ตามดูความเปลี่ยนแปลงของเส้นทางสายเหนือ พล. - ดช.

[ExtendeD]

สวัสดีครับพี่ ๆ น้อง ๆ ชาว RFT.com จำกันได้หรือเปล่าครับ ว่าเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ( หลังจากที่กลับมาเปิดบ้านใหม่อีกครั้งได้ไม่นาน ) คุณเอ็ม ( CENTENNIAL ) ได้พาพวกเราไปดูการซ่อมแซม ปรับปรุงเส้นทางสายเหนือที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ในกระทู้ " ไปลำปาง ดูทางทำใหม่ กับ 101 " ( แต่ยังพาพวกเราไปไม่ถึงลำปางเลยนะครับ )

เวลาผ่านไปหลายเดือน จนผมลืมไปแล้วว่าเขากำลังทำทางกันอยู่ ก็ได้พี่ ๆ ที่สถานีแควน้อยนี่ล่ะครับ เตือนความจำเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ผมระลึกได้ขึ้นมาอีกครั้ง จากที่เคยคิดว่าการเดินทางไปที่สถานีเด่นชัยในบ่ายวันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน ผมก็คงจะได้แค่มองวิวข้างทาง และจดบันทึกไปตามเรื่องตามราวแค่นั้น ผมก็เลยมีงานทำเพิ่มขึ้นมาอีก 1 อย่าง และกระทู้นี้จะเป็นกระทู้ปิดท้ายทริปลุยเดี่ยวในเดือนมิถุนายนของผมด้วยครับ

แต่ก่อนหน้าที่จะไปดูความเปลี่ยนแปลงของเส้นทางสายเหนือ ต่อจากเมื่อ 1 ปีที่แล้ว ที่คุณเอ็มถ่ายรูปมาให้ดูกัน ผมก็จะขอเล่าเรื่องราวต่อจากที่ได้เดินทางไปที่สถานีแควน้อย แล้วไปติดอยู่ที่สถานีหนองตมก็แล้วกันนะครับ

หลังจากที่กลับมาถึงตัวเมืองพิษณุโลก ผมก็เข้าไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าที่โรงแรม แล้วไปทักทายพ่อ แม่ พี่น้องของผมที่ขับรถมาจากบ้านปากน้ำ รวมไปถึงญาติที่บ้านเหนือจนครบทุกคนแล้ว ผมก็กลับมาที่สถานีรถไฟพิษณุโลกอีกครั้งครับ ตอนที่มาถึงเมื่อเช้า ผมยังไม่ได้เดินดูรอบ ๆ สถานีเลย ไม่รู้ผ่านไปประมาณ 3 เดือน มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

พอมาถึงที่สถานีพิษณุโลก ก็มีรถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( ALS. ) หมายเลข 4132 วิ่งผ่านมาต้อนรับเลยครับ ตอนนั้นไม่มีเวลาหาทำเลเหมาะ ๆ มาเป็นแบ็คกราวน์เลยครับ แต่รูปออกมาก็ถูกใจผมมาก ๆ ด้านหลังที่เห็นนั้นเป็นโรงเรียนเซนต์นิโกลาสครับ



แล้ว Alsthom No. 4132 คันนี้ก็วิ่งไปที่สถานีบึงพระที่อยู่ข้างหน้า ก็คงจะไปทำขบวนรถน้ำมันล่ะครับ

มองไปที่ชานชาลาทางด้านทิศเหนือ ผมเห็นว่ามีรถอัดหิน ( อน. ) หมายเลข 15 กำลังทำงานอยู่ ผมว่าจะลองเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ สักหน่อยว่าพี่ ๆ เขาทำงานกันยังไง แต่ยังเดินไปได้ไม่เท่าไหร่เลย พี่เขาก็ขับรถหนีผมไป... ทิ้งเอาไว้แค่ร่องรอยที่อยู่บนราง เห็นหินโรยทางถูกขุดเป็นหลุมเล็ก ๆ ส่วนรถอัดหินคันนั้นก็เข้าไปจอดอยู่ข้างในโรงรถที่อยู่ใกล้ ๆ กับหอสัญญาณ อดเลย...

บทค. ที่จอดอยู่ในย่านสถานี มีเยอะกว่าที่ผมเคยเห็นเมื่อ 3 เดือนก่อนครับ เท่าที่สามารถมองเห็นในรูปนี้มีอยู่ทั้งหมด 13 คัน จอดต่อ ๆ กันอยู่ใกล้ ๆ จุดที่ผมยืนถ่ายรูปนี้ 7 คัน และจอดอยู่ใกล้ ๆ กับหอสัญญาณอีก 6 คัน และทุกคนเป็น บทค. ของปตท. ครับ



นอกจากบทค. 13 คันนี้ ยังมี บทค. อีก 2 คัน ( ทาสีใหม่เอี่ยม ) จอดอยู่ใกล้ ๆ อาคารเก็บไฟฟ้าสำรอง ( ที่ได้เห็นไปแล้วในรูปแรก ) บทค. 2 คันนี้ก็เป็นของ ปตท. เหมือนกันครับ

รายละเอียดเกี่ยวกับ บทค. ทั้งหลาย ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้จากกระทู้ " รถน้ำมัน และ เลขข้างถัง " ได้เลยครับ ในกระทู้นั้นมีรายละเอียดของบทค. จากสมาชิกหลาย ๆ คน รวมไปถึงรูปภาพประกอบจากอาจารย์พิชญ์ และน้องเจฟ จะได้เห็น บทค. ( น่าจะ ) ครบทุกรุ่น ทุกแบบเลยครับ
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ผมเดินดูบทค. อยู่ได้สักพัก ก็มีเสียงประกาศจากทางสถานีว่ากำลังจะมีขบวนรถเข้าหยุดรับ - ส่งที่สถานี หันซ้าย หันขวา จะไปถ่ายรูปตรงมุมไหนดี เดินไปเดินมาจนเริ่มรู้สึกว่ามีผู้โดยสารที่นั่งอยู่ที่ชานชาลามองหลายคน ก็เลยไปปักหลักอยู่ที่บริเวณปลายสุดของชานชาลาที่มีหลังคาทางด้านทิศเหนือครับ ตรงนี้ล่ะ สะดวกดี

ขบวนรถที่หยุดรับ - ส่ง ผู้โดยสารในรางที่ 2 ของสถานีพิษณุโลกในตอนนั้นคือ ขบวนรถเร็วที่ 111 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีเด่นชัย ในวันนั้นช้ากว่ากำหนดเวลา 41 นาทีครับ



ตามกำหนดเวลาแล้วขบวนที่ 111 จะจอดอยู่ที่สถานีพิษณุโลก 12 นาที เจ้าหน้าที่ก็คงจะใช้เวลานี้เติมน้ำ แล้วถ้าขบวนรถเร็วที่ 102 ต้นทางสถานีเชียงใหม่ - ปลายทางสถานีกรุงเทพ มาถึงสถานีพิษณุโลกตรงเวลาก็จะมาหลีกกับขบวนที่ 111 ที่นี่ด้วยครับ



14.51 น. ขบวนที่ 111 ก็ออกเดินทางต่อครับ ถึงตอนนั้นก็ยังคงช้ากว่ากำหนดอยู่ 37 นาที


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

หลังจากขบวนที่ 111 ออกจากสถานีพิษณุโลกไปแล้ว ผมก็เดินไปหา Alsthom No. 4103 ( ที่มีปัญหาตอนที่ทำขบวนที่ 112 เมื่อเช้า ) อีกครั้งครับ เพราะว่ารูปที่ถ่ายเอาไว้ตอนที่กลับมาถึงตัวเมืองพิษณุโลก ยังดูไม่ดีเท่าไหร่ ก็เลยจะไปถ่ายรูปมาอีกที แล้วตอนนี้ล่ะครับที่เห็นว่ากำลังมีพี่ ๆ ช่างขึ้นไปซ่อมอยู่

ช่วงที่ผมกำลังเดินอยู่บนสะพานเพื่อไปเก็บภาพมุมสูงของสถานีพิษณุโลกเอาไว้ ก็มีเสียงประกาศจากทางสถานีดังขึ้นมาว่ากำลังจะมีรถเข้ามาหยุดรับ - ส่งที่สถานีพิษณุโลกอีก 1 ขบวน ( ทำไมมาบ่อยแท้... ) เป็นขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 12 ต้นทางสถานีเชียงใหม่ - ปลายทางสถานีกรุงเทพ มาถึงสถานีพิษณุโลกเวลา 15.13 น. ครับ



รูปไม่ค่อยชัด เพราะต้องซูมไกลอยู่พอสมควรครับ ในวันนั้นขบวนที่ 12 ประกอบด้วย Daewoo กซข.ป. 2539 เป็นคันนำ ตามมาด้วย กซม.ป. 2126 และ กซข.ป. 2532 เป็นคันท้ายสุดครับ

อากาศในวันนั้นร้อนมากครับ ใส่แค่เสื้อยืดตัวเดียวก็ยังร้อน ผมก็เลยเดินไปซื้อชาเย็นใส่ถุงจากตลาดที่อยู่ใกล้ ๆ สถานีมากิน เดินไป เดินกลับแบบดูโน่นดูนี่ไปเรื่อย ๆ ประมาณ 12 นาทีหลังจากที่ถ่ายรูปขบวนที่ 12 เอาไว้ได้ ก็มีเสียงประกาศจากทางสถานีดังขึ้นอีกครั้ง ก็เหมือนเคยครับ จะมีขบวนรถเข้ามาถึงสถานีอีก 1 ขบวน

คราวนี้เป็นขบวนรถเร็วที่ 102 ต้นทางสถานีเชียงใหม่ - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ที่วันนั้นได้รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( AHK. ) หมายเลข 4223 นำขบวนมาถึงสถานีพิษณุโลกเวลา 15.28 น. และ Alsthom คันนี้ล่ะครับ ที่เป็นคันพาคุณเอ็ม ( CENTENNIAL ) ไปดูเส้นทางสายเหนือที่กำลังซ่อมแซมกันอยู่ในกระทู้ " ไปลำปาง ดูทางทำใหม่ กับ 101 "



ในบ่ายวันนั้นผมยังเดินดูสถานีพิษณุโลกยังไม่ทั่วเลย เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเรียกตัวให้กลับไปที่บ้าน เพราะญาติ ๆ ผมจะพาไปกินข้าวมื้อเย็นที่ร้านแถว ๆ ทางไปอำเภอบางกระทุ่มครับ ก็เลยต้องเตรียมตัวกันตั้งแต่บ่าย กลับมาถึงตัวเมืองอีกครั้งก็ประมาณ 2 ทุ่มกว่า ๆ ครับ ผม พี่สาว น้องชาย แล้วก็น้องสะใภ้อีกคนก็เลยขอต่อรอบดึกอีกสักครั้งด้วยการไปกินไอติมแถว ๆ โรงหนังเจริญผลครับ 3 เดือนก่อนที่ผมมาพิษณุโลกครั้งที่แล้ว ในคืนที่ผมขึ้นขบวนที่ 52 กลับกรุงเทพ กลางดึกคืนนั้นก็เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ที่โรงหนังเจริญผลที่อยู่ใกล้ ๆ กับร้านขายไอติมที่ผมไปกินนี่ล่ะครับ ผมคิดว่าพี่ ๆ หลายคนคงจะรู้จัก เห็นแล้วก็ใจหายครับ ผมเคยมาดูหนังที่นี่หลายเรื่องเหมือนกัน ที่จำได้แม่น ๆ ก็คือ " ซาลาเปาเนื้อคน " ครับ เคยดูกันหรือเปล่า กลับไปถึงโรงแรมก็สลบยาวครับ เหนื่อยมาทั้งวัน รูปภาพที่ถ่ายเอาไว้ในวันที่ 8 มิถุนายน ก็เลยมีเพียงเท่านี้ครับ
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

เช้าวันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน ก็มีเสียงโทรศัพท์โทรมาปลุกแต่เช้า แอร์ในห้องก็เย็นสบายเหลือเกิน ทั้ง ๆ ที่ยังไม่อยากตื่นก็ต้องตื่น ทำให้นึกถึงตอนที่อยู่ที่บ้าน ปกติเคยมีเด็กอยู่ 2 คน แต่ถ้าเป็นเช้า ๆ วันเสาร์อาทิตย์แบบนี้ ก็จะมีเด็กเพิ่มขึ้นมาเป็น 3 คนนั่งดูการ์ตูนกันตั้งแต่เช้า วันนั้นผมต้องไปทำธุระที่วัดมะขามเตี้ยที่อยู่ใกล้ ๆ กับสถานีบ้านเต็งหนามที่อยู่ถัดไปทางด้านทิศเหนือของสถานีพิษณุโลก ผมไม่รู้มาก่อนเลยครับว่าต้องมาที่วัดแห่งนี้ ก็เลยไม่ได้พกกล้องไป ไม่อย่างนั้นคงจะได้มีรูปภาพของสถานีบ้านเต็งหนามมาฝากกันด้วยแน่ ๆ

กว่าจะเลี้ยงพระเสร็จ กลับมาอาบน้ำที่โรงแรม จัดกระเป๋า เตรียมพร้อมออกเดินทาง ผมมาถึงที่สถานีพิษณุโลกอีกครั้งเวลา 13.53 น. ครับ ในตอนนั้นเห็นว่ากำลังมีการจัดรถสินค้าอยู่พอดี ไปดูกันหน่อยดีกว่า เมื่อก่อนผู้ที่จะมารับหน้าที่นี้คือ รถจักรดีเซลไฟฟ้า Davenport หมายเลข 527 แต่ตอนนี้ถูกยืมตัวไปใช้ ไม่รู้จะเป็นการถาวรหรือเปล่านะครับ ก็เลยต้องให้รถจักรขาจรมารับหน้าที่แทน อย่างที่เห็นในรูปก็จะเป็น รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( AHK. ) หมายเลข 4228 และ ( ADD. ) หมายเลข 4402 โดยรถจักรคันที่ติดเครื่องอยู่มีเพียง ADD. No. 4402 คันเดียวครับ



เมื่อวานนี้เท่าที่เดินดูไม่เห็น บตญ. กับ ตญ. พวกนี้นะครับ คงจะเพิ่งมาพร้อมกับขบวนที่ 601 หรือ 602 แน่ ๆ เลย


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

Alsthom ADD. No. 4402 กำลังลาก บตญ. ทั้ง 3 คันที่เห็นเมื่อสักครู่นี้ไปจอดเอาไว้ในรางที่อยู่ติดกับถนนทางด้านหลังครับ



ประมาณ 10 นาทีต่อมา เสียงประกาศจากทางสถานีก็ดังขึ้นเพื่อแจ้งให้กับผู้โดยสารที่กำลังรอการโดยสารไปกับขบวนรถเร็วที่ 111 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีเด่นชัย ให้รอขึ้นขบวนรถในรางที่ 2 ผมก็เลยเดินไปแถว ๆ ปลายสุดของชานชาลาที่มีหลังคาทางด้านทิศใต้ครับ เล็งตำแหน่งนี้เอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ว่าจะมาถ่ายรูปขบวนที่ 111 ตรงนี้ มุมจะได้ไม่ซ้ำกัน แต่ก่อนขบวนรถจะมา ก็เก็บภาพบรรยากาศที่สถานีพิษณุโลกเอาไว้อีกที จะเห็นว่าตำแหน่งของบทค. ที่จอดอยู่ ไม่เหมือนกับที่เห็นเมื่อวานนี้ครับ



ก่อนหน้าที่ขบวนที่ 111 จะเข้ามาถึงสถานีพิษณุโลก ตอนที่ผมยืนรอถ่ายรูปอยู่สังเกตเห็นว่า ขบวนรถอยู่แถว ๆ จุดตัดถนนทางด้านทิศใต้ที่อยู่ถัดจากโรงพยาบาลพุทธชินราชไปอีก จอดนิ่งประมาณสัก 2 นาทีเห็นจะได้ครับ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่คิดว่ารถจักรไม่น่าจะมีปัญหา เพราะวันนี้ทำเวลาได้ดี มาถึงที่สถานีพิษณุโลกเกือบจะตรงเวลา ผมถ่ายรูปนี้เอาไว้ได้ตอนเวลา 14.20 น. ถ้าไม่นับว่าไปจอดนิ่งอยู่ 2 นาที ก็เท่ากับว่าวันนั้นมาช้าไป 16 นาทีเองครับ อย่างน้อยก็มาเร็วกว่าเมื่อวานล่ะนะ



ขบวนรถเร็วที่ 111 ในวันที่ 9 มิถุนายน ประกอบด้วย Alsthom ( AHK. ) No. 4221 + บชส. 2 คัน ที่จะถูกตัดออกที่สถานีศิลาอาสน์ + บชส. 1361 + บชส. 1279 + บชส. 1198 + บชส. 1308 + บชส. 1071 + บสข. 72 + บชส. 1246 + บชส. 1048 + บชส. 1015 + บสส. 36 + บสพ. ครับ

เอาล่ะครับ การเดินทางจริง ๆ กำลังจะเริ่มจากตรงนี้ แต่ก่อนหน้าที่ขบวนรถจะออก ขอแวะพักไปเติมพลังก่อนนะครับ ตอนบ่าย ๆ จะกลับมาต่อ
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

หลังจากขบวนรถจอดนิ่งสนิทที่สถานีพิษณุโลกแล้ว ผมก็ขึ้นไปนั่งที่ที่นั่งของผมที่อยู่ในบสส. ท้ายขบวนครับ ตอนนั้นก็ลืมไปว่า บสส. แบบนี้จะมีที่นั่งชั้น 2 24 ที่ ผมปล่อยไก่ไปตัวเบ้อเริ่ม ไม่เล่าดีกว่า อาย...

ประจำที่เรียบร้อยแล้ว ก็เก็บภาพก่อนที่ขบวนรถจะออกครับ รูปนี้มองไปทางหัวขบวนทางด้านทิศเหนือ เห็น Alsthom จอดอยู่ทางขวา 1 คัน นั่นก็คือ Alsthom ( AHK. ) No. 4228 ที่ถูก ADD. No. 4402 ลากไปลากมาพร้อมกับ บตญ. และ ตญ. ตอนที่ผมเพิ่งจะมาถึงที่สถานีครับ



แล้วก็มองย้อนกลับไปทางด้านทิศใต้



รูปนี้เจ้ากล้องตัวดี เริ่มออกอาการงอแงเป็นครั้งแรกของวันนี้
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[KTTA-50-L]

ดีแล้วครับพี่เต้ยที่ปล่อยไก่ไป เพราะตอนนี้คำสั่งห้ามขนสัตว์ปีกไปกับขบวนรถยังไม่ยกเลิกครับ

ปล.พนง.ข.111 วันนั้นเวรป๋าสวาทหรือป๋าสุมิตรหว่า นับเวรก่อน

[CivilSpice]

อ่ะแฮ่ม ........ มาเกาะท้ายขบวน 111 ไปเที่ยวพร้อมคุยเต้ย ด้วยคนครับ
ไม่ได้นั่งรถไฟชมวิว ในช่วงเส้นทางนี้ นานมากๆ แล้ว

[ExtendeD]

สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ ความรู้สึกของผมไม่เหมือนกับเมื่อครั้งที่ขึ้นขบวนที่ 51 มาที่สถานีพิษณุโลกครับ เพราะผมอยากให้ไปถึงสถานีเด่นชัยเร็ว ๆ อย่างน้อยถ้าไปถึงตามเวลา ( 17.20 น. ) ก็ยังไม่มืด ผมอยากไปเดินถ่ายรูปที่สถานีเด่นชัยมานานแล้ว เพราะชอบบรรยากาศที่นั่นมาก

หลังจากที่ผมขึ้นมาบนขบวนรถก็เห็นว่ามีผู้โดยสารอยู่ใน บสส. คันเดียวกับผมอีกหลายคนครับ ถ้านับเฉพาะผู้โดยสารที่นั่งอยู่ในส่วนของที่นั่งชั้น 2 ก็มีอยู่ประมาณ 12 คน กับอีก 1 ตัว ( สุนัข ) ครับ เวลาผ่านไป 10 นาที ขบวนที่ 111 ก็ยังคงจอดนิ่งอยู่ในรางที่ 2 ผู้โดยสารคนอื่น ๆ เริ่มบ่น และเริ่มเดินไปเดินมาพูดคุยกัน ตัวผมเองก็ไม่ค่อยแปลกใจสักเท่าไหร่ เพราะถ้าเป็นเหมือนเมื่อวานก็จะเห็นว่า ขบวนรถไม่ได้จอดอยู่เฉย ๆ เจ้าหน้าที่กำลังเติมน้ำอยู่ ผมโผล่ออกไปนอกหน้าต่าง ก็มองเห็นเจ้าหน้าที่ยืนกันอยู่แถว ๆ รถจักรหลายคน เพราะฉะนั้นก็คงไม่มีอะไรผิดแปลกอะไร

ระหว่างนั้นผมก็ขีด ๆ เขียน ๆ ใส่กระดาษบันทึกของผมไปตามเรื่องราว แต่ก็มีเสียงพูดคุยกันของผู้โดยสารคนอื่นลอยเข้ามาในหู บางคนก็บ่นเรื่องที่ขบวนรถจอดนาน จะทำให้พอไปถึงที่สถานีพรหมพิราม ที่ขบวนรถจะหยุดรับ - ส่งผู้โดยสารเป็นสถานีถัดไปแล้ว จะหารถต่อเข้าหมู่บ้านไม่ได้ บางคนก็บ่นเรื่องอากาศร้อน ส่วนผู้โดยสารที่บ่นเรื่องข้อสงสัยเกี่ยวกับราคาตั๋วของผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปี ที่เขาคิดว่าราคาน่าจะถูกกว่าที่ปรากฏอยู่บนตั๋ว ผมก็ต้องถือโอกาสนี้เข้าไปชี้แจงว่า ราคาที่เห็นอยู่ในตั๋วนั้นเป็นค่าโดยสาร รวมกับค่าธรรมเนียม ผู้สูงอายุจะได้ลดเฉพาะค่าโดยสารเท่านั้น ไม่ได้ลดค่าธรรมเนียมด้วย อธิบายรวมทั้งยกตัวอย่างอยู่สักพักก็เข้าใจครับ

ระหว่างที่กำลังอธิบายให้คุณลุงคนนั้นเข้าใจเรื่องราคาตั๋วอยู่ ผมก็ได้ยินเสียง Alsthom แว่ว ๆ มาทางขวา เลยเดินไปดู ก็เห็นว่าเป็น Alsthom ( AHK. ) หมายเลข 4228 ครับ



ในตอนนั้นคิดว่าก็คงจะวิ่งไปที่สถานีบึงพระเหมือนกับที่ Als. No. 4132 วิ่งไปเมื่อวาน... บ๊าย บาย...


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]