View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
pongb
3rd Class Pass
Joined: 26/07/2007 Posts: 35
|
Posted: 24/07/2009 10:11 am Post subject: |
|
|
Quote: | ป.ล. เคยอ่านเจอในเว็บ Community ใหญ่แห่งหนึ่ง เกี่ยวกับกรณีรถไฟชนรถยนต์ ณ จุดที่ไม่มีเครื่องกั้น เขาคนนั้นโพสต์ว่า รถไฟเมื่อเห็นรถยนต์กำลังข้ามทางแล้ว รถไฟต้องหยุดให้รถยนต์ไปก่อน เพราะรถยนต์มาถึงทางตัดก่อน ถ้าเกิดชนขึ้นมา รถไฟผิดเต็มๆ ..... ไม่รู้ว่ามันเอารอยหยักของสมองส่วนไหน คิดโพสต์นี้ออกมากันเนี่ย
|
สงสัยคน comment คนนี้คงต้องบอกอีกด้วยว่า ถ้าวัวกินหญ้าข้างทางรถไฟ ให้รถไฟ
หยุดรอจนกว่าวัวจะกินหญ้าเสร็จก่อนเป็นแน่แท้ |
|
Back to top |
|
|
mone
3rd Class Pass
Joined: 04/02/2009 Posts: 76
|
Posted: 24/07/2009 10:31 am Post subject: |
|
|
ไม่มีความเห็นเช่นกันครับ เพราะไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย และเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยครับ
เพียงแต่เห็นว่า "ถนน" นั้น เป็น "ถนน" อะไร
"ถนนเถื่อน" หรือ "ซอยเถื่อน" ที่เกิดขึ้นในทุกวัน
หรือ "ถนนหลวง" ที่รถยนต์ก็มีสิทธิ์ตามกฎหมายเช่นกัน
ถ้าเป็นถนนเถื่อนรถไฟไม่น่าจะผิด รถไฟควรต้องเรียกค่าเสียหายจากฝ่ายรถยนต์ด้วยซ้ำ
แต่ถนนหลวงที่สร้างจากกรมทางหลวงนั้น...ไม่แน่
เพราะถ้าเป็นถนนหลวงนั้น ผมว่าผู้ที่ผิดไม่น่าจะใช่ทั้งการรถไฟฯ และกรมทางหลวงฯ
แต่เป็นหน่วยงานของรัฐ ที่ไม่ยอมอนุมัติงบประมาณสร้างทางตัดให้การรถไฟฯ สักที! |
|
Back to top |
|
|
Gunnersaurus
1st Class Pass (Air)
Joined: 29/03/2006 Posts: 1574
Location: เมืองช้าง
|
Posted: 24/07/2009 10:31 am Post subject: |
|
|
CivilSpice wrote: | ป.ล. เคยอ่านเจอในเว็บ Community ใหญ่แห่งหนึ่ง เกี่ยวกับกรณีรถไฟชนรถยนต์ ณ จุดที่ไม่มีเครื่องกั้น เขาคนนั้นโพสต์ว่า รถไฟเมื่อเห็นรถยนต์กำลังข้ามทางแล้ว รถไฟต้องหยุดให้รถยนต์ไปก่อน เพราะรถยนต์มาถึงทางตัดก่อน ถ้าเกิดชนขึ้นมา รถไฟผิดเต็มๆ ..... ไม่รู้ว่ามันเอารอยหยักของสมองส่วนไหน คิดโพสต์นี้ออกมากันเนี่ย
|
เขาอาจจะมองในลักษณะที่ว่าเมื่อรถยนต์กำลังข้ามทางรถไฟก่อนที่รถไฟจะมาถึง ถ้าไม่กระชั้นชิดมากแล้วรถไฟสามารถหยุดได้ทันก็ควรที่จะหยุดให้รถยนต์ไปก่อน รถไฟก็ไม่มีสิทธิที่จะไปชนรถยนต์มังครับ เหมือนกับเวลาที่เราขับรถไปตามถนนแล้วเห็นคนไม่ข้ามถนนที่สะพานลอย เราก็ไปชนเค้าไม่ได้ ส่วนเรื่องค่าเสียหายทางแพ่งก็ไปว่ากันว่าใครประมาทมากน้อยกว่ากันก็หักกลบลบกันไป ถ้าเป็นกรณีที่ตัดหน้าในลักษณะที่ไม่สามารถหยุดรถได้เลยแล้วไปสอยเต็มๆ แบบนี้รถไฟก็ไม่ผิด
rodfaithai wrote: | ผู้ปกครองเด็กควรไปฟ้องร้อง เจ้าของรถ ต่อศาล ว่า "กระทำการ(ขับรถ)โดยประมาท (ฝ่าฝืน พระราชบัญญัติ
การจราจรทางบก พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๖๓) เป็นเหตุให้มีผู้ถึงแก่ความตาย" ไม่ใช่ฟ้อง รฟท ครับ |
ผู้ปกครองเด็กเค้าไม่ฟ้องคดีแพ่งเจ้าของรถเพราะว่าชั่งน้ำหนักดูแล้วหากชนะคดีเจ้าของรถไปอาจจะได้แค่คำพิพากษาไปนอนกอดโดยที่บังคับชำระหนี้ไม่ได้เลยเพราะเจ้าของรถอาจจะมีทรัพย์สินไม่เท่ากับจำนวนที่ฟ้องเรียกไป แต่ถ้าชนะคดี ร.ฟ.ท. ขึ้นมามีโอกาสบังคับคดีเอาเงินมาชำระหนี้ได้มากกว่า
ส่วนคดีอาญาพนักงานสอบสวนก็คงต้องดำเนินคดีกับคนขับถ้าฟังได้ว่าประมาท ผมว่าเค้าคงดำเนินคดีไปแล้วแต่เราไม่ทราบผลว่ามันไปถึงไหน
Last edited by Gunnersaurus on 24/07/2009 10:34 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/07/2006 Posts: 1346
|
Posted: 24/07/2009 10:33 am Post subject: |
|
|
CivilSpice wrote: | ทางรถไฟสายนี้ มีมาก่อนถนน ดังนั้น ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดสร้างเครื่องกั้น ควรจะเป็น อบต. หรือเทศบาล
ซึ่งหากมองว่าฝ่ายใดละเลยที่ไม่สร้างเครื่องกั้นแล้ว น่าจะเป็นฝ่ายท้องถิ่นที่ละเลยมากกว่าครับ |
อย่างน้อยที่สุด ท้องถิ่นต้องดูแล สามเหลี่ยมการมองเห็น ให้ดี ให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นรถไฟได้ชัดเจน ทั้งทางซ้ายมือและขวามือของผู้ขับขี่ อย่าให้มีต้นไม้ ต้นหญ้า หรืออาคาร หรือป้าย หรือสิ่งอื่นใด มาบดบังทัศนวิสัยของผู้ใช้รถใช้ถนน อันเป็นเหตุให้ผู้ขับขี่มองไม่เห็นรถไฟ นอกจากนั้นต้องดูแลป้ายเตือนทางตัดผ่านระดับพื้นให้ชัดเจน ถ้าสีจืดจางหรือไม่สะท้อนแสงตามมาตรฐาน(ITE)แล้วต้องเปลี่ยนใหม่ และที่สำคัญอย่าให้มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดมาบดบังป้าย |
|
Back to top |
|
|
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/07/2006 Posts: 1346
|
Posted: 24/07/2009 10:46 am Post subject: |
|
|
Gunnersaurus wrote: | rodfaithai wrote: | ผู้ปกครองเด็กควรไปฟ้องร้อง เจ้าของรถ ต่อศาล ว่า "กระทำการ(ขับรถ)โดยประมาท (ฝ่าฝืน พระราชบัญญัติ
การจราจรทางบก พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๖๓) เป็นเหตุให้มีผู้ถึงแก่ความตาย" ไม่ใช่ฟ้อง รฟท ครับ |
ผู้ปกครองเด็กเค้าไม่ฟ้องคดีแพ่งเจ้าของรถเพราะว่าชั่งน้ำหนักดูแล้วหากชนะคดีเจ้าของรถไปอาจจะได้แค่คำพิพากษาไปนอนกอดโดยที่บังคับชำระหนี้ไม่ได้เลยเพราะเจ้าของรถอาจจะมีทรัพย์สินไม่เท่ากับจำนวนที่ฟ้องเรียกไป แต่ถ้าชนะคดี ร.ฟ.ท. ขึ้นมามีโอกาสบังคับคดีเอาเงินมาชำระหนี้ได้มากกว่า |
ถ้าชนะคดี ต่อไปอาจจะเป็นบรรทัดฐาน ให้ผู้ ขับขี่โดยประมาทเป็นเหตุให้ถูกรถไฟชน พากันยกโขยงมาฟ้องร้องกันใหญ่ รฟท ก็จะถึงกาลอวสานต์เร็วขึ้น
แทนที่จะเอาตังค์ที่มีอยู่น้อยนิดไปทำรางคู่ ก็ต้องเอามาจ่ายค่าโรงค่าศาล ค่าสินไหม ฯลฯ จนสิ้นเนื้อประดาตัว
สังคมไทยก็เป็นอย่างนี้ ใจดี ใจอ่อน อะลุ้มอะล่วย หยวนๆ เช่น ปล่อยให้ใช้ผิวจราจรมีรถเข็นขายของแล้วไม่จับ ต่อไปก็มีหลายรายขึ้นเกิดการรวมกลุ่ม ถึงอยากจะจับก็จับไม่ได้แล้ว ดังนั้นต้องตัดไฟแต่ต้นลม อย่าปล่อยให้ลุกลาม รวมถึงกรณีรถชนด้วยเหมือนกัน รถใหญ่มักจะเป็นฝ่ายผิดทุกที หรือไม่ก็คนตายเป็นฝ่ายผิด เพราะไม่สามารถลุกขึ้นมาให้การโต้แย้งได้ เราควรใช้ความถูกต้องเป็นบรรทัดฐานของสังคมดีกว่า |
|
Back to top |
|
|
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/03/2006 Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น
|
Posted: 24/07/2009 10:55 am Post subject: |
|
|
Gunnersaurus wrote: | เขาอาจจะมองในลักษณะที่ว่าเมื่อรถยนต์กำลังข้ามทางรถไฟก่อนที่รถไฟจะมาถึง ถ้าไม่กระชั้นชิดมากแล้วรถไฟสามารถหยุดได้ทันก็ควรที่จะหยุดให้รถยนต์ไปก่อน รถไฟก็ไม่มีสิทธิที่จะไปชนรถยนต์มังครับ เหมือนกับเวลาที่เราขับรถไปตามถนนแล้วเห็นคนไม่ข้ามถนนที่สะพานลอย เราก็ไปชนเค้าไม่ได้ ส่วนเรื่องค่าเสียหายทางแพ่งก็ไปว่ากันว่าใครประมาทมากน้อยกว่ากันก็หักกลบลบกันไป ถ้าเป็นกรณีที่ตัดหน้าในลักษณะที่ไม่สามารถหยุดรถได้เลยแล้วไปสอยเต็มๆ แบบนี้รถไฟก็ไม่ผิด |
ถ้าเป็นกรณีแรก ที่มีระยะห่างมากพอสมควร และอยู่ในวิสัยที่จะชะลอความเร็วได้ ผมว่าโดยสัญชาติญาณของมนุษย์ พขร. ส่วนใหญ่ก็จะเบาความเร็ว และชักหวีดเตือนกันอยู่แล้วครับ (จากที่เคยไปสัมผัสประสบการณ์ที่หน้า CAB กับขบวนรถนำเที่ยวสายน้ำตก) ซึ่งมีหลักฐานตรวจสอบได้จากเทปบันทึกความเร็วจาก Speed Meter ที่ติดเอาไว้ ว่าก่อนเกิดอุบัติเหตุนั้น มีการลงห้ามล้อไว้หรือไม่
แต่ส่วนใหญ่แล้ว อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น มันก็มักจะมาจากความประมาทของผู้ขับขี่รถยนต์ และการขาดวินัยในการจราจร (พบได้ทั่วไปตามท้องถนน) โดยเฉพาะเป็นกรณีตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด บางรายหนักกว่านั้น คือ เครื่องกั้นประเภทครึ่งถนนลงแล้ว หรือมีรถคันอื่นจอดรอรถไฟอยู่แล้ว แต่พี่แกก็ยังจะซิ่งท้านรก แซงขวาแล้วไปปาดเอาข้างหน้าตรงทางตัด กะว่ายังไงๆ ก็ทัน แต่สุดท้ายก็แจ็คพ็อต .... เพราะผู้ที่ทันก็คือยมฑูตครับ รับวิญญาณไปทันตามกำหนด
วันนั้นที่ไปส่งชาวคณะไปหาดใหญ่ ที่สถานีนครปฐม ก่อนที่ผมจะกลับกับขบวน 258 ก็เกือบมีโศกนาฏกรรมที่สถานี เพราะมีผู้หญิงคนหนึ่ง อายุประมาณ 18-20 มัวแต่เดินคุยโทรศัพท์ แล้วก็กำลังจะเดินข้ามทางรถไฟ จากฝั่งตรงข้ามสถานี มาที่ฝั่งชานชาลา (หน้าหอประแจเก่า) แล้วไม่ได้สังเกตว่าขบวน 258 กำลังจะเข้าสถานีอยู่แล้ว จน พขร. ต้องชักหวีดดังลั่น แถมแม่ค้าแถวนั้นก็ร้องโวยวายกันใหญ่ เธอถึงได้หยุดครับ (หยุดแบบคนตกใจ) เพราะถ้าเธอเดินก้าวไปอีกประมาณ 2-3 ก้าว ได้โดน Alsthom คาบไปรับประทานแน่ๆ
ผมว่ายังมีคนอีกมาก ที่เป็นลักษณะนี้ ทั้งผู้ขับขี่รถยนต์ และบุคคลคนทั่วไป อย่างไรแล้วก็ระมัดระวังตัวกันไว้ด้วยครับ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง
Last edited by CivilSpice on 24/07/2009 11:24 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/07/2006 Posts: 1346
|
|
Back to top |
|
|
CENTENNIAL
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/03/2006 Posts: 3642
Location: Thailand
|
Posted: 24/07/2009 11:29 am Post subject: |
|
|
คือผมคิดว่า ประเด็นของเรื่องนี้ อยู่ที่ย่อหน้าสุดท้ายของคำพิพากษาในข่าวเลยครับ |
|
Back to top |
|
|
donatt76
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 24/07/2009 12:24 pm Post subject: |
|
|
เห็นด้วยกับพี่มิ้งครับ.....รถไฟควรชดใช้คาเสียหาย "ตามมนุษยธรรม" ไม่ใช่เพราะแพ้คดี
ส่วนเรืองดำเนินการทางกฎหมายของการรถไฟ...อันนี้เป็นเรื่องของหน่วยงานท่านล่ะครับ
แต่อย่างไรก็ดี....ตาม พรบ.จราจรทางบก ไม่ว่าถนนนั้นจะเป็นถนนประเภทใด จะเถื่อนหรือไม่เถือ่น....เมื่อมีทางรถไฟตัดผ่าน Priority แรก จะเป็นของรถไฟเสมอครับ....ถ้าตามกฎหมายว่าไว้ ไม่ว่าอย่างไร รถยนต์ ก็ต้องผิด (หรือเค้ายกเลิก พรบ.จราจรทางบก 2522 แล้ว เพราะมันเก่าแก่ซะเหลือเกิน)
อย่าลืมครับ...ว่าคำพิพากษาของศาลที่เคยมีมาแล้ว สามารถหยิบยกมาใช้เป็นบรรทัดฐานในการตัดสินครั้งต่อไปได้...ทางฝ่ายกฎหมายน่าจะตระหนักถึงข้อนี้ไว้บ้างครับ _________________
|
|
Back to top |
|
|
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/07/2006 Posts: 1346
|
Posted: 24/07/2009 12:57 pm Post subject: |
|
|
Gunnersaurus wrote: | ผู้ปกครองเด็กเค้าไม่ฟ้องคดีแพ่งเจ้าของรถเพราะว่าชั่งน้ำหนักดูแล้วหากชนะคดีเจ้าของรถไปอาจจะได้แค่คำพิพากษาไปนอนกอดโดยที่บังคับชำระหนี้ไม่ได้เลยเพราะเจ้าของรถอาจจะมีทรัพย์สินไม่เท่ากับจำนวนที่ฟ้องเรียกไป แต่ถ้าชนะคดี ร.ฟ.ท. ขึ้นมามีโอกาสบังคับคดีเอาเงินมาชำระหนี้ได้มากกว่า |
แนะนำญาติผู้เสียหาย ให้ไปฟ้อง ต่อศาลว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เป็นเจ้าของถนน
กระทำการโดยประมาท น่าจะดีกว่า โอกาสชนะมีเห็นๆ ใช้กรณีตัวอย่างคือ ราวสะพานชำรุด เป็นเหตุให้มีเด็กตกลงไปในคลอง ณ เทศบาลแห่งหนึ่ง เทศบาลแพ้คดีต้องจ่ายค่าสินไหมให้ผู้เสียหาย
กรณีนี้ก็ประมาทโดย ไม่ทำเครื่องกั้น หรือไม่จัดทำป้ายเตือนให้ชัดเจน หรืออะไรก็ว่าไป องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าของถนนเส้นนั้นคงมีเงินจ่ายค่าสินไหมได้ครับ |
|
Back to top |
|
|
|