ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

[Mongwin]

เอกลักษณ์'ไม้หมอนรถไฟ'คุณค่าที่คู่ควร
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2563

สะพานประวัติศาสตร์-ม้านั่ง-ต่อประแจ สงวนไว้ใช้ก่อนปิดตำนานเป็นคอนกรีต

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงโครงการปรับเปลี่ยนวัสดุหมอนรางรถไฟ จากไม้หมอนรถไฟที่ทำจากไม้จริง เป็นหมอนคอนกรีตที่จะแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 65 ซึ่งจะเป็นการปิดตำนานไม้หมอนรถไฟว่า ไม้หมอนมีอายุการใช้งานยาวนาน 20-30 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานในแต่ละเส้นทาง เช่น หากเป็นเส้นทางที่มีรถขนสินค้าจำนวนมาก ไม้หมอนจะผุกร่อนมากกว่า เป็นต้น แต่คุณภาพการใช้งานใกล้เคียงกับหมอนคอนกรีต

อย่างไรก็ตามสาเหตุสำคัญที่ต้องเปลี่ยนไม้หมอนรถไฟเป็นหมอนคอนกรีตเนื่องจากปัจจุบันไม้ที่จะทำหมอนรถไฟค่อนข้างหายาก และไม่เพียงพอต่อการนำมาเปลี่ยนในการใช้งาน ต้องนำเข้าจากต่างประเทศและมีราคาแพง โดยทางรถไฟมีความยาวทั่วประเทศรวมอยู่ที่ 4,507 กม. ขณะนี้เปลี่ยนเป็นหมอนคอนกรีตแล้ว 4,504 กม. เหลือ 3 กม. นอกจากนี้ในส่วนของทางหลีก 728 กม. ได้เปลี่ยนเป็นหมอนคอนกรีตแล้ว 690 กม. เหลือ 38 กม. เมื่อรวมทางประธานกับทางหลีกจะเหลือประมาณ 41 กม. ซึ่งจะทยอยเปลี่ยนตามงบประมาณที่ได้รับในแต่ละปี โดยใน 1 กม. จะใช้ไม้หมอนประมาณ 1,600 ท่อน ดังนั้นยังเหลืออีกประมาณกว่า 6 หมื่นท่อน จากที่ต้องเปลี่ยนทั้งหมดกว่า 7 ล้านท่อน

รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งด้วยว่า แม้นโยบาย รฟท. จะชัดเจนว่าต้องเปลี่ยนเป็นหมอนคอนกรีต ให้หมด แต่บางจุดอาจยังต้องคงเอกลักษณ์ของ ไม้หมอนไว้ต่อไป เช่น สะพานทางประวัติศาสตร์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว สะพานถ้ำกระแซ เป็นต้น นอกจากนี้ในจุดรอยต่อประแจ ซึ่งเป็นข้อต่อต่าง ๆ ก็ยังอาจต้องใช้ไม้หมอนอยู่ เพราะไม้มีความยืดหยุ่น แต่ถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก ๆ

ทั้งนี้ไม้หมอนทุกท่อนที่รื้อย้ายออกมาแล้ว จะแบ่งเป็นประเภทตามสภาพ โดยประเภท ก ไม้หมอนที่มีสภาพดีที่สุดทาง รฟท. จัดเก็บไว้ใช้ประโยชน์เอง เช่น นำไปแซมกับไม้หมอนในจุดอื่นที่ยังไม่ได้ปรับเปลี่ยน เป็นต้น หรือนำไปดัดแปลงเป็นม้านั่งคงเอกลักษณ์สถานีรถไฟที่ผู้โดยสารจะได้พบเห็นและใช้บริการตามสถานีรถไฟทั่วประเทศ ส่วนประเภท ข ไม้หมอนที่มีสภาพดีรองลงมา และประเภท ค ไม้หมอนที่มีสภาพไม่ค่อยดีจะนำไปจำหน่ายให้ประชาชน ซึ่งสนใจเป็นจำนวนมาก ท่อนละประมาณ 300 บาท ส่วนใหญ่นำไปทำเฟอร์นิเจอร์ และทางเดินตกแต่งสวน

ด้านนายวรวุฒิ ให้สัมภาษณ์โดยกล่าวย้ำว่า ตามเป้าหมายต้องเปลี่ยนไม้หมอนทางรถไฟทั่วประเทศกว่า 4,000 กม. หรือประมาณกว่า 7 ล้านท่อน ให้เป็นหมอนคอนกรีตให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 65 ไม้หมอนที่ปลดระวางออกไปแล้ว จะมีการคัดแยกไม้หมอนเก่าตามสภาพ เพื่อนำไปประมูลขายนำรายได้เข้าองค์กรต่อไป.

[Wisarut]

ตื่นตัวไม่ตื่นตูม! พบผู้ป่วยเข้าข่ายติดเชื้อโควิด-19 ที่สถานีรถไฟหาดใหญ่
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 11:08




ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พบผู้ป่วยเข้าข่ายติดเชื้อโควิด-19 ที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ต้องใส่ชุดป้องกันนำตัวไปตรวจสอบที่ รพ.หาดใหญ่ ก่อนเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟได้นำน้ำยาฆ่าเชื้อมาฉีดพ่นเพื่อเป็นการทำความสะอาด

วานนี้ (25 มี.ค.) เจ้าหน้าที่กู้ภัยมิตรภาพสามัคคีหาดใหญ่ ได้รับแจ้งพบผู้ป่วยเข้าข่ายเฝ้าระวังติดเชื้อโควิด-19 ที่บริเวณสถานีรถไฟหาดใหญ่ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกับใส่ชุดป้องกันการติดเชื้อ จากการเข้าไปสอบถามผู้ป่วยทราบชื่อคือ นายไพรัตน์ ยิ้มละม้าย อายุ 63 ปี ชาว จ.นราธิวาส จากการตรวจสอบอาการเบื้องต้นมีอาการเป็นไข้ตัวร้อน ไอและวิงเวียนศีรษะเป็นอย่างมาก

และจากการสอบถามทราบว่า นายไพรัตน์ ได้เดินทางมาจากจังหวัดนราธิวาสเมื่อ 2 วันก่อน และได้เดินทางไปจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เพื่อไปหาญาติแต่ไม่พบจึงเดินทางกลับมาที่อำเภอหาดใหญ่ และได้นอนพักที่สถานีรถไฟหาดใหญ่เมื่อคืนวันที่ 24 มี.ค. โดยยังไม่มีอาการแต่อย่างใด จนมาช่วงเย็นของวันที่ 25 มี.ค. มีอาการตัวร้อนขึ้นมากะทันหัน ไอ วิงเวียนศีรษะเป็นอย่างมาก จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่



ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ประสานทางโรงพยาบาลหาดใหญ่ให้มารับตัวไปตรวจสอบอย่างละเอียด และกักตัวไว้ตามมาตรการการควบคุมโรคระบาด และหลังจากได้นำตัวผู้ป่วยออกไปยังโรงพยาบาลหาดใหญ่แล้ว เจ้าหน้าที่สถานีรถไฟได้นำน้ำยาฆ่าเชื้อมาฉีดพ่นในบริเวณดังกล่าวทันที เพื่อเป็นการทำความสะอาด

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณสถานีรถไฟหาดใหญ่ เปิดเผยว่า เห็นชายคนดังกล่าวตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 มี.ค. แต่ไม่ได้มีอาการอะไร ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก็ไม่พบความผิดปกติ จนมาช่วงเย็นของวันที่ 25 มี.ค. เห็นชายคนดังกล่าวลักษณะผิดปกติ จึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าตรวจสอบ

[Mongwin]

โควิด-19 ทุบ 'คมนาคม' หยุดการเดินทางทุกโหมดเร่งเยียวยา 'แอร์ไลน์-รถโดยสาร'
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2563

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส"โควิด-19" ยังเขย่าขวัญโลกและสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ทุกอย่างถูก "ชัตดาวน์" อย่างสิ้นเชิง เพื่อฝ่าวิกฤติที่กำลังถาโถม ขณะที่ภาครัฐเร่งออกมาตรการเยียวยาประชาชน-ภาคธุรกิจที่ได้รับแรงกระแทก พยุงเศรษฐกิจไม่สะดุด รวมถึงมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมและบรรเทาการแพร่ระบาด

ล่าสุด "บิ๊กตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี งัด พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกมาควบคุมสถานการณ์

ด้าน "กระทรวงคมนาคม" ที่ควบคุมการเดินทางทุกโหมด ก็ต้องหามาตรการออกมาประคองให้วิกฤตครั้งนี้ผ่านพ้นไปให้ได้

คลอด 6 มาตรการอุ้มแอร์ไลน์

โดยที่ประชุม "กบร.-คณะกรรมการการบินพลเรือน" มี "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ"เป็นประธาน พิจารณามาตรการตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กรมท่าอากาศยาน (ทย.) บมจ. ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการสายการบิน 7 แห่ง ผ่านอนุมัติจาก "ครม.-คณะรัฐมนตรี" เมื่อต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา

มี 6 มาตรการ 1.มาตรการด้านการบิน ได้แก่ การลดค่าบริการการขึ้น-ลงอากาศยาน ค่าบริการที่เก็บอากาศยาน 50% สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศและเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ทำการบินเข้าหรือออกประเทศกลุ่มเสี่ยง ปรับลดค่าใช้จ่ายที่ท่าอากาศยานอย่างอื่น เช่น ค่าเช่าพื้นที่สำนักงาน, ปรับลดค่าบริการเดินอากาศ ที่ถูกเรียกเก็บจาก ผู้ให้บริการเดินอากาศ 50% สำหรับ เที่ยวบินภายในประเทศ และ 20% สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ที่ทำ การบินเข้าหรือออกประเทศกลุ่มเสี่ยง

ปรับลดค่าธรรมเนียมการเข้าหรือ ออกนอกประเทศ ที่เรียกเก็บจากสายการบิน ตามจำนวนผู้โดยสารคนละ 15 บาท เหลือคนละ 10 บาท สำหรับเที่ยวบิน ระหว่างประเทศที่ทำการบินเข้าหรือออกประเทศกลุ่มเสี่ยง และขอขยายการ ปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่นจากเดิม มีผลถึงวันที่ 30 ก.ย. เป็นวันที่ 31 ธ.ค. 2563

2.มาตรการอำนวยความสะดวกเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้ของสายการบิน ด้านการจัดสรรเวลาการบิน จะผ่อนผันการตัดสิทธิในฤดูกาลถัดไปให้สายการบินที่ยกเลิกเที่ยวบินจากสถานการณ์ดังกล่าว โดยจะไม่ถูกนำมาใช้คำนวณเงื่อนไขการทำการบินของเวลาการบินต่อเนื่องที่ได้รับการจัดสรร เนื่องจากเป็นสถานการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมของสายการบิน, ประสานงาน หน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินใน ต่างประเทศที่สายการบินได้ยกเลิก เที่ยวบิน อาทิ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เป็นต้น เพื่อขอคงสิทธิในเวลาการบินที่ได้รับจัดสรรเดิม

ด้านการกำกับดูแลทางเศรษฐกิจ ทบทวนหลักเกณฑ์การขอจัดสรรเส้นทาง บินใหม่ภายในประเทศและปรับปรุงกระบวนการพิจารณาจัดสรรเส้นทางให้รวดเร็วขึ้น และเจรจาสิทธิการบินในเส้นทางระหว่างประเทศที่สายการบิน ของไทยมีศักยภาพในอนาคต อาทิ อินเดีย ปากีสถาน เกาหลีใต้

3.มาตรการสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางทางอากาศ ออกประกาศรองรับสิทธิของสายการบินในการปฏิเสธผู้โดยสารที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส ประชาสัมพันธ์มาตรการด้านการสาธารณสุขสร้างความเชื่อมั่น อาทิ กระบวนการคัดกรองผู้ป่วย วิธีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในห้องโดยสาร

4.มาตรการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว ออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ 5.มาตรการทางการเงิน ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ ค่าบริการ ค่าภาระ หรือเงินตอบแทนที่สายการบินถูกเรียกเก็บจาก ผู้ประกอบการท่าอากาศยาน ผู้ให้บริการการเดินอากาศ และผู้ประกอบการ จำหน่ายและบริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อาทิ สายการบิน โรงแรม ภาคบริการต่าง ๆ เป็นต้น

6.มาตรการอื่น ๆ ลดค่าเช่าพื้นที่ 50% สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการลดลงของผู้โดยสาร เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือน มี.ค.-ส.ค.นี้

ยังมีมาตรการลดค่าใช้หลุมจอดในสนามบินของ ทย. และ ทอท.ลง 50% กรณีที่มีการระงับทำการบินชั่วคราว และอยู่ระหว่างรอคำตอบจากกองทัพเรือ (ทร.) ให้ใช้หลุมจอดที่สนามบินอู่ตะเภา

คุมเข้มเข้าประเทศ

ในส่วนมาตรการคัดกรองการเข้าเมือง กพท.ได้ออกประกาศวันที่ 19 มี.ค. และมีผลบังคับใช้เมื่อ 22 มี.ค. คุมเข้ม ผู้โดยสารที่เดินทางจากทั่วโลกต้องมีใบ รับรองแพทย์ที่มีอายุไม่เกิน 72 ชม. และกรมธรรม์ประกันภัยที่แสดงการคุ้มครองการรักษาพยาบาลในประเทศไทย ที่คุ้มครองโรคไวัรัสโควิด-19 เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 100,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3 ล้านบาท) จึงจะอนุญาตให้สายการบินขายบัตรที่นั่งให้

ยกเว้นผู้โดยสารต่างชาติที่เดินผ่านประเทศไทยเพื่อต่อเครื่องไปประเทศที่ 3 ไม่ต้องเข้าเงื่อนไขตามประกาศข้างต้น แต่มีเงื่อนไข 1.มีเวลาเปลี่ยนเครื่องไม่เกิน 24 ชม. และ 2.มีใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่า มีสุขภาพเหมาะสมไม่จำเป็นต้องมีใบ รับรองแพทย์ที่ตรวจเชื้อไวรัสโควิดและกรมธรรม์ประกันภัย แต่เมื่อเดินทางมาถึงไทย จะต้องอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดไว้ มีผลถึงวันที่ 31 มี.ค.นี้ เวลา 23.59 น.นั่งรถไฟ-รถไฟฟ้าต้องใส่หน้ากาก

ขณะที่กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ออกประกาศ ข้อแนะนำในการปฏิบัติเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) สำหรับ ผู้โดยสารและหน่วยงานที่ให้บริการ ระบบขนส่งทางราง ฉบับที่ 2 คิกออฟ เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ให้ผู้ใช้บริการรถไฟและรถไฟฟ้าทุกระบบจะต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ตลอดเวลาที่ใช้บริการ ทั้งในสถานีและขบวนรถ, เว้นระยะห่างทางสังคม (social distance) 1-2 เมตร ส่วน ผู้ให้บริการ จะต้องเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการป้องกัน เช่น เพิ่มจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารก่อนเข้าใช้บริการทุกสถานี

BEM ลดค่าเช่า 50%

นายณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจ.แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ (BMN) ในเครือ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ผู้บริหารเมโทร มอลล์ พื้นที่เชิงพาณิชย์ในสถานีรถไฟฟ้า MRT ได้ลดค่าเช่าให้พันธมิตรร้านค้าต่าง ๆ ลง 50% รวมถึง ร้านค้าบนพื้นที่ด่านประชาชื่น ด่านศรีนครินทร์ และด่านบางปะอิน ที่จ่ายค่าเช่าคงที่รายเดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-30 เม.ย.นี้ ส่วนร้านที่ปิดตามประกาศกรุงเทพมหานคร จะยกเว้นค่าเช่าให้ในช่วงวันที่ 22 มี.ค.-12 เม.ย.นี้

ขนส่งระงับสอบใบขับขี่

ขณะที่ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า กรมปรับการให้บริการสำนักงานขนส่งในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล 5 จังหวัด สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี และปทุมธานี ระหว่างวันที่ 24 มี.ค.-12 เม.ย.นี้ งดการอบรมและทดสอบใบอนุญาตขับรถ บัตรประจำตัวคนขับรถ และใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถ รายใหม่ทุกชนิด และให้อบรม ต่ออายุใบอนุญาตขับรถทุกชนิด ผ่านระบบ e-Learning และบริการ รับชำระภาษีรถประจำปีออนไลน์ ส่วนช่องทางอื่น ๆ ยังปกติ เช่น เคาน์เตอร์เซอร์วิส เซเว่นอีเลฟเว่น แต่งดบริการในห้างสรรพสินค้า

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบก กลางยังอนุมัติให้รถร่วมเอกชนในหมวด 2-3 ยกเว้นการเดินรถ เส้นทางระหว่างจังหวัด เพื่อให้ไม่เข้าเงื่อนไขจ่ายค่าธรรมเนียมให้บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ส่วนผู้ประกอบการรถแท็กซี่จะหารือมาตรการช่วยเหลือ อีกครั้ง

[Mongwin]

ทม.หัวหิน คัดกรองเข้มผู้โดยสารสถานีรถไฟป้องกันโควิด-19
สยามรัฐออนไลน์ 28 มีนาคม 2563 14:28 น. การเมืองท้องถิ่น



วันที่ 28 มี.ค.63 นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พร้อมด้วย นายมนตรี ชูภู่ รองนายกฯ ได้นำทีมพยาบาลและนักวิชาการ เทศบาลเมืองหัวหิน ร่วมกับ ตำรวจรถไฟหัวหิน ลงพื้นที่คัดกรองผู้โดยสารบริเวณสถานีรถไฟหัวหินซึ่งแต่ละวันมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ตามสั่งการศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเมืองหัวหิน โดยแบ่งเจ้าหน้าที่เป็น 2 ทีม ทีมละ 2 คน ทำการสแกนวัดไข้ผู้โดยสารขาออก และทีมละ 6 คน ทำการสแกนผู้โดยสารขาเข้าเมืองหัวหินในแต่ละเที่ยวขบวนตลอด 24 ชม.โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ทำกรองผู้โดยสาร 100% ไปแล้วกว่า 60 คนและไม่พบอาการผิดปกติแต่อย่างใด และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้หากทีมพยาบาลและวิชาการตรวจพบผู้โดยสารเข้าข่ายจะดำเนินการกักตัวตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดต่อไป







นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอหัวหิน กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ล่าสุด จ.ประจวบคีรีขันธ์ มียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสะสมรวม 11 ราย รักษาตัวอยู่ใน รพ.พื้นที่ อ.หัวหิน 8 ราย เข้าไปรักษาตัว รพ.ใน กทม. 1 ราย รักษาหายและกลับบ้านแล้ว 2 ราย หลังพบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มอีก 4 ราย เมื่อวันที่ 27 มี.ค.63 ทำให้มีกระแสในสังคมโซเชียลหัวหิน เรียกร้องให้ทางราชการเปิดไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อที่เพิ่มเพื่อเป็นแนวทางป้องกันตนเอง โดยเฉพาะหัวหินเป็นเมืองท่องเที่ยว แต่ส่วนตัวยอมรับว่าในฐานะฝ่ายปกครองจะทราบว่ามีผู้ติดเชื้อก่อนที่จังหวัดจะแถลงรายละเอียด นอกจากนั้นตนทราบข้อมูลอื่นๆเท่ากับประชาชนทั่วไป ทำให้การตอบคำถามในเพจโควิด -19 ของฝ่ายปกครองอำเภอไม่สามารถให้รายละเอียดได้ทั้งหมด ขณะที่ประชาชนบางส่วนมีข้ออ้างว่าบางจังหวัดหน่วยงานรัฐสามารถเปิดเผยชื่อและพฤติกรรมก่อนการติดเชื้อ แต่ใน จ.ประจวบฯ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจจะมีเทคนิคและวิธีคิดในการทำงานที่แตกต่างกัน ทำให้ล่าสุดในสังคมโซเชียลมีการโพสต์ระบุว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มในสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งอย่างต่อเนื่อง แต่ยืนยันว่าขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมเพียง 11 ราย

[Wisarut]

รถไฟ-ด่านหนองคายทะลายแก๊งหน้ากากอนามัยผิดก.ม.
หน้าเศรษฐกิจมหภาค - การค้า - การเกษตร
พุธที่ 1 เมษายน 2563 เวลา 11:16 น.


การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับตำรวจรถไฟหนองคาย และด่านศุลกากรหนองคาย ร่วมจับกุม หน้ากากอนามัยผิดกฎหมาย วานนี้ (วันที่ 31 มี.ค. 63) เวลาประมาณ 10.00 ณ สถานีหนองคาย เจ้าหน้าที่สถานี ร่วมกับ ตำรวจรถไฟหนองคาย ได้ทำการตรวจสอบสินค้าต้องสงสัย เป็นกล่องขนาดใหญ่ที่มีผู้นำมาฝากส่งสัมภาระจากสถานีหนองคายไปยังสถานีบางเขน จำนวน 4 ลัง ตามใบส่งของเลขที่ 384094 มีนายพอนสุก อินสีเชียงใหม่ เป็นผู้ส่งสินค้า และนายอัคคณัฎธ์ เป็นผู้รับสินค้า โดยได้ตรวจพบความผิดปกติภายในกล่อง ซึ่งมีลักษณะเป็นถุงสีดำถูกปิดมิดชิด พบว่าภายในกล่องเป็นหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นสินค้าควบคุม จึงได้แจ้งด่านศุลกากรจังหวัดหนองคาย โดยมี นายสมบัติ ฆ้อนทอง หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม และชุดตรวจค้น ร่วมทำการตรวจค้น พบว่าภายในกล่องเป็นหน้ากากอนามัยผลิตที่ประเทศเวียดนาม ที่ได้นำเข้าโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร จำนวน 4 ลัง บรรจุลังละ 50 กล่อง กล่องละ 50 ชิ้น รวมทั้งหมดจำนวน 10,000 ชิ้น ซึ่งเป็นหน้ากากอนามัยยี่ห้อต่าง ๆ ดังนี้1. หน้ากากอนามัย ยี่ห้อ I MASK จำนวน 2 ลัง ลังละ 50 กล่อง รวมจำนวน 5,000 ชิ้น2. หน้ากากอนามัย ยี่ห้อ KHAU TRANG DAI UY จำนวน 1 ลัง ลังละ 50 กล่อง รวมจำนวน 5,000 ชิ้น3. หน้ากากอนามัย ยี่ห้อ THUY TIEN จำนวน 1 ลัง ลังละ 50 กล่อง รวมจำนวน 5,000 ชิ้น ภายในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ พร้อมกับ เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรหนองคาย ได้ทำการเรียกนายพอนสุกฯ ชาวประเทศเทศลาว อาศัยอยู่บ้านสะพานทองใต้ เมืองสีสัตตะนาถ นครหลวงเวียงจันทน์ มาให้ปากคำ โดยได้รับคำชี้แจงว่า ตนเองได้นำสินค้า ซึ่งมีนายดำ ชาวไทยอายุประมาณ 30 ปี มากับรถตู้ยี่ห้อฮุนได สีขาวหมายเลขทะเบียน กย 0263 เพื่อส่งสินค้าดังกล่าวไปยังสถานีรถไฟบางเขน เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรหนองคาย จึงได้แจ้งให้ ทราบว่าสินค้าดังกล่าวที่ได้นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากร ของดังกล่าวเป็นของอันพึงต้องรีบหรือพิสูจน์ความผิด เจ้าของหรือผู้ครอบครองมีความผิดตามมาตรา มาตรา 246 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 จากนั้นเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรหนองคายจึงได้ยึดของกลางและทำการจับกุม นายพอนสุก อินสีเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
https://www.facebook.com/pr.railway/posts/3388512617830252

[Wisarut]

ดีเดย์ คืนเงินค่าตั๋วรถไฟผ่านระบบอี-เมล์ เต็มราคาวันแรก
หน้าเศรษฐกิจมหภาค / Mega Project /
วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2563 15:09 น.

ร.ฟ.ท. เปิดช่องผู้โดยสารที่จองตั๋วผ่านระบบอินเตอร์เน็ต สามารถยื่นเอกสารขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสารผ่านทางระบบอีเมล (E – mail) ได้เต็มราคาเป็นกรณีพิเศษ หวังหลีกเลี่ยงการเดินทางช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัส โควิด–19 ขณะเดียวกัน ผู้โดยสารสามารถยื่นเอกสารขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสารได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด–19) ได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ทำให้หลายประเทศต้องประกาศห้ามการเดินทางเข้า – ออกประเทศ และเมื่อวันที่ 26 มี.ค.63 รัฐบาลได้ประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด–19 โดยขอความร่วมมือให้ประชาชนงดการเดินทางออกจากที่พักอาศัยจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ดังนั้น การรถไฟฯ จึงได้อำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารที่จองตั๋วโดยสารทางอินเตอร์เน็ตในประเทศหรือต่างประเทศ หากไม่ประสงค์จะเดินทาง หรือกรณีที่จองตั๋วโดยสารเดินทางกับขบวนรถที่ได้ประกาศงดเดินไปแล้ว ผู้โดยสารสามารถยื่นเอกสารขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสารได้เต็มราคาเป็นกรณีพิเศษผ่านทางอีเมล (E – mail) พร้อมกับแนบไฟล์ตั๋วอินเตอร์เน็ตขอคืนเงินเต็มราคา ส่งมาที่อีเมล์ Passenger-ser@railway.co.th ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้การจองตั๋วผ่านอินเตอร์เน็ตคือการซื้อตั๋วโดยสารผ่านหน้าเว็บไซต์ของการรถไฟฯ www.railway.co.th หรือที่ www.thairailwayticket.com โดยผู้ซื้อตั๋วจะชำระค่าโดยสารทางผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตได้เท่านั้น อย่างไรก็ตามประชาชนที่ซื้อตั๋วโดยสารผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด–19) สามารถยื่นเอกสารขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสารได้เต็มราคาผ่านทางระบบอีเมล (E – mail) ตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. 63 เป็นต้นไป

[Mongwin]

พบผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 รายล่าสุด เป็น พขร.การรถไฟฯ
ThaiPBS 22:15 | 2 เมษายน 2563
พบผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 รายล่าสุด เป็น พขร.การรถไฟฯ

พบผู้ป่วยเสียชีวิตอีกรายจาก COVID-19 ที่ปทุมธานี เมื่อวานนี้ (1 เม.ย.) เป็นพนักงานขับรถไฟ พบตารางทำงาน 23-24 มี.ค.ที่ผ่านมา ยังทำงานบนขบวนรถสาย กรุงเทพฯ-แก่งคอย

วันนี้ (2 เม.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีรายงานการเสียชีวิตของผู้ป่วยจากไวรัส COVID-19 รายหนึ่ง ซึ่งเป็นชาว จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยข้อมูลระบุว่า เสียชีวิตที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ และมีหนังสือจากนิติบุคคลของหมู่บ้านพฤกษาวิลล์ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แจ้งไปยังนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม ว่ามีผู้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าวเสียชีวิต เป็นพนักงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พนักงานขับรถไฟ แขวงดีเซลราง กรุงเทพฯ

ขณะที่จากการตรวจสอบตารางการปฏิบัติงานย้อนหลังของผู้เสียชีวิต พบว่า ผู้เสียชีวิตได้ขับรถไฟ เมื่อวันที่ 23-24 มี.ค.ที่ผ่านมา เส้นทางกรุงเทพฯ-แก่งคอย และแก่งคอย-กรุงเทพฯ หลังจากนั้นได้มีบันทึกของการรถไฟฯ ให้ผู้เสียชีวิตปฏิบัติหน้าที่คนขับสำรอง และกักตัว, สลับกับการลาป่วย, วันหยุดประจำสัปดาห์ ก่อนที่จะมีการอาการหนักส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิต ในวันที่ 1 เม.ย.2563

ล่าสุด นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้ได้ทราบข้อมูลดังกล่าวแล้ว และสั่งให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว

[Wisarut]

[Wisarut]

ผวา โควิด ทั้งโบกี้! ป้า ไข้สูงขึ้นรถไฟ ไม่ใส่แมสก์ ถ่มน้ำลายใส่เจ้าหน้าที่

3 เมษายน 2563 เวลา 14:22 น.
รถไฟท้องถิ่น นครราชสีมา ผวา! ป้า เสี่ยงติด โควิด วัดไข้เจออุณหภูมิสูง ไม่สวมหน้ากากอนามัย-ถ่มน้ำลายใส่เจ้าหน้าที่ นั่งโดยสารมาด้วย รีบคุมตัวส่งโรงพยาบาล

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 3 เม.ย. นายถาวร คำจุมพล นายสถานีรถไฟโนนสูง อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา รับแจ้งเหตุพบพฤติการณ์ผู้โดยสารเป็นหญิงวัยกลางคนนั่งอยู่ช่วงรอยต่อโบกี้ที่ 2 ขบวน 431 รถไฟท้องถิ่น ชุมทางแก่งคอย-ขอนแก่น เนื่องจากไม่มีตั๋วโดยสาร และไม่สวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งมีท่าทางคล้ายผู้ป่วย

หลังทราบเรื่องจึงประสานโรงพยาบาลโนนสูง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสูง ให้มาตรวจสอบ ทันทีที่ขบวนรถแล่นเทียบชานชาลาที่ 2 เวลา 09.00 น. เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งได้เคลื่อนย้ายผู้โดยสารในโบกี้ออกมาอยู่ข้างนอก พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่สวมชุดป้องกันการติดเชื้อโรค 3 คน ขึ้นไปตรวจสอบตามกระบวนการคัดกรอง


พบ น.ส.ดา (นามสมมติ) อายุ 53 ปี ชาวขอนแก่น โดยก่อนพูดคุยได้ยื่นหน้ากากอนามัยให้ น.ส.ดาสวมใส่ก่อนเพื่อป้องกันการติดเชื้อโรค แต่ถูกปฏิเสธพร้อมแสดงท่าทีขัดขืน เจ้าหน้าที่ได้พยายามชี้แจงขอความร่วมมือหากไม่ยอมสวมหน้ากากผ้าอนามัย จะไม่อนุญาตโดยสารไปกับขบวนรถ แต่กลับถูกด่าทอและไม่พอใจ

เจ้าหน้าที่จึงใช้กำลังสวมกุญแจมือ น.ส.ดาจึงถ่มน้ำลายใส่เจ้าหน้าที่และบนขบวนรถไฟ ต้องออกใช้กำลังอีกครั้ง จึงสามารถนำน.ส.ดาลงมาจากขบวนรถได้ จากนั้นได้รีบนำส่งโรงพยาบาลโนนสูงทันที

จากการตรวจวัดอุณหภูมิ น.ส.ดา ได้ 37.9 องศาเซลเชียส ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง ต้องกักตัวไว้ 14 วัน เพื่อรอผลตรวจหาเชื้ออีกครั้ง ส่วนขบวนรถได้มอบหมายให้อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฮุก.31 นครราชสีมา ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคบนขบวนรถ และอนุญาตให้แล่นออกจากสถานีได้ ซึ่งเสียเวลาการเดินรถประมาณ 60 นาที

เปิดคลิปจับ หญิงเสี่ยงโควิดไม่ใส่แมสก์ บนรถไฟ ถุยน้ำลายใส่จนท. ผงะวัดไข้สูงลิ่ว
ทุกทิศทั่วไทย

3 เมษายน 2563 เวลา 15:08 น.
เปิดคลิปนาทีจับ หญิงวัย53 เสี่ยงโควิดไม่ใส่แมสก์ บนรถไฟ สถานีโนนสูง จ.โคราช จนท.โดนถุยน้ำลายใส่ ผงะวัดไข้สูงลิ่ว อุณหภูมิ 37.9 องศา



จากกรณี เจ้าหน้าที่ในชุดป้องกันการติดเชื้อ เข้าควบคุมตัวหญิงรายหนึ่ง อายุ 53 ปี บนตู้โบกี้2 ขบวนที่ 431 รถไฟท้องถิ่น ชุมทางแก่งคอย-ขอนแก่น เนื่องจากหญิงคนดังกล่าว ไม่มีตั๋วโดยสารและไม่สวมหน้ากากอนามัยรวมทั้งมีท่าทางคล้ายผู้ป่วย มีไข้ 37.9 องศาเซลเชียส เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ของวันนี้ (3 เม.ย.) ที่สถานีรถไฟโนนสูง จ.นครราชสีมา ตามที่เสนอไปแล้วนั้น

ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าว มีคลิปขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัว โดยพยายามชี้แจงขอความร่วมมือหากไม่ยอมสวมหน้ากากผ้าอนามัย จะไม่อนุญาตโดยสารไปกับขบวนรถ แต่หญิงคนดังกล่าวด่าทอและไม่พอใจ เจ้าหน้าที่จึงใช้กำลังสวมกุญแจมือ แต่หญิงดังกล่าวได้ถ่มน้ำลายใส่เจ้าหน้าที่และบนขบวนรถไฟ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้กำลังอีกครั้งจึงสามารถนำหญิงคนดังกล่าวลงมาจากขบวนรถได้


จากนั้นได้รีบนำส่ง รพ.โนนสูง ทันที จากการตรวจวัดอุณหภูมิได้ 37.9 องศาเซลเชียส ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง ต้องกักตัวไว้ 14 วัน เพื่อรอผลตรวจหาเชื้ออีกครั้ง ส่วนขบวนรถได้มอบหมายให้อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฮุก.31 นครราชสีมา ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคบนขบวนรถและอนุญาตให้แล่นออกจากสถานีได้
https://www.facebook.com/RDNewsCH3/videos/594011261194750/
https://www.facebook.com/panya.petkaew.5/videos/538116890214005/

[Wisarut]