View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44955
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 20/10/2012 7:29 pm Post subject:
รฟท.ยืนยันมีการปรับปรุงหอเกียรติภูมิรถไฟให้เป็นพิพิธภัณฑ์รถไฟ
สำนักข่าวไทย วันเสาร์ ที่ 20 ต.ค. 2555
กรุงเทพ 20 ต.ค.-นายสุรัตน์ ดับใหม่ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวถึงกรณีที่นายจุลศิริ วิรยศิริ ลูกชายนายสรรพศิริ วิรยศิริ ผู้ดูแลหอเกียรติภูมิรถไฟ จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมหอเกียรติภูมิรถไฟเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 23 ต.ค.นี้ จากนั้นจะเคลื่อนย้ายสิ่งของออกทันทีเนื่องจากเห็นว่า รฟท.ยังไม่มีการดำเนินการสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์รถไฟหลังจากได้มอบให้ตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงแต่หากจะมีการเคลื่อนย้ายสิ่งของตนต้องไปหารือกับนายจุลศิริอย่างแน่นอนเพราะการตกลงรับมอบอย่างเป็นทางการนั้นจะมีขึ้นในเดือน ธ.ค.นี้ อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ช่วงที่ผ่านมา รฟท.ได้ดำเนินการปรับปรุงหอเกียรติภูมิรถไฟ เช่น ติดตั้งมิเตอร์น้ำประปาและไฟฟ้ารวมถึงอยู่ระหว่างการก่อสร้างห้องสุขา เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการรับมอบอย่างเป็นทางการและหลังจากการรับมอบก็จะนำหนังสือจากห้องสมุดรถไฟและส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลตั้งแต่ช่วงเวลา 07.30-17.30 น. เพื่อให้หอเกียรติภูมิเป็นพิพิธภัณฑ์รถไฟขนาดเล็กที่ประกอบด้วยหัวรถจักรและโบกี้เพียงบางส่วนก่อนการสร้างพิพิธภัณฑ์รถไฟขนาดใหญ่อีกแห่งที่หัวลำโพง.-สำนักข่าวไทย
Back to top
black_express
1st Class Pass (Air) Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
Posted: 20/10/2012 8:50 pm Post subject:
มีอยู่หลายสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องรถไฟฯ เช่น เครื่องบิน รถราง ฯลฯ สำนักข่าวน่าจะไต่ถามให้ชัดๆ ก่อนก่อนที่จะออกข่าวไปจริงๆ
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44955
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 22/10/2012 2:21 pm Post subject:
หอเกียรติภูมิรถไฟจะเปิดเป็นวันสุดท้าย 23 ต.ค.นี้
สำนักข่าวไทย วันจันทร์ ที่ 22 ต.ค. 2555
จตุจักร 22 ต.ค.-นายจุลศิริ วิรยศิริ ผู้อำนวยการหอเกียรติภูมิรถไฟ เดินทางมาที่หอเกียรติภูมิรถไฟ ถนนกำแพงเพชร 1 ในบริเวณสวนจตุจักร เพื่อจัดเตรียมสถานที่เตรียมเปิดให้ประชาชนเข้าชมในวันพรุ่งนี้ เนื่องในวันปิยมหาราช พระราชบิดาแห่งการรถไฟไทย หลังปิดบริการไปกว่า 5 เดือน และจะเป็นวันสุดท้ายที่หอเกียรติภูมิรถไฟเปิดอย่างเป็นทางการ เนื่องจากอยู่ระหว่างที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขอคืนอาคารเพื่อนำไปจัดสร้างพิพิธภัณฑ์รถไฟ โดยมีสิ่งจัดแสดงที่น่าสนใจ อาทิ หัวรถจักรไอน้ำ หัวรถจักรดีเซล และตู้รถไฟพยาบาลไม้สักทองทั้งหลังของไทย 2 ตู้สุดท้ายในโลก
นายจุลศิริกล่าวว่า เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รฟท.ได้แจ้งขออาคารคืนเพื่อนำไปเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์รถไฟ จึงมอบกุญแจให้ หอเกียรติภูมิรถไฟจึงปิดตายมาตั้งแต่เวลานั้น โดยไม่มีการดูแลทำความสะอาด ส่วนการกลับมาเปิดอีกครั้ง เพื่อทำบุญเลี้ยงพระในวันปิยมหาราชเป็นครั้งสุดท้าย ถือเป็นวันครบรอบ 23 ปีการเปิดหอ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2532 และจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เปิดทำการ ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่มีอำนาจของ รฟท.เข้ามาเจรจาและดูแลเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์รถไฟอย่างจริงจัง ขณะที่ชมรมจะเริ่มทยอยนำสิ่งของที่เป็นทรัพย์สินของชมรมออกจากหอฯ ไปจัดแสดงที่อื่นต่อไป .-สำนักข่าวไทย
เผยแพร่เมื่อ 21 ต.ค. 2012 โดย yoware
Back to top
alderwood
1st Class Pass (Air) Joined: 10/04/2006 Posts: 6593
Location: กรุงเทพ-ราชสีมา
Posted: 22/10/2012 2:46 pm Post subject:
แว๊บๆว่า ที่ปากช่องมีรถจักรไอน้ำคันนึง เหมือนเคยเห็นในรูปว่าเคยอยู่ที่หอเกียรติภูมิฯ แต่อย่างว่า รถจักรไอน้ำคันนั้นไม่ใช่ทรัพย์สินของการรถไฟ และไม่เคยนำออกมาใช้งานด้วยครับ _________________ รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter
Back to top
suraphat
1st Class Pass (Air) Joined: 12/02/2007 Posts: 1117
Location: ดินแดง ห้วยขวาง
Posted: 22/10/2012 3:30 pm Post subject:
อย่างไรเสีย วันพรุ่งนี้ก็ขอเรียนเชิญให้มาทำข่าวในเรื่องของการส่งมอบพื้นที่คืนให้กับการรถไฟ และเป็นวันสุดท้ายที่หอเกียรติภูมิแห่งนี้จะเปิดให้บริการนะครับ
จากนั้นก็จะส่งมอบพื้นที่ให้กับทางกรุงเทพมหานครได้ดูแลกันต่อไปนะครับ
เอเอาคืนได้เสียทีโดยเฉพาะกับรถพยาบาลไม้สัก ที่เอามาติดตั้งกัน ณ ที่นี้ เมื่อวันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2542 นะครับ
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44955
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42796
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44955
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 23/10/2012 4:38 pm Post subject:
การรถไฟฯ ไม่มีบุคลากรที่มีความรู้-ความสามารถด้านงานพิพิธภัณฑ์-จดหมายเหตุเลยแม้แต่คนเดียวครับ และไม่ปรากฏว่ามีการของบประมาณแผ่นดินมาดำเนินการแต่อย่างใด
ที่เห็นผลงานอยู่บ้างอย่างที่กันตัง อันนั้นผู้ที่ทำทำด้วยใจรักมากกว่าครับ
เขียนรายงานประจำปี 2550-2554 ให้สำเร็จก่อน แล้วค่อยคิดทำพิพิธภัณฑ์ครับ
Back to top
alderwood
1st Class Pass (Air) Joined: 10/04/2006 Posts: 6593
Location: กรุงเทพ-ราชสีมา
Posted: 23/10/2012 5:32 pm Post subject:
ปิดฉาก "หอเกียรติภูมิรถไฟไทย" หลังเปิดมานาน 23 ปี
วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 14:45:22 น.
วันที่ 23 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจุลศิริ วิรยศิริ ผู้อำนวยการหอเกียรติภูมิรถไฟไทย ร่วมกับเครือข่ายและประชาชน ได้ประกอบพิธีทำบุญเลี้ยงพระเนื่องในวันปิยมหาราช และเป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้เข้าชมหอเกียรติคุณรถไฟไทย ซึ่งหลังจากนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะขอคืนอาคารเพื่อนำไปจัดสร้างพิพิธภัณฑ์รถไฟ
ทั้งนี้ หอเกียรติภูมิรถไฟไทย เป็นสถานที่รวบรวมและให้ความรู้เกี่ยวกับการรถไฟ มีการจัดแสดงรถจักรไอน้ำ รถจักรจำลอง ขบวนรถไฟเล็กขนาดต่างๆ ภาพถ่ายและภาพเขียนเกี่ยวกับเกียรติภูมิของการรถไฟโลกรวมทั้งสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ อีกมากมาย
อย่างไรก็ตาม หอเกียรติภูมิรถไฟไทย เปิดทำการมาแล้ว 23 ปี หรือตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2533 โดยในวันพรุ่งนี้จะเคลื่อนย้ายสิ่งของที่เป็นทรัพย์สินของชมรมออกไปก่อน จากนั้น จะเริ่มขนย้ายหัวรถจักรที่มีอยู่ 13 หัว ไปยังจ.นครราชสีมา
ที่มา: มติชน _________________ รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44955
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 24/10/2012 11:26 am Post subject:
คอลัมน์: บทความพิเศษ: 116 ปี รถไฟไทย ยังไปไม่ถึงไหน อดีตไม่รักษา อนาคตย่อมมืดมน
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- พุธที่ 24 ตุลาคม 2555 00:00:05 น.
รสนา โตสิตระกูล
สมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร
เมื่อวันที่22 ตุลาคม 2555 ดิฉันได้ใช้เวลาที่ประธานวุฒิสภาให้โอกาสสมาชิกวุฒิสภาปรึกษาหารือเรื่องด่วนต่างๆไปถึงรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐได้คนละ 2 นาที ก่อนเข้าสู่วาระประชุมตามปกติ ดิฉันได้หารือโดยฝากความถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และผู้ว่าฯ การรถไฟ เกี่ยวกับเรื่องที่การรถไฟสั่งให้ยุติ"พิพิธภัณฑ์รถไฟ" ที่สวนจตุจักร ในวันปิยมหาราช 23 ตุลาคม 2555 ซึ่งเป็นวันของพระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ 5 ผู้เป็นบิดาที่ให้กำเนิดรถไฟไทย เป็นเรื่องที่ดิฉันฝากความไปถึงรัฐมนตรีและผู้ว่าฯ การรถไฟให้พิจารณาทบทวน
การรถไฟเคยให้พื้นที่เปล่าในสวนจตุจักรกับชมรมเรารักรถไฟ ทำเป็น "หอเกียรติภูมิรถไฟ" หรือ "พิพิธภัณฑ์รถไฟ" มาตั้งแต่ปี 2533 ผู้ก่อตั้งชมรมเรารักรถไฟ และหอเกียรติภูมิรถไฟ คือ คุณสรรพสิริ วิรยศิริ อดีตผู้อำนวยการ บริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด หรือช่อง 4 บางขุนพรหม ซึ่งปัจจุบันคือ อสมท คุณสรรพสิริเป็นบุตรชายคนเล็กของ พระยามหาอมาตยาธิบดี (เส็ง วิรยศิริ) อดีตราชเลขาธิการในพระองค์รัชกาลที่ 5 และเป็นปลัดทูลฉลอง กระทรวงมหาดไทย ปัจจุบันลุงตุ้ย หรือ "จุลสิริ วิรยศิริ" บุตรชายของคุณสรรพสิริ เป็นผู้รับช่วงดูแลหอเกียรติภูมิรถไฟ
หลังจากคุณพ่อป่วยเมื่อหลายปีก่อนลุงตุ้ยเล่าให้ฟังถึงคุณปู่ ว่าท่านเล่าถึงสิ่งที่พระพุทธเจ้าหลวงมีรับสั่งให้ปู่หาที่ดินที่มีพื้นที่กว้างขวางเพื่อเป็นสถานีต้นทางของรถไฟ ซึ่งปู่หาที่ได้ที่บางซื่อเพราะสถานีหัวลำโพงมีพื้นที่คับแคบ พระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ 5 มีพระประสงค์ให้ทำเป็นมิวเซียมเกี่ยวกับรถไฟ นี่เป็นสิ่งที่ปู่ของลุงตุ้ยได้เล่าต่อมาผ่านคุณพ่อสรรพสิริ นี่อาจเป็นแรงบันดาลใจให้คุณสรรพสิริปรารถนาจะสืบสานเจตนารมณ์ในการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์รถไฟและตกทอดมาถึงลูกชายคือคุณจุลสิริ
สิ่งที่ได้รับทราบจากลุงตุ้ย ว่าสาเหตุที่การรถไฟสั่งให้ออกภายในวันที่ 23 ตุลาคม 2555 ก็อ้างว่าเพราะลุงตุ้ยทำผิดสัญญาที่ไปใช้พื้นที่ในเชิงพาณิชย์ และการรถไฟอ้างว่าจะมาบริหารพิพิธภัณฑ์เอง ดิฉันทราบจากลุงตุ้ย เรื่องหารายได้นั้นก็มีเพียงการขายน้ำดื่มให้กับผู้มาชมหอเกียรติภูมิเท่านั้นการดูแลพิพิธภัณฑ์รถไฟนั้น ลุงตุ้ยได้เงินจากการรับบริจาค โดยเฉลี่ยวันละ 200 บาท จึงยากที่จะดูแลให้พิพิธภัณฑ์มีความสมบูรณ์ได้
ถ้าการให้ออกจากพื้นที่นั้นด้วยเหตุผลการหารายได้ด้วยการขายน้ำ น่าจะเป็นข้ออ้างที่ไม่สมเหตุสมผล ที่จริงแล้วการรถไฟควรมีงบประมาณสำหรับการดูแลพิพิธภัณฑ์รถไฟ และควรเก็บรวบรวมโบกี้เก่าแก่ที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 คุณจุลสิริกล่าวว่า ก่อนที่เขาจะเข้ามาดูแลต่อจากพ่อ มีรถไฟเก่าแก่ที่จอดแสดง 30 คัน แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 2 คัน แม้แต่รถไฟที่สมเด็จพระเทพฯ ทรงประทับเมื่อพระชนมายุ9 พรรษา ปัจจุบันก็อันตรธานหายไป สมเด็จพระเทพฯ ทรงเคยรับสั่งถามหา ก็ไม่มีใครตอบได้
การปล่อยให้พิพิธภัณฑ์รถไฟเป็นภาระกับเอกชนในการดูแล และเป็นไปอย่างอนาถา เป็นสิ่งสมควรแล้วหรือ นอกจากการรถไฟจะไม่สนับสนุนทุนแล้ว ยังไม่ให้หารายได้มาบำรุงรักษาพิพิธภัณฑ์อีกด้วย จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ผู้บริหารไทยไม่เห็นความสำคัญของพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์ในประเทศไทยจึงไม่พัฒนา ผิดกับพิพิธภัณฑ์ในต่างประเทศ คนไทยคิดว่าพิพิธภัณฑ์เป็นเรื่องอดีตที่จริงแล้วการรู้จักอดีตของตนเองอย่างหยั่งลึก จะทำให้เราก้าวไปสู่อนาคตได้อย่างมั่นคง เปรียบเหมือนต้นไม้ใหญ่ รากยิ่งหยั่งลึกเท่าไหร่ กิ่งก้านสาขาจะยิ่งแผ่สูงและกว้างใหญ่เท่านั้น
พระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงมีสายพระเนตรกว้างไกล พระองค์ท่านทรงนำวิทยาการรถไฟมาสู่ประเทศไทยจากตะวันตกเป็นประเทศแรกในภูมิภาคแถบนี้ ประเทศอื่นต้องมาดูงานรถไฟไทยแต่บัดนี้คนอื่นก้าวล้ำหน้าเราไปหมดแล้ว แม้แต่ญี่ปุ่นก็มีรถไฟหลังไทย แต่บัดนี้ญี่ปุ่นมีรถไฟความเร็วสูง แต่ประเทศไทย รถไฟไทยก็ยัง ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง...
การที่เราไปไม่ถึงไหน เพราะไม่รู้จักรากเหง้าของตนเอง การไม่ศึกษา ไม่รักษาอดีตตัวเอง ย่อมทำให้ปัจจุบันสับสน และอนาคตก็มืดมน
ทรัพย์สินรถไฟที่เป็นของมีคุณค่าในอดีต เวลานี้ถูกเอาไปขายเข้ากระเป๋าหมด รถไฟขบวนที่สมเด็จพระเทพฯ เคยประทับตอนพระชนมายุ 9 พรรษา เวลานี้ถูกขายไปที่ไหน หัวรถจักรเก่าตั้งแต่สมัยแรกล้วนมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ รถไฟไอน้ำ สิ่งเหล่านี้ควรเก็บไว้ให้คนรุ่นใหม่ได้ศึกษาต่อยอดทางวิทยาการ รถไฟไทยที่รางมีขนาดความกว้าง 1 เมตร ไม่สามารถพบได้ในที่อื่นอีกแล้ว เป็นสิ่งควรค่ากับการอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา แต่คนการรถไฟก็ไม่ได้สนใจ ให้คุณค่า เราหมดเงินไปกับโครงการคอรัปชั่นต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโครงการโฮปเวลล์ ที่ซากถูกปล่อยทิ้งอย่างโฮปเลส (hopeless) หมดเงินไปมหาศาลแค่ไหน แต่การจะมีงบประมาณเพื่อรักษาพิพิธภัณฑ์รถไฟไทยไว้ให้เยาวชนรุ่นนี้ และรุ่นอนาคต กลับไม่มีงบประมาณให้กับการนี้
หากการรถไฟทวงคืนพิพิธภัณฑ์รถไฟ เพื่อจะมาบริหารให้ก้าวหน้าก็จะอนุโมทนา เกรงแต่จะเอาพื้นที่นั้นไปเพื่อการพาณิชย์มากกว่าเพราะพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เป็นทำเลทองในกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 2 แห่ง คือ สวนลุมพินี และสวนจตุจักร โดยที่สวนจตุจักร สวนสมเด็จ และสวนรถไฟ มีพื้นที่รวมกันแล้วถึง 726 ไร่ เป็นที่หมายตาของนักการเมือง ข้าราชการที่นิยมแปลงสินทรัพย์เป็นทุน แปลงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นผลประโยชน์ส่วนตัว ย่อมมองพื้นที่แห่งนี้ว่าควรเอาไปทำกำไรมากกว่าปล่อยให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในรูปตัวเงิน
การรถไฟมีสินทรัพย์เป็นที่ดินถึงกว่า 200,000 ไร่ทั่วประเทศ และมีที่ดินที่เป็นทำเลทองกว่า 30,000 ไร่ เวลานี้มีแต่คิดแสวงหาผลประโยชน์จากการใช้ที่ดินไปทำมาหากิน ที่ดินแถวจตุจักรเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ เป็นที่หมายตาของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จ้องตาเป็นมันที่จะเอาพื้นที่นี้ไปลงทุนทำคอมเพล็กซ์หารายได้กัน
การรถไฟกำลังจะถูกแปรรูปแบบใหม่ เพราะการแปรรูปแบบเก่าอย่าง กฟผ. ปตท. ถูกคัดค้านอย่างหนัก การแปรรูปแบบใหม่ที่จะถูกนำมาใช้กับการรถไฟก็คือ การแบ่งกิจการและทรัพย์สินของการรถไฟเป็น 3 หน่วย
หน่วยที่ 1 จัดตั้งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ เพราะการรถไฟมีที่ดินทั่วประเทศมหาศาล หน่วยนี้เอกชนมาถือหุ้นได้
หน่วยที่ 2 จัดตั้งเป็นบริษัทบริหารระบบเดินรถ เอกชนก็เข้ามาถือหุ้นได้
หน่วยที่ 3 ปล่อยไว้เป็นรัฐวิสาหกิจ เพื่อดูแลระบบราง ซึ่งเป็นหน่วยที่ต้องใช้เงิน คือมีแต่รายจ่ายก็ให้รัฐเป็นผู้ดูแลไป และเหลือชื่อว่าเป็นรัฐวิสาหกิจ 100%
แปรรูปแบบใหม่ เขาจะเหลือโครงไว้หลอกตาประชาชนและให้รัฐดูแลด้วยภาษีของประชาชน ส่วนกำไรเนื้อๆ จากทรัพย์สินเขาล้วงไปกินหมดคนในการรถไฟตระหนักแค่ไหน หรือจะรอเข้าไปร่วมเป็นพวก ก็จะได้ส่วนแบ่งที่เป็นเนื้อติดกระดูกมาบ้าง
อนาคตรถไฟไทยจะเหลือเพียงอดีต รอวันจีนมาสัมปทานสร้างรถไฟความเร็วสูงให้ประเทศไทย ระบบรางที่ถูกแยกชิ้นเนื้อออกจนหมด รางขนาด 1 เมตร ก็จะถูกยกเลิกไป ทรัพย์สินเหล่านี้จะรอวันเอาขายทอดตลาด เอาไปแบ่งกัน อาจไม่เหมือนการขายทอดตลาดทรัพย์สินการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยในราคาตามมูลค่าบัญชี ที่ขายทั้งเนื้อ และโครง ส่วนการรถไฟ จะแยกเนื้อออกก่อน ให้เหลือแต่โครง แล้วโครงนั้นจะเลิกใช้ไปเอง เมื่อเปลี่ยนเทคโนโลยีเรารอวันให้จีนมาสัมปทาน และผูกขาดรถไฟความเร็วสูงต่อไปในอนาคต 99 ปี หรือมากกว่านั้น
ดิฉันนึกถึงเนื้อเพลงของรถไฟที่ว่า "รถไฟของชาติ รับใช้ประชา ราษฎร์ด้วยความภักดี" ต่อไปเราจะยังเหลือรถไฟของชาติให้ภูมิใจหรือไม่?.
Back to top