View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Nakhonlampang
1st Class Pass (Air)
Joined: 29/03/2006 Posts: 3293
Location: เสนานิคม1-คลองหลวง
|
Posted: 17/12/2008 9:05 pm Post subject: |
|
|
ถ้าอย่างนั้นรบกวน อ.เอกช่วยตรวจสอบเกี่ยวกับการตั้ง อ.บ้านนา ที่นครนายกด้วยสิครับว่าตั้งขึ้นเป็นอำเภอตั้งแต่เมื่อไร เพราะจากประเด็น อ.บ้านนาเดิมนั้น อ่านไปอ่านมาก็สงสัยว่าทำไมไม่ตั้งชื่อเป็น อ.บ้านนาเหมือนกับชื่อดั้งเดิมไปเลย จะเป็นไปได้หรือเปล่าว่าไม่ต้องการให้ชื่ออำเภอในประเทศไทยซ้ำกัน (ยกเว้นกรณีอำเภอเฉลิมพระเกียรติที่มีถึง 5 แห่ง) แล้ว อ.บ้านนาที่นครนายกถูกตั้งขึ้นในช่วงระหว่าง อ.บ้านนาที่สุราษฎร์ธานี เปลี่ยนไปใช้ชื่อ อ.บ้านนาสารพอดี พอจะยก ต.บ้านนาขึ้นเป็นอำเภออีกครั้งก็เลยเลี่ยงไม่ให้ชื่อซ้ำกับที่นครนายก |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44792
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 17/12/2008 9:24 pm Post subject: |
|
|
ค้นดูแล้ว ได้ความว่าดังนี้ครับพี่หนุ่ม
ประวัติอำเภอ บ้านนา จังหวัดนครนายก
อำเภอบ้านนา แต่เดิมที่ว่าการอำเภอตั้งอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำนครนายกที่ตำบลบางอ้อ ในปัจจุบัน มีชื่อเรียกว่า "อำเภอท่าช้าง" ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น "อำเภอบ้านนา" เมื่อปี พ.ศ. 2446 โดยที่บริเวณที่ตั้งที่ว่าการอำเภอเป็นที่ลุ่ม น้ำท่วมทุกปีและไม่อยู่ใจกลางของชุมชน ประกอบกับการคมนาคมไม่สะดวกเพราะต้องอาศัยการคมนาคมทางน้ำเป็นสำคัญ ประชาชน ไปมาติดต่อกับอำเภอเกิดความไม่สะดวก ทางราชการจึงพิจารณาย้ายที่ว่าการอำเภอ มาตั้งที่ริมถนนสุวรรณศร เมื่อปี พ.ศ. 2508 ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอในปัจจุบัน อยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดนครนายกเป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร
ตามประวัติอำเภอนี้เคยเป็นแขวงเมืองนครนายก ซึ่งเป็นเมืองลูกหลวง หรือเมืองหน้าด่านในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี โดยเฉพาะท้องที่อำเภอบ้านนาเคยเป็นที่ตั้งกองโพนช้าง หรือ กองจับช้างป่าไว้เป็นพาหนะสำคัญในการทำศึกสงครามมาแต่สมัยโบราณ ปรากฏว่า ยังมีหลักฐานอยู่ที่บ้านที่มะเฟือง ตำบลป่าขะ อำเภอบ้านนา ซึ่งในอดีตเมื่อ 30 กว่าปี หมู่บ้านนี้มีชื่อเรียกว่า "โรงช้าง" และยังมีเศษเสาโรงช้างของกรมพาหนะคชบาล เหลือซากอยู่เป็นหลักฐาน แต่ในปัจจุบันเสาโรงช้างได้ชำรุดผุพังไปจนหมดสิ้นแล้ว
อำเภอบ้านนา เคยโอนไปขึ้นอยู่กับจังหวัดสระบุรีครั้งหนึ่ง เนื่องจากได้มีพระราชบัญญัติ ยกเลิกจังหวัดนครนายกโดยให้อำเภอต่าง ๆ ไปขึ้นอยู่กับจังหวัดปราจีนบุรี ส่วนอำเภอบ้านนาให้ไปขึ้นกับจังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2484 ต่อมาได้มีพระราช บัญญัติจัดตั้งจังหวัดนครนายก ขึ้นใหม่ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2489 อำเภอบ้านนา จึงได้กลับมาขึ้นกับจังหวัดนครนายกจนกระทั่งปัจจุบัน
ข้อมูลจาก สำนักงานจังหวัดนครนายก
------------------------------------------------------------
ผลจากการค้นตามที่พี่หนุ่มบอก ทำให้เจอสิ่งที่น่าสนใจอีกครับ ข้างล่างนี้ครับ
ยุ่ง อีรุงตุงนังจริงๆ เลยครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44792
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 17/12/2008 10:04 pm Post subject: |
|
|
เรื่องชื่อซ้ำกันนั้น ผมไม่แน่ใจว่าชื่อสถานีรถไฟทั่วประเทศมีซ้ำกันบ้างหรือเปล่าครับ
เพราะผมเห็นชื่อสถานีรถไฟหลายแห่ง ชื่อต่างจากเขตปกครองท้องที่ เหมือนกับพยายามเลี่ยงไม่ให้ซ้ำน่ะครับ
เช่น ท่าเรือน้อย
แต่ที่เห็นซ้ำคือ ที่หยุดรถบางน้ำจืด (งจ.) จ.สุราษฎร์ธานี ซ้ำกับ ที่หยุดรถบางน้ำจืด (นจ.) ของสายมหาชัยครับ
แต่บางน้ำจืด สุราษฎร์ธานียุบเลิกไปแล้ว คงไม่เป็นไรกระมังครับ
(เอ่อ...มีใครหาร่องรอยที่หยุดรถบางน้ำจืด สุราษฎร์เจอบ้างครับ) |
|
Back to top |
|
|
palm_gea
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/07/2006 Posts: 1321
Location: ธ.ก.ส.
|
Posted: 17/12/2008 10:55 pm Post subject: |
|
|
ถึงจะไม่เจอร่องรอย แต่ GPS ของอาจารย์ก็ทำให้คำว่า "อาจจะ" "น่าจะ" ไม่มีในการสำรวจครั้งนี้ครับ ทำให้เรารู้เลยว่าตรงนี้เคยเป็นยอดฯ เป็นฐานฯแน่ๆ ขอบคุณที่นำความรู้และมุมมองใหม่ๆมาฝากครับ _________________
|
|
Back to top |
|
|
Nakhonlampang
1st Class Pass (Air)
Joined: 29/03/2006 Posts: 3293
Location: เสนานิคม1-คลองหลวง
|
Posted: 18/12/2008 7:44 pm Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: |
แต่ที่เห็นซ้ำคือ ที่หยุดรถบางน้ำจืด (งจ.) จ.สุราษฎร์ธานี ซ้ำกับ ที่หยุดรถบางน้ำจืด (นจ.) ของสายมหาชัยครับ
แต่บางน้ำจืด สุราษฎร์ธานียุบเลิกไปแล้ว คงไม่เป็นไรกระมังครับ
|
สำหรับกรณีบางน้ำจืด จริงๆผมก็ไม่ทราบว่าบางน้ำจืดที่สุราษฎร์ธานีมีช่วงเวลาการใช้งานตั้งแต่เมื่อใดถึงเมื่อใด แล้วบางน้ำจืดของสายมหาชัยมีมาตั้งแต่เมื่อใด
เมื่อมองตามหลักการแล้วผมก็ไม่คิดว่าการรถไฟฯจะต้องการให้มีชื่อสถานี/ที่หยุดรถ/ป้ายหยุดรถซ้ำกัน หากจะมีช่วงเวลาที่มีชื่อบางน้ำจืด 2 แห่งซ้ำกันอยู่ นับเวลาย้อนถอยไปอย่างน้อยก็น่าจะก่อน 1 กุมภาพันธ์ 2498 มั้งครับ
เหตุผลที่จะมีบางน้ำจืดซ้ำกันที่ผมคิดไว้ก็คือ เดิมทางรถไฟสายคลองสาน-มหาชัยซึ่งเปิดเดินรถตั้งแต่ 4 มกราคม 2447 นั้น เป็นเส้นทางรถไฟเอกชนที่ได้รับสัมปทานและสิ้นสุดสัมปทานเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2485 ซึ่งการดำเนินกิจการของทางรถไฟสายนี้ย่อมเป็นเอกเทศจากทางรถไฟของกรมรถไฟ การตั้งชื่อซ้ำกันในช่วงเวลานี้ก็ไม่ส่งผลในเรื่องการบริหารจัดการอยู่แล้ว
ต่อมาเมื่อรัฐบาลได้ซื้อกิจการรถไฟสายนี้มาดำเนินการเอง ก็ได้มีการจัดตั้ง "องค์การรถไฟสายแม่กลอง" สังกัดกรมรถไฟ เพื่อดำเนินกิจการทางรถไฟสายนี้ รวมถึงทางสายบ้านแหลม-แม่กลองด้วย ซึ่งการดำเนินกิจการก็ยังเป็นเอกเทศจากรถไฟสายหลักอยู่ ช่วงเวลานี้ก็ยังอาจจะมีชื่อซ้ำกันได้
ต่อมามีการเปลี่ยนฐานะกรมรถไฟเป็นการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงได้มีการรวมกิจการของ "องค์การรถไฟสายแม่กลอง" เข้าไว้ด้วยกับการรถไฟฯ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2495 โดยมีฐานะเป็นสำนักงานส่วนหนึ่งการรถไฟฯ เรียกว่า "สำนักงานรถไฟสายแม่กลอง" โดยที่ขั้นตอนนี้เป็นการรวมกิจการเฉพาะในหลักการ แต่การบริหารงานและการดำเนินการต่างๆยังเป็นไปตามเดิม ดังนั้นช่วงเวลานี้ก็ยังอาจจะมีชื่อซ้ำกันได้
1 กุมภาพันธ์ 2498 ทางรถไฟสายแม่กลองได้รวมกิจการเข้ากับการรถไฟฯ อย่างสมบูรณ์แบบ รวมถึงระเบียบปฏิบัติต่างๆด้วย ดังนั้นนับตั้งแต่ช่วงนี้ไปหากยังมีชื่อที่ซ้ำกันอยู่ ก็คงต้องมีการเปลี่ยนชื่อกันบ้าง |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44792
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 18/12/2008 8:42 pm Post subject: |
|
|
ที่หยุดรถบางน้ำจืด จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งขึ้นภายหลัง ไม่ได้มีมาตั้งแต่สร้างทางครับ
และน่าจะยุบเลิกไปไม่เกิน 20 ปีที่ผ่านมานี้ครับ
เพราะปรากฏชื่อในโปสเตอร์รายชื่อสถานีสายใต้และราคาค่าโดยสารครับ
ภาพนี้ถ่ายจากสถานีลูกแก
หมายเหตุ ปัจจุบันสถานีคลองขุด ถูกยุบเป็นที่หยุดรถแล้ว และที่หยุดรถบ้านดอนรีถูกยุบเลิกการโดยสารไปแล้วครับ |
|
Back to top |
|
|
|