View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43960
Location: NECTEC
|
Posted: 04/08/2006 11:37 am Post subject: ข่าวเกี่ยวกับรถไฟสายตะวันออก |
|
|
' วงศ์สวัสดิ์ ' ลุย รถไฟมาบตาพุด เพิ่มทุนวินโคสท์
ไทยโพสต์ 4 สิงหาคม 2549 กองบรรณาธิการ
กลุ่มวงศ์สวัสดิ์ใช้สิทธิ์เต็มจำนวนเพิ่มทุน " วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค " 140 ล้าน เดินหน้าโครงการขนส่งทางรถไฟมาบตาพุด - แหลมฉบัง เปิดบริการขนส่งปฐมฤกษ์ พ.ย.นี้ มั่นใจคืนทุนใน 7 ปี
นายภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด ( มหาชน ) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทมีมติเพิ่มทุนจากทุนจดทะเบียนเดิม 367,208,910 บาท อีก 143,170,550 บาท เป็น 510,381,460 บาท เพื่อลงทุนโครงการขนส่งสินค้าทางรถไฟผ่านบริษัท วินโคสท์ โลจิสติกส์ จำกัด และบริษัท วินโคสท์ ทรานสปอร์ต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ มูลค่าโครงการประมาณ 350 ล้านบาท
นางสาวชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์การตลาด บมจ.วินโคสท์ฯ กล่าวว่า ในฐานะของผู้ถือหุ้นหลัก กลุ่มวงศ์สวัสดิ์ตกลงใช้สิทธิ์การเพิ่มทุนครั้งนี้เต็มจำนวนตามสัดส่วนที่ถือหุ้น 56.37% ส่วนผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ เห็นชอบในการเพิ่มทุนครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกในโครงการใหม่ของบริษัท
" โครงการขนส่งทางรถไฟพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด - แหลมฉบัง มีอนาคตที่ดี เนื่องจากเป็นบริการพื้นฐาน และเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในนิคมฯ มาบตาพุด โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่มีการส่งออกสินค้ามากกว่า 150,000 ทีอียู/ปี เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่งในภาวะราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอีก คาดโครงการคืนทุนภายใน 7 ปี และมีผลตอบแทนการลงทุน 19% พร้อมเปิดให้บริการในเดือน พ.ย.นี้" นางสาวชินณิชากล่าว
ปัจจุบัน ผู้ถือหุ้นหลัก บมจ.วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค ประกอบด้วย กลุ่มวงศ์สวัสดิ์ 56.37%, นายสุรสิทธิ์ ติยะวัชรพงศ์ 8.2%, นายวิสาล นีรนาทโกมล 6.7% และผู้ถือหุ้นรายย่อย 28.73%
Last edited by Wisarut on 23/02/2007 11:00 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/03/2006 Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น
|
Posted: 04/08/2006 11:40 am Post subject: |
|
|
นับเป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่เอกชนหันมาลงทุน และใช้บริการรถไฟในการขนส่งมากยิ่งขึ้นนะครับ |
|
Back to top |
|
|
KaittipsBOT
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 4150
|
Posted: 17/08/2006 4:00 pm Post subject: |
|
|
บริษัทนี้..ชื่อคุ้นๆ นามสกุลน้องเขยใครเอย.... |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43960
Location: NECTEC
|
Posted: 23/02/2007 11:01 am Post subject: |
|
|
เอือมแออัด - ขยะอุตสาหกรรม
แนะรัฐฯ เร่งฟื้น" อีสเทิร์นซีบอร์ด " ขอรถไฟรางคู่ " หนองงูเห่า - ระยอง "
มติชน - วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550
นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และอดีตประธานสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ( จ.ชลบุรี - ระยอง - จันทบุรี - ตราด ) เปิดเผยว่า โครงการอีสเทิร์นซีบอร์ดเริ่มมาตั้งแต่ปี 2528 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 22 ปี ที่นโยบายของรัฐบาลได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นที่ในภาคตะวันออกเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้สาธารณูปโภคที่รัฐบาลสร้างไว้ ขณะนี้เกินขีดจำกัดไม่สามารถรองรับได้ อาทิ ถนนหนทางการจราจรแออัด ไฟฟ้าตก น้ำประปาขาดแคลน รวมทั้งปัญหาขยะอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งในเรื่องนี้ 3 กระทรวงหลัก กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะต้องรีบลงมาแก้ไขโดยด่วน
นายสุรชัยกล่าวว่า หากมองในเชิงธุรกิจเศรษฐกิจแล้ว โดยเฉพาะ จ.ชลบุรี และระยอง จะต้องพัฒนาให้เป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ เพราะยังมีพื้นที่อีกจำนวนมาก ที่สามารถรองรับการลงทุนของต่างชาติได้ ตนมองว่าหากท้องถิ่นมีการประสานงานกัน โดยจัดทำยุทธศาสตร์เครือข่ายท้องถิ่น หรือกลุ่มคลัสเตอร์ของท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการพัฒนาร่วมกัน ไม่ใช่พัฒนาแบบกลุ่มไข่ดาว คือเจริญเป็นกระจุก และบริเวณรอบนอกขาดการเหลียวแล ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยกันระหว่างรอยต่อขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่าจะต้องพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน
" โดยเฉพาะในเรื่องการจราจรทางบก หากเดินทางเข้ามาในชลบุรี จะพบว่าการจราจรแออัดมาก จะต้องเร่งโครงการรถไฟรางคู่ ตั้งแต่สุวรรณภูมิ มาชลบุรี และระยอง เพื่อให้ประชาชนหันมาใช้บริการให้มากขึ้น ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว การจัดระบบการจ่ายน้ำให้เพียงพอ " นายสุรชัยกล่าว และว่า ทุกวันนี้รัฐบาลไม่ได้ทำงานในเชิงรุก ในการพัฒนาโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ดอย่างจริงจัง ไม่ใช่รัฐบาลเริ่มนโยบายแล้วปล่อยทิ้งร้าง ควรส่งเสริมให้ต่างชาติมองเห็นศักยภาพในพื้นที่ จ.ชลบุรี และจ.ระยองว่า เป็นเมืองที่น่าลงทุน ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนอีกทางหนึ่ง ผลพวงที่จะได้รับคือส่งเสริมเศรษฐกิจของชาติให้แข็งแรงขึ้น |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 23/02/2007 11:50 am Post subject: |
|
|
อ่ะ...บริษัท วินโคสท์ อินดัสเตรียล น่าจะลงทุนด้านหัวรถจักร รถพ่วง บ้างนา...หากจะให้บริการรวดเร็วยิ่งขึ้น
พอทราบความคืบหน้าของ บริษัทขนส่งสินค้าทางราง ในเครือของการรถไฟฯ บ้างไหมครับ ? ไม่ทราบว่า คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43960
Location: NECTEC
|
Posted: 29/03/2007 8:56 am Post subject: |
|
|
คค.งัดแผนช่วย ร.ฟ.ท.เพิ่มรายได้ ดึงเอกชนเช่าใช้รางขนส่งสินค้า
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2204 29 มี.ค. - 31 มี.ค. 2550
คมนาคม ร่างเกณฑ์ประกาศเปิดแข่งขันเสรีขนส่งสินค้าทางรถไฟ เตรียมงัดมาตรการจูงใจ ดึงเอกชนร่วมเช่าใช้ราง เผยถกตัวเลขค่าเช่าใช้รางนัดแรกเอกชนไม่เห็นด้วย อ้างหัก 20% จากค่าระวางสูงเกิน หวั่นกระทบต้นทุน วอนทบทวนใหม่ คาดต้น เม.ย. พร้อมส่งหนังสือขอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่าต้องเดินตามกรอบร่วมทุนหรือไม่ ก่อนประกาศใช้เป็นทางการมิ.ย.นี้
ดร.จุฬา สุขมานพ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม ( สปค.) เปิดเผย " ฐานเศรษฐกิจ " ว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคม ( คค.) อยู่ในระหว่างการจัดทำร่างหลักเกณฑ์ เตรียมเปิดเชิญชวนให้เอกชนเข้าดำเนินการขนส่งสินค้าทางรถไฟ เพื่อเปิดตลาดการขนส่งสินค้าทางรถไฟให้เป็นไปอย่างเสรี และเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย ( ร.ฟ.ท.) ด้วย ซึ่งคาดว่าจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการได้ประมาณเดือน มิ.ย.50 นี้
สำหรับเงื่อนในการเชิญชวนเอกชนเข้าดำเนินการขนส่งสินค้าทางรถไฟนั้น คือ จะให้เอกชนผู้ประกอบการขนส่งทั่วไป จัดหารถจักรและแคร่มาวิ่งให้บริการบนทางรถไฟ ภายใต้กรอบระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี โดยจ่ายค่าตอบแทนการใช้ระบบต่างๆ ให้แก่ ร.ฟ.ท. ซึ่งเป็นเจ้าของรางรถไฟ ซึ่งประกอบไปด้วย ค่าธรรมเนียมการอนุญาตให้เช่าสิทธิใช้รางรถไฟ ค่าตอบแทนการใช้รางในลักษณะค่าเช่า และค่าตอบแทนการใช้สถานีรถไฟในการขนถ่ายสินค้า และค่าธรรมเนียมในการอนุญาตเช่าสิทธิใช้รางรถไฟ ซึ่ง ร.ฟ.ท. จะรับผิดชอบในการจัดการจราจรให้เกิดความสะดวกปลอดภัย ในการเดินรถ รวมถึงการจัดหาหรือฝึกอบรมพนักงานขับรถให้
โดยเบื้องต้นนี้ กระทรวงคมนาคม ได้คิดแนวทางการคิดค่าตอบแทนทั้ง 3 ส่วน ไว้ว่า ในส่วนของค่าธรรมเนียมการให้เช่าสิทธิใช้รางรถไฟ จะกำหนดเป็นอัตราตายตัวที่ประมาณ 10,000 บาทต่อราย ส่วนอัตราค่าเช่าใช้รางนั้น เบื้องต้นกำหนดจะเก็บในอัตรา 20% ของค่าระวางที่ ร.ฟ.ท.เรียกเก็บจากค่าใช้บริการในปัจจุบัน เช่น หากปัจจุบันค่าระวางตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ในระยะทางไม่เกิน 100 กิโลเมตร สำหรับตู้เปล่าคือ 1,000 บาท และสำหรับตู้ที่บรรจุสินค้าคือ 1,500 บาท ค่าเช่าใช้รางที่เอกชนจะต้องจ่ายให้แก่ ร.ฟ.ท.จะเป็นจำนวน 200 บาท และ 300 บาท ตามลำดับ ส่วนสินค้าที่มีน้ำหนักมาก เช่น วัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ ก็จะคำนวณจากอัตราที่เรียกเก็บจากสินค้าเหมาหลัง
ขณะที่การคิดค่าธรรมเนียมหรือค่าเช่าใช้สถานีเพื่อขนถ่ายสินค้า นั้น ทาง ร.ฟ.ท.จะเป็นผู้กำหนดอัตราค่าเช่า ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ให้ข้อแนะนำไปว่า ร.ฟ.ท.ควรกำหนดอัตราค่าเช่า ค่าธรรมเนียมการใช้พื้นที่ โดยคำนวณจากขนาดของพื้นที่ที่ต้องการใช้ โดย อัตราค่าตอบแทนควรจะเป็นอัตราที่ ร.ฟ.ท. ให้เช่าสำหรับการดำเนินกิจการที่เป็นสาธารณูปโภค หรือที่ไม่ใช่ในเชิงพาณิชย์
หัวหน้ากลุ่มพัฒนาการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ กล่าวต่อว่า กระทรวงคมนาคม ได้นำข้อเสนอดังกล่าว หารือร่วมกับ ตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( สศช.) หรือสภาพัฒน์ สภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สถาบันการเงิน และ ร.ฟ.ท. เมื่อวันที่ 23 มี.ค.50 ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาในรายละเอียด ซึ่งในเบื้องต้นนี้ ตัวแทนภาคเอกชนเห็นว่าอัตราค่าเช่าราง 20% ของค่าระวางนั้น ยังเป็นอัตราที่สูงเกินไป จะทำให้มีต้นทุนมากขึ้น เนื่องจากเอกชนจะต้องลงทุนในด้านการจัดหาหัวรถจักและแคร่ด้วย จึงต้องการให้ลดลงอีก อีกทั้งต้องการให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาวางแผนการพัฒนาสถานีบรรจุสินค้า ( ทรัคเทอร์มินอล ) และเส้นทางคมนาคมต่างๆ ทั้งทางบกและทางน้ำ ให้เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟอย่างเป็นระบบและเข้าถึง เพื่อให้ง่ายต่อการขนถ่ายสินค้า และช่วยลดต้นทุนด้วย
ภายหลังจากที่ได้หารือรอบแรกกันไปแล้ว ทางกระทรวงคมนาคมจะนำข้อเสนอที่ได้มารวบรวม ปรับปรุง จัดทำเป็นข้อกำหนดที่ชัดเจนเพื่อเตรียมประกาศใช้ต่อไป ในขณะเดียวกัน ประมาณต้นเดือน มิ.ย.50 นี้ จะส่งหนังสือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อขอให้ตีความด้วยว่าการเชิญชวนเอกชนมาดำเนินกิจการขนส่งสินค้าทางรถไฟ แล้วจ่ายค่าเช่าใช้รางให้ ร.ฟ.ท.นั้น เช้าข่ายที่จะต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 หรือไม่ ดร.จุฬา กล่าว |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43960
Location: NECTEC
|
Posted: 02/04/2007 9:38 am Post subject: |
|
|
ยกเลิกสถานีราชปรารภ
Dailynews - March 30, 2007
น.ส.มณฑกาญจน์ ศรีวิลาศ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย ( รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท.มีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่บริเวณสถานีราชปรารภ ( ที่หยุดรถราชปรารภ ) เพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้าสายมักกะสัน - สุวรรณภูมิ หรือแอร์พอร์ตลิงค์ เนื่องจากระหว่างการก่อสร้างต้องใช้เครื่องจักรกลขนาดใหญ่ หากยังเปิดให้บริการ ผู้โดยสารอาจจะได้รับอันตรายได้ จึงขอยกเลิกการให้บริการ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ ซึ่งผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนมาใช้บริการที่สถานีรถไฟมักกะสัน ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกันได้แทน สอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
พ.ต.ท.ภูษิต วิเศษคามินทร์ รองผู้กำกับการจราจร สถานีตำรวจนครบาลพญาไท กล่าวว่า ขณะนี้ผู้รับเหมาได้ลงพื้นที่ก่อสร้างกินพื้นผิวจราจรถนนราชปรารภใกล้กับทางรถไฟบางส่วน ส่วนการลงพื้นที่ ถนนเลียบนิคมมักกะสันนั้น อยู่ระหว่างทำจัดการจราจรเสนอ บช.น. อนุมัติ สิ้นเดือน เม.ย.นี้ เพื่อเปิดพื้นที่ก่อสร้างต่อไป. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43960
Location: NECTEC
|
Posted: 16/05/2007 12:24 pm Post subject: |
|
|
ครม.อนุมัติรถไฟรางคู่กทม.- แหลมฉบัง
โดย ผู้จัดการรายวัน 15 พฤษภาคม 2550 17:16 น.
ศูนย์ข่าวศรีราชา-ผู้ว่าฯชลบุรีคุย ครม.ไฟเขียวอนุมัติดำเนินโครงการรถไฟรางคู่ กรุงเทพฯ-แหลมฉบัง มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท (จริงๆ 5850 ล้านบาท) แล้ว เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องการขนส่งสินค้าและการจราจรที่แออัดบนถนน
นายประชา เตรัตน์ เปิดเผยความคืบหน้า โครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ จากกรุงเทพฯมายังแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ว่า ล่าสุด ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่ผ่านมา ได้อนุมัติให้ดำเนินโครงการดังกล่าว โดยได้อนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างครั้งนี้ประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท ระยะเวลาในการก่อสร้าง ประมาณ 3 ปี
ที่ผ่านมาการขนส่งสินค้าจากท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ไปยังพื้นที่อื่นๆ ส่วนใหญ่ใช้ขนส่งด้วยรถบรรทุกคอนเทนเนอร์ ทำให้การจราจรติดขัด สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา นอกจากนั้นยังเกิดอุบัติเหตุ จากการขนส่งสินค้าอย่างต่อเนื่องด้วย
นายประชา กล่าวต่อไปว่า ความจริงควรจะต้องมีการก่อสร้างทางรถไฟรางคู่ ตั้งแต่เริ่มโครงการท่าเรือและนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง เพื่อรองรับระบบการขนส่งสินค้า และเชื่อมโยงการขนส่งทั้งทางเรือ รถยนต์ และรถไฟ เพราะจะสะดวกและรวดเร็ว ที่สำคัญจะประหยัดค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าได้อย่างมหาศาล
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีการขนส่งสินค้าบนท้องถนนมากถึง 97% และในระบบรางหรือทางรถไฟเพียง 3 % เท่านั้น เนื่องจากมีรถไฟรางเดียว ซึ่งทำให้การขนส่งยิ่งช้า เสียค่าใช้จ่ายสูง จึงไม่มีผู้ประกอบการรายใดมาใช้ระบบราง โดยหากจะแก้ไขได้จะต้องเป็นระบบวันเวย์ คือ ไปทางเดียวและมาก็ทางเดียวเท่านั้น
"โครงการทางรถไฟรางคู่ จะสามารถแก้ไขปัญหาการขนส่งและการจราจรได้ และขณะนี้โครงการดังกล่าวได้รับการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว "
นายประชา กล่าวต่อไปว่า การลงทุนในครั้งนี้ ใช้งบประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท หากดำเนินการเสร็จแล้วถือว่าคุ้มมาก เพราะจะประหยัดในเรื่องน้ำมันในการบรรทุกสินค้า ประหยัดเวลาในการเดินทาง และลดค่าใช้จ่ายให้น้อยลง โดยจะใช้เวลาในการก่อสร้าง 3 ปี ซึ่งใช้ช่วงนี้ก็ต้องแก้ไขปัญหาการจราจรบนถนนสายต่างๆไปก่อน และหลังจากโครงการเสร็จปัญหาการจราจรก็จะหมดไปอย่างแน่นอน
ขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)ได้นำรางเหล็กมากองไว้ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีแล้วหลายแห่ง เพื่อเตรียมพร้อมในการก่อสร้างรางรถไฟคู่ และหากมีการเซ็นสัญญาการก่อสร้างก็พร้อมลงมือได้ทันที และในอนาคตคาดว่าจะเชื่อมต่อไปถึงจังหวัดระยอง ซึ่งมีนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมากเช่นกัน |
|
Back to top |
|
|
CENTENNIAL
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/03/2006 Posts: 3642
Location: Thailand
|
Posted: 22/05/2007 5:11 pm Post subject: |
|
|
ฟังข่าวจากโทรทัศน์ในวันนี้ ( 22 พ.ค.2550) ได้ยินข่าวดีครับว่า
คณะรัฐมนตรี อนุมัติ เงินสำหรับโครงการรถไฟทางคู่ ฉะเชิงเทรา - แหลมฉบัง ระยะทางประมาณ 78 กิโลเมตร เป็นเงินจำนวน 5,850 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ดังนั้น ระยะเวลาอีกไม่นานนี้ ก็คงจะเข้าสู่ช่วงการประมูลราคาก่อสร้าง และอีกไม่นานก็คงจะเริ่มสร้างได้
และข่าวดีอีกประการคือ การอนุมัติเงินสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง แต่รายละเอียดฟังไม่ถนัดครับ จำได้ดีเฉพาะแต่ข่าวรถไฟทางคู่ครับ
แต่ยังสงสัยอยู่ว่า แล้วเงินค่าซื้อหัวรถจักร จำนวน 2,000 ล้านบาท นี่ ตกลงแล้วเป็นยังไงก็ไม่รู้ ข่าวเงียบไปเลย
กลัวว่า ทางคู่เสร็จแล้ว ไม่มีรถจักรมาทำขบวนอีก
*******ส่วนที่มาของข่าวที่ชัดเจนนั้น กำลังค้นหาอยู่ครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43960
Location: NECTEC
|
Posted: 22/05/2007 5:17 pm Post subject: |
|
|
หมวดเอ็ม ต้องการข่าวนี่ใช่ไหม:
Quote: | รมว.คค.แจงงบฯ ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 พฤษภาคม 2550 15:19 น.
พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติการก่อสร้างรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ตั้งแต่บางซื่อ-ตลิ่งชัน และบางซื่อ-รังสิต โดยให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งในส่วนของสายบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กิโลเมตร จะใช้วงเงินงบประมาณ 52,220 ล้านบาท ส่วนบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กิโลเมตร ใช้วงเงินงบประมาณ 13,133 ล้านบาท โดยรัฐบาลจะรับภาระค่าใช้จ่ายการก่อสร้างสายบางซื่อ-ตลิ่งชัน โดยให้การรถไฟแห่งประเทศไทยกู้เงินส่วนหนึ่ง และกระทรวงการคลังจะมีการออกพันธบัตร และค้ำประกันเงินกู้ โดยจะเป็นการกู้ครั้งเดียวทั้งหมดทั้ง 13133 ล้านบาท และจะมีการนำงบประมาณปี 2549 จำนวน 1,102 ล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายบางซื่อ-รังสิต มาดำเนินการในการก่อสร้างสายบางซื่อ-ตลิ่งชันไปก่อน เนื่องจากสายบางซื่อ-รังสิต ต้องพิจารณาเรื่องการปรับแบบให้เหมาะสม ซึ่งจะมีการสร้างสถานีเพิ่มอีก 4 สถานี รวมทั้งหมด 11 สถานี |
|
|
Back to top |
|
|
|