ข่าว Airport Link

[Wisarut]

แอร์พอร์ตลิงก์เสริมรถหลังยอดใช้พุ่ง
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 22 สิงหาคม 2557 16:18

"แอร์พอร์ตลิงก์" เตรียมนำรถเสริมช่วงเร่งด่วนเริ่ม 1 ก.ย. หลังยอดผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 10%



พล.อ.อ.คำรบ ลียะวณิช รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทรถไฟฟ้าร.ฟ.ท.จำกัด เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2557 เป็นต้นไป รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จะนำรถไฟฟ้า Express line มาวิ่งเสริมการให้บริการในช่วงเวลาเร่งด่วน( จากสถานีหัวหมาก-สถานีพญาไท ) ตั้งแต่เวลา 06.00-10.00น. (ให้บริการวันจันทร์-ศุกร์) ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์ เนื่องจากไม่มีความหนาแน่นของจำนวนผู้โดยสาร จึงไม่มีบริการเสริมในส่วนนี้

และวัตถุประสงค์ของการเพิ่มขบวนเสริมในครั้งนี้ เพื่อการลดความแออัดของผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสาย City Line และลดการตกค้างของผู้โดยสารบนชานชาลาที่ไม่สามารถขึ้นรถขบวนก่อนหน้าได้ จากที่พบมีการตกค้างเฉลี่ยต่อรอบประมาณ 10 % รวมถึงรองรับต่อความต้องการผู้โดยสารส่วนมากในการใช้บริการได้เพียงพอ และเป็นการอำนวยความสะดวกอีกทางหนึ่ง

ปกติของการเดินรถให้บริการของรถไฟฟ้า แอร์พอร์ต เรล ลิงก์จะมีรถเสริมในช่วงเช้าจำนวน 5 เที่ยว และในวันที่ 1 ก.ย.นี้จะนำรถไฟฟ้าExpress Line มาเสริมอีก 1 ขบวน จำนวน 5 เที่ยว รวมเป็นทั้งสิน 10 เที่ยว ส่งผลให้เพิ่มความถี่ในการให้บริการได้ จากเดิมที่ให้บริการ 12-15 นาที จะเหลือเวลารอรถต่อเที่ยวเพียง 8 นาที ในช่วงเวลาเร่งด่วน อีกทั้ง จำนวน 5 รอบที่ได้เพิ่มเข้ามาจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 1,700 คนต่อวัน ทั้งนี้ เมื่อนำรถไฟฟ้า Express Line ไปเสริมช่วงเวลาดังกล่าวจึงได้ปรับเวลาการให้บริการของรถไฟฟ้า Express Line (มักกะสัน-สุวรรณภูมิ-มักกะสัน) เป็นเวลา 10.00-22.00น. ของทุกวัน

สำหรับยอดผู้โดยสารตั้งแต่เปิดให้บริการมา เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 10 % ต่อปี (City Line) และตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา จากเดิมมียอดผู้โดยสาร 5 หมื่นคนต่อวัน เพิ่มขึ้นเป็น 5.4 หมื่นคนต่อวัน ในส่วนของอัตราค่าโดยสารสาย City Line เริ่มต้นที่ 15-45 บาท สิทธิพิเศษเมื่อซื้อบัตรสมาร์ทพาส ผู้โดยสารที่เป็นนักเรียน นักศึกษาและมีอายุไม่เกิน 23 ปีบริบูรณ์ สัญชาติไทย จะได้รับส่วนลด 20% ต่อเที่ยว และผู้โดยสารที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป สัญชาติไทย จะได้รับส่วนลด 50% ต่อเที่ยว

[Mongwin]

'แอร์พอร์ตลิงค์'จี้รฟท.แยกทรัพย์สิน-หนี้สิน
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 23 สิงหาคม 2557 10:30

"แอร์พอร์ตลิงค์"เร่งการรถไฟฯ ตัดสินใจแยกทรัพย์สิน-หนี้สิน คาดได้เงินหมุนเวียนจากคลัง เชื่อจะเลิกขาดทุนปี61

นายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ ประธานคณะกรรมการบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิง กล่าวว่าบริษัทได้หารือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ 100% ถึงแนวทางการแยกการบริหารจัดการและจัดเก็บรายได้ของบริษัท ออกจาก ร.ฟ.ท. โดยอ้างถึงผลการศึกษาของสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ทั้งนี้ผลการศึกษาได้สรุปไว้ 3 แนวทาง
1.ให้แยกทรัพย์สินและหนี้สินออกจากกันทั้งหมด
2. แยกเฉพาะส่วนที่แยกได้ เช่น ขบวนรถและอาณัติสัญญาณ
3. ตั้งบริษัทเป็นหน่วยธุรกิจหนึ่งของ ร.ฟ.ท.

แต่แนวทางที่จะเป็นไปได้มากที่สุด คือแนวทางที่ 2 เพราะการดำเนินตามแนวทางที่ 1 และ 3 มีความยุ่งยาก ซึ่งร.ฟ.ท. มีแนวโน้มเห็นด้วยกับแนวทางที่ 2 แต่ต้องหารือว่าจะแยกทรัพย์สินหรือหนี้สินส่วนใด โดยเห็นว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานปัจจุบัน ร.ฟ.ท. ต้องรับภาระอยู่ 20,000-30,000 ล้านบาทนั้น กระทรวงการคลังคงรับภาระไป ตามนโยบายของภาครัฐที่จะเป็นผู้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหากมีการโอนหัวรถจักรและขบวนรถไฟทั้ง 9 ขบวน มูลค่า 4,000 ล้านบาท เป็นทรัพย์สินของบริษัท ก็จะมีรายได้จากค่าโดยสารและพร้อมจะจ่ายดอกเบี้ยของขบวนรถไฟแทน ร.ฟ.ท. หรือเป็นการทยอยใช้หนี้คืนได้ และพร้อมเช่าสถานีของ ร.ฟ.ท. เพื่อให้บริหารจัดการง่ายขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาว่า หากบริษัทได้รับเงินทุนหมุนเวียนจากกระทรวงการคลัง 1,860 ล้านบาท จะช่วยเป็นทุนหมุนเวียนซึ่งบริษัทมีรายจ่ายค่าบำรุงรักษากว่า 700-800 ล้านบาทต่อปี และปี 2561 ที่บริษัทจะมีรถไฟใหม่มาให้บริการอีก 7 ขบวน มีผู้โดยสารเพิ่มจาก 14 ล้านคนต่อปี เป็น 30 ล้านคนต่อปี จะมีรายได้เพิ่มจาก 500 ล้านบาท เป็น 1,000 ล้านบาท จะมีรายได้เพียงพอค่าใช้จ่าย

ผลการศึกษายังเสนอให้ปรับปรุงโครงสร้างองค์กรใหม่โดยเฉพาะค่าตอบแทนของบุคคลกร ปัจจุบันบุคลากรในวงการรถไฟมีไม่เพียงพอทำให้มีการซื้อตัวกันสูง

ขณะนี้บริษัท กำลังทำข้อมูลการแยกทรัพย์สินและหนี้สิน จะหารือกับ ร.ฟ.ท. อีกครั้งสัปดาห์หน้า เรื่องนี้ต้องตัดสินใจรวมถึงจะถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟู ร.ฟ.ท.

พล.อ.อ.คำรบ ลียะวณิช รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ม. จำกัด กล่าวว่าบริษัทต้องเร่งดำเนินการซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์เป็นอันดับแรก จากนั้นจะมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาทั้งความพร้อมด้านบุคลากรและทรัพย์สิน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องพิจารณา ต้องรอผลการศึกษาที่ชัดเจนก่อน

แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท. กล่าวว่ารูปแบบการแยกการบริหารจัดการระหว่างบริษัท รถไฟฟ้าฯ และ ร.ฟ.ท. คงยังจะให้บริษัท รถไฟฟ้าฯ เป็นลูกของ ร.ฟท. อยู่ภายใต้นโยบายของกระทรวงคมนาคมเหมือนเดิม แต่บริษัทจะได้รับทรัพย์สินบางอย่างจาก ร.ฟ.ท. เช่น ขบวนรถ หรือทรัพย์สินที่สร้างรายได้ เพื่อให้บริหารงานได้คล่องตัวมากขึ้น แต่หากบริษัทรถไฟฟ้าฯ จะซื้อขบวนรถหรือทรัพย์สินเพิ่มเติมคงต้องหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อค้ำประกันเงินกู้ให้ ส่วนแผนการฟื้นฟู ร.ฟ.ท. คาดจะแล้วเสร็จปลายสัปดาห์

[Wisarut]

แอร์พอร์ตลิ้งค์เล็งของบ 2 พันล้านเสริมสภาพคล่อง


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 สิงหาคม 2557 03:15 น.


นายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ ประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) บริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด เปิดเผย ว่า เล็งนำเสนอขออนุมัติงบประมาณจำนวน 2,000 ล้านบาทเพื่อนำไปแก้ไขปัญหาสภาพคล่องของแอร์พอร์ตลิ้งค์ ให้สามารถขับเคลื่อนองค์กรก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเตรียมนำเสนอต่อผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)ในปี 2558 หลังจากที่ได้เร่งดำเนินการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ให้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ทั้ง 9 ขบวนสามารถให้บริการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและมีความชัดเจนในเรื่องการจัดซื้อขบวนรถเพิ่มอีก 7 ขบวนแล้ว

ทั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมให้แอร์พอร์ตลิ้งค์สามารถรับหน้าที่เดินรถและบริหารจัดการองค์กรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการขยายโอกาสรับหน้าที่บริหารจัดการและเดินรถไฟฟ้าให้กับร.ฟ.ท.นอกเหนือจากส่วนต่อขยายแอร์พอร์ตลิ้งค์ช่วงพญาไท-บางซื่อ-ดอนเมืองแล้ว แล้วพร้อมเดินรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ช่วงบางซื่อ-รังสิต ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง-มหาชัย และช่วงบางซื่อ-หัวหมาก อีกทั้งยังพร้อมรับเดินรถไฟฟ้าความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-ระยองในอนาคตตามที่ร.ฟ.ท.มีแผนดำเนินการอีกด้วย

“ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆของแอร์พอร์ตลิ้งค์ให้หมดไปก่อนที่จะขยายโอกาสรับบริหารจัดการและรับเดินรถให้กับร.ฟ.ท.ทั้งแอร์พอร์ตลิ้งค์ส่วนต่อขยายเชื่อมบางซื่อ-ดอนเมือง โครงการรถไฟสายสีแดงทั้งระบบ และรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-ระยองเพื่อสร้างรายได้ให้กับแอร์พอร์ตลิ้งค์ให้สามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคงขอเพียงรัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้เท่านั้น อีกทั้งภายในสัปดาห์หน้ายังจะมีการเจรจาร่วมกับร.ฟ.ท.เพื่อเคลียร์ปัญหาภาระหนี้สินต่อกันที่มีราว 7 หมื่นล้านบาทเพื่อแยกแยะให้ชัดเจนก่อนที่จะเสนอแยกหน่วยงานแอร์พอร์ตลิ้งค์ออกมาให้สามารถบริหารจัดการในรูปแบบบริษัทจำกัดด้วยตนเอง”

นายจำรูญกล่าวอีกว่าล่าสุดบอร์ดร.ฟ.ท.อนุมัติให้เร่งดำเนินการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่รถไฟฟ้าทั้ง 9 ขบวนโดยที่ประชุมเห็นชอบให้มีการเร่งรัดกระบวนซ่อมแซมให้เร็วขึ้น โดยตั้งเป้าหมายหากประมูลหาผู้ชนะเข้ามาซ่อมใหญ่ได้แล้ว จะลดเวลากระบวนการซ่อมให้เสร็จภายใน 23 เดือน เร็วกว่าเดิมที่กำหนดไว้ 53 เดือน เพื่อกลับมาเปิดใช้บริการให้ได้เร็วที่สุด และภายในสัปดาห์นี้ บริษัทฯ จะหารือร่วมกับ ร.ฟ.ท. และบริษัทซีเมนส์ ผู้ผลิตรถไฟฟ้า เพื่อเร่งรัดการซ่อม รวมถึงแผนการจัดหาอะไหล่ และการวางแผนการซ่อมอย่างละเอียด

ปัจจุบันขบวนที่วิ่งให้บริการยังไม่เกินกำหนดมาตรฐานสูงสุดที่กำหนดไว้คือ 1.32 ล้านกม. โดยรถวิ่งความเร็วเฉลี่ย 1.2-1.28 ล้านกม. ขณะเดียวกันก็มีการซ่อมแซมเปลี่ยนอะไหล่ตามอายุการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ อาทิ ลูกปืน จานเบรก ระบบกันสะเทือน ส่วนรูปภาพปัญหารางที่ปรากฏในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ได้มีการปรับปรุงแก้ไขไปแล้ว รวมถึงติดตามผลกระทบอย่างใกล้ชิด

สำหรับแนวทางการปรับปรุงแก้ไขในเบื้องต้นตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้เป็นต้นไปจะยกเลิกการเดินรถไฟฟ้าด่วน(เอ็กซเพรสไลน์ ) 2 ช่วงเวลาตั้งแต่เวลา 6.00-10.00น และ 22.00-24.00 น.เพื่อปรับตัวขบวนรถมาวิ่งให้บริการรถไฟฟ้าธรรมดา(ซิตี้ไลน์) เพิ่มขึ้นเป็น 2 ขบวน ประกอบกับช่วงเวลาที่กำหนดดังกล่าวนั้นไม่ค่อยมีผู้โดยสารใช้บริการรถไฟฟ้าด่วน

“ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าซิตี้ไลน์ เฉลี่ยวันละประมาณ 48,000 คนต่อวัน ขณะที่ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าเอ็กซ์ เพรสไลน์ เฉลี่ยวันละประมาณ 300-400 คนต่อวันเท่านั้น และบางช่วงเวลาบางขบวนทีผู้โดยสารไม่ถึง 10 คน บางครั้งวิ่งรถเปล่าโดยไม่มีผู้โดยสาร อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องการซ่อมใหญ่ของขบวนรถไฟฟ้าทั้ง 9 ขบวน จึงต้องบริหารจัดการขบวนรถให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด จากเดิมที่วิ่งให้บริการเส้นทางรถไฟฟ้าเอ็กซ์เพรสไลน์ จากสุวรรณภูมิ-มักกะสัน และพญาไท-มักกะสัน เหลือเพียงเส้นทางเดียวคือสุวรรณภูมิ-มักกะสันเท่านั้น”

ด้านพล.อ.ดร.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานกรรมการ(บอร์ด)การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) กล่าวว่าต้องการให้รฟม.เดินรถไฟฟ้าเองมากกว่าที่จะว่าจ้างเอกชนเดินรถ เช่น รถไฟฟ้า MRT ที่ว่าจ้างบีเอ็มซีแอลบริหารจัดการเดินรถ จัดซื้อรถ ดังนั้นเมื่อจะก่อสร้างรถไฟฟ้า 10 สายรฟม.จึงควรจะเป็นผู้จัดซื้อรถ บริหารจัดการและเดินรถเป็นของตนเอง

“ช่วงที่ผ่านมาบทบาทของรฟม.คือลงทุนด้านงานโยธาเท่านั้น ส่วนการจัดหารถและเดินรถยังว่าจ้างเอกชน แต่จากนี้ไปรฟม.ควรจะเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด โดยสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการรฟม.น่าจะเข้ามามีบทบาทจัดซื้อรถ บริหารจัดการและเดินรถด้วยตนเอง เพราะเป็นหน่วยงานหลักที่มีบุคลากรที่มีศักยภาพและมีประสบการณ์มาในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งนายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่ารฟม.ก็ได้นำเสนอแผนรับบริหารจัดการเดินรถให้บอร์ดได้รับทราบแล้ว โดยจะเริ่มจากการจัดหารถก่อน หากยังไม่พร้อมเดินรถก็จะทยอยในช่วงต่อไปได้ ซึ่งระยะเวลาอีกประมาณ 2 ปีคงจะเตรียมการให้พร้อมได้ทันโดยเฉพาะขณะนี้ได้เตรียมจัดตั้งหน่วยธุรกิจ(Business Unit)การเดินรถรองรับเอาไว้แล้ว โดยรอเพียงการนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติให้ดำเนินการเท่านั้น”

//----------------------------------------------------

แอร์พอร์ตลิงค์ขอ2พันล้าน
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ อสังหา REAL ESTATE -
คอลัมน์ : อสังหาฯ-คมนาคม
ออนไลน์เมื่อ วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม 2014 เวลา 14:25 น.
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,977 วันที่ 24 - 27 สิงหาคม พ.ศ. 2557
แอร์พอร์ตลิงค์ห้าวไม่หยุด บอร์ดเล็งของบจาก ร.ฟ.ท. 2 พันล้านเสริมสภาพคล่องและเตรียมความพร้อมรับมือเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเชื่อมบางซื่อ-ดอนเมือง และเดินรถสายสีแดงทั้งระบบ พร้อมเดินรถไฟความเร็วสูงเชื่อมระยองในอนาคต เผยสัปดาห์หน้าเจรจา ร.ฟ.ท.กรณีภาระหนี้และปลดแอกอิสรภาพแอร์พอร์ตลิงค์ นายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ ประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า เตรียมนำเสนอขออนุมัติงบประมาณจำนวน 2,000 ล้านบาท ต่อผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในงบประมาณปี 2558 เพื่อนำไปแก้ไขปัญหาสภาพคล่องของแอร์พอร์ตลิงค์ ให้สามารถขับเคลื่อนองค์กรก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ คาดว่าจะได้รับอนุมัติในปี 2559 หลังจากที่ได้เร่งดำเนินการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ให้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ทั้ง 9 ขบวนสามารถให้บริการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและมีความชัดเจนในเรื่องการจัดซื้อขบวนรถเพิ่มอีก 7 ขบวนแล้ว
สำหรับจำนวนเงินดังกล่าวนอกจากนำมาเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพแล้ว ยังเป็นการขยายโอกาสรับหน้าที่บริหารจัดการและเดินรถไฟฟ้าให้กับร.ฟ.ท.นอกเหนือจากส่วนต่อขยายแอร์พอร์ตลิงค์ช่วงพญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง และพร้อมเดินรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ช่วงบางซื่อ-รังสิต ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง-มหาชัย และช่วงบางซื่อ-หัวหมาก อีกทั้งยังพร้อมรับเดินรถไฟฟ้าความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-ระยองในอนาคตตามที่ร.ฟ.ท.มีแผนดำเนินการอีกด้วย

"ขณะนี้แอร์พอร์ตลิงค์เร่งแก้ไขปัญหาต่างๆของแอร์พอร์ตลิงค์ให้หมดไปก่อนที่จะขยายโอกาสรับบริหารจัดการและรับเดินรถให้กับร.ฟ.ท.ทั้งแอร์พอร์ตลิงค์ส่วนต่อขยายเชื่อมบางซื่อ-ดอนเมือง โครงการรถไฟสายสีแดงทั้งระบบ และรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง เพื่อสร้างรายได้ให้สามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคงขอเพียงรัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้เท่านั้น อีกทั้งภายในสัปดาห์หน้ายังจะมีการเจรจาร่วมกับร.ฟ.ท.เพื่อเคลียร์ปัญหาภาระหนี้สินต่อกันที่มีราว 7 หมื่นล้านบาทเพื่อแยกแยะให้ชัดเจนก่อนที่จะเสนอแยกหน่วยงานแอร์พอร์ตลิงค์ออกมาให้สามารถบริหารจัดการในรูปแบบบริษัทจำกัดด้วยตนเอง"
นายจำรูญกล่าวอีกว่าล่าสุดบอร์ดร.ฟ.ท.อนุมัติให้เร่งดำเนินการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่รถไฟฟ้าทั้ง 9 ขบวนโดยที่ประชุมเห็นชอบให้มีการเร่งรัดกระบวนการซ่อมแซมให้เร็วขึ้น ตั้งเป้าหมายหากประมูลหาผู้ชนะเข้ามาซ่อมใหญ่ได้แล้ว จะลดเวลากระบวนการซ่อมให้เสร็จภายใน 23 เดือน เร็วกว่าเดิมที่กำหนดไว้ 53 เดือน เพื่อกลับมาเปิดใช้บริการให้ได้เร็วที่สุด และภายในสัปดาห์นี้ บริษัทจะหารือร่วมกับ ร.ฟ.ท. และบริษัทซีเมนส์ฯ ผู้ผลิตรถไฟฟ้า เพื่อเร่งรัดการซ่อม รวมถึงแผนการจัดหาอะไหล่ และการวางแผนการซ่อมอย่างละเอียด
ปัจจุบันขบวนที่วิ่งให้บริการยังไม่เกินกำหนดมาตรฐานสูงสุดที่กำหนดไว้คือ 1.32 ล้านกม. โดยรถวิ่งความเร็วเฉลี่ย 1.2-1.28 ล้านกม. ขณะเดียวกันก็มีการซ่อมแซมเปลี่ยนอะไหล่ตามอายุการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ อาทิ ลูกปืน จานเบรก ระบบกันสะเทือน ส่วนรูปภาพปัญหารางที่ปรากฏในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ได้มีการปรับปรุงแก้ไขไปแล้ว รวมถึงติดตามผลกระทบอย่างใกล้ชิด
สำหรับแนวทางการปรับปรุงแก้ไขในเบื้องต้นตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้เป็นต้นไปจะยกเลิกการเดินรถไฟฟ้าด่วน(เอ็กซเพรสไลน์ ) 2 ช่วงเวลาตั้งแต่เวลา 06.00-10.00น. และ 22.00-24.00 น.เพื่อปรับตัวขบวนรถมาวิ่งให้บริการรถไฟฟ้าธรรมดา(ซิตีไลน์) เพิ่มขึ้นเป็น 2 ขบวน ประกอบกับช่วงเวลาที่กำหนดดังกล่าวนั้นไม่ค่อยมีผู้โดยสารใช้บริการรถไฟฟ้าด่วน
"ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าซิตีไลน์ เฉลี่ยวันละประมาณ 48,000 คนต่อวัน ขณะที่ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าเอ็กซ์เพรสไลน์ เฉลี่ยวันละประมาณ 300-400 คนต่อวันเท่านั้น และบางช่วงเวลาบางขบวนที่ผู้โดยสารไม่ถึง 10 คน บางครั้งวิ่งรถเปล่าโดยไม่มีผู้โดยสาร อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องการซ่อมใหญ่ของขบวนรถไฟฟ้าทั้ง 9 ขบวน จึงต้องบริหารจัดการขบวนรถให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด จากเดิมที่วิ่งให้บริการเส้นทางรถไฟฟ้าเอ็กซ์เพรสไลน์ จากสุวรรณภูมิ-มักกะสัน และพญาไท-มักกะสัน เหลือเพียงเส้นทางเดียวคือสุวรรณภูมิ-มักกะสันเท่านั้น"

[Mongwin]

อ.จุฬาฯ จี้ รฟท.เร่งซ่อมใหญ่แอร์พอร์ตลิงก์ หวั่นไม่ปลอดภัย
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ 25 ส.ค. 2557 17:18

อ.จุฬาฯ วอนประชาชนอย่าตื่นตระหนก ภาพความเสียหายรถไฟแอร์พอร์ตเรลลิงก์ บนสื่อออนไลน์ ชี้เป็นเพียงข้อมูลบางส่วน ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าไม่ปลอดภัย จี้ รฟท.เร่งจัดจ้างซ่อมบำรุงใหญ่ ก่อนมีเหตุที่คาดเดาไม่ได้...

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ผศ.ดร.บุญชัย แสงเพชรงาม ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในประเด็น" แอร์พอร์ตลิงก์ไม่ปลอดภัยจริงหรือ? ปัญหาระบบงานซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้าขนส่งมวลชนในประเทศไทย" โดยยกกรณีมีการเผยแพร่ภาพความเสียหายของทางรถไฟแอร์พอร์ตเรลลิงก์ บนสื่อสังคมออนไลน์ขณะนี้ว่า ถือเป็นการให้ข้อมูลเพียงบางส่วน และไม่สามารถที่จะนำภาพที่เห็นมาตัดสินว่า รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์อยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย เพราะภาพที่เห็นไม่ได้บอกปริมาณความเสียหาย ไม่ได้บอกตำแหน่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้บอกเวลาภาพที่ถ่ายมา ที่สำคัญขาดการระบุความถี่ หรืออัตราในการเกิดขึ้นว่า เกิดความเสียหายบ่อยแค่ไหน

"ไม่ได้บอกปริมาณความเสียหาย เช่น สปริงว่ามีกี่จุด หากเกิดขึ้นเพียง 1 -2 จุด ก็ไม่ใช่เรื่องอันตราย คือตำแหน่งที่เกิดขึ้นต้องมีหลายจุดมาก ถึงจะส่งผลให้เกิดรถไฟตกราง อยู่ๆ ไม่ใช่ว่า เสียบางจุดเล็ก แล้วรถไฟจะตกรางหรือเกิดอุบัติเหตุ"

นอกจากนี้ โดยปกติทางรถไฟเหมือนผิวของถนน เมื่อมีการใช้งานต้องมีการสึกหรอและเสียหาย ดังนั้นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับส่วนประกอบของทางรถไฟ เช่น ราง อุปกรณ์ยึดเหนี่ยว จึงเป็นเรื่องปกติที่ยิ่งใช้มากจะมีอัตราการเกิดความเสียหายมาก แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่การตรวจให้พบความเสียหาย วัดปริมาณ ประเมินความเสียหาย และดำเนินการบำรุงรักษาให้เหมาะสม ซึ่งการตรวจสอบระบบรถไฟมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ แบบซ่อมบำรุงเบา และซ่อมบำรุงหนัก ซึ่งงานซ่อมบำรุงเบาเป็นงานที่จะมีการตรวจสอบแก้ไขอยู่เป็นระยะๆ ทั้งในรูปแบบของรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน หากไม่ผ่านมาตรฐานขั้นต่ำ ก็ไม่สามารถนำรถไฟฟ้าออกไปให้บริการได้ ซึ่งแอร์พอร์ตลิงก์ได้ดำเนินการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และยืนยันว่า หากไม่ผ่านการตรวจสอบฝ่ายเดินรถก็จะไม่นำรถออกมาวิ่งให้บริการ

ส่วนการซ่อมบำรุงหนัก ซึ่งปกติรถไฟฟ้ามีรอบเวลาที่จะต้องมีการตรวจสอบ สภาพทั้งระบบในช่วงระยะการให้บริการ 1.2 ล้านกิโลเมตร หรือ 1.32 กิโลเมตร ซึ่งจากข้อเท็จจริงจนถึงปัจจุบันหรือเดือน ส.ค. 2557 แอร์พอร์ตลิงก์ให้บริการมาแล้วประมาณ 1.2 ล้านกิโลเมตร และถึงรอบต้องเข้าสู่บริการตรวจเช็กทั้งระบบ แต่จากปัญหาเรื่องความคล่องตัวในการบริหารจัดการ ดังนั้น ประเทศไทยควรมีองค์กรกลางทำหน้าที่ในการกำกับดูแลมาตรฐานโครงการรถไฟฟ้า ทั้งในเรื่องการออกแบบก่อสร้าง ตลอดจนการให้บริการ เพื่อลดข้อจำกัดอันเกิดจากหน่วยงานที่ทำหน้าที่วางแผน ออกแบบระบบ และการตรวจเพื่อประเมินการซ่อมบำรุงก็ไม่ควรตรวจสอบภายในกันเอง

ขณะที่ ผศ.ดร.ประมวล สุธีจารุวัฒน ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า แม้ปัจจุบันรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์จะได้รับการตรวจสภาพอยู่เป็นระยะจึงบอกได้ ว่า มีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่ต้องเข้าสู่ช่วงเวลาที่จะต้องมีการซ่อมบำรุงหนัก หากไม่เริ่มต้นให้เร็วจะมีความเสี่ยงภายใต้ความไม่แน่นอน เป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ ดังนั้น อาจจำเป็นที่จะต้องให้ รฟท.เร่งเรื่องของสัญญาและการจัดซื้อจัดจ้างให้เร็วขึ้น เพื่อที่จะสามารถดำเนินการซ่อมบำรุงใหญ่ได้ทันที โดยยืนยันว่า ภาพที่เผยแพร่ในสังคมออนไลน์ไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าแอร์พอร์ตลิงก์ไม่ปลอดภัย ดังนั้นจึงไม่อยากให้ประชาชนเกิดความตระหนกตกใจกับภาพที่เกิดขึ้น

เช่นเดียวกับ ดร.นักสิทธิ์ นุ่มวงษ์ ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า หากเกิดการซ่อมบำรุงหลังเดินรถให้บริการมากกว่า 1.32 ล้านกิโลเมตร จะทำให้ความน่าเชื่อถือลดลง เพราะจะส่งผลต่อระบบการเดินรถ ตารางเดินรถอาจจะมีความล่าช้า เนื่องจากต้องมีการปรับลดความเร็ว ส่งผลในเรื่องของความไม่แน่นอนเรื่องเวลา และจะเป็นการบริหารจัดการรถในความไม่แน่นอน เพราะคาดเดาไม่ได้ว่าชิ้นส่วนใดจะเกิดปัญหา จึงอยากเสนอให้บริษัทรถไฟฟ้า รฟท.จำกัด มีความเป็นอิสระในการบริหารจัดการ เพื่อความคล่องตัวในการจัดหาวัสดุ อุปกรณ์ เพื่อการซ่อมบำรุงระบบรถไฟฟ้า

นอกจากนี้ ควรมีผู้บริหารที่เข้าใจปรัชญาและธรรมชาติการดำเนินธุรกิจการให้บริการรถไฟฟ้า และควรมีวิธีจูงใจให้บุคลากรทางเทคนิคที่มีความสามารถในการทำงานสอดคล้องกับ บทบาทหน้าที่มาร่วมงาน.

[Wisarut]

สามารถ โต้ ไม่จริง รองผู้ว่าฯ รฟท. ซ่อม แอร์พอร์ตลิงก์ นานแล้ว
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 26 สิงหาคม 2557 17:13


"สามารถ"โต้ รองผู้ว่าฯ รฟท.กรณีแอร์พอร์ตลิงก์ ยกเอกสารภายใน ยัน ไม่มีวิศวกรกล้าเซ็นรับรองความปลอดภัย ย้ำจุดยืน ให้เร่งซ่อมไม่ใช่สร้างความตื่นตระหนกให้สังคมแตกตื่น

นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายกมล ตั้งกิจเจริญชัย รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่ให้สัมภาษณ์พาดพิงตนว่า ไม่รู้ว่า ดร.สามารถ มีวัตถุประสงค์ดีหรือร้ายที่ได้โพสต์รูปแสดงสภาพรางของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ เพราะรอยสึกที่ผิวราง ได้ดำเนินการแก้ไขไปนานแล้วนั้น ตนขอชี้แจงว่า นายกมล ไม่ไปร่วมสนทนากับตนในรายการ “คมชัดลึก” เมื่อคืนวันที่ 19 ส.ค.57 ทั้งๆ ที่ได้รับปากกับผู้ดำเนินรายการไว้แล้ว ตนจึงขอใช้ช่องทางสื่อฯ ต่างๆ รวมถึงเฟซบุ๊กชี้แจงคือ

1. วัตถุประสงค์ในการโพสต์รูปดังกล่าวก็เพื่อต้องการให้แอร์พอร์ตลิงก์ เร่งแก้ไขด่วน ซึ่งผมได้บอกวัตถุประสงค์นี้มาตลอด ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร และพนักงานของแอร์พอร์ตลิงก์

2. จากเฟซบุ๊กของแอร์พอร์ตลิงก์ พบว่า เมื่อคืนวันที่ 20 ส.ค.57 มีทีมช่างขึ้นไปซ่อมรางบริเวณทางสับหลีกของสถานีหัวหมากตามรูป 2 ใน 5 รูป ที่ตนโพสต์ ไม่ใช่ได้แก้ไขนานแล้ว ตามคำให้สัมภาษณ์ของท่านรองฯ กมล และผู้บริหารของแอร์พอร์ตลิงก์ อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการซ่อมครั้งนี้ทุกคน ที่ได้ให้ความสนใจต่อคำท้วงติงของตน ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและพนักงานของแอร์พอร์ตลิงก์


"ผมดีใจที่ท่านรองฯ กมลให้คำยืนยันว่า รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ มีความปลอดภัย แต่อยากให้ท่านลองย้อนทบทวนถึงบันทึกข้อความ ลงวันที่ 7 ส.ค.57 จากผู้อำนวยการศูนย์วิศวกรรมระบบรถไฟฟ้าและเครื่องกล รฟท. ถึง ผู้ว่าการรถไฟฯ ผ่านท่านรองฯ กมล ซึ่งมีข้อความตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันกิโลเมตรทำการสะสมเกินกว่าข้อกำหนดในคู่มือการซ่อมบำรุง ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเดินรถ และขาดความมั่นใจในการใช้บริการของผู้โดยสาร รวมถึงความเชื่อมั่นในระบบการเดินรถไฟฟ้าโดยรวมของประเทศไทย”และมีข้อความอีกตอนว่า “บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด และการรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่สามารถรับรองความปลอดภัยของระบบที่ทำการซ่อมบำรุงได้เอง เนื่องจากไม่มีวิศวกรตรวจสอบอิสระ ซึ่งเป็นคนกลางในการตรวจสอบรับรองระบบตามมาตรฐานความปลอดภัย ในการเดินรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าที่มีความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง”จะอย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ที่รับผิดชอบการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์สร้างความมั่นใจให้กับทีมช่างซ่อมของแอร์พอร์ตลิงก์ให้ได้ อย่าให้มีบันทึกข้อความที่ผมโชว์ให้ดูนี้เกิดขึ้นอีก ผมขอย้ำไว้ก่อนว่า เรื่องที่ท่านกำลังจะอ่านอยู่ในขณะนี้ ผมไม่ได้ต้องการทำให้ผู้โดยสารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ตื่นตระหนกตกใจ แต่ต้องการให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบเร่งแก้ไขโดยด่วน ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและพนักงานของแอร์พอร์ตลิงก์"

เอกสารที่ท่านเห็นอยู่นี้ เป็นบันทึกภายในบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) โดยมี ร.ฟ.ท. ถือหุ้น 100% เต็ม บันทึกฉบับนี้ ทำขึ้นเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.56 เรื่อง แจ้งสถานการณ์การวิ่งให้บริการของขบวนรถไฟฟ้าครบ 1,000,000 กิโลเมตร ผู้ทำบันทึกฉบับนี้ คือ รักษาการผู้จัดการแผนกระบบตู้ไฟฟ้า โดยทำถึง ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมและซ่อมบำรุง ทราบว่า มีการล่าลายเซ็นของพนักงานในแผนกระบบตู้รถไฟฟ้าเป็นบัญชีหางว่าว สรุปใจความสำคัญได้ดังนี้

1. ตามคู่มือการซ่อมบำรุงรักษาระบบรถไฟฟ้า จะต้องซ่อมบำรุงใหญ่ (Overhaul) เมื่อขบวนรถไฟฟ้าวิ่งให้บริการครบ 1 ล้าน กม.

2. ณ เวลานั้น (28 มิ.ย.56) ขบวนรถไฟฟ้าด่วน (Express) ทุกขบวนยกเว้นขบวนรถไฟฟ้าด่วน Express 02 ได้วิ่งให้บริการเกินระยะทางที่กำหนดแล้ว (เกิน 1 ล้าน กม.)

3. แผนกระบบตู้รถไฟฟ้า ได้สั่งซื้ออะไหล่ที่จำเป็นต้องใช้ในการซ่อมบำรุงใหญ่ แต่ยังไม่ได้รับ

ดังนั้น แผนกระบบตู้รถไฟฟ้า ซึ่งรับผิดชอบโดยตรงต่อการซ่อมบำรุงรักษา การตรวจสภาพความพร้อมของรถไฟฟ้าก่อนให้บริการ และการปล่อยรถไฟฟ้าออกให้บริการ จึงไม่สามารถรับผิดชอบต่อสภาพความปลอดภัย และสภาพความพร้อมของรถไฟฟ้าได้อีกต่อไป รวมทั้งอุบัติเหตุใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากข้อบกพร่องของอุปกรณ์ อะไหล่ หรือชิ้นส่วนต่างๆ ในขบวนรถไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพ โดยมีสาเหตุมาจากความล่าช้าในการซ่อมบำรุงใหญ่ที่ล่าช้าออกไปจากแผนงานเดิมที่ได้มีการวางแผนไว้ หากไม่จำเป็น ตนจะหยุดเขียนเรื่องแอร์พอร์ตลิงก์ไว้ก่อน.

[Wisarut]

ตารางเดินรถไฟด่วนสนามบิน บังคับใช้ 1 กันยายน 2557

https://www.facebook.com/PR.ARL/photos/pcb.811209282234044/811208835567422/?type=1&theater
https://www.facebook.com/PR.ARL/photos/pcb.811209282234044/811208862234086/?type=1&theater

[Wisarut]

แอร์พอร์ตลิงก์ขบวน 2 เดี้ยง! วิ่งได้แค่ 20 กม./ชั่วโมง ต้องจอดรอซ่อมที่สุวรรณภูมิ


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 สิงหาคม 2557 19:32 น.

“แอร์พอร์ตลิงก์” ขบวนหมายเลข 2 เดี้ยง ช่วง 6 โมงเย็น วิ่งได้แค่ 20 กม./ชั่วโมง จากความเร็วปกติ 120 กม./ชั่วโมง ต้องจอดรอซ่อมที่สุวรรณภูมิ เร่งนำขบวนรถด่วนมาเสริม พร้อมประกาศให้ผู้โดยสารคืนตั๋วได้

รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้ (28 ส.ค. ) ที่สถานีรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ได้เกิดความโกลาหลขึ้นในทุกสถานี เนื่องจากผู้โดยสารไม่สามารถเดินทางได้ตามกำหนดเวลา ขณะที่สถานีประกาศคืนตั๋วผู้โดยสาร เนื่องจากรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ขบวนหมายเลข 2 เกิดขัดข้อง ไม่สามารถวิ่งได้ในความเร็วระดับมาตรฐาน ซึ่งปกติจะวิ่งได้ประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เมื่อเกิดขัดข้องขึ้นทำให้ความเร็วลดลงเหลือ 20 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ทำให้ต้องนำรถที่เกิดขัดข้องไปจอดรอการแก้ไขที่ศูนย์แอร์พอร์ตลิงก์สนามบินสุวรรณภูมิ แล้วนำรถไฟฟ้าสายเอ็กซ์เพรส มาวิ่งทดแทนเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารแอร์พอร์ตลิงก์ เคยเสนอของบประมาณในการซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ครั้งใหญ่ แต่ติดปัญหาสภาพคล่องทำให้ไม่สามารถทำการซ่อมบำรุงได้ตามระยะเวลา จึงทำให้รถไฟฟ้าที่ให้บริการเกิดปัญหาขึ้นบ่อยๆ ซึ่งขณะนี้จำนวนผู้โดยสารมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมีจำนวนผู้โดยสารที่ใช้ประมาณ 54,000 คนต่อวัน

//---------------------------

สงครามอีกยกหนึ่ง

ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์
วิ่งแค่ 20 กม./ชม.
ไหนว่าปลอดภัย ?

เย็นวานนี้ (28 ส.ค.57) รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ขบวนหนึ่งเกิดขัดข้อง ทำให้ต้องลดความเร็วสูงสุดลงเหลือเพียงแค่ 20 กม./ชม. จากความเร็วสูงสุด 120 กม./ชม. ซึ่งเป็นความเร็วที่ลดลงมาแล้วจาก 160 กม./ชม. ส่งผลให้ผู้โดยสารโกลาหลกันไปทั่วทุกสถานี เนื่องจากไม่สามารถเดินทางได้ตามเวลาที่ระบุไว้ในตารางการเดินรถ

อันที่จริงเรื่องรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์เสียนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำแทบทุกวันในระยะนี้ เนื่องจากขาดการซ่อมบำรุงรักษาตามคู่มือการซ่อมบำรุง แต่หลายครั้งไม่ปรากฏเป็นข่าว ทำให้ผู้โดยสารต้องรอขบวนรถไฟฟ้านานขึ้น ส่งผลให้เสียเวลาการเดินทาง ลองมาอ่านคำชี้แจงของแอร์พอร์ตลิงก์และคำระบายของผู้โดยสารในเฟซบุ๊กของแอร์พอร์ตลิงก์ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมากันดูนะครับ

26 สิงหาคม 2557
แอร์พอร์ตลิงก์ “ในวันนี้ 26/08/2557 รถไฟฟ้า City line ขัดข้อง 2 ขบวน จึงต้องปรับแผนตารางเดินรถไฟฟ้าเป็นทุก 15 นาที (ตารางวันหยุดเสาร์อาทิตย์) แต่ยังคงมีรถเสริมจากสถานีหัวหมาก 1 ขบวน และยกเลิก Makkasan Express ช่วงเวลา 06:00-09:30 น. และจะกลับมาให้บริการอีกครั้งในเวลา 09:30 น. เริ่มที่สถานีมักกะสัน ขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ”

ผู้โดยสาร (คัดลอกมาเฉพาะบางคน เพื่อเป็นตัวอย่างเท่านั้น)
“ห้าขบวนแล้วคะ ยังไม่ได้ขึ้นเลย เต็มมาตั้งแต่ต้นทาง สถานีที่อยู่กลางๆ ทำไงคะ ควรจะมีการจัดการที่ดีกว่านี้ ชื้อรถไฟเพิ่มดีมั้ย เพราะทุกคนที่มาใช้บริการหวังหลีกเลี่ยงรถติดจากถนน และจ่ายเงินขึ้นมาใช้บริการเพื่อความรวดเร็ว”
“ขอ โทษนะครับ บริหารจัดการเป็นกันหรือเปล่า 2 วันแล้ว ตอนเช้าคนเยอะมากๆ รอนานมากๆ ผมไม่สนหรอกครับว่าจะซื้อรถอีกกี่สิบคัน มันไม่ได้แก้ปัญหานี้ตอนนี้ได้ ช่วยเอา express line ที่ขาดทุนเยอะๆ มาวิ่งปกติเถอะ ได้ไหม”

27 สิงหาคม 2557
แอร์พอร์ตลิงก์ “วันนี้ 27/08/57 รถไฟฟ้า City line ขัดข้อง2 ขบวน จึงปรับตารางเดินรถไฟฟ้าเป็นทุก 12 นาที (ยังคงมีรถเสริมจากสถานีหัวหมาก) และยกเลิก Makkasan Express ช่วงเวลา 06:00-09:30น. และจะให้บริการอีกครั้งในเวลา 10:30 น. ขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ”

ผู้โดยสาร (คัดลอกมาเฉพาะบางคน เพื่อเป็นตัวอย่างเท่านั้น)
“เสียบ่อยจังเลย ดูแลเป็นหรือเปล่า”
“จะขัดข้องอีกกี่วันคะ จะได้เปลี่ยนเส้นทางการเดินทาง???”

28 สิงหาคม 2557 มีคำชี้แจงของแอร์พอร์ลิงก์หลายครั้ง แต่ผมนำมาถ่ายทอดเพียงครั้งเดียว
แอร์พอร์ตลิงก์ “เนื่องจากรถไฟฟ้าเกิดเหตุขัดข้อง ทำให้เกิดความล่าช้าประมาณ 20 นาที ทั้งระบบ ขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ”

ผู้โดยสาร (คัดลอกมาเฉพาะบางคน เพื่อเป็นตัวอย่างเท่านั้น)
“ใช้บริการทุกวัน เช้า เย็น ขัดข้องมาเป็นอาทิตย์แล้วนะคะ ผู้โดยสารรอจนล้นชานชาลาทุกเช้า และตอนนี้ก็เช่นกัน...”
“ขัดข้องมาเป็นอาทิตย์ จะขัดข้องไปอีกกี่วัน กี่เดือน กี่ปี ?”
“รอมา 40 นาที ยังไม่ได้ขึ้นเลยค่ะ เพลีย”
“ขัดข้องบ้างไม่ว่า...แต่พักหลังชักบ่อยเกินไปแล้ว...แล้วจะมั่นใจได้มั้ยเนี่ย ว่าปลอดภัย ปรับปรุงเถอะค่ะ”
“แก้ไขเร็วๆๆๆ สิครับ คนรอกันเพียบ ถ้ามีปัญหาก็หยุดให้บริการไปก่อนสิ ต้องรอให้เกิดเหตุก่อนหรืออย่างไรครับ”

ผมทราบมาว่าเวลานี้ช่างซ่อมรถไฟฟ้าอยู่ในสถานะลำบาก เพราะอะไหล่ไม่มี ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยถอดอะไหล่จากขบวนหนึ่งมาใส่ให้ขบวนอีกขบวนหนึ่ง ที่เรียกกันในหมู่ช่างซ่อมว่า “ยำอะไหล่” แต่อะไหล่จากขบวนที่ถอดมานั้นก็ใช้งานมาเป็นระยะทางเกินความปลอดภัยแล้ว นั่นคือวิ่งกันมาเกือบ 1.3 ล้าน กม. แล้วทั้งนั้น พนักงานขับรถไฟฟ้าก็แทบไม่อยากขับกันแล้ว เพราะประสบเหตุขัดข้องเป็นประจำ เช่น เมื่อเร็วๆ นี้ ประตูรถไฟฟ้าขบวนหนึ่งขัดข้อง พนักงานขับรถไม่สามารถแก้ไขได้ ส่งผลให้ขบวนนั้นล่าช้า พนักงานขับรถไฟฟ้าคนดังกล่าวก็ถูกตำหนิ

หลังจากผมโพสต์รูปภาพซึ่งแสดงสภาพการชำรุดของรางรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ จำนวน 5 รูป ผู้บริหารของแอร์พอร์ตลิงก์และของ รฟท. ก็ออกมาโต้ว่าเป็นรูปเก่าที่เกิดขึ้นมานานมากแล้ว และได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งยืนยันความปลอดภัยในการให้บริการ ถึงเวลานี้เราคงไม่สามารถถามหาความรับผิดชอบจากผู้บริหารเหล่านั้นได้ ผมจึงขอเสนอแนะให้ลดความถี่ในการปล่อยขบวนรถไฟฟ้าลงในช่วงเวลาที่มีผู้โดยสารน้อย ทั้งๆ ที่ผมทราบดีว่าจะทำให้ผู้โดยสารเดือดร้อน แต่ผมเป็นห่วงในความปลอดภัยของผู้โดยสารมากกว่าความไม่สะดวกในการเดินทาง

ปัจจุบันแอร์พอร์ตลิงก์ให้บริการรับส่งผู้โดยสารตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 24.00 น. โดยมีความถี่ของขบวนรถไฟฟ้าแตกต่างกันตามปริมาณผู้โดยสาร ผมขอเสนอให้ลดความถี่ของขบวนรถไฟฟ้าลงในช่วงเวลา 10.00 น. – 15.00 น. และหลังจากเวลา 21.00 น. ไปแล้ว แต่อย่าถามผมว่าจะให้ลดความถี่หรือจะให้ปล่อยขบวนรถไฟฟ้าในช่วงเวลาดังกล่าวทุกๆ กี่นาที เพราะเวลานี้การวิ่งของแอร์พอร์ตลิงก์ไม่ได้เป็นไปตามตารางการเดินรถ หากมาตรการดังกล่าวไม่ได้ผลก็จำเป็นที่จะต้องพิจารณางดให้บริการในช่วงเวลาดังกล่าว

เหตุที่ผลต้องเสนอเช่นนี้ก็เพราะต้องการยืดอายุการใช้งานของขบวนรถไฟฟ้า และเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร เนื่องจากการซ่อมบำรุงใหญ่ต้องใช้เวลานานนับปี

https://www.facebook.com/Dr.Samart/photos/a.232032303608347.1073741828.232025966942314/497748690370039/?type=1

[Wisarut]

นัดถกผู้ถือหุ้นวันนี้ คาดรื้อบอร์ดแอร์พอร์ตลิ้งค์ยกชุด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 กันยายน 2557 08:20 น.


รายงานข่าวแจ้งว่าในวันที่ 1 กันยายนนี้ จะมีการประชุมผู้ถือหุ้น บริษัทรถไฟฟ้าร.ฟ.ท. จำกัด ผู้บริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริษัททั้งชุด

เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาผลงานไม่คืบหน้า และไม่่เข้าเป้าหมายที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กำหนดไว้ หลังจากที่ได้มีการติดตามความคืบหน้าจากการตรวจสอบของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.)

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริหารชุดปัจจุบันที่มีนายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ เป็นประธานกรรมการยังมีคดีฟ้องร้องกับอดีตซีอีโอที่ร้องต่อศาลว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อีกทั้งหนังสือร้องเรียนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) หนังสือจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ต่อกรณีสถานภาพที่ของประธานกรรมการ/รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของนายจำรูญที่ส่อขาดคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งในฐานะผู้แทนกระทรวงคมนาคม ทั้งๆที่เกษียณอายุราชการไปแล้วตั้งแต่ 30 กันยายน 2555 ตลอดจนข้อมูลการทุจริตการจัดซื้อ จัดจ้างโดยไม่ทำตามมติคณะกรรมการไปปฏิบัติในรายการเจียรและตรวจสอบรางรถไฟฟ้าโดยวิธีพิเศษ แต่ผิดระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของแอร์พอร์ตลิ้งค์

สำหรับการแก้ไขปัญหาการเดินรถเฉพาะหน้า เบื้องต้นตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้เป็นต้นไปจะยกเลิกการเดินรถไฟฟ้าด่วน (เอ็กซเพรสไลน์ ) ใน 2 ช่วงเวลา ตั้งแต่เวลา 6.00-10.00 น และ 22.00-24.00 น. เพื่อปรับตัวขบวนรถมาวิ่งให้บริการรถไฟฟ้าธรรมดา(ซิตี้ไลน์) เพิ่มอีก 2 ขบวน ประกอบกับช่วงเวลาที่กำหนดดังกล่าวมีผู้โดยสารใช้บริการรถไฟฟ้าด่วนน้อยมาก

ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าซิตี้ไลน์ เฉลี่ยวันละประมาณ 48,000 คนต่อวัน ขณะที่ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าเอ็กซ์ เพรสไลน์ เฉลี่ยวันละประมาณ 300-400 คนต่อวันเท่านั้น และบางช่วงเวลาบางขบวนทีผู้โดยสารไม่ถึง 10 คน บางครั้งวิ่งรถเปล่าโดยไม่มีผู้โดยสาร อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องการซ่อมใหญ่ของขบวนรถไฟฟ้าทั้ง 9 ขบวน จึงต้องบริหารจัดการขบวนรถให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด จากเดิมที่วิ่งให้บริการเส้นทางรถไฟฟ้าเอ็กซ์เพรสไลน์ จากสุวรรณภูมิ-มักกะสัน และพญาไท-มักกะสัน เหลือเพียงเส้นทางเดียวคือสุวรรณภูมิ-มักกะสันเท่านั้น

[Wisarut]

บอร์ดแอร์พอร์ตลิ้งค์ตั้ง“ภากรณ์” นั่งรักษาการซีอีโอ
โดย คเณ มหายศ
ข่าวรายวัน - คอลัมน์ : ข่าวในประเทศ
ฐานเศรษฐกิจ
วันพุธที่ 03 กันยายน 2014 เวลา 20:04 น.

บอร์ดแอร์พอร์ตลิ้งค์ตั้ง “สิทธิพงษ์” ประธานคณะกรรมการศึกษาผลกระทบกรณีหยุด-ไม่หยุดเดินรถแอร์พอร์ตลิ้งค์เพื่อซ่อมบำรุงครั้งใหญ่หวั่นกระทบด้านความปลอดภัย 22กย.นี้ได้คำตอบชัดเจน คาดใช้เวลา 6เดือน- 2ปี พร้อมตั้ง “ภากรณ์” นั่งรักษาการซีอีโอ ส่วนกรณีการสรรหาซีอีโอคนใหม่ยังไม่เร่งดำเนินการ พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร ประธานคณะกรรมการบริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด ผู้บริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ คนใหม่ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ภายหลังการประชุมบอร์ดชุดใหม่ว่าได้แต่งตั้งให้นายสิทธิพงษ์ พรมลา รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) และหัวหน้าหน่วยธุรกิจซ่อมบำรุง เป็นประธานคณะอนุกรรมการประเมินความเสี่ยงในการเดินรถจากกรณีที่จะหยุดหรือไม่หยุดเดินรถแอร์พอร์ตลิ้งค์จากกรณีที่จะมีการปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของการให้บริการเดินรถ

ทั้งนี้เป็นเพราะกระบวนการสั่งซื้ออะไหล่จะต้องใช้เวลากว่า 6เดือน จึงเป็นห่วงเรื่องความเสียหายที่จะเกิดขึ้นหากยังฝืนให้บริการ โดยวันที่ 22กันยายนนี้จะทราบคำตอบแน่ชัด เพราะต้องเชิญบริษัทต่างๆที่ซ่อมบำรุงแอร์พอร์ตลิ้งค์ที่ผ่านมามาหารือให้แน่ชัดก่อน หากตัดสินใจต้องหยุดให้บริการเดินรถจะใช้เวลาอีกประมาณ 1สัปดาห์เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปรับทราบอย่างทั่วถึงกัน
ประการสำคัญหากอาจต้องหยุดให้บริการเป็นระยะเวลานานอยากให้ดำเนินการในช่วงส่วนต่อขยายถึงดอนเมืองควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการวางระบบต่างๆไปในคราวเดียวกัน เนื่องจากแอร์พอร์ตลิ้งค์คือรถไฟฟ้าที่ให้บริการเชื่อมโยงระหว่างสนามบินดอนเมืองกับสนามบินสุวรรณภูมิ แต่จะเน้นให้บริการซ่อมบำรุงให้แล้วเสร็จโดยเร็วมากกว่า

“แม้ว่าจะมีผู้เสนอแนวคิดให้จัดรอบการซ่อมก็ตามแต่เรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อน ซึ่งการหยุดให้บริการอาจต้องใช้เวลานาน 6เดือน- 2ปี เนื่องการจัดซื้ออะไหล่จะใช้เวลาประมาณ 6เดือน เพราะหากยังขืนวิ่งให้บริการเกรงว่าจะเกิดผลกระทบที่รุนแรงได้ จึงต้องประชาสัมพันธ์ให้หาแนวทางหรือวางแผนไปใช้บริการรูปแบบอื่นทดแทนไปพลางก่อน ทั้งนี้จะประสานร.ฟ.ท.เพื่อเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป”

ประธานบอร์ดแอร์พอร์ตลิ้งค์คนใหม่กล่าวอีกว่านอกจากนั้นยังแต่งตั้งให้นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ด้านโครงสร้างพื้นฐาน 1ทำหน้าที่รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด แทนพล.อ.อ.คำรบ ลียะวณิช อดีตรักษาการซีอีโอที่ต้องพ้นตำแหน่งจากการลงมติผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 1กันยายนที่ผ่านมาอีกด้วย

“เร่งรัดการจัดซื้อขบวนรถเพิ่มอีก 7 ขบวนควบคู่กันไปด้วย แต่ในเบื้องต้นอาจจะต้องขอยกเลิกสัญญากับกลุ่มบริษัทสามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัทแดนไทย จำกัดที่ให้บริการเช็คอินผู้โดยสารที่สถานีมักกะสันเนื่องจากต้องเสียค่าใช้บริการ 3 ล้านบาทให้บริษัทสามารถ และ 4 ล้านบาทให้กับบริษัทแดนไทย จำกัด เพราะครบกำหนดสัญญาไปเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมาโดยมีการต่อสัญญาครั้งละ 5 เดือน ซึ่งจะครบกำหนดเดือนกันยายนนี้พอดี โดยเฉลี่ยปรากฎว่ามีผู้มาใช้บริการเช็คอินวันละประมาณ 12 คนเท่านั้น”

[Wisarut]

ร.ฟ.ท.สั่งแก้ทีโออาร์ซื้อแอร์พอร์ตลิงค์7ขบวน
ข่าวเศรษฐกิจ วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ.2557 21:09น.

บอร์ด ร.ฟ.ท. สั่งแก้ไขร่างทีโออาร์ จัดซื้อรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ 7 ขบวน คาด 4-5 เดือน เซ็นสัญญา
นายยออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยการประชุมบอร์ด ว่า ที่ประชุมได้สั่งแก้ไขร่างทีโออาร์จัดซื้อรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ 7 ขบวน วงเงิน 4,800 ล้านบาท โดยประเด็นที่ต้องแก้ไข คือ เอกชนที่เสนอราคาจะต้องสามารถผลิตขบวนรถจากเดิมที่กำหนดว่าต้องผลิตได้ 100 ตู้ เป็น 500 ตู้ แก้ไขปลดรถขบวนใหม่ -ขบวนเก่า ให้ไม่ตัองเชื่อมต่อกัน เพื่อเปิดโอกาสให้มีผู้เข้าแข่งขันมากขึ้น

นอกจากนี้ บอร์ด ร.ฟ.ท. ได้อนุมัติเงินกู้ ปี 2558 วงเงิน 56,000 ล้านบาทในการพัฒนาโครงการของ ร.ฟ.ท. พร้อมกับอนุมัติปรับลดวงเงินปีงบประมาณ 2557 จาก 50,000 ล้านบาท เหลือ 19,000 ล้านบาท เนื่องจากโครงการที่ดำเนินการล่าช้ากว่าแผน จึงต้องปรับงบรายจ่ายไปในปีหน้า

ด้าน นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า แอร์พอร์ตลิงค์ กล่าวว่า ในส่วนของการจัดซื้อขบวนรถทั้ง 7 ขบวน จะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งคาดว่าภายใน 4-5 เดือน หรือประมาณเดือน ก.พ. 2558 จะเซ็นสัญญา และภายใน 2 ปี จะได้รับขบวนรถ