View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
rimura
2nd Class Pass (Air)
Joined: 16/08/2006 Posts: 778
Location: Suan luang Rama IX, Pravet, Bangkok
|
Posted: 26/12/2011 10:49 pm Post subject: ถ้าเราจะมีรถดีเซลรางปรับอากาศเพิ่ม |
|
|
พอดีวันนี้ได้นั่งฟุ้งซ่านนึกอะไรไปเล่นๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ของรถดีเซลรางในบ้านเรา ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้มีรถดีเซลรางปรับอากาศที่ประจำการอยู่ คือ Deawoo , Breal Sprinter , กซมป. ATC , และรวมถึง รถ พซข.RHN (จำหมายเลขไม่ได้) ที่ล่าสุดเพิ่งได้มีการทดลองดัดแปลงเป็น พซขป. ทำให้ผมได้แนวคิดถึงที่ว่า ด้วยสภาพการโดยสารที่เราเป็นอยู่ในปัจจุบัน รถดีเซลรางปรับอากาศโดยเฉพาะเหล่านี้ได้รับความนิยมในการใช้บริการของบ้านเราเป็นอย่างมาก ซึ่งสถานการณ์ของรถที่ในตอนนี้ค่อนข้างตึงตัวอันมาจากสาเหตุของการชำรุดจากการใช้งานอย่างหนักจนแทบจะไม่สามารถตรวจซ่อมได้ตรงตามวาระ และอุบัติเหตุ อันเป็นสาเหตุที่ทำให้ประสิทธิภาพในการบริการลดลง เกิดความล่าช้า รถไม่พอจัดชุดทำขบวน รออะไหล่ซ่อมนาน ฯลฯ
ดังนั้นก็เลยอยากจะให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆสมาชิกลองมาร่วมแชร์ความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทาง และความเป็นไปได้ในส่วนของการปรับปรุงและพัฒนารถดีเซลรางธรรมดาให้อัพเกรดเป็นรถดีเซลรางปรับอากาศ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่เรามีอยู่ นอกเหนือจากการจัดหารถใหม่ ซึ่งอาจจะไม่ทันการณ์นักดังที่เราทราบกัน เพราะตอนนี้เราจะเห็นได้ว่า รถจักร รถดีเซลราง รถโดยสารส่วนหนึ่งในบ้านเราก็ได้มีการทยอยนำมาปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นกันแล้ว อย่างรถจักรอัลสธอม (Re-engine MTU , CAT) , ดีเซลรางสปรินเตอร์ (Referbishment) , การทำสีและปรับปรุงภายในรถ บชส. เป็นต้น
ในส่วนความคิดเห็นของผม ผมเห็นว่า
- ในส่วนของรถดีเซลราง THN , NKF เป็นไปได้หรือไม่หากเราจะทำการดัดแปลงรถบางส่วนให้เป็นรถดีเซลรางปรับอากาศ โดยรูปแบบที่นั่งอาจเป็นชั้น 3 หรือ 2 ก็ได้
- ถ้าที่นั่งภายในคงไว้เป็นชั้น 3 ก็จะดีไม่น้อยหากสำหรับเน้นเอาไปทำขบวนรถสายชานเมือง เป็นการยกระดับคุณภาพในการบริการอีกอย่างหนึ่ง (หากจะเอาไปทำขบวนรถทางไกลด้วยก็ได้ประโยชน์ดีอีกเช่นกัน)
- ถ้าที่นั่งภายในเป็นชั้น 2 (เหมือน กซมป. ATC ) ก็ไม่ขัดข้อง หากเราจะได้มีรถนั่งดีเซลรางปรับอากาศชั้น 2 เพิ่ม สามารถทำขบวนรถสายไกลเช่นเดียวกับดีเซลรางแดวู , สปรินเตอร์ แต่.... ขอเบาะแบบกลับที่นั่งได้ด้วยก็จะดีไม่น้อยครับ
- หรือถ้าเราจะทำการ Refrebishment รถ THN,NKF บางส่วนที่ต้องการให้เป็นรถดีเซลรางปรับอากาศ ให้มีทั้งสมรรถนะและรูปแบบการโดยสารที่ดีขึ้นเหมือนอย่างที่ปรับปรุงกับรถดีเซลรางสปรินเตอร์ แต่ตรงจุดนี้ผมไม่แน่ใจว่าหากมีการ Refrebishment กันจริงๆ รถจะยังสามารถมีความยืดหยุ่นในการพ่วงรวมชุดเข้ากับรถรุ่นเดียวกันที่ไม่ได้ทำการปรับปรุงได้หรือไม่
- ในส่วนของรถดีเซลราง RHN ก็เช่นเดียวกัน แต่อาจแตกต่างกันที่เราอาจดัดแปลงรถ พซข. ให้เป็น พซขป. เพิ่มเติม ส่วนรถ กซข. อาจทำการดัดแปลงได้ยากกว่าเพราะเป็นรถ ดีเซลราง 2 เครื่องยนต์ อาจจำกัดเนื้อที่ในการติดตั้งระบบเครื่องยนต์กำเนิดไฟฟ้าและระบบปรับอากาศ หรือถ้าหากใช้เป็นแอร์ไฟฟ้าจะมีความเป็นได้และความเหมาะสมมากน้อยเพียงใด
เป็นเพียงข้อคิดเห็นส่วนตัวนะครับ แต่ก็อยากให้ทุกท่านลองช่วยกันคิด ช่วยกันเสนอไอเดีย ทั้งในส่วนข้อมูลทางเทคนิค ความเป็นไปได้ ข้อจำกัด การบำรุงรักษาและผลกระทบในด้านต่างๆทั้งตอนที่เราเริ่มปรับปรุงไปจนถึงการใช้งานจริง แชร์กันเข้ามาได้เลยนะครับผม....
Last edited by rimura on 27/12/2011 8:12 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
pasakorn
2nd Class Pass
Joined: 06/01/2009 Posts: 671
Location: ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ., หลักสี่
|
Posted: 27/12/2011 12:14 am Post subject: |
|
|
ดีเซลรางโตคิว(มหาชัย)นั่นเล่า.. หายไปอยู่ที่ไหนซะแล้วครับ นำมาดัดแปลงเป็น พซม.ป. เอาไว้พ่วงกับรถดีเซลราง THN พอจะได้มั้ยครับ (อย่าลืมดัดแปลงระบบควบคุมลมเปิด-ปิดประตู กับระบบเบรกให้สามารถสั่งการจากรถ กซข.THN ได้ด้วยหล่ะ..) _________________ ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ ก่อนที่ท่านจะลงจากขบวนรถ โปรดตรวจสอบสัมภาระของท่านที่นำติดตัวมา นำลงให้ถูกต้องครบถ้วนด้วยครับ....
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 27/12/2011 12:25 am Post subject: |
|
|
^^^
น่ากลัวจะแปรสภาพเป็น บชส. ไปเสียแล้วหละครับ |
|
Back to top |
|
|
kikoo
1st Class Pass (Air)
Joined: 01/02/2010 Posts: 1667
Location: มอ.ตรัง และ สถานีตรัง
|
|
Back to top |
|
|
donatt76
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 27/12/2011 11:26 am Post subject: |
|
|
ขออนุญาตแชร์ความเห็นบ้างนะครับ
แนวคิดที่ท่าน rimura เสนอมานี่ ผมก็เคยคิดเช่นกัน และคิดว่าน่าจะเพิ่ม ป. ให้กับรถโดยสารทุกคันเสียด้วยซ้ำ เหมือนกับที่ บขส. ทะยอยปลด รถ ม.3 หรือ รถพัดลมออกจากระบบจนตอนนี้รถทางไกลทางใกล้จากกรุงเทพฯ กลายเป็น ม.2 หรือ รถปรับอากาศชั้น 2 แบบไม่มีห้องน้ำไปหมดแล้ว...แต่ในกรณีรถไฟมันค่อนข้างต่างไปนิดนึดนึงครับ
1. ถ้าติดเครื่องปรับอากาศให้รถโดยสารทุกคัน ไม่เฉพาะ กซข.นะครับ...ลามปามไปถึง บชส. บชท. ด้วยเลย คำถามคือ ผู้โดยสารรถไฟจะมีกำลังในการจ่ายค่าโดยสารหรือไม่? เพราะแน่นอนว่าจะเก็บในอัตราเดิมไม่ได้แล้ว ==> นำไปสู่ประเด็นที่ 2
2. ถ้าติดเครื่องปรับอากาศแล้ว ค่าโดยสารสมควรปรับให้สมเหตุสมผลหรือไม่? หมายถึง คิดเป็นอัตราค่าโดยสารตามระยะทางตามประเภทของรถอย่างเดียว ได้หรือไม่ แทนที่จะเก็บเป็นค่าโดยสาร + ค่าธรรมเนียมสารพัด จนทำให้ค่าเดินทางมันแพงหุฉี่อย่างทุกวันนี้ ==> นำไปสู่ประเด็นที่ 3
3. ถ้าเก็บค่าโดยสาร ตามอัตราเดียวแล้ว...เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการจัดการใช้ทรัพยากรที่เหมาะสม เพราะปัจจุบันนี้รถด่วนดีเซลรางของเรา เน้นการขายตั๋วผุ้โดยสารทางไกล จนไม่เอื้อให้ผู้โดยสารระยะใกล้ ยกตัวอย่าง ผู้โดยสารขบวน 9 รอการโดยสารที่ลพบุรี - เชียงใหม่ รถก็จะวิ่งที่นั่งเปล่าจากกรุงเทพฯ - ลพบุรี เพราะค่าโดยสาร มันแพงหูฉี่ (นั่งรถทัวร์ไปถูกกว่าเกือบ 10 เท่า) หรือ ขบวน 51 ที่ส่วนมากผู้โดยสารรถนอนจะลงตั้งแต่อุตรดิตถ์ - เด่นชัย แต่ที่นั่งจะว่างจนถึงเชียงใหม่...จะดีกว่ามั้นถ้าปรับอัตราค่าโดยสาร เหลือแค่รถชั้น 2 นั่งปรับอากาส โดยขายที่นั่งในตู้ บนท.ป. (เช่นเดียวกับขบวน 13 ที่ออกจากลำปางแล้วที่นั่งว่าง...ถ้าไม่เก็บค่านอน ก็จะสามารถรับผู้โดยสารไปเชียงใหม่ ได้อีกเยอะ เพราะรถออก 7 โมงเช้า ถึงเชียงใหม่ 9.45) ==> นำสู่ประเด็นที่ 4
4. ถ้ามีรถปรับอากาศแล้ว อัตราค่าโดยสาร เอื้อประโยชน์ให้ผู้โดยสารทุกระยะแล้ว...คิดว่าจะสามารถแบ่ง (ใช้คำว่าแบ่งนะครับไม่ใช่แย่ง) ผู้โดยสารจากระบบถนนได้มากน้อยเท่าไหร่...แปลง่ายๆก็คือ จะทำยังไงให้คนหันมาใช้ระบบรางเพิ่มมากขึ้น คำตอบคือ "ต้องตรงเวลา"...ไม่ต้องเร็วกว่ารถยนต์ครับ แต่เวลาต้องแน่นอน (ไม่ต้องคิดเป็นวินาทีแบบญี่ปุ่นหรอกครับ เอาแค่ระดับนาทีก็พอ)
ถ้าคำตอบออกมาว่า "ได้" ทีละข้อๆ ก็ต้องลองทำดูครับ...ระยะแรกๆที่มีทั้งรถปรับอากาศ และ รถร้อน สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ รถแอร์คนจะว่างเป็นทหารม้า ขณะที่รถร้อนแน่นเป็นปลากระป๋อง (อย่าถอดใจจนเลิกซะก่อน แบบขบวน 67/68 กับ 85/86 ล่ะครับ)...ค่อยๆกลืนเข้าไปเหมือน บขส. จนในที่สุดรถร้อนก็หายไปเอง
ถ้าคำตอบของทั้ง 4 ข้อออกมาว่า "ไม่สามารถ" ตั้งแต่ข้อ 1 แล้วล่ะก้อ อย่าเอาไปติดแอร์ให้มันเปลืองงบประมาณเลยครับ!!!
ปล.แนวคิดเรื่อง All Air-Con Train ของผมขอเสนอให้ทำเฉพาะขบวนรถด่วนพิเศษ ขบวนรถด่วน และขบวนรถเร็วนะครับ...
ส่วนขบวนรถชานเมือง ขบวนรถธรรมดา ขบวนรถท้องถิ่น อยากให้มีทั้งรถชั้น 3 ธรรมดา และรถปรับอากาศ (จะชั้นไหนก็แล้วแต่) ให้เป็นทางเลือกของผุ้โดยสาร...ใครอยากสบายก็จ่ายแพงกว่านั่งรถแอร์ ใครที่กำลังทรัพย์ไม่เยอะ เลือกนั่งรถธรรมดาก็ยังมีทางให้เลือก (แน่นอนว่าผู้โดยสารเลือกเดินทางกับขบวนรถธรรมดา อาจจะต้องเสียเวลาหิ้วชะลอมหอบกระเป๋าในการเปลี่ยนขบวนรถ และรอขบวนรถกันบ้างครับ)
เชื่อสิ ถ้าการรถไฟทะลึ่งทำตามที่ผมว่าจริงๆ มีคนเกือบครึ่งประเทศโวยวายแน่นอน _________________
|
|
Back to top |
|
|
OutRun
1st Class Pass (Air)
Joined: 26/05/2006 Posts: 1187
|
Posted: 27/12/2011 2:56 pm Post subject: |
|
|
ขอแสดงความเห็นบ้างครับ แบ่งเป็นข้อ ๆ นะครับ
1. ดูเหมือนว่าการรถไฟฯ เองก็ยังไม่ค่อยจะแน่ใจสักเท่าไรว่ากิจการที่ทำอยู่รัฐจะให้ดำเนินงานในเชิงพาิณิชย์ (หากำไร) หรือเชิงบริการสังคม (ไม่หากำไร)
ฉนั้นแล้วการนำรถชั้น 3 ทุกประเภทไปติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ผมว่าคงไม่ใช่แนวทางที่ดีแน่ ๆ ครับ
2. จากที่ดูความคิดเห็นของแต่ละท่านมา ผมว่ายังไม่มีใครคำนึงถึงเรื่องนี้ครับ ยกตัวอย่างขบวน 407/408 ถ้าหากขบวนนี้เป็นรถแอร์ แล้วเกิดมีพ่อค้าแม่ค้า
หรือชาวสวน ชาวไร่ นำเอาอาหารที่มีกลิ่นรุนแรงขึ้นขบวนรถ จะจัดการให้บริการสังคมในส่วนนี้อย่างไรครับ เนื่องจากรถไฟไม่ได้มีที่เก็บของใต้ท้องรถเหมือนรถทัวร์
3. ผมมองว่าตอนนี้รถดีเซลราง THN/NKF เป็นรถอเนกประสงค์ ที่จะทำขบวนรถด่วนก็ได้ รถชานเมืองก็ได้ โดยเฉพาะรถชานเมืองนี่เหมาะยิ่งนัก ที่จะจุผู้โดยสารได้เยอะ ๆ
ยังไม่สมควรนำไปติดแอร์ เพราะถ้านำไปติดแอร์อาจจะมีการทำที่นั่งใหม่ให้การเป็นที่นั่งชั้น 2 ซึ่งจะทำให้จุผู้โดยสารได้น้อยลง
4. ในส่วนของรถดีเซลราง RTS ที่ย้ายมาจากมหาชัยนั้น ความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าไม่เหมาะที่จะนำมาพ่วงทำขบวนรวมกับรถ THN/NKF แล้วนำมาวิ่งทางไกล
เนื่องจากคันที่เป็นรถพ่วงนั้นไม่มีเครื่องยนต์ขับเคลื่อน ขืนนำมาพ่วงกับ THN เวลาทำขบวนก็จะเป็นตัวถ่วงคันอื่น ๆ ในขบวน ยิ่งทำขบวนขึ้นเขานี่คงยิ่งไ่ม่เหมาะ
แน่ ๆ ครั้นจะให้เอารถกำลังที่มีห้องขับมาดัดแปลงพ่วงกับ THN แล้ววิ่งทางไกล ก็ยังไม่เหมาะอยู่ดี เพราะรถกำลังรุ่นนี้ไม่มีห้องน้ำในตัว มีห้องน้ำเฉพาะคันที่เป็น
รถพ่วงเท่านั้น
5. เรื่องสุดท้ายผมมองว่าระบบการจัดการภายในของการรถไฟฯ ยังไม่ดีพอ ณ เวลานี้ยังมีรถปรับอากาศรุ่นเก่าจอดอยู่เต็มย่านสถานี ชุมทางบ้านภาชี
ขืนเอารถชั้น 3 ทุกประเภทไปทำเป็นรถปรับอากาศ สถานการณ์รถไม่พอวิ่งอาจจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่ _________________ นายจักรยานกับการรถไฟ ฯ |
|
Back to top |
|
|
aonpakorn
3rd Class Pass
Joined: 06/07/2006 Posts: 153
|
Posted: 27/12/2011 5:24 pm Post subject: |
|
|
เมื่อวันก่อนเพิ่งจะกล่าวถึงรถไฟในทศวรรษหน้า ดังนั้นทุกคำถามของคุณโดนัท การรถไฟต้องตอบว่า "ได้" เป็นคำตอบเดียวเท่านั้น ไม่ต้องมีตัวเลือกให้ยุ่งยาก |
|
Back to top |
|
|
sprinter
2nd Class Pass
Joined: 10/09/2007 Posts: 722
|
Posted: 27/12/2011 7:56 pm Post subject: |
|
|
ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับการทำนะครับ เพราะทุกวันนี้การเดินทางด้วยรถพัดลมไกลๆมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างทรมาณมาก ทั้งอากาศเมืองไทยที่ร้อนตับแตก ทั้งฝุ่นริมทาง กลิ่นห้ามล้อ ไหนจะพวกเผาหญ้า เผาอะไรต่อมิอะไรริมทาง ฯลฯ ที่มันไม่ดีต่อสุขภาพอีก หากทำเป็นรถปรับอากาศผมว่าการเดินทางคงจะสะดวกสบายขึ้นเยอะเลยหละครับ ถ้ามันเสียเพิ่มอีกไม่มาก แค่ 100 นิดๆ(รวมถึงปรับปรุงเรื่องตรงต่อเวลาให้ดีกว่าเดิม ถ้าทำให้มันมีอะไรดึงดูดใจให้ดูน่าใช้บริการกว่ารถทัวร์ได้ด้วยหละก็จะดีมากๆ) ผมว่ายังไงมีคนยอมเสียเพิ่มแน่นอน และหนึ่งในนั้นคือผมคนนึงแหละ แลกกับความสบายที่มีมากกว่ารถพัดลมเป็นไหนๆ ถ้าให้ผมเลือกระหว่างนั่ง บชส.ป กับ บนอ.พัดลม(ซึ่งตอนนี้ไม่มีแล้ว)จากกรุงเทพไปสุไหงโกลก ผมเลือกทันทีแบบไม่ลังเลเลยว่าเลือก บชส.ป แน่นอน
ในกรณีที่เป็นรถจักรทำการ ถ้าจะให้ดีก็ทำเป็นแบบ power car เหมือนของมาเลย์ไปเลย แต่ถ้าจะทำแบบนั้นก็ต้องแน่ใจว่ามี power car มากเพียงพอที่จะให้บริการได้ และต้องมีสำรองเผื่อไว้ เพราะถ้า power car เกิดเดี้ยงขึ้นมาเมื่อไหร่นี่งานงอกแน่
เรื่องพ่อค้าแม่ขายทั้งหลาย ตรงนี้คงจะต้องจัดระเบียบให้เข้มงวดกว่าเดิมแหละครับ คือต้องจำกัดให้ขายแต่เฉพาะของที่ไม่มีกลิ่นจำพวก น้ำ ขนมขบเคี้ยว ผลไม้ ไอศกรีม เท่านั้น ของที่มีกลิ่นรุนแรงให้ขายได้เฉพาะในรถเสบียงเท่านั้น ซึ่งตรงนี้ก็คงอยู่ที่ว่าการรถไฟจะจัดการยังไงต่อไป บางทีก็ควรจะต้องเผด็จการกันบ้างหากเป็นการทำเพื่อคนส่วนรวม อันนี้เคยเจอนะตอนนั่งรถนำเที่ยวเขื่อนป่าสักฯ เจอแม่ค้าเอาแหนมย่างกลิ่มมหาโหดเข้ามาขายใน บนท.ป แบบว่าสุดๆเลยครับ
ผมว่าที่รถไฟไทยของเรามันไม่ค่อยพัฒนา ส่วนหนึ่งมันก็มาจากนิสัยคนไทยด้วยแหละครับ อะไรๆก็ค้านไว้ก่อนตลอด แถมพวกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ชอบไปมองแต่พวกเสียงส่วนน้อยกันเสียด้วย เรื่องประเด็นที่อาจจะมีคนค้านเหมือนที่พี่โดนัทบอก ผมว่าจะทำหรือไม่ทำมันก็ต้องมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอยู่ดีแหละครับ
ในกรณีที่จะทำ มันก็คงจะมีคนออกมาด่าว่า แล้วพวกคนจนๆที่เค้ามีเงินน้อยหละ เค้าจะทำยังไง จะทิ้งเค้าหรอ แต่ถ้าไม่ทำก็จะมีคนออกมาด่าอีกว่า องค์กรไดโนเสาร์เต่าล้านปี ไม่พัฒนาอะไรให้มันใหม่ๆเสียที |
|
Back to top |
|
|
rimura
2nd Class Pass (Air)
Joined: 16/08/2006 Posts: 778
Location: Suan luang Rama IX, Pravet, Bangkok
|
Posted: 27/12/2011 11:17 pm Post subject: |
|
|
ขอบคุณทุกท่านครับ, น่าคิดทีเดียวสำหรับในแต่ละประเด็นของแต่ละท่าน รถไฟนั้นถ้าโดยหลักการแล้วก็เรียกได้ว่าเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของประชาชน ดังนั้นการพัฒนาการให้บริการก็ควรสอดคล้องคลอบคลุมกับผู้ใช้บริการรถไฟทุกระดับให้มากที่สุด
ส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจในแนวคิดเรื่องการดัดแปลงรถดีเซลรางธรรมดาให้เป็นรถดีเซลรางปรับอากาศ ก็มาจากการเล็งเห็นถึงความเอนกประสงค์ในการใช้งานของรถดีเซลราง THN,NKF และพื้นฐานการออกแบบของรถรุ่นนี้กับรถในตระกูลเดียวกันอย่าง กซมป.ATC รวมไปถึงรถ บนทป.Tokyu แล้ว THN,NKF ก็น่าจะมีศักยภาพในการรองรับการอัพเกรดเป็นรถปรับอากาศได้ ซึ่งรูปแบบของรถผมก็อยากให้มีรถทั้ง 3 แบบ โดยคงรถแบบชั้น 3 ธรรมดาดั้งเดิมไว้ส่วนนึงเพื่อเน้นใช้ในขบวนบริการเชิงสังคม และอีกส่วนหนึ่งคือรถที่นำมาปรับปรุงใหม่ เพื่อให้สามารถจัดขบวนรถได้หลากหลาย และที่สำคัญคือ รถทุกแบบควรจะยังคงมีความยืดหยุ่นในการพ่วงรวมกันได้ หากมีรถชำรุด หรือใช้รถทดแทนกันในบางกรณี (ตรงนี้คิดว่าไม่น่าเป็นปัญหาเพราะเป็นรถในซีรี่ย์เดียวกันอยู่แล้ว)
แต่นั่นถ้าจะทำขึ้นมาจริงๆก็หมายถึงการที่ต้องมีการพิจารณาทบทวนถึงจำนวนรถที่มีอยู่ และรถที่จะนำไปดัดแปลงใหม่ในแต่ละประเภท ว่าควรจะมีรถประเภทใด อย่างละเท่าไหร่ (ยกตัวอย่าง THN,NKF แบบธรรมดาอาจจะสัก 50% ของรถรุ่นนี้ที่มีอยู่ , ส่วนแบบชั้น 3 ปรับอากาศ และ ชั้น 2 ปรับอากาศก็แบ่งกันไปตามความเหมาะสม) จัดรถชนิดใดให้กับขบวนใดบ้าง ให้สอดคล้องกับความต้องการในการใช้บริการจริงให้มากที่สุด รวมไปถึงการจัดการระบบการหมุนเวียนรถ
ตรงนี้ผมก็ว่าทุกอย่างเป็นเรื่องของการบริหารจัดการล้วนๆจริงๆ ที่ต้องบอกตามตรงว่า เรายังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร อาจจะด้วยเรื่องของความไม่เสถียรภาพในทิศทางการบริหารหรือปัจจัยอื่นๆทั้งภายในและภายนอกก็เป็นไปได้ทั้งนั้นครับ |
|
Back to top |
|
|
donatt76
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 28/12/2011 11:05 am Post subject: |
|
|
อย่างที่บอกครับ ถ้าจะยกระดับการบริการ ก็ควรทำในรถด่วนและรถเร็ว เท่านั้น....ส่วนรถธรรมดา รถท้องถิ่น รถชานเมือง ก็เป็นแบบมีทั้งรถธรรมดาปรับตามสภาพอากาศข้างนอก และรถปรับอากาศจริงๆ ไว้เป็นตัวเลือกของผู้โดยสาร
เพราะผมเชื่อว่า ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ยังไม่พร้อมที่จะควักกระเป๋าจ่ายค่ารถปรับอากาศแน่นอน (คนที่พร้อมอาจจะ มีเพียง 20% เท่านั้น) _________________
|
|
Back to top |
|
|
|