ภารกิจไตรภาค ไปพิชิตสะพานเส้นทางสายเหนือตอนล่าง

[ExtendeD]

มาดูพื้นที่โดยรอบบริเวณสะพานแห่งที่ 2 นี้จากแผนที่ของ Pointasia กันบ้างครับ ช่วงที่ดาวเทียมส่องลงมาคงเป็นช่วงหน้าแล้งแน่ ๆ ครับ ลำน้ำแห้งขอดเลย แต่ก็ยังคงเห็นแนวที่ลำน้ำไหลผ่านได้อย่างชัดเจน



ตัวเลข " 60m " ที่เห็นอยู่ในแผนที่ของ Pointasia นั้น คือ ความยาวทั้งหมดของสะพานแห่งนี้ที่ผมลองวัดแบบคร่าว ๆ ครับ อาจจะคลาดเคลื่อนจากความยาวจริง ๆ ไปบ้าง แต่คาดว่าน่าจะต่างกันไม่มากครับ


เริ่มต้นสำรวจสะพานแห่งที่ 2 นี้ด้วยภาพด้านข้างของสะพานกันก่อนเลยครับ จากรูปนี้ก็จะเห็นว่าสะพานแห่งนี้มีตอม่อ 2 ต้นครับ




โครงเหล็กของสะพานช่วงแรกที่อยู่บนคอสะพานครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

nameplate ของสะพานช่วงแรกนี้ ติดอยู่ที่แผงเหล็กของสะพานทางด้านขวาครับ เป็นภาษาไทย เพราะเป็นสะพานสัญชาติไทยครับ ตัวอักษรและตัวเลขที่ปรากฏอยู่บน nameplate ค่อนข้างชัดเจน และสมบูรณ์ ก็คงไม่ต้อง quote ซ้ำนะครับ




ทางรถไฟที่อยู่บนสะพานก็ใช้หมอนไม้ และเครื่องยึดเหนี่ยวรางแบบเดียวกับสะพานแรกที่ได้เห็นกันไปแล้วครับ มีแผ่นไม้วางอยู่ตรงกลางด้วย แต่ดูสภาพแล้ว เดินบนหมอนไม้ดีกว่าครับ เชื่อผม...


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

คานเหล็กที่อยู่ด้านข้างที่เห็นอยู่นี้ก็จะไปเชื่อมติดอยู่กับคานเหล็กรูปตัว I ที่อยู่ใต้รางรถไฟ ( ทางประธาน ) ครับ




ปิดท้ายการเดินสำรวจบริเวณคอสะพานฝั่งทิศเหนือด้วยภาพด้านซ้ายของสะพานแห่งนี้ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

จากบริเวณคอสะพาน ช่วง Span แรกของสะพานแห่งนี้ก็คงจะไม่มีอะไรแปลกแตกต่างไปจากสะพานเหล็กแบบแผงขึ้นทั่ว ๆ ไป ก็ข้ามมาดูบริเวณเสาตอม่อต้นแรกกันเลยดีกว่าครับ ที่เห็นนี้คือโครงเหล็กของสะพานช่วงแรกที่อยู่บนตอม่อ มองจากด้านในสะพานครับ




จากนั้นก็ปีนลงมายืนที่ตอม่อเพื่อดูโครงสะพานจากด้านนอกบ้าง ถอยออกมาจนสุดก็ได้แค่นี้ล่ะครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

มาดูความแตกต่างของโครงสะพานช่วงที่ 1 และ 2 ที่อยู่บนตอม่อต้นนี้ครับ โครงเหล็กที่อยู่ทางซ้ายเป็นโครงเหล็กของสะพานช่วงที่ 2 ส่วนสะพานช่วงแรกนั้นจะอยู่ทางขวา เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนครับ




สำหรับช่วง Span แรกของสะพานแห่งที่ 2 นี้ ก็คงจะมีรายละเอียดที่เก็บมาได้เพียงเท่านี้ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ต่อไปก็มาถึงช่วง Span ที่ 2 ของสะพานแห่งนี้ ซึ่งเป็นสะพานเหล็กแบบโครงขึ้นครับ




ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน ก็ก้มลงมาดูโครงสะพานที่อยู่บริเวณตอม่อต้นแรกกันก่อนครับ โครงเหล็กถูกยึดติดกันโดยใช้หมุดย้ำเหมือน ๆ กับช่วง Span แรก


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

nameplate ของสะพานช่วงที่ 2 นี้ มีติดอยู่ที่โครงสะพานทั้ง 2 ฝั่งเลยครับ ตัวอักษรที่ปรากฏอยู่บน nameplate บอกให้รู้ว่าโครงสะพานช่วงนี้เป็นผลงานการสร้างของบริษัท Dayde' จากประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี ค.ศ. 1927 ครับ



สะพานโครงเหล็กขนาดใหญ่ที่ผลงานของ DAYDE' ที่เป็นผู้ผลิตสะพานแห่งนี้ เท่าที่มีการสำรวจและนำเสนอไปแล้ว ก็คือ
1. สะพานข้ามห้วยสำราญ จังหวัดศรีสะเกษ
2. สะพานข้ามแม่น้ำชี จังหวัดขอนแก่น
3. ส่วนหนึ่งของสะพานข้ามแม่น้ำนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี
4. สะพานข้ามคลองบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
5. สะพานข้ามห้วยขยุง จังหวัดศรีสะเกษ
6. สะพานข้ามลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์


ก็อย่างที่เคยบอกไปครับ ว่าตอนนั้นต้องทำงานแข่งกับเวลา รีบมากจนลืมเก็บภาพบรรยากาศ 2 ข้างของสะพานมาให้ดูครับ สำหรับภาพของช่วง Span ที่ 2 ก็คงจะมีแต่เพียงเท่านี้ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ทีนี้ก็เหลืออยู่เพียงแค่ช่วง Span ที่ 3 ที่เป็นสะพานเหล็กแบบแผงขึ้นเท่านั้นครับ รูปร่างหน้าตาของสะพานช่วงสุดท้ายนี้ ก็เหมือนกับช่วง Span แรกทุกอย่างครับ




แม้แต่ข้อความที่ปรากฏอยู่ใน nameplate ก็เหมือนกัน



จากข้อมูลที่ได้จาก nameplate ทั้งของช่วง Span ที่ 1 และ 3 ต่างก็ระบุว่ามีความยาว 15 เมตร
ถ้าความยาวที่ผมวัดจากแผนที่ของ Pointasia ไม่ผิดพลาดมากจนเกินไป ก็จะหาความยาวของช่วง Span ที่ 2 ได้ไม่ยากครับ
ความยาวทั้งหมดของสะพาน - ความยาวของช่วง Span แรก - ความยาวของช่วง Span ที่ 3
64 - 15 - 15 = 34
ช่วง Span ที่ 2 ที่เป็นสะพานเหล็กแบบโครงขึ้นนั้น มีความยาวประมาณ 34 เมตรครับ ( เป็นเพียงการวัดคร่าว ๆ นำไปใช้อ้างอิงไม่ได้นะครับ )


แต่ที่แผงเหล็กข้างสะพานของช่วง Span ที่ 3 นี้ มีตัวอักษรสีขาวลาง ๆ ถูกพ่นติดเอาไว้ตั้งแต่เมื่อครั้งมาทำสีสะพานเมื่อปลายปี พ.ศ. 2537 โน่นครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ความสูงที่วัดได้จากบริเวณคอสะพานของสะพานแห่งนี้คือ 0.82 เมตร ครับ




รายละเอียดทั้งหมดของสะพานแห่งที่ 2 ที่อยู่บริเวณช่วงเสาโทรเลขที่ 249/3 - 249/4 ที่ผมเก็บมาได้ในเช้าวันเด็กแห่งชาติ ก็คงจะมีแต่เพียงเท่านี้ครับ



ทีนี้ก็เหลืออยู่อีกแค่สะพานเดียวที่อยู่ถัดไปอีกไม่ไกล แล้วภารกิจที่ปากน้ำโพภาคแรกก็จะเสร็จสมบูรณ์แล้วล่ะครับ
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[pak_nampho]