View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
yuktanan
3rd Class Pass


Joined: 06/10/2010 Posts: 95
|
Posted: 30/10/2010 8:52 am Post subject: |
|
|
ถ้าสังเกตุ ว่าตรากทช. (ตราของกรมไปรณีย์โทรเลขเดิม) มีแตร์เหมือนกับ ตราชมรม IT KU เพราะใช้แนวคิดเดียวกันนะครับ |
|
Back to top |
|
 |
donatt76
1st Class Pass (Air)


Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 30/10/2010 11:05 pm Post subject: |
|
|
อ.เอก wrote: | ขอบคุณมากครับที่ติดตามชมมาตลอด ผมก็หวังว่าชาวรถไฟไทยดอทคอมจะได้มาถ่ายภาพร่วมกันที่อดีตสถานีสะแกย่างหมูหรือที่สถานีสุพรรณบุรีครับ
สักวันหนึ่งป้ายสะแกย่างหมูคงกลับมาตั้งตรงเหมือนเดิมนะครับ ไม่ล้มพังไปแบบที่บ้านท่าข่อย หนองวัลย์เปรียง หรือคลองรังสิตครับ |
ฝันเป็นจริงแน่ๆครับ...และจะมีขบวนรถไฟจอดแน่ๆช่วงต้นปีหน้า _________________
 |
|
Back to top |
|
 |
nathapong
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 31/10/2010 10:51 am Post subject: |
|
|
donatt76 wrote: |
ฝันเป็นจริงแน่ๆครับ...และจะมีขบวนรถไฟจอดแน่ๆช่วงต้นปีหน้า |
อ่า... อยากไป สุพรรณ...  |
|
Back to top |
|
 |
pak_nampho
1st Class Pass (Air)


Joined: 25/06/2007 Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต
|
Posted: 31/10/2010 12:16 pm Post subject: |
|
|
nathapong wrote: |
อ่า... อยากไป สุพรรณ...  |
ตัวกระผมอยากไปเชียงใหม่กับโบกี้ที่เขาว่าไฮโซครับ.........  _________________ +++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ................... |
|
Back to top |
|
 |
headtrack
1st Class Pass (Air)


Joined: 30/05/2009 Posts: 1627
Location: ละแวกภาคกลางตอนบน และภาคเหนือตอนล่าง
|
Posted: 31/10/2010 12:41 pm Post subject: |
|
|
ksomchai wrote: |
...ฯลฯ...
ขออนุญาต วิจารณ์เกี่ยวกับโลโก้ของหน่ายงานรัฐวิสาหกิจสักนิดหนึ่ง ครับ โดยเฉพาะของ ไปษณีย์ไทย และของ องค์การโทรศัพท์ ครับ
จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ที่มีความจำเป็นจำเป็นในการเปลี่ยนโลโก้หรือตราสัญญลักษณ์ ส่วนตัวแล้วเสียดาย แบบเก่ามากที่มีตราครุฑ
ดูแล้วรู้สึกว่าขลังดี ปัจจุบันของ ไปษณีย์ไทยและขององค์การโทรศัพท์ก็มองไม่ออกว่ามีความหมายอย่างไร
...ฯลฯ...
|
อย่าลืมว่า ไปรษณีย์ไทย กับ CAT ใช้ชื่อใหม่ขององค์กรเป็น บริษัทมหาชนแล้วครับ
(ผมกล่าวถึงเฉพาะในแง่ของ "ชื่อ" นะครับ)
ดังนั้น อาจต้องการเปลี่ยนตราประจำ ให้มีรูปแบบที่เป็นสากลมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็น บริษัทมหาชน น่ะครับ
โดยมากหน่วยงานที่แปรรูปในลักษณะนี้ จะจัดประกวดตราสัญลักษณ์ใหม่น่ะครับ
กรณี การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ตราสัญลักษณ์ของเขามีความเป็นสากลอยู่แล้ว การใช้ตราเดิมก็ช่วยส่งเสริมกิจการให้เป็นที่จดจำ
และสร้างความเชื่อมั่นมากขึ้น (ขอย้ำว่า ผมกล่าวถึงเฉพาะในแง่ของ "ชื่อ" นะครับ)
อีกเล็กน้อย สำหรับ การบินไทย (ใช้ชื่อเป็นบริษัทมหาชนมานานแล้ว) ตราสัญลักษณ์ (ที่นิยมเรียกกันว่า "จำปี") นั้น ก็ได้ตราสัญลักษณ์ดังกล่าว
จากการประกวดมาเช่นเดียวกัน (ผู้ออกแบบมิได้ตั้งใจจะให้เหมือน "จำปี" หรอก เพราะผู้ออกแบบเป็นฅนชาติอื่น ที่ห่างไกลต้นจำปีพอสมควร) _________________
Find me on Instagram: @632knongtsaikhaow |
|
Back to top |
|
 |
nathapong
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 31/10/2010 12:43 pm Post subject: |
|
|
^
^
แล้ว เว็บ "รถไฟไทยดอทคอม" ตราสัญลักษณ์ เรามีไว้เพื่อ .......  |
|
Back to top |
|
 |
pattharachai
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006 Posts: 6536
Location: ราชอาณาจักรไทย
|
Posted: 31/10/2010 1:02 pm Post subject: |
|
|
ในปัจจุบัน เข้าใจว่า หน่วยงานรัฐที่มิใช่"ส่วนราชการ" ก็จะไม่มีตราครุฑครับ อย่างมหาวิทยาลัยในกำกับ เวลาออกหนังสือก็จะใช้ตราของมหาวิทยาลัย ไม่ได้ใช้ตราครุฑแบบในอดีต หรือสังเกตได้ว่าแม้แต่ รฟท.เองก็มิได้ใช้ครุฑในหนังสือหรือเอกสารของหน่วยงานแต่อย่างใด
อีกประการหนึ่ง กสท. และไปรษณีย์ไทย ได้แปรรูปเป็นบริษัทมหาชน (แต่ยังคงเป็นเป็นรัฐวิสาหกิจอีกจำพวกหนึ่ง) จึงไม่เข้าข่ายหน่วยงานที่ใช้ตราครุฑได้ จึงได้เอาครุฑออกจากสัญลักษณ์ของหน่วยงาน
โดยส่วนตัวผมคิดว่าตราของไปรษณีย์ไทยในปัจุจุบันก็ดูโฉบเฉี่ยวดีครับ สื่อความหมายที่ชัดเจนดี ในรูปของจดหมายพับเป็นจรวด |
|
Back to top |
|
 |
Mongwin
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007 Posts: 48917
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 23/06/2014 8:04 am Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: | ผมมาถึงจุดตัด กม.140 แล้วครับ
จุดตัดนี้คือ จุดตัดทางหลวงหมายเลข 357 (ถนนวงแหวนรอบเมืองสุพรรณบุรี)
นับเป็นจุดตัดไม่กี่แห่งในสายสุพรรณบุรีที่มีเครื่องกั้นครับ
 |
ภาพข้างบนนี้ ถ่ายเมื่อ 21 ต.ค. 53 ครับ
ปัจจุบัน ถนนวงแหวนรอบเมืองสุพรรณบุรี มี overpass ยกระดับข้ามทางรถไฟสายสุพรรณบุรีแล้วครับ
นับเป็น overpass เพียงแห่งเดียวของทางรถไฟสายสุพรรณบุรี
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 57 ผมกลับจากประชุมสัมมนาที่ภูวิวรีสอร์ท อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา รถทัวร์ที่เช่ามาพากลับกำแพงแสนผ่านทางสระบุรี-เสาไห้-ท่าเรือ-ดอนพุด-มหาราช-อ่างทอง-วิเศษชัยชาญ-สุพรรณบุรี-อู่ทอง ก็เลยมีโอกาสได้ข้ามทางรถไฟที่จุดนี้ เก็บภาพมาได้
ภาพมองไปทางสะแกย่างหมู (ทิศใต้) ครับ
ภาพใน Google StreetView ถ่ายเมื่อ ก.ค. 55 อยู่ระหว่างก่อสร้างพอดีครับ
 |
|
Back to top |
|
 |
Mongwin
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007 Posts: 48917
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 02/06/2025 8:55 am Post subject: |
|
|
เคาะแนวรถไฟทางคู่สายใหม่สุพรรณบุรี-บ้านภาชี เวนคืน 3 พันไร่เชื่อมโครงข่ายเพิ่มศักยภาพขนส่งสินค้า
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Monday, June 02, 2025 06:19
เคาะแล้วรถไฟทางคู่สายใหม่สุพรรณบุรี - นครหลวง - ชุมทางบ้านภาชีแนวที่ 3 เวนคืนกว่า 3 พันไร่ สร้างทางใหม่ 65.5 กม. รฟท. ตั้งงบ 57 ล้านบาทออกแบบรายละเอียด - ศึกษา EIA เริ่มก่อสร้างปี 72 พร้อมดันทางคู่ช่วงสุพรรณบุรี-หนองปลาดุก เชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟทั่วประเทศสะดวก
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า จากที่รฟท.ได้ดำเนินงานศึกษาความเหมาะสม โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ ช่วงสุพรรณบุรี - นครหลวง - ชุมทางบ้านภาชี ขณะนี้ ได้ข้อสรุปการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบเบื้องต้น (Prelliminary Design ) และคัดเลือกแนวเส้นทางที่เหมาะสมแล้ว รวมถึงจัดทำรายนงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (IEE) โดยโครงการทางรถไฟสาย สุพรรณบุรี-บ้านภาชี อยู่ในโครงการรถไฟทางคู่ระยะถัดจากรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 โดยเป็นแผนเร่งด่วนลำดับต้นๆ ซึ่งตามผลศึกษาพบเป็นเส้นทางที่มีความคุ้มค่าและเป็นโครงข่ายสำคัญในการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟที่มีในปัจจุบัน และรองรับ การขนส่งสินค้า จากภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ไปยังท่าเรือแหลมฉบัง และไปยังภาคใต้ โดยไม่ผ่านกรุงเทพฯและปริมณฑล และเห็นว่า ควรศึกษา พัฒนา เส้นทางช่วง สุพรรณบุรี-หนองปลาดุก ซึ่งปัจจุบันเป็นทางเดี่ยวให้เป็นทางคู่ตลอดสาย แก้ปัญหาคอขวด ในอนาคต
@ตั้งงบ 57 ล้านออกแบบรายละเอียด - ศึกษา EIA
โดยตามแผน ทางรถไฟ ช่วงสุพรรณบุรี - นครหลวง - ชุมทางบ้านภาชี ดำเนินการความเหมาะสมและออกแบบเบื้องต้น ระยะเวลา 300 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. 2567- วันที่ 11 มิ.ย. 2568 จะเป็นการศึกษาออกแบบรายละเอียดและการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ปี 2568-2569 วงเงิน 57 ล้านบาท (งบผูกพัน ปี 68 วงเงิน 11.4 ล้านบาท ปี 69 วงเงิน 45.6 ล้านบาท ) ขอความเห็นชอบรายงาน EIA ปี 2570 นำเสนอ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติโครงการในปี 2571 ออกพ.ร.ฎ.เวนคืนและเริ่มก่อสร้างในปี 2572เปิดให้บริการในปี 2576
ทางจังหวัด และผู้ประกอบการในพื้นที่ มีความต้องการขนส่งสินค้าจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยลดปริมาณรถบรรทุกบนถนนเส้นทางได้มาก แม้จะต้องเวนคืนตลอดเส้นทางแต่ผลศึกษา ระบุว่ามีความคุ้มค่า
@เคาะแนวเส้นทางที่ 3 เหมาะสมที่สุด เวนคืนตัดเส้นทางใหม่ 65.50 กม.
โดยการศึกษาพบว่าแนวเส้นทางที่มีความเหมาะสมและได้คะแนนรวมสูงสุด คือทางเลือกที่ 3 จุดเริ่มต้นโครงการ ออกจากสถานีสะแกย่างหมู มุ่งทิศเหนือ ก่อสร้างทางคู่ใหม่ตามทางแนวเดิมจนถึงประมาณกม.ที่ 2+346 จากนั้นเบี่ยงขวาออกจากทางรถไฟเดิมก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟกับทางหลวงหมายเลข 357 (ทางเลี่ยงเมืองสุพรรณบุรี) ประมาณ 4.5 กม. มุ่งทิศตะวันออก ขนานทางหลวงหมายเลข 357 ข้ามแม่น้ำท่าจีน ผ่านทางหลวงหมายเลข 340 ผ่านทุ่งรับน้ำทุ่งผักไห่ ผ่านทางหลวง
หมายเลข 3454 ข้ามแม่น้ำน้อย ผ่านทุ่งรับน้ำทุ่งป่าโมก ผ่านทางหลวงหมายเลข 3412 ข้ามคลองบางหลวงผ่านทุ่งรับน้ำทุ่งบางบาล ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านทางหลวงหมายเลข 309 บริเวณด้านทิศใต้ห่างจากตัวเมืองของอำเภอป่าโมก ประมาณ 6 กม. ผ่านทุ่งรับน้ำทุ่งบางกุ้ง ผ่านทางหลวงหมายเลข 347 และทางหลวงหมายเลข 32 ข้ามแม่น้ำลพบุรี แล้วจึงเบี่ยงแนวไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ข้ามแม่น้ำป่าสัก ผ่านทางหลวงหมายเลข 3063 รองรับพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และการขนส่งสินค้าทางเรือ ของท่าเรือในเขต อ.นครหลวง แล้วจึงเข้าเชื่อมต่อทางรถไฟเดิมบริเวณก่อนถึงสถานีพระแก้ว ประมาณ กม.ที่ 67+952 จากนั้นทำการปรับปรุงทางเดิมจาก 3 ทางให้เป็น 4 ทาง จนเข้าบรรจบกับทางรถไฟเดิมบริเวณย่านสถานีชุมทางบ้านภาชี มีจุดสิ้นสุดที่สถานีชุมทางบ้านภาชี ประมาณ กม.ที่ 73+800
โดยเป็นแนวเส้นทางที่ใช้เขตทางเดิมบริเวณช่วงต้นโครงการระยะทางประมาณ 2.40 กม.เส้นทางตัดใหม่ที่ต้องมีการเวนคืนประมาณ 65.50 กม. และใช้เขตทางเดิมบริเวณปลายโครงการระยะทางประมาณ 5.90 กม. รวมระยะทางโครงการ 73.80 กม.
มีตำแหน่งสถานีทั้งหมด 4 สถานีได้แก่ สถานีสะแกย่างหมู สถานีสุพรรณบุรี (ใหม่) สถานีบ้านกุ่มท สถานีบางปะหัน พร้อมกับลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ (CY) อีก 3 แห่งคือ CY สะแกย่างหมู CY บางปะหัน และ CY บ้านภาชี ทั้งนี้ประเมินต้องเวนคืนที่ดินประมาณ 3,448 ไร่ และรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างประมาณ 161 หลัง
การคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสาร ในเส้นทางดังกล่าว ในปีเปิดให้บริการ รวมประมาณ 2.7- 4.6 ล้านคน/ปีเพิ่มขึ้น เป็น 5.9 ล้านคนในปี 2580
คาดว่ามีปริมาณสินค้าใช้เส้นทาง ในปีแรก ประมาณ 7-11 ล้านตัน/ปี เพิ่มขึ้น เป็น 9.1-13.9 ล้านตัน ในปี 2580
อย่างไรก็ตาม เส้นทางดังกล่าวจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัด (อยุธยา สุพรรณบุรี อ่างทอง) เนื่องจากจะเป็นทางเลือกในการเดินทางและขนส่งสินค้าที่ประหยัดและปลอดภัย เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งรวบรวมและกระจายสินค้าทางการเกษตร เป็นเส้นทางรถไฟสายใหม่ที่เชื่อมต่อในแนวตะวันตก-ตะวันออก เชื่อมโยงกับเส้นทางรถไฟเดิม ขนส่งสินค้าลงสู่ภาคใต้ โดยไม่ผ่านพื้นที่กรุงเทพ (บางซื่อ) และลดค่าใช้จ่าย ประหยัดเชื้อเพลิง |
|
Back to top |
|
 |
|