| View previous topic :: View next topic   | 
	
	
	
		| Author | 
		Message | 
	
	
		Mongwin 
	  1st Class Pass (Air)
  
  
  Joined: 24/09/2007 Posts: 49278 
      Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
  | 
		
			
				 Posted: 11/07/2008 7:31 pm    Post subject:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				ภาพหาดูยากครับ    
 
 
ภาพถ่ายทางอากาศ ปี 2517
 
มองเห็นอาคารสถานีรถไฟน้ำน้อย ริมถนนกาญจนวนิช ชานชาลา รางหลีก
 
 
ขวามือไปสงขลา มองเห็นสุสานขุนนิพัทธ์จีนนคร อยู่ที่มุมบนขวา
 
ขอขอบพระคุณ พ.อ.อ.กังวาล กมหงษ์ กรมแผนที่ทหาร ประสานงานค้นหาข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศ
 
 
 
 
 
เปรียบเทียบกับภาพปี 2548 แทบไม่เหลือร่องรอยอะไรอีกแล้ว
 
แต่ก็รอเฮียใช้นำมาให้รับชมครับ
 
 
 
  Last edited by Mongwin on 12/07/2008 12:00 am; edited 1 time in total | 
			 
		  | 
	
	
		| Back to top | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		heerchai 
	  1st Class Pass (Air)
  
  
  Joined: 29/07/2006 Posts: 7730 
      Location: อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
  | 
		
			
				 Posted: 11/07/2008 7:38 pm    Post subject:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				ภาพถ่ายมองหาสถานที่ได้ชัดเจน ผมลงพื้นที่ดูจุดนี้ ไม่ยาก
 
ขอขอบคุณ อาจารย์ หม่องวิน ที่ช่วยขยายความรู้เพิ่มเติม ดีครับ | 
			 
		  | 
	
	
		| Back to top | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		Mongwin 
	  1st Class Pass (Air)
  
  
  Joined: 24/09/2007 Posts: 49278 
      Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
  | 
		
			
				 Posted: 11/07/2008 11:27 pm    Post subject:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				ผมจะติดตามชมผลงานของเฮียใช้อยู่เสมอนะครับ    
 
 
------------------------------
 
 
ภาพสะพานโครงขึ้นน้ำน้อย ปี 2517 เมื่อครั้งคลองน้ำน้อยยังไม่มีวัชพืชขึ้นรก
 
 
ด้านขวามือไปสงขลา มองเห็นแถบขาวๆ ข้างราง อยู่หน้าโรงเรียนชุมชนบ้านน้ำน้อย
 
นั่นคือ ป้ายหยุดรถตลาดน้ำน้อย กม. 939.20 ครับ
 
รถชานเมืองจอดที่ป้ายหยุดรถนี้ เพื่อรับส่งนักเรียนและชาวบ้านครับ
 
เนื่องจากสถานีน้ำน้อย อยู่ห่างไกลชุมชน
 
 
 
 
 
เปรียบเทียบกับภาพปี 2548 ครับ
 
 
  | 
			 
		  | 
	
	
		| Back to top | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		umic2000 
	  2nd Class Pass
  
  
  Joined: 06/07/2006 Posts: 676 
      Location: Lenin Grad , U.S.S.R.
  | 
		
			
				 Posted: 12/07/2008 12:35 am    Post subject:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				เห็นภาพอดีตกับภาพในปัจจุบันแล้วสะท้อนใจนะครับอาจารย์ ว่าทั้งที่ทางรถไฟสายนี้มีความสำคัญและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ต่อเมืองสงขลามากขนาดไหน แต่เหตุใดจึงไม่มีการดูแลรักษาทางรถไฟไว้ให้ดี อย่างน้อยถึงไม่มีขบวนรถวิ่งเข้ามาแล้วก็ควรป้องกันอย่าให้คนรุกล้ำเข้ามาจนถึงตัวรางรถไฟได้แบบนี้ เพราะถ้ามีการรุกล้ำเข้ามาแล้วถ้าถึงขั้นลงหลักปักฐานสร้างตึกรามบ้านช่องไปแล้ว ถ้าจะให้เวนคืนก็คงจะยากเพราะต่างคนต่างก็มีอ้างเหตุผลสู้กัน บางทีลากยาวถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นสิบปี พอดีโครงการล้มก่อนละครับ
 
 
ส่วนตรงไหนที่จำเป็นต้องสร้างสาธารณประโยชน์เช่น ถนน ท่อระบายน้ำ ฯลฯ หากเป็นไปได้ก็ขอให้สร้างแบบพบกันคนละครึ่งทาง เช่นการสร้างถนนก็ให้สร้างถนนทับลงไปบนรางได้ แต่ต้องเว้นร่องบังใบแบบถนนบนสะพานมิตรภาพไทย-ลาวหรือในต่างประเทศ เผื่อมีการเปิดเดิินขบวนรถอีกไม่ใช่ราดยางทับลงไปเฉยเลยแบบนี้ 
 
 
ที่สำคัญต้องไม่ปล่อยให้การเมืองทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นเข้ามาแทรกแซงด้วย เพราะการเมืองแทรกแซงลงไปที่ไหน ความฉิบหายบรรลัยจะมาเยือนทันทีครับ มีปัญหาตั้งแต่การคอร์รัปชั่นฉ้อราษฎร์บังหลวง การขัดขากันเอง ฯลฯ พูดถึงแล้วเหนื่อยใจแทนครับ   | 
			 
		  | 
	
	
		| Back to top | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		Mongwin 
	  1st Class Pass (Air)
  
  
  Joined: 24/09/2007 Posts: 49278 
      Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
  | 
		
			
				 Posted: 12/07/2008 1:13 am    Post subject:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				อย่างที่คุณ umic2000 ว่าเลยครับ
 
จริงๆ แล้วการเมืองและอิทธิพลท้องถิ่น ก็คงเข้ามาแทรกแซงตั้งแต่ยุคกระโน้นน่ะแหละครับ
 
สายสงขลาปัจจุบันเลยมีสภาพอย่างที่เห็น
 
 
ผมอ่านรายงานประจำปี 2520 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย มีข้อความตอนหนึ่งว่าดังนี้ครับ
 
 
 	  | รายงานประจำปี 2520 wrote: | 	 		  ข้อสังเกตของคณะกรรมการรถไฟฯ เพื่อปรับปรุงแก้ไขดำเนินงานของการรถไฟฯ ในเรื่องต่างๆ
 
...
 
เรื่องการขอยุบเลิกการเดินรถในทางสายแยก ได้ให้ข้อสังเกตว่าควรมีการประสานงานเป็นการภายในระหว่างการรถไฟฯ กับกรมทางหลวง โดยพิจารณากันในแง่ที่จะมิให้ประชาชนตัองได้รับความเดือดร้อนเมื่อยุบเลิกการเดินรถสายนั้นๆ  ด้วยการเร่งรัดเรื่องและเริ่มต้นงานให้เขาเห็น พยายามมองในแง่ช่วยกัน พัฒนาให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมด้วย | 	  
 
 
และในรายงานประจำปี 2521 มีข้อความตอนหนึ่งว่าดังนี้
 
 
 	  | รายงานประจำปี 2521 wrote: | 	 		  | ในรอบปีงบประมาณ 2521 นี้ เนื่องจากทางหลวงหลายสายที่สร้างขนานไปกับทางรถไฟเริ่มเปิดใช้การได้แล้วเป็นบางตอน...เช่น หลังสวน-สุราษฎร์ธานี เปิด มิ.ย.21...ทำให้การโดยสารท้องถิ่นทางรถไฟลดจำนวนลงไปมาก แม้ว่าการรถไฟฯ จะได้พยายามทุกวิถีทางที่จะปรับปรุงการเดินขบวนรถให้เหมาะกับความต้องการ ก็ยังไม่อาจสู้กับคู่แข่งทางถนนได้ | 	  
 
 
ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ผมคงไม่จำเป็นต้องวิจารณ์นะครับ สะท้อนภาพการเมืองและสังคมยุคนั้นได้เป็นอย่างดี | 
			 
		  | 
	
	
		| Back to top | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		Mongwin 
	  1st Class Pass (Air)
  
  
  Joined: 24/09/2007 Posts: 49278 
      Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
  | 
		
			
				 Posted: 12/07/2008 1:24 am    Post subject:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				เกี่ยวกับวงเวียนกลับรถจักรที่สงขลา ซึ่งยังหาไม่เจอนั้น
 
จึงขอนำภาพวงเวียนกลับรถจักรของสถานีชุมทางหาดใหญ่มาลงไว้เพื่อเป็นข้อมูลเปรียบเทียบในการค้นหาต่อไปครับ
 
 
หมายเหตุ วัดด้วยโปรแกรม Google Earth วงเวียนกลับรถจักรหาดใหญ่ มีรัศมีประมาณ 15-16 เมตร ตรงกับที่คุณวิศรุตให้ข้อสังเกตไว้    
 
 
ภาพถ่ายทางอากาศวงเวียนกลับรถจักรชุมทางหาดใหญ่ พ.ศ. 2516
 
 
 
 
 
ภาพถ่ายทางอากาศวงเวียนกลับรถจักรชุมทางหาดใหญ่ พ.ศ. 2517
 
 
 
 
 
ภาพถ่ายดาวเทียม QuickBird วงเวียนกลับรถจักรชุมทางหาดใหญ่ พ.ศ. 2549
 
 
 
 
 
และมีข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเป็นแนวทางดังนี้ครับ
 
- ยกเลิกทางงวงจ่ายน้ำ สถานีสุพรรณบุรี 6 มิ.ย.2521
 
- ยกเลิกทางสามเหลี่ยมกลับรถจักร สถานีชุมทางแก่งคอย 15 ก.ย. 2521
 
- ยกเลิกทางสามเหลี่ยมกลับรถจักร สถานีลำนารายณ์ 15 ก.ย. 2521
 
- ยกเลิกทาง 12,13,14 และ 15 สถานีชุมทางหาดใหญ่ 15 ก.ย. 2521
 
- ยกเลิกทางสามเหลี่ยมกลับรถจักร สถานีขอนแก่น 15 ก.ย.2521
 
- ยกเลิกแท่นกลับรถจักร อุดรธานี 15 ก.ย. 2521
 
ที่มา : รายงานประจำปี 2521 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย
 
 
ดังนั้นหากสามารถหารายงานประจำปี เก่ากว่าปี 2520 มาตรวจสอบ อาจพบอะไรที่เกี่ยวข้องกับสถานีสงขลาก็ได้ครับ    | 
			 
		  | 
	
	
		| Back to top | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		Mongwin 
	  1st Class Pass (Air)
  
  
  Joined: 24/09/2007 Posts: 49278 
      Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
  | 
		
			
				 Posted: 12/07/2008 1:41 am    Post subject:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				ในวันที่ 1 มีนาคม 2520
 
 
ยกเลิกขบวนรถชานเมืองที่ 241/242, 243/244, 245/246, 247/248 ซึ่งเคยเดินระหว่างสถานีชุมทางหาดใหญ่-สงขลา
 
 
-------------------------------
 
 
ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2521
 
 
เลิกเดินขบวนธรรมดาโดยสารที่ 237/238, 239/240 ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา
 
เลิกเดินขบวนรถรวม ข. ที่ 481/482 ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา
 
 
เป็นอันปิดตำนานการเดินรถไฟสายสงขลาเพียงเท่านั้น    
 
 
นอกจากนี้ วันที่ 1 กรกฎาคม 2521 ได้ยกเลิกขบวนรถโดยสาร 131/132 ชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ และเปิดเดินขบวนรถรวม ก. ที่ 423/424 ชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ แต่ก็ต้องยกเลิกอีกครั้งในวันที่ 1 พฤษภาคม 2522
 
 
-------------------------------
 
 
ยุบสถานีสงขลา 1 ก.ค. 21
 
ยุบที่หยุดรถเขาบันไดนาง 1 ก.ค.21
 
ยุบที่หยุดรถน้ำน้อย 1 ก.ค. 21
 
ยุบที่หยุดรถควนหิน 1 ก.ค. 21
 
ยุบที่หยุดรถน้ำกระจาย 1 ก.ค.21
 
 
ยุบที่หยุดรถทุ่งนาทะเล (สายกาญจนบุรี) 15 ก.ย.2521
 
ยกเลิกเรือยนต์รับส่งผู้โดยสารข้ามฟาก จากมหาชัย-บ้านแหลม 15 ม.ค.22
 
 
--------------------------------
 
 
 
วันสุดท้ายของการเดินรถสายสงขลา
 
ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา เป็นทางรถไฟทางเดี่ยว คิดเป็นระยะทาง 29.605 กม. และทางหลีก 2.788 กม. | 
			 
		  | 
	
	
		| Back to top | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		Mongwin 
	  1st Class Pass (Air)
  
  
  Joined: 24/09/2007 Posts: 49278 
      Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
  | 
		
			
				 Posted: 12/07/2008 2:28 am    Post subject:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				ที่หยุดรถน้ำกระจาย สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือ ต้นเลียบใหญ่อันร่มรื่น ริมชานชาลา
 
สวนมะพร้าวยังคงมีอยู่ แม้จะลดน้อยลง
 
 
14 กุมภาพันธ์ 2517 เวลา 10.52 น.
 
 
 
 
 
3 ตุลาคม 2550
 
 
  | 
			 
		  | 
	
	
		| Back to top | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		Mongwin 
	  1st Class Pass (Air)
  
  
  Joined: 24/09/2007 Posts: 49278 
      Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
  | 
		
			
				 Posted: 12/07/2008 9:42 am    Post subject:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				 	  | rodfaithai wrote: | 	 		  ผมจำไม่ได้แล้วว่าต้องใช้ภาพ 2 ภาพ หรือ 1 ภาพ ในการดูให้เป็น 3 มิติ 
 
เคยเห็นตอนวันเด็ก 
 
ต่อมาก็เรียนใน Survey แต่ลืมหมดแล้ว 
 
ลองถามเจ้าหน้าที่กรมฯ ดูครับ 
 
 
ที่นี้ถ้าต้องใช้ 2 ภาพ ต้องซื้อภาพที่ถ่ายมาให้เป็น Stereo จะเอาภาพธรรมดามาดูให้เป็น Stereo มันจะไม่เป็น 3 มิติ 
 
 
การถ่ายภาพ Stereo จะใช้กล้อง 2 ตัว(หรือกล้องเดียวแต่ 2 เลนส์)วางห่างกันในระยะที่เหมาะสม แล้วกดชัตเตอร์พร้อมกัน | 	  
 
 
วันศุกร์ที่ 11 ก.ค. 51 ผมไปที่แผนกผลิตภาพถ่ายทางอากาศ กองบินถ่ายภาพทางอากาศ กรมแผนที่ทหาร ถ.กัลยาณไมตรี ข้างพระบรมมหาราชวังและกระทรวงกลาโหม พบกับพันจ่าอากาศเอกกังวาล ซึ่งคอยเป็นธุระให้เรื่องภาพถ่ายทางอากาศตลอดงานนี้ ยังไม่ทันถามเรื่องนี้เลยครับ ท่านถามผมก่อนเลยว่า"เอาเป็นแบบภาพเหลื่อมหรือเปล่าครับ จะได้ดูเป็นสามมิติ หรือว่าจะดูด้วยตาเปล่า" เข้าทางเลย
 
 
คุยกันเรื่องนี้สรุปว่า ในการบินถ่ายภาพทางอากาศแบบสามมิตินั้น ไม่ได้ใช้กล้องสองเลนส์วางเหลื่อมกันเหมือนถ่ายภาพวิวทั่วไป เพราะระยะห่างจากพื้นดินไกลมาก เกิดการเหลื่อมน้อย แต่จะใช้วิธีให้เครื่องบินบินไปกดชัตเตอร์ไปเรื่อยๆ (พูดแบบชาวบ้านนะครับ รายละเอียดทางเทคนิคผมก็ไม่ค่อยมีพื้นความรู้ เลยไม่กล้าถามมากกว่านี้) จะได้ภาพถ่ายทางอากาศจำนวนมาก แต่ละภาพครอบคลุมพื้นที่เลื่อนห่างกันไปเพียงเล็กน้อย ซึ่งเมื่อนำมาปรับแก้เชิงเรขาคณิตแล้ว จะสามารถมองด้วยอุปกรณ์มองภาพ (ที่มีเลนส์สองเลนส์) เป็นสามมิติเห็นภูเขา ตึกพุ่งทะลุขึ้นมาจากกระดาษได้
 
 
ในยุคที่ไม่มีภาพถ่ายดาวเทียมแบบชัดๆ เหมือน Google Earth ทางกรมแผนที่ฯ ก็ใช้วิธีนี้ในการลงเส้นชั้นความสูงในแผนที่ภูมิประเทศครับ
 
 
ที่นี้ถ้าจะซื้อภาพถ่ายแบบ"คู่ซ้อน"อันนี้มาเพื่อสำรวจเส้นทางรถไฟสายสงขลายุค 30 ปีก่อน อาจจะต้องใช้ภาพถ่ายทางอากาศนับร้อยภาพครับ ใช้งบประมาณเป็นหมื่นบาท
 
 
ผมได้งบวิจัยจากทางมหาวิทยาลัยฯ มาไม่กี่พันบาทครับ     เลยซื้อภาพถ่ายแบบ overlap มาเพียง 15 ภาพ (แต่ละภาพจะนำมาต่อกันแบบโมเสคได้ครับ overlap กันภาพละไม่เกิน 20%) ราคาภาพละ 110 บาท (ราคาหน่วยงานราชการจัดซื้อครับ) แก้ขัดไปก่อนครับ | 
			 
		  | 
	
	
		| Back to top | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		Mongwin 
	  1st Class Pass (Air)
  
  
  Joined: 24/09/2007 Posts: 49278 
      Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
  | 
		
			
				 Posted: 12/07/2008 10:08 am    Post subject:  | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				นี่ครับตัวอย่างของภาพที่ถ่ายแบบเหลื่อมเวลาเหลื่อมสถานที่กันเล็กน้อย (บินไปกดชัตเตอร์ไป)
 
เป็นภาพบริเวณสะพานโครงขึ้นข้ามคลองอู่ตะเภา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาครับ
 
ภาพบนกํบภาพล่าง ลองดูก้อนเมฆก้อนใหญ่เปรียบเทียบกันนะครับ
 
 
ภาพบนเมฆบังสะพานโครงขึ้นข้ามคลองอู่ตะเภามิดเลย
 
พอเหลื่อมมาอีกนิด เห็นสะพานแล้ว ดีใจจัง    
 
 
สองภาพนี้ถ้านำไปดูด้วยกล้องมองภาพสามมิติ (ต้องปรับให้ตำแหน่งตรงกันนะครับ ภาพข้างล่างยังไม่ตรง)
 
จะเห็นเมฆลอยสูงขึ้นมาจากกระดาษเลยครับ เสียดาย ถ้ามีพวกตึกสูงๆ ด้วย จะเห็นเป็นสามมิติชัด สนุกมากครับ    
 
 
 
 
  | 
			 
		  | 
	
	
		| Back to top | 
		 | 
	
	
		  | 
	
	
		 |