยในจำนวนที่กล่าวมาดังกล่าว คือ เฉพาะที่เป็นบริษัทของไทยเท่านั้น ยังไม่รวมต่างชาติอีกประมาณ 4-5 ประเทศที่สามารถเป็นตัวหลักในการเข้าร่วมประมูลได้เช่นเดียวกัน ซึ่งจะแตกต่างจากเงื่อนไขการประกวดราคา(ทีโออาร์)เดิมอย่างสิ้นเชิง เพราะจะสามารถเข้าได้เพียง 5-6 รายเท่านั้น
นายอานนท์ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่ออกมาให้ข้อมูลนั้นน่าจะเป็นกลุ่มที่ผิดหวังจากการเข้าประกวดราคาเนื่องจากไม่เคยทำงานเกี่ยวกับรถไฟจึงหมดสิทธิ์ร่วมขั้นตอนประมูล จนนำไปสู่การตั้งข้อสงสัยว่าทำไมต้องเคยมีผลงานเกี่ยวกับรถไฟด้วย ก็ต้องชี้แจงว่า การที่เปิดให้ผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการก่อสร้างทางรถไฟเข้ามาแล้วไม่สามารถดำเนินโครงการได้สำเร็จ ก็จะกระทบถึงระบบเศรษฐกิจในภาพรวมด้วย ไม่เพียงแต่เฉพาะรถไฟเท่านั้น
รฟท. ปัด TOR รถไฟทางคู่ 5 เส้นทางล็อคสเปก ยันเปิดกว้าง-โปร่งใส แต่เน้นประสบการณ์ผู้รับเหมา
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th --
ข่าวเศรษฐกิจ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) --
อังคารที่ 13 มิถุนายน 2560 08:56:28 น.
รฟท.ยืนยันโครงการประมูลรถไฟทางคู่ มีความโปร่งใส ยุติธรรม เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ และเปิดกว้างให้มีผู้เข้าแข่งขันได้มากราย
สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
อังคารที่ 13 มิถุนายน 2560
ร.ฟ.ท.แจงทีโออาร์ทางคู่ไม่ล็อกสเปก กำหนดผลงาน 730 ล้านเหมาะสม
โดย MGR Online
13 มิถุนายน 2560 08:32 น. (แก้ไขล่าสุด 13 มิถุนายน 2560 09:44 น.)
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชี้แจง
ข้อวิจารณ์เงื่อนไขการประกวดราคาในโครงการประมูลรถไฟทางคู่ ส่อล็อคสเปคไม่เปิดช่องให้ผู้รับเหมาทั่วไปยื่นประมูล เนื่องจากทีโออาร์ระบุผู้รับเหมาต้องผ่านงานก่อสร้างรถไฟ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 730 ล้านบาท โดยชี้แจงว่า ประเด็นที่ถูกตั้งข้อสงสัยในการระบุคุณสมบัติผู้จะเสนอราคา ทั้งที่ มติ ครม. ให้แยกงานโยธา ออกจากการวางราง เพราะเป็นงานที่ไม่ซับซ้อนบริษัทรับเหมาทั่วไปก็ทำได้ เพื่อให้เกิดการแข่งขันนั้น การรถไฟฯ ได้เปิดประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ จำนวน 5 สายทาง ได้แบ่งงานก่อสร้างออกเป็นสัญญางานโยธา (งานก่อสร้างโครงสร้างทางรถไฟ รวมงานติดตั้งรางรถไฟ) จำนวน 10 สัญญา และสัญญางานระบบอาณัติสัญญาณ จำนวน 3 สัญญา โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ วงเงิน 7,305.26 ล้านบาท เป็นโครงการแรก เมื่อวันที่ 16 พ.ค.60
ในการกำหนดคุณสมบัติของผู้เสนอราคาให้ผลงานก่อสร้างทางรถไฟมีมูลค่าการก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 730 ล้านบาท หรือ ผลงานก่อสร้างโครงสร้างทางรถไฟหรือรถไฟฟ้ามีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 560 ล้านบาทและผลงานติดตั้งระบบรางรถไฟหรือรถไฟฟ้ามีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 170 ล้านบาทนั้น เนื่องจากงานโครงการนี้เป็นการก่อสร้างทางรถไฟ จึงต้องกำหนดให้ผู้เสนอราคาต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟมาก่อน ตามตัวอย่างเอกสารประกวดราคาของ กวพ. และตามหนังสือสำนักนายกรัฐมนตรีที่ นร (กวพ) 1204/ว 11441 ลงวันที่ 28 พ.ย.39 ที่ระบุให้กำหนด ผลงานก่อสร้างประเภทเดียวกันกับงานที่ประกวดราคาจ้าง"
ทั้งนี้การรถไฟฯ ยังเปิดกว้างให้มีผู้เข้าร่วมแข่งขันในการเสนอราคามากรายโดยกำหนดให้ใช้ผลงานก่อสร้างทางรถไฟเพียงร้อยละ 10 ของมูลค่างาน ซึ่งลดลงจากในอดีตที่กำหนดผลงานร้อยละ 20-30 ของมูลค่างานตามสัญญา และยังอยู่ในหลักเกณฑ์ตามหนังสือสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ นร (กวพ) 1305/ว 7914 ลงวันที่ 22 ก.ย. 43 ที่ให้กำหนดผลงานก่อสร้างได้ไม่เกินร้อยละ 50เนื่องจากโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เป็นโครงการที่สำคัญของรัฐบาล ใช้งบประมาณสูง หากเกิดความล่าช้าเนื่องจากผู้รับจ้างไม่มีผลงานหรือประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องโดยตรง จะส่งผลกระทบต่อแผนการเปิดใช้งาน ความเชื่อมั่นของภาคเอกชน และความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตอย่างมาก
ในการกำหนดคุณสมบัติของผู้เสนอราคาที่เป็นกิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนใหม่ ที่กำหนดให้ใช้ผลงานของผู้ร่วมค้าหลักนั้น เป็นไปตามหนังสือสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ นร (กวพ) 1305/ว 2457 ลงวันที่ 16 มี.ค.43 ที่กำหนดว่า กรณีที่กิจการร่วมค้าไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ โดยหลักการนิติบุคคลแต่ละนิติบุคคลที่เข้าร่วมค้าทุกราย จะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในเอกสารประกวดราคา เว้นแต่กรณีที่กิจการร่วมค้าได้มีข้อตกลงระหว่างผู้เข้าร่วมค้าเป็นลายลักษณ์อักษรกำหนดให้ผู้เข้าร่วมค้ารายใดรายหนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการเข้าเสนอราคากับทางราชการและแสดงหลักฐานดังกล่าวมาพร้อมกับซองประกวดราคากิจการร่วมค้านั้น สามารถใช้ผลงานก่อสร้างของผู้ร่วมค้าหลักรายเดียว เป็นผลงานก่อสร้างของกิจการร่วมค้าที่ยื่นเสนอราคาได้"
อย่างไรก็ตาม การกำหนดคุณสมบัติด้านผลงานตามข้างต้น ส่งผลให้
1. บริษัทในประเทศไทยเข้าร่วมเสนอราคาในฐานะนิติบุคคลไทยรายเดียวได้ไม่ต่ำกว่า 15 ราย
2. บริษัทต่างชาติเข้าร่วมเสนอราคาในลักษณะของกิจการร่วมค้าได้อีกหลายราย
3. บริษัทในประเทศไทยที่มีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ โดยไม่กำหนดมูลค่างาน หรือผลงานก่อสร้างงานโยธาที่มีมูลค่าการก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท สามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกในกิจการร่วมค้าได้อีกไม่ต่ำกว่า 50 ราย
การรถไฟฯ ขอยืนยันว่าการกำหนดคุณสมบัติของผู้เสนอราคาดังกล่าว เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ และเปิดกว้างให้มีผู้เข้าแข่งขันได้มากราย มีความโปร่งใส ยุติธรรม และในขณะเดียวกันก็เป็นการรับประกันความสำเร็จของผลงานทั้งด้านคุณภาพและระยะเวลาก่อสร้าง[url][/url]
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48310
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44638
Location: NECTEC
Posted: 15/06/2017 10:58 am Post subject:
สมคิดลุย5ทางคู่พร้อมแจงทุกกรณี
ออนไลน์เมื่อ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2560
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,270 วันที่ 15 - 17 มิถุนายน พ.ศ. 2560
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีกลุ่มบริษัทรับเหมาร้องว่าการประมูลโครงการรถไฟทางคู่เฟสแรกใน 5 เส้นทางมีการล็อคสเปคว่าโครงการดังกล่าวได้ผ่านการตรวจสอบเป็นอย่างดีจากคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างด้านการประกวดราคาหรือซูเปอร์บอร์ดแล้ว จึงให้เดินหน้าโครงการดังกล่าวต่อไป พร้อมย้ำว่าสามารถชี้แจงได้ทุกกรณี
ด้านนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ร.ฟ.ท. ได้เปิดประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 5 สายทาง โดยได้แบ่งงานก่อสร้างออกเป็นสัญญางานโยธา (งานก่อสร้างโครงสร้างทางรถไฟ รวมงานติดตั้งรางรถไฟ) จำนวน 10 สัญญา และสัญญางานระบบอาณัติสัญญาณจำนวน 3 สัญญา โดยร.ฟ.ท.ได้ออกประกาศประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ วงเงิน 7,305 ล้านบาท เป็นโครงการแรก เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2560
โดยกำหนดคุณสมบัติของผู้เสนอราคาให้ผลงานก่อสร้างทางรถไฟมีมูลค่าการก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 730 ล้านบาท หรือผลงานก่อสร้างโครงสร้างทางรถไฟหรือรถไฟฟ้ามีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 560 ล้านบาท และผลงานติดตั้งระบบรางรถไฟหรือรถไฟฟ้ามีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 170 ล้านบาทนั้น เนื่องจากงานโครงการนี้เป็นการก่อสร้างทางรถไฟ จึงต้องกำหนดให้ผู้เสนอราคาต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟมาก่อน
"เนื่องจากโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เป็นโครงการที่สำคัญของรัฐบาล ใช้งบประมาณสูง หากเกิดความล่าช้าจากผู้รับจ้างไม่มีผลงานหรือประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องโดยตรง จะส่งผลกระทบต่อแผนการเปิดใช้งาน ความเชื่อมั่นของภาคเอกชน และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตมาก"
ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตามที่รองนายกสมคิด มอบหมายให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นำเรื่องปมปัญหาของโครงการ เสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อใช้มาตรา 44 แก้ไขนั้นล่าสุดเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้นำเสนอครม.(13 มิย.60) เนื่องจากร.ฟ.ท. เพิ่งเข้าหารือร่วมกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
"ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาปรับแก้ไขรายละเอียดก่อนเสนอครม.โดยเบื้องต้นเป็นเรื่องพิจารณาเกี่ยวกับระเบียบกฎหมายที่ไม่เอื้อต่อการปฏิบัติงาน การเวนคืน การออกใบอนุญาตด้านการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จากต่างประเทศ แต่ไม่พบว่ามีการขอยกเว้นการปฏิบัติเกี่ยวกับผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)แต่อย่างใด"
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44638
Location: NECTEC
Posted: 19/06/2017 10:38 am Post subject:
ยังร้องไม่จบ! ทีโออาร์รถไฟทางคู่ล็อกงานอุโมงค์-ราง ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจี้เปิดกว้างรับเหมาแจ้งเกิดทั่วถึง
โดย MGR Online
19 มิถุนายน 2560 10:21 น.
แฉTORรถไฟทางคู่ล็อกงานอุโมงค์-ราง
โดย ผู้จัดการรายวัน
18 มิถุนายน 2560 22:26 น. (แก้ไขล่าสุด 19 มิถุนายน 2560 00:57 น.)
ผู้รับเหมาร้องทีโออาร์ทางคู่ล็อกเงื่อนไขงานก่อสร้าง อุโมงค์-ราง ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อสั่งเร่งพิจารณา ด้าน อานนท์ เสนอบอร์ด ร.ฟ.ท.วันนี้ เผยเทคนิคอุโมงค์หินกับดินอ่อนไม่เหมือนกัน ขณะที่ยันโรงงานผลิตรางเปิดกว้างแล้ววัดที่คุณภาพตัวรางตามมาตรฐาน
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง (ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อ) ที่มีนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล เป็นประธาน เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ติดตามประเด็นที่มีบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ร้องเรียนถึงกรณีเงื่อนไขทีโออาร์โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ ราคากลาง 9,326.83 ล้านบาท ซึ่งทีโออาร์กำหนดให้ผู้ยื่นประมูลต้องมีประสบการณ์เจาะอุโมงค์หินเท่านั้น ซึ่งเป็นสเปกที่แคบทำให้ผู้มีประสบการณ์เจาะอุโมงค์ประเภทอื่นไม่สามารถเข้าร่วมได้ เช่น อุโมงค์ใต้ทะเล อุโมงค์ใต้แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นงานที่มีความยากมากเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังมีการร้องเรียนเงื่อนไขโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกะเทียม (ทางรถไฟยกระดับ) ราคากลาง 10,091.730 ล้านบาท ซึ่งผู้รับเหมาจะต้องมีประสบการณ์ก่อสร้างทางยกระดับเท่านั้น ซึ่งจะทำให้งานนี้มีผู้ที่สามารถยื่นได้ประมาณ 3 รายเท่านั้น คือ รายที่เคยทำงานก่อสร้างรถไฟฟ้า ซึ่งซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อมองว่าทีโออาร์ควรเปิดกว้างมากกว่านี้เพื่อให้ผู้รับเหมารายกลางได้แจ้งเกิดกับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ และการปลดเงื่อนไขเหล่านี้จะแก้ไขการผูกขาดประมูลได้อย่างถาวร
และยังมีประเด็นที่ถูกร้องเรียนคือ การกำหนดโรงงานผลิตรางว่าจะต้องมี ISO 9002 ซึ่งโรงงานที่จะเข้าข่ายมีน้อยมาก โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้กำหนดเฉพาะเรื่อง ISO9002 โดยจะให้ใช้การจ้าง Third Party ตรวจสอบ หรือเป็นโรงงานที่มาตรฐานระดับเดียวกับมาตรฐาน TUV มาเทียบเคียงด้วยได้ จึงให้ ร.ฟ.ท.พิจารณาเรื่องการเพิ่มถ้อยคำเพื่อให้เกิดการเปิดกว้างมากที่สุด
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า จะนำข้อคิดเห็นของซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อรายงานต่อมี่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. ในวันนี้ (19 มิ.ย.) พร้อมจะให้เชิญวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างอุโมงค์ให้ข้อคิดเห็นประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ หลักการในการกำหนดทีโออาร์งานอุโมงค์นั้น เนื่องจากมองว่าเทคนิคและความปลอดภัยในงานขุดอุโมงค์หินจะแตกต่างจากอุโมงค์ที่เป็นดินอ่อน หรืออุโมงค์ประเภทอื่น แต่ทั้งนี้หากผู้เชี่ยวชาญเห็นงานเทคนิคมีความใกล้เคียงกันอาจจะพิจารณาตัดคำว่า หิน ออก เหลือ แค่ อุโมงค์ อย่างไรก็ตาม มีการแยกงานอุโมงค์ออกมาเป็นสัญญาเดี่ยว ซึ่งประเมินว่าจะมีผู้ยื่นได้ประมาณ 3 ราย ถือว่าเพียงพอต่อการพิจารณาระดับหนึ่ง
สำหรับกรณีโรงงานผลิตรางต้องมี ISO 9002 นั้น ยืนยันว่าไม่มีการล็อกใดๆ เนื่องจากจะกำหนดคุณสมบัติของรางที่ต้องการอยู่แล้ว ซึ่งรางจะมีคุณสมบัติเฉพาะตัวทั้งความแข็งแรง การยืดตัว ประเด็นนี้อาจเป็นเรื่องของการตีความข้อความซึ่งหากมีข้อสงสัยจะพิจารณาอีกครั้ง
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44638
Location: NECTEC
Posted: 19/06/2017 1:05 pm Post subject:
โคราชวิตกโครงการรถไฟทางคู่ผ่านเมืองไม่ยกระดับ หวั่นอนาคตปัญหาเพียบ! วอนปรับเปลี่ยนรูปแบบ
ที่มา มติชนออนไลน์
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
updated: 16 มิ.ย. 2560 เวลา 12:24:36 น.
ความเคลื่อนไหวขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และประชาชนในเขตเมืองนครราชสีมา หลังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้มาตรา 44 เร่งรัดดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ได้สร้างความดีใจให้กับทุกภาคส่วนของโคราช ที่เฝ้ารอความจริงมาหลายรัฐบาล
แต่บทสรุปการประชาพิจารณ์ ซึ่งดำเนินการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กำหนดรูปแบบการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ขอนแก่น-ชุมทางถนนจิระ-มาบกะเบา ช่วงเส้นทางจากสถานีภูเขาลาด อ.เมือง ถึงสถานีบ้านเกาะ อ.เมือง เป็นทางรถไฟบนดินสร้างคู่ขนานกับทางรถไฟเดิม เพื่อความปลอดภัยและความรวดเร็วในการเดินทางระบบราง ต้องปิดจุดตัดถนนข้ามทางรถไฟ ซึ่งมีเครื่องกั้นควบคุมการเปิดปิดด้วยมนุษย์และอัตโนมัติ รวม 10 จุด ก่อสร้างทางต่างระดับเป็นสะพานข้ามทางรถไฟจำนวน 6 จุด ได้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน
โดยเฉพาะทางข้ามถนนพิบูลละเอียด บริเวณห้าแยกการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จังหวัดนครราชสีมา ถนนราชดำเนิน ข้างจวน ผวจ.นครราชสีมา ถนนไชยณรงค์ หลังโรงแรมปัญจดารา ถนนเบญจรงค์ และถนนเลียบนคร ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อ อปท.ขนาดใหญ่ และถนนยุทธศาสตร์ ที่ตั้งของกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี และกองบิน 1 สร้างความหวั่นวิตกพร้อมกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่ขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ฐานะเจ้าของโครงการฯ ทบทวนพิจารณารูปแบบทางรถไฟช่วงผ่านเมืองโคราชเป็นทางยกระดับ ล่าสุดกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบได้ติดตั้งป้ายไวนิลและโลกโซเชียลกลุ่มเว็บเพจ เปิดให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นกับกรณีดังกล่าว
นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนคร (ทน.) นครราชสีมา เปิดเผยว่า ชาวเมืองโคราชมีความยินดีที่รัฐบาลและ รฟท. นำความเจริญมาสู่จังหวัดนครราชสีมา ใช้งบหลายหมื่นล้านบาท เนรมิตโครงการรถไฟทางคู่ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครเห็นรูปแบบโครงการชัดเจน หากทางรถไฟไม่ยกระดับช่วงผ่านตัวเมือง อนาคตจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสังคมของประชาชนเปลี่ยนแปลงไป ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ นานา โดยเฉพาะการเดินทางระหว่างเมือง ต้องลำบากมากขึ้น รวมทั้งการแก้ปัญหาน้ำท่วม เนื่องจากกายภาพพื้นที่ต้องระบายน้ำเลียบทางรถไฟลงลำตะคอง จะส่งผลให้การวางแนวท่อมีปัญหาภายหลัง ขอให้รัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องพิจารณายกระดับทางรถไฟทางคู่ผ่านเมืองโคราช ไม่ให้เป็นเมืองอกแตกถูกทางรถไฟแบ่งแยกออกเป็น 2 ฝั่ง
ขณะนี้ ทน.นครราชสีมา ร่วมกับ อปท. 5 แห่งที่ได้รับผลกระทบ หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา สมาคมอสังหาริมทรัพย์นครราชสีมา กำลังรวบรวมข้อมูล สำรวจรายละเอียดผลกระทบทางคุณภาพชีวิตและตัวเลขทางเศรษฐกิจ ต้นทุนการดำรงชีวิต รวมทั้งความต้องการที่แท้จริงของประชาชน ชี้แจงต่อ สนข.และรัฐบาล ขอให้ผู้มีอำนาจรับฟังปัญหาและความคิดเห็นของประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ด้านนายอำพร มณีกรรณ์ นายกเทศมนตรีตำบล (ทต.)โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า โครงการรถไฟทางคู่ฯ สามารถตอบโจทย์ โดยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งมวลชน ลดระยะเวลาการเดินทาง ประหยัดพลังงานและเพิ่มทางเลือกในสัญจรจากเมืองโคราชสู่ภูมิภาคต่างๆ ส่งผลให้โคราชมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในภูมิภาคอีสาน แต่รูปแบบทางรถไฟบนดิน ส่งผลให้การสัญจรต้องใช้ถนนเลียบทางรถไฟที่ไกลกว่าเดิม ทต.โพธิ์กลาง เป็น อปท.ที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดใน อ.เมือง มีประชากรกว่า 4 หมื่นคน หากทางรถไฟไม่ยกระดับผ่าน ทต.โพธิ์กลาง และ อปท.ด้านทิศเหนือ จะต้องถูกแบ่งออกโดยมีทางรถไฟกั้นกลาง
รวมทั้งการขนส่งขยะมูลฝอยจาก อปท. 34 แห่ง นำเข้ามาทิ้งในบ่อขยะ ทน.นครราชสีมา ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลโพธิ์กลาง ต้องสูญเสียพลังงานเชื้อเพลิงและผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้นรูปแบบการก่อสร้างผ่านกระบวนการประชาพิจารณ์แล้ว ซึ่ง สนข.ไม่ให้ความสำคัญ ทั้งๆ ที่มีการแสดงความคิดเห็นทักท้วง ตนในฐานะเป็นผู้บริหาร อปท.ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ขอให้หัวหน้า คสช.ได้ประกาศใช้ ม.44 รถไฟความเร็วสูงแล้ว พิจารณาออกคำสั่งปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการรถไฟทางคู่ให้เป็นทางยกระดับ จะสร้างคุณูปการให้กับชาวโคราช พวกเราจะรำลึกความดีของท่านจนชั่วลูกชั่วหลาน
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44638
Location: NECTEC
Posted: 20/06/2017 12:22 pm Post subject:
ประกาศฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง ประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ ๑ ช่วงมาบกะเบาคลองขนานจิตร ราคากลาง 7,721,130,000.00 บาท
(๑) เป็นงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบาชุมทางถนนจิระ ประกอบด้วยการก่อสร้างทางวิ่งรถไฟในโครงการ เป็นการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ใหม่ระดับพื้น ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร และก่อสร้างทางรถไฟทางเดี่ยวระดับพื้น เพิ่ม ๑ ทาง ขนานกับทางรถไฟปัจจุบันระยะทางประมาณ ๒๓ กิโลเมตร และก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ยกระดับ ระยะทางประมาณ ๕ กิโลเมตร ระยะทางรวมประมาณ ๕๘ กิโลเมตร เริ่มจาก กม. ๑๓๔+๒๕๐ ถึง กม. ๑๙๘+๒๐๐ ทั้งนี้ไม่รวมงานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟที่อยู่ในแนวเส้นทาง
(๒) งานก่อสร้างสถานีรถไฟรวมทั้งหมด ๗ สถานี โดยแบ่งเป็นการปรับปรุงสถานีเดิม ๓ สถานี การก่อสร้างสถานีใหม่ระดับพื้น ๓ สถานี และการก่อสร้างสถานีใหม่ยกระดับ ๑ สถานี
(๓) งานก่อสร้างโยธาและอื่นๆ ของโครงการ เช่นงานระบบระบายน้ำ สะพานลอยคนเดินข้าม งานรั้ว
(๔) งานก่อสร้างถนนยกระดับข้ามทางรถไฟ (Flyover) ถนนกลับรถยกระดับรูปตัวยู (Overpass U-Turn) ถนนลอดใต้สะพานทางรถไฟ (Underpass) ถนนลอดใต้สะพานทางรถไฟโดยใช้ท่อเหลี่ยม (Underpass Box) เพื่อแก้ปัญหาจุดตัดระหว่างถนนกับทางรถไฟ
(๕) งานระบบรางเป็นทางกว้าง ๑ เมตร (Meter Gauge)
(๖) งานรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างและอุปสรรคต่าง ๆ ที่อยู่ในเขตพื้นที่โครงการ (ถ้ามี) โดยผู้รับจ้างต้องดำเนินการรื้อย้าย ตามความจำเป็นและเหมาะสมตามแต่กรณี
http://www.railway.co.th/auction/system/Declaration.asp?NumDC=31310
ประกาศฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง ประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ ๒ ช่วงคลองขนานจิตรชุมทางถนนจิระ ราคากลาง 7,060,580,000.00 บาท
(๑) การก่อสร้างทางวิ่งรถไฟในโครงการ เป็นการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ใหม่ระดับพื้น ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร และก่อสร้างทางรถไฟทางเดี่ยวระดับพื้น เพิ่ม ๑ ทาง ขนานกับทางรถไฟปัจจุบันระยะทางประมาณ 59 กิโลเมตร และก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ยกระดับ ระยะทางประมาณ 700 เมตร ระยะทางรวมประมาณ 70 กิโลเมตร เริ่มจาก กม. ๑๙๙+๖๐๐ ถึง กม. ๒๖๘+๑๓๕.๖๘๑ ทั้งนี้ไม่รวมงานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟที่อยู่ในแนวเส้นทาง
(๒) งานก่อสร้างสถานีรถไฟรวมทั้งหมด ๑๒ สถานี โดยแบ่งเป็นการปรับปรุงสถานีเดิม ๖สถานี การก่อสร้างสถานีใหม่ระดับพื้น ๖ สถานี
(๓) งานก่อสร้างย่านเก็บกองและขนถ่ายตู้สินค้า (CY) กำหนดไว้ ๑ แห่ง ได้แก่สถานีกุดจิก
(๔) งานก่อสร้างโยธาและอื่น ๆ ของโครงการ เช่น งานระบบระบายน้ำ งานสะพานลอยคนเดินข้าม งานรั้ว
(๕) งานก่อสร้างถนนยกระดับข้ามทางรถไฟ (Flyover) ถนนกลับรถยกระดับรูปตัวยู (Overpass U-Turn) ถนนลอดใต้สะพานทางรถไฟ (Underpass) ถนนลอดใต้สะพานทางรถไฟโดยใช้ท่อเหลี่ยม (Underpass Box) เพื่อแก้ปัญหาจุดตัดระหว่างถนนกับทางรถไฟ
(๖) งานระบบรางเป็นทางกว้าง ๑ เมตร (Meter Gauge)
(๗) งานก่อสร้างศูนย์กลางควบคุมการเดินรถ (LACC) ที่สถานีนครราชสีมา
(๘) งานรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างและอุปสรรคต่าง ๆ ที่อยู่ในเขตพื้นที่โครงการ (ถ้ามี) โดยผู้รับจ้างต้องดำเนินการรื้อย้าย ตามความจำเป็นและเหมาะสมตามแต่กรณี
http://www.railway.co.th/auction/system/Declaration.asp?NumDC=31311
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44638
Location: NECTEC
Posted: 20/06/2017 12:54 pm Post subject:
ร.ฟ.ท.'เปิดขายซองประกวดราคารถไฟทางคู่2เส้นทาง
20 มิถุนายน 2560 413
"ร.ฟ.ท." เปิดขายซองประกวดราคารถไฟทางคู่ 2 เส้นทาง จำนวน 5 สัญญา มูลค่า 3.6 หมื่นลบ. กำหนดยื่นเสนอราคา 31 ส.ค.นี้
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ กรรมการและรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)เปิดเผยว่า ในวันนี้ (20 มิ.ย.) ร.ฟ.ท. ได้เปิดขายซองประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่จำนวน 5 สัญญา มูลค่า 36,244 ล้านบาท ประกอบด้วย
รถไฟทางคู่
ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร
สัญญาที่ 1 ช่วงประจวบคีรีขันธ์ บางสะพานน้อย ราคากลาง 6,579 ล้านบาท และ
สัญญาที่ 2 ช่วงบางสะพานน้อย ชุมพร ราคากลาง 6,071 ล้านบาท
รถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ
สัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบาคลองขนานจิตร ราคากลาง 7,721 บาท และ
สัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตรชุมทางถนนจิระ ราคากลาง 7,060 ล้านบาท และ
ทางคู่ ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ
สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค ปากน้ำโพ ราคากลาง 8,813 ล้านบาท
ทั้งนี้จะปิดขายซองไปจนถึงในวันที่ 29 มิ.ย. นี้ และจะแจ้งผลผู้มีสิทธิ์เสนอราคา ในวันที่ 21 ส.ค. และกำหนดให้ยื่นเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ ในวันที่ 31 ส.ค. นี้
Back to top