View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 09/09/2014 7:39 am Post subject:
ksomchai wrote: อาจารย์หมายถึง สถานีวะตะแบก(เทพสถิต),สถานีปัตตานี(โคกโพธ์) หรือเปล่า ครับ ผมเห็นด้วยกับอาจารย์ ครับ
แต่เขาคงต้องการสื่อตวามหมายว่า เดิมคือสถานีอะไร ผมรู้จักสถานีวะตะแบกก็คือตัวอำเภอเทพสถิต เมื่อคราว
นั่งรถไฟ ชมทุ่งหญ้า-ทุ่งดอกกระเจียว ที่น้าหมีโดนัท railway-trip จัดเมื่อสองปีที่แล้วนี่เอง
ใช่แล้วครับพี่สมชาย ขอบคุณครับ
โดยเฉพาะสถานีโคกโพธิ์ ที่ผมขึ้นลงเป็นประจำอยู่ ๓ ปีสมัยเรียน ม.ต้นที่สาธิต มอ.ปัตตานีครับ
การเปลี่ยนชื่อเป็นปัตตานี คงเพื่อให้เข้าใจชัดเจนว่าเป็นสถานีประจำจังหวัด ลงรถไฟที่นี่เข้าเมืองได้ ก่อนหน้าจะเปลี่ยนชื่อ ก็มีป้ายติดไว้ใต้ป้ายสถานีครับว่า "ไปปัตตานีลงที่นี่"
ผมไม่มีข้อมูลครับว่ามีเหตุผลทางด้านการเมือง การปกครอง ความมั่นคง ฯลฯ อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนชื่อหรือไม่ แต่ความจำเป็นที่ต้องวงเล็บว่า (โคกโพธิ์) ก็อาจจะเพื่อให้เกียรติเจ้าของพื้นที่ และสื่อความหมายตามที่พี่สมชายบอกครับ
ส่วนเหตุผลที่ไม่ถูกใจก็เพราะ เสียดายชื่อเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ ต้องมาอยู่ในวงเล็บทำให้ชื่อยาวเหยียดแปลก ๆ ครับ
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 09/09/2014 5:34 pm Post subject:
การรถไฟฯ เปิดเวทีมีร่วมส่วน ปชช. โครงการรถไฟบ้านไผ่-นครพนม
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 กันยายน 2557 15:01 น.
มุกดาหาร - การรถไฟแห่งประเทศไทย ประชุมใหญ่การมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งที่ 2 โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม
วันนี้ (9 ก.ย. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องพลอยบอลรูม โรงแรมพลอยพาเลช อ.เมือง จ.มุกดาหาร นายสกลสฤษฎ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานเปิดการประชุมปฐมนิเทศโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม แนวเส้นทางรถไฟสายอีสานตอนกลาง ก่อสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด โดยมีจุดเชื่อมต่อจากอำเภอบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ไปยัง จ.นครพนม
เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทาง และขนส่งสินค้าภูมิภาคได้สะดวกขึ้น เมื่อการก่อสร้างทางคู่แล้วเสร็จจะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งภาคประชาชน และภาคเอกชนในด้านต่างๆ มากมาย ตลอดจนเพื่อสร้างเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคีในพื้นที่โครงการ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 350 คน
ทั้งนี้ แนวเส้นทางสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม มีระยะทางประมาณ 354+783 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จ.ขอนแก่น เริ่มต้นที่บ้านหนองแวงไร่ อ.บ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-ยโสธร-มุกดาหาร-นครพนม เบื้องต้นมี 30 สถานี และ 1 ชุมทางรถไฟ โดยผ่าน จ.มุกดาหาร มี 4 สถานี ได้แก่ สถานีนิคมคำสร้อย สถานีมุกดาหาร สถานีสะพานมิตรภาพ 2 และสถานีหว้านใหญ่ ส่วนปลายทางรถไฟรางคู่สิ้นสุดที่ จ.นครพนม
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
Posted: 12/09/2014 12:06 pm Post subject:
ชาวร้อยเอ็ดวิตกทางรถไฟใหม่ทับที่ทำกิน วอนรัฐแก้ปัญหาจัดหาที่ทำกินใหม่
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 กันยายน 2557 21:01 น.
ร้อยเอ็ด - ร.ฟ.ท. รับฟังความคิดเห็นชาวร้อยเอ็ดถึงผลการศึกษาโครงการสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม หวังเสนอรัฐบาลดำเนินการตามแผนในปี 59 คาดก่อสร้างเสร็จในปี 62 แต่สะดุดที่ปัญหากระทบที่ดินทำกินชาวบ้านต้องเวนคืนหมด ลั่นต้องหาที่ดินทำกินให้ชาวบ้านใหม่
วันนี้ (11 ก.ย.) ที่โรงแรมเพชรรัชต์ การ์เด้น อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จัดประชุมใหญ่ครั้งที่ 2 กลุ่มจังหวัดร้อยเอ็ด มีนายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดการประชุม เพื่อนำเสนอผลการศึกษาทั้งหมดของโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร นครพนม
โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้แทนจากส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่น ภาคเอกชน องค์กรชุมชน สถาบันการศึกษา ศาสนสถาน และสื่อมวลชนร่วมประชุมกว่า 600 คน
ทั้งนี้ เพื่อนำเสนอผลการศึกษาในรายละเอียดทั้งหมดของโครงการ เช่น การออกแบบรายละเอียดแนวเส้นทาง และการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมถึงมาตรการในการป้องกัน แก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และเพื่อรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งจะนำไปพิจารณาประกอบปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม ผลการศึกษาให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
นายนันทชัย หวังเลี้ยงกลาง หัวหน้าโครงการและแผนงาน ร.ฟ.ท.เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร นครพนม มีแผนดำเนินการระหว่างปี พ.ศ.2558-2562 โดย ร.ฟ.ท.ได้ดำเนินการมาแล้ว 3 จังหวัด คือ นครพนม มุกดาหาร ยโสธร จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นจังหวัดที่ 4 และมีพื้นที่มากที่สุดกว่า 100 กิโลเมตร ผ่าน 6 อำเภอ 24 ตำบล และอาจจะมีผลกระทบสูงสุด ก่อนจะดำเนินการอีก 2 จังหวัดที่เหลือคือ มหาสารคาม และ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น
ทั้งนี้ เพื่อนำผลการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมส่งให้สำนักนโยบายและแผนเพื่อพิจารณา เมื่อสำนักนโยบายและแผนพิจารณาด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว การรถไฟแห่งประเทศไทย จะนำเสนอโครงการเข้ากระทรวงคมนาคม เพื่อขอดำเนินการโครงการจากคณะรัฐมนตรี เพื่ออนุมัติงบประมาณดำเนินการให้เป็นไปตามแผนในปี 2559 ให้เสร็จสิ้นตามกำหนดในปี 2562 ต่อไป
สำหรับผลการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน แม้ว่าส่วนใหญ่จะเห็นชอบการที่จะมีทางรถไฟผ่าน แต่ปัญหาคือ การเวนคืนที่ดินเพื่อทำทางรถไฟ ปรากฏว่ามีประชาชนจำนวนมาก มีที่ดินทำกินตามแนวรางรถไฟผ่าน ต้องถูกเวนคืนจนไม่มีที่ทำกินเหลือเพื่อทำกินจะทำให้กลายเป็นคนหมดอาชีพ แม้จะมีเงินจากการวนคืน ก็ไม่สามารถซื้อที่ดินชดเชยได้ ดังนั้น จึงต้องการให้ส่วนราชการเข้าไปช่วยแก้ปัญหาจัดหาที่ดินทำกินใหม่
ด้านนายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า เป็นนิมิตหมายที่ดีหากก่อสร้างทางรถไฟแล้วสร็จจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ เพาะเป็นเส้นทางรถไฟที่วิ่งเชื่อมต่อขนส่งสินค้า เชื่อมกับต่างประเทศได้ไม่มีข้อจำกัด ประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งเชิงพาณิชย์ และขนส่งสินค้าเกษตร ส่วนปัญหาการเวนคืนที่ดินทำกินที่อาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชน จะมี 2 ส่วนที่ต้องให้ความช่วยเหลือ
คือ ส่วนที่ดินที่เข้าจับจองทำกินในที่ดิน ส.ป.ก.หรือที่ครอบครองไม่มีเอกสารสิทธิ จะได้รับการชดเชยในส่วนที่ไม่ใช่เรื่องของที่ดิน ส่วนชาวบ้านมีที่ดินทำกินที่เอกสารครอบครองเป็น น.ส.3 ก เมื่อโดนเวนคืนหมด จะต้องจัดหาที่ดินให้สามารถประกอบอาชีพทำมาหากินได้ โดยอาจจะประชาพิจารณ์ใช้ที่ดินสาธารณะที่เหมาะสมให้ทำกินต่อไป ซึ่งจะดำเนินการในภายหลัง และต้องรับฟังความเห็นชอบของแต่ละพื้นที่ก่อนด้วย
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 24/09/2014 4:34 pm Post subject:
^^^
ข่าวเดียวกันครับ
----
ทีวีจออีสาน : โครงการก่อสร้างทางรถไฟ (24 ก.ย.57) [HD]
โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่-นครพนม รวมระยะทาง 347 กิโลเมตร มีสถารถไฟ จำนวน 30 สถานี โดยสถานีแต่ละแห่งจะออกแบบให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในแต่ละพื้นที่และมีเอกลักษณ์ของชาวอีสาน ซึ่งโครงการนี้ได้ใช้เวลา 15 เดือน ในการศึกษาความเป็นไปได้ และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมๆ กับการทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ จากนั้นนำเสนอโครงการเข้าสู่กระทรวงคมนาคมขอดำเนินการจากคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติงบประมาณ ซึ่งหากโครงการนี้แล้วเสร็จตามแผนงานที่การรถไฟแห่งประเทศไทยวางไว้ จะสามรถรองรับขบวนรถไฟความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. รองรับผู้โดยสารได้ถึง 7,700,000 คน/ปี และรองรับสินค้าได้ประมาณ 1,000,000 ตัน/ ปี
อีสานคืนถิ่น : ชุมชนเข้มแข็ง ที่ได้พัฒนาอาชีพการทอผ้าฝ้ายของชาวบ้านก้างปลา จ.เลย
ออนซอนอีสาน : ขบวนแห่พวงมาลัยไม่ไผ่ ในงานบุญพวงมาลัยของชาวภูไท จ.กาฬสินธุ์
ติดตามชมรายการ ทีวีจออีสาน
ทุกวันพุธ เวลา 13.30 - 14.00 น. ทางไทยพีบีเอส
Back to top
nutsiwat
2nd Class Pass Joined: 03/03/2011 Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร
Posted: 27/09/2014 6:00 pm Post subject:
รอผลสรุปจากการวิเคราะห์และร่วมหารือกับชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงกับโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายนี้ หากประชาชนเห็นด้วยที่จะมีการก่อสร้างเส้นทางดังกล่าว ตัวผมเองเป็นคนเรณูนคร รู้สึกยินดีที่จะมีเส้นทางรถไฟสายใหม่ผ่านพื้นที่แถวบ้านผม รวมทั้งผู้คนอื่น ๆ ที่จะใช้บริการในการเดินทางรถไฟเช่นกัน อยากจะให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี จะได้มีเส้นทางรถไฟสายใหม่ที่สามารถใช้ในการเดินทางโดยสารแล้ว ยังสามารถที่จะขนถ่ายสินค้าและอื่น ๆ มาสู่ภูมิภาคอีสานตอนกลางเหมือนกับเส้นทางอื่น ๆ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีโครงการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟระหว่างเส้นทางรถไฟสายอืสานใต้ไปบรรจบกับเส้นทางรถไฟสายอีสานตอนกลางในการขนส่งสินค้า เพื่อกระจายสินค้ามาสู่อีสานตอนกลางได้นะครับ _________________
--------------------------
สถานีต่อไป สถานีเรณูนคร
next station Renunakorn
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
Posted: 01/10/2014 4:40 pm Post subject:
จอมพลผ้าขะม้าแดง กับ รถไฟรางคู่ สู่แดนอีสาน
บ้านเมือง
1 ตุลาคม 2557
พงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล/นครพนม
สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ หรือเจ้าของฉายาที่สื่อมวลชนยุคนั้นกล่าวขนานนามว่า จอมพลผ้าขะม้าแดง ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 11 ของไทย ระหว่าง 2502-2506, ผู้เขียนยังเตาะแตะขี้แยงอแงร้องขอตังค์แม่กินไอติมอยู่เลยขอรับ..
ช่วงที่ท่านนั่งเก้าอี้บ้านนรสิงห์ ต้องดูแลทุกข์สุขของประชาชน ควบคู่กับความมั่นคงของแผ่นดิน และทุกเหล่าทัพภายใต้ธงไตรรงค์ผืนนี้ มองไปชำเลืองมาเหมือนยุคไมโครโฟนราคาแปะแสนของท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป๊ะเลย..แบบบังเอิญคล้ายกันราวแกะพิมพ์!!
โปรเจกต์หลายอย่างในยุคนั้น ท่านหวังชูธงไทยสู้กับพวกจมูกโง้งผมแดง และที่เจ๋งเป้งคนทั่วโลกรู้จักมากสุดต้องยกนิ้วให้ หนองงูเห่า หรือปัจจุบันมีชื่อใหม่พระราชทานจากพ่อหลวงของเราว่า สนามบินสุวรรณภูมิ!! โครงการเกิดจากรอยหยักของชายชาติทหารปริ๊ดปรี้ปรี๊ดท่านนี้ แต่กว่าจะเสร็จให้เครื่องบินร่อนแตะรันเวย์ก็ฟาดไปตั้ง 40 ปีเศษ..!!
อีกไอเดียหนึ่งที่ถูกวางโปรแกรมไว้คือ..รถไฟสายบางกอก-นครพนม!! สันนิษฐานตามท้องเรื่องคงอุแว้พร้อมๆ กับสนามบินหนองงูเห่า ช้าเร็วถี่ห่างต่างกันไม่กี่เดือน!!
แต่บทสุดท้ายตอนท่านถึงอสัญกรรม แบบแปลนการลากรางรถไฟจากเมืองหลวงสู่ดินแดนอีสานบ้านนอก ถูกยัดใส่หีบปิดล็อกฝังดิน คนอีสานด้านคมขวานไทยเลยซดน้ำแห้ว อดนั่งรถไฟปรู๊น..ปรู๊น!!
กาลเวลาพ้นผ่านมาถึง พ.ศ.2537 หรืออีกสามสิบปีต่อมาหลังจากนายพลคนดังหมดวาสนา
มีคนเล็งเห็นความสำคัญของเส้นทางรถไฟสายนี้ จึงหยิบมาปัดฝุ่นเคาะสนิม รีสตาร์ทใหม่อีกครั้ง..
เจ้าภาพใหญ่ที่เชี่ยวชาญด้านเจ้าม้าเหล็ก ต้องยกให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ระดมกึ๋นลงมาโม่กันมันหยด ส่องกล้องศึกษาโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายอีสานเหนือแดนไหปลาร้าดิบ โดยแบ่งชุดศึกษาไว้ทั้งหมด 4 เส้นทาง และต้องนำปัญหาทุกอย่างมากองวางบนโต๊ะกลม
บทสรุป..รถไฟสายใหม่จะฉึกฉักบนแนวทางเลือกที่ 4 ประกอบด้วยบ้านไผ่ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร นครพนม ระยะทางเบ็ดเสร็จ 347 กิโลเมตร มูลค่า 55,548 ล้านบาท
ไม้เด็ดที่จะทำให้การรถไฟฯ มีกำไรเข้าคลัง ตรงมีปริมาณผู้โดยสารและการขนส่งสินค้ามีสูงกว่า 3 เส้นทางแรกพะเรอเกวียน สำคัญเดือนธันวาคม 2558 ประตู AEC จะเปิดสู่ประเทศกลุ่มอาเชี่ยนทั้ง 11 ชาติ ตัวเลขผู้คนจากประเทศเพื่อนบ้านจะหลั่งไหลเข้าไทยด้านฝั่งแม่น้ำโขงมีจำนวนสูง
ผลวิเคราะห์คาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารทั้งขาขึ้น-ขาล่องคำนวณไว้ 30 ปีล่วงหน้า นับตั้งแต่วันเปิดปฐมฤกษ์ พ.ศ.2562 จะมี 9,303 คน/วัน หรือประมาณ 3,169,000 คน/ปี ถัดไปถึงปี 2592 เพิ่มขึ้นมาเป็น 23,610 คน/วัน หรือประมาณ 7,791,000 คน/ปี
เนื้อหาที่เพิ่มเติมจากโครงการเก่าของจอมพลคนดัง คือ อัพเกรดเป็น รถไฟรางคู่ กิ๊บเก๋กว่าเดิมอีกเท่าตัว เข้าตำรา ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม..!!
ตานี้..มาดูเส้นทางวิ่งของรถไฟสายอีสานแห่งใหม่ว่า ขบวนจะตัดผ่านตรงไหนบ้าง เริ่มจากจุดแรกแยกเป็นชุมทางที่บ้านหนองแวงไร่ อ.บ้านไผ่ ขอนแก่น แดนดอกคูณเสียงแคนแถมไก่ย่างอร่อย มุ่งหน้าไปทางมหาสารคามเมืองตักศิลา โขยกเข้าร้อยเอ็ดถิ่นไหมไทยและบุญผะเวส ลิ่วไปเมืองบั้งไฟยโสธร แวะริมโขงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 2 แหล่งภูผาเทิบมุกดาหาร และสิ้นสุดหยุดเติมน้ำมันใต้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 แดนเรือไฟนครพนม
ตลอดทางกว่า 347 กม. มีรถด่วนจี๋วิ่งวันละ 4 เที่ยว ก่อนจะเพิ่มเป็น 8 เที่ยวในปี 2592 ใช้เวลาวิ่งจากบ้านไผ่ถึงนครพนม 3 ชั่วโมง ส่วนรถไฟธรรมดาถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่างวิ่งไม่รวมจอด 5 ชั่วโมง ภาพรวมถือว่ามีมาตรฐานพอใช้
ของแถมที่ผู้โดยสารจะได้สัมผัสระหว่างนั่งรถไฟ ตรงที่การรถไฟจัดหนักจัดเต็มลิมิต เพราะริมทางช่วงมุกดาหารสะพานไทย-ลาว 2 ยันนครพนมสะพานไทย-ลาว 3 ท่านสามารถมองเห็นสายน้ำโขงไหลล่อง+ทิวเทือกเขาอันยาวเหยียดทางฝั่งน้องลาว ที่ตั้งอยู่เรียงรายสลับซับซ้อนสุดลูกหูลูกตา ความหรรษาทางธรรมชาติตรงนี้แจกฟรีไม่มีชาร์จ!!
วันที่ 8 กันยายนผ่านมาหมาดๆ การรถไฟฯ เดินสายพบปะประชาชน (ปัจฉิมนิเทศโครงการ) เพื่อนำปัญหาต่างๆ มาแก้ไขปรับปรุง มีผู้สนใจทั้งนักการเมือง ข้าราชการ พ่อค้าวานิช ประชาชน ร่วมแสดงความคิดเห็นจนล้นห้องประชุม
ทุกเนื้อหามีบทสรุปที่ดีต่อกันแทบหาจุดขัดแย้งไม่พบ แต่สิ่งที่ชาวบ้านเกรงว่าการเวนคืนที่ดินจะไม่ได้รับความยุติธรรม ทางการรถไฟฯ การันตีเคาะตัวเลขแล้วแฮปปี้ทั้งสองฝ่าย
ส่วนผลกระทบทางเสียง มีการวางแผนจัดเก็บเสียงคำรามจากหวูด หรือเสียงล้อเหล็กบดขยี้บนราง การดำรงชีวิตแทบเป็นปกติไม่เหมือนยุคดั้งเดิมที่อดีตคนมีบ้านติดสถานีรถไฟจะลูกดก เพราะยามเจ้าม้าเหล็กทะยานเข้า-ออกชานชาลาจะเปิดหวูดดังสนั่นปานฟ้าคำรณ ปลุกนิทรายามดึก จนปิดเปลือกตาไม่ลง ต้องขยับสะกิดทำการบ้านกับคู่ชีวิตผลิตทายาทจนเต็มเรือน ซึ่งมีเรื่องเล่ากันมาหลายชั่วอายุ..
นับจากนี้อีก 5 ปี 5 พ.ศ. รถไฟรางคู่จะเปิดผ้าแพรตัดริบบิ้นวิ่งจากบ้านไผ่-นครพนมสิ่งที่คนอีสานฝันหวานมาตั้งแต่ผมดำยันผมขาวจะเป็นรูปธรรม.!!
นายพลผ้าขะม้าแดง จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ สิ่งที่ท่านวางแผนสร้างทางรถไฟเมื่อ 50 ปีก่อน อนุสรณ์ชิ้นสุดท้ายทิ้งไว้ให้ลูกหลานเลือดอีสานเข้มข้น กำลังจะเป็นจริงแล้วเด้อ..พ่อใหญ่!!
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 05/11/2014 12:42 pm Post subject:
จังหวัดมุกดาหาร ประชุมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร 5 พฤศจิกายน 2557
วันนี้ (5 พ.ย.57) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหารร่วมประชุมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมคณะผู้ศึกษา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายธวัชชัย ธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารเป็นประธานการประชุม เพื่อปรึกษาหารือแนวทางการปฏิบัติ ตามระเบียบกรมป่าไม้ว่าด้วยการอนุญาตให้กระทำการเพื่อประโยชน์ในการศึกษาหรือวิจัยทางวิชาการ ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2548 เพื่อสำรวจออกแบบรายละเอียดทางวิศวกรรมและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม
รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมถึงความเป็นมาโครงการดังกล่าวว่า โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม เป็นโครงการรถไฟทางคู่ (Double Track) เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่อการเดินทางและการขนส่งสินค้า อีกทั้งยังสนับสนุนเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้าน จะเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาของประเทศ โดยรวมและกระจายความเจริญไปสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งนำไปสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ
ซึ่งการประชุมครั้งนี้เพื่อปรึกษาร่วมกันถึงขั้นตอนการปฏิบัติตามระเบียบกรมป่าไม้ว่าด้วยการอนุญาตให้กระทำการเพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัยทางวิชาการภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2548 โครงการสำรวจ ออกแบบรายละเอียดทางวิศวกรรม และจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามโครงการ ซึ่งตามแนวทางโครงการจะผ่านพื้นที่ 6 จังหวัด ซึ่งจังหวัดมุกดาหารผ่านพื้นที่ 13 ตำบล ใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนิคมคำสร้อย อำเภอเมืองมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร และอำเภอหว้านใหญ่
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
Posted: 06/11/2014 9:18 am Post subject:
วันนี้อ่านข่าวโพสต์ทูเดย์ พบว่า จะมีการขอใช้ที่แถวภูกระแต ตรงเชิงสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 ขนาด 2300 ไร่ ทำเป็นศูนย์ลอจิสติกส์ด้วย
Back to top