View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 07/12/2011 9:58 pm Post subject: |
|
|
Quote: | 6.ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร 167 กิโลเมตร เริ่มก่อสร้างในปี 2554-2558 |
อยู่ในช่วงรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ยังไม่มีการก่อสร้างแต่อย่างใด และไม่ทราบว่าจะได้สร้างจริงหรือไม่
ครั้งสุดท้ายรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในเขตเทศบาลตำบลกำเนิดนพคุณเมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา ครับ _________________
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44763
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 08/12/2011 4:29 pm Post subject: |
|
|
คมนาคมเร่งผุดรถไฟรางคู่โคราช -ขอนแก่น
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 ธันวาคม 2554 16:03 น.
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- กระทรวงคมนาคม เร่งเดินหน้าโครงการสร้างรถไฟทางคู่สายจิระโคราช -ขอนแก่น 185 กม. มูลค่า 2.5 หมื่นล้าน ล่าสุดเปิดรับฟังความเห็นชาวย่าโมรอบที่ 2 เผยต้องปรับรูปแบบรางใหม่รับมือน้ำท่วมใหญ่ คาดก่อสร้างได้ภายใน 3 ปีนี้ ขณะชาวบ้านห่วงกระทบวิถีชีวิตชุมชน
วันนี้ (8 ธ.ค.) ที่โรงแรมดุสิตปริ๊นเซส อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายพยัคพันธุ์ โพธิ์แก้ว ปลัดจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงาน สัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 โครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ เพื่อการขนส่งและการจัดการลอจิสติกส์ (ระยะเร่งด่วน) ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น โดยมีนางชนินนาถ เก้าสำราญ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบการขนส่งและจราจร(สนข.) กระทรวงคมนาคม (คค.) ให้การต้อนรับและกล่าวรายงาน
ทั้งนี้เพื่อนำเสนอข้อมูลรายละเอียดความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการฯ ผลการศึกษาความเหมาะสมและแนวคิดการออกแบบเบื้องต้นระบบรถไฟทางคู่ พร้อมรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจเอกชน สถาบันการศึกษาในพื้นที่ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ตลอดจนประชาชนในพื้น จ.นครราชสีมา เข้าร่วมการสัมมนากว่า 200 คน
นางชนินนาถ เก้าสำราญ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบการขนส่งและจราจร กล่าวว่า โครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟรางคู่ เพื่อการขนส่งและการจัดการโลจิสติกส์ (ระยะเร่งด่วน) ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น มีแนวเส้นทางครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด 10 อำเภอ ได้แก่ จ.นครราชสีมา (อ.เมือง อ.โนนสูง อ.คง อ.บัวใหญ่ อ.บัวลาย) และ จ.ขอนแก่น (อ.พล อ.โนนศิลา อ.บ้านไผ่ อ.แฮด อ.เมือง) มีสถานีรถไฟ 19 สถานี ที่หยุดรถ/ป้ายหยุดรถ 7 แห่ง รวมระยะทางประมาณ 187 กิโลเมตร
สำหรับการสัมมนาครั้งนี้ สนข.ได้นำเสนอแนวคิดการออกแบบระบบรถไฟทางคู่ รายละเอียดการออกแบบปรับปรุงทางตัดผ่านทางรถไฟ จำนวน 81 จุด ซึ่งมีอยู่ 4 รูปแบบ ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ประกอบด้วย ถนนยกระดับข้ามทางรถไฟ ถนนยกระดับกลับรถรูปตัวยู ท่อเหลี่ยมลอดใต้ทางรถไฟ และการยกระดับรถไฟ รวมทั้งออกแบบให้มีรั้วกั้นตลอดแนวเส้นทางโครงการฯ เพื่อเพิ่มความจุและความเร็วของขบวนรถไฟ ตลอดจนป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรงและความสูญเสียที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้นำเสนอแนวคิดในการปรับปรุงอาคารสถานีใหม่ ให้มีความสวยงาม สะดวกสบาย โดยเน้นออกแบบ ตัวสถานีเป็นโถงสูง ช่วยกระจายความร้อน มีเอกลักษณ์ที่สื่อถึงสถาปัตยกรรมท้องถิ่นและวิถีการดำเนินชีวิตของชาวอีสาน ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั้งในและต่างประเทศให้หลั่งไหลเข้ามาในภูมิภาคนี้ เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาคอีสานเป็นอย่างดี
นางชนินนาถ กล่าวอีกว่าภายในงานได้มีการนำเสนอมาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานโครงการฯ น้อยที่สุด เช่น มาตรการป้องกันปัญหาการแบ่งแยกชุมชน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เกรงจะกระทบต่อวิถีชีวิตในชุมชน เสนอให้มีทางเชื่อมหรือทางลอดในระยะที่เหมาะสม และตรวจสอบการใช้งานของทางลอด ทางข้าม และสะพานลอยอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะประชาชนในเขต ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นห่วงเรื่องการเข้าออกของรถขนส่งค้า เนื่องจากมีการทำสถานีขนส่งสินค้าเกษตรขนาดใหญ่ อาจทำให้ประชาชนในแถบนั้นได้รับผลกระทบ ซึ่งเรื่องนี้คณะทำงานได้รับไว้พิจารณา เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขต่อไป
ส่วนมาตรการป้องกันปัญหาการระบายน้ำ ได้มีการเสนอให้มีการก่อสร้างสะพานข้ามลำน้ำขนาดเล็ก การยกระดับสันรางให้พ้นระดับน้ำท่วม พร้อมทั้งขยายช่องสำหรับระบายน้ำ ซึ่งเรื่องนี้ทุกฝ่ายให้ความสนใจมาก เนื่องจากในปี 2553 จ.นครราชสีมาเกิดภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่ ซึ่งคณะทำงานจะต้องนำข้อมูลระดับน้ำมาใช้ประกอบการออกแบบก่อสร้างรางรถไฟซึ่งอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเพิ่มเติมเล็กน้อย
มาตรการป้องกันปัญหาด้านการคมนาคมขนส่ง เช่น ต้องการให้มีการประชาสัมพันธ์และปิดประกาศล่วงหน้า การกำหนดให้มีป้ายเตือน แผงกั้น กรวย แสงสว่าง ไฟกะพริบ ในแต่ละส่วนของพื้นที่ก่อสร้าง มาตรการป้องกันผลกระทบด้านเสียงและความสั่นสะเทือนจากการก่อสร้าง เช่น กำหนดให้การเจาะ การตอกเสาเข็ม การขุดผิวดิน เฉพาะในเวลากลางวัน การจัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียน และมาตรการแก้ไขปัญหาการโยกย้ายและเวนคืน เช่น ประชาสัมพันธ์แนวทางการให้ความช่วยเหลือด้านอพยพ และขั้นตอนการชดเชยทรัพย์สินต่อประชาชนที่รับผลกระทบ การสำรวจรายละเอียดทรัพย์สินที่จะต้องรื้อย้ายและจ่ายค่าชดเชยอย่างละเอียด ดำเนินการชดเชยทรัพย์สินตลอดแนวเส้นทางโครงการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นธรรม
นางชนินนาถ กล่าวต่อว่า สำหรับงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการก่อสร้างรถไฟรางคู่ช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่นรวมระยะทาง 185 กม.นั้นคาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 2.5 ล้านบาท โดยหลังรับฟังความเห็นครั้งนี้แล้ว คณะทำงานจะนำไปสรุปและเปิดรับฟังความเห็นครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งสุดในช่วงปลายเดือน ก.พ. 55 อีกครั้งก่อนสรุปเพื่อส่งให้กระทรวงคมนาคมออกแบบก่อสร้างก่อนเสนอรัฐบาลอนุมัติงบประมาณก่อสร้างต่อไปความว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3 ปีนี้
ทั้งนี้หากการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น แล้วเสร็จ ในปี 2558 จะช่วยเพิ่มความจุของทางจาก 80 ขบวนต่อวัน เป็น 200 ขบวนต่อวัน และเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าจาก 4 แสนตัน เป็น 4 ล้านตันต่อปี รวมทั้งเพิ่มจำนวนผู้โดยสารจากปีละ 2 ล้านคนเป็น 10 ล้านคน ซึ่งเป็นการพลิกโฉมการคมนาคมทางรางในสายอีสาน ให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการค้า การคมนาคมขนส่ง-ลอจิสติกส์ และการท่องเที่ยวในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมทั้งส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชาวอีสานได้อย่างยั่งยืน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 09/12/2011 9:34 am Post subject: |
|
|
สนข.เปิดรับฟังความเห็น ออกแบระบบรถไฟทางคู่ ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น
ข่าวภูมิภาค
แนวหน้า 8 ธันวาคม 2554
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้เตรียมจัดงานสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชน โครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ เพื่อการขนส่งและการจัดการ โลจิสติกส์ (ระยะเร่งด่วน ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น) ครั้งที่ 2
ทั้งนี้เพื่อนำเสนอข้อมูลรายละเอียดโครงการ ผลการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม และแนวคิดการออกแบบเบื้องต้น ตลอดจนเพื่อรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากประชาชนทุกภาคส่วน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 8 ธันวาคม 2554 ที่ห้องสุรนารี เอ โรงแรมดุสิตปริ้นเซส จ.นครราชสีมา และที่ 9 ธันวาคม 2554 ที่ ห้องศรีจันทร์ 2 โรงแรมเจริญธานีขอนแก่น จ.ขอนแก่น
ก.คมนาคมเร่งผุดรถไฟทางคู่โคราช-ขอนแก่น
หน้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ข่าวภูมิภาค
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 ธันวาคม 2554 16:03 น.
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - กระทรวงคมนาคม เร่งเดินหน้าโครงการสร้างรถไฟทางคู่ สายจิระโคราช-ขอนแก่น 185 กม.มูลค่า 2.5 หมื่นล้าน ล่าสุด เปิดรับฟังความเห็นชาวย่าโมรอบที่ 2 เผย ต้องปรับรูปแบบรางใหม่ รับมือน้ำท่วมใหญ่ คาด ก่อสร้างได้ภายใน 3 ปีนี้ ขณะชาวบ้านห่วงกระทบวิถีชีวิตชุมชน
วันนี้ (8 ธ.ค.) ที่โรงแรมดุสิตปริ๊นเซส อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายพยัคพันธุ์ โพธิ์แก้ว ปลัดจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงานสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 โครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ เพื่อการขนส่งและการจัดการลอจิสติกส์ (ระยะเร่งด่วน) ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น โดยมี นางชนินนาถ เก้าสำราญ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม (คค.) ให้การต้อนรับและกล่าวรายงาน
ทั้งนี้ เพื่อนำเสนอข้อมูลรายละเอียดความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการ ผลการศึกษาความเหมาะสม และแนวคิดการออกแบบเบื้องต้นระบบรถไฟทางคู่ พร้อมรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจเอกชน สถาบันการศึกษาในพื้นที่ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ตลอดจนประชาชนในพื้น จ.นครราชสีมา เข้าร่วมการสัมมนากว่า 200 คน
นางชนินนาถ เก้าสำราญ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบการขนส่งและจราจร กล่าวว่า โครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟรางคู่ เพื่อการขนส่งและการจัดการโลจิสติกส์ (ระยะเร่งด่วน) ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น มีแนวเส้นทางครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด 10 อำเภอ ได้แก่ จ.นครราชสีมา (อ.เมือง อ.โนนสูง อ.คง อ.บัวใหญ่ อ.บัวลาย) และ จ.ขอนแก่น (อ.พล อ.โนนศิลา อ.บ้านไผ่ อ.แฮด อ.เมือง) มีสถานีรถไฟ 19 สถานี ที่หยุดรถ/ป้ายหยุดรถ 7 แห่ง รวมระยะทางประมาณ 187 กิโลเมตร
สำหรับการสัมมนาครั้งนี้ สนข.ได้นำเสนอแนวคิดการออกแบบระบบรถไฟทางคู่ รายละเอียดการออกแบบปรับปรุงทางตัดผ่านทางรถไฟ จำนวน 81 จุด ซึ่งมีอยู่ 4 รูปแบบ ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ประกอบด้วย ถนนยกระดับข้ามทางรถไฟ ถนนยกระดับกลับรถรูปตัวยู ท่อเหลี่ยมลอดใต้ทางรถไฟ และการยกระดับรถไฟ รวมทั้งออกแบบให้มีรั้วกั้นตลอดแนวเส้นทางโครงการฯ เพื่อเพิ่มความจุและความเร็วของขบวนรถไฟ ตลอดจนป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรงและความสูญเสียที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้นำเสนอแนวคิดในการปรับปรุงอาคารสถานีใหม่ ให้มีความสวยงาม สะดวกสบาย โดยเน้นออกแบบ ตัวสถานีเป็นโถงสูง ช่วยกระจายความร้อน มีเอกลักษณ์ที่สื่อถึงสถาปัตยกรรมท้องถิ่นและวิถีการดำเนินชีวิตของชาวอีสาน ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั้งในและต่างประเทศให้หลั่งไหลเข้ามาในภูมิภาคนี้ เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาคอีสานเป็นอย่างดี
นางชนินนาถ กล่าวอีกว่า ภายในงานได้มีการนำเสนอมาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานโครงการฯ น้อยที่สุด เช่น มาตรการป้องกันปัญหาการแบ่งแยกชุมชน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เกรงจะกระทบต่อวิถีชีวิตในชุมชน เสนอให้มีทางเชื่อมหรือทางลอดในระยะที่เหมาะสม และตรวจสอบการใช้งานของทางลอด ทางข้าม และสะพานลอยอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะประชาชนในเขต ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นห่วงเรื่องการเข้าออกของรถขนส่งค้า เนื่องจากมีการทำสถานีขนส่งสินค้าเกษตรขนาดใหญ่ อาจทำให้ประชาชนในแถบนั้นได้รับผลกระทบ ซึ่งเรื่องนี้คณะทำงานได้รับไว้พิจารณา เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขต่อไป
ส่วนมาตรการป้องกันปัญหาการระบายน้ำ ได้มีการเสนอให้มีการก่อสร้างสะพานข้ามลำน้ำขนาดเล็ก การยกระดับสันรางให้พ้นระดับน้ำท่วม พร้อมทั้งขยายช่องสำหรับระบายน้ำ ซึ่งเรื่องนี้ทุกฝ่ายให้ความสนใจมาก เนื่องจากในปี 2553 จ.นครราชสีมาเกิดภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่ ซึ่งคณะทำงานจะต้องนำข้อมูลระดับน้ำมาใช้ประกอบการออกแบบก่อสร้างรางรถไฟซึ่งอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเพิ่มเติมเล็กน้อย
มาตรการป้องกันปัญหาด้านการคมนาคมขนส่ง เช่น ต้องการให้มีการประชาสัมพันธ์และปิดประกาศล่วงหน้า การกำหนดให้มีป้ายเตือน แผงกั้น กรวย แสงสว่าง ไฟกะพริบ ในแต่ละส่วนของพื้นที่ก่อสร้าง มาตรการป้องกันผลกระทบด้านเสียงและความสั่นสะเทือนจากการก่อสร้าง เช่น กำหนดให้การเจาะ การตอกเสาเข็ม การขุดผิวดิน เฉพาะในเวลากลางวัน การจัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียน และมาตรการแก้ไขปัญหาการโยกย้ายและเวนคืน เช่น ประชาสัมพันธ์แนวทางการให้ความช่วยเหลือด้านอพยพ และขั้นตอนการชดเชยทรัพย์สินต่อประชาชนที่รับผลกระทบ การสำรวจรายละเอียดทรัพย์สินที่จะต้องรื้อย้ายและจ่ายค่าชดเชยอย่างละเอียด ดำเนินการชดเชยทรัพย์สินตลอดแนวเส้นทางโครงการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นธรรม
นางชนินนาถ กล่าวต่อว่า สำหรับงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่น รวมระยะทาง 185 กม.นั้น คาดว่า จะใช้งบประมาณกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท โดยหลังรับฟังความเห็นครั้งนี้แล้ว คณะทำงานจะนำไปสรุปและเปิดรับฟังความเห็นครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งสุดในช่วงปลายเดือน ก.พ. 55 อีกครั้งก่อนสรุปเพื่อส่งให้กระทรวงคมนาคมออกแบบก่อสร้างก่อนเสนอรัฐบาลอนุมัติงบประมาณก่อสร้างต่อไปความว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3 ปีนี้
ทั้งนี้ หากการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น แล้วเสร็จ ในปี 2558 จะช่วยเพิ่มความจุของทางจาก 80 ขบวนต่อวัน เป็น 200 ขบวนต่อวัน และเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าจาก 4 แสนตัน เป็น 4 ล้านตันต่อปี รวมทั้งเพิ่มจำนวนผู้โดยสารจากปีละ 2 ล้านคนเป็น 10 ล้านคน ซึ่งเป็นการพลิกโฉมการคมนาคมทางรางในสายอีสาน ให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการค้า การคมนาคมขนส่ง-ลอจิสติกส์ และการท่องเที่ยวในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมทั้งส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชาวอีสานได้อย่างยั่งยืน |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 09/12/2011 9:50 am Post subject: |
|
|
หากจะขยายโครงการเป็นเส้นทางคู่แล้ว ปัจจัยที่เป็นตัวแปรสำคัญคือขบวนรถที่มีให้บริการด้วยครับ ไม่ทราบว่า มีการพัฒนาด้าน renovate หรือจัดซื้อมาใหม่มากน้อยเพียงใด
เส้นทางคู่ หากสร้างเสร็จ แต่มีรถวิ่งบริการให้เพียงวันละ 4 เที่ยว ก็เท่ากับไม่มีผลกำไรเพิ่มขึ้นแต่ประการใด
แถมบรรดารถทัวร์ ยังคงมีให้บริการอยู่ทั่วทุกระแหง และถึงปลายทางได้เร็วกว่าด้วยสิ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 09/12/2011 11:02 am Post subject: |
|
|
^^^
ทุกวัีนนี้มีรถเดินระหว่างสถานีนครราชสีมากะ ขอนแก่น วันละ 5-6 คู่ นะครับ
1. ด่วน 69/70
2. ท้องถิ่้น 415/418
3. ท้องถิ่้น 431/432
4. ท้องถิ่้น 417/416
5. ด่วน 77/76 - สายนี้จะตัดด่วน 76 ให้กลับมาเดินช่วงลำนารายณ์ หลัง rehab ทางก็ได้
6. ด่วน 75/78 - สายนี้จะตัดด่วน 75 ให้กลับมาเดินช่วงลำนารายณ์ หลัง rehab ทางก็ได้
ถ้าจะเพิ่มได้ทันที ก็ต้องยืด รถท้องถิ่น 429/430 (นครราชสีมา - บัวใหญ่) ให้่มีเดินถึงขอนแก่น แต่ถ้าไม่มีรถเพิ่มอีก 4 เท่า จาก 6 ชุดรถเป็น 24 ชุดรถ ก็ลำบากแน่ - อาจต้องใช้เงินกู้่ ในการสร้างทางคู่ โดยพ่วงการกู้เงินซื้อรถจักร รถสินค้า รถโดยสาร รถดีเซลราง เข้าไปด้วย |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 12/12/2011 1:51 pm Post subject: |
|
|
'ชัจจ์'สั่งรถไฟไขลานทำงาน หลังอืดเป็นเรือเกลือ
โดย: ทีมข่าวเศรษฐกิจ ไทยรัฐ
12 ธันวาคม 2554, 05:15 น.
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า การทำงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยังมีความล่าช้าอยู่มาก ที่ผ่านมาตนได้มอบหมายให้ รฟท.เร่งจัดหาหัวรถจักรและปรับปรุงราง โดยได้สั่งการไปก่อนเกิดน้ำท่วม แต่ รฟท.ทำได้แค่ชี้แจงถึงปัญหาอุปสรรคที่ทำให้ล่าช้า เช่น ไม่มีคณะกรรมการ รฟท. หรือมีการสั่งทบทวนโครงการ และในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ ได้ให้ผู้บริหาร รฟท. มารายงานความคืบหน้า นอกจากนี้ ตนจะกำชับให้ รฟท.อำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนช่วงปีใหม่ เนื่องจากมีประชาชนมาใช้บริการจำนวนมาก เช่น เพิ่มเที่ยวรถ การตรวจสภาพรถไฟ รวมทั้งห้ามปีนป่ายหรือนั่งบนหลังคารถไฟ เพื่อความปลอดภัยกับประชาชนมากที่สุด ผมได้สั่งไปแล้ว 3 ครั้ง แต่ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร ล่าสุดรายงานมาเพียงกระดาษแผ่นเดียว โดยชี้แจงขั้นตอนการจัดหาหัวรถจักร ผมว่าช้าเกินไป อยากทำให้เร็วกว่านี้ วันที่ 14 ธ.ค.นี้ ผู้บริหาร รฟท.จะเข้ามาชี้แจง ผมจะสั่งการให้ทำงานรวดเร็วขึ้น
ส่วนความคืบหน้าการวางโครงสร้างระบบราง และโครงการรถไฟความเร็วสูงซึ่งต้องใช้รางขนาด 1.435 เมตรนั้น ขณะนี้สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการวางโครงสร้างระบบรางและโครงการรถไฟความเร็วสูงเสร็จแล้ว ได้ข้อสรุปว่าการสร้างรางขนาด 1 เมตร ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และการสร้างรางขนาด 1.435 เมตร ควบคู่ไปด้วยกันนั้น (รางคล่อม) ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณมาก ฉะนั้น ในการขยายจะต้องทำใหม่ทั้งเส้น โดยสร้างรางแยกจากเส้นเดิม เพื่อรองรับระบบรถไฟแต่ละประเภท แม้จะทำให้งบที่ใช้เพิ่มขึ้น 20-30% แต่มีศักยภาพและความปลอดภัยมากกว่า การปรับปรุงระบบรถไฟรางขนาด 1 เมตรก็ให้ทำไป แต่ก็ต้องสร้างรถไฟทางคู่ 1.435 เมตร ด้วยเพื่อรองรับโครงการรถไฟความเร็วสูงที่ไทยจะต้องทำทั้งภายในประเทศและเชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยกระทรวงจะขอใช้งบปี 55 ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษารายละเอียดเส้นทาง ซึ่งต้องเร่งศึกษาให้แล้วเสร็จ เพื่อให้สามารถเบิกใช้งบได้ในเดือน ก.พ.55 และเริ่มดำเนินการได้ทันที. |
|
Back to top |
|
|
alderwood
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/04/2006 Posts: 6593
Location: กรุงเทพ-ราชสีมา
|
Posted: 12/12/2011 3:16 pm Post subject: |
|
|
ยังบ้า 1.435 เมตรไม่เลิก ถามหน่อยเหอะว่า เพื่อนบ้านเราราง 1.435 เมตรเหรอท่าน หัดนั่งรถไฟไปประเทศเพื่อนบ้านข้างๆไทยนะท่าน ไม่ใช่นั่งเครื่องไปจีน ไปยุโรป แล้วบอกว่าเพิ่อนบ้านเราใช้ 1.435 เมตร
จะเอา HST อย่าลืมสร้างตามแนวทางใหม่ ไม่ใช่วิ่งคู่กับแนวทางเก่า อย่าลืมสร้างโรงไฟฟ้านะครับ อ้อ...ถ้าสร้างแล้ว ไม่มีคนขึ้น หรือขาดทุน ท่านจะทำอย่างไร _________________ รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter
|
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 12/12/2011 9:35 pm Post subject: |
|
|
โฮ้ย...น้าแมว ให้แกห่วงเรื่องปรับ ครม.ช่วงหลังปีใหม่ดีกว่านะ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44763
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 10/01/2012 9:42 am Post subject: |
|
|
รฟท.เตรียมเปิดเส้นทางรถไฟทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา - แหลมฉบัง ในวันที่ 12 ม.ค.นี้
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ 10 ม.ค. 55
การรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมเปิดเส้นทางรถไฟทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา - แหลมฉบัง ในวันที่ 12 มกราคมนี้ ซึ่งจะสามารถช่วยลดต้นทุนในการขนส่งได้มาก
นายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เส้นทางรถไฟทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา - แหลมฉบัง ระยะทาง 80 กิโลเมตร ที่ดำเนินการสร้างแล้วเสร็จ โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 มกราคมนี้ ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบรางของประเทศไทยและสามารถช่วยลดต้นทุนในการขนส่งได้มาก โดยเส้นทางดังกล่าวจะสามารถเพิ่มขบวนเที่ยวรถได้กว่า 30 เที่ยวต่อวัน นอกจากนี้ ยังยกระดับบริการเพื่อเพิ่มศักยภาพการขนส่งทางราง และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้ง เชื่อมต่อโครงข่ายการขนส่งซึ่งจะสามารถสนับสนุนการกระจายสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม ยังเตรียมวางแผนในอนาคต อยากให้มีเส้นทางรอบกรุงเทพมหานคร อาทิ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นครปฐม ชลบุรี พัทยา เป็นระบบรางคู่ ที่ใช้เวลาการเดินทางลดลงจากเดิม เพื่อประหยัดเวลาและสร้างความสะดวกสบายให้กับประชาชน |
|
Back to top |
|
|
|