ขบวน 278 ชนเก๋งที่คลองอุดมชลจร (22/08/52)

Wisarut · Posted: 22/08/2009 10:37 pm Post subject:

ขอเพิ่้ม ข่าวนี้่ ให้่มันต่อกัน
//-----------------------------------------

รอดตายราวปาฏิหาริย์ เซลล์หนุ่มขายกาวอุตสาหกรรม หลังถูกรถไฟขยี้เก๋งหรูเละ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 สิงหาคม 2552 14:37 น.
Click on the image for full size

ฉะเชิงเทรา -เซลล์หนุ่มหวิดดับแต่รอดตายราวปาฏิหาริย์ หลังถูกขบวนรถไฟโดยสาร ปราจีน-กรุงเทพฯ บดขยี้รถยนต์เก๋งหรูเละกลิ้งตกลงข้างราง เจ้าตัวคุยมีพระดีคือความไม่ประมาท ขณะตำรวจระบุผู้ใช้เส้นทางต้องระมัดระวังเอง แม้ทางรถไฟจะไม่มีแผงกั้น

วันนี้(22 ส.ค.52) ] ร.ต.ท.ธัญญะ จันทร์ลองภาส ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งเกิดเหตุ ขบวนรถไฟโดยสารเที่ยวเช้า ออกเดินรถจากสถานีต้นทางสายปราจีน-กรุงเทพฯ พุ่งเฉี่ยวชนรถยนต์เก๋งพังเสียหายยับเยิน ที่บริเวณถนนทางรถไฟสายกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา ตัดกับ ถนนสายคลองหลวงแพ่ง-คลองอุดมฯ พื้นที่ ม.7 ต.คลองอุดมชลจร อ.เมืองฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุพบ รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ษจ-2669 กทม. ถูกขบวนรถไฟชนจนได้รับความเสียหายพังยับเยินทั้งคัน นอนตะแคงข้างติดอยู่กับรั้วกั้นแนวเขตรถไฟ ที่เกิดเหตุอยู่ก่อนถึงสถานีรถไฟย่อย คลองอุดมชลจร ด้านฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ประมาณ 500 เมตร มีนายวสันต์ ทั่งจันทร์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103/309 ต.คลองอุดมชลจร ซึ่งเป็นคนขับ ยืนรออยู่ข้างรถ โดยมีกลุ่มชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงเข้ามายืนมุงดูอยู่เป็นจำนวน มาก

โดยต่างวิจารณ์ถึงความน่าประหลาดใจ ที่คนขับรถเก๋งไม่ได้รับอันตราย หรือบาดเจ็บมีบาดแผลตามร่างกายแต่อย่างใด หลังจากถูกรถไฟขบวนยาวพุ่งชนจนรถยนต์เก๋งพังเสียหายยับเยินทั้งคัน ในที่เกิดเหตุมีเพียงถังกาวตัวอย่างที่ถูกบรรทุกใส่มาในรถแตก จนมีกาวน้ำสีขาวนวลไหลออกมานองเต็มพื้นรางรถไฟ

จากการสอบสวนนายวสันต์ กล่าวว่า ตนมีอาชีพเป็นเซลล์แมนจำหน่ายกาวอุตสาหกรรม หลังจากขับรถออกจากบ้านในหมู่บ้านพฤกษา 27 ในเขต ต.คลองหลวงแพ่ง เพื่อเดินทางมุ่งหน้าไปติดต่อจำหน่ายกาวให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมในนิคม อุตสาหกรรม ย่านจังหวัดปราจีนบุรี เมื่อมาถึงยังที่เกิดเหตุบริเวณทางข้ามทางรถไฟ ได้หยุดชะลอรถ เพื่อที่จะมองดูรถไฟทั้งด้านซ้ายและขวาก่อนที่จะข้ามทาง

แต่ได้ถูกขบวนรถไฟที่พุ่งออกมาทางด้านขวา ซึ่งมีพุ่มไม้ขึ้นรกบกคลุ่มบดบังจนมองไม่เห็นรถไฟที่มาในรางด้านซ้ายสุด จากทั้งหมดมี 3 ราง ขนานกัน เข้าชนรถยนต์ของตนอย่างจัง ก่อนที่จะเกี่ยวลากรถเก๋งของตนไปตามเส้นทาง และพลิกคว่ำตกลงไปพิงอยู่กับรั้วกั้นเขตรถไฟ นายวสันต์ เล่าถึงนาทีระทึก

“สำหรับสาเหตุที่รอดตายได้ราวกับปาฏิหาริย์ในครั้งนี้ เชื่อว่าเป็นเพราะมีพระดี คือ การตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท” นายวสันต์ กล่าวในที่สุด

ด้าน ร.ต.ท.ธัญญะ กล่าวว่า ผู้ใช้เส้นทางรถยนต์ตัดข้ามกับทางรถไฟต้องเป็นฝ่ายระมัดระวังรถไฟเอง เพราะรถไฟมีเส้นทางมาตามรางของตนเองอย่างชัดเจน แม้จะไม่มีแผงรั้วกั้นขณะขบวนรถไฟเคลื่อนผ่านก็ตาม

alderwood · Posted: 22/08/2009 11:01 pm Post subject:

ถ้าจำไม่ผิด ทางตัดจุดนี้พขร.ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะต่างคนต่างแทบมองไม่เห็นกันและกัน
_________________
รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter

aonpakorn · 3rd Class Pass Joined: 06/07/2006 Posts: 153

ต้องมีความรับผิดชอบร่วมกันทั้งสองฝ่ายดังนี้ครับ

ฝ่ายคนใช้รถ แน่นอนว่าต้องระมัดระวังในการขับผ่านทางรถไฟ ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ถ้าไม่ระวังก็อาจจะไม่รอดได้

ฝ่ายรถไฟ ดูแลจุดตัดให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม ไม่มีต้นไม้ต้นหญ้าขึ้นสูงจนบังทัศนวิสัย ถ้าเป็นเขตชุมชนควรมีเครื่องกั้น

ผมเคยผ่านจุดตัดที่มีต้นไม้ขึ้นบัง ระยะมองเห็นแคบมาก จึงต้องฟังเสียงสัญญาณหวึด และให้คนในรถลงไปดูทางให้ บางจุดตัดอยู่ใกล้รางรถไฟโค้ง ซึ่งเป็นจุดบอด และบางจุดตัดมีถนนวิ่งขึ้นไปหาทางรถไฟทำให้มองเห็นลำบากเช่นกัน

headtrack · Posted: 23/08/2009 10:57 am Post subject:

Tob96 · Posted: 23/08/2009 12:34 pm Post subject:

alderwood · Posted: 23/08/2009 1:43 pm Post subject:

ตอนที่ลงไปที่ประจวบฯ ทางตัดแต่ละจุดมีการแก้ไขครับ จะมีป้ายจำกัดความเร็วให้รถยนต์ลดความเร็วเป็นระยะๆ มีป้ายเตือนทางรถไฟชัดเจน ลูกระนาดลูกใหญ่ทำจากปูนซีเมนต์ 3 - 4 ลูกไม่ว่าจุดนั้นจะเป็นถนนลาดยาง คสล. หรือแม้แต่ลูกรังก็ตาม และอีกอย่างที่ผมได้จากอ.ตุ้ยเมื่อข้ามทางรถไฟ อ.ตุ้ยมักจะเปิดกระจกก่อนข้ามเสมอ และปิดวิทยุ เพื่อให้เราได้ยินเสียงรถไฟนอกจากการมองซ้ายมองขวาครับ
_________________
รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter