ภารกิจไตรภาค ไปพิชิตสะพานเส้นทางสายเหนือตอนล่าง

[ExtendeD]

เมื่อคืนได้รับข่าวร้าย ที่ไม่ค่อยอยากจะเชือสายตาตัวเองเลย ( อาการน่าเป็นห่วงจริง ๆ ราฟา... ) ตกดึกก็มีข่าวดีสุด ๆ มาปลอบใจ คงต้องใช้ประโยคเด็ดของพี่ตุ้ยอีกครั้ง สะใจจริง ๆ สะใจจริง ๆ 4 - 0 นี่ล่ะครับ ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ สบายใจแล้วก็ออกเดินทางกันต่อเลยดีกว่า


ระยะทางช่วงต่อไปที่ผมกับเจ้าตี๋ต้องเดินไปให้ถึงสะพานแห่งที่ 6 ที่เป็นสะพานสุดท้ายในเส้นทางระหว่าง สถานีบึงบอระเพ็ด - สถานีปากน้ำโพ นั้นยาวประมาณ 802 เมตรครับ




อย่างที่เห็นในรูปข้างล่างนี้ ทางช่วงแรก ๆ นี้จะเป็นทางตรง หลังจากผ่านหลักเขตสับเปลี่ยนของ สถานีปากน้ำโพ ไปแล้วก็จะโค้งไปทางซ้าย ส่วนข้างทางรถไฟช่วงนี้ก็มีต้นไม้ทั้งใหญ่ ทั้งเล็กเข้ามาแทนที่บ้านเรือน หรือโรงสีข้าวที่เคยเห็นในช่วงที่แล้ว แต่ก็ยังสามารถมองเห็นเขตชุมชนได้อยู่ไกล ๆ ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

หลักเขตสับเปลี่ยนของ สถานีปากน้ำโพ ที่ได้พูดถึงไปเมื่อสักครู่ ตั้งอยู่ข้างทางรถไฟบริเวณเสาโทรเลขที่ 251/11 ครับ




เดินผ่านหลักเขตสับเปลี่ยนไป ก็จะเริ่มเข้าสู่โค้งซ้าย ตอนที่เดินมาถึงที่นี่ผมกับเจ้าตี๋ได้ยินเสียงคล้าย ๆ กับหวีดรถจักรดังแว่วมาครับ ในช่วงเวลานั้น นอกจากขบวนที่ 202 และ 401 ที่ได้เจอกันที่สะพานที่ 4 แล้ว ไม่มีขบวนรถโดยสาร ( ที่วิ่งตามปกติ ) ผ่านมาอีก ก็เลยคิดว่าคงเป็นรถสินค้า แต่รออยู่สักพักก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีรถไฟขบวนไหนวิ่งผ่านมา ก็เลยเข้าใจว่าโรค Railrolism ของพี่กับเจ้าตี๋มาออกอาการพร้อม ๆ กัน คิดว่าเป็นเสียงหวีด Alsthom ซะอีก ( อาการเดียวกับที่พี่ ๆ น้อง ๆ หลายคนเป็นเมื่อตอนที่มาเยี่ยมเยือน สรพ. ปากน้ำโพ นั่นล่ะครับ )




ในเมื่อคิดว่าคงจะยังไม่มีเจ้าของทางมาทวงทางคืน ก็ออกเดินกันต่อครับ ที่บริเวณเสาโทรเลขที่ 251/3 มี " ป้ายเตือนระบุความเร็ว* " สำหรับขบวนรถเที่ยวล่อง ติดตั้งไว้ เมื่อพี่ ๆ พขร. เห็นป้ายนี้ก็ต้องเตรียมที่จะลดความเร็วลงไม่ให้เกิน 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วล่ะครับ



ทำไมหนอ... ถ่ายรูปรางที่อยู่ในโค้งออกมา ไม่สวยเหมือนกับใครเขาเลย ในรูปยังคงดูเหมือนว่ายังไม่เข้าไปอยู่ในโค้งเลย ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นก็เดินเข้าโค้งมาหลายช่วงเสาโทรเลขแล้ว หรือว่าทางช่วงนี้ยังโค้งไม่มากพอ

* รายละเอียดเกี่ยวกับ " ป้ายเตือนระบุความเร็ว " รวมถึงป้ายสัญญาณต่าง ๆ ที่ใช้ในกิจการรถไฟไทย สามารถอ่านได้จาก file " signalsign.pdf " ที่ download จาก rotfaithai.com
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

กำลังก้ม ๆ เงย ๆ หามุมถ่ายรูปทางโค้งอยู่ ก็ได้ยินเสียงคล้าย ๆ กับหวีดรถจักรอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ได้มาเฉพาะเสียงหวีด ได้ยินเสียงเร่งเครื่องยนต์ด้วย พอเดินให้พ้นโค้งไป มองไปทาง สถานีปากน้ำโพ ก็ต้องรีบวิ่งไปหามุมเหมาะ ๆ เพื่อเตรียมตัวเก็บภาพขบวนรถน้ำมันที่กำลังจะวิ่งผ่านมา ถ้ายืนอยู่แถว ๆ นั้นก็คงจะมีจุดที่เล็งเอาไว้อยู่ 2 จุด คือ
- ที่สะพานแห่งที่ 6 ทางทิศเหนือของ สถานีปากน้ำโพ ซึ่งก็คงต้องตัดทิ้งไปแบบไม่ต้องคิดมาก เพราะวิ่งยังไงก็ไปไม่ทันอยู่ดี
- มุมเหมาะ ๆ สักที่ ที่อยู่ในโค้งที่เพิ่งเดินผ่านมา

ตอนนี้ก็เหลืออยู่ทางเลือกที่ 2 อย่างเดียว แต่วิ่งย้อนกลับไปแล้วก็ถอยออกมาได้ไกลแค่นี้ล่ะครับ รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( ADD. ) หมายเลข 4405 ก็ทำขบวนรถน้ำมัน ( ไม่ทราบหมายเลข และต้นทาง - ปลายทาง ) วิ่งออกจาก สถานีปากน้ำโพ ผ่านผมกับเจ้าตี๋ที่ยืนอยู่ข้างทางไปเมื่อเวลา 09.22 น. ครับ




พอหลีกทางให้กับเจ้าของทางเรียบร้อยแล้ว ผมกับเจ้าตี๋ก็ออกเดินกันต่อ จนพ้นโค้งทางด้านทิศเหนือของ สถานีปากน้ำโพ ออกมา ก็จะเจอกับสะพานแห่งที่ 6 ที่เห็นอยู่ในรูปครับ



สำหรับสะพานแห่งนี้ ถ้ายังจำกันได้ เมื่อตอนเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ผมกับเจ้าตี๋ได้แวะมาเก็บไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนรายละเอียดก็ขอสรุปคร่าว ๆ ให้ได้อ่านกันอีกทีครับ

[ExtendeD]

ยังคงเหลือระยะทางช่วงสุดท้ายประมาณ 425 เมตร ผมกับเจ้าตี๋ก็จะไปถึง สถานีปากน้ำโพ แล้วครับ จะได้พักให้หายเหนื่อยสักที ถ้าดูจากรูปภาพของ Pointasia จะเห็นว่ารอบข้างของ สถานีปากน้ำโพ นั้น มีบ้านเรือนปลูกรายล้อมอยู่หลายหลังคาเรือน ซึ่งในจำนวนนี้ก็มีทั้งบ้านพัก ครฟ. ทั้งบ้านของชาวบ้าน ถนนที่เห็นอยู่ทางทิศตะวันออก ( ทางขวา ) ก็ยังคงเป็นถนนหมายเลข 225 เส้นเดิมครับ




ที่เห็นนี้คือประแจตัวริมสุดทางด้านทิศตะวันออกของ สถานีปากน้ำโพ ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

บรรยากาศที่ สถานีปากน้ำโพ ในวันปกติธรรมดาก็เงียบสงบแบบนี้ล่ะครับ ผิดกับวันที่พลพรรคพี่น้องชาว RFT.com รวมตัวกันไปเยี่ยมชม สรพ. ปากน้ำโพ แบบลิบลับเลย



สถานีปากน้ำโพ ในเส้นทางสายเหนือ ( ปลายทางสถานีเชียงใหม่ )
เป็นสถานีระดับที่ 2 อักษรย่อ ปพ. รหัสสถานี 1083
ตั้งอยู่ในตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์
ระยะทางจากสถานีกรุงเทพ 250.56 กิโลเมตร
ระบบสัญญาณที่ใช้ : ประแจกลไฟฟ้าชนิดบังคับสัมพันธ์ด้วยรีเลย์ และสัญญาณไฟสี ( ก.1ก ) *

* อ้างอิงจาก file station_north.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com

รายละเอียดเกี่ยวกับตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ สามารถหาเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaitambon.com


ในวันที่พวกเราชาว RFT.com ไปเยี่ยมชม สรพ. ปากน้ำโพ เมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้วนั้น บริเวณรอบข้าง สถานีปากน้ำโพ ส่วนใหญ่ถูกน้ำท่วมขังแบบที่เห็นในภาพของพี่ห่าน ( ขอยืมหน่อยนะครับพี่... ) จากกระทู้ ขบวนการนั่งยาง...เมื่อฤดูน้ำหลาก...ที่ปากน้ำโพ

[New_Henry]

[ExtendeD]

ผมกับเจ้าตี๋เดินมาจนถึง สถานีปากน้ำโพ เวลาประมาณ 09.30 น. นับเวลาตั้งแต่เริ่มต้นเดินกันมาจาก สถานีบึงบอระเพ็ด ประมาณ 07.00 น. ก็ 2 ชั่วโมงครึ่ง กับระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่ครับ เพราะเดินไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก ไม่ได้เน้นเรื่องความเร็ว ตามแผนที่วางไว้ ผมมีเวลาอยู่ที่ สถานีปากน้ำโพ นานพอสมควร กว่าที่ ขบวนรถเร็วที่ 111 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีเด่นชัย จะมาถึงก็ 11.34 น. โน่นเลยทีเดียว

เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงที่ผมต้องรอขบวนที่ 111 อยู่ที่ สถานีปากน้ำโพ ถือว่าไม่นานหรอกครับ เพราะว่านอกจากที่จะเดินไปเดินมาเก็บภาพรถสินค้าที่จอดเรียงรายกันอยู่ รวมถึงขบวนรถไฟที่วิ่งขึ้น - ล่องผ่าน สถานีปากน้ำโพ ไป ผมยังต้องตัดสินใจว่าจะยังคงไปค้างคืนที่พิษณุโลก แล้วในวันรุ่งขึ้นจะเดินทางต่อไปที่ สถานีห้วยไร่ ตามแผนการเดินทางที่ได้วางเอาไว้ดีหรือไม่ แต่ตอนนี้ผมขอพักเรื่องนั้นเอาไว้ก่อนครับ มาดูขบวนรถไฟที่วิ่งผ่านมาให้เห็นตลอดเวลา 2 ชั่วโมง ที่ผมอยู่ที่ สถานีปากน้ำโพ กันดีกว่า

ขบวนแรกเป็นขบวนรถน้ำมันเที่ยวขึ้น ไม่ทราบหมายเลข และต้นทาง - ปลายทาง ( อีกแล้ว ) ที่ได้รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( ALS. ) หมายเลข 4142 ทำขบวนผ่าน สถานีปากน้ำโพ ไปเมื่อเวลา 10.05 น. ครับ




THN. หมายเลข 1140 เป็นคันนำของ ขบวนรถเร็วที่ 106 ต้นทางสถานีศิลาอาสน์ - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ผ่าน สถานีปากน้ำโพ ไปเมื่อเวลา 10.55 น. ครับ




11.31 น. รถจักรดีเซลไฟฟ้า General Electric ( GEK. ) หมายเลข 4024 ทำขบวนรถสินค้า เข้ามาจอดอยู่ในรางหลีก ( รางที่ 4 ) ไม่แน่ใจว่านี่คือขบวนที่ 602 หรือเปล่านะครับ เพราะว่าช่วงกลางขบวนมี บขน. ที่บรรทุกรถยนต์ของทหารพ่วงมาหลายคันเลย


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ในวันนั้นรถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( ADD. ) หมายเลข 4407 ทำขบวนที่ 111 มาถึง สถานีปากน้ำโพ เวลา 11.45 น. ครับ



คุณพี่นายสถานีที่เห็นในรูปใจดีมากเลยครับ ตอนผมไปซื้อตั๋วคุณพี่เขาให้วารสารรถไฟสัมพันธ์มาด้วย ( ขอบคุณอีกทีครับคุณพี่... ) สำหรับวารสารรถไฟสัมพันธ์เล่มใหม่ล่าสุดสีชมพูนี้ คิดว่าตอนนี้คงจะหาจากประชาสัมพันธ์ตามสถานีรถไฟไม่ได้แล้ว ผมมีอยู่ทั้งหมด 6 เล่ม ถ้าไม่นับของน้องปาล์ม น้องปู๊น แล้วก็ของผมเองแล้ว ยังมีเหลืออีก 3 เล่ม ถ้าหากพี่ ๆ น้อง ๆ คนไหนอยากได้เก็บไว้อ่าน PM มาบอกผมก็ได้ครับ เดี๋ยววันที่ไปทุ่งสงจะหยิบใส่กระเป๋าติดไปให้ครับ


ทิ้งท้ายภารกิจหลักในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ วันแรกของ Second Stage เอาไว้ด้วยรูปนี้ครับ ผู้โดยสารที่อยู่บนขบวนที่ 111 ค่อนข้างหนาแน่นผิดกับที่ผมคิดเอาไว้เยอะเลยครับ ( นึกว่าอยู่บนรถท้องถิ่นสายอีสานใต้ซะอีก ) ผมกับเจ้าตี๋ก็เลยต้องมายึดประตูของบชส. คันที่ 3 เป็นฐานที่ตั้งตลอดการเดินทางเลยครับ ลมพัดเย็นสบาย น่าเสียดายที่ท้องฟ้าไม่สวยเลย...


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ช่วงบ่ายของวันที่ 2 ก.พ. ผมกับเจ้าตี๋ลงจากขบวนที่ 111 ที่ สถานีตะพานหิน เพื่อเดินทางตามแผนการใหม่ที่เพิ่งคิดได้ตอนอยู่ที่ สถานีปากน้ำโพ แผนการเดินทางใหม่ที่พูดถึงนี้ กำหนดขึ้นด้วยความตั้งใจจะตามเก็บสะพานที่อยู่ในเส้นทางสายเหนือตอนล่างให้หมด ( เฉพาะที่เป็นสะพานเหล็กแบบโครงขึ้นที่จำได้ ) จะได้เหลืออยู่เพียงแค่สะพานที่ สถานีห้วยไร่ สถานีแม่เทียบ และอาจจะรวมถึง สถานีบางกระทุ่ม ซึ่งพอจะจัดทริปไปเก็บพร้อม ๆ กันได้ ส่วนแผนการเดินทางใหม่นั้น จะไปเก็บสะพานที่ไหนบ้าง ตามมาดูกันเลยครับ

ในคืนที่ผมกับเจ้าตี๋ค้างคืนอยู่ที่ตัวอำเภอตะพานหินก็ไปพักที่ โรงแรมนิวหัวหิน ราคาห้องละ 450 บาทต่อคืน ที่ได้เคยได้เห็นกันไปแล้วในกระทู้ จากตะวันออก - ขึ้นเหนือ : 2,700 กม. กับ 12 จุดหมาย เช้ามืดวันต่อมาผมกับเจ้าตี๋ก็มาเริ่มต้นการเดินทางในวันใหม่ที่ สถานีตะพานหิน ครับ



สถานีตะพานหิน ในเส้นทางสายเหนือ ( ปลายทางสถานีเชียงใหม่ )
เป็นสถานีระดับที่ 2 อักษรย่อ ตห. รหัสสถานี 1099
ตั้งอยู่ในตำบลตะพานหิน อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร
ระยะทางจากสถานีกรุงเทพ 319.00 กิโลเมตร
ระบบสัญญาณที่ใช้ : ประแจกลไฟฟ้าชนิดบังคับสัมพันธ์ด้วยรีเลย์ และสัญญาณไฟสี ก.1ก *

* อ้างอิงจาก file station_north.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com

รายละเอียดเกี่ยวกับตำบลตะพานหิน อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร สามารถหาเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaitambon.com


ขบวนรถไฟที่จะพาผมกับเจ้าตี๋ไปสู่จุดหมายต่อไปก็คือ ขบวนรถธรรมดาที่ 212 ต้นทางสถานีตะพานหิน - ปลายทางสถานีกรุงเทพ รถจักรที่ทำขบวนก็คือ รถจักรดีเซลไฟฟ้า General Electric ( GEK. ) หมายเลข 4047 ครับ



ส่วนไฟ Headlight ที่ส่องสว่างมาจากทางด้านทิศเหนือนั้นคือ Headlight ของ กซข.ป. Daewoo คันนำ ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 10 ต้นทางสถานีเชียงใหม่ - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ครับ
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[beer45]

เสียดายไม่ได้เจอน้องเต้ย กับเจ้าตี่ ตอนแอบไปเที่ยวตะพานหิน ไม่งั้นไม่ต้องเสียค่าโรงแรมแน่ๆๆ ครับ....ว่าแต่แอบไปเที่ยวไม่บอกพี่มั่งเลยนะครับ....ยินดีอำนวยความสะดวกให้เต็มที่เลยครับ....