View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48291
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 21/04/2023 7:16 am Post subject:
'บังกลาเทศ'จ่อหารือเอฟทีเอ 11 ชาติ รับพ้นสถานะ'ประเทศพัฒนาน้อยสุด'
กรุงเทพธุรกิจ 21 เม.ย. 2566 เวลา 5:52 น.
ชีค ฮาสินา นายกรัฐมนตรีบังกลาเทศ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับนิกเคอิเอเชียว่า บังกลาเทศกำลังหารือเพื่อทำข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับ 11 ประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามหาแนวทางใหม่ๆเพื่อสนับสนุนการส่งออก ในช่วงที่สิทธิพิเศษทางการค้าสิ้นสุดในระยะเวลา 3 ปี
การให้สัมภาษณ์สื่อชั้นนำของญี่ปุ่นครั้งนี้มีขึ้นก่อนที่เธอจะเดินทางเยือนญี่ปุ่นในวันอังคารหน้า ถือเป็นการเยือนญี่ปุ่นครั้งแรกในรอบ 4 ปีและในการเยือนครั้งนี้ คาดว่าทั้งนายกรัฐมนตรีฮาสินาและนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นจะยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีขึ้นมาเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์เชิงลึกระหว่างกัน
ฮาสินา กล่าวว่า บังกลาเทศเตรียมเผชิญกับสถานการณ์ที่แตกต่างออกไปอย่างมาก เมื่อหลุดพ้นจากสถานะ ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นสถานะที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ให้แก่บังกลาเทศในฐานะเป็นประเทศยากจนที่สุด เพื่อได้รับการยกเว้นด้านภาษีเมื่อต้องส่งออกสินค้าไปขายยังประเทศกำลังพัฒนา
บังกลาเทศที่มีประชากร 170 ล้านคนแห่งนี้ มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่สามารถเปลี่ยนสถานะประเทศได้แล้ว และอาจเสียสิทธิพิเศษต่าง ๆทางการค้าในปี 2569
บังกลาเทศ เป็นผู้ส่งออกสิ่งทอรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากจีน สินค้าประเภทนี้คิดเป็นสัดส่วน 80% ของสินค้าส่งออกโดยรวม แต่การสร้างความหลากหลายด้านการส่งออกก็เป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆของผู้นำหญิงคนนี้ โดยฮาสินา กล่าวว่า อุตสาหกรรมอาหารแปรรูปและอุปกรณ์ดิจิทัลก็เป็นภาคส่วนที่มีอนาคตสำหรับบังกลาเทศ รวมถึงทรัพยากรอื่นๆในอ่าวเบงกอล เช่น อุตสาหกรรมประมง
เราต้องหาทางเลือกอื่นๆเพื่อทำข้อตกลงทางการค้า เราต้องการลงนามในข้อตกลงเอฟทีเอกับประเทศต่างๆเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและการค้า ตอนนี้เรากำลังหารือกับ 11 ประเทศด้วยกัน" ฮาสินา กล่าว
ปัจจุบัน บังกลาเทศมีข้อตกลงทางการค้าที่จำกัดกับประเทศกำลังพัฒนา แต่ยังไม่มีการทำเอฟทีเอกับประเทศใด แม้ฮาสินาไม่ได้ระบุว่าประเทศใดที่เป็นพันธมิตรใหม่ที่มีศักยภาพ แต่พอจะคาดการณ์ได้ว่า เป็นอินเดีย จีน และญี่ปุ่น ซึ่งรัฐบาลธากาและรัฐบาลโตเกียวเริ่มศึกษาเอฟทีเอร่วมกันตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 แล้ว
ขณะนี้เราต้องการสำรวจว่า เราสามารถใช้ประโยชน์จากอ่าวเบงกอลเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของเราได้อย่างไรบ้าง ฮาสินา กล่าว
ขณะนี้ บรรดาประเทศมหาอำนาจ เริ่มมองว่าอ่าวเบงกอลและบังกลาเทศมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะจุดยืนเชิงยุทธศาสตร์ โดยที่ผ่านมาทั้งรัฐบาลวอชิงตัน รัฐบาลนิวเดลี และรัฐบาลปักกิ่ง ต่างกระตือรือร้นที่จะขยายอิทธิพลในบังกลาเทศ ขณะที่นายกรัฐมนตรีฮาสินาก็พยายามแสดงจุดยืนเป็นกลางทางการทูต โดยบอกว่า "บังกลาเทศควรมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุก ๆ ประเทศ รวมทั้งความสัมพันธ์ของบังกลาเทศกับญี่ปุ่น ที่เป็นเครื่องมือช่วยพัฒนาประเทศมาตลอดจนถึงปัจจุบัน"
ความช่วยเหลือของญี่ปุ่นในช่วงปลายปี 2565 ทำให้บังกลาเทศเปิดบริการรถไฟใต้ดินสายแรก พร้อมโครงสร้างพื้นฐานที่ได้มาตรฐานสากล ส่วนอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้างในสนามบินนานาชาติธากานั้นก็ดำเนินการโดยสมาคมญี่ปุ่นเช่นกัน
นอกจากนี้ ทางตอนใต้ของเมืองมาตาบารี ญี่ปุ่นยังเป็นผู้นำและผู้ให้ทุนพัฒนาท่าเรือทะเลลึกแห่งแรกแก่บังกลาเทศด้วย
นายกรัฐมนตรีหญิงของบังกลาเทศ กล่าวว่า ญี่ปุ่นช่วยสนับสนุนโครงการต่างๆเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในบังกลาเทศอย่างดี
ในสายตาญี่ปุ่นนั้น บังกลาเทศมีความน่าดึงดูดใจด้านการลงทุนอย่างน้อย 2 ประการด้วยกันคือ ประการแรก การเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่ได้อานิสงค์จากการส่งออกสิ่งทอและการส่งเงินกลับประเทศจากแรงงานชาวบังกลาเทศที่ไปทำงานในต่างประเทศ ทำให้หลายปีที่ผ่านมา ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ของบังกลาเทศขยายตัว 6%-7% และแม้แต่ช่วงที่เกิดการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 บังกลาเทศยังมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เป็นบวก
ประการที่สอง ญี่ปุ่นให้บังกลาเทศเป็น 1 ใน 4 ประเทศที่รับการสนับสนุนที่มีศักยภาพในโครงการให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงอย่างเป็นทางการ (โอเอสเอ) ซึ่งเป็นโครงการจัดอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารให้แก่ประเทศพันธมิตรโดนไม่คิดค่าใช้จ่ายของญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม ผู้นำหญิงคนนี้ของบังกลาเทศก็มีการบ้านที่ต้องทำ แถมยังเป็นการบ้านที่ไม่ง่ายเลยสักนิด โดยเฉพาะการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากประเทศต่างๆในช่วงที่ประเทศกำลังต้องการกระแสเงินสด เพื่อชดเชยกับทุนสำรองที่มีอย่างจำกัด
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44615
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48291
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48291
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48291
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 22/05/2023 5:44 pm Post subject:
นั่งรถไฟเมโทรใต้น้ำแห่งแรกของอินเดีย 😨 Howrah to Esplanade || นั่งรถไฟใต้ดินพิเศษในโกลกาตา
Indias First Underwater Metro Ride 😨 Howrah to Esplanade || Exclusive Metro Ride In Kolkata
MOinsideHIT
May 20, 2023
https://www.youtube.com/watch?v=NTWYZPhzJYY
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48291
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 09/06/2023 2:31 pm Post subject:
New fastest train of india 😍 Delhi Vande Bharat express at 167 kmph | Transit bites
Transit bites
May 30, 2023
https://www.youtube.com/watch?v=eiwm4NxcS-g
เราขึ้นรถไฟที่เร็วที่สุดของอินเดีย
20171/20172 Rani Kamalapati (Habibganj) - Hazrat Nizamuddin Vande Bharat Express เป็นรถไฟด่วน Vande Bharat Express ขบวนที่ 11 ของอินเดีย เชื่อมต่อรัฐมัธยประเทศ อุตตรประเทศ และนิวเดลี
Vande Bharat Express เป็นส่วนหนึ่งของรถไฟ 75 ขบวนที่คาดว่าจะให้บริการทั่วอินเดียภายในสิ้นปี 2566 สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางจากสถานีรถไฟ Chennai Central ไปยัง Mysuru ค่าโดยสารจะอยู่ที่ ₹ 1,200 (510 บาท) สำหรับชั้นประหยัด และ ₹ 2,295 (980 บาท) สำหรับชั้นผู้บริหาร
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48291
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 12/06/2023 1:37 pm Post subject:
รถไฟอินเดีย ก้าวหน้าหรือถอยหลัง?
ไทยโพสต์ 12 มิถุนายน 2566 เวลา 12:46 น.
AFP
นักท่องเที่ยวหลายคนเก็บภาพความโรแมนติกของการเดินทางด้วยรถไฟ แต่สำหรับคนจำนวนมากในอินเดีย รถไฟเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่ยากลำบาก และมันเป็นเส้นทางการขนส่งที่สำคัญที่สุดของอินเดีย แม้ว่าการขนส่งทางถนนและทางอากาศจะมีความสำคัญมากขึ้น แต่รถไฟก็ยังคงเป็นเส้นทางที่มีผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมากที่สุดในอินเดียถึง 20 ล้านคนต่อวัน นับตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุรถไฟร้ายแรงเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ชาวอินเดียหลายคนต่างตั้งคำถามว่ารถไฟอินเดียปลอดภัยแค่ไหน
อุบัติเหตุรถไฟชนกัน 3 ขบวนในรัฐโอริสสา ทางตะวันออกของอินเดีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 300 ราย และบาดเจ็บกว่า 1,000 คน สาเหตุเกิดจากรถไฟโดยสารพุ่งชนรถไฟบรรทุกสินค้าที่จอดอยู่และตกราง ตู้ขบวนที่ตกรางนั้นพลิกคว่ำและไถลไปชนเข้ากับรถไฟที่กำลังแล่นสวนมา นับเป็นอุบัติเหตุรถไฟครั้งเลวร้ายที่สุดในอินเดียในศตวรรษนี้
รถไฟสายแรกในอนุทวีปอินเดียเปิดวิ่งในปี 1837 เป็นรถไฟบรรทุกหินสำหรับการก่อสร้างถนน รถไฟโดยสารขบวนแรกตามมาในปี 1854 เมื่ออินเดียได้รับเอกราชในปี 1947 ผู้ปกครองอาณานิคมอังกฤษได้วางเส้นทางรางรถไฟไว้ความยาวทั้งสิ้น 54,000 กิโลเมตร ทุกวันนี้วัดได้ 68,000 กิโลเมตร นับเป็นเครือข่ายรถไฟที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา จีน และรัสเซีย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อินเดียใช้งบลงทุนจำนวนมากในการขยายเครือข่ายรถไฟ รถไฟความเร็วสูงสายแรกระหว่างมุมไบและอัมห์ดาบาดกำลังก่อสร้าง อีกโครงการใหญ่ของรัฐบาลอินเดียคือ Vande Bharat Express เส้นทางกรุงเดลี-เมืองพาราณสี เป็นรถไฟที่เดินทางด้วยความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงสายที่ 19 ที่นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ตั้งใจจะไปร่วมในพิธีเปิด แต่ต้องเลื่อนออกไปเพราะอุบัติเหตุรถไฟที่เกิดขึ้น
เมื่อปี 2017 การรถไฟอินเดียประกาศว่าจะเพิ่มความเร็วเฉลี่ยของรถไฟทุกขบวนภายใน 5 ปี ด้วยเส้นทางใหม่และการวางแผนที่ดีขึ้น รถไฟขนส่งสินค้าควรจะสามารถเดินทางได้ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แทนที่จะเป็น 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และรถไฟโดยสารควรจะแล่นได้ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแทนที่จะเป็น 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเหมือนปัจจุบัน ปี 2022 รัฐบาลอินเดียแจ้งว่ารถไฟขนส่งสินค้าจะมีความเร็วเฉลี่ยที่ 41.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับรถไฟโดยสาร
สื่อในอินเดียเผยว่า รางรถไฟไม่อยู่ในสภาพที่ดีพอ นั่นเป็นสาเหตุที่ความเร็วของรถไฟไม่ก้าวหน้าไปไหน ทางรถไฟของอินเดียอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลง รถไฟที่เร็วขึ้นกำลังจะมา ระบบตั๋วที่เรียบง่าย สถานีรถไฟจะต้องทันสมัย และสื่อความรู้สึกแบบเดียวกับสนามบิน แต่รางรถไฟในอินเดียส่วนใหญ่อยู่ในสภาพเก่าและมีข้อจำกัดในการใช้งาน
อุบัติเหตุบนเส้นทางรถไฟในอินเดียเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เฉพาะในปี 2021 เพียงปีเดียวมีผู้เสียชีวิตบนเส้นทางรถไฟกว่า 16,000 คน มีเพียง 22 คนเท่านั้นที่เสียชีวิตจากเหตุรถไฟตกราง ผู้เสียชีวิตกว่า 11,000 คนนั้นสำนักงานสถิติแห่งชาติของอินเดียจัดให้อยู่ในประเภท ตกหรือถูกรถไฟชน อย่างไรก็ตาม จากข้อสังเกตในระยะยาวแสดงให้เห็นว่า รถไฟของอินเดียมีแนวโน้มที่จะปลอดภัยมากขึ้นในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา
ผู้เชี่ยวชาญชาวอินเดียมีความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า รถไฟอินเดียควรลงทุนในความปลอดภัยมากกว่านี้ จากรายงานของ Comptroller and Auditor General of India เมื่อปี 2022 เปิดเผยว่าระหว่างปี 2017 ถึง 2021 มีรถไฟตกรางในอินเดีย 1,129 ขบวน และเป็นอุบัติเหตุ 1 ใน 4 ที่มีสาเหตุจากสภาพรางที่ควรต้องได้รับการปรับปรุงใหม่ นอกจากนั้นการรถไฟอินเดียควรมีพนักงานเพียงพอที่จะดูแลเส้นทางและรองรับฝูงชนที่ใช้บริการ
ล่าสุดการรถไฟอินเดียชี้แจงสาเหตุของอุบัติเหตุรถไฟตกรางในรัฐโอริสสาว่า มาจากการสับรางผิดพลาด แต่จะมีการตรวจสอบเพื่อความแน่ชัดอีกครั้ง แต่ตามรายงานของสื่ออินเดียระบุว่า อุบัติเหตุครั้งนี้น่าจะเกิดจากช่างเทคนิคที่สถานีรถไฟท้องถิ่น.
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44615
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 44615
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 48291
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top