ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)

black_express · Posted: 04/02/2013 10:46 am Post subject:

เมืองไทยกำลังเนื้อหอม แต่อย่าลืมว่าอีก 5 ปีข้างหน้า ค่าโดยสารรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ - เชียงใหม่ ตกเที่ยวละ 1,500 บาทก็แล้วกันครับ

คิดว่า ถ้าถึงเวลานั้นจรืงๆ คงลืมบ่นเรื่องราคาแพงไปแล้วล่ะ เพราะสมัยนี้ low cost airline ก็บินกันให้ว่อนแล้ว

สมัยรถเมล์ราคา 75 สตางค์ ค่ารถเมล์ปรับอากาศ 5 บาท ยังบ่นกันให้กลุ้ม เดี๋ยวนี้ตลอดสาย ร่วม 20 บาท ยังขึ้นนั่งหน้าตาเฉยครับ Razz

Wisarut · Posted: 04/02/2013 11:03 am Post subject:

′ชัชชาติ′จีบนายกฯฝรั่งเศส ร่วมพัฒนาไฮสปีดเทรนไทย
มติชน
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลา 09:39:35 น.

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในการเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ วันที่ 4-5 กุมภาพันธ์นี้ ของคณะนายณอง-มาร์ค เอโรต์ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐฝรั่งเศส ตนจะขอหารือเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างไทยกับฝรั่งเศสในการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เพราะฝรั่งเศสมีความเชี่ยวชาญเรื่องนี้ โดยเฉพาะเรื่องของระบบเดินรถ มีบริษัท Alstom ของฝรั่งเศสเป็นเจ้าของเทคโนโลยีในเรื่องนี้ และคาดว่าจะเป็นหนึ่งในบริษัทที่เข้าประมูลสัญญาเดินรถไฟความเร็วสูงของไทย เบื้องต้นทราบว่าฝรั่งเศสสนใจจะให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับความรู้ทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับระบบรถไฟความเร็วสูง น่าจะเป็นประโยชน์กับการเตรียมพร้อมบุคลากรของไทยในเรื่องดังกล่าว

นายชัชชาติกล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้นำเรื่องการพิจารณาการจ่ายเงินบำเหน็จของพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ตามติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งแต่ปี 2548 ที่กำหนดให้จ่ายเงินบำเหน็จให้กับพนักงานการรถไฟที่เกษียณอายุ เป็นจำนวน 15 เท่าของเงินเดือน และจ่ายอีก 15 เท่าของเงินเดือนเมื่อเสียชีวิต โดยเป็นวงเงินสะสมที่ต้องจ่ายประมาณ 2,000 ล้านบาทนั้นแนวทางเบื้องต้นคาดว่าจะให้กระทรวงการคลังกู้เงินในส่วนนี้ แต่มติเดิมกำหนดให้ ร.ฟ.ท.นำทรัพย์สินของตัวเองมาจ่ายเงินส่วนนี้ อย่างไรก็ตาม ต้องหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อหาทางออกต่อไป

Mongwin · Posted: 04/02/2013 2:06 pm Post subject:

คลังจ่อชงร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านเข้า ครม.พรุ่งนี้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 กุมภาพันธ์ 2556 13:41 น.

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ว่า ขณะนี้ในส่วนของกระทรวงคมนาคมรับผิดชอบ มีความพร้อมเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว โดยเป็นแผนโครงการลงทุนระบบราง เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูง/ รถไฟทางคู่ และรถไฟฟ้า 10 สาย โดยมีรายงานว่า กรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของประเทศ จะเป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระยะยาว 7 ปี ตั้งแต่ปีนี้ ไปจนถึงปี 2563 ทั้งทางบก ทางน้ำ และอากาศ รวมทั้งแผนรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนด้วย

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ระบุว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังส่งร่างพระราชบัญญัติกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทไปแล้ว โดยคาดว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันพรุ่งนี้น่าจะมีการพิจารณา โดยโครงการหลักยังอยู่ในวงเงิน 2 ล้านล้านบาท ส่วนโครงการสำรองที่เตรียมไว้จะอยู่ในวงเงินประมาณ 1 ล้านล้านบาท เพื่อรองรับ หากโครงการหลักไม่สามารถดำเนินการได้ทัน สำหรับรายละเอียดแนบท้ายร่างพระราชบัญญัติกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นแผนลงทุนระบบขนส่งคมนาคม อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 4 ภูมิภาค จากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ / นครราชสีมา/ ระยอง และหัวหิน มูลค่าลงทุน 5 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของวงเงินลงทุนทั้งหมด

นอกจากนี้ ยังมีส่วนโครงการอื่นๆ ได้แก่ การขยายรถไฟรางคู่ทุกเส้นทางทั่วประเทศ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือ มอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา รวมถึงโครงการรถไฟฟ้า 10 สายในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และการลงทุนท่าเรือขนาดใหญ่อีก 3 แห่ง เช่น ท่าเรือสงขลา ท่าเรือปากบารา รวมทั้งโครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพด่านศุลกากรประมาณ...

Wisarut · Posted: 04/02/2013 9:53 pm Post subject:

ทูตจีนฟันธงก่อนสิ้นปี 56 รถไฟความเร็วสูงไทยเกิดแน่ เตือนไทยต้องตื่นตัว-สามัคคี ก่อนตกขบวน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 กุมภาพันธ์ 2556 18:59 น.

พิษณุโลก - เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยขึ้นเวทีร่วมเสวนา “CHINA WATCH” ย้ำเป้าหมายจีนทำรถไฟความเร็วสูง 4 สายเปิดทางเชื่อมมหาสมุทร มั่นใจสายเหนือ หรืออีสานเซ็นสัญญาได้ก่อนสิ้นปี 56 นี้แน่ ระบุรถเชียงใหม่-กทม.มีอุโมงค์ 3 จุด “จิ๊บๆ” พร้อมทิ้งท้ายเตือนทุกคนต้องตื่นตัว รถไฟมาทุกอย่างเปลี่ยน ย้ำคนไทยต้องเข้มแข็ง-สามัคคี ก่อนตกขบวน

วันนี้ (4 ก.พ.) มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก ได้จัดสัมมนาโครงการ “CHINA WATCH” เรื่องการเติบโตของจีนต่อโอกาสทางเศรษฐกิจของภาคเหนือตอนล่างและภูมิภาค โดยเชิญนายวิบูลย์ คูสกุล เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง, นายกว่าน มู่ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย พร้อมกับ ดร.ปรเมธี วิมลศิริ รองเลขาฯ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ร่วมบรรยายพิเศษถึงวิสัยทัศน์และนโยบายรัฐบาลสำหรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้, ตะวันออก-ตก โดยมี ดร.สุจินต์ จินายน อธิบดี ม.นเรศวร พร้อมผู้ว่าฯ พิษณุโลก ผู้ว่าฯ ตาก, นักธุรกิจ และหัวหน้าส่วนราชการหลายแห่งรวมประมาณ 350 คนร่วมรับฟัง

โดยนายวิบูลย์ คูสกุล เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง บรรยายพิเศษหัวข้อ “การเติบโตของจีนกับโอกาสและความท้าทายต่อไทยและภูมิภาค” มีใจความตอนหนึ่งว่า จีนอยากเห็นการเมืองไทยนิ่ง การวางโครงข่ายคมนาคมถือว่าเป็นโอกาสของไทย เพราะประเทศไทยเป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของจีนในกลุ่มอาเซียน มูลค่าการค้าเกิดขึ้น 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และตั้งเป้าหมายแสนล้านบาทในปีหน้า

“ทุกวันนี้ผลไม้ไทย ทั้งกล้วย มังคุด ส่งไปขายจีนมากกว่าแอปเปิลจีนที่ส่งมาขายในประเทศไทย”

นายวิบูลย์ระบุอีกว่า ข้อได้เปรียบของไทยคือ จีนตอนใต้ต้องการผ่านไทยสู่อาเซียนลงทะเล สิ่งที่จับตาคือรถไฟความเร็วสูงที่ผ่านพิษณุโลกด้วย ดังนั้นผลไม้ไทยสามารถตีตลาดจีนได้ทันที โดยเฉพาะทุเรียน ส่วนกล้วยไข่( กล้วย-ฮ่องเต้) นั้น ทุกวันนี้ส่งไปขายจีน 6,000 คอนเทนเนอร์ต่อปี นอกจากนี้ยังมีมันสำปะหลัง ยางพารา ถือเป็นโอกาสของเกษตรกรไทย และจะทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามา 2.5 ล้านคนจะเพิ่มเป็น 3 ล้านคนต่อปี

ขณะที่นายกว่าน มู่ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย บรรยายเรื่อง “บทบาทของจีนต่อโครงการเชื่อมโยงในภูมิภาคและความร่วมมือทางเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง” ว่า อยากให้ความสัมพันธ์ไทย-จีนแน่นเฟ้น โดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่างมีส่วนสำคัญในการเชื่อมต่อระบบลอจิสติกส์

นายกว่าน มู่ กล่าวอีกว่า 30 ปีที่ผ่านมาจีนลำบากมาก โดยตนต้องใช้คูปองซื้อข้าว หมู สบู่ แม้กระทั่งไม้ขีดไฟ กระทั่งท่านเติ้ง เสี่ยวผิงบอกว่า หากเป็นเช่นนี้จีนลำบากแน่ จึงใช้นโยบายพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศ “สามก้าวใหม่” ส่วนนโยบายต่างประเทศเดินตามแนวทาง “สันติ ร่วมมือ พัฒนา” ส่วนนโยบายเพื่อนบ้านก็คือ “ปรองดอง มั่นคง มั่งคั่ง”

“หลายปีก่อนชนชาติฝรั่งมองว่าจีนไม่เป็นประชาธิปไตย ผมถามว่าแก่นแท้ประชาธิปไตยคืออะไรก็ไม่มีใครตอบได้ แต่คนจีนมองว่าเป้าหมายสูงสุดคือประชาชนมีสิทธิ เสรีภาพ มีความอยู่ดีกินดี ทำอย่างไรให้หลุดพ้นจากความยากจน หากรัฐบาลจีนไม่พัฒนา ก็แก้ไขไม่ได้เลย ดังนั้นจำเป็นต้องเปิดประเทศ”

เอกอักรราชทูตจีนประจำประเทศไทยกล่าวอีกว่า เราผลิตเพื่อแลกเงินตรา ไม่ต้องไปพึ่งพาคนอื่น เพราะคนจีน 1,300 ล้านคนต้องเลี้ยงตัวเอง ไม่สามารถพึ่งประเทศใดได้ เป้าหมายของจีนคือโรงงาน 200 แห่งต้องมีชื่อเสียงระดับโลก อาหารต้องเก็บต่อเนื่อง 9 ปี ต้องหาทางออกมหาสมุทรทั้งสองฝั่งทะเล ฯลฯ ระบบคมนาคม ต้องพัฒนาถนน, อากาศ และรถไฟ ฯลฯ

ซึ่งทางการจีนประสานกับรัฐบาลไทยแล้ววางไว้ 4 สาย สร้างรางรถไฟจากจีน สาย 1 ไปประเทศเวียดนาม เชื่อมตะวันออกของไทยที่ จ.ระยอง เชื่อม จ.ชลบุรี-แหลมฉบัง ไปเศรษฐกิจพิเศษ “ทวาย”, สาย 2 จากยูนนาน เข้า สปป.ลาว ทะลุ จ.หนองผ่าน จ.ขอนแก่น เข้ากรุงเทพฯ, สาย 3 เข้าพม่า ต่อไปบังกลาประเทศ เชื่อมย่างกุ้ง มาประเทศไทย เพื่อไปภาคใต้เข้าปาดังเบซาร์ (มาเลเซีย) และสาย 4 คือสายเหนือเชียงใหม่-กรุงเทพฯ

ส่วนรูปแบบการลงทุนนั้น จีนอย่างไรก็ได้ ทั้งรูปแบบรัฐบาลจีน และไทยร่วมลงทุน หรือรัฐบาลจีนเป็นผู้ลงทุนเอง โดยล่าสุดได้จัดทำร่าง TOR เรียบร้อยแล้ว ซึ่งสายเหนือที่เชียงใหม่จะมีอุโมงค์ประมาณ 3 แห่ง แต่ละแห่งมีระยะทางไม่เกิน 2-3 กิโลเมตร (หากเทียบกับประเทศจีนอุโมงค์ยาวถึง 30 กม.) และอาจเชื่อมไปยัง จ.เชียงรายในระยะต่อไป แต่ก่อนสิ้นปี 56 นี้สายเหนือ หรือสายอีสานจะต้องเช็นสัญญาแน่นอน เพียงแต่ยังไม่แน่นอนว่าสายใดก่อน เพราะรถไฟแต่ละสายสามารถดำเนินไปทีละช่วงได้

นายกว่าน มู่ กล่าวอีกว่า วันนี้มาบอกเพื่อให้ทุกคนตื่นตัว ให้ทุกคนแสดงความสามารถ ถ้ามีรถไฟทุกอย่างจะเปลี่ยน เดิมทีรถไฟจากปักกิ่งไปกว่างโจวใช้เวลา 72 ชั่วโมง ตอนนี้ร่นระยะเวลาเหลือ 8 ชั่วโมงเท่านั้น ส่วนรถไฟความเร็วสูงจากกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก็จะทำให้การเดินทางใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น

“ฝากทิ้งท้ายอีกว่า คนไทยต้องเข้มแข็งและรักสามัคคีกว่านี้ มิฉะนั้นจะไปไม่ได้”

Wisarut · Posted: 05/02/2013 9:41 am Post subject:

'กว่านมู่'เผยใช้รถไฟพลิกขนส่ง
โพสต์ทูเดย์ หน้า 2
5 กุมภาพันธ์ 2556

จีนลุยใช้รถไฟความเร็วสูงบุกไทย ใช้เป็นยุทธศาสตร์พลิกขนส่งเชื่อมอาเซียน
นายกว่าน มู่ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย บรรยายหัวข้อ "บทบาทของจีนต่อโครงการเชื่อมโยงในภูมิภาคและความร่วมมือทางเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง" ที่มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลกวันที่ 4 ก.พ. ว่า เป้าหมายของจีนคือ โรงงาน200 แห่งต้องมีชื่อเสียงระดับโลกอาหารต้องเก็บต่อเนื่อง9 ปี ต้องหาทางออกมหาสมุทรทั้งสองฝั่งทะเล การคมนาคมต้องเร่งพัฒนาถนน อากาศและรถไฟ

ส่วนทางรถไฟ สี่สาย ที่จีนพูดถึงว่าจะเชื่อมกะไทย นั้นมีรายละเอียดดังนี้

1) จีน- เวียตนาม - ไปที่ระยอง ชลบุรี เชื่อมท่าเรือแหลมฉบังกะท่าเรือทวาย
2) ยูนนาน - ลาว - ขอนแก่น - กรุงเทพ ->รถไฟความไวสูงเมืองลาว + รถไฟสายหนองคาย
3) พม่า - กาญจนบุรี - ไปออกภาคใต้ ที่ปาดังเบซาร์
4) กรุงเทพ - เชียงใหม่ โดยมีแผนว่าจะทำทางจากเชียงใหม่ไปเชียงรายและเชียงของด้วย

Note: ฟังดูมันทะแม่งๆ อย่างไรก็ไม่รู้แฮะ

AD24C · 3rd Class Pass Joined: 03/05/2010 Posts: 79

^
^
ฟังดูเกี่ยวกับปลายทาง เป้าหมายการขนส่ง แ้ล้วเหมือนเป็นรถไฟขนส่งสินค้ามากกว่าขนส่งคนนะครับ Laughing

Wisarut · Posted: 05/02/2013 10:12 am Post subject:

^^^
มันก็น่าที่จะเป็นเช่นนั้นอยู่หรอกครับ

มีคนท้วงติงแผนที่เส้นทางรถไฟความไวสูงที่ท่านทูตจีนนำเสนอดั่งนี้รับ

Mongwin · Posted: 05/02/2013 6:25 pm Post subject:

ปูบอกกำลังวางแผนเงินกู้2ล้านล้าน รอคมนาคมส่งเข้าครม. ปัดสั่งรื้อแผนสร้างถนน"รถไฟฟ้า-รถไฟความเร็วสูง"
มติชนออนไลน์ วันที่ 05 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลา 14:37:09 น.

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.ถึงกรณีเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ว่า ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการทำแผน ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะทำเรื่องเข้ามา ส่วนยุทธศาสตร์ทั้งหมดนั้น อย่างที่ตนได้เรียนไว้ในวันที่แถลงยุทธศาสตร์ประเทศ เรื่องหลักการในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเราจะเน้นการกระจายความเจริญไปยังต่างจังหวัดในภูมิภาคต่างๆ ด้วย ยุทธศาสตร์ภาพรวมได้มีการคุยกันแล้ว ก็เหลือแค่แผนรายละเอียดทั่วไป รวมถึงกรอบงบประมาณคร่าวๆ ของทุกโครงการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวออกมาว่านายกฯไม่พอใจในบางจุดเลยสั่งให้ทำใหม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่ใช่ค่ะ คือยังมีบางส่วนที่เรามองว่าน่าจะอยู่ในงบประมาณปกติ เราอยากจะใช้งบประมาณเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ไปในส่วนของการวางโครงสร้างพื้นฐานจริงๆ เช่น รถไฟฟ้าความเร็วสูงตามจุดต่างๆ ให้จบ เพราะเราอยากเห็นการต่อเชื่อมตรงนี้ อย่างบางที่มีสถานีแล้วไม่มีถนนไปยังจุดอุตสาหกรรมหรือสถานที่สำคัญของจังหวัด เรามองว่าจะทำให้ไม่เกิดประโยชน์ เลยบอกว่าอยากให้ไปปรับในส่วนนี้บ้าง แต่ไม่ใช่ไปรื้อให้ทำใหม่

เมื่อถามว่า ในส่วนของงบกรมทางหลวงจะให้เพิ่มหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า การสร้างถนนสายหลัก เราต้องให้ความสำคัญตรงนี้ก่อน แล้วค่อยไปดูงบประมาณรวม เพราะเรามีความจำเป็นเรื่องรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง ซึ่งต้องใช้งบประมาณนี้ทั้งหมดก่อน แล้วมาต่อกับถนนเส้นใหญ่ก่อน เพราะถ้าเรากระจายลงไปถนนย่อยๆ ตรงนี้จะทำให้เส้นทางจะไม่สมบูรณ์

เมื่อถามว่า ยุทธศาสตร์ทั้งหมดจะเข้า ครม.ได้เมื่อไร น.ส.ยิ่งลักษณ์หันไปถามนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก่อนหันมากล่าวว่า กำลังดำเนินการอยู่ เมื่อถามว่า แหล่งเงินกู้ได้มองดูแล้วหรือไม่ว่าจะกู้มาจากไหน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า มีทั้งในประเทศและนอกประเทศ ซึ่งหลักๆ คงจะใช้เงินกู้ที่มีอยู่

Wisarut · Posted: 06/02/2013 12:13 am Post subject:

รายงานพิเศษ รถไฟฟ้าความเร็วสูง ตอน 2
by Chitapa
Voice TV
5 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 17:02 น.

ทีมข่าววอยซ์ทีวีสนอรายงานพิเศษ เจาะลึกเส้นทางรถไฟความเร็วสูงในเส้นทางกรุงเทพ-นครราชสีมา , กรุงเทพ-หัวหิน และกรุงเทพ-พัทยา

รถไฟความเร็วสูงทั่วประเทศมีทั้งหมด 4 เส้นทาง โดยเส้นทางกรุงเทพ - เชียงใหม่ เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้วเพราะเป็นเส้นทางแรกที่จะเริ่มก่อสร้าง แต่ในโครงการนี้ ยังมีอีก 3 เส้นทางที่เตรียมก่อสร้างเช่นกัน นั่นคือกรุงเทพ-นครราชสีมา ระยะทาง 256 กิโลเมตร ภายใต้งบประมาณ 1 แสน 4 หมื่นล้านบาท มี 7 สถานี ตั้งแต่กรุงเทพมหานคร , อยุธยา , บ้านภาชี , นครนายก , สระบุรี , ปากช่อง , นครราชสีมา ใช้เวลาในการเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาที

โดยช่วงกรุงเทพ ถึงสระบุรี จะมีเส้นทางตรง ทำให้การก่อสร้างค่อนข้างง่าย แต่เมื่อมาถึงเขามวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ที่มีโรงงานปูนซีเมนต์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ นอกจากจะมีความยากลำบากในการก่อสร้างแล้ว ยังมีการระเบิดหิน ในการทำอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ตลอดทั้งวัน

หากมีการก่อสร้างรางรถไฟความเร็วสูงใกล้กับรางรถไฟเดิมในพื้นที่นั้นๆ อาจกระทบกับระบบรถไฟความเร็วสูงได้ ดังนั้นต้องเจาะอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงในพื้นที่ดังกล่าว

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. กล่าวว่า การก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูง เส้นทางนี้ มีความหลากหลาย ทั้งความยากและง่ายในเวลาเดียวกัน โดยแต่ละสถานีต้องพิจารณาเรื่องของชุมชนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

นอกจากนี้ ยังยืนด้วยว่า การก่อสร้างจะไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมรอบเขาใหญ่ เพราะอยู่ห่างจากพื้นที่ป่า และยังส่งผลดีด้านการท่องเที่ยวที่จะสะดวกมากขึ้นด้วย

มากันที่รถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพ – หัวหิน ระยะทางรวม 225 กิโลเมตร ที่จะมี 5 สถานี ได้แก่ บางซื่อ , นครปฐม , ราชบุรี , เพชรบุรี และหัวหิน งบประมาณก่อสร้างรวม 1 แสน 3 หมื่นล้านบาท จะช่วยให้การเดินทางจากกรุงเทพไปหัวหินเหลือ 1 ชั่วโมง 20 นาที

โดยการก่อสร้างสถานีจากบางซื่อ มายังจังหวัดนครปฐมนั้น สนข. อาจเลือกใช้วิธีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา คู่ขนานไปกับสะพานพระราม 7 ซึ่งดีกว่าการสร้างอุโมงค์ใต้แม่น้ำ เพราะจะไม่กระทบกับประชาชนในย่านจรัญสนิทวงศ์

ซึ่งขณะนี้ สนข.ได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนในจังหวัดนครปฐมไปแล้ว และจะทยอยดำเนินการต่อในจังหวัดราชบุรีและเพชรบุรีต่อไป โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพ-หัวหิน ได้ในช่วงกลางปี 2557

ส่วนรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-พัทยา เป็นเส้นทางที่มีระยะใกล้ที่สุด คือ ไม่ถึง 200 กิโลเมตร มีสถานีเพียง 3-4 สถานี โดยสถานีต้นสาย อยู่ที่สถานีรถไฟแอร์พอร์ตลิงค์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ , ฉะเชิงเทรา , ไปถึงเมืองพัทยา ใช้งบประมาณการก่อสร้างเกือบ 1 แสนล้านบาท ซึ่งการดำเนินการในเส้นทางนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดูแล เนื่องจากตัวสถานีเชื่อมต่อกับสถานีรถแอร์พอร์ตลิงค์ที่การรถไฟฯ เป็นผู้ดำเนินการอยู่แล้ว

ในช่วงปี 2556 จึงเป็นช่วงของการเตรียมความพร้อมในการประชาพิจารณ์ รับฟังความคิดเห็นของประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งที่ได้รับผลกระทบและได้ประโยชน์ โดย ผอ.สนข.ระบุว่า เท่าที่มีการทำประชาพิจารณ์ในเส้นทางภาคเหนือและภาคใต้ ประชาชนส่วนใหญ่ระบุว่าต้องการให้รถไฟความเร็วสูงเกิดขึ้นโดยเร็ว

และบางส่วนกังวลว่าจะกระทบกับการประกอบอาชีพเดิม ซึ่งจากการประมาณเบื้องต้นของ สนข. ระบุว่า การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง จะใช้พื้นที่ที่มีอยู่เดิมประมาณ ร้อยละ 70 ส่วนร้อยละ 30 ต้องเวนคืนที่ดินก่อน

ดังนั้น สนข.จึงมีแนวคิดว่า จะใช้วิธีการจ่ายค่าเวนคืนให้ประชาชนไปก่อน เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ จะอนุญาตให้ประชาชนกลุ่มนั้นๆ กลับเข้ามาประกอบอาชีพใกล้กับพื้นที่เดิมได้

การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทาง ตั้งแต่กรุงเทพ กระจายไปยังเชียงใหม่ , นครราชสีมา , หัวหินและพัทยา จะดำเนินการไปพร้อมกันหมด ในปลายปี 2556 เริ่มตั้งแต่การเลือกระบบรถไฟ ว่าจะเลือกใช้ระบบเดียว ทั้ง 4 เส้นทาง หรือ แยกระบบตามความเหมาะสมของพื้นที่

โดยการคัดเลือกระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูง สนข.จะพิจารณาจากค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเป็นหลัก เนื่องจากอายุของโครงการมีระยะเวลานาน ดังนั้น การคิดคำนวนระบบรถไฟฟ้า จะต้องประเมินจากค่าบำรุงก่อสร้างเป็นหลัก โดยเฉพาะต้นทุนวัฏจักรการใช้งาน เพราะจะส่งผลต่อค่าโดยสารโดยตรง

black_express · Posted: 06/02/2013 10:07 am Post subject:

ไม่ใช่ว่า สร้างทางเสร็จแต่ตัวรถยังไม่ได้สั่งทำนะครับ Razz