Rotfaithai.Com :: View topic - [หนังสือหายาก] ที่รฦกแห่งการเปิดทางรถไฟหลวงสายใต้ ๒๔๕๙
View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 45139
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 02/08/2009 11:26 pm Post subject:
heerchai wrote: ผมชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในเมืองไทยทุกยุค ทุกสมัย ยิ่งเกี่ยวกับทางรถไฟสายใต้ หาอ่านยาก รูปแบบสถาปัตยกรรมสถานีต่างๆในสายใต้ ที่ตั้งของสถานีมีความเป็นมาอย่างไร นี่แหละเป็นสิ่งที่น่าสนใจ น่าติดตามหาเก็บมาประจำบ้านได้เลย ครับ
มีสถานที่หลายแห่งในหนังสือเล่มนี้ที่ผมอ่านแล้วนึกไม่ออกว่าอยู่ที่ไหน
คงต้องรบกวนเฮียใช้และสมาชิกทุกท่านช่วยเพิ่มเติมข้อมูลต่อไปนะครับ
Back to top
BanPong1
1st Class Pass (Air) Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
Posted: 02/08/2009 11:39 pm Post subject:
แค่เห็น "สารบาญ - บาญชีรูป" ก็ยิ่งชวนให้ติดตามแบบที่ต้อง F5 ทุกๆชั่วโมงเลยครับ อ.เอก _________________
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 45139
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 02/08/2009 11:42 pm Post subject:
รัฐบาล
รัฐบาลของประเทศสยามนั้น มีสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินทรงพระ
บรมเดชานุภาพสิทธิ์ขาดในกิจราชการแผ่นดินทั้งปวง ทรงพระปรมา
ภิไธยว่า พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธพระมงกุฎ
เกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้เสด็จขึ้นผ่านพิภพเถลิงถวัลยราชสมบัติ เมื่อ
วันที่ ๒๓ ตุลาคม พระพุทธศักราช ๒๔๕๓ ส่วนการปกครองแผ่นดิน
นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระบรมเดชานุภาพสิทธิ์ขาด
มีท่านเสนาบดีกระทรวงต่างๆ เปนที่ปฤกษา
พระราชอาณาจักร์แลจำนวนพลเมือง
พระราชอาณาเขตร์ มีเนื้อที่ประมาณ ๓๒๐,๐๑๙ กิโลเมเตอร์
จัตุรัศ โดยยาวตั้งแต่เหนือถึงใต้ประมาณ ๑,๖๒๙ กิโลเมเตอร์ โดย
กว้างตั้งแต่ตวันออกถึงตวันตกประมาณ ๗๘๒ กิโลเมเตอร์ ส่วน
พระราชอาณาจักร์ที่ติดต่อกับอ่าวสยาม, ทะเล, แลมหาสมุทนั้น ยาว
ประมาณ ๒,๔๐๐ กิโลเมเตอร์ มีพลเมืองประมาณ ๘,๒๖๖,๔๐๐
ส่วนในกรุงเทพพระมหานครนั้น มีพลเมืองประมาณ ๕๔๐,๐๐๐
เงินผลประโยชน์รายได้ของแผ่นดิน
ผลประโยชน์รายได้ของแผ่นดิน ในปีพระพุทธศักราช ๒๔๕๖
๗๔,๓๙๙,๖๘๒ บาท รายจ่าย ๖๓,๒๒๐,๓๐๙ กับมีรายจ่าย
พิเศษอีก ๑๑,๘๓๓,๒๒๐ (ซึ่งมิได้จ่ายจากรายได้ของแผ่นดิน
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 45139
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 02/08/2009 11:49 pm Post subject:
BanPong1 wrote: แค่เห็น "สารบาญ - บาญชีรูป" ก็ยิ่งชวนให้ติดตามแบบที่ต้อง F5 ทุกๆชั่วโมงเลยครับ อ.เอก
ขอบคุณครับ
พักสายตาจากตัวหนังสือ
นำภาพที่ ๒๗ ภูมิภาพที่ทุ่งสง มาให้ชมกันก่อนครับ
เป็นภาพแบบพาโนรามา ขนาด 1.8 MB ครับ
http://biochem.flas.kps.ku.ac.th/rft/060.jpg
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42839
Location: NECTEC
Posted: 03/08/2009 12:40 am Post subject:
ในปี 2458 รางประธานจากบางกอกน้อยไปถึงเทพา พอให้รถงาน และ รถพิเศษที่จูงรถพระที่นั่งไปได้แล้ว แต่ ย่านสถานีกับสะพานยังไม่เรียบร้อยเพราะ ติดสงครามที่ยุโรป ต้องเอาสะพานไม้มาแทนสะพานเหล็ก เลยเปิดเดินรถ ได้เป็นช่วงๆ มิหนำซ้ำยังโดนพายุฝนทำพิษทำให้การเปิดเดินรถล่าช้าออกไป
รางเพิ่งไปบรรจบกันได้จริงๆที่ชุมพรเมื่อ 17 กันยายน 2459 แต่การเดิน รถ กว่าจะให้เดินตลอดถคึงอู่ตะเภา ต่อ 1 มกราคม 2459 (นับเข้าเป็นปี 1917 แล้ว)
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 45139
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 03/08/2009 6:28 am Post subject:
^^^
ขอบคุณสำหรับเกร็ดความรู้เพิ่มเติมครับ
๔
ที่กล่าวมาแล้วนี้) ตามรายได้รายจ่ายที่กล่าวมาแล้วนี้ เปน
จำนวนที่รับแลจ่ายจริงในครั้งที่สุดเมื่อเรียบเรียงหนังสือเล่มนี้ ใน
เวลา ๒๒ ปีที่ล่วงแล้วมานั้น (พ.ศ. ๒๔๓๕) ผลประโยชน์รายได้
ของแผ่นดินได้เพียง ๑๕,๓๗๘,๑๑๔ บาทเท่านั้น จะเห็นได้ว่าในวาระ
๒๒ ปีที่ล่วงมาแล้วนี้ เงินผลประโยชน์ของแผ่นดินได้ทวีขึ้นถึงร้อย
ละ ๔๘๐
เงินผลประโยชน์รายได้เหล่านี้ ได้จากประเภทต่างๆ ดังนี้
(๑) ค่าภาษีอากรแลค่าธรรมเนียมต่างๆ คือ อากรสุรา,
ยาฝิ่น, ภาษีภายใน, อากรค่านา, อากรสมภักษร, เงินค่าราชการ, ภาษี
ขาเข้าแลขาออก, อากรค่าน้ำ, ค่าอาชญาบัตร์ฆ่าสัตว์, ค่าลง
ทะเบียฬรถแลเรือ, ค่าใบอนุญาตตั้งโรงจำนำ, ค่าภาษีโรงร้าน, ค่า
ธรรมเนียมความ, แลค่าธรรมเนียมอำเภอเบ็ดเตล็ดต่างๆ
(๒) ค่ารถไฟ, ไปรสนีย์โทรเลข, ประตูน้ำ, โอสถศาลา,
ค่าธรรมเนียมหอทะเบียฬ, ออกใบจอง, ค่าธรรมเนียม
ป่าไม้แลค่าตอไม้, ค่าอาชญาบัตร์เหมืองแร่, ค่าเช่าที่ดิน, แลค่าขาย
ของๆ รัฐบาล
(๓) ค่าดอกเบี้ย, กำไรค่าแลกเงิน, กำไรทำเหรียญกระสาปน์,
ค่าขายของที่ทำด้วยแรงนักโทษ, เหล่านี้เปนต้น
อนึ่งการปกครอง กระทรวงทะบวงการต่างๆ ที่ได้เปลี่ยนแปลง
แก้ไขให้เจริญยิ่งขึ้นเปนลำดับมาตามกาลสมัยนั้น ก็จำเปนที่ต้อง
เก็บส่วยสาอากรทวีขึ้นบ้างกว่าแต่ก่อนตามสมควร แต่การที่ผล
ประโยชน์รายได้ของแผ่นดินได้ทวีขึ้น ไม่ใช่เพราะขึ้นภาษีอากรแต่
๕
อย่างเดียว ย่อมเนื่องมาจากการออกพระราชกำหนดกฎหมายต่างๆ
อันเกี่ยวกับการเงินเปนอาทิ นอกจากนี้ต้องนับว่าการที่ได้จัดระเบียบ
การปกครองทั่วไปให้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนนั้นเปนอันมาก ส่วนการตรวจ
ตราในการเก็บผลประโยชน์ต่างๆ นั้นก็ถ้วนถี่ดีขึ้นด้วย ทั้งจำนวน
พลเมืองก็ได้ทวีมากขึ้นเปนลำดับมา แลการคมนาคมเช่นการรถไฟ,
การทางน้ำ, ทางบก, แลการไปรสนีย์โทรเลข ก็ได้เจริญขึ้นสมควร
แก่เวลานั้นด้วย
ในปลายปีพระพุทธศักราช ๒๔๕๙ หนี้ของประเทศสยามที่กู้จาก
เมืองต่างประเทศ คิดเปนเงินตราอังกฤษเปนเงิน ๖,๕๘๐,๑๖๐ ปอนด์
เปนเงินสยามประมาณ ๘๕,๕๔๖,๐๘๐ บาท การที่กู้เงินต่างประเทศ
มาใช้เช่นนี้ ย่อมเป็นประเพณีรัฐบาลทั่วไปใช้อยู่เปนธรรมดา ที่รัฐบาล
ได้เริ่มทดลองกู้เงินต่างประเทศมาใช้นี้ ถ้าจะเปรียบกับรัฐบาลอื่นๆ
แล้ว ก็นับว่าเปนจำนวนเงินน้อย หรือหนี้ของประเทศมีน้อยที่สุด
ส่วนเงินที่กู้มาแต่ต่างประเทศนี้ก็เอามาใช้ในการสร้างทางรถไฟแล
การประปาเปนต้น เพื่อบำรุงบ้านเมืองให้มั่นคงสมบูรณ์ แลให้
ประชาชนพลเมืองได้รับความผาสุขยิ่งขึ้นเปนอาทิ
การค้าขาย
ภายใน ๒๒ ปี นับตั้งแต่ปีพระพุทธศักราช ๒๔๓๖ เปนต้นมา
สินค้าที่ส่งออกไปต่างประเทศ มีราคาทวีขึ้นตั้งแต่ ๓๘,๐๐๐,๐๐๐
บาทถึง ๑๑๕,๕๐๐,๐๐๐ (กว่าร้อยละ ๓๐๐) อนึ่งราคาสินค้า
ต่างประเทศที่ได้นำเข้ามาขายในประเทศสยามนั้น ก็มีส่วนทวีขึ้น
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 45139
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 03/08/2009 6:51 am Post subject:
๖
เกือบเท่ากัน ราคาสินค้าขาเข้าที่มากที่สุดนั้น นับว่าในปีพระพุทธ
ศักราช ๒๔๕๖ ซึ่งเปนจำนวนเงินถึง ๙๐,๗๘๘,๘๓๘ บาท การ
ค้าขายของประเทศสยามกับต่างประเทศนั้น ย่อมอาไศรย์เรือแลทุน
ของต่างประเทศอยู่โดยมาก สินค้าที่ประเทศสยามได้ส่งออกไปขาย
ในนานาประเทศทวีขึ้นตามลำดับเปนอันมากดังกล่าวมาแล้วนี้ ถ้า
คิดเฉลี่ยตามจำนวนพลเมืองแล้ว จะเห็นได้ว่าพลเมืองของประเทศ
สยามคนหนึ่ง ได้ส่งสินค้าออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศเปนราคา
คนละ ๕ บาท ๘๐ สตางค์ ทวีขึ้นคนละ ๑๔ บาท ๓๐ สตางค์ หรือ
ได้ทวีขึ้นเกือบร้อยละยี่สิบห้า ทั้งนี้ย่อมเนื่องมาแต่เหตุที่บ้านเมือง
ได้เจริญขึ้นอย่างรวดเร็วเปนลำดับมา ส่วนจำนวนเงินที่ใช้จ่ายกันอยู่
ในประเทศนั้น ได้ทวีขึ้นตั้งแต่ ๓๖,๐๐๐,๐๐๐ ถึง ๑๐๙,๐๐๐,๐๐๐ บาท
สินค้าสำคัญที่ส่งออกไปขายในนานาประเทศนั้น มีเข้า, ไม้สัก,
พืชผลที่เกิดจากสวน ปลา, แลโคกระบือเปนต้น ส่วนบ่อเกิดแห่ง
โภคทรัพย์อื่นๆ ของประเทศนั้น ก็มีอยู่อีกเปนอันมาก คือ แร่ธาตุ
ต่างๆ เช่น ทองคำ, ดีบุก, ถ่านหิน, น้ำมันดิน, เหล็ก, ทองแดง, ตะกั่ว,
แร่ตายหรือวอลแฟรม, แลพลวงเปนต้น อนึ่งแก้วอันมีค่าก็มี เช่น
นิลแลทับทิมเปนอาทิ ในจำนวนโลหะต่างๆ นี้ มีแต่แร่ดีบุกแลแร่
วอลแฟรมเท่านั้น ที่มีผู้ขออนุญาตทำมากในมณฑลภาคใต้จนเปน
สินค้าใหญ่ ในปีพุทธศักราช ๒๔๕๗ รวมดีบุกที่ขุดได้เปนจำนวน
๑๑๐,๗๓๒ หาบ.
๗
สินค้าสำคัญที่ได้ส่งออกไปขายตามนานาประเทศในปี พ.ศ. ๒๔๔๗
นั้น มีรายชื่อดังต่อไปนี้ :-
รายชื่อสินค้า----------ราคาเงินบาท-----------ราคาเงินปอนด์
เข้า ......................๘๕,๓๔๖,๕๗๒............. ๖,๕๖๕,๑๒๑
ไม้สัก ...................๕,๐๔๔,๔๕๙ ................๓๘๘,๐๓๕
ไม้ต่างๆ ...............๗๔๔,๐๒๒ ....................๕๗,๒๓๒
หนังโค กระบือ ......๒,๔๖๗,๒๕๘ .................๑๘๙,๗๘๙
ปลาต่างๆ .............๑,๓๕๕,๕๘๖ .................๑๐๔,๒๓๖
พริกไทย์ ..............๑,๐๓๘,๕๔๗ .................๗๙,๘๘๘
ไหมต่างๆ .............๗๒๔,๔๖๑ ....................๕๕,๗๒๗
ไหมดิบ .................๓๑๑,๑๘๕ ...................๒๓,๙๓๗
ฝ้าย ......................๒๒๔,๕๑๙ ...................๑๗,๒๗๐
โค กระบือ .............๕๔๑,๖๖๕ ....................๔๑,๖๖๖
สินค้าสำคัญที่ได้ส่งเข้ามาจากนานาประเทศในปีเดียวกัน ดังมี
รายชื่อต่อไปนี้ :-
รายชื่อสินค้า-----------------------ราคาเงินบาท-----------ราคาเงินปอนด์
ผ้าต่างๆ ที่ทำด้วยเยื่อใยต่างๆ
แลขนสัตว์ ..............................๑๗,๕๕๐,๓๑๕ ...........๑,๓๕๐,๐๒๔
ด้ายชนิดต่างๆ ที่ทำด้วยฝ้าย ........๒,๐๔๘,๘๔๑ ............๑๕๗,๕๒๖
Back to top
nop2
2nd Class Pass (Air) Joined: 06/03/2008 Posts: 985
Location: เพชรบุรี
Posted: 03/08/2009 7:29 am Post subject:
ดูดีๆ เห็นพริกไทย เขียนด้วย พริมไทย์ด้วยนะครับ ไม่ทราบคำคำนี้ เปลี่ยนการเขียนปีไหนครับ _________________ "You are star I am darkness Our love brighter than the sun .."
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 45139
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
suraphat
1st Class Pass (Air) Joined: 12/02/2007 Posts: 1117
Location: ดินแดง ห้วยขวาง
Posted: 03/08/2009 9:00 am Post subject:
nop2 wrote: ดูดีๆ เห็นพริกไทย เขียนด้วย พริมไทย์ด้วยนะครับ ไม่ทราบคำคำนี้ เปลี่ยนการเขียนปีไหนครับ
ใจเย็นๆ ขอให้รอดูกันไปก่อน ที่กระผมจะขอสังเกตในเรื่องของภาษาที่ใช้อยู่ในยุคนั้น ซึ่งก็มีอยู่หลายคำ เช่นคำว่า เปน ที่รฦก หรือแม้กระทั่ง คำว่า พริกไทย์ นะครับ
ส่วนที่ว่า เขามาเปลี่ยนกันปีไหนนั้น ก็บอกได้ทันทีว่ามาเปลี่ยนกันในยุคที่จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นรัฐบาลนะครับ เพราะในยุคนั้นมีความเปลี่ยนแปลงอยู่หลายอย่างเช่น เปลี่ยนแปลงวันชึ้นปีใหม่ จากเดือนเมษายนเมาเป็นเดือนมกราคมในปี 2483 ซึ่งก็ทำให้ ปี 2482 มีเดือนอยู่เพียง 9 เดือนในรอบปีเท่านั้น
เปลี่ยนชื่อจากสยามเป็นไทย เพื่อให้ได้สอดคล้องกับสากล
และที่สำคัญก็คือเปลี่ยลักษณะของการเขียนภาษาไทยกันอย่างขนานใหญ่เลยนะครับ ซึ่งก็รวมถึงการเปลี่ยนแปลงลักษณะการเขียนของคำดังกล่าวนี้ด้วยนะครับ
Back to top
You cannot post new topics in this forum You cannot reply to topics in this forum You cannot edit your posts in this forum You cannot delete your posts in this forum You cannot vote in polls in this forum
Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group