View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46894
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 06/08/2020 7:56 am Post subject: |
|
|
ไล่ควันก่อนเข้าสถานีบางซื่อ
เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2563
ดัดแปลงโบกี้รถไฟ195ล้าน
นายศิริพงษ์ พฤทธิพันธ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท. อยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นร่างขอบเขตของงาน (ทีโออาร์) โครงการจ้างดัดแปลงรถโบกี้ไฟฟ้ากำลัง 12 คัน ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) วงเงิน195 ล้านบาทผ่านเว็บไซต์ของ รฟท. จนถึงวันที่ 14 ส.ค. 63 เตรียมความพร้อมขบวนรถไฟเพื่อแก้ปัญหาควันก่อนเข้าสถานีกลางบางซื่อให้มากที่สุด จากนั้นจะนำความคิดเห็นทั้งหมดมาพิจารณาปรับปรุงร่างทีโออาร์ ก่อนเสนอผู้ว่าการ รฟท. พิจารณาเห็นชอบไม่เกินเดือน ต.ค. คาดว่าจะประกาศเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมประมูลได้ในเดือนพ.ย. เปิดให้ยื่นข้อเสนอปลายเดือน ธ.ค.63 หรือ ม.ค.64และเข้าสู่กระบวนการคัดเลือก จะลงนามสัญญาผู้ชนะได้ประมาณเดือนพ.ย.64 ส่งมอบรถคันแรกไม่เกิน 120 วันหลังลงนามสัญญาและทยอยส่งครบ12 คันภายใน 300 วันหลังลงนามสัญญาหรือประมาณปลายปี 65
รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งว่าโครงการนี้เป็นการนำรถไฟเก่าที่ได้รับมอบจากประเทศญี่ปุ่นมากว่า 10 ปีดัดแปลงเป็นรถโบกี้ไฟฟ้ากำลัง(Power Car) มาพ่วงกับหัวรถจักร และตู้โดยสารในขบวนทำหน้าที่จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับตู้โดยสารทั้งขบวนได้ 15-20 ตู้เดิมทีแต่ละตู้ต้องมีเครื่องปั่นไฟฟ้าเพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แต่ละตู้เองทั้งนี้ Power Car จะช่วยประหยัดต้นทุนด้านเชื้อเพลิงและซ่อมบำรุงได้ประมาณ 30% และช่วยลดควันได้ประมาณ 30% ก่อนหน้านี้ รฟท. เปิดประมูลโครงการจ้างดัดแปลงรถโบกี้ไฟฟ้ากำลังไปแล้ว 8 คัน แต่เป็นการผลิต Power Car ขึ้นมาใหม่ ไม่ได้ดัดแปลงเพราะเอกชนมองว่าดัดแปลงไม่คุ้มค่าแต่ในร่างทีโออาร์ก็เปิดกว้างไว้หากเอกชนสำรวจแล้วว่ารถไฟที่รฟท.คัดเลือกมาซ่อมบำรุงไม่คุ้มค่าสามารถผลิตขึ้นมาใหม่ได้ แต่ต้องไม่เกินวงเงินที่กำหนด. |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46894
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 06/08/2020 1:14 pm Post subject: |
|
|
เกียรติธนาลง'บ้านกระโดน'
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2563
น.ส.มินตรา มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทประกาศความพร้อมเปิดความร่วมมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เข้าใช้ประโยชน์พื้นที่สถานีรถไฟบ้านกระโดน ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา สำหรับเป็นลานคอนเทเนอร์และจุดขนถ่ายรองรับการขนส่งสินค้าทางรางในอนาคต โดยใช้เม็ดเงินลงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท และนำร่องดึง บริษัท วินีไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นคู่ค้ากับบริษัทมายาวนานกว่า 20 ปี เปลี่ยนโหมดการขนส่งจากรถบรรทุกมาเป็นราง เส้นทางบ้านกระโดน/โคราช-มาบตาพุด/ระยอง เพื่อขนส่งสินค้าเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดโดยตรง คาดจะสามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ทุกปี และมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 10% ซึ่งสถานีรถไฟบ้านกระโดนถือเป็นจุดยุทธศาสตร์การขนส่งรองรับโครงการรถไฟรางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น
ทั้งนี้ จากการประมาณการธุรกิจ ขนส่งสินค้าทางบก (ศูนย์วิจัยกสิกรไทย) มีมูลค่าสูงถึง 145,100-147,300 ล้านบาท อัตราเติบโต 5-7% โดยเปรียบเทียบสัดส่วนการขนส่งสินค้าทั้งระบบพบว่า การขนส่งทางถนนโดยรถบรรทุกประเภทต่าง ๆ ยังมีสัดส่วนมากสุดประมาณ 81% ส่วนการขนส่งทางรถไฟ หรือระบบราง ยังมีสัดส่วนเพียง 1.9% จึงมีช่องว่างการสร้างรายได้อีกจำนวนมาก
ด้าน นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สถานีรถไฟบ้านกระโดน อยู่ระหว่างสถานีหนองแมวกับสถานีบ้านเกาะ จะถูกยกระดับสถานีขนถ่ายตู้คอนเทเนอร์ขนส่งสินค้าที่สำคัญของภาคอีสาน เมื่อโครงการรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 29,968 ล้านบาท เปิดให้บริการในปี 65 จะสามารถรองรับขบวนรถเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัว. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43732
Location: NECTEC
|
Posted: 10/08/2020 10:21 am Post subject: |
|
|
รฟท.ชวนร่วมงาน ย้อนวันวาน วิถีผ้าไทยในสยาม เทิดพระเกียรติ ที่หัวลำโพง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 7 สิงหาคม 2563 เวลา 19:02
การรถไฟ เชิญชวนร่วมงานย้อนวันวาน วิถีผ้าไทยในสยาม เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ณ สถานีรถไฟกรุงเทพ 7-12 ส.ค.ร่วมวิถีแต่งกายผ้าไทยเพิ่มช่องทาง สร้างรายได้ให้ชุมชน ช่วงโควิด-19
วันที่ 7 ส.ค. 63 ณ สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) นายศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ร่วมเป็นประธานพิธีเปิดงาน ย้อนวันวาน วิถีผ้าไทยในสยาม ซึ่งเป็นความร่วมมือโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย กับมูลนิธิร่มเกล้าเยาวชนในพระบรมราชูปถัมภ์ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจร่มเกล้า ชมรมรวมใจภักดิ์จักรีวงศ์ และมูลนิธิรถไฟไทย จัดกิจกรรมขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2563
นายศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน รฟท. เปิดเผยว่า การจัดงาน ย้อนวันวาน วิถีผ้าไทยในสยาม ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งกิจกรรมของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่จัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2563 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎร
ตลอดจนเป็นการรวมพลังทานน้ำใจของคนไทยในการช่วยเหลือกลุ่มแม่บ้านผ้าทอให้มีช่องทางจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าทอในช่วงเกิดวิกฤตไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด โดยการรณรงค์ให้คนไทยออกมาสวมใส่ และซื้อหาผลิตภัณฑ์ผ้าไทย รวมถึงสินค้าอื่นๆจากท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและกลุ่มแม่บ้าน ทำให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศเกิดความเข้มแข็ง
ในโอกาสนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ขอเชิญชวนประชาชนคนไทยเข้าร่วมชมงาน ย้อนวันวาน วิถีผ้าไทยในสยาม เพื่อรำลึกวิถีแต่งกายด้วยผ้าไทย และร่วมกันแต่งกายชุดไทย ณ สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ตั้งแต่วันที่ 7-12 สิงหาคม 2563 เวลา 10.00-18.00 น.
ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย หมุนเวียนตลอดทุกวัน อาทิ การจัดแสดงเดินแบบแฟชั่นผ้าไทยโดยนายแบบนางแบบกิติมศักดิ์ การออกร้านผ้าไทยและงานหัตศิลป์ต่างๆ กว่า 40 ร้านค้า การจัดซุ้มอาหารรสเด็ด 4 ภาค การพยากรณ์ดูดวงจาก 20 นักพยากรณ์ชื่อดัง รวมถึงร่วมกันจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวันที่ 12 สิงหาคม 2563 เวลา 18.00 น. ที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เพื่อแสดงความจงรักภักดีอย่างพร้อมเพียงกัน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43732
Location: NECTEC
|
Posted: 10/08/2020 10:22 am Post subject: |
|
|
เปิดโผรายชื่อ ชิงเก้าอี้ "รองผู้ว่าการ รฟท."
วันที่ 9 สิงหาคม 2563 เวลา 08:08 น.
รฟท.เผยเปิดสรรหารองผู้ว่าการ รฟท. 3 ตำแหน่ง หลังบรรดาตำแหน่งรองผู้ว่าการปัจจุบันแห่เกษียณราชการเพียบ คาดได้ข้อสรุปภายในเดือนส.ค.นี้
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ได้เปิดสรรหารองผู้ว่าการ 3 ตำแหน่ง ได้แก่ รองผู้ว่าการกลุ่มยุทธศาสตร์, รองผู้ว่าการกลุ่มอำนวยการ และรองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการเดินรถ โดยมีผู้สมัครเข้ารับการสรรหาทั้งหมด 4 คน และผ่านการพิจารณาเกณฑ์คุณสมบัติทั้งหมดแล้ว ดังนี้
นศ.สาวไทยสุดฉลาดเผยวิธีลด 40 กก.ได้แบบด่วนจี๋! คลิกเลย!
Beauty&care
ตรวจสอบสถานะ www.เยียวยาเกษตรกร.com เร่งต่อสายตรงแจ้งเลขที่บัญชีรับเงิน
เช็กที่นี่! เงินอุดหนุนบุตร-เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ-คนพิการ เข้าแล้ววันนี้
คนมากับดวง พยากรณ์ตั้งแต่ 10-16 สิงหาคม 2563
1.นายอวิรุทธ์ ทองเนตร ผู้อำนวยการฝ่ายการพัสดุ สมัครทั้งหมด 3 ตำแหน่ง
2.นายสุชีพ สุขสว่าง วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง สมัครทั้งหมด 3 ตำแหน่ง
3.นายวัชรชาญ สิริสุวรรณทัศน์ วิศวกรใหญ่ฝ่ายการช่างกล สมัครทั้งหมด 3 ตำแหน่ง
4.นายพีระเดช หนูขวัญ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล สมัครทั้งหมด 2 ตำแหน่ง ได้แก่ รองผู้ว่าการกลุ่มยุทธศาสตร์และรองผู้ว่าการกลุ่มอำนวยการ
ทั้งนี้ คณะกรรมการสรรหาฯ จะเปิดให้ผู้สมัครทั้ง 4 คนแสดงวิสัยทัศน์ในสัปดาห์หน้าและคาดว่าจะเสนอรายชื่อผู้เหมาะสมให้คณะกรรมการ (บอร์ด) เห็นชอบได้เร็วสุดภายในเดือนสิงหาคมนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รฟท.พยายามเปิดสรรหารองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการเดินรถ แทนนายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐที่ เกษียณอายุไปตั้งแต่ปี 2561 แต่ติดปัญหาเรื่องความขัดแย้งและความไม่ไว้วางใจภายในองค์กร ทำให้การสรรหาค้างเติ่งร่วมปีและถูกยกเลิกไป ต่อมาในปี 2562 ตำแหน่งรองผู้ว่าการกลุ่มยุทธศาสตร์ก็ว่างลง เพราะนางสิริมา หิรัญเจริญเวช เกษียณอายุ และตำแหน่งรองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจบริหารทรัพย์สินก็กำลังจะว่างลง เพราะนายวรวุฒิ มาลา กำลังจะเกษียณอายุในปี 2563 รวมมีตำแหน่งระดับรองผู้ว่าการว่างลง 3 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม รฟท. ไม่ได้เปิดสรรหารองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจบริหารทรัพย์สิน แทนนายวรวุฒิ มาลา เพราะคาดหมายว่าจะมีการโยกนายเอก สิทธิเวคิน รองผู้ว่าการกลุ่มอำนวยการไปดำรงตำแหน่งแทน โดยการรถไฟฯ ได้เปิดรับสมัครคัดเลือกในตำแหน่งรองผู้ว่าการกลุ่มอำนวยการ เพื่อทดแทนนายเอกที่กำลังจะถูกโยกไป
คัดเลือกรองผู้ว่าฯ รฟท. 3 ตำแหน่งลงตัว ชงบอร์ด 13 ส.ค.เคาะแต่งตั้ง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 10 สิงหาคม 2563 เวลา 07:55
รฟท.สรุปผลคะแนนคัดเลือกรองผู้ว่าฯ 3 ตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว เตรียมชงบอร์ด 13 ส.ค.เคาะรายชื่อ เผยคุณสมบัติ วิสัยทัศน์ ลงตัวทุกตำแหน่ง วัดอาวุโส ประสบการณ์ วิสัยทัศน์ช่วยพัฒนารถไฟ
นายอำนวย ปรีมนวงศ์ กรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในฐานะเป็นประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งเลื่อนระดับเป็นรองผู้ว่าการ (นักบริหาร 14) รฟท. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6-7 ส.ค.ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการฯ คัดเลือกรองผู้ว่าฯ รฟท.ได้สัมภาษณ์ผู้สมัครทั้ง 4 คน เพื่อรับฟังแนวคิดและวิสัยทัศน์ในการทำงานเรียบร้อยแล้ว รวมถึงได้ให้คะแนนผู้สมัครแต่ละคนแล้ว โดยจะมีการรวมคะแนนของคณะกรรมการฯ แต่ละคนเพื่อสรุปผลการคัดเลือก และสามารถนำเสนอต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ในการประชุมวันที่ 13 ส.ค.นี้
เมื่อบอร์ด รฟท.เห็นชอบถือว่ากระบวนการคัดเลือกรองผู้ว่าฯ รฟท.ทั้ง 3 ตำแหน่ง ได้แก่ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการเดินรถ รองผู้ว่าการกลุ่มยุทธศาสตร์ และรองผู้ว่าการกลุ่มอำนวยการ เสร็จครบถ้วนทุกขั้นตอน โดยจะให้มีผลเริ่มทำงานตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2563 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ เพื่อให้พอดีกับการเกษียณอายุของนายวรวุฒิ มาลา
รองผู้ว่าฯ กลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน วันที่ 30 ก.ย. 2563 ซึ่งจะมีการโยกย้ายให้ นายเอก สิทธิเวคิน รองผู้ว่าฯ กลุ่มอำนวยการ ไปดำรงตำแหน่งแทน จะทำให้รองผู้ว่าฯ รฟท. ทั้ง 3 ตำแหน่งเริ่มทำงานได้พร้อมกัน
นายอำนวยกล่าวว่า การคัดเลือกรองผู้ว่าฯ รฟท.ครั้งนี้เป็นไปด้วยดี เนื่องจากมีการปรับปรุงวิธีการคัดเลือกที่เป็นธรรมและโปร่งใส ผู้สมัครทั้ง 4 คนทำงานกับรถไฟมาเป็นระยะเวลานาน แต่ละคนจึงถือเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถในงานที่ได้รับผิดชอบมาเป็นอย่างดี โดยในการคัดเลือกรองผู้ว่าฯ ในแต่ละตำแหน่งจะมีคะแนนด้านความอาวุโส, การศึกษา, ประวัติการทำงานผลงานต่างๆ นอกจากนี้ ยังให้แสดงวิสัยทัศน์เพิ่มเติมในแต่ละสายงานด้วย การคัดสรรครั้งนี้จึงค่อนข้างลงตัวและทุกคนที่ได้รับคัดเลือกสามารถทำงานในตำแหน่งได้ตามเป้าหมาย
รายงานข่าวคาดว่า
1. นายอวิรุทธ์ ทองเนตร ผู้อำนวยการฝ่ายการพัสดุ
2. นายพีระเดช หนูขวัญ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล
3. นายสุชีพ สุขสว่าง วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง จะได้รับการคัดเลือกเป็นรองผู้ว่าฯ รฟท.
การคัดเลือกรองผู้ว่าฯ รฟท.ครั้งนี้จะทำให้ รฟท.มีรองผู้ว่าฯ ตัวจริงครบ 7 คน (กลุ่มงาน) ตามโครงสร้างรฟท. จากที่ผ่านมา รฟท.ต้องตั้งรักษาการรองผู้ว่าฯ ในหลายตำแหน่งหลังจากมีการเกษียณอายุไป เนื่องจากมีการร้องเรียนวิธีการคัดเลือกที่ไม่เป็นธรรม อาทิ การให้ระดับรองผู้ว่าฯ ร่วมเป็นกรรมการคัดเลือกผู้บริหารในระดับเดียวกัน |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46894
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 12/08/2020 12:20 pm Post subject: |
|
|
คอลัมน์ กระจกไร้เงา: พัฒนารถไฟพัฒนาประเทศ
ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2563
บุญช่วย ค้ายาดี
การเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานนั้น โดยเฉพาะระบบราง นอกจากช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการหมุนเวียนของการใช้จ่ายแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนในด้านการขนส่งทั้งขนคนและสินค้า ซึ่งที่ผ่านมานั้นรัฐบาลมีนโยบายที่จะเร่งรัดให้เกิดโครงการเมกะโปรเจ็กต์อย่างต่อเนื่อง โดยมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมในฐานะที่กำกับดูแลงานด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเร่งดำเนินงาน
ทั้งนี้ หลังจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่ คลาย เจ้ากระทรวงหูกวางอย่าง ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้ประ กาศสนองนโยบายรัฐบาลด้วยการเร่งพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทย 20 ปี (2561-2580) ตามยุทธศาสตร์ชาติ พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 4 มิติ ทั้ง ทางบก ที่เร่งรัดขยายโครงข่ายถนนสายหลักและสายรองเพื่อเชื่อมโยงครอบ คลุมทุกพื้นที่ สร้างมอเตอร์เวย์บางใหญ่กาญจนบุรี บางปะอินโคราช เปิดปี 2566, มอเตอร์เวย์เอกชัย-บ้านแพ้ว, นครปฐมชะอำ และขยายสายพัทยา-มาบตาพุด เข้าสนามบินอู่ตะเภา
โดยเฉพาะในด้านภาคตะวันออก ที่มีโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี ที่ภาครัฐพยายามผลักดันให้เกิดการลงทุนจากต่างชาติ ดังนั้นจึงต้องมีการพัฒนา การขนส่งทางน้ำ เพื่อรองรับเช่นกัน ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ระหว่างพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ควบคู่ไปกับพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และพัฒนาท่าเรือน้ำลึกระนองและชุมพร เพื่อรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) ด้านทางอากาศ ก็เร่ง ขยายสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง รวมถึงการพัฒนาสนามบินภูมิภาค
รวมไปถึงการพัฒนา-ขนส่งทางราง ซึ่งการที่จะช่วยลด ต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศเพิ่มขนส่งทางราง 30% โดยเฉพาะ เร่งเดินหน้าพัฒนาโครงข่ายระบบราง โดยเฉพาะโครงการรถ ไฟทางคู่ ตามข้อสั่งการสำคัญของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเสริมศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ สร้างคุณภาพชีวิตด้านการขนส่งเดินทางที่ดีให้ประชาชน ประกอบด้วย งานก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่แบ่งเป็น ระยะที่ 1 จำนวน 7 โครงการ ประกอบด้วย โครงการรถไฟทางคู่เส้นทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และชุมทางถนน จิระ-ขอนแก่น มีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี 2563 เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565
และเส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร, มาบกะเบา-ชุมทางจิระ, นครปฐม-หัวหิน, หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2566 ทั้งนี้ หากเกิดปัญหาอุปสรรคที่ทำให้การดำเนินโครงการล่าช้า ให้ รฟท.เร่งดำเนินการแก้ไขพร้อมรายงานให้กระทรวงคมนาคมทราบทันที
และงานก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่แบ่งเป็น ระยะที่ 2 อีก 7 โครงการ ระยะทาง 1,483 กิโลเมตร วงเงินลงทุนรวม กว่า 2.73 แสนล้านบาท ได้แก่ ปากน้ำโพ-เด่นชัย, เด่นชัยเชียงใหม่, ขอนแก่น-หนองคาย, ชุมทางถนนจิระ-อุบลราช ธานี, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่สงขลา และชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมต่อสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
อย่างไรก็ตามล่าสุด การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ร่วมมือกับภาคเอกชนอย่าง บมจ.เกียรติธนาขนส่ง เข้าใช้ ประโยชน์พื้นที่สถานีรถไฟบ้านกระโดน ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา สำหรับเป็นลานคอนเทนเนอร์และจุดขนถ่ายรองรับการขนส่งสินค้าทางรางในอนาคต
ทั้งนี้ สถานีรถไฟบ้านกระโดนถือเป็นจุดยุทธศาสตร์การขนส่งรองรับโครงการรถไฟรางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งผู้โดยสารและสินค้าในพื้นที่ชนบทกับเมืองและเส้นทางระหว่างประเทศ และนำร่องดึง บมจ.วินีไทย ซึ่งเป็นคู่ค้ากับ บมจ.เกียรติธนา เปลี่ยนโหมดการขนส่งจากรถบรรทุกมาเป็นราง เส้นทางบ้านกระโดน/โคราช-มาบตาพุด/ระยอง เพื่อขนส่งสินค้าเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดโดยตรง
อย่างไรก็ตาม ได้เร่งพัฒนาสร้างทางคู่อย่างต่อเนื่อง เชื่อม โยงการคมนาคมขนส่งผู้โดยสารและสินค้าในพื้นที่ชนบท เมืองและระหว่างประเทศ ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศ และแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟโดยใช้แนวทางการก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ หรือทางลอดใต้ทางรถไฟ รวมถึงช่วยแก้ไขปัญหาจราจรและลดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟได้อีกด้วย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายการพัฒนาประเทศ และเสริมระบบเศรษฐกิจของประเทศให้แข็งแกร่ง สามารถแข่ง ขันและเป็นฮับระดับโลก. |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46894
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 12/08/2020 1:18 pm Post subject: |
|
|
การรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดจุดยุทธศาสตร์ขนส่งภาคอีสาน ดึงภาคธุรกิจใช้บริการขนส่งทางรถไฟแข่งขันกับตลาดขนส่งรถบรรทุก
11 ส.ค. 2563
วันนี้ (11 สิงหาคม 2563) นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดกิจกรรมความร่วมมือกับภาคธุรกิจเข้าใช้ประโยชน์เต็มพื้นที่สถานีรถไฟบ้านกระโดน ตำบลหนองไข่น้ำ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เป็นการเปิดรับแผนยุทธศาสตร์ขนส่งสินค้าทางรางโครงการรถไฟรางคู่ ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เชื่อมโยงเครือข่ายคมนาคมขนส่งภาคอีสาน และเส้นทางระหว่างประเทศ นำร่องดึงภาคธุรกิจ บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) และ บริษัท วินีไทย จำกัด (มหาชน) เข้าสู่ระบบขนส่งทางราง ขนส่งวัตถุดิบเข้านิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดโดยตรง
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สถานีรถไฟบ้านกระโดน ตำบลหนองไข่น้ำ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา อยู่ระหว่างสถานีรถไฟหนองแมว และสถานีรถไฟบ้านเกาะ ถูกยกระดับเป็นสถานีขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ และจุดขนถ่ายรองรับการขนส่งสินค้าทางรางในอนาคต ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์การขนส่งรองรับโครงการรถไฟรางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งผู้โดยสาร และสินค้าในพื้นที่ชนบทกับเมือง และเส้นทางระหว่างประเทศ ซึ่งเมื่อโครงการรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร เปิดให้บริการในปี 2565 จะสามารถรองรับขบวนรถไฟเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัว ช่วยประหยัดต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศ และแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟ โดยใช้แนวทางการก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟหรือทางลอดใต้ทางรถไฟ รวมถึงช่วยแก้ไขปัญหาจราจร และลดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟได้อีกด้วย
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : รพีพรรณ วิเศษ
ผู้เรียบเรียง : วรัญญา นันตาแก้ว
แหล่งที่มา : สวท.นครราชสีมา
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43732
Location: NECTEC
|
Posted: 13/08/2020 5:34 pm Post subject: |
|
|
13 ส.ค.63 ขอแสดงความยินดีกับ ว่าที่รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยใหม่ทั้ง 3 ท่านด้วยครับ
1. นายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าการกลุ่มอำนวยการ
2. นายพีระเดช หนูขวัญ รองผู้ว่าการกลุ่มยุทธศาสตร์
3. นายสุชีพ สุขสว่าง. รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการเดินรถ
ตามลำดับ รอคำสั่งแต่งตั้งทางการต่อไป
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3286740794706176&set=a.3033691060011152&type=3
บอร์ดรฟท.ไฟเขียวตั้งรองผู้ว่าฯ-เตรียมเวนคืน 1.8 หมื่นไร่สร้างทางคู่สายใหม่ บ้านไผ่ -นครพนม
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: พฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2563 เวลา 18:53
บอร์ดรฟท.ไฟเขียวตั้ง 3 รองผู้ว่าฯ และอนุมัติจ้างที่ปรึกษาเตรียมเวนคืน 1.8 หมื่นไร่ สร้างทางคู่สายบ้านไผ่ -นครพนม นิรุฒคาด เปิดประมูลได้ในปีนี้วงเงิน 5.5 หมื่นล.แบ่ง 2 สัญญา ขณะที่เห็นชอบศิริราชเช่าที่ดิน 30 ปี ผุดสถานีร่วมสายสีแดง เชื่อมโรงพยาบาล
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดรฟท. วันที่ 13 ส.ค. มีมติเห็นชอบผล การคัดเลือกรองผู้ว่าฯรฟท.(นักบริหาร 14) จำนวน 3 คน ตามที่คณะกรรมการคัดเลือกฯ เสนอ ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ผู้ว่าฯรฟท.จะลงนามแต่งตั้งต่อไป นอกจากนี้ บอร์ดอนุมัติจ้างที่ปรึกษาเพื่อสำรวจรายละเอียดอสังหาริมทรัพย์เพื่อเวนคืนโครงการรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่ - มหาสารคาม - ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม.
ทั้งนี้ รายงานข่าวจากรฟท.ระบุว่า ผลการคัดเลือกรองผู้ว่าฯรฟท.จำนวน 3 คน ได้แก่ 1.นายพีระเดช หนูขวัญ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล ได้รับคัดเลือกเป็นรองผู้ว่าฯ กลุ่มยุทธศาสตร์ 2.นายอวิรุทธ์ทองเนตร ผู้อำนวยการฝ่ายการพัสดุ เป็นรองผู้ว่าฯกลุ่มอำนวยการ และ 3.นายสุชีพ สุขสว่าง วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง เป็นรองผู้ว่าฯ กลุ่มธุรกิจการเดินรถ ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 ต.ค. 2563 เป็นต้นไป
@จ้างสำรวจเวนคืนทางคู่สายใหม่ บ้านไผ่ นครพนม
ด้านนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าฯรฟท.กล่าวว่า รฟท.จะเร่งลงนามสัญญาจ้างที่ปรึกษาสำรวจรายละเอียดอสังหาริมทรัพย์เพื่อเวนคืน รถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่ - มุกดาหาร-นครพนม วงเงินค่างจ้าง159 ล้านบาท มีระยะเวลาดำเนินการ 9 เดือน ส่วนการก่อสร้างนั้น จะดำเนินการคู่ขนาน โดยคาดว่าจะเปิดประมูลได้ในปีนี้ ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติโครงการเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2562 แบ่งงานออกเป็น 2 สัญญา ขณะที่รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ได้รับการอนุมัติแล้วเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2563
โดยรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่ - มหาสารคาม - ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง355 กม. มูลค่าโครงการ 66,848.33 ล้านบาท มีวงเงินค่าก่อสร้างงานโยธาและระบบอาณัติสัญญาณ 55,462 ล้านบาท มีค่าเวนคืน 10,255.33 ล้านบาท (พื้นที่ 7,100 แปลง) หรือประมาณ 17,500 ไร่ ค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง 1,131 ล้านบาท ตามแผนกำหนดเปิดเดินรถในปี 2568
ส่วน รถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม. วงเงินรวม 85,345 ล้านบาทนั้น ที่ปรึกษาอยู่ระหว่าง สำรวจรายละเอียดอสังหาริมทรัพย์โดยมี ค่าเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ 10,660ล้านบาท และค่าจ้างที่ปรึกษา 1,764 ล้านบาท ส่วนการก่อสร้างนั้น ได้เสนอครม.เพื่อยืนยันการดำเนินงานตามมติเดิม ซึ่งมีค่าก่อสร้างงานโยธาอยู่ที่ 72,921 ล้านบาท แบ่ง 3 สัญญา ได้แก่ 1. ช่วงเด่นชัย-งาว ระยะทาง 104 กม.วงเงิน 26,704 ล้านบาท 2. ช่วงงาว-เชียงราย ระยะทาง 135 กม. วงเงิน 28,735 ล้านบาท 3. ช่วง เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 84 กม. วงเงิน 17,482 ล้านบาท
@อนุมัติศิริราชเช่าพื้นที่ 30 ปี ผุดสถานีร่วมสายสีแดง
นอกจากนี้ บอร์ดรฟท.ได้อนุมัติให้คณะแพทย์โรงพยาบาลศิริราชพยาบาลได้รับสิทธิการเช่าที่ดิน ของรฟท.บริเวณสถานีธนบุรี ประมาณ 2 ไร่ เพื่อก่อสร้างสถานีร่วมศิริราชและอาคารรักษาพยาบาล พื้นที่ใช้สอยประมาณ 7,000 ตารางเมตร โดยรฟ.ศิริราชเป็นผู้ลงทุน สัญญาเช่ามีระยะเวลา 30 ปี ปีแรก อัตราค่าเช่า 721.88 บาท/ตารางเมตร หรือประมาณ 5 ล้านบาท/ปี และปรับเพิ่ม 5% ทุกปี ซึ่งเป็นตามระเบียบรถไฟ ซึ่งเป็นการร่วมมือเพื่อประโยชน์กับประชาชนที่เดินทางมาโรงพยาบาลและสามารถใช้บริการรถไฟได้อย่างสะดวก ทั้งนี้ รฟท.ได้กำหนดเงื่อนไขห้ามมีการเช่าช่วงเกิน 1 ครั้ง
ส่วนกรณีที่จะให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน PPP เดินรถไฟสายสีแดง และก่อสร้างส่วนต่อขยาย ซึ่งจะรวมถึง สายสีแดงช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ด้วยนั้น จะต้องระบุเรื่องพื้นที่เชื่อมต่อของรพ.ศิริราชไว้ในทีโออาร์ที่จะเปิดประมูล PPP ด้วย |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46894
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 18/08/2020 7:03 am Post subject: |
|
|
'ศักดิ์สยาม'คัดปลัดคมนาคม'จิรุตม์'เต็ง
ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2563
'ศักดิ์สยาม'คัด'ปลัดคมนาคม'ชงครม. ขีด21ส.ค.ส่งวิสัยทัศน์คาด'จิรุตม์'เต็ง
ผู้จัดการรายวัน360 - "ศักดิ์สยาม" เผยคัด "ปลัดคมนาคม" คนใหม่ พร้อมชง ครม.สัญจร 25 ส.ค.นี้ หลัง "นายกฯ" เร่งรัด เพื่อให้งาน ต่อเนื่องให้ส่งวิสัยทัศน์ 21 ส.ค. ด้าน "ชัยวัฒน์" เสนอ 2 ชื่อไปแล้ว วงในคาด "จิรุตม์ วิศาลจิตร" ตัวเต็งเผยประสบการณ์-คุณสมบัติ เหมาะสม คาด "สราวุธ-ปฐม" 2 อธิบดี สายบุรีรัมย์ยังขอนั่งเก้าอี้เดิม
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้เสนอชื่อผู้บริหารระดับ 10 หรือระดับอธิบดีที่มีคุณสมบัติที่จะสามารถแต่งตั้งได้ซึ่งมีจำนวน 10 คนมาแล้ว ซึ่งตนจะให้ทั้งหมดเขียนวิสัยทัศน์เสนอภายในวันศุกร์ที่ 21 ส.ค.นี้ เพื่อให้คะแนนและพิจารณาผู้ที่มีความเหมาะสมต่อไป
"การเลือกปลัดกระทรวงคมนาคมคนใหม่นั้นจะใช้ดุลยพินิจอย่างเดียวโดยไม่มีกรอบอะไรเลยคงไม่ได้ แต่การตัดสินใจถือเป็นอำนาจของ รมว.คมนาคม โดยจะพยายามสรุปเพื่อเสนอให้ทันการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่จังหวัดระยอง วันที่ 25 ส.ค.นี้" นายศักดิ์สยามกล่าว
ทั้งนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เร่งรัดกระทรวงต่างๆ ในการแต่งตั้งปลัดฯเพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ในวันที่ 30 ก.ย. 2563 เนื่องจากต้องการให้มีความต่อเนื่องในการบริหารงาน และจะมีผลไปถึงการแต่งตั้งข้าราชการในระดับหัวหน้าหน่วยอีกด้วย
ด้านนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า ตามระเบียบ ก.พ. กำหนดให้ปลัดฯ มีหน้าที่เสนอรายชื่อผู้มีคุณสมบัติตามจำนวนที่สมควร ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เสนอ 2 รายชื่อไปแล้ว ทั้งนี้ ตนมีหน้าที่เพียงตรวจสอบคุณสมบัติ ไม่สามารถเลือกได้
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้มีหนังสือแจ้งผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคมทั้ง 10 คน เพื่อให้ทำข้อเสนอเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ใน การดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคม เนื้อหาไม่เกิน 3 หน้ากระดาษ A4 และส่งถึง รมว.คมนาคมภายในเวลา 16.30 น. ของวันที่ 21 ส.ค. 2563
โดยวิสัยทัศน์ ต้องแสดงถึงความรู้ ความสามารถในการเชื่อมโยงภารกิจหน้าที่ของกระทรวงคมนาคมกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนการปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและนโยบายของรัฐบาล เป้าหมายของกระทรวงคมนาคมและ รมว.คมนาคม รวมทั้งการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และต่อยอด ขยายผลเพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก ปลอดภัย
และให้เสนอผลงานด้านการบริหารจัดการที่เป็นการนำนวัตกรรมในการทำงานมาใช้ในการบริหารราชการและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ที่ประสบความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ ที่ดีที่สุด จำนวน 1 ผลงาน โดยต้องเกี่ยวข้องกับงานในอำนาจหน้าที่ของปลัดกระทรวงคมนาคม หากไม่เกี่ยวข้องจะไม่นำมาพิจารณา
ซึ่งในหนังสือฯได้ระบุว่า เนื่องจาก นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 1 ต.ค. 2563 และเพื่อให้การพิจารณาเพื่อเลื่อนข้าราชการพลเรือนสามัญขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นไปด้วยความเรียบร้อยถูกต้อง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ.กำหนด และเพื่อให้มีข้อมูลประกอบการพิจารณาอย่างครบถ้วนในทุกมิติ เกิดความเป็นธรรม และเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล และได้บุคคลที่เหมาะสม
แหล่งข่าวกล่าวว่า ผู้บริหารระดับสูง จำนวน 10 คน ที่มีคุณสมบัตินั้น คาดว่า ผู้ที่มีโอกาสเสนอชื่อเป็นปลัดคมนาคม คือ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เนื่องจากผ่านการบริหารงานคมนาคม ทางบก ทางน้ำ (อธิบดีกรมเจ้าท่า) และเคยเป็นผู้ตรวจราชการ และรอง ปลัดฯ มาแล้ว อีกทั้งปัจจุบันยังเป็นประธานบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อีกด้วย ซึ่งนายจิรุตม์ จะเกษียณอายุ ในปี 2568
ขณะที่อีก 2 แคนดิเดต ที่ถือว่ามีสัมพันธ์แนบแน่นกับสายบุรีรัมย์ คือนาย สราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง และนายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท แต่เนื่องจากทั้ง 2 คนเพิ่งได้รับแต่งตั้งอธิบดี ได้เพียง 1 ปีเท่านั้น ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายจิรุตม์กรณีที่มีการระบุว่าจะได้รับแต่งตั้งเป็นปลัดฯ นายจิรุตม์กล่าวว่า อยู่ที่ฝ่ายนโยบายตนไม่มีปัญหา ส่วนนายปฐม เฉลยวาเรศ กล่าวว่า ยังอยาก ที่จะทำงานในหน้าที่อธิบดีกรมทางหลวงชนบทต่อ เนื่องจากเพิ่งทำงานมาได้ 1 ปี ยังทำอะไรไม่ได้มากนัก
ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล นั้น ล่าสุดมีรายงาน ว่า ได้มีการเตรียมพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ กรมทางหลวง ในระดับผู้อำนวยการแขวง ผู้อำนวยการสำนักแล้วโดยให้ผู้ที่มีคุณสมบัติ ทำข้อมูลส่วนตัวและประเมินตัวเอง รวมถึงความประสงค์ในการโยกย้ายเลื่อนตำแหน่ง เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการ พิจารณาโยกย้าย แสดงให้เห็นว่า นายสราวุธยังมีความต้องการที่จะ อยู่ในตำแหน่งอธิบดีกรมทางหลวงต่อไป.
บรรยายใต้ภาพ
ศักดิ์สยาม ชิดชอบ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43732
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43732
Location: NECTEC
|
Posted: 18/08/2020 6:48 pm Post subject: |
|
|
ตีตรงจุด : แกะรอยขบวนการขโมยแคร่รถไฟ ที่สถานีแม่น้ำ
ห้องข่าวภาคเที่ยง ช่อง 7
วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2563
ตีตรงจุด สัปดาห์แรก ทีมข่าวของเราจะเจาะลึกเรื่องการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งจะได้ไล่เรียงให้เห็นถึงจุดเล็กๆ ของการหาผลประโยชน์ เบียดบังทรัพย์สินรัฐไปเข้ากระเป๋าตัวเอง ด้วยการตามไปแกะรอยขบวนการขโมยแคร่รถไฟ...
ตีตรงจุด : แกะรอยขบวนการขโมยแคร่รถไฟ ตอน 2
ห้องข่าวภาคเที่ยง ช่อง 7
วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2563
เมื่อวานนี้ทีมตีตรงจุดได้ตีแผ่ข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการขโมยแคร่รถไฟที่สถานีแม่น้ำไปแล้ว มาวันนี้เราจะตามไปดูกันต่อว่าผลประโยชน์ก้อนนี้มีมูลค่าเท่าไร และการรถไฟฯ ควรจะอุดช่องโหว่ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุลักลอบขโมยของราชการอย่างไร
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/3301501929896729
Last edited by Wisarut on 20/08/2020 10:18 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
|