ตญ.ห้องสมุด @ สถานีบุรีรัมย์ กับนายกอภิสิทธิ์

[ExtendeD]

19:22 น. เป็นช่วงเวลาก่อนที่แสงสุดท้ายของวันจะหายลับไป รูปนี้ผมใช้โหมดถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกของ Lumix ตัวใหม่ เป็นมุมมองหันหน้าไปทาง สถานีบ้านหนองตาด น่าเสียดายที่พระอาทิตย์ไปลับขอบฟ้าอยู่ข้างหลังตึกที่สร้างขึ้นใหม่พอดี ไม่อย่างนั้นคงจะได้เห็นชัดกว่านี้ครับ




เดินมาดูบริเวณหอนาฬิกาที่อยู่ข้างหน้าอาคารสถานี จะเห็นรถส่งสัญญาณถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์จอดอยู่ 2 คัน คันใหญ่สุดที่จอดอยู่ข้างหน้า ( ตรงกลางของรูป ) เป็นของ MCOT Modern 9 รูปนี้ใช้โหมดถ่ายภาพตอนกลางคืนแบบที่ 2 ครับ ใช้โหมดกลางคืนแบบแรกไม่ได้ เพราะโหมดนั้นแพ้แสงจากสปอร์ตไลท์ . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ยามค่ำคืนแบบนี้เพื่อให้พี่ ๆ เขาสามารถทำงานด้านใน ตญ.ห้องสมุด แต่ละคันได้ก็เลยต้องเปิดไฟส่องสว่าง และนี่ก็เลยเป็นโอกาสดีของคนคอยซุ่มมองดูอยู่รอบนอกแบบผม ตอนนี้ข้างนอกมืด แต่ข้างในสว่าง ผมก็เลยสามารถมองเห็นรูปภาพที่แขวนตกแต่งอยู่บนผนังภายใน ตญ.ห้องสมุด แต่ละคันได้ค่อนข้างชัด ซึ่งทุกภาพเป็นเหตุการณ์ในอดีตที่เกี่ยวข้องกับรถไฟ ก็มีทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานานหลายสิบปี ( ที่เป็นภาพขาวดำ ) และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปีหลัง ๆ ( ที่เห็นเป็นภาพสี ) ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ตอนนี้พี่ ๆ ที่กำลังทำงานกันอยู่ในบริเวณใกล้ ๆ กับ ตญ.ห้องสมุด ก็อาศัยแสงไฟจากสปอร์ตไลท์ส่องสว่างในการมองเห็น เท่าที่ผมสังเกตดูความพร้อมของสถานที่ก็เกือบจะเต็ม 100% แล้วล่ะครับ




ใกล้ ๆ กับ ตญ.ห้องสมุด ที่อยู่ในสวนหย่อมแห่งนี้ ก็มีป้ายติดตั้งเอาไว้ให้ผู้เข้าร่วมงานได้อ่านเช่นเดียวกันครับ ซึ่งเรื่องราวที่อยู่ในป้ายนั้นใช้หัวข้อเรื่องว่า " ปฐมฤกษ์รถไฟหลวง " ที่มีเนื้อหาไม่เหมือนกับป้ายที่ติดตั้งอยู่บนชานชาลา นอกจากนั้นก็ยังมีภาพของ ตญ. สีน้ำเงินคาดเหลืองทั้ง 5 คันนี้ ตั้งแต่ก่อนถูกปรับปรุงเรื่อยมาจนกลายมาเป็น ตญ.ห้องสมุด ที่ถูกวางเรียงกันดังที่เห็นในตอนนี้ให้ชมอีกด้วยครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ความเคลื่อนไหวในวันที่ 10 กรกฎาคมเท่าที่เห็นและตามเก็บมาได้ก็มีแต่เพียงเท่านี้ครับ แต่ก่อนจะจบภารกิจในวันสุดท้ายก่อนจะถึงวันงานจริง ๆ ก็มารอส่งขบวนรถไฟที่จะเข้ากรุงเทพในช่วงหัวค่ำกันก่อน เริ่มจากขบวนแรกเป็น ขบวนรถเร็วที่ 142 ต้นทางสถานีอุบลราชธานี - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ที่ได้รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( ADD. ) หมายเลข 4405 ทำขบวนมาถึง สถานีบุรีรัมย์ เวลา 20:21 น. ครับ




ต่อมาก็ต้องเป็นคิวของ ขบวนรถด่วนดีเซลรางปรับอากาศที่ 74 ต้นทางสถานีศรีสะเกษ - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ที่เข้ามาจอดเทียบชานชาลาของ สถานีบุรีรัมย์ เมื่อเวลา 21:01 น. ครับ



2 รูปข้างบนนี้ใช้โหมดถ่ายภาพแบบเดียวกันครับ ดูแค่นี้ก็คงจะพอรู้แล้วใช่หรือเปล่าครับ ว่าที่บอกว่าแพ้แสงจากสปอร์ตไลท์นั้นเป็นยังไง เปลี่ยนไปใช้โหมดกลางคืนแบบที่ 2 รูปที่ออกมาก็มืดเกินไปอีก ดูเหมือนจะไม่มีอะไรพอดีเอาซะเลย เดี๋ยวก็หาเรื่องซื้อของใหม่ให้เดือดร้อนกระเป๋าตังค์อีกจนได้ . . .
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[saraburi]

[ExtendeD]

และขบวนสุดท้ายที่เห็นก่อนกลับไปพักผ่อนเพื่อเก็บแรงเอาไว้ลุยกันอีกทีในวันรุ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นวันสำคัญที่สุดของงานก็คือ ขบวนรถด่วนที่ 68 ต้นทางสถานีอุบลราชธานี - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ที่ได้รถจักรดีเซลไฟฟ้า General Electric ( GEA. ) หมายเลข 4529 ทำขบวนมาถึง สถานีบุรีรัมย์ เมื่อเวลา 21:32 น. ตอนนั้นเพิ่งจะผ่านคืนวันเพ็ญมาได้ 3 คืน ก็เลยยังคงเห็นพระจันทร์เป็นดวงกลมโตอยู่ เลยลองจับมาอยู่คู่กับขบวนที่ 68 ซะเลย ผลก็ออกมาเป็นอย่างที่เห็น . . .



วันรุ่งขึ้นก็จะเป็นวันที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาทำพิธีเปิดห้องสมุดการรถไฟฯ แล้ว ภาพบรรยากาศของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานจะเป็นอย่างไร พรุ่งนี้เช้าก่อนออกไปสัมมนาจะทยอยโพสท์ให้ได้รับชมกันครับ นี่ถ้าเป็นสี่เหลี่ยมปากหมูรสจืด ตอนต่อไปของกระทู้นี้ก็คงจะเป็นภาพบรรยากาศภายใน ตญ.ห้องสมุด แต่ละคันแน่ ๆ ครับ เพราะผมคงไม่เสียเวลามานั่งตากแดดให้ตัวดำผิวลอกรอชมบรรยากาศอยู่ในงานแน่นอน ดูทีวีอยู่ในบ้านสบายกว่ากันเยอะเลย . . .
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

[ExtendeD]

วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

วันนี้ผมกับน้องปู๊นออกจากบ้านเร็วกว่าทุก ๆ วัน ก็เลยมาถึงที่หมายตั้งแต่ยังไม่ 06:00 น. ในภาพนี้เป็นบรรยากาศบริเวณวงเวียนหอนาฬิกาหน้า สถานีบุรีรัมย์ จะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนำรั้วมากั้นปิดการจราจรเข้า - ออกในบริเวณนี้ ตามแผนการรักษาความปลอดภัยที่วางเอาไว้ครับ



จริง ๆ แล้วเมื่อเช้าผมเล่าเหตุการณ์ความเป็นมาเป็นไปที่เกิดขึ้นตั้งแต่คืนก่อนหน้านี้ ไล่ยาวมาจนถึงรุ่งเช้าได้ละเอียดกว่านี้มาก ซึ่งก็รวมถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับงานของหน่วยสำรวจสะพาน ที่ได้อธิบายเอาไว้อย่างยืดยาวในกระทู้รายงานประจำปีของ RFT.com ถ้าพี่ ๆ น้อง ๆ คนไหนเข้ามาอ่านทันก็ถือว่าโดนทรมานสายตากันไป เพราะเรื่องราวก็ยาวหลายย่อหน้า หลายบรรทัดอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าใครเข้ามาอ่านไม่ทันก็ถือซะว่าโชคดีไปแล้วกันครับ จะให้พิมพ์ใหม่ยังไงก็ไม่เหมือนเดิม เอาไว้ถ้าถึงเวลานำเสนอเรื่องราวใน อีสานใต้'52 The Series : เรื่อย ๆ ไปตามราง ตอนที่ 3 อาจจะลองจัดรายการ " แฉแต่เช้า " ผ่านทาง RFT.com เอาเรื่องราวนั้นมาเล่าให้ได้อ่านกันอีกทีครับ

พี่บอมบ์ไม่ต้องคิดมากนะครับ เมื่อวานตอนเดินเข้าห้องสัมมนาช่วงเช้า วิทยากรกำลังพูดเรื่องเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในองค์กรอยู่พอดี เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า ความผิดพลาดในการทำงาน 97.25% มีสาเหตุมาจากมนุษย์ ( Human Error ) ดังนั้นองค์กรต่าง ๆ จึงต้องหาทางนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อลดความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น ยิ่งตอนกำลังทำงานแบบ Multi Tasking แล้วด้วยโอกาสผิดพลาดย่อมมีสูงกว่าปกติ บลา บลา บลา อีกยืดยาว . . . เพราะฉะนั้นนี่เป็นเรื่องธรรมดาครับพี่ แต่ก็เท่ากับว่าทำให้กระทู้นี้จบช้าลงไปอีก 1 วัน มหากาพย์อีก 2 เรื่องที่รอต่อคิวอยู่ ก็ต้องเลื่อนตามกันไปด้วย
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ข้างหน้า สถานีบุรีรัมย์ ก็เป็นของเจ้าหน้าที่ทั้งนั้นครับ รถของบุคคลทั่วไปถูกเคลียร์ออกไปหมดแล้ว




ส่วนถนนที่ตัดขนานกับทางรถไฟที่อยู่อีกด้านหนึ่งนั้นก็ถูกปิดการจราจรมาตั้งแต่เมื่อวาน ( 10 ก.ค. ) แล้วครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[KaittipsBOT]

ล่าสุดมีรถ JR รุ่นลูกเสือโลก 2 คันไปดัดแปลงเป็นรถห้องสมุดที่รถพ่วงธนบุรีเตรียมส่งไปทำห้องสมุดที่สถานีหัวหิน เนื่องในที่ 12 สิงหาคม 2552 จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขอมา....