| View previous topic :: View next topic | 
	
	
		| Author | Message | 
	
		| Wisarut 1st Class Pass (Air)
 
  
  
 Joined: 27/03/2006
 Posts: 45503
 Location: NECTEC
 
 | 
			
				|  Posted: 02/07/2006 9:46 pm    Post subject: |   |  
				| 
 |  
				| รถไฟของจีนเส้นทางที่สูงที่สุดของโลก ถึงเมืองลาซาแล้ว 
 โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 กรกฎาคม 2549 09:46 น.
 
 
 รถไฟขบวนแรกของจีน ที่วิ่งบนเส้นทางที่สูงที่สุดของโลก เดินทางถึงสถานีลาซา ในเมืองหลวงของทิเบต เมื่อเวลา 07.31น.ตามเวลาท้องถิ่นของเช้าวันนี้
 ตามเส้นทางรถไฟยาว 1,142 กิโลเมตร ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 5,072 เมตร และเชื่อมเขตภูเขาหิมาลัยที่อยู่ห่างไกลเข้ากับพื้นที่อื่นๆ ของจีน รถไฟขบวนดังกล่าวเริ่มต้นจากเมืองโกลมุด ในมณฑลชิงไห่ ไปยังทิเบตที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน พร้อมด้วยผู้โดยสารราว 900 คน
 |  | 
	
		| Back to top |  | 
	
		|  | 
	
		| Wisarut 1st Class Pass (Air)
 
  
  
 Joined: 27/03/2006
 Posts: 45503
 Location: NECTEC
 
 | 
			
				|  Posted: 02/07/2006 9:54 pm    Post subject: |   |  
				| 
 |  
				| รถไฟชิงไห่-ทิเบตลดต้นทุนขนส่งอื้อ ช่วยดันคนเที่ยวแดนหลังคาโลกเพิ่ม 
 โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 กรกฎาคม 2549 19:17 น.
 
 
 
   ขบวนรถไฟจากเกอเอ่อร์มู่มุ่งหน้าสู่ลาซ่า (พหุดีเซลา 3 หัวแน - เพื่อให้ไต่เขาได้)
 
 
 ซินหัวเน็ต 02/07/06  ขบวนรถไฟสายหลังคาโลกเที่ยวปฐมฤกษ์ถึงเมืองลาซ่าของทิเบตอย่างปลอดภัย คาดขนนักท่องเที่ยวเพิ่มปีละ 15-20% กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวแดนหลังคาโลก และช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าได้มาก
 
 ประธานาธิบดีหูจิ่นเทา กล่าวในระหว่างพิธีเปิดขบวนรถไฟเที่ยวปฐมฤกษ์ที่เมืองเกอเอ่อร์มู่ (โกลมุด) มณฑลชิงไห่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนว่า เส้นทางรถไฟสายนี้ไม่ได้แค่สร้างประวัติศาสตร์ให้แก่วงการรถไฟของจีนเท่านั้น แต่นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และนับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในความพยายามปรับปรุงประเทศให้ทันสมัยของจีน
 
 สำหรับทางรถไฟสายชิงไห-ทิเบตใช้เงินลงทุนราว 4,100 ล้านเหรียญสหรัฐ มีความยาวทั้งสิ้น 1,956 กิโลเมตร เริ่มต้นจากเมืองซีหนิง ในมณฑลชิงไห่ไปสิ้นสุดที่เมืองลาซ่า ของทิเบต โดยเริ่มก่อสร้างส่วนแรกตั้งแต่ปี 1984 จากเมืองซีหนิงไปเมืองโกลมุด ความยาว 814 กิโลเมตร และส่วนที่สองจากโกลมุดต่อไปยังลาซ่าที่เริ่มสร้างตั้งแต่ 29 มิถุนายน 2001 ก่อนจะแล้วเสร็จและเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการไปเมื่อวานนี้ (1) ซึ่งถือเป็นทางรถไฟสายแรกที่เชื่อมระหว่างทิเบตกับส่วนอื่นๆ ของประเทศจีน
 
 ทางรถไฟเหนือดินแดนที่ราบสูงที่ยาวสุดในโลกนี้มีจุดสูงสุดอยู่ที่ 5,072 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลที่ช่องแคบถังกูลา และยังมีอีก 960 กิโลเมตรที่วิ่งบนความสูงกว่า 4,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล โดยขบวนปฐมฤกษ์ ชิงไห่ 1 ได้พานักท่องเที่ยว 600 คนออกจากเมืองโกลมุด เมื่อ 11.05 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ10.05 น.ตามเวลาในไทยเมื่อวันเสาร์ (1) และถึงเมืองลาซ่าเมื่อ 00.31น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 2 ใช้เวลาราว 13 ชั่วโมง
 
 สื่อจีนระบุว่า ทางรถไฟสายชิงไห่-ทิเบต จะนำพาโอกาสทางเศรษฐกิจมาสูงดินแดนที่ราบสูงทั้งมณฑลชิงไห่ และเขตปกครองตนเองทิเบต ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือภาคการท่องเที่ยว
 
 ผู้เชี่ยวชาญประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปทิเบตว่าจะเพิ่มขึ้นปีละ 15-20% หลังเส้นทางรถไฟสายหลังคาโลกเปิดใช้งาน ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวราว 2.5 ล้านคนในปี 2010 และเพิ่มเป็น 6 ล้านคนในปี 2020
 
 ทั้งนี้ ภาคท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมหลักของดินแดนหลังคาโลก โดยตัวเลขจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนระบุว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ตัวเลขนักท่องเที่ยวในทิเบตเพิ่มขึ้น 1.8% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3,274 คน ซึ่งนำรายได้สู่ทิเบต 1.81 ล้านเหรียญสหรัฐ
 
 
 
 สบายๆ บนขบวนรถไฟที่สูงที่สุดในโลกเที่ยวปฐมฤกษ์
 
   
 ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวว่า พระราชวังโปตะลา สถาปัตยกรรมสัญลักษณ์แห่งแดนหลังคาโลก จะขยายโควตารับนักท่องเที่ยวเพิ่มจาก 1,500 คนเป็น 2,000 คน เพื่อรองรับแขกผู้มาเยือนที่จะเพิ่มมากขึ้นหลังเส้นทางรถไฟที่สูงสุดในโลกสายชิงไห่-ทิเบตได้ฤกษ์เคลื่อนขบวน
 
 อย่างไรก็ตาม การจำกัดนักท่องเที่ยวยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการพิทักษ์รักษามรดกโลกอย่างพระราชวังโปตะลาไว้ นายิมา เชอร์ริ่ง หัวหน้าฝ่ายโบราณวัตถุด้านวัฒนธรรมของเขตปกครองตนเองทิเบตระบุ
 
 ทั้งนี้ พระราชวังโปตะลา สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าสรองตาสันคัมโปกษัตริย์องค์ที่ 32 แห่งราชวงศ์ถู่ฟาน โดยมีชื่อว่า พระราชวังแดง ซึ่งต่อมาถูกทิ้งให้รกร้างหลังราชวงศ์ถู่ฟานล่มสลาย จวบจนเมื่อพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองขึ้น ณ ดินแดนแห่งนี้ในศตวรรษที่ 17 ภายใต้การนำขององท์ทะไลลามะ ซึ่งได้ซ่อมแซมพระราชวังแดงใหม่ เพื่อใช้เป็นสถานที่ว่าราชการและที่ประทับ พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น พระราชวังโปตะลา และได้กลายเป็นศูนย์รวมอำนาจทางการเมืองและศาสนาของทิเบต
 
 ระหว่างปี 1989-1994 รัฐบาลปักกิ่งได้ใช้งบประมาณ 55 ล้านหยวน เพื่อบูรณะพระราชวังโปตะลา ต่อมาในปี 2002 ได้ทุ่มงบอีก 180 ล้านหยวนสำหรับโครงการบูรณะซ่อมแซมและปรับปรุงสิ่งแวดล้อมโดยรอบซึ่งจะแล้วเสร็จในราวเดือนกันยายนนี้
 
 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมังกรพยายามชี้ว่า นักท่องเที่ยวถือเป็นเพียงหนึ่งในผลประโยชน์ที่จะได้รับจากรถไฟที่สูงที่สุดในโลกนี้ นอกเหนือจากคุณูปการด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของทิเบต
 
 เราพูดกันว่าครึ่งหนึ่งของจีดีพีทิเบตถูกเผาผลาญไปกับการสร้างถนน แต่คำพูดนี้กำลังจะเป็นอดีตหลังทางรถไฟสายชิงไห่-ทิเลตเดินเครื่อง ฉือเดียน โดเจอ นักเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยชิงไห่ระบุ พร้อมเสริมว่า ทุกวันนี้ ราคาถ่านหินและซีเมนต์ในลาซา เมืองเอกของทิเบตขายกันที่กว่า 800 หยวนต่อตัน ซึ่งมากกว่าราคาทั่วไปในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศถึง 4 เท่าตัว ซึ่งเป็นเพราะค่าขนส่งที่มีสัดส่วนถึง 75% ของราคาสินค้า
 
 หลังจากเส้นทางรถไฟชิงไห่-ทิเบตสร้างเสร็จ การขนส่งสินค้าเข้าออกแดนหลังคาโลกจะช่วยลดต้นทุนสินค้าลงได้มาก โดยต้นทุนขนส่งทางรถไฟต่อตันต่อกิโลเมตรอยู่ที่ 0.12 หยวนเท่านั้น ขณะที่ต้นทุนขนส่งทางรถยนต์จากปักกิ่งถึงลาซ่าสูงถึง 3.3 หยวนต่อตันต่อกิโลเมตร ซึ่งราคาแตกกันถึง 27.5 เท่า
 
 สำหรับสินค้าที่นำเข้าสู่ทิเบตได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค และวัตถุดิบ ส่วนที่ส่งออกมายังส่วนอื่นของประเทศจีนได้แก่ ไม้ สินค้าปศุสัตว์ แร่ธาตุ เป็นต้น
 
 นอกจากนี้ ในระยะยาวเส้นทางสายหลังคาโลกนี้ ยังจะช่วยผลักดันการค้าชายแดนระหว่างทิเบตกับประเทศในกลุ่มเอเชียใต้ เช่น เนปาล อินเดีย ภูฏาน และบังคลาเทศ
 
 อย่างไรก็ตาม โอกาสมักมาพร้อมกับวิกฤต ขณะที่รถไฟขบวนดังกล่าวนำพาผู้คนและสินค้ามากระตุ้นเศรษฐกิจแดนหลังคาโลก แต่หากไม่มีกฎระเบียบที่เข้มงวดควบคุม ก็จะนำความหายนะมาสู่สิ่งแวดล้อมด้วย เนื่องจากระบบนิเวศวิทยาตามเส้นทางชิงไห่-ทิเบตอ่อนแออย่างมาก ทั้งปัญหาพื้นดินเยือกแข็ง และปัญหาสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ยังคงรอการแก้ไข ทั้งนี้ รัฐบาลกลางวางแผนทุ่มเงินราว 180 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมตามเส้นทาง.
 |  | 
	
		| Back to top |  | 
	
		|  | 
	
		| CENTENNIAL 1st Class Pass (Air)
 
  
  
 Joined: 30/03/2006
 Posts: 3642
 Location: Thailand
 
 | 
			
				|  Posted: 03/07/2006 12:26 am    Post subject: |   |  
				| 
 |  
				| เป็นทางเดี่ยวใช่ไหมครับ    เนื่องจากดูจากในภาพและจินตนาการของผมแล้ว  เชื่อว่าน่าจะเป็นทางเดี่ยว   แล้วแต่ละสถานีที่มีทางหลีกผมว่าน่าจะห่างกันพอสมควร  ดีไม่ดี ตอนบางตอนอาจห่างประมาณ  200  กิโลเมตรก็เป็นได้  เพราะอยู่กลางทะเลทราย หรือลานหิมะ 
 สงสัยว่าการจัดเวลาเดินรถคงต้องจัดให้พอดี  ไม่งั้นพวกรอหลีกที เป็นชั่วโมง
 |  | 
	
		| Back to top |  | 
	
		|  | 
	
		| Wisarut 1st Class Pass (Air)
 
  
  
 Joined: 27/03/2006
 Posts: 45503
 Location: NECTEC
 
 | 
			
				|  Posted: 04/07/2006 10:13 pm    Post subject: |   |  
				| 
 |  
				| ผู้โดยสารเที่ยวประวัติศาสตร์ปักกิ่ง-ทิเบต ป่วยหลายคน 
 โดย ผู้จัดการออนไลน์ 4 กรกฎาคม 2549 17:25 น.
 
 
 ผู้โดยสาร 800 คนของขบวนรถไฟด่วนเที่ยว T-27 ถึงจุดหมายที่สถานีเมืองลาซา ของทิเบต เมื่อคืนวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากใช้เวลา 48 ชั่วโมง เดินทางด้วยระยะทางยาว 4,064 กิโลเมตร ส่วนใหญ่เดินลงรถไฟด้วยอาการโซเซ เพราะสภาพอากาศของทิเบตมีออกซิเจนเบาบาง ในเที่ยวปฐมฤกษ์จากปักกิ่งไปลาซานั้น มีผู้สื่อข่าวอยู่ 150 คน ความตื่นเต้นเมื่อเริ่มต้นการเดินทางกลายเป็นความเหนื่อยล้า หลายคนเริ่มไม่สบาย เมื่อขบวนรถไฟไต่ระดับความสูงของที่ราบสูงทิเบตขึ้นไปเรื่อย ๆ แม้ว่าห้องโดยสารมีการปรับระดับความดันอากาศแบบเครื่องบิน ด้วยการเพิ่มปริมาณออกซิเจนแล้วก็ตาม อาการเริ่มปรากฏช่วงบ่ายวันจันทร์ เมื่อขบวนรถไฟถึงช่องแคบตังกูลา ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเส้นทาง อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 5,072 เมตร ผู้โดยสารเกือบทุกคนคว้าท่อออกซิเจนที่จัดเตรียมไว้ให้ทุกที่นั่ง ขึ้นมาสวมเข้าที่จมูกเพื่อช่วยในการหายใจ ก่อนจะหลับไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย รวมไปถึงพนักงานบริการบนรถไฟด้วย
 
 
 // -------------------------------------------------------------------
 
 ผู้โดยสาน, การ์ดรถ กะ พนักงานตอนรับโวเซจนหลฃับหนะไม่งว่า แต่ถ้าคนขับบหลับในหหละเป็นเรื่องแน่
  แถมสายนี้เขาต้องพ่วงพหุแบบพ่วง 3 หัวไต่เขาเสียด้วย  |  | 
	
		| Back to top |  | 
	
		|  | 
	
		| Wisarut 1st Class Pass (Air)
 
  
  
 Joined: 27/03/2006
 Posts: 45503
 Location: NECTEC
 
 | 
			
				|  Posted: 04/07/2006 10:14 pm    Post subject: |   |  
				| 
 |  
				| คาดรถไฟชิงไห่-ทิเบตขาดทุนอื้อ 
 โดย ผู้จัดการออนไลน์ 4 กรกฎาคม 2549 17:13 น.
 
 
 เอเอฟพี04/07/06  จูเจิ้นเซิง รองผู้อำนวยการการทางรถไฟคาดม้าเหล็กสายปักกิ่ง-ทิเบตมูลค่า 33,000 ล้านหยวน ที่เพิ่งเปิดให้บริการจะต้องเผชิญกับภาวะขาดทุนระยะยาวอย่างแน่นอน เมื่อคำนวณจากราคาตั๋วในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ก็ย้ำว่าผลกำไรไม่ใช่จุดประสงค์หลักของการเปิดเส้นทางดังกล่าว
 
 ปัจจุบันทางการได้จำหน่ายตั๋วที่นั่งฮาร์ดซีท (เบาะแข็ง - รถชั้น 3 จีนแดง) เพื่อตอบสนองความต้องการของคนส่วนใหญ่ ราคาอยู่ที่ 380 หยวน ขณะที่ตู้นอนชั้นหนึ่งและชั้นสองราคา 1,241 หยวน และ 776 หยวนตามลำดับ ซึ่งจูกล่าวว่า ในอนาคตอาจมีการปรับขึ้นราคาตู้นอนทั้งสองชั้นขึ้นทีละน้อย แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถโปะเงินลงทุนมหาศาลที่รัฐบาลลงทุนไปได้ หนทางที่ดีที่สุด จูกล่าวว่าน่าจะเป็นการปรับลดต้นทุนและยกระดับการปฏิบัติการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
 |  | 
	
		| Back to top |  | 
	
		|  | 
	
		| Wisarut 1st Class Pass (Air)
 
  
  
 Joined: 27/03/2006
 Posts: 45503
 Location: NECTEC
 
 | 
			
				|  Posted: 05/07/2006 9:09 am    Post subject: |   |  
				| 
 |  
				| เออ, เจ้าหัวรถจักรที่ใช้ทำขบวนรถไฟจาก โกลมุน และ ปักกิ่ง ไปนครลาซาของธิเบตโดยการพ่วงพหุ 3  นั้นเป็นรถจักรยีอี ขนาด 3800 แรงม้าเสียด้วยสิ    ราคาก็ไม่แพงแม้จะออกแบบพิเศษให้ใช้กะธิเบต แค่ หัวละ 2 ล้านเหรียญสหรัฐเอง และ สั่งมาใช้กะธิเบตก็ 78 หัว ไม่นับอีก 300 หัวที่สั่งประกอบทีร่โรงรถจักรต้าเหลียง น่อ   
 ที่ได้ราคามิตรภาพแบบนี้ก็เพราะ เอฟทีเอระหว่างสหรัฐกะจีนแดงหงะ
 |  | 
	
		| Back to top |  | 
	
		|  | 
	
		| nathapong 1st Class Pass (Air)
 
  
  
 Joined: 24/03/2006
 Posts: 3515
 Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
 
 | 
			
				|  Posted: 05/07/2006 8:14 pm    Post subject: |   |  
				| 
 |  
				| เฮีย วิศ ผมว่าเฮีกกะผมขอเก็บตัวเก็บตังค์ และรอวันว่างจักสองปี ไปทัวร์สายนี้ ประมาณว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต
 (กะเผื่อเหลือเผื่อขาด ยิ่บับจากนี้สองอาทิตย์ต้องกลับไปเป็นเป็น นักเรียนโค่ง (หรือนิสิตโค่งหว่า)  อะดิ)
 
 แต่ดูจากข่าวในทีวี ตัวหัวรถจักร เนี่ย คงเป็นเครื่องคัมมินส์ ที่ใช้กับ Hitachi ตระกูล KTTA -50 L หรือเปล่าเพราะวิ่งที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล เพียบ อ่านะ
 |  | 
	
		| Back to top |  | 
	
		|  | 
	
		| Wisarut 1st Class Pass (Air)
 
  
  
 Joined: 27/03/2006
 Posts: 45503
 Location: NECTEC
 
 | 
			
				|  Posted: 05/07/2006 10:24 pm    Post subject: |   |  
				| 
 |  
				| น่ากลัวว่าจะเป็นเครื่องยนต์ ยีอี.อเมริกัน  แบบเดียวกะ ยีอี.เมืองอิเหนามากกว่า  แต่มีพิเศษหน่อยที่ทำให้ไต่เขาได้ แม้จะต้องพ่วงพหุแบบพ่วง 3  ก็ตาม  |  | 
	
		| Back to top |  | 
	
		|  | 
	
		| Wisarut 1st Class Pass (Air)
 
  
  
 Joined: 27/03/2006
 Posts: 45503
 Location: NECTEC
 
 | 
			
				|  Posted: 11/07/2006 5:44 pm    Post subject: |   |  
				| 
 |  
				| นอกจากยีอี 78 หัวแล้ว จีนแดงก็ได้ดัดแปลงรถจักร DF8B ของ China South Locomotive & Rolling Stock Industry Corporation (Group) ให้ใช้กะที่ราบสูงธิเบตด้วย โดยกำหนดสเป็กดังนี้ 
 
   รถจักรดีเซลไฟฟ้า: DF8B รุ่นพิเศษ (รุ่นนาวาแห่งหิมาลัย - Snow ship)
 เครื่องยนต์ดีเซล: 16V280ZJA
 เทอร์โบชาร์เจอร์: TPL61-A30 ของ ABB (สวีเดน)
 กำลัง (AC/DC):     ไม่ต่ำกว่า2700 กิโลวัตต์ที่ความสูง 5100 เมตรจากระดับน้ำทะเล
 ห้องคนขับ: กระจกเคลือบเพื่อสะท้อนแสงอัลตาไวโอเล็ต, หน้ากากออกซิเจนให้คนขับ
 แบตเตอรี่: อัลคาไลน์กำลังสูง (ไม่รู้ว่าที่พานาโซนิกมีแบตเตอรี่อัลคาไลน์ที่เป็นลูกๆอะเปล่า)
 ระบบทำความเย็นเครื่องยนต์: ระบบหล่อด้วยน้ำที่เย็ตัวลงด้วยแรงดันสูง (Pressure cooling) เพื่อป้องกันการแข็งตัว พร้อมลูกยางหุ้มหม้อน้ำหล่อเย็น
 
 REF: http://www.csrgc.com.cn:8888/product1.asp?id=646&kind=Diesel%20Locomotive&classid=19&asp=more2.asp
 |  | 
	
		| Back to top |  | 
	
		|  | 
	
		| Wisarut 1st Class Pass (Air)
 
  
  
 Joined: 27/03/2006
 Posts: 45503
 Location: NECTEC
 
 | 
			
				|  Posted: 11/07/2006 6:28 pm    Post subject: |   |  
				| 
 |  
				|   
 มาดูรายละเอียดเพิ่มเติงกะเจ้า DF8B ที่ได้รับเกียรติเป็นต้นแบบรถไฟขึ้นที่ราบสูงธิเบตดีว่า
 
 ใช้งาน: รถสินค้าสายหลัก (Freight traction on main line)
 มิติ: กว้าง 3.304 เมตร ยาว 22.000 เมตร สูง 4.736 เมตร
 กำลังรถจักรปกติ: 3100 กิโลวัตต์
 ใช้กับราง: 1.435 เมตร
 ความเร็วที่กำลังคงที่: 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
 ความเร็วต่อเนื่อง: 31.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
 การเรียงล้อ: Co-Co
 รัศมีวงล้อ: 1.050 เมตร (วงล้อไซซ์เดียวกะล้อมิกาโด)
 แรงเริ่มต้น: 480 กิโลนิวตัน
 แรงต่อเนื่อง: 340 กิโลนิวตัน
 ภาระเพลา: 23 ตัน +/- 2 ตัน
 น้ำหนักทำการ: 150 ตัน
 รัศมีความโค้งต่ำสุด: 145 เมตร
 เครื่องยนต์ดีเซล: 16V280ZJA
 กำลังเครื่องยนต์ดีเซล:  3860 กิโลวัตต์
 ความจุเชิ้อเพลิง: 9000 ลิตร
 ความจุน้ำมันหล่อลื่น: 1200 กิโลกรัม
 ความจุน้ำหล่อเย็น: 1200 กิโลกรัม
 ความจุทรายกันลื่น: 800 กิโลกรัม
 ชนิดตัวอัลเตอร์เนเตอร์: JF204D
 ขนาดฐานล้อรวม: 15.9 เมตร
 ขนาดฐานล้อของโบกี้; 2×1.8เมตร
 รคติไฟเออร์ที่ใช้: GTF-5010/930
 ความเร็วสูงสุด: 100 กม/ชม.
 แทรคชันมอเตอร์ที่ใช้: ZD109C
 ห้ามล้อ: ลมอัดรุ่น JZ-7 และ ห้ามล้อแรงต้านไฟฟ้า
 ระบบควบคุม: คอมพิวเตอร์แสดงบนจอ LCD
 
 อ้างอิง: http://www.zyloco.com/english/cpsj/df8b.htm
 |  | 
	
		| Back to top |  | 
	
		|  | 
	
		|  |