Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311314
ทั่วไป:13281393
ทั้งหมด:13592707
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ศาลรับฟ้องเรียก54ล.คดีรถไฟชนรถนร.ที่บุรีรัมย์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ศาลรับฟ้องเรียก54ล.คดีรถไฟชนรถนร.ที่บุรีรัมย์
Goto page Previous  1, 2
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
donatt76
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 03/09/2006
Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ

PostPosted: 28/02/2009 1:38 am    Post subject: Reply with quote

ตอบอย่าง Hardcore หน่อยนะครับ
ประเทศนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ...

- พูดจาหมิ่นประมาท ทำให้คนอื่นเสื่อมเสีย โดนฟ้อง แต่ไปฟ้องกลับคนอื่นฐานทำให้เสียรายได้ (ใครหวา???)
- ขับรถสวนเลน ไปชนรถที่ออกจากซอย...แต่เป็นฝ่ายถูก เพราะขับทางเอก (ซะงั้น)
- รถไฟวิ่งอยู่บนรางแท้ๆ ชนรถยนต์โครมเดียว แต่กลายเป็นจำเลย เพราะไม่สร้างที่กั้น (ไม่มองกันว่า คนขับรถขับโดยประมาท ผิดกฎจราจรมั่ง)

ทุกท่านมีสิทธิจะฟ้องรับ....เรื่องนี้ดูกันยาว กว่าจะสู้กันครบ 3 ศาล ไม่ต่ำกว่า 5 ปี....

แต่เมื่อมีคำพิพากษาแล้ว...ควรใช้เป็นบรรทัดฐาน สำหรับทางตัดทางรถไฟทุกแห่งนะครับ (ควรมีที่กั้นทุกแห่งมั้ย? ทางลักผ่านควรทำรั้วลวดหนาม ตั้งแนวเหล็กเจาะยาง เลยมั้ย?)
_________________
Click on the image for full size


Last edited by donatt76 on 28/02/2009 9:28 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail Visit poster's website MSN Messenger
pattharachai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 6536
Location: ราชอาณาจักรไทย

PostPosted: 28/02/2009 8:13 am    Post subject: Reply with quote

^
^
^
อ่านที่พี่โดนัทเขียน ก็นึกถึงเรื่องตลกเมื่อหลายปีก่อน มีคนไปโวยวายในเวบบอร์ดสาธารณะแห่งหนึ่งว่าถูกตำรวจจับ เพราะตัวเองขับรถย้อนศร เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจนเพราะดันจอดรถหันหัวสวนทางชาวบ้าน ยังอุตส่าห์ถ่ายรูปมาลง แต่ในที่สุดก็โดนด่าจากคนทั้งกระทู้หละครับ เพราะใครอ่านใครเห็นภาพก็รู้ว่าผิด จนเจ้าตัวต้องรีบลบรูปแทบไม่ทัน Laughing

อาจไม่เกี่ยวกับหัวข้อเท่าไหร่นะครับเคสนี้

-----------------
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail Visit poster's website
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 18/03/2006
Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น

PostPosted: 28/02/2009 9:17 am    Post subject: Reply with quote

^^

จำได้ว่านอกจากจะถูกเขาด่ามาทั้งบอร์ดแล้ว ยังมีหน้าทำตัวเกรียนไปด่าสุภาพสตรีท่านนึงแบบไม่ให้เกียรติและไม่สุภาพอีกด้วย (ประมาณว่าจนตรอกสุดๆ ไม่รู้จะแถไปทางไหน ก็เลยด่ามันตรงๆ นี่ล่ะ) สุดท้ายตัวเองก็กลืนเสลดที่คายไว้ กลับมา Edit ข้อความในบอร์ดและลบรูปที่โพสต์ไว้ เป็นคำว่า "น่ากลัวจริงๆ" ไปหมดทุกโพสต์ (ที่เราเอามาเล่นในบ้านนี้จนติดปากนั่นแหล่ะ) .... แหม ... ถ้าคิดจะเกรียน ก็ให้มันกล้าๆ หน่อย

ขออภัยครับที่ข้อความที่โพสต์ อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับกระทู้นี้เลย Wink
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
mahachai_drc
VIP Member
VIP Member


Joined: 06/11/2006
Posts: 758
Location: เมืองประมง ดงโรงงาน ลานเกษตร เขตประวัติศาสตร์

PostPosted: 28/02/2009 12:00 pm    Post subject: Reply with quote

เรื่องการฟ้องร้องรถไฟ หรือฟ้อง พขร.มีให้เห็นบ่อยครับ ของสม.ก็เคยฟ้องเรียกค่าเสียหายจาก การรถไฟฯและพขร.70ล้านเป็นค่าชดเชย ถ้าหากไม่โดนอุบัติเหตุ จะต้องมีรายได้จากการประกอบอาชีพ ปีละเท่าไหร่ชดเชยไปกี่ปี... ยีดเยื้อมานานหลายปี ก็จบลงที่ เป็นความประมาทของคนขับรถยนต์เอง
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail MSN Messenger
pak_nampho
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 25/06/2007
Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต

PostPosted: 28/02/2009 1:36 pm    Post subject: Reply with quote

เห็นใจผู้ปกครองเด็กนักเรียนที่ต้องสูญเสียบุตรก่อนวัยอันควรครับ...
แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้ พขร และการรถไฟ ฯ หักล้างข้อกล่าวหาฟ้องร้องครับ...
_________________
+++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
Click on the image for full size
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ...................
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
sannithi
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 07/10/2010
Posts: 94

PostPosted: 12/08/2011 4:27 pm    Post subject: Reply with quote

ผมขออนุญาตแสดงความคิดเห็น(เรื่องเก่าที่ผ่านมาแล้ว)นะครับ ในฐานะที่ผมก็เป็นนักกฎหมายคนนึง คือ
บางครั้งการที่เราจะรีบฟันธงเรื่องราวอะไร หรือจะชี้ขาดว่าใครมีความผิดในทีเดียวเลยนั้นคงไม่ใช่วิธีที่ถูกที่ควรแน่ครับ บางครั้งคนที่ไม่รู้เรื่องราวว่าเป็นเช่นไร มีความเป็นมาหรือมีที่มาอย่างไรแล้วไปทึกทักสรุปเอาเองโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าคนนู้ผิด คนนู้นทำ ก็อาจจะตีความผิด ฟันธงผิด จนเป็นเหตุให้มีการหมิ่นประมาทกันเกิดขึ้นครับ
ถ้าเป็นตามหลักทางกฎหมาย เรื่องนี้ถามว่าใครประมาท ก็ต้องตอบว่าประมาททั้งคู่แหละครับ หรือเรียกภาษากฎหมายว่าต่างคนต่างประมาท(ในทางอาญาส่วนมากไม่ใช่คำว่าประมาทร่วมอย่างที่คนทั่วไปพูดกันนะครับ เขาใช้คำว่าต่างคนต่างประมาทครับ แต่ที่พูดกันทั่วไปว่าประมาทร่วมก็น่าจะแสดงให้เห็นและเข้าใจกันง่ายๆว่าประมาททั้งคู่ละมั้งครับ)

กรณีรถไฟ พขร.เมื่อขับรถไฟมาถึงที่ใดก็ตามที่มีการจราจรพลุกพล่านหรือชั่วโมงเร่งด่วน(เป็นเวลาเลิกเรียนเลิกงาน) ก็ควรที่จะชะลอความเร็ว หรือเบาทางลง เพราะช่วงเวลานั้นๆไม่ต้องบอกก็รู้ว่ารถก็คงติดกันน่าดูครับเพราะเป็นเวลาเลิกงานหรือเลิกเรียน ดังนั้นเมื่อพฤติการณ์ฟังได้ว่า เวลาเกิดเหตุเป็นเวลาที่มีการจราจรพลุกพล่านหรือชั่วโมงเร่งด่วน ถ้า พขร.ยังคงเร่งความเร็วโดยไม่ชะลอหรือเบาทางก็คงมีความผิดฐานประมาทด้วย เพราะโดยปกติวิสัยของคนทั่วไปย่อมต้องรู้และคระหนักว่ามีการจราจรพลุกพล่านและติดขัด ย่อมอาจมีอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้นในทางข้างหน้าก็ได้ ไม่จำต้องเอากฎหมายหรือเอาพรบ.ของอะไรในประเทศมาอ้างได้หรอกครับถ้าข้อเท็จจริงสืบได้ว่า พขร.ยังขับด้วยความเร็ว และไม่เบาทางทั้งๆที่รู้ว่าเป็นชั่วโมงเร่งด่วน การจราจรติดขัด ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นโดยรถไฟชนกับรถที่วิ่งอยู่ พขร.ย่อมมีความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่น... จะอ้างเหตุสุดวิสัยหาได้ไม่ ส่วนใหญ่จะอ้างว่ารถไฟไม่ผิดเพราะมาทางตรง มาทางของเขาอยู่แล้ว จะผิดได้ไง แต่ถ้าสืบทราบได้ว่าเป็นเช่นที่ผมบอกก็มีความผิดครับ แม้ พขร.จะเปิดหวีดสักกี่ครั้งก็ตามครับ ในเมื่อเวลานั้นมันมีการจราจรพลุกพล่านและติดขัด (เหมือนเวลาคุณขับรกยนต์ด้วยความเร็วไปแถวสีลม ตอนเลิกงาน วันจันทร์ คุณบีบแตรไล่คันข้างหน้าขนาดไหนเขาก็ไม่สามารถที่จะหนีหรือหลีกรถเราได้หรอกครับ เมื่อเกิดการชนเกิดขึ้นคุณจะมาอ้างว่าคุณบีบแตรเตือนเขาแล้วหลายครั้ง หาได้ฟังขึ้นไม่ครับ)และแม้จะมีเครื่องกั้นหรือไม่มี เรื่องนี้ก็อาจจะถูกยกมาเป็นข้อต่อสู้ของอีฝ่ายหนึ่งได้ครับ เพราะส่วนมากก็จะอ้างเรื่องการรถไฟไม่มีเครื่องกั้นนำหน้าทุกครั้ง จริงๆแล้วทั้งสองฝ่ายย่อมต้องใช้ความระมัดระวังทั้งคู่อยู่แล้ว จึงผิดเพราะประาทด้วยกันทั้งคู่นั่นแหละครับ ก็ไปต่อสู้กันในชั้นศาลเรียกร้องค่าเสียหายกัน(คนขับรถส่งนักเรียนกับการรถไฟ)
ส่วนกรณีคนขับรถส่งนักเรียนนี่ก็ผิดเต็มๆอยู่แล้วครับ ข้อหาประมาทเหมือนกัน ในเมื่อจะข้ามทางรถไฟที่ไม่มีเครื่องกั้น(หรือไม่มีเครื่องกั้นก็ตาม) ย่อมต้องใช้ความระมัดระวังเป็นที่สุด ส่วนใหญ่รถที่โดนรถไฟชนเพราะคนขับทะนงตัวว่าตัวเองเก่ง รอดอยู่แล้ว และความสะเพร่ารวมทั้งประมาทเลินเล่อด้วย จึงตามมาด้วยความสูญเสีย ทั้งจากข้อเท็จจริง พขร.เองเขาก็เปิดหวีดเตือนแล้วแต่ก็ไม่ใช้ความระมัดระวังให้เต็มที่ จึงมีความผิดฐานประมาท...เช่นกันครับ

บางครั้งคนที่ไม่รู้กฎหมายอย่างแท้จริงเข้าข้างใครแล้วข้างนั้นแพ้คดีก็จะตีความไปต่างๆนานา หาว่ายัดเงินตำรวจบ้าง ติดสินบน (เจ้าพนักงานอัยการ) บ้าง ศาลไม่ยุติธรรมบ้าง (อย่าไปทำต่อหน้าศาลนะครับ เดี๋ยวโดนละเมิดอำนาจศาลเข้า อิอิ) โดยอ้างเหตุผลตามความรู้สึกหรือใครหัวหมอก็อ้างตามกฎหมายแพ่งและอาญา แต่หารู้ไม่ว่า ทั้งกฎหมายพ่งและอาญา ยังมีวิธีพิจารณาความแพ่งและวิธีพิจารณาความอาญาอยู่ ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจจะมาแพ้กันตรงนี้ก็ได้ เช่น นาย ก ข่มขืนนาง ข ในเวลากลางคืน เป็นคืนเดือนมืด ทั้งที่นาง ข รู้ว่าเป็น นาย ก แต่ ไม่เห็นหน้า นาย ก และไม่รู้ว่า นาย ก ตอนนั้นใส่เสื้อสีอะไร ประจบวกับไม่มีประจักพยานคนไหนเห็นเหตุการณ์ด้วย (ไม่นับการตรวจคราบอสุจิเหมือนในปัจจุบันนะครับ เพราะสมัยก่อนวิวัฒนาการยังไม่ล้ำหน้าเท่าปัจจุบันครับ) ด้วยเหตุนี้เมื่อสืบทราบไม่ได้ว่าใครข่มขืนและหาพยานหลักฐานมาสืบหักล้างได้ ย่อมต้องด้วย ม.226 ของ ป.วิ.อาญา คือ... เมื่อมีเหตุอันควรสงสัยให้ยกประโยชน์ให้จำเลย... สรุป นาย ก รอดครับ บทสรุปความโชคร้ายก็มาตกอยู่ที่ศาลเหมือนคดีต่างๆในปัจจุบันครับ เพราะคนคิดว่าศาลนั้นไม่ยุติธรรมเหมือนชื่อ แต่ถ้าใครได้เข้ามาสัมผัสแล้วจะรู้ว่าศาลยุติธรรมแน่ครับ


อนึ่งผู้เสียหายเองคือพ่อแม่ของเด็กก็คงจะงงนิดหน่อยว่าแล้วจะฟ้องใครให้รับผิดล่ะ ก็ฟ้องได้ทั้งสองฝ่ายนั่นแหละครับคือ คบขับรถยนต์ กับ คนขับรถไฟ(การรถไฟ) (จำเลยที่ 1 และ จำเลยที่ 2 ) แต่ยังไงเสีย การรถไฟก็ต้องฟ้องคนขับรถยนต์ดังกล่าวต่างหากด้วยในการเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง ต้องดูเรื่องผู้เสียหายของ ป.วิอาญาดีๆนะครับ อย่าเพิ่งรีบสรุป เพราะถ้ามีส่วนร่วมในการกระทำผิด ไม่ใช่ผู้เสียหาย เช่น นายแดงขับรถคุยโทรศัพท์แล้วผ่าไฟแดงชนกับรถของนายดำซึ่งไม่มีใบขับขี่และมัวแต่คุยโทรศัพท์ขับรถพรวดออกมาจากซอยโดยไม่มองซ้ายมองขวา เช่นนี้เป็นต่างคนต่างประมาท ไม่มีใครเป็นผู้เสียหายนอกจากรัฐครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะฟ้องร้องกันไม่ได้ ทั้งสองคนก็ไปฟ้องเรียกค่าเสียหายแล้สู้คดีกันในชั้นศาลในส่วนของแพ่งต่อไปครับ
(เป็นที่น่าสงสัยกันใช่มั้ยครับว่าทำไมคนขับรถชนตูดคันหน้าจึงผิดตลอด ก็ทำนองเดียวกันนี่แหละครับ ในเวลาที่การจราจรพลุกพล่านและติดขัด เป็นปกติวิสัยของคนขับรถทุกคนที่จะต้องพึงระลึกเสมอว่า ขับรถไวไม่ได้ และต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เมื่อคุณขับไม่ระวัง ไม่เว้นช่วงห่างระหว่างคันให้ดี แล้วเกิดเบรคไม่ทันไปชนรถคันหน้า คุณจึงมีความผิดไงครับ อธิบายง่ายๆเช่นนี้ครับ)


ปล.ที่ผมขอแสดงความคิดเห็นมาทั้งหมดนี้ไม่ได้แปลว่าผมพูดถูกทุกเรื่องนะครับ และผมไม่ได้กล่าวหาหรือหมิ่นประมาทฝ่ายใดและต้องกล่าวขออภัยถ้าได้พาดพิงถึงใครในการยกตัวอย่างให้เห็นภาพยิ่งขึ้น และอาจจะพูดไม่ถูกหลักกฎหมายเสียทั้งหมด ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่พฤติการณ์ในขณะเกิดเหตุและอาจมีประเด็นอื่นของข้อเท็จจริงที่ต่างฝ่ายต่างยกมาเป็นข้อต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามได้เสมอครับ


(สรุปว่าต้องเปลี่ยนเป็นกระทู้เรื่องกฎหมายมั้ยครับเนี่ย อิอิ ) เอาใจช่วยทั้งคู่นะครับ ในความคิดส่วนตัวผม ผมคิดว่าต้นเหตุมันเกิดขึ้นเพราะคนขับรถรับส่งนักเรียนนี่แหละครับ ไม่ต้องโทษใครเลย รถไฟเขาไม่ได้มีหน้าที่ที่ต้องมาเบาทางทุกทางข้ามที่ไม่มีเครื่องกั้นนี่ครับ ถ้าคุณใช้ความระมัดระวังให้ดี ก่อนข้ามทางรถไฟ เพราะรู้และเห็นอยู่เป็นประจำ(ทุกวันหรือเกือบทุกวัน)ว่าทางข้ามนั้นไม่มีเครื่องกั้นก็ไม่ใช้ความระมัดระวังให้ดี บทสรุปเลยต้องมีความสูญเสียเกิดขึ้นเช่นนี้แหละครับ
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2
Page 2 of 2

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©