View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/03/2006 Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น
|
Posted: 20/04/2006 8:17 am Post subject: |
|
|
Air_Reservoir wrote: | ป.ล.แอบไปแถว ๆ ปราณบุรี ไม่เจอรถ บทก. วิ่งมาจอดข้าง ๆ พี่บอมบ์บ้างเหรอครับ เผื่อจะได้เทียบหุ่นกัน เอ๊ะ อะไรเนี่ย พูดอะรายออกปายยยยยย |
เด๋ว เสาร์นี้ น่าดู .... หุหุหุหุ ว่าแต่ว่ารถ บทก. มันไม่มีวิ่งไปสายใต้มะใช่เหรอ แล้วจะมาแข่งรัศมีกับป๋มได้ยังไงล่ะ ฮ่าๆๆ
|
|
Back to top |
|
|
nathapong
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 20/04/2006 8:55 pm Post subject: |
|
|
ง่า ท่าน บทก ที่ว่า แถวๆ นี้ก็มีหลายคันอยู่ หน่า
เห็นรูปพี่หนุ่มนึกถึงบ้านตำรวจรถไฟใต้ทางด่วน
ตรงทางเข้าไปที่จอดรถกลางแจ้งของ รฟม ที่บางซื่อ
ที่ทางเข้าตรง ย่านรับส่งสินค้าย่านพหล ฯ แฮะ ที่ดัดแปลงมาจาก พห หนะครับ
ถ้าเอาตั้งตามรีสอรต์ ตอนกลางคืนถ้านอน ก็พอไหว
ส่วนกลางวัน กัวจะเป็นตู้ไมโครเวฟ มากกว่า อ่าครับ |
|
Back to top |
|
|
Bradycardia
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 1565
Location: พระธาตุเด่น พระรอดขลัง ลำไยดัง กระเทียมดี ประเพณีงาม จามเทวี ศรีหริภุญชัย(แต่ตอนนี้อยู่พน.ครับ)
|
Posted: 20/04/2006 10:54 pm Post subject: |
|
|
เกาะนมสาวนี่ผมเพิ่งเคยไปเยือนเมื่อไม่นานมาแล้วนี่เองครับ บรรยากาศดีมาก .... อยู่เมืองทะเลก็เจอแต่ทะเลครับ ชะโงกหน้าออกจากหอก็ทะเลแล้ว ทำให้คิดถึงบ้านที่มีแต่ภูเขาและอากาศเย็นๆครับ แต่ก็บอกตัวเองว่าไม่เป็นครับถือว่า เปลี่ยนบรรยากาศ และหาประสบการณ์บ้าง ชีวิตจะได้มีสีสันครับ
_________________ I'm a Third Officer.
|
|
Back to top |
|
|
Gunnersaurus
1st Class Pass (Air)
Joined: 29/03/2006 Posts: 1574
Location: เมืองช้าง
|
Posted: 21/04/2006 7:54 am Post subject: |
|
|
ผมเคยไปปราณบุรีครั้งแรกก็สมัยไปรับน้องเมื่อครั้งยังเรียนมหาวิทยาลัยเมื่อสักสิบกว่าปีมาแล้ว
ทุกวันนี้มีโอกาสได้ไปบ่อยๆ แต่ยังไม่ได้ไปสัมผัสทะเลปราณบุรีเลย ที่ขาดไม่ได้คือไปทีไรต้องหาโอกาสแวบดูรถไฟทุกทีไป
ที่ที่ผมชอบไปนอกจากสถานีปราณฯ แล้วก็ยังมีที่วังก์พงอีกที่หนึ่งครับ สถานีนี้น่าจะใหญ่กว่าสถานีปราณบุรี รถที่จอดก็มากกว่า
อ่านกระทู้นี้ของคุณบอมบ์แล้วก็เกิดกิเลสอยากไปเที่ยวอีกแล้ว ว่าแล้วต้องหาทางไปเล่นน้ำทะเลปราณบุรีบ้างก็เข้าทีดี _________________
|
|
Back to top |
|
|
Rakpong
President
Joined: 29/03/2006 Posts: 1716
Location: แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่น้ำตก
|
Posted: 21/04/2006 6:54 pm Post subject: |
|
|
ข่าวจากไทยรัฐ วันที่ 21 เมษายน 2549 หน้า12
คงจะได้พอรู้ที่มาที่ไป ในการทาสีสถานี กันบ้างนะครับ
หัวหิน-นายกิตติพงษ์ สุนานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ดำเนินการปรับปรุงสถานีรถไฟทั้ง 25 แห่งในจังหวัด โดยการทาสีใหม่และปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบให้สวยงาม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เนื่องจากรถไฟเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่นักท่องเที่ยวนิยม โดยเฉพาะชาวต่างชาติ นั้น ทางจังหวัดได้ประสานความร่วมมือไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทย ในการจัดรถไฟขบวนพิเศษวิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-หัวหิน-บางสะพาน เป็นประจำทุกสัปดาห์ ซึ่งจะเป็นขบวนรถไฟนำเที่ยวอีกขบวนหนึ่ง ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน หรือนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหัวหินประสงค์จะไปเที่ยวอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก็สามารถใช้บริการรถไฟขบวนดังกล่าวไปกลับในวันเดียวกันได้ ในการนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย จะจัดเที่ยวรถไฟสำหรับสื่อมวลชน ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2549 และจะเปิดเที่ยวปฐมฤกษ์ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวทั่วไปในวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2549
นอกจากนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย และเทศบาลเมืองหัวหิน จะร่วมกันจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ โดยนำพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ที่ทรงใช้รถไฟในการเสด็จฯ เยี่ยมพสกนิกรในที่ต่าง ๆ มาแสดง รวมทั้งภาพหัวหินในอดีต และความเกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยทางเทศบาลกำลังรวบรวมภาพ ตลอดจนประวัติความเป็นมา จากประชาชนชาวหัวหินและจากนักท่องเที่ยวที่เคยมาเที่ยวหัวหินเพื่อนำมาจัดนิทรรศการที่บริเวณพลับพลาสถานีรถไฟหัวหิน |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44648
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 27/01/2011 10:53 am Post subject: |
|
|
ปราชญ์เปรื่องที่ 'ปราณบุรี'
โดย : สุธน สุขพิศิษฐ์
กรุงเทพธุรกิจ 27 ม.ค. 54
สถานีรถไฟปราณบุรีและชุมชนริมสถานีเป็นที่หนึ่งที่ยังมีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งความเก่าแก่และยังมีความต่อเนื่องไม่เสื่อมความนิยม
เมื่ออยากเห็นชุมชนเก่าๆ ก่อนอื่นก็ต้องกวาดตาไปตามชุมชนริมแม่น้ำหรือคลอง เพราะลักษณะสังคมไทยดั้งเดิมนั้นผูกติดอยู่กับน้ำ ทั้งการกิน การอยู่ และการเดินทาง อาศัยลำน้ำทั้งสิ้น ฉะนั้นชุมชนริมน้ำอย่างสามชุก สุพรรณบุรี หรืออัมพวา สมุทรสงคราม หรือตลาดคลองสวน ริมคลองประเวศน์บุรีรมณ์ จึงกลับมาคึกคักต้องตาต้องใจสำหรับคนชอบรู้ อยากเห็นชุมชนเก่าๆอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ต้องไม่กระพริบตากับชุมชนริมสถานีรถไฟด้วยเหมือนกัน การเดินทางด้วยรถไฟนั้นเป็นหนทางการเดินทางเก่าแก่มาเกือบ 100 ปีแล้ว และสถานีรถไฟก็เป็นทั้งที่ชุมนุมนักเดินทาง รอบๆสถานีรถไฟมีบ้านเรือน เป็นย่านการค้า มีวัด ศาลเจ้า มัสยิด บางที่อาจจะเป็นศูนย์ราชการ โรงเรียน โรงพยาบาลด้วย แล้วการเดินทางด้วยรถไฟก็ไม่เคยร้างผู้คน ถึงในปัจจุบันมีการเดินทางอีกหลายประเภทให้เลือก สำหรับตัวสถานีรถไฟและชุมชนริมสถานีรถไฟก็ยังมีชีวิตที่เคลื่อนไหว แต่ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง
สถานีรถไฟปราณบุรีและชุมชนริมสถานีเป็นที่หนึ่งที่ยังมีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งความเก่าแก่และยังมีความต่อเนื่องไม่เสื่อมความนิยม แต่กลับจะมีเสน่ห์มากขึ้นเพราะมีประวัติศาสตร์ที่ซ่อนอยู่ลึกๆ และเมื่อยิ่งขุดคุ้ยเรื่องราวที่เป็นประวัติศาสตร์นั้นขึ้นมา จะพบประกายของอดีตที่รุ่งเรือง มีความหมายแล้วยังเป็นขุมทรัพย์แห่งเรื่องน่ารู้
สถานีรถไฟปราณบุรีเกิดขึ้นพร้อมๆ กันกับสถานีรถไฟหัวหิน มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมร่วมยุคสมัยเดียวกัน ต่างกันตรงที่สถานีหัวหินนั้นจะใหญ่กว่าและรายละเอียดตกแต่งสถานีจะร่ำรวยวิจิตรบรรจงกว่า สถานีปราณบุรีจะออกทางซื่อ ๆ ง่าย ๆ
ที่ตั้งสถานีรถไฟหัวหินกับสถานีรถไฟปราณบุรีเคยมีฐานะเท่ากันคือ เป็นสถานีประจำอำเภอของประจวบคิรีขันต์ด้วยกันทั้งคู่ แต่อำเภอหัวหินนั้นพุ่งเจริญรุดหน้าไม่หยุดพราะเป็นเมืองตากอากาศ จนไม่เหลือร่องรอยของความเป็นอำเภอเก่าแก่ สำหรับอำเภอปราณบุรีนั้นถูกหยุดอยู่กับที่มา 33 ปีมาแล้วจากตั้งแต่ปี 2521 ที่ศูนย์กลางราชการเช่นอำเภอ โรงพยาบาล โรงเรียน ศูนย์กลางการค้าขาย โรงงาน แม้กระทั่งค่ายทหารธนะรัตน์ ถูกจัดมาอยู่รวมกันที่ริมถนนสายเพชรเกษม แล้วกำหนดให้เป็นอำเภอปราณบุรีใหม่ ส่วนที่เป็นอำเภอปราณบุรีตรงชุมชนริมสถานีรถไฟนั้นถูกลดฐานะเป็นเพียงตำบลปราณบุรี เมื่อทุกอย่างย้ายออกไปที่ใหม่ ผู้คนก็น้อยลงไป สถานที่ติดต่อราชการไม่เคยพลุกพล่าน คนที่จะทำมาค้าขายก็ย้ายไป สิ่งก่อสร้างใหม่ๆ ก็ไม่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่มีมากขึ้นคือธรรมชาติ ต้นไม้ใหญ่ๆ ยิ่งโตขึ้นก็ให้ความร่มรื่นมากจนครึ้ม ถ้าเปรียบเทียบเอาความเงียบสงบหรือความนิ่งตีค่าเป็นเงิน ชุมชนริมสถานีรถไฟปราณบุรีนั้นถือว่าอยู่ในขั้นมหาเศรษฐี
ทุกวันนี้มีห้องแถวไม้มากกว่าห้องแถวก่ออิฐถือปูน ห้องแถวไม้ที่มุงหลังคาด้วยสังกะสี ชั้นสองมีลูกกรงระเบียงเป็นไม้ตีโปร่ง ชั้นล่างเป็นบานประตูเฟี้ยมที่กางหรือเก็บพับไปรวมกันด้านใดด้านหนึ่ง สีไม้ดั้งเดิม ร้านค้าขายของชำบางร้าน ยังมีตะเกียงน้ำมันก๊าด และชุดนักเรียน กระเป๋านักเรียนรุ่นเก่า อยู่ในตู้โชว์ริมผนังร้าน มีไม้กวาดหยากไย่ งอบ ไม้กวาดทางมะพร้าว พร้า จอบ เตาถ่าน วางรวมข้างผนังร้าน มีร้านค้าของเก่าที่เจ้าของเคยเป็นครูโรงเรียนที่เพชรบุรีตั้งอยู่เยื้องๆ กับสถานีรถไฟ นั่นคือประจักษ์พยานของความไม่ค่อยถูกเปลี่ยนแปลง ไม่เพียงเท่านั้นอีกด้านหนึ่งเป็นสะพานรถไฟเหล็กรูปโค้งที่ข้ามแม่น้ำปราณ ริมสะพานโค้งนี้เป็นจุดชมวิวแม่น้ำซึ่งร่มด้วยต้นไทรและต้นพุทราอายุมากกว่า 50 ปี นี่เป็นบรรยากาศที่ยากที่จะหาที่อื่นได้เหมือน
แล้วก็มาถึงเรื่องราวที่ซุกซ่อนอยู่ที่ชุมชนแห่งนี้ ห่างจากตัวสถานีออกไปเกือบ 200 เมตร มีบ้านเก่าหลังหนึ่งปลูกอยู่ในที่โล่งๆ มีรั้วเป็นต้นไม้พื้นถิ่นธรรมดา ไม่มีประตูรั้ว แต่ข้างรั้วเขียนว่า 'บ้านแสงดาว' บ้านนั้นเป็นอาคารไม้โปร่งสูงสองชั้นใต้ถุนสูง หลังคาสังกะสีมีมุขหน้าและปีกสองข้าง ใต้ชั้นหลังคามุขหน้านั้นมีรูปปั้นสิงห์ต้วเล็กๆ ติดอยู่ ชั้นบนมีระเบียงกว้าง มีห้องโถงกลาง ปีกสองข้างเป็นห้องนอน สัดส่วนของบ้านงดงามมาก และมีอาคารสร้างใหม่ล้อกับบ้านเก่าหลังนี้ มีสะพานเดินเชื่อมเดินถึงกันกับบ้านเก่า อาคารใหม่ที่สร้างใหม่ขึ้นทาสีสะดุดตา
เจ้าของใหม่เป็นชาวฝรั่งเศสซึ่งไม่ปรากฏชื่อ แต่เจ้าบ้านดั้งเดิมหรือผู้สร้างบ้านนี้คือ ม.ล.ต้อย ชุมสาย เป็นผู้ซึ่งเมื่อถ้าหากย้อนกลับไปประมาณ 50 ปี เป็นคนมีชื่อโด่งดังในโลกวรรณกรรมคนหนึ่ง
ม.ล.ต้อย ชุมสาย เป็นคนกรุงเทพเป็นนักเรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์รุ่นเดียวกับ กุหลาบ สายประดิษฐ์ สด กูรมะโลหิต แล้วเป็นนักหนังสือพิมพ์ นักเขียน ในสยามสมัย หนังสือรายปักษ์ที่ดังที่สุดในยุคนั้น มีมาลัย ชูพินิจ ประหยัด ศ. นาคะนาค เป็นเพื่อนร่วมเขียนหนังสือในที่เดียวกัน จากที่ ม.ล. ต้อย เคยไปเรียนจบโรงเรียนกสิกรรมชั้นสูง ที่บางสะพาน ประจวบคิรีขันต์ ที่สิ่งแวดล้อมที่ยังดิบด้วยธรรมชาติป่าดง ความรักป่าจึงฝังลึกแนบแน่น และด้วยนิสัยชอบเที่ยวผูกพันกับป่าและชอบความท้าทายเสี่ยงภัย การเขียนหนังสือจึงออกไปทางสารคดีนิยมไพรโดยใช้นามปากกาว่า 'ขุนอารี' กับ 'น้อย อภิรุม'
ม.ล.ต้อย ยังมีความรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรม จึงไม่แปลกที่เมื่อสร้างบ้านขึ้นที่ อำเภอปราณบุรีนี้ จึงได้ออกมางามไม่มีที่ติ แล้วบ้านหลังนี้เองที่เคยเป็นที่สิงสู่และเป็นศูนย์กลางการพักพิงหรือพักผ่อนและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเที่ยวป่าของเพื่อนๆ นักเขียนนักหนังสือพิมพ์ นักเขียนร่วมสมัยเดียวกัน จนเชื่อว่าที่ปราณบุรีที่นี่เอง เป็นส่วนหนึ่งของวัตถุดิบ ของนวนิยายผจญภัย เรื่องล่องไพร ของมาลัย ชูพินิจ หรือ น้อย อินทนนท์ ด้วยว่าพรานป่าชาวกระเหรี่ยง ที่ชื่อ 'ตาเกิ้น' ที่เป็นเพื่อนคู่ใจของตัวละครเอกในหนังสือเรื่องล่องไพรนั้น มีตัวตนจริงชื่อ นายใช้ ห้วงน้ำ เป็นคนปราณบุรีที่ภายหลังย้ายไปอยู่ที่หัวหิน
หนังสือเรื่องเที่ยวป่าล่าสัตว์ ของม.ล.ต้อย ชุมสาย มีหนังสือที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งชื่อ 'ทุ่งพลายงาม' ซึ่งแบ่งเป็นตอนๆ ไว้หลายตอน หนังสือเล่นนี้ถือว่ามีค่าอย่างยิ่งในปัจจุบัน ที่เป็นเหมือนสารคดีกึ่งจดหมายเหตุ ผู้ที่อยู่ในเรื่องนั้นมีชื่อจริง นามสกุลจริง เหตุการณ์และสถานที่จริง
จริงอยู่ว่าจะมีเรื่องของการใช้ปืนยิงฆ่าสัตว์อยู่ด้วย ก็นั่นเป็นยุคสมัยของการเข้าป่าในสมัยนั้น มนุษย์ต้องหาอาหารจากสัตว์ป่า ในเวลาเดียวกันที่มนุษย์ก็อาจจะเป็นอาหารสำหรับสัตว์ป่าด้วยเช่นกัน การใช้ปืนก็เป็นเพียงเครื่องมืออย่างหนึ่งของมนุษย์ เหมือนกับสัตว์ก็มีเครื่องมือที่มีเขี้ยวเล็บ มีพละกำลังและมีความนิ่งซ่อนตัวกลมกลืนกับป่า มีความฉลาด เป็นนักฉวยโอกาส และสู้ตายเมื่อจนมุม
แต่ในสิ่งที่ซ่อนเป็นตัวหนังสือที่อยู่ในเล่มนั้น คือคำบอกถึงป่า ที่มีความซื่อตรง บริสุทธิ มีปรัชญา มีรื่องที่ต้องเคารพยำเกรง การเข้าป่าต้องมีวิธี ที่ต้องรู้จักป่า รู้จักปรับตัว และรู้ธรรมชาติของสัตว์
ทุ่งพลายงาม ในอดีตคือป่าโปร่งสลับขุนเขาและลำธาร ในแถบปราณบุรี รอบๆเขตทุ่งพลายงามคือป่าดงดิบที่ติดพม่า ทุกสภาพที่เป็นอยู่ในขณะนั้นถูกบันทึกอย่างละเอียดเหมือนเป็นจดหมายเหตุที่มีค่า เพราะในปัจจุบันสภาพนั้นสูญสิ้นไปหมดแล้ว นั่นคือสิ่งที่ ม.ล. ต้อย ชุมสาย ได้ฝากเอาไว้
ฉะนั้นชุมชนริมสถานีรถไฟปราณบุรีจึงมีครบทั้งประวัติศาสตร์ของชุมชนที่ยังนิ่งและเยือกเย็น มีความสุขสงบ มีเรื่องราวที่วนเวียนให้ค้นหา เป็นที่หนึ่งที่น่าไป เอาเวลาหนึ่งไปเก็บเกี่ยวตักตวงสิ่งที่เคยมีความเปรื่องของปราชญ์ในโลกหนังสือ ที่เคยเริ่มต้นและทิ้งไว้ที่นั่น
ช่วงเวลานี้กำลังเหมาะ เพราะในทุกวันเสาร์ ตอนเย็นๆ ชุมชนชาวตำบลปราณบุรีจัดกิจกรรมตลาดนัดคนเดิน มีสิ่งที่น่าสนใจเยอะและมีอาหารอร่อยๆที่หายากให้กินด้วย
บ้าน ม.ล.ตุ้ย ชุมสาย ที่เจ้าของใหม่เปลี่ยนบันใดทางขึ้น
ต้นไม้ริมสถานีรถไฟ และสะพานรถไฟที่ข้ามแม่น้ำปราณบุรี
สถานีรถไฟปราณบุรี ที่รูปแบบเหมือนสถานีหัวหิน เพียงแต่เล็กกว่าและลวดลายตกแต่งไม่มากเท่าที่หัวหิน
ห้องแถวไม้มีระเบียงลูกกรง มีมากและเป็นของดั้งเดิม |
|
Back to top |
|
|
|