GEK. Travel #4 : ส่งท้ายปิดเทอม ... รวมพลบุกอรัญฯ - สุพรรณฯ

[ExtendeD]

อิ่มท้องแล้วผมก็พาเจ้าตี๋นั่งรถไฟฟ้า MRT มาโผล่ที่หัวลำโพง คืนนี้พวกเราจะพักค้างคืนกันแถว ๆ นี้ ผมก็เลยเก็บภาพบรรยากาศยามค่ำคืนอีกมุมหนึ่งของ สถานีกรุงเทพ เท่าที่สามารถมองเห็นได้จากระเบียงห้องพักมาฝากครับ




น่าเสียดายที่ในตอนนั้นผมยังไม่ได้พาเจ้า Lumix ของผมไปเปลี่ยนเลนส์ที่ศูนย์บริการ ช่วงกลางคืนถ้าหันหน้ากล้องเข้าหาที่ที่มีแสงจ้ามาก ๆ ก็จะเห็นแสงสะท้อนเป็นแถบอย่างในรูปข้างล่างนี้ครับ . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

เวลาผ่านไปจนถึงช่วงกลางดึกผมก็ออกจากห้องพักเดินมาที่หัวลำโพงอีกครั้ง เพื่อมารับเจ้าปู๊นที่เดินทางมากับ ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 22 ต้นทางสถานีอุบลราชธานี - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ผมก็เลยใช้เวลาที่อยู่ว่าง ๆ ก่อนที่รถดีเซลราง Daewoo จากแดนอีสานใต้จะมาถึงสถานีปลายทาง เก็บภาพเพิ่มอีกเล็กน้อยครับ




ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 23:00 น. ครับ ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 39 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีสุราษฎร์ธานี และ ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศที่ 41 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานียะลา พ่วงรวมกัน 5 คัน จอดรอรับผู้โดยสารอยู่ในรางที่ 5 เรียบร้อยแล้วครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[CivilSpice]

ชอบภาพหัวลำโพงยามค่ำคืนมากๆ ครับ

เป็นอีกมุมมองหนึ่ง ที่ผมไม่ค่อยจะได้พบเห็นด้วยตัวเองเท่าไหร่นัก เพราะส่วนใหญ่
ชีวิตตอนกลางคืนในวันที่ไม่ได้อยู่บ้าน จะเห็นแต่ตู้ Rack Server ใน Internet Data Center เป็นหลัก

[pattharachai]

^
^

ถ้าเราสามารถจัดการกับปัญหาคนเร่ร่อนหรือการขายบริการแอบแฝงหน้าหัวลำโพงได้ หัวลำโพงก็จะสวยมากกว่านี้แน่นอนครับ

ว่าแล้วขอนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารนี้ก่อนครับ

[CivilSpice]

[ExtendeD]

ในตอนนั้น ขบวนรถเร็วที่ 141 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีอุบลราชธานี ที่ได้รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( ADD. ) หมายเลข 4405 ทำขบวน ก็ยังจอดเทียบชานชาลาอยู่ในรางที่ 8 ลองนับเวลาถึงตอนนี้ก็ล่าช้ากว่ากำหนดไป 35 นาทีแล้วครับ



มาเจอ ADD.4405 ตอนกลางคืนอีกแล้ว ไม่รู้เป็นอะไร ชอบเจอกันตอนฟ้ามืด . . .

พอหาที่นั่งบริเวณชานชาลาที่อยู่ระหว่างรางที่ 6 และ 7 ได้แค่ไม่กี่นาที ขบวนที่ 141 ก็ได้ฤกษ์ เคลื่อนขบวนออกเดินทางเมื่อเวลา 23:06 น. ( +41 )



หลังจากนั้นไม่นาน ขบวนที่ 22 ก็เข้ามาถึงสถานีปลายทาง โดยเข้าเทียบชานชาลาในรางที่ 8 ( รางเดียวกับที่ขบวนที่ 141 เคยจอด ) แล้วผมก็พาเจ้าปู๊นกลับเข้าที่พัก . . .

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่บทเกริ่นนำเริ่มต้นการเดินทางใน GEK. Travel Episode 4 ครับ ของจริงจะเริ่มต้นในวันรุ่งขึ้น แต่อย่าคาดหวังอะไรมากครับ เรื่องราวใน GEK.4 ก็คงจะขอตามกระแส " กระชับพื้นที่ " กับเขาบ้าง พวกเราจะอำลาแยกย้ายกันไปแบบ " กระชับเนื้อหา " เช่นกัน . . .
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ผมวางโปรแกรมแรกของทริปนี้เอาไว้ว่าจะเดินทางไป สถานีอรัญประเทศ กับ ขบวนรถธรรมดาที่ 275 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีอรัญประเทศ ได้นอนพักแค่ไม่กี่ชั่วโมง 04:00 น. ก็ต้องทยอยกันไปอาบน้ำแต่งตัวให้เสร็จภายในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นก็แบกกระเป๋าไปซื้อเสบียงที่ร้านสะดวกซื้อฝั่งตรงข้ามหัวลำโพง แล้วก็เดินเข้าไปรับตั๋วที่ช่องจำหน่ายตั๋วประจำวัน




ขบวนที่ 275 ในวันนั้นได้รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( ALS. ) หมายเลข 4153 ทำขบวนครับ ส่วนชุดรถก็พ่วง บชส. เอาไว้ข้างหน้า คันหน้าสุดเป็น บชส.คอกหมู และพ่วง บสส. ไว้ท้ายขบวน 1 คัน ผมว่าพวกเราก็ขึ้นขบวนรถกันประมาณ 05:20 น. ผมว่าก็ค่อนข้างเร็วแล้วครับ แต่นั่นยังเร็วไม่พอ ถ้าอยากนั่งเอนหลังสบาย ๆ บนที่นั่งชั้นสองใน บสส. ท้ายขบวน ต้องมาให้เร็วกว่านี้ . . .



ได้ขึ้นรถธรรมดาขบวนนี้ครั้งสุดท้ายก็เมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว ตอนนั้นพ่วง บสส. เอาไว้ข้างหน้า 2 คัน . . .
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[Adithepc20]

เจ้าของกระทู้ตัวจริงอย่างเจ้าปู้นหายเข้ากลีบเมฆไปเลยอะ ไม่ยอมมาลงภาพต่อสักที
_________________
ฮิตาชิ 4506 ขณะทำขบวนรถสินค้าที่ 879 ออกจากสถานีชุมทางศรีราชา วันที่ 20 เม.ย. 2553 เวลา 16.50 น.

[ExtendeD]

ระหว่างที่อยู่บนขบวนที่ 275 ผมไม่ค่อยได้จดบันทึกอะไรจริงจังสักเท่าไหร่ครับ คงเป็นเพราะพวกเราไม่ได้เจอกันนาน เวลาส่วนใหญ่ที่อยู่บนรถก็เลยคุยกันตามประสา ปัญหาเชาว์ที่เจ้าตี๋สรรหามาถาม ก็สร้างความเฮฮา ปนชวนปวดหัวได้พอสมควร . . . บางคำถามเล่นมั่วกันสด ๆ บนรถเลย แบบนี้ใครจะตามทัน . . .




เจ้าปู๊นเริ่มเปิดกล้องถ่าย Clip ตั้งแต่เริ่มออกจากหัวลำโพง ส่วนผมทริปนี้ไม่ค่อยเน้นถ่ายรูปอะไรมากมาย คงเป็นเพราะไม่ได้นั่งอยู่ริมหน้าต่างด้วยล่ะมั้งครับ บรรยากาศนอกหน้าต่างรูปแรกของผมก็เลยข้ามยาวมาที่ สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา เลย . . . ในวันนั้นขบวนที่ 275 มาถึงที่นี่เมื่อเวลา 07:46 น. ( +10 ) ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

พอออกจาก สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา มา ผู้โดยสารที่อยู่บนขบวนที่ 275 ก็ไม่ได้บางตาลงไปเลย คงจะเป็นเรื่องปกติของรถขบวนนี้แล้วล่ะมั้งครับ . . .

เมื่อมาถึง สถานีบางน้ำเปรี้ยว ขบวนที่ 275 ก็เข้าไปจอดรออยู่ในรางหลีก เพื่อหลีกทางให้กับ ขบวนรถธรรมดาที่ 278 ต้นทางสถานีกบินทร์บุรี - ปลายทางสถานีกรุงเทพ เหมือนทุก ๆ ครั้งที่ได้เคยเห็นเมื่อได้นั่งรถไฟขบวนนี้ผ่านไปในเส้นทางนี้

หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษครับ รถไฟยังคงวิ่งไปตามรางเหล็กเรื่อย ๆ เราสามคนก็คุยกันไปเรื่อย ๆ แล้วก็ปวดหัวกับคำถามกำกวมที่ทั้งเจ้าตี๋กับเจ้าปู๊นผลัดกันถาม เรียกว่าฮากันสามคนไม่พอ ทำน้องชายตัวเล็ก ๆ ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ผมหัวเราะตามไปด้วย นั่น . . . แอบฟังอยู่ก็ไม่บอก เหอะ เหอะ . . .

พอขบวนรถเคลื่อนขบวนออกจาก ที่หยุดรถคลองยี่สิบเอ็ด มาได้สักพัก ผมก็ต้องขัดจังหวะความฮา ( หรือเปล่า . . . ) หยุดความเคลื่อนไหวทุกอย่าง เตรียมตัวเก็บภาพบรรยากาศขณะที่ขบวนที่ 275 กำลังวิ่งผ่าน สะพานข้ามแม่น้ำโยทะกา แล้วก็ได้ภาพวิวที่สามารถมองเห็นจากบนสะพานมาฝากครับ



ภาพและรายละเอียดเกี่ยวกับ สะพานข้ามแม่น้ำโยทะกา สามารถรับชมได้จากกระทู้ ร้อน เหนื่อย หิว . . . ที่โยทะกา ครับ


พอออกจาก สถานีโยทะกา ก็จะได้เห็นต้นไม้ สลับกับทุ่งนาเขียว ๆ อยู่ข้างทางรถไฟบ่อยครั้งขึ้น คุย ๆ อยู่พอเผลอมองออกนอกหน้าต่าง ก็มักจะอดใจไม่ไหว ยืดแขนผ่านหน้าเจ้าตี๋ที่นั่งอยู่ริมหน้าต่าง แล้วก็ แชะ แชะ แชะ . . . อย่างวิวข้างทางรถไฟที่เห็นอยู่ในรูปนี้ เป็นช่วงก่อนเข้าสู่ สถานีบ้านปากพลี ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายก่อนที่จะเข้าเขตอำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรีครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.