ข่าวรถไฟเวียตนาม

[Wisarut]

สิ่งที่ รัฐบาลฮานอย กำลังกระตุ้นให้บริษัทรถไฟเวียตนามจำกัด ทำแน่ๆ คือ

1. ทางรถไฟ สาย ไซ่ง่อน - เมืองท่าหวุ่งเตา (120 กิโลเมตร) เพื่อ ช่วยพัฒนาท่าเรือหวุ่งเตา และ หาดหวุ่งเตา ให้เป็นพัทยาเมืองญวน

2. การฟื้นฟูทางรถไฟสายทับจาม - ดาลัต ที่เพิ่งฟื้นไปได้ 7 กิโลเมตร จาก เป้าหมาย 84-85 กิโลเมตรเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

3. การฟื้นฟูทางรถไฟสาย ไซ่ง่อน - ไมโธ (ปากแม่น้ำโขง) พร้อมส่วนต่อขยายข้ามปากแม่น้ำโขงไปคันโธ เพื่อระบายสินค้าเกษตรจากสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ไปทั่วประเทศได้

4. การฟื้นฟูทางรถไฟสาย ไซ่ง่อน - ล็อคนินห์ (ชานแดนเขมร) ยาว 130 กิโลเมตร พร้อมช่วยการระแทะเพลิงในกรุงกัมพูชาธิบดี สร้างทางจากล็อกนินห์ไปกำปงจาม ก่อนสิ้นระยะที่พนมเปญ ซึ่งฝรั่งเศสคิดทำแต่ปี 2471 แต่ทำไม่สำเร็จ

ที่รัฐบาลฮานอยต้องการเร่งให้ทำทางสาย ฮานอย - ล็อคนินห์ - กำปงจาม - พนมเปญ โดยด่วนเพราะ จะได้ระบายชาวญวนไปตั้งรกรากที่ เขมร ให้มาก เนื่อง แม้จะรวมชาติได้สำเร็จแล้ว แต่ เวียตนามมีคนเป็นมดเป็นปลวก ที่ไม่พออยู่ข้าวเพิ่งจะมีพอกินเมื่อเร็วๆนี้

แผนที่ เวียตนามใต้แสดง ทางรถไฟ จาก ทับจาม ไป ดาลัต และ ทางรถไฟ จากไซ่ง่อน ไป ล็อกนินห์ ซึ่งพินาศไปเพราะ สงครามเวียตนาม
http://www.cantho-rvn.org/maps/colby-map2-1133x765.jpg

[Mongwin]

แผนที่เส้นทางรถไฟสายดาลัต ปี 1957 (แผนที่ AMS 1:250,000)
http://www.lib.utexas.edu/maps/ams/indochina_and_thailand/txu-oclc-6535632-nc49-1.jpg

แผนที่เส้นทางรถไฟสายดาลัตความละเอียดสูง (แผนที่ AMS 1:50,000)
ดัชนี http://homipage.cocolog-nifty.com/.shared/image.html?/photos/uncategorized/2008/11/15/blog_dalat.jpg
แผ่นที่ 1 (เห็นสามเหลี่ยมกลับรถจักรด้วย)
http://homipage.cocolog-nifty.com/.shared/image.html?/photos/uncategorized/2008/11/15/blog_dalat2.jpg
แผ่นที่ 2
http://homipage.cocolog-nifty.com/.shared/image.html?/photos/uncategorized/2008/11/15/blog_dalat3.jpg
แผ่นที่ 3
http://homipage.cocolog-nifty.com/.shared/image.html?/photos/uncategorized/2008/11/15/blog_dalat4.jpg
แผ่นที่ 4 ปลายรางที่สถานีดาลัต
http://homipage.cocolog-nifty.com/.shared/image.html?/photos/uncategorized/2008/11/15/blog_dalat5.jpg

ที่มา : http://homipage.cocolog-nifty.com/map/2007/06/post_5299.html

ชมภาพสำรวจเส้นทางรถไฟสายดาลัตได้ที่นี่ครับ
http://www.mekongexpress.com/vietnam/photoalbum/dalatcograilway.htm

[Mongwin]

ดูแล้วอยากไปเที่ยวดาลัตดูสักครั้ง
ถ้าได้ไปจริงๆ คงไปสถานีรถไฟก่อนเลย
คงต้องรอดูว่าเวียดนามจะฟื้นฟูสายดาลัตได้สำเร็จทั้งสายหรือไม่

ขนาดบ้านเรา สายหาดใหญ่-สงขลาง่ายๆ 30 กิโลเอง ยังไม่ยอมฟื้นฟูเลย

ภาพถ่ายดาวเทียมย่านสถานีดาลัต ซึ่งเป็นปลายทางรถไฟไต่เขาสายดาลัตครับ
ถ่ายเมื่อ 7 ม.ค. 2551 โดย Google Earth

[Wisarut]

ปรับปรุงทางรถไฟไปชายแดนจีน
ข่าวธุรกิจ
Look at vietnam - 1 กพ. 2552

บริษัทรถไฟเวียตนามจำกัด เริ่มการสร้างสะพาน ที่ อำเภอ ฉีหลาง จังหวัดลางซอน
(Lang district, Lang Son province) เมื่อ 30 มกราคม 2552 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการปรับปรุงทางรถไฟ จากฮานอย ถึง ลางซอน (ชายแดนจีน) ความยาว 144 กิโลเมตร มูลค่า 641000 ล้านด่อง ซึ่งจะมีการสร้างสะพานคอนกรีตแทนสะพานไม้ชั่วคราว 19 แห่ง ที่ทำให้ต้องจำกัดความเร็วไม่เกิน 30 กม/ชม. โครงการปรับปรุงสะพาน ดองโม (Dong Mo) มูลค่า 12600 ล้านด่อง นี้จะเสร็จ ในเดือนพฤษภาคม 2552 ซึ่งจะทำให้ บริษัทรถไฟเวียตนามจำกัด สามารถเร่งความเร็วรถไฟจากฮานอยไปชายแดน จาก 40กม/ชม. เป็น 70 กม/ชม.

ขณะนี้ปรับปรุงสะพาน เสร็จแล้ว 6 โครงการ จากทั้งหมด 10 โครงการย่อย ซึ่งคาดการณ์ว่าการประบปรุงสะพานนี้จะใช้งบไป 237,000 ล้านด่อง

http://www.lookatvietnam.com/2009/02/rail-link-to-border-province-gets-upgraded.html

[Wisarut]

เวียดนามสรุปรถหัวกระสุน มี.ค.นี้ดัน TGV แข่งญี่ปุ่น
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 กุมภาพันธ์ 2552 09:21 น.



เอาอย่างนั้นเลยหรือ? บางเสียงบอกว่าเวียดนามกำลังโก่งค่าตัวสุดๆ เพื่อต่อรองกับชินกันเซ็นของญี่ปุ่น แต่วงในกล่าวว่ากลุ่มอาลสตอม (Alstom) ผู้พัฒนาระบบรถไปความเร็วสูง TGV ในฝรั่งเศสนั้นมิใช่อื่นไกล แต่อยู่ใกล้ชิดกับรัฐวิสาหกิจรถไฟเวียดนามมาแต่อ้อนแต่ออก จึงมีสิทธิ์ลุ้นโครงการรถไฟหัวกระสุน 60,000 ล้านดอลลาร์เช่นเดียวกัน



ASTVผู้จัดการายวัน-- รัฐบาลเวียดนามได้แสดงท่าทีสนใจระบบรถไฟความเร็วสูงของค่ายยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบ TGV ของฝรั่งเศส รองนายกรัฐมนตรีฮว่างจุงหาย (Hoang Trung Hai) ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งศึกษาและสรุปรายงานของบริษัทที่ปรึกษา และนำเสนอต่อรัฐบาลภายในเดือน มี.ค.นี้

เวียดนามได้ตัดสินใจสร้างระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อบริการขนส่ง ระหว่างกรุงฮานอยเมืองหลวงกับนครโฮจิมินห์ นครใหญ่ที่สุดและยังเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศในภาคใต้ และมีแนวโน้มว่าจะเลือกใช้ระบบชินกันเซน (Shinkansen) ของญี่ปุ่น ทั้งนี้เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นได้หยิบยื่นให้การช่วยเหลือเพื่อให้โครงการลุล่วง

อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบกันกันดีว่า บริษัทจากฝรั่งเศสและเยอรมนีได้ให้ความสนใจและติดตามโครงการนี้อย่างใกล้ชิดตลอดมา แม้ว่าจะไม่ได้มีส่วนร่วมในการสำรวจศึกษาก็ตาม

"โครงการนี้จะต้องช่วยเกื้อหนุนระบบขนส่งและการพัฒนาที่ยั่งยืนในเวียดนาม" หนังสือพิมพ์ฮานอยไทมส์อ้างคำกล่าวของนายจุงหาย เมื่อวันพฤหัสบดี (19 ก.พ.)

สื่อของทางการรายงานก่อนหน้านี้ว่ากลุ่มอาลสตอม (Alstom) ซึ่งเป็นผู้พัฒนารถไฟความเร็วสูง TGV (train ? grande vitesse) ได้เคยเสนอแผนการลงทุนสำรวจศึกษาต่อรัฐบาลเวียดนามมาแล้ว และยังได้หยิบยื่นความช่วยเหลือในการพัฒนาระบบรถไฟที่ใช้ในปัจจุบันอีกด้วย

กลุ่มบริษัทรถไฟจากฝรั่งเศสอีกแห่งหนึ่งได้เสนอเข้าลงทุนก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงฮานอย และยังคงติดตามโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเหนือ-ใต้ อย่างใกล้ชิด ซึ่งในขณะนี้มูลค่าก่อสร้างได้บานปลายจากประมาณ 33,000 ล้านดอลลาร์เมื่อแรกเริ่ม เป็น 57 ล้านดอลลาร์




ระบบ ICE ของเยอรมนีก็อยู่ในความสนใจไม่น้อยไปกว่ากัน เนื่องจาก Siemens AG ก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่ขลุกอยู่กับการพัฒนาระบบขนส่งงมวลชนในเวียดนามมานานกว่า 10 ปี ซีเมนส์ยังเป็นผู้พัฒนาระบบ ICE จนถึงรุ่นที่ 3 ในขณะนี้ กำลังลุ้นอยู่เบื้องหลังอีกราย


บริษัทที่ปรึกษาที่จัดตั้งขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่นได้เสนอให้เวียดนามเลือกใช้ระบบชินกันเซนที่ใช้อย่างแพร่หลายในประเทศนั้น ด้วยเหตุผลมีความเหมาะสมกับสภาพการณ์ในเวียดนามมากกว่า TGV กับ ICE (Intercity Express Train) ของเยอรมนี

รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้สั่งการให้รัฐวิสาหกิจรถไฟเวียดนาม ที่เป็นเจ้าของโครงการนี้กับคณะกรรมการจากส่วนกลางอีกชุดหนึ่งให้ศึกษาเปรียบเทียบสามระบบอย่างละเอียดและเลือกระบบที่เหมาะสมที่สุดกับประเทศ

เป็นที่ทราบกันดีเช่นกันว่า กลุ่มซีเมนส์เอจี (Siemens AG) แห่งเยอรมนีซึ่งเป็นผู้พัฒนาระบบรถไฟฟ้า ICE 3 ที่ใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ได้เสนอตัวเข้าลงทุนก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายที่ 3 ในนครโฮจิมินห์โดยได้พยายามระดมทุนจากรัฐบาลเยอรมัน สวิสเซอร์แลนด์และออสเตรีย เพื่อช่วยเวียดนามให้การแก้ปัญหาการจราจรสามารถบรรลุผล



ระบบชินกันเซ็นมีรถมากมายหลายรุ่นให้เลือก ตามความจำเป็นและความเหมาะสม เดือนหน้านี้เวียดนามจะต้องตัดสินใจว่า จะเลือกระบบของญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ที่ช่วยเหลือเวียดนามมากกว่าใครๆ ใน 20 ปีแห่งการปฏิรูปเศรษฐกิจ หรือ จะเลือกมิตรจากแดนไกลที่เสนอจะให้ทุกอย่าง "เกือบฟรี" เช่นเดียวกัน






ชินกันเซ็นพร้อมคำขวัญ "Ambitious Japan!" หรือ "ญี่ปุ่นที่ทะเยอทะยาน!" กำลังแล่นผ่านฟูจิยาม่า ทำให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงาม เจ้าของเทคโนโลยีรถหัวกระสุนสามค่าย กำลังแข่งกันแบบหายใจรดต้นคอในเวียดนาม เพื่อชิงเค้กชิ้นโต 60,000 ล้านดอลลาร์


อาลสตอมกับซีเมนส์ได้พ่ายแพ้กลุ่มทุนจากญี่ปุ่นในการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายแรกในโฮจิมินห์ซึ่งมีการวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเมื่อปีที่แล้ว

ทั้งนี้เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นได้ทุ่มให้การช่วยเหลือแก่บริษัทเอกชนอย่างเต็มที่ รถไฟฟ้าใต้ดิน-บนดินสายแรกของเวียดนามมูลค่าประมาณ 1,100 ล้านดอลลาร์ จึงก่อสร้างด้วยเงินทุนจากญี่ปุ่นกว่า 90%

ตามรายงานของบริษัทที่ปรึกษานั้นรถไฟฟ้าหัวกระสุนเวียดนามจะมีระยะทางทั้งหมด 1,550 กิโลเมตร

บริษัทที่ปรึกษาเสนอให้ก่อสร้างสองช่วงแรกจากปลายทางและต้นทางพร้อมๆ กัน ซึ่งรวมเป็นระยะทางกว่า 800 กม. ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมดราว 10 ปี หลังจากนั้นจึงเริ่มก่อสร้างช่วงกลางของเส้นทางไปบรรจบกันทั้งสองข้าง.


REF: http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9520000019550

[Wisarut]

ADB จี้เวียดนามเร่งขับเคลื่อนรถหัวกระสุน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 มีนาคม 2552 16:38 น.

http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9520000033564

ไม่ว่าหน้าตาของรถไฟฟ้าความเร็วสูงเวียดนามใจออกมาเป็นเช่นไร เอดีบีได้เร่งเร้าให้เวียดนามใช้วิกฤติการเงินโลกในขณะนี้เป็นโอกาส ในการสร้างระบบสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ต่างๆ ขณะที่มีงบประมาณหรือเงินทุนพร้อมอยู่แล้ว

ASTVผู้จัดการรายวัน-- ท่ามกลางวิกฤตภายนอกประเทศ แขนงก่อสร้างในเวียดนามยังมีความคึกคัก โครงการใหญ่หลายโครงการมีความพร้อมด้านการเงิน และ สัปดาห์ที่แล้วธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ได้เร่งเร้าให้รัฐบาลคอมมิวนิสต์รีบดำเนินการโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ต่างๆ ซึ่งรวมทั้งรถไฟฟ้าหัวกระสุนมูลค่าเกือบ 60,000 ล้านดอลลาร์ด้วย

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์แทงเนียน เวียดนามมีเงินพร้อมสำหรับโครงการก่อสร้างต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเงินงบประมาณ เงินช่วยเหลือจากต่างประเทศและองค์การระหว่างประเทศต่างๆ ตลอดจนเงินกู้จากญี่ปุ่นที่ไม่ติดปัญหาใดๆ ทำให้เอดีบีเร่งเร้าให้เร่งดำเนินการ

นายอะยูมิ โคนิชิ (Ayumi Konishi) ผู้อำนวยการเอดีบีประจำเวียดนาม ออกเรียกร้องในเรื่องนี้ในวันที่ 17 มี.ค. และต่อมาวันที่ 20 ธนาคารแห่งนี้ก็ได้ประกาศเกี่ยวกับเงินกู้ก้อนใหม่สำหรับทางหลวงสายสำคัญอีกสายหนึ่บงในภาคใต้ของประเทศ

ผู้อำนวยการของเอดีบีกล่าวว่า เวียดนามจำเป็นต้องเร่งก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่จำเป็นเร่งด่วน รวมทั้งโครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ใช้พลังความร้อนจากถ่านหินในภาคใต้ ท่าเรืออีกหลายแห่ง และ ระบบรถไฟฟ้าความยาว 1,550 กม.ระหว่างกรุงฮานอยกับนครโฮจิมินห์ ที่กำลังอยู่ระหว่างการสรุปโครงการ

นายโคนิชิกล่าวว่า การล่าช้าจะไม่เกิดผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม นักลงทุนต่างชาติจะถอนตัวออกไปหากไม่รีบแก้ไขการขาดแคลนกระแสไฟฟ้า โครงการโรงไฟฟ้ากังหันก๊าซจึงเป็นหนึ่งในความจำเป็นรีบด่วน

เวียดนามมีประชากร 86 ล้านคนมีผลผลิตมวลรวมภายในประเทศมูลค่า 85,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่มีความจำเป็นมากในการเชื่อมเมืองหลวงฮานอยในภาคเหนือ เข้ากับศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศในภาคใต้

นายเหวียนหูบ่าง (Nguyen Huu Bang) ประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารรัฐวิสาหกิจรถไฟเวียดนามบอกกล่าวเรื่องนี้กับที่ประชุมสัมมนาเกี่ยวกับระบุบรถไฟในย่านแปซิฟิก ที่จัดขึ้นในกรุงฮานอยในสัปดาห์เดียวกัน

นายบ่างกล่าวว่าโครงการรถไฟฟ้าหัวกระสุนเวียดนามจะแบ่งเป็นสองช่วง คือ เปิดให้บริการสองช่วงแรกในปี 2562 และให้บริการได้ตลอดเส้นทางในปี 2578 นั่นคืออีก 10-25 ปีข้างหน้า

เมื่อเปิดให้บริการได้เสร็จสมบูรณ์ การเดินทางด้วยความเร็วปกติระหว่างฮานอยกับโฮจิมินห์จะใช้เวลาเพียงประมาณ 5 ชั่วโมงครึ่ง จาก 32-36 ชั่วโมงในปัจจุบัน ขณะนี้หน่วยงานและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาเทคโนโลยีจากญี่ปุ่น เยอรมนี และฝรั่งเศส

ตามรายงานของสื่อทางการ รัฐวิสาหกิจรถไฟฯ กับคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องจะสรุปผลการศึกษาในเดือน มี.ค.นี้ เพื่อนำเสนอขออนุมัติจากรัฐสภา ที่มีกำหนดจะเปิดประชุมสมัยสามัญต้นปีมนเดือน เม.ย.

ทางรถไฟที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นแบบรางแคบ 1.00 เมตร สร้างโดยฝรั่งเศสในช่วงปี 2425-2479

การประชุมสัมมนาดังกล่าวมีผู้แทนจากบริษัทอาลสตอม (Alstom SA) แห่งฝรั่งเศส เจ้าของเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูง "เตเชเว" (TGV) ตลอดจนบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่ต่างๆ เข้าร่วมด้วย

นอกจากนั้นกำลังจะมีการประชุมสัมมนาเกี่ยวกับการก่อสร้างอีกวงหนึ่งในนครโฮจิมินห์วันที่ 26-30 มี.ค.นี้ มีตัวแทนธุรกิจและอุตสาหกรรมจาก 15 ประเทศและดินแดน รวมทั้งจากไทย เกาหลี ญี่ป่นและฝรั่งเศสเข้าร่วมด้วย ราว 400 คน

ในงาน Vietbuild 2009 นี้จะมีการออกร้านแสดงสินค้ารวม 900 คูหา ในนั้นเป็นร้านของบริษัทเวียดนามกว่า 192 แห่ง ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์ลาวด่ง (Lao Dong) หรือ แรงงาน

ในสัปดาห์เดียวกันเอดีบีได้อนุมัติเงินกู้อีก 410.2 ล้านดอลลาร์แก่เวียดนาม เพื่อสมทบโครงการสร้างทางหลวงระยะทาง 51 กม. ช่วงนครโฮจิมินห์ไปยัง อ.ลองแถ่ง (Long Thanh) จ.ด่งนาย (Dong Nai) ซึ่งถูกเลือกเป็นที่ตั้งของสนามบินแห่งใหม่ และใหญ่ที่สุดในภาคใต้ของประเทศ

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เยินซเวิน (Nhan Dan) ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ถนนช่วงดังกล่าวซึ่งจะต้องสาร้างสะพานข้ามลำน้ำนับสิบแห่งมีมูลค่าก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 932.4 ล้านดอลลาร์ รัฐบาลเวียดนามจะสมทบเงินงบประมาณเข้าโครงการอีกเพียง 5.7 ล้านดอลลาร์เท่านั้น อีก 516.5 ล้านดอลลาร์จะเป็นเงินกู้ผ่อนปรนจาก องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่นหรือ JICA แต่เจ้าหน้าที่เวียดนามพูดชัด ขณะนี้กำลังเร่งพิจารณาทั้งชินกันเซ็น "เตเฌเว" (TGV) ของฝรั่งเศสและระบบของเยอรมนีด้วย

[Wisarut]

บริษัทรถไฟเวียตนามจำกัด ประกาศว่า จะเร่งสร้าง รถไฟความเร็วสูงสายฮานอยไปไซ่ง่อน ความเร็ว 300 - 350 กม./ชม. ให้เสร็จ เปิดบริการได้เต็มระบบ ในปี 2039 (พ.ศ. 2579) เพื่อฉลอง 100 ปี ที่ รถไฟเหนือ - ใต้ (รถด่วนรวมชาติ) ที่เริ่มสร้างแต่ปี 1882 และได้เปิดให้บริการ เมื่อปี 1936 แม้ในตอนแรกจะเป็นของเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศสก็ตามที

แต่ในเฟสแรก จะ เร่งทำ ทางรถไฟความเร็วสูงสายฮานอย ไป เมืองท่าวินห์ และ นครไซ่ง่อน (สถานี Hoa Hung) ไป เมือง ญาตรัง ให้เป็นรูปเปนร่างเสียก่อน โดยให้พร้อมเปิดบริการ เมื่อ ปี 2019 (พ.ศ.2562) ก่อนจะเปิดเต็มระบบ คือ มี ระยะทาง 1555 กม. 27 สถานี จากฮานอย ไปไซ่ง่อน (สถานี Hoa Hung) ในปี 2036 (พ.ศ.2579) ซึ่งต้องลงทุนถึง 55,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมถึงค่าก่อสร้าง ไม่ต่ำกว่า 35,000ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ ค่าโดยสาร รถไฟความเร็วสูง จะ พอๆ กับ ค่าเครื่องบนจากฮานอยไปไซ่ง่อน

เฉพาะ ทางคู่ความเร็วสูง จากไซ่ง่อน ไป ญาตรัง ความยาว 369 กิโลเมตร ที่จะมาแทน ราง 1 เมตร ก็ ใช้งบไป 7800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยความเร็วสูงสุด อยู่ที่ 200 กม/ชม. แทนราง 1 เมตรเดิมที่เร็วเพียง 60 กม./ชม.

ส่วนทางรถไฟสายธรรมดาราง 1 เมตรที่มีอยู่แล้ว นั้น บริษัทรถไฟเวียตนามจำกัด ก็สัญญาว่า จะเร่ง Rehab ทางให้ สามารถทำขบวนได้เร็ว ขึ้น จากเดิม 60 กม./ชม. เป็น 100 กม./ชม. เพื่อ เดินรถสินค้า และ รถเร็วสำหรับพี่น้องชาวเวียตนามที่ไม่มีเงินมากพอขึ้นไฟความเร็วสูง

http://www.lookatvietnam.com/2009/04/vietnam-to-have-north-south-express-railway-in-27-years.html
http://www.lookatvietnam.com/2009/02/korean-firm-wants-public-private-partnership-to-build-new-railway.html
http://www.lookatvietnam.com/2009/02/korean-firm-wants-public-private-partnership-to-build-new-railway.html
http://www.lookatvietnam.com/2009/03/vietnam-needs-to-a%c2%80%c2%98acceleratea%c2%80%c2%99-infrastructure-projects-adb.html
http://www.lookatvietnam.com/2009/02/japan-vn-experts-estimate-railway-will-cost-60-billion.html

ในวันปลดปล่อยชาติ (30 เมษายน 2009) - วันแรงงานแห่งชาติ (1 พฤษภาคม 2009) บริษัทรถไฟเวียตนามจำกัด จะ เพิ่มการเดินรถพิเศษ จาก ไซ่ง่อน ไป ญาตรัง อีก 6 ขบวน เพื่อ สนองความต้องการของพี่น้องชาวเวียตนามที่ต้องการท่องเที่ยว ในหยุดดังกล่าว โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน ถึง 2 พฤษภาคม 2009
http://www.lookatvietnam.com/2009/03/hcm-city-more-trains-for-national-holidays.html

ทางรถไฟสายดาลัต ได้เป็นมรดกของชาติ และได้รับงบมาฟื้นฟูอาคาร จำนวน 500 ล้านด่อง หรือ 28000 ดอลลาสร์สหรัฐ อาคารสถานีดาลัตออกแบบและก่อสร้างระหว่างปี 1932 - 1938 ถึอว่าเป็นสถานีที่สง่างามที่สุดในอินโดจีน

แต่ก่อน ทางรถไฟสายดาลัติ เดินรถไฟถึง 84 กิโลเมตรจากฟานรัง (Phan Rang) ถึง ดาลัต แต่เลิกเดินเมื่อ ปี1976 เพราะ ทางพินาศไปในระหว่างสงครามรวมชาติ (1945 - 1975) ขณะนี้ รถไฟสายดาลัต เดินได้เพียง 7 กิโลเมตรจาก ดาลัต ไป ไตรมัต (Trai Mat)
http://www.lookatvietnam.com/2009/04/da-lat-train-station-to-get-facelift.html

บริษัท Giant ของมาเลย์คิดทำทาง จาก นครดองฮา ในจังหวัดกวางตรี ไป ที่ด่าน ลาวเบา ความยาว 95 กม. หลังจากที่ บริษัท Giant ของมาเลย์ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลลาว ในโครงการทางรถไฟจาก สวรรณเขต ไป ด่านลาวเบา มูลค่า 3000 ล้านดอลลาณ์สหรัฐ ความยาว 220 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมกับทางรถไฟสาย นครดองฮา - เมืองท่าลาวเบา ยาว 95 กม. เพื่อ ให้ บริษัทไทย และ ลาว หันไปใช้ท่าเรือ น้ำลึกไมทุย (My Thuy deep-water seaport) มูลค่า 1800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ของนครดองฮาได้

http://www.lookatvietnam.com/2009/02/msian-group-mulls-cross-border-railway-seaport-in-quang-tri.html

[CENTENNIAL]

เห็นแบบนี้ ถ้าเวียดนามสร้างรถไฟความเร็วสูงเรียบร้อยเมื่อไหร่ ไทยเราคงต้องเลิกแข่งกับเค้าแล้วล่ะ
ไม่แน่ว่าวันนั้น บ้านเราอาจจะยังเคลียร์เรื่องเสื้อแดง เสื้อเหลืองยังไม่จบเลยก็ได้

รถไฟ KTX ของเกาหลีใต้ ใช้เทคโนโลยีของ TGV ฝรั่งเศส เต็มๆ เลยครับ เพราะตัวรถเหมือนรถไฟTGV ทุกประการ ซึ่งมันแน่นอนอยู่แล้วครับ เพราะมาจากโรงงานเดียวกันคือ ALSTOM
เป็นประเทศมีพื้นที่ไม่มาก ก็ดีไปอย่าง เช่นทางรถไฟ KTX จากโซลไปบูซาน อย่างมากก็ 450 กิโลเมตร ส่วนแทางแยกจากแดจอน ไปมกโพ ก็ไม่น่าจะเกิน 200 กิโลเมตร รวมทั้งประเทศเกาหลีใต้ ไม่เกิน 650 กิโลเมตร แต่ผ่านเมืองสำคัญของประเทศมากมาย ก็เลยคุ้มค่าที่ลงทุนไป

ส่วนเวียดนามแม้จะไม่เล็ก แต่ก็เป็นประเทศยาวๆ ลงทุนสร้างทางรถไฟจากไซ่ง่อนไปโฮจิมินท์ 1,555 กิโลเมตร แต่ถ้าสร้างเสร็จเส้นทางก็ผ่านแทบทุกเมืองสำคัญ ก็น่าจะมีผู้โดยสารมากมายพอสมควร
แต่บ้านเราสิครับ ถ้าสร้างกรุงเทพ - เชียงใหม่ ก็ 700 กว่ากิโลเมตรเข้าไปแล้ว แต่ผ่านเมืองจังหวัดอย่างมากก็ อยุธยา - ลพบุรี - นครสวรรค์ - พิจิตร - พิษณุโลก - อุตรดิตถ์ - แพร่(เด่นชัย) - ลำปาง - ลำพูน - เชียงใหม่ รวมเป็น 10 สถานี แล้วจากนครสวรรค์ ถ้าเลือกไปทางกำแพงเพชร ก็จะผ่านกำแพงเพชร - ตาก แต่ พิจิตร - พิษณุโลก - อุตรดิตถ์ - แพร่ ก็จะหายไปอีกเหลือแค่ 8 สถานี 8 จังหวัด แต่เมืองไทยมีตั้ง 76 จังหวัด
และถ้าสร้างสายเหนือ ก็ต้องสร้างสายใต้พร้อมกัน กรุงเทพ - หาดใหญ่ ระยะทางประมาณ 1,000 กิโลเมตร ก็ผ่าน นครปฐม - ราชบุรี - เพชรบุรี - ประจวบฯ - ชุมพร - สุราษฎร์ - นครศรี(ทุ่งสง) - พัทลุง - สงขลา(หาดใหญ่) รวมเป็น 9 สถานี แต่เมืองไทยมี 76 จังหวัด

สร้างทางรถไฟความเร็วสูงไปกว่า 1,700 กิโลเมตร ไกลกว่าที่เวียดนามจะสร้างอีก แต่ก็ยังผ่านจังหวัดต่างๆ ประมาณ 20 จังหวัดเอง เหลืออีกตั้ง 56 จังหวัด อย่างเช่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งยังไม่มีทางรถไฟความเร็วสูงไปเลย แม้แต่นิดเดียว
ผมจึงนึกไม่ออกจริงๆ ครับว่า ทางรถไฟความเร็วสูงแบบทั่วถึงมากที่สุด แบบเหนือสุด ใต้สุด ตะวันออกสุด ฯลฯ จะได้เกิดเมื่อไหร่
คงต้องรอให้เศรษฐกิจบ้านเรา ดีมากๆ แบบเยอรมัน โน่นล่ะครับ ที่ว่าขนาดพื้นที่ที่ใหญ่ ไม่ส่งผลต่อการพัฒนาด้านการคมนาคมทางรถไฟ

แต่ไม่ต้องไปไกลมาก ตอนนี้ขอเบิกงบหลวงซื้อหัวรถจักรดีเซลใหม่ซัก 30 คันเป็นอย่างต่ำเถอะครับ

[donatt76]

มาเสริมผู้กองเอ็ม...ว่า ชักจะอิจฉาเค้าแล้วล่ะครับ...

ยื่นยันตามข่าวที่คุณวิศรุต เอามาให้ชมกันครับ...ไปเวียดนามทุกครั้งไกด์เวียดนามก็จะพูออย่างภาคภูมิใจว่า "เค้ากำลังจะมีระบบรถไฟที่ดีที่สุดใน South East Asia" แถมโปรเจคเค้าจะเข้าไปในกัมพูชา อย่างที่เป็นข่าวด้วย....

ตอนนี้ถนนจากโฮจิมืนห์ - พนมเปญ - เสียมเรียบ...มันเรียบกริบสมชื่อจริงๆครับ แถมรถบัสในเวียดนาม กับรถบัสเขมร มันก็เป็นรถยื่ห้อเดียวกัน พวงมาลัยข้างซ้ายเหมือนกัน แถมความสูงเท่ากัน...ฉะนั้นไม่มีปัญหาที่รถบัสเวียดนาม กับเขมรจะทะลุกันได้

แต่ทางถนนระหว่าง อรัญประเทศ - ศรีโสภณ - เสียมเรียบ ซึ่งกำลังจะเรียบในไม่ช้า (ประมาณปลายปีนี้) แต่ข้อจำกัดที่ว่า รถบัสประเทศไทย ดันสร้างซะสูงเกินพิกัดที่ทางกัมพูชา และเวียดนาม กำหนดไว้ แถมพวงมาลัยก็อยู่ตรงข่ามกะเค้าซะอีก

ถาจะเชื่อมภูมิภาค แข่งกะทางเวียดด้วยทางรถไฟ...เราคงต้องทำอะไรซักอย่างกับทางรถไฟสายอรัญประเทศ - คลองลึก - ศรีโสภณ - พระตะบอง - พนมเปญ แล้วล่ะครับ เรียกว่าใครเข้าถึงเขมรได้ก่อน คงกลายเป็นเจ้าตลาด เพราะจะต้องขนทั้งคน (นักท่องเที่ยว) และขนทั้งสินค้า...

ซึ่งถ้าเราไม่ทำอะไรเลย...Indochina Gateway ที่เราคุยนักคุยหนา ได้เปลี่ยนมือไปตกอยู่กับเวียดนามแหงๆครับ

ตั้งใจไว้ว่าจะต้องไปนั่งรถไฟในเมืองญวนซักครั้งในชีวิต แม้ว่ามันจะใช้เวลาข้ามวัน ข้ามคืนก็จะดั้นด้นไป....

ส่งข่าวอีกหน่อยว่า เห็นรถด่วนสายรวมชาติหลายครั้ง...เค้าไม่มี บชส หรือโบกี้พัดลมพ่วงแล้วนะครับ...เวียดนามกำลังจะเปลี่ยนรถไฟให้เป็นแบบมาเลเซีย คือ เป็นรถปรับอากาศทั้งระบบแล้วล่ะครับ...ถามไกด์ชาวเวียดนาม...เค้าบอกว่าไม่เหนจะยาก ถ้ากลัวคนไม่นั่งรถแอร์ ก็เอารถไม่แอร์ออกจากขบวนรถก็สิ้นเรื่อง ถ้าอยากนั่งรถร้อนก็นั่งรถธรรมดา ขบวนรถด่วน...ปรับอากาศล้วนๆ ท่าจะจริงของเค้าแฮะ
_________________

[Wisarut]

ไงๆ ก็เร่งซ่อมทาง + เอาแคร่ 100 กม./ชม + เครืองแอร์สำหรับรถโดยสาร+ ลมอัดคู่ จากลูกพี่จีนแดงเพื่อทำขบวนได้เร็ว 100 กม/ชม. สำหรับทาง 1 เมตร ก็แล้วกัน เพราะ ขนาดทางรางมาตรฐานที่ เชื่อมกับจีนแดงเพิ่งทำให้วิ่งได้ 70 กม./ชม. หลังจากโทรมจนถึงขั้นเบา 40 กม./ชม. มานาน