Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311901
ทั่วไป:13571919
ทั้งหมด:13883820
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 325, 326, 327 ... 486, 487, 488  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43713
Location: NECTEC

PostPosted: 29/11/2018 12:16 pm    Post subject: Reply with quote

เวนคืน800ไร่ผุดไอซีดีฉะเชิงเทรา
พฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน 2561 เวลา 11.30 น.

สนข. ซาวด์เสียง ชาวบ้านผุดไอซีดีฉะเชิงเทรา บริเวณสถานีรถไฟดอนสีนนท์ คาดใช้พื้นที่ 600-800 ไร่ เตรียมเวนคืนที่ดิน ชาวบ้านวอนหามาตรการเยียวยา หวั่นไม่ได้รับเงินเหตุไม่ใช้เจ้าของพื้นที่ตัวจริง

รายงานข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) แจ้งว่า สนข. ได้จัดประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ครั้งที่ 2 โครงการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์รองรับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) หรือไอซีดีฉะเชิงเทรา ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองตีนนก อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา มีนางวิไลรัตน์ ศิริโสภณศิลป์ รองผู้อำนวยการ สนข. เป็นประธาน โดยที่ประชุมได้เสนอผลการศึกษาเบื้องต้นด้านความเหมาะสมของพื้นที่ เพื่อพัฒนาโครงการไอซีดีฉะเชิงเทรา ซึ่งจะตั้งอยู่บริเวณสถานีรถไฟดอนสีนนท์ ต.หนองตีนนก อ.บ้านโพธิ์

รายงานข่าวจาก สนข. แจ้งต่อว่า พื้นที่ดังกล่าวได้ผ่านพิจารณาความเหมาะสมในทุกๆ ด้านแล้ว ทั้งสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การลงทุน และวิศวกรรม คาดว่าจะใช้พื้นที่ประมาณ 600-800 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านทำเกษตร ต้องมีการเวนคืนที่ดิน เวลานี้อยู่ระหว่างสรุปข้อมูล และวงเงินที่ใช้ลงทุน อย่างไรก็ตามในการประชุมครั้งนี้มีชาวบ้านบางส่วนกังวลว่าพื้นที่ที่ชาวบ้านทำเกษตรในขณะนี้นั้น บางคนไม่ใช่เจ้าของพื้นที่ ดังนั้นหากมีการเวนคืนชาวบ้านจะไม่ได้รับเงินเวนคืน จะเป็นเจ้าของพื้นที่จริงที่จะได้รับ จึงอยากให้หามาตรการช่วยเหลือเยียวยาวผู้ที่โดนผลกระทบกลุ่มนี้ด้วย นอกจากนี้เมื่อสร้างไอซีดีฉะเชิงเทราแล้ว ควรทำให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ด้วย รวมทั้งควรปรับภูมิทัศน์ และปลูกต้นไม้ เพื่อป้องกันเสียงมารบกวนชาวบ้าน

รายงานข่าวจาก สนข. แจ้งอีกว่า สนข. ได้ชี้แจงว่าไอซีดีฉะเชิงเทรา เป็นสถานที่รวบรวมและกระจายสินค้าไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานภายในท้องถิ่นแน่นอน รวมทั้งยังเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนา จ.ฉะเชิงเทรา ให้เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการเดินทางและระบบโลจิสติกส์ รวมทั้งเสริมศักยภาพพื้นที่อีอีซีในการเป็นประตูการค้าของภูมิภาคให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ สนข. จะรวบรวมความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน เพื่อเป็นฐานข้อมูลวิเคราะห์ ประเมินผล และสรุปผล ในการพัฒนาโครงการไอซีดีฉะเชิงเทราให้มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด โดยจะจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องอีกครั้ง เป็นครั้งที่ 3 ประมาณปลายเดือน ม.ค.หรือต้น ก.พ.62 ก่อนสรุปผลการศึกษาให้แล้วเสร็จ มี.ค.62 เพื่อเสนอเข้ากระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43713
Location: NECTEC

PostPosted: 30/11/2018 5:43 pm    Post subject: Reply with quote

นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 5/2561
Cr : สศช.
30 พ.ย. 61 ร่างแผนแม่บทการพัฒนาระบบรางภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (ประเด็นโครงสร้งพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์ และดิจิทัล พ.ศ. 2561-2580)



ประกอบด้วย ทางคู่ 17 โครงการ 2,936 กม. , ทางสายใหม่ 14 โครงการ 2,350 กม. และรถไฟความเร็วสูง 9 โครงการ 2,506 กม. ดังนี้
ปี 2561-2565 มีโครงการรถไฟทางคู่ 14 โครงการ 2,476 กม. ,รถไฟสายใหม่ 3 โครงการ (เด่นชัย-เชียงของ,บ้านไผ่-นครพนม,สุราษฎร์ธานี-พังงา) 841กม.,รถไฟความเร็วสูง 5 โครงการ (กรุงเทพ-นครราชสีมา, เชื่อม 3 สนามบิน, อู่ตะเภา-ระยอง,กรุงเทพฯ-พิษณุโลก,นครราชสีมา-หนองคาย) 1,248 กม.

ปี 2565-2570 มีโครงการรถไฟทางคู่ 1 โครงการ (รถไฟเชื่อม 3 ท่าเรือตะวันออก) 70 กม., รถไฟสายใหม่ 4 โครงการ (แม่สอด-นครสวรรค์,กาญจนบุรี-แหลมฉบัง,ชท.หาดใหญ่-ปากบารา, ชท.บ้านภาชี-นครหลวง) 642 กม., รถไฟความเร็วสูง 2 โครงการ (พิษณุโลก-เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ-หัวหิน) 499 กม.

ปี 2570-2575 มีโครงการรถไฟทางคู่ 1 โครงการ (ชท.คลองสิบเก้า-อรัญประเทศ) 174 กม. , รถไฟสายใหม่ 5 โครงการ (ระยอง-ตราด,อุบลราชธานี-ช่องเม็ก, พุน้ำร้อน-กาญจนบุรี,นครสวรรค์-บ้านไผ่, ทับปุด-กระบี่) 679 กม., รถไฟความเร็วสูง 1 โครงการ (หัวหิน-สุราษฎร์ธานี) 424 กม.

ปี 2575-2580 มีโครงการรถไฟทางคู่ 1 โครงการ (ชท.หาดใหญ่-สุไหงโก-ลก) 216 กม. ,รถไฟสายใหม่ 2 โครงการ (สุราษฎร์ธานี-ดอนสัก, ชุมพร-ระนอง) 188 กม., รถไฟความเร็วสูง 1 โครงการ (สุราษฎร์ธานี-ปาดังเบซาร์) 335 กม.
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2047468978633370&set=a.1878620525518217&type=3&theater&ifg=1
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43713
Location: NECTEC

PostPosted: 02/12/2018 6:15 am    Post subject: Reply with quote

สุดเหงา! เอกชนยื่นรายเดียว ชิงสัมปทานไอซีดี ลาดกระบัง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์ - คมนาคม-ขนส่ง

เผยแพร่: 30 พฤศจิกายน 2561 17:21




รฟท. เผยมีเอกชน1กลุ่ม ยื่นซองประมูลสัมปทานไอซีดี ลาดกระบัง กก.คัดเลือก เดินหน้าตรงจคุณสมบัติและเทคนิค คาดประกาศผลการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน ภายใน 45 วัน

นายศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการคัดเลือกเพื่อดำเนินการสรรหาเอกชนเพื่อรับสัมปทานเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบัง เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟฯ ได้เปิดให้บริษัทเอกชนที่มีความสนใจเข้าซื้อเอกสารข้อเสนอร่วมลงทุนโครงการสรรหาเอกชนเพื่อร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบัง เมื่อวันที่ 3 กันยายน จนถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561

ซึ่งมีบริษัทเอกชนและบุคคลเข้าซื้อเอกสาร จำนวน 10 ราย และได้มีการชี้แจงรายละเอียดและตอบคำถามแก่บริษัทที่สนใจเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 นั้น

โดยกำหนดรับซองข้อเสนอราคาในวันนี้( 30 พ.ย.) ซึ่งมีกลุ่มบริษัทเข้ายื่นข้อเสนอ จำนวน 1 ราย คือ กิจการร่วมค้า เอ แอล จี(ประเทศไทย) ประกอบด้วย บริษัท อีสเทิร์นซี แหลมฉบังเทอร์มินัล จำกัด บริษัท เอเวอร์กรีนคอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท โอเชี่ยนเน็ตเวิร์ค เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ไทย อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด

โครงการสรรหาเอกชนเพื่อร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบัง ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งให้การรถไฟฯ เป็นผู้ดำเนินการสรรหาเอกชนเพื่อรับสัมปทานเป็นผู้ประกอบการไอซีดี ลาดกระบังใหม่ ตามพระราชบัญญัติให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556ในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านการบรรจุและแยกตู้สินค้า (Container) ที่มีการนำเข้า หรือการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ ลดต้นทุนด้านการใช้พลังงานขนส่งสินค้าตามนโยบายของรัฐ และช่วยลดต้นทุน

ในการขนส่งให้ผู้ส่งออก และนำเข้าของต่างประเทศ เนื่องจากเป็นระบบการขนส่งที่ใช้ต้นทุนต่ำ แต่สามารถขนส่งสินค้าได้ครั้งละเป็นจำนวนมาก มีความปลอดภัย ช่วยลดปัญหาด้านจราจร และช่วยลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อม

หลังจากนี้ คณะกรรมการคัดเลือก จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติ และตรวจสอบเอกสารที่ใช้ประกอบการยื่นข้อเสนอของผู้ยื่นข้อเสนอที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น จะต้องชำระค่าธรรมเนียม

การประเมินข้อเสนอให้แก่การรถไฟฯ เป็นจำนวนเงิน 2 แสนบาท และผู้ยื่นเสนอที่ผ่านการประเมินข้อเสนอจะต้องวางหลักประกันสัญญาที่ออกโดยธนาคารให้กับการรถไฟฯ ในวันที่เข้าทำสัญญาร่วมทุนเป็นมูลค่า 250 ล้านบาท เพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาร่วมลงทุนของเอกชนคู่สัญญา

ทั้งนี้จะประกาศผลการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน ภายใน 45 วัน นับจากวันที่ยื่นซองเอกสารเสนอราคา ณ ที่ทำการ การรถไฟแห่งประเทศไทย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43713
Location: NECTEC

PostPosted: 03/12/2018 9:59 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.เปิดใช้แอพ 3 ภาษา “ไทย-อังกฤษ-จีน”ดูข้อมูลบริการ
หน้าคมนาคม-ขนส่ง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2561, 18:43


การรถไฟฯ เปิดใช้ Application 3 ภาษา “ไทย-อังกฤษ-จีน” ตรวจสอบตารางเดินรถ ค่าโดยสาร ได้สะดวก ดีเดย์ 5 ธ.ค. นี้ ให้บริการแก่ประชาชนต้องรับเทศกาลปีใหม่

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 ธันวาคม 2561 การรถไฟแห่งประเทศไทย จะเปิดใช้งาน Application ใหม่ 3 ภาษา เพื่ออำนวยความสะดวก สบาย ให้แก่นักท่องเที่ยว และประชาชนที่เดินทางด้วยรถไฟ ให้สามารถตรวจสอบเวลาขบวนรถต่าง ๆ และราคาค่าโดยสารของขบวนรถทุกขบวนที่การรถไฟฯ มีให้บริการ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก

โดย Application ใหม่ ของการรถไฟฯ ภายใต้ชื่อ “ตรวจสอบเวลาการเดินรถ” เป็นระบบที่ใช้ตรวจสอบเวลาการเดินรถไฟได้ทุกขบวน พร้อมกับแสดงราคาค่าตั๋วโดยสารของแต่ละประเภทที่นั่ง/นอน ผ่านทาง Mobile, Desktop และ Tablet ซึ่งผู้โดยสารสามารถสืบค้นข้อมูลได้ง่าย ๆ โดยการพิมพ์หมายเลขขบวน , ชื่อสถานี , สถานีต้นทาง-ปลายทาง ระบบจะแสดงสถานะให้ทราบทันที โดยรองรับการใช้งานได้ 3 ภาษา คือ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ผู้ใช้บริการสามารถดาวน์โหลดได้แล้วทั้ง Play Store และ App Store หรือ สแกน QR Code

นอกจากนี้การรถไฟฯ ยังได้ปรับปรุงเว็บไซต์ใหม่ เพื่อรองรับการให้บริการประชาชน และเชื่อมต่อกับช่องทางการติดตามข้อมูลแผนการจัดซื้อจัดจ้าง ประกาศร่างขอบเขตของงาน (Team of Reference) ประกาศจัดซื้อจัดจ้างของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งตรงตามข้อกำหนดมาตรฐานเว็บไซต์ภาครัฐ (Government Website Standard) เป็นการยกระดับการให้บริการและรูปแบบข้อมูลเป็นไปในทิศทางเดียวกับหน่วยงานภาครัฐ และพัฒนาให้มีความปลอดภัยต่อภัยคุกคามภายนอกตามมาตรฐาน Open Web Application Security Project (OWASP) ปี 2517 โดยจะเริ่มใช้งานตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2561 เป็นต้นไป.

รฟท.เปิดแอพฯใหม่3ภาษา
จันทร์ที่ 3 ธันวาคม 2561 เวลา 20.53 น.
5 ธ.ค.นี้รฟท.เปิดใช้งานแอพพลิเคชั่น 3 ภาษา ตรวจสอบเวลาการเดินรถทุกขบวน พร้อมแสดงราคาค่าตั๋วโดยสารแต่ละประเภทผ่านเครื่องมือสื่อสาร อำนวยความสะดวกให้ประชาชน เป็นของขวัญปีใหม่

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ รฟท. จะเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นใหม่ 3 ภาษา เพื่ออำนวยความสะดวก สบาย ให้แก่นักท่องเที่ยว และประชาชนที่เดินทางด้วยรถไฟ ให้สามารถตรวจสอบเวลาขบวนรถต่าง ๆ และราคาค่าโดยสารของขบวนรถทุกขบวนที่รฟท. มีให้บริการ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 62 ที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก

สำหรับแอพพลิเคชั่นใหม่จะเริ่มใช้งานได้ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.นี้ เป็นต้นไป ภายใต้ชื่อ “ตรวจสอบเวลาการเดินรถ” เป็นระบบที่ใช้ตรวจสอบเวลาการเดินรถไฟได้ทุกขบวน พร้อมกับแสดงราคาค่าตั๋วโดยสารของแต่ละประเภทที่นั่ง/นอน ผ่านทาง Mobile, Desktop และ Tablet ซึ่งผู้โดยสารสามารถสืบค้นข้อมูลได้ง่าย ๆ โดยการพิมพ์หมายเลขขบวน , ชื่อสถานี , สถานีต้นทาง-ปลายทาง ระบบจะแสดงสถานะให้ทราบทันที โดยรองรับการใช้งานได้ 3 ภาษา คือ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ผู้ใช้บริการสามารถดาวน์โหลดได้แล้วทั้ง Play Store และ App Store หรือ สแกน QR Code

นอกจากนี้ รฟท.ยังได้ปรับปรุงเว็บไซต์ใหม่ เพื่อรองรับการให้บริการประชาชน และเชื่อมต่อกับช่องทางการติดตามข้อมูลแผนการจัดซื้อจัดจ้าง ประกาศร่างขอบเขตของงาน(Team of Reference) ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งตรงตามข้อกำหนดมาตรฐานเว็บไซต์ภาครัฐ ถือเป็นการยกระดับการให้บริการและรูปแบบข้อมูลเป็นไปในทิศทางเดียวกับหน่วยงานภาครัฐ และพัฒนาให้มีความปลอดภัยต่อภัยคุกคามภายนอก.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43713
Location: NECTEC

PostPosted: 07/12/2018 6:02 pm    Post subject: Reply with quote

รัฐเปิดทาง รฟท. ป้อนคนเข้าสู่ระบบราง
หน้าเศรษฐกิจ
6 ธันวาคม 2561 เวลา 09:56

กว่า 20 ปี ที่การถไฟแห่งประเทศไทย ไม่สามารถรับพนักงานได้ตามความต้องการ รับได้เพียงร้อยละ 5 ของอัตราที่เกษียน ซึ่งล่าสุด ครม. ได้ปลดล็อค ให้ รฟท. รับพนักงานได้เพิ่ม

กว่า 20 ปี ที่การถไฟแห่งประเทศไทย ไม่สามารถรับพนักงานได้ตามความต้องการ รับได้เพียงร้อยละ 5 ของอัตราที่เกษียน ซึ่งล่าสุด ครม. ได้ปลดล็อค ให้ รฟท. รับพนักงานได้เพิ่ม สำนักงานศูนย์ฝึกอบรมการรถไฟจึงเตรียมยกระดับเป็นสถาบันอบรมระบบรางวิชาชีพ ป้อนคนเข้าสู่ระบบราง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43713
Location: NECTEC

PostPosted: 14/12/2018 7:28 pm    Post subject: Reply with quote

12/12/61 เวลาประมาณ 12.19 น. เหตุชายสติไม่ดีปีนสะพานดำไม่ทราบสาเหตุ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังช่วยเหลือ รายละเอียดเพิ่มเติมจะรายงานอีกครั้ง สะพานดำ ทางรถไฟ ข้างโรงพยาบาลศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ
cr: พี่หนึ่ง กู้ภัยภาพข่าว ศรีสะเกษ
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/2065851556795112


ระทึกกลางเมือง! หนุ่มไม่อยากไปร.พ.จิตเวช ปีนสะพานรถไฟจะกระโดดฆ่าตัว(คลิป)
วันที่ 12 ธันวาคม 2561 - 23:57 น.
ระทึก!หนุ่มปีนสะพาน หวังกระโดดฆ่าตัวตาย
วันพุธ ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2561, 22.30 น.

ระทึก! หนุ่มป่วยจิตเวช ปีนสะพานรถไฟแต่โรคลมชักเกิดกำเริบ กู้ภัยช่วยเหลือรอดตายหวุดหวิด
วันที่ 12 ธันวาคม 2561 - 22:38 น.

วันที่ 12 ธ.ค. ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ รับแจ้งเหตุมีชายปีนขึ้นไปนั่งอยู่บนสะพานรถไฟข้ามลำห้วยสำราญ ใกล้ร.พ.ศรีสะเกษ ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ แล้วทำท่าทางคล้ายจะกระโดดลงมาฆ่าตัวตาย จึงรีบประสานตำรวจสายตรวจ และเจ้าหน้าที่ปภ.เทศบาลเมืองศรีสะเกษ ให้รุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษสถาน

ที่เกิดเหตุพบชาย อายุประมาณ 30 ปี ปีนขึ้นไปนั่งอยู่บนโค้งสะพานรถไฟที่สูงจากพื้นประมาณ 10 เมตร และพูดจาวกไปวนมาร้องขอพบแพทย์และพยาบาล จับใจความได้ว่า ไม่อยากไปโรงพยาบาลศรีมหาโพธิ์ จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่เข้าเกลี้ยกล่อมอยู่นาน 30 นาทีจนมีท่าทีผ่อนคลายและยอมที่จะลงมา แต่ระหว่างนั้นปรากฎว่าจู่ๆก็เกิดอาการชักเกร็ง เจ้าหน้าที่ต้องรีบปีนขึ้นไปช่วยก่อนจะตกลงมาจากสะพาน ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของไทยมุง

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เป็นผู้ช่วยจิตเวช และมีโรคประจำตัวเป็นโรคลมชัก สาเหตุที่ปีนขึ้นไปเพราะกลัวแพทย์จะส่งตัวไปอยู่ที่โรงพยาบาลศรีมหาโพธิ์ จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลศรีสะเกษ ก่อนประสานญาติมารับตัวกลับไปดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43713
Location: NECTEC

PostPosted: 18/12/2018 10:19 am    Post subject: Reply with quote

“อุตตม”ประสานเอกชนเร่งจัดทำแผนแม่บทอุตสาหกรรมเหล็กไทย
17 ธันวาคม พ.ศ. 2561,

“อุตตม”ประสานเอกชนเร่งจัดทำแผนแม่บทอุตสาหกรรมเหล็กไทย หนุนผลิตเหล็กเกรดพิเศษรองรับอุตสาหกรรมชั้นสูง เล็งพื้นที่"โคราช - ขอนแก่น" ส่งเสริมลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถไฟ โบกี้รถไฟ รองรับการขยายตัวระบบราง


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมโรงงาน บริษัท โคเบลโก้ มิลล์คอน สตีล จำกัด ผู้ผลิตเหล็กเกรดพิเศษสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมชั้นสูงว่า อุตสาหกรรมเหล็กเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ เป็นวัตถุดิบสำคัญทั้งในอุตสาหรรมก่อสร้าง และอุตสาหกรรมยานยนต์ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่รัฐบาลส่งเสริมไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ชั้นสูง จึงจำเป็นต้องส่งเสริมอุตสาหกรรมผลิตวัสดุชั้นสูงควบคู่กันไปด้วย


“การยกระดับอุตสากรรมภายในประเทศ จะต้องเชื่อมโยงตั้งแต่การผลิตชิ้นส่วนวัตถุดิบชั้นสูงไปจนถึงผู้ผลิตปลายน้ำที่ต้องใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยควบคู่กันไปด้วย ซึ่งจะต้องยกระดับห่วงโซ่การผลิตทั้งหมดไปสู่ระบบดิจิทัล ให้เติบโตขึ้นไปได้ โดยรัฐบาล และภาคเอกชนจะเร่งเดินหน้าดึงนักลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”


ในส่วนของการพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กนั้น ได้มอบหมายให้กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดทำร่างแผนแม่บทอุตสาหกรรมเหล็กของไทย เพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ โดยจะต้องมองทั้งระยะสั้น กลาง และยาว 5-10 ปี และจะต้องลงลึกในรายละเอียดว่าในแต่ละปีจะทำอะไร รวมทั้งจะต้องมุ่งสู่การวิจัยใช้เทคโนโลยีภายในประเทศมากขึ้น คาดว่าจะภายใน 2 สัปดาห์จะเห็นแนวทางของแผนแม่บทนี้


นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ยังได้ส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตรถไฟ เพื่อรองรับการขยายตัวของระบบขนส่งทางรางในประเทศไทย โดยกำหากพื้นที่ให้การส่งเสริมจะอยู่ในบริเวณจังหวัดนครราชสีมา ไปจนถึงขอนแก่น ซึ่งจะเร่งแผนแม่บทการผลิตหัวจักรรถไฟ รถไฟฟ้า และโบกี้ ให้เสร็จภายในรัฐบาลนี้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43713
Location: NECTEC

PostPosted: 20/12/2018 3:50 pm    Post subject: Reply with quote

สหภาพรถไฟลงพื้นที่ พบปัญหากำลังคนไม่เพียงพอ-ความล่าช้าในการจัดหาอะไหล่
19 ธันวาคม พ.ศ. 2561,

สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ลงพื้นที่สถานีรถไฟชุมทางศรีราชา จ.ชลบุรี รับฟังปัญหาการซ่อมบำรุงรถจักร พบอัตรากำลังไม่เพียงพอ มี 12 คน ทั้งที่จากหน้างานควรมี 24 คน ความล่าช้าในการจัดหาอะไหล่และพัสดุในการซ่อม โรงซ่อมมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการการซ่อมบำรุงไม่พร้อม

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมาสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) นำโดยนายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธาน สร.รฟท. และทีมงาน ลงพื้นที่สถานีรถไฟชุมทางศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อรับฟังปัญหาการซ่อมบำรุงรถจักรดีเซลไฟฟ้า CSR จำนวน 20 คัน จากการลงพื้นที่ในภาพรวมของระบบการซ่อมบำรุงนั้น ดำเนินการไปอย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด แต่ปัญหาอุปสรรคส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นจะเป็นที่เรื่องของการจัดหา และสำรองอะไหล่ รวมถึงเรื่องของอัตรากำลังของผู้ปฏิบัติงานที่จะมารองรับภารกิจการซ่อมบำรุงให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยทาง สร.รฟท.ได้รับฟังประเด็นปัญหาต่างๆ เพื่อนำเสนอฝ่ายบริหารดังนี้

ปัญหาด้านอัตรากำลังไม่เพียงพอ ซึ่งอัตรากำลังปัจจุบันมีเพียง 8 คน และได้อัตรากำลังมาช่วยงาน 4 คน รวมมีผู้ปฏิบัติงาน 12 คน ซึ่งอัตรากำลังที่จะเพียงพอต่อลักษณะงานในปัจจุบันคือ 24 คน ลักษณะงานเข้าเวร 07.00 – 14.00 น.แต่หลังจาก 14.00 น. ได้มีการขอความร่วมมือจากผู้ปฏิบัติงานในการให้ความช่วยเหลือ ในกรณีมีเหตุฉุกเฉิน ซึ่งบางครั้งมีการลงมา ณ หน้างานเพื่อซ่อมแก้ไขรถจักรซึ่งเป็นงานจิตอาสา

ปัญหาด้านการบริหารจัดการในเรื่องของการจัดหาพัสดุในการซ่อมบำรุง พบความล่าช้าในการจัดหาอะไหล่และพัสดุในการซ่อม ในการตั้งหน่วยซ่อมที่ศรีราชา มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการซ่อมบำรุงรถจักร CSR ซึ่งจำเป็นต้องมีการจัดหาอะไหล่สำรองในการซ่อมบำรุง โดยในปัจจุบันมีการทำเรื่องเสนอขอจัดซื้อวัสดุและอะไหล่ในการซ่อมบำรุงไปแล้ว นับตั้งแต่ ปี2559 ถึงปัจจุบัน แต่การจัดหาวัสดุอะไหล่มาเพื่อใช้ในการจัดซ่อมมีความล่าช้า ไม่สอดคล้องกับภารกิจการซ่อมบำรุง ทำให้ต้องศูนย์เสียโอกาสในการออกทำขบวนหารายได้ (ปัจจุบันหัวรถจักร CSR ที่ต้องรออะไหล่ มีจำนวนทั้งหมด 3 คัน ได้แก่ หมายเลข 5108, 5109, 5117)


ปัญหาความไม่เพียงพอของแคร่สมบูรณ์ และล้อพร้อมเพลา โดยในการหมุนเวียนแคร่เพื่อทำการซ่อมแซมทำวาระ ในปัจจุบันมีแคร่สมบูรณ์ สำรองไว้เพียง 2 แคร่เท่านั้น โดยปกติจำเป็นจะต้องมีแคร่สมบูรณ์สำรองไว้เพิ่มอีก 4 แคร่ ส่วนล้อพร้อมเพลาซึ่งเป็นล้อรีดทึบ ก็มีไม่เพียงพอโดยอย่างน้อยจะต้องมีล้อพร้อมเพลาสำรองไว้อีก 15 ชุด นอกจากนี้ยังปัญหาสภาพพื้นที่โรงซ่อมมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการการซ่อมบำรุงไม่พร้อม เนื่องจากภารกิจในการซ่อมบำรุงจะต้องมีการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ที่น้ำหนักมาก จึงจำเป็นต้องมี overhead crane ในการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ทีมีขนาดใหญ่ และน้ำหนักมาก ซึ่งในปัจจุบันมีเพียง รอก ที่สามารถรับน้ำหนักได้เพียง 1 ตัน เท่านั้นและเป็นการจัดหามาเองของผู้ปฏิบัติงาน และใช้รถปั่นจั่นหมายเลข 32 สำหรับยกแคร่ออกไปเพื่อทำการกลึงล้อ

ซึ่งทาง สร.รฟท. ได้แสดงความชื่นชมและเป็นกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานที่ทำงานในพื้นที่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ และจะนำปัญหาที่ได้รับจากการสะท้อนจากพื้นที่ที่เกิดขึ้น เสนอต่อฝ่ายบริหาร และผู้เกี่ยวข้องเพื่อให้ดำเนินการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43713
Location: NECTEC

PostPosted: 21/12/2018 6:19 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
สหภาพรถไฟลงพื้นที่ พบปัญหากำลังคนไม่เพียงพอ-ความล่าช้าในการจัดหาอะไหล่
19 ธันวาคม พ.ศ. 2561,


สรุปผลการเข้าพบคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย
เมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๑
สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย

๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๑
ด้วยสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย(สร.รฟท.) มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการและให้ความร่วมมือเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและรักษาผลประโยชน์ของรัฐวิสาหกิจ และเพื่อเป็นการส่งเสริมแรงงานสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้บริหารกับสหภาพแรงงานฯ อันเป็นบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๖๐ มาตรา ๗๔ และเป็นวัตถุประสงค์ตามพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๓ มาตรา ๔๐ คณะกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟฯ จึงมีความประสงค์ขอเข้าพบท่านประธานกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย(นายกุลิศ สมบัติศิริ) เพื่อรับทราบนโยบายด้านต่างๆพร้อมขอทราบความชัดเจนในบางประเด็นที่สมาชิก สร.รฟท. พนักงานการรถไฟฯ และสังคมให้ความสนใจดังนี้

๑.เรื่องขอให้การรถไฟฯถอนการบังคับคดีค่าเสียหายอันเกิดจากการรณรงค์เพื่อความปลอดภัยในการทำงานของพนักงาน ( นายภิญโญ เรือนเพ็ชร กับพวกรวม ๗ คน) ซึ่งการอายัดเงินค่าจ้าง/เงินเดือน ทำให้เกิดความเดือดร้อนในการดำรงชีพแก่ผู้นำสหภาพทั้ง ๗ คน และได้เสนอเรื่องเข้าวาระพิจารณาของการประชุมคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์การรถไฟแห่งประเทศไทย ครั้งที่ ๕/๒๕๖๑ เมื่อวันพุธที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ซึ่งเห็นว่าอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่จะพิจารณาถอนการบังคับคดี หรือการตัดจำหน่ายบัญชีลูกหนี้

ในเรื่องนี้ทางประธานกรรมการรถไฟฯชี้แจงว่าทางคณะกรรมการรถไฟมีความเห็นใจและยินดีให้ความช่วยเหลือ รับข้อเสนอของทาง สร.รฟท.แล้วจะดำเนินการตั้งคณะทำงานหลังจากปีใหม่ เพื่อพิจารณาเรื่องการงดบังคับคดี ซึ่งหากมีข้อกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ รองรับไว้ ก็จะเร่งรัดนำเข้าวาระพิจารณาของคณะกรรมการรถไฟฯ และหากทาง สร.รฟท.มีกรณีที่เกี่ยวข้องที่เคยมีการปฏิบัติในการงดบังคับคดีมาเทียบเคียง ขอให้นำเสนอรายละเอียดข้อมูลมาพิจารณาร่วมกับทางคณะทำงานในช่วงหลังปีใหม่ต่อไป

๒.เรื่องแนวนโยบายการบริหารจัดการเรื่องที่ดินเพื่อประโยชน์สูงสุดของการรถไฟฯทั้งที่ได้จัดหาประโยชน์แล้ว จำนวนสัญญาเช่า สัญญาหมดอายุ ที่ดินที่เป็นข้อพิพาท และที่ดินแปลงใหญ่เช่นที่ดินบริเวณเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นที่ดินแปลงใหญ่จำนวน ๕,๐๘๓ ไร่ ซึ่งมีความสำคัญต่อการดำเนินงานของการรถไฟฯ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นที่สนใจและติดตามของพนักงานและประชาชนทั่วไป การบริหารจัดการที่ดินรวมถึงการเร่งดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องเอกสารสิทธิ(โฉนด)เพราะบางพื้นที่เช่น บริเวณเขากระโดงเป็นเพียงแนวเขตแสดงพื้นที่ของการรถไฟฯแต่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ ซึ่งมีบางพื้นที่มีผู้บุกรุกได้ดำเนินการหาวิธีในการออกเอกสารสิทธิ์บนที่ดินของการรถไฟฯ

ทางประธานกรรมการรถไฟฯรับเรื่องไปดำเนินการ โดยจะนำกรณีของการพัฒนาที่ดินบริเวณสถานีแม่น้ำ มาเป็นต้นแบบนำร่อง เพื่อนำไปพัฒนาที่ดินในส่วนของบริเวณเขากระโดงทั้งหมดจำนวน ๕,๐๘๓ ไร่ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการรถไฟฯต่อไป

๓.เรื่องดำเนินการเปิดรับพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ เห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทยได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๔๑ โดยให้สามารถรับพนักงานเพิ่มได้เฉพาะในปีแรกของกรอบอัตรากำลัง (ปี ๒๕๖๒) จำนวนไม่เกิน ๑,๙๐๔ อัตรา ซึ่งต้องเร่งรัดรับพนักงานการรถไฟฯโดยทำการบรรจุนักเรียนวิศวกรรมรถไฟ และลูกจ้างเฉพาะงานของการรถไฟฯ เพื่อเข้ามาเติมในหน่วยงานด้านปฏิบัติการ เช่น พนักงานขับรถ ช่างเครื่อง นายสถานี พนักงานขบวนรถ ช่างซ่อมบำรุง งานด้านโยธา การซ่อมบำรุงทาง อาณัติสัญญาณโทรคมนาคม และงานด้านสนับสนุน ซึ่งปัจจุบันอัตรากำลังดังกล่าวมีไม่เพียงพอต่อปริมาณงานที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้พนักงานต้องทำงานหนักขึ้น ตรากตรำไม่มีเวลาพักผ่อน ขบวนรถหลายขบวนมีพนักงานทำการตามหน้าที่ไม่ครบตามจำนวน ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัย เกิดความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อการรถไฟฯและประชาชนผู้ใช้บริการ และทำให้การรถไฟฯมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น เช่น ค่าทำงานวันหยุด ค่าล่วงเวลา ค่าตอบแทนพิเศษ และเป็นอุปสรรคในการพัฒนาบุคลากร เพื่อพัฒนากิจการการรถไฟฯ จึงขอให้การรถไฟเร่งรัดทำการบรรจุนักเรียนวิศวกรรมรถไฟ และลูกจ้างเฉพาะงานของการรถไฟฯ เป็นพนักงานการรถไฟฯ เพื่อให้การเพิ่มอัตรากำลังของพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทยในปี ๒๕๖๒ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ในเรื่องของอัตรากำลัง ทางประธานกรรมการรถไฟฯแจ้งให้ทราบว่าอยู่ในวาระเร่งรัดติดตามของบอร์ด ซึ่งจะนำข้อมูลของทาง สร.รฟท.ที่เน้นในเรื่องของการบรรจุพนักงานด้านปฏิบัติการก่อน เพื่อนำไปพิจารณาประกอบกับแผนฟื้นฟูกิจการของการรถไฟฯเพื่อนำเสนอให้ คนร.เห็นชอบต่อไป

๔.เรื่องพิจารณาโครงการจัดหาหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าขนาด ๑๖ ตันเพลา จำนวน ๕๐ คัน พร้อมอะไหล่ เนื่องจากในปัจจุบันการรถไฟฯ มีหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าอยู่ ๑๔๐ คัน แต่สภาพสมบูรณ์เพียง ๕๐-๖๐ เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหัวรถจักรดังกล่าวมีอายุการใช้งานมานาน ๔๐-๕๐ ปี จึงยังไม่เพียงพอต่อความต้องการในการใช้งานในแต่ละวัน ประกอบกับค่าซ่อมบำรุงรักษามีราคาสูงดังนั้นจึงต้องเร่งจัดหารถจักรให้เพียงพอต่อการใช้งานซึ่งจะไปรองรับทางคู่ที่จะแล้วเสร็จประมาณปี ๒๕๖๓ เส้นชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น และ ชุมทางแก่งคอย-ชุมทางคลองสิบเก้า-ชุมทางฉะเชิงเทรา ซึ่งโครงการจัดหาหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่มีความสำคัญต่อการรถไฟฯเป็นอย่างมาก

๕.เรื่องขอให้เร่งรัดการดำเนินโครงการจัดหารถดีเซลรางปรับอากาศ สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ จำนวน ๑๘๖ คัน พร้อมอะไหล่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ได้ขอเสนอจัดซื้อไปนั้นยังไม่มีความคืบหน้าซึ่งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมมายังการรถไฟแห่งประเทศไทย และการรถไฟฯได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติม เรื่องยืนยันการดำเนินโครงการจัดหารถดีเซลรางปรับอากาศ สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ จำนวน ๑๘๖ คันพร้อมอะไหล่ของการรถไฟฯ

ทางประธานคณะกรรมการรถไฟฯชี้แจงว่า ทั้งในเรื่องของการจัดซื้อรถจักร และรถดีเซลรางนั้น ซึ่งอยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการรถไฟฯ โดยได้มีการเร่งรัดในที่ประชุมบอร์ดทุกครั้งเพื่อให้เป็นไปตามแผนงานและให้สอดคล้องทันกับโครงการรถไฟทางคู่ และโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงที่จะแล้วเสร็จในช่วงปี ๒๕๖๔-๒๕๖๕ ทั้งนี้ในกระบวนการจัดซื้อรถจักร และรถดีเซลรางนั้น ต้องได้รับความเห็นชอบจาก คนร.(ซุปเปอร์บอร์ด)ด้วย

๖.ขอให้เร่งรัดจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวให้กับพนักงานและลูกจ้างเฉพาะงานที่จ้างตามกรอบอัตรากำลังที่การรถไฟฯ กำหนด(ที่มีเลขประจำตัว)เพื่อให้พนักงานและลูกจ้างของการรถไฟฯที่มีรายได้น้อยได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพิ่มขึ้น ให้เพียงพอต่อการดำรงชีพและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่ปรับสูงขึ้น เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำส่วนราชการ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ.๒๕๕๘ ประกาศ ณ วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ซึ่งการรถไฟฯยังไม่ได้จ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจให้กับพนักงานและลูกจ้างเฉพาะงานของการรถไฟฯ

ทางประธานคณะกรรมการรถไฟฯชี้แจงว่า ในเรื่องของจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวให้กับพนักงานและลูกจ้างเฉพาะงานนั้น อยู่ในวาระติดตามของบอร์ด โดยให้ทางการรถไฟฯนำเสนอข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทางบอร์ดประกอบการพิจารณาต่อไป

๗. เรื่องการปรับโครงสร้างภายในของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายใน ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงภาพการจ้าง ซึ่งมีบันทึกข้อตกลงสภาพการจ้าง ระหว่างการรถไฟฯ กับ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟฯ เมื่อวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๐ ข้อ ๑๘ โดย“การรถไฟฯตกลง ในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กรของการรถไฟฯ ต้องทำความตกลงกับสหภาพแรงงานฯก่อน ทุกกรณี” ดังนั้น ในกรณีของการปรับโครงสร้างภายในของการรถไฟฯ ซึ่งจะมีผลต่อกระทบต่อสภาพการจ้างและการทำงานของพนักงาน หากมีการพิจารณาในเรื่องนี้ขอให้ทาง สร.รฟท.ได้เข้าไปรับทราบรายละเอียดต่างๆของการเปลี่ยนแปลงด้วย เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงสภาพการจ้าง และเสริมสร้างแรงงานสัมพันธ์ที่ดีในการทำงานต่อไป

ทางสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย(สร.รฟท.)โดยนายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธาน สร.รฟท. ได้กล่าวขอบคุณประธานกรรมการรถไฟฯ และคณะกรรมการรถไฟฯทุกท่าน รวมทั้งรักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟฯ และผู้บริหาร ที่ให้โอกาสทาง สร.รฟท.เข้ามาชี้แจงข้อมูล ข้อเท็จจริง และทาง สร.รฟท.มีความยินดีให้ความร่วมมือกับทางคณะกรรมการรถไฟฯ และผู้บริหารการรถไฟฯในดำเนินการเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและรักษาผลประโยชน์ของการรถไฟฯ ต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43713
Location: NECTEC

PostPosted: 25/12/2018 10:46 am    Post subject: Reply with quote

หลังจากที่ครม. เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 53 มีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมตรีเศรษฐกิจ (รศก.) ครั้งที่ 5/2553 เมื่อ 26 เม.ย.53 ที่เห็นชอบแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ระยะเร่งด่วน พ.ศ.2553-2557 ซึ่งแผนลงทุนดังกล่าวได้รวมโครงการก่อสร้างโรงซ่อมรถจักรแก่งคอย วงเงินลงทุน 1,000 ล้านบาทไว้ด้วย ต่อมา รฟท. ขอปรับเพิ่มกรอบวงเงินลงทุนเป็น 1,826.50 ล้านบาท เนื่องจากมีการปรับขอบเขตของงานตามผลการศึกษาออกแบบรายละเอียด เช่น งานก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดทดแทนทางรถยนต์ที่ต้องยกเลิกเพื่อให้สามารถใช้พื้นที่มาก่อสร้างเป็นโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2557 และเป็นโครงการที่ รฟท. ได้จัดสรรแหล่งเงินลงทุนไว้แล้วประเภทใช้เงินกู้ระยะยาว งทป. 108/2554 กรอบวงเงิน 1,826.50 ล้านบาท

.... Update ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อ 20 ธ.ค. 61 รฟท.ได้ประกาศประกวดราคางานก่อสร้างโรงซ่อมรถจักรที่แก่งคอย โดยกำหนดราคากลางที่ 1,713.634 บาท ขายเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ระหว่างวันที่ 20 ธันวาคม 2561 ถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562 และกำหนดยื่นข้อเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (E-Bidding) ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 ระหว่างเวลา 08.30 น. ถึง 16.30 น.
....ทั้งนี้เนื้องานประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่
1) งานปรับปรุงพื้นที่ งานก่อสร้างโรงซ่อมบำรุงรถจักรตามวาระแห่งใหม่ที่แก่งคอย งานก่อสร้างอาคารประกอบบต่างๆ ของโรงซ่อมบำรุงรถจักรแห่งนี้ พร้อมงานจัดหาและติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ประจำโรงซ่อมบำรุงรถจักรและอาคารประกอบต่างๆ นี้
2) งานก่อสร้างทางรถไฟและพวงรางรถไฟ พร้อมระบบอาณัติสัญญาณในพื้นที่โรงซ่อมบำรุงรถจักรแห่งนี้ และเชื่อมกับบทางหลักบริเวณสถานีรถไฟแก่งคอย
3) งานก่อสร้างอุโมงค์รถยนต์ลอดพื้นที่โครงการ เพื่อทดแทนการยกเลิกถนนอุไรรัตน์ช่วงพื้นที๋โครงการและทางข้ามจุดตัดทางรถไฟในปัจจุบัน
http://procurement.railway.co.th/auction/system/Declaration.asp?NumDC=34917
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 325, 326, 327 ... 486, 487, 488  Next
Page 326 of 488

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©