View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 13/03/2012 12:00 am Post subject: |
|
|
เมืองไหย : เป็นเมืองแสนหวีใต้ ชาวมรันมาเรียกว่า โมแหย่
สี่ป้อ : เป็นเมืองหลวงของไตที่แข็งแรงที่สุดในภาคตะวันตก สมัยก่อนเรียกว่า "เวียงสี่ป๊อก" เพราะเวียงมีสี่ตำบล ต่อมาเลยเรียกเป็น สี่ป้อ
ยองห้วย : เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมห้วยตัดถนนเป็นยอง ๆ หรือเป็นล็อกๆ จึงเรียกว่า ยองห้วย ชาวมรันมาเรียกว่าหญ่องโฉ่ย
โหป่าง : เป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่ง อยู่ทางทิศใต้ของเมืองก๋อง ชาวมรันมาเรียกว่า โห่ปิ่น
โหปง : ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของ เมืองตันคี (ต่องกี) ชาวมรันมาเรียกว่า โห่ปง
น้ำม้า : ตั้งอยู่ใกล้ เมืองยาง (โมญิน) ชาวมรันมาเรียกว่า นะบา
น้ำกิ๋ว : คือ น้ำเอราวดี
เมืองขอน : ตั้งอยู่เหนือเมืองก๋อง ชาวมรันมาเรียกว่า ไมข่วน
ปูต้าว : หรือเมืองชาวไตคำตีหลวง ตั้งอยู่ตอนบนของแม่น้ำเอราวดี ชาวมรันมาเรียกว่า ปู่ต่าโอ่
ส่างหลิ่งคำตี : เป็นเมืองชาวไตคำตีน้อย ชาวมรันมาเรียกว่า สิ่งกะหลิ่งตานตี
สองสบ : เป็นเมืองหลวงของไตคำตี ชาวมรันมาเรียกว่า ต่องตู๊ด
ก๋าลือ : ชาวมรันมาเรียกว่า กะเล
เมืองเสือโป่ : เป็นเมืองที่ขุนศึกเมืองยางมาครอง ชาวมรันมาเรียกว่า ฉ่วยโป่ฝรั่งเรียกว่า มอตไซโป
ป๋างยะ : เมืองเจ้าฟ้าจากเมืองยางสร้างไว้ ชาวมรันมาเรียกว่า ปินยะ
อ้ายวะ : เป็นเมืองที่เจ้าฟ้าไตสร้าง ชาวมรันมาเรียกว่า อีนวะ ฝรั่งเรียกว่า อะวะ
ปูก่ำ : เป็นเมืองที่เจ้าฟ้าไตสร้างไว้ ชาวมรันมาเรียกว่า ปะก่าน
ศึกไก๋ : เป็นเมืองเจ้าฟ้าไตจากเมืองยางมาสร้าง ชาวมรันมาเรียกว่า สะไกหรือ สะแกง
ตันตี : เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรไตปัจจุบัน ชาวมรันมาเรียกว่า ต่องยี
ลายคำ : เป็นเมืองเจ้าฟ้าอยู่เหนือเวียงป๋างโหลง สถานที่ให้กำเนิดสนธิสัญญาอยู่ร่วมกับพม่า 10 ปี แล้วแยกเป็นเอกราชได้ ชาวมรันมาเรียกว่า แลขา
ตอดต๋าป่อง : เป็นตำราพยากรณ์ไตสมัยเก่า ชาวมรันมาเรียกว่า ตู๊ดตาป่อง |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 13/03/2012 12:09 am Post subject: |
|
|
ไตหนองเขียว : คือชาวไตที่อยู่เมืองหนองเขียว ที่ลงมาครอบครองดินแดนของชาวพยู ชาวมรันมาเรียกว่า หนันโฉ่ขาน
บ้านต้าเหล่อ : เป็นท่าข้ามน้ำเอราวดีไปยังเมืองศึกไก๋ ชาวมรันมาเรียกว่าเมืองมัณฑะเล คือ บ้านท่าเดื่อ นั่นเอง
ลักปั๋นตาง : เป็นเมืองที่กองทัพไตลงไปขับไล่พม่า มีหลักนำทางไปกลับ ที่นี่ชาวมรันมาเรียกว่า แล๊ตปะตาน
ป๋างหมากนะ : เป็นเมืองของไต ชาวมรันมาเรียกว่า ปีนมะนา
ลองป่าง : เป็นโอรสของเจ้าเมืองตุ๋ง (มังคุงมินตง) ชาวมรันมาเรียกว่า ลินปีน ฝรั่งเรียกว่า ลิมปิน
เสือหงานฟ้า : หรือ เสือหาญฟ้า ชาวมรันมาเรียกว่า โตหง่านมวา
เวียงเจ้าแส : เป็นเมืองที่เจ้าฟ้าหนองแส หรือหนองเขียวมาก่อสร้างยึดครอง แต่ชาวมรันมาเรียกว่า จ๊อกแส่
เมืองปาย : เป็นเมืองหลวงของชาวปิวหรือพยู ชาวปิวเรียกว่า สเรเขตครา ชาวมรันมาเรียกว่า ปรี แต่อ่านว่า ปะยี และเมืองปายของไตภาคใต้ ชาวมรันมาเขียนว่า แบร แต่อ่านว่า ปะแย
บ้านหม้อ : เป็นเมืองของไต อยู่เหนือเมืองมีด ชาวมรันมาเรียกว่า บะหม่อ ฝรั่งเรียกว่า บะโม
อูจีฟ้า : เจ้าฟ้าเมืองหนองเขียว (หนองแส) ชาวมรันมาเรียกว่า อูติบวา
เจ้ามอนหล้า : ราชธิดาของกษัตริย์เมืองมาวหลวง ชาวมรันมาเรียกว่า ซอหมุ่นละ
เจ้าอสังขัย : เจ้าแผ่นดินไต ซึ่งครอง เมืองปูก่ำ (PUKAM) เมืองจาย (KYAUKSE) ซึ่งอยู่ใต้ เมืองต้าแส (MYIN SIANG)
Last edited by black_express on 13/03/2012 12:33 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 13/03/2012 12:14 am Post subject: |
|
|
เจ้าราชสังคราม : เจ้าฟ้าไต ผู้ที่ครองเมืองมิตกิลา ลุ่มแม่น้ำกิ๋ว (เอราวดี)
เจ้าสีหะสูร์ : เจ้าฟ้าไตครองนครป๋างเหล่อ (PINLE) แล้วทรงสร้างนครศึกไก๋ (สะแกง)
เจ้าอูชนะ : ชาวมรันมาเรียกว่า อูชะนา
เจ้าสังฆะโป่ : เจ้าฟ้าไตผู้ครองนครเมืองจาย สืบจากเจ้าอสังขัย
เจ้านิต : โอรสเจ้าจ่อสว่า ได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินเมืองปูก่ำ ในปี ค.ศ.1841 (พ.ศ.2384) เจ้าฟ้าไต 3 พี่น้อง สร้างเมืองป๋างยะในระยะนี้ด้วย
เจ้าสูร์ : เจ้าฟ้าไตครองเมืองป๋างยะ
เจ้าโตเมืองพญา : โอรสของเจ้าฟ้าเมืองศึกไก๋ ได้บูรณะซ่อมแซมสถาปนาเมืองอ้ายวะขึ้นใหม่ แล้วขึ้นครองราชย์ พระองค์เป็นสายโลหิตของกษัตริย์ไตจาก เมืองต้าก๋อง ( TAGAUNG ) หรือ เกงหง
เจ้าก่าย : โอรสของเจ้าขุนซอ (มินฉิ่นซอ) ได้ครองเมืองอ้ายวะในเวลาต่อมา
มาวหลวง : ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมาว (สวลี) ฝรั่งเขียนว่า MAWKE หรือ MAWDON แปลว่ามาวหลวง ชื่อของคำ
เจ้าสายจ่อสว่า : โอรสของเจ้าฟ้าเมืองก๋อง (มังฆ้อง) , มารดาเป็นเจ้านางเมืองมาวหลวง พระองค์ทรงเป็นแม่ทัพป้องกันข้าศึกมอญ ที่มาโจมตีเมืองอ้ายวะ
เมืองป่อง : คือเมืองสี่ป้อ ชาวมรันมาเรียกว่า องบ่อง
เจ้าฟ้า : คือผู้ปกครองหัวเมืองในอาณาจักรไต ชาวมรันมาเรียกว่า ซอบวา
................................. |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44820
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 13/03/2012 9:46 am Post subject: |
|
|
ติดตามอ่านอยู่ครับพี่ตึ๋ง ขอบคุณมากครับที่สละเวลาค้นคว้านำมาให้อ่านเป็นความรู้อย่างยิ่ง
Quote: | พม่าเขียนเรียกตัวเองว่า " มรันมา " แต่อ่านออกเสียงว่า " เหมียนหม่า " |
ประโยคนี้แหละครับ ช่วยไขปริศนาเรื่องภาษาพม่าให้ผมได้แล้วครับ
ที่ข้างรถจักรของพม่าทุกคัน จะมีโลโก้การรถไฟพม่า (MR = Myanmar Railways) อยู่ครับ
ส่วนอักษรพม่านั้น ผมเคยถอดรหัสได้แล้ว ว่าเป็นตัวอักษร ม ม้า พม่า 2 ตัว ย่อมาจาก เมียนม่า มียะทา แปลว่า การรถไฟพม่าครับ
สังเกตว่าระบบการเขียนและรูปแบบตัวอักษรของพม่า คล้าย ๆ กับไทยอยู่พอสมควรครับ โดยเฉพาะ สระ อา เหมือนมาก ตัว ม ม้า ก็คล้าย ๆ
สระ อี ก็เขียนข้างบนเหมือนกัน
ด้วยความสงสัยว่า มียะทา แปลว่า รถไฟ ได้อย่างไร มีรากศัพท์มาอย่างไร ก็เลยไปเปิดดิกชันนารีดูครับ
ก็พบว่า "มี" แปลว่า "ไฟ" ดูคำอื่น ๆ ที่ขึ้นต้นด้วย "มี" ก็เกี่ยวข้องกับ ไฟ แทบทั้งหมดครับ
คำว่า "มี" น่าจะเป็นคำพม่าแท้ เช่นเดียวกับคำว่า ไฟ ที่เป็นคำไทยแท้ (บังเอิญคล้ายกับคำว่า fire ในภาษาอังกฤษ)
แล้วคำว่า "ยะทา" ที่ควรจะแปลว่า รถ นั้นมีที่มาอย่างไร
ผมสงสัยมานานแล้วครับ แต่ยังไม่ได้ลงมือค้นคว้าหาคำตอบ
จนมาอ่านที่พี่ตึ๋งบอกว่า มรันมา คือ เมียนมา
ถ้าอย่างนั้นแสดงว่า คนพม่า ไม่ชอบออกเสียง ร เรือ ลิ้นไม่รัวเหมือนคนกัมพูชาหรือคนแขก
เปิดดิกชันนารีดูอีกที ก็พบว่า ไม่มีอักษร ร เรือ ในภาษาพม่า มีแต่ ล ลิง และใช้อักษร ย ยักษ์ แทนเสียง ร เรือ ที่มาจากภาษาต่างประเทศ
อย่างนี้นี่เอง ที่ Rakhine กลายเป็น ยะไข่
Rangoon ที่อังกฤษใช้เรียกเมืองหลวงเก่าของพม่า ก็คือ ย่างกุ้ง (บ้านเราก็เคยเรียก ร่างกุ้งตามฝรั่ง) คงเป็นเพราะฝรั่งฟังเสียง ย ยักษ์ แปลก ๆ ไม่ชัด นึกว่าเสียง r
ยะทา ก็มาจาก ระทา ซึ่งตรงกับภาษาบาลีว่า ratha แปลว่า รถ นั่นเอง
ภาษาเขมร ก็เรียกรถไฟ ว่า ระแทะเพลิง หรือ รถเพลิง เพลิงแปลว่าไฟ
ส่วนคนมาเลย์ ก็เรียกรถไฟว่า Keretapi โดยที่ kereta แปลว่า รถ api แปลว่า ไฟ
คนจีนเรียกรถไฟว่า 火車 คำหน้าแทนกองไฟ ที่มีเปลวไฟกำลังลุกโชน คำหลังเป็นรูปรถกับล้อ (ต้องใช้จินตนาการประกอบนะครับ)
ผมได้ข้อสรุปแล้วครับว่า คนเอเชีย เรียก train (railway) ว่า รถไฟ
แต่แปลกอยู่หน่อยตรงที่ พม่า เอาคำว่า ไฟ ไว้หน้าคำว่า รถ
แสดงว่าได้รับอิทธิพลมาจากภาษาบาลีพอสมควรครับ
รอเรียนภาษาไทใหญ่ต่อครับพี่ตึ๋ง |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 13/03/2012 10:10 am Post subject: |
|
|
ที่ลงโพสต์นั้น ก็เท่าที่ผมมีอยู่ครับ อ.หม่อง
เป็นที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งตรงที่ ตัวอักษรพม่านั้นยืมจากชาวมอญ และตัวอักษรมอญก็เป็นรากเหง้าของตัวอักษรไทยพื้นเมือง เช่นตัวอักษรไทยน้อย หรืออักษรคำเมืองในถิ่นล้านนา ขึ้นไปทางเหนือจนจดชายแดนประเทศจีน หลายๆ ตัวจะคล้ายคลึงกันมาก เช่น ตัว ม.ม้า ในอักษรพม่า มอญ หรืออักษรล้านนา จะเขียนเหมือนกันหมด จึงทำให้แกะรอยได้ไม่ยากนัก (แต่อ่านออกเสียงแตกต่างกันไปนะครับ)
เสียดายที่ผมยังไม่เอาดีทางด้านตัวอักษรล้านนา ไม่เช่นนั้นคงแกะตัวอักษรภาษามอญหรือพม่า ได้ไม่น้อยเลยครับ
.......................
ปล. ชาวพม่านั้นถือว่าเป็นผู้รุกรานจากทางเหนือ วัฒนธรรมและภาษายังต้องขอยืมจากชาวมอญ ดังนั้นชนเผ่าต่างๆ ในแผ่นดินเดิมจึงตั้งข้อรังเกียจในการวางอำนาจเหนือชนเผ่าต่างๆ ของพม่าในทุกวันนี้ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44820
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 13/03/2012 11:40 am Post subject: |
|
|
เวลาผมแกะชื่อสถานที่ แม่น้ำ เมืองต่าง ๆ ในรัฐฉาน จะได้เอามาเปรียบเทียบกับที่พี่ตึ๋งโพสต์ไว้
ลองไปเปิดดูแผนที่ที่ซื้อมาจากพม่า ชื่อเมืองนาย (Mong Nai) ก็เขียนว่า ตรงกับที่พี่ตึ๋งบอกว่า โมแน เลยครับ
http://i284.photobucket.com/albums/ll8/Mongwin/langhko.jpg
ผมเองยังไม่เคยมีโอกาสไปถึงรัฐฉานเลยครับ แม้แต่จังหวัดเชียงราย แม่สาย ท่าขี้เหล็กก็ยัง ถ้าไปเที่ยวเชียงตุงกับทัวร์ ก็คงไม่มีโอกาสได้เห็นสถานีรถไฟเชียงตุงอีกอยู่ดี (เหมือนทัวร์สุพรรณบุรี แต่ไม่ได้ไปสถานีรถไฟสุพรรณบุรีอย่างนั้นแหละครับ)
ผมสังเกตว่า ชื่อหมู่บ้านต่าง ๆ ในรัฐฉาน ภาษาพม่าใน Google Earth จะเขียนว่า Wan แล้วตามด้วยชื่อหมู่บ้านครับ สงสัยจังว่า Wan จะแปลว่า บ้าน จริงหรือไม่ คล้าย ๆ กับ Mong หมายถึง เมือง
คำว่า Wan ที่ว่านี้ อาจจะตรงกับ Wen ในชื่อสถานี Wenkaung ที่เป็นปลายสายของทางรถไฟช่วงแรกที่เปิดเดินรถในข่าวก็ได้ครับ (ที่เป็นภาพชาวพื้นเมืองนั่งรถดีเซลราง) ผมหาชื่อ Wenkaung ในแผนที่ไม่เจอ เจอแต่ที่ใกล้เคียงสุดคือ Wan Kong ครับ เดาว่าน่าจะใช่แต่ไม่แน่ใจครับ
พยายามนึกคำไทยที่ใกล้เคียงกับ Wan และ Wen ก็นึกไม่ออกครับ ใช่ เวียง หรือไม่หรือว่าเป็น แว่น ในคำว่า แว่นแคว้น |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 13/03/2012 12:36 pm Post subject: |
|
|
ความเห็นจาก อ.หม่องนั้น ดีมากๆ ครับ ทำให้ผมคิดอะไรมิต่ออะไรได้อีกหลายอย่าง
อาจเป็นว่า ทางผมคุ้นเคยกับภาษา "คำเมือง" เลยเข้าใจภาษาไตที่แตกต่างไปเล็กๆ น้อยๆ ได้ไม่ลำบากนัก
สำหรับคำว่า Wan นั้น คำเมืองเก่าๆ มักจะเรียกว่า แว่น แคว่น หรือ เวียง ตามที่ อ.หม่องคาดเดาครับ แต่สำเนียงพม่าค่อนข้างจะลิ้นพันกันไปหน่อย
ตัวอย่างเมือง ท่าขี้เหล็ก ภาษาอังกฤษจะสะกดตามสำเนียงพม่าว่า Thachilek ถ้าเป็นเมืองไทย หากเขียนว่า Tha khi lek จะคุ้นเคยกว่า ใช่ไหมครับ ? |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44820
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 13/03/2012 7:34 pm Post subject: |
|
|
ขอบคุณอีกครั้งครับพี่ตึ๋ง
ผมก็นึกไปหลายคำมาก ทั้ง เวียง แว่นแคว้น (วงศ์วาน)ว่านเครือ
ดูแล้วคำว่า เวียง น่าจะใกล้เคียงที่สุด (บังเอิญนึกถึงรถรอบเวียง ที่ลำปางครับ)
แม้จะรู้สึกว่า เวียง ดูจะเป็นเมืองใหญ่ ๆ มีกำแพงล้อมรอบ
มากกว่าจะเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ น่ะครับ
พยายามเปิดค้นในดิกชันนารีภาษาพม่าแล้ว ก็ไม่พบคำว่า Wan หรือ Wen แต่อย่างใด
ถามนิสิตชาวเหนือแถว ๆ นี้ ก็เป็นเด็กรุ่นใหม่ รู้จักแต่คำว่า เวิ่นเว้อ น่ะครับ
ย กับ ร นี่ ผมนึกออกอีกคำครับ Ayeyarwady กับ อิระวดี
ท่าขี้เหล็ก นี่มีอะไรเกี่ยวกับต้นขี้เหล็กไหมครับ หรือว่าชาวบ้านคนไทยสร้างคำขึ้นมาให้จำง่ายเรียกง่ายเฉย ๆ แบบเดียวกับ เกาะสอง (Kawthaung) ที่ไม่ได้เป็นเกาะที่สองแต่อย่างใด |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 13/03/2012 8:09 pm Post subject: |
|
|
ท่าขี้เหล็ก คงมาจากสมัยดั้งเดิมตรงท่าน้ำแม่สาย ฝั่งพม่า อาจมีต้นขี้เหล็กให้ร่มเงาแก่ผู้คนรอลงเรือข้ามฟากก็ได้ เอ...ผมท่าจะลากเรื่องไปเรื่อยเปื่อยแล้วกระมัง ?
แต่ที่แน่ๆ ก่อนที่จะมีสะพานมิตรภาพข้ามน้ำแม่สายดังที่เราเห็นทุกวันนี้ ช่วงปี 2498 ตรงบริเวณสะพานยังเป็นท่าน้ำอยู่เลยครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44820
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 13/03/2012 8:43 pm Post subject: |
|
|
สมัยนั้นข้ามไปมา คงไม่ต้องใช้พาสปอร์ตหรือวีซ่าให้ยุ่งยากนะครับ
(แต่เคยอ่านหนังสือเรื่อง ถกเขมร ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ทำให้ทราบว่า ปี 2496 การเดินทางไปเที่ยวกัมพูชา ยุ่งยากมากในขั้นตอนของหนังสือราชการครับ)
ผมหาคำแปลของคำว่า Wan เจอแล้วครับ มีแถมคำอื่น ๆ มาด้วย หากพี่ตึ๋งทราบว่าคำไหนตรงกับภาษาไทใหญ่หรือภาษาเหนือบ้าง ก็ช่วยขยายความด้วยนะครับ
แม้อาจจะออกนอกประเด็นข่าวรถไฟพม่าไป แต่จะเป็นประโยชน์ในการติดตามข่าวสารรถไฟพม่าในโอกาสต่อ ๆ ไปอย่างยิ่งครับ เพราะพม่ากำลังขยายเส้นทางรถไฟมายังรัฐฉาน ใกล้ชายแดนไทยเข้าไปทุกขณะครับ
อยู่ด้านหลังของแผนที่เชียงตุง ปี 1959 ครับ (ชุด U542 Edition 1-AMS ระวาง NF-47-11)
อันนี้ด้านหน้า http://www.lib.utexas.edu/maps/ams/burma/txu-oclc-6924198-nf47-11.jpg
สิ่งที่ต้องการอยู่ด้านหลังนี่แหละครับ
http://www.lib.utexas.edu/maps/ams/burma/txu-oclc-6924198-nf47-11a.jpg
|
|
Back to top |
|
|
|