ข่าวและภาพรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน

[Wisarut]

รฟม. แจ้งปิดจราจรบริเวณแยกบางโพ
เพื่อก่อสร้างคานคอนกรีตสถานีบางโพ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ วันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2557 เวลา 22.00-05.00 น.
รฟม.ปิดจราจร 7-8 พ.ย.แยกบางโพ สร้างรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน
โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐ
5 พฤศจิกายน 25577 18:20

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า
กิจการร่วมค้า เอสเอช-ยูเอ็น ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา
โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ-ท่าพระ (สัญญาที่ 3) จะดำเนินงานก่อสร้างคานคอนกรีตสถานีบางโพ จึงมีความจำเป็นต้องปิดจราจรบนถนนประชาราษฏร์สาย 1 บริเวณแยกบางโพ ในวันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2557 เวลา 22.00-05.00น.

โดยขอให้ผู้ที่ใช้เส้นทางดังกล่าววางแผนการเดินทาง ดังนี้

• วันที่ 7 พฤศจิกายน 2557

1. กรณีที่มาจากแยกเกียกกายมุ่งหน้าไปสะพานพระราม 7 ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฏร์สาย 2 ตรงไปจนถึงแยกเตาปูนแล้วเลี้ยวซ้ายตรงไปจนถึงซอยประชาราษฏร์ 28 (ซอยไสวสุวรรณ) ให้เลี้ยวซ้ายจากนั้นตรงไปจนถึงถนนประชาราษฏร์สาย 1 แล้วเลี้ยวขวา

2. กรณีที่มาจากสะพานพระราม 7 มุ่งหน้าไปแยกเกียกกายให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 5 (ซอยประชานฤมิตร) จากนั้นตรงไปจนถึงถนนกรุงเทพ-นนทบุรี เลี้ยวขวาตรงไปจนถึงแยกเตาปูนแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฏร์สาย 2 ตรงไปจนถึงแยกบางโพเลี้ยวซ้ายเพื่อไปเกียกกาย
3. กรณีที่มาจากแยกเตาปูน ถ้าจะไปสะพานพระราม 7 ให้กลับรถที่แยกเตาปูนแล้วเลี้ยวซ้าย ตรงไปจนถึงซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 5 หรือซอยประชานฤมิตรเลี้ยวซ้ายจากนั้นตรงไปจนถึงถนนประชาราษฏร์สาย 1 แล้วเลี้ยวขวา ส่วนกรณีถ้าจะไปแยกเกียกกายสามารถเลี้ยวซ้ายได้เลย

• วันที่ 8 พฤศจิกายน 2557

1. กรณีที่มาจากแยกเกียกกายเพื่อจะมุ่งหน้าไปสะพานพระราม 7 ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฏร์สาย1 ซอย 10 ตรงไปจนถึงซอยสะพานขวาง ใหเลี้ยวซ้ายและขับตรงไปจนถึงซอยสะพานขวางจากนั้นขับตรงไปจนถึงถนนประชาราษฏร์สาย 2 แล้วเลี้ยวซ้ายขับตรงไป จนถึงแยกบางโพแล้วเลี้ยวขวา

2. กรณีที่มาจากสะพานพระราม 7 ถ้าจะไปแยกเกียกกายเมื่อถึงแยกบางโพให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนประชาราษฏร์สาย 2 จากนั้นตรงไป ก่อนถึงแยกเตาปูนให้กลับรถเข้าซอยสะพานขวางตรงไปจนถึง
ซอยสะพานขวางแล้วเลี้ยวขวาขับต่อไปจนถึงถนนประชาราษฏร์สาย 1 ซอย 10 ให้เลี้ยวขวาตรงไปจนถึงถนนประชาราษฏร์สาย 1 ให้เลี้ยวซ้ายเพื่อไปเกียกกาย ถ้าจะไปแยกเกียกกาย ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนประชาราษฏร์สาย 2 จากนั้นตรงไปก่อนถึงถนนเตชะวณิชตรงไปถึงแยกสะพานแดงแล้วเลี้ยวขวา แล้วตรงไปจนถึงแยกเกียกกาย

3. กรณีที่มาจากแยกเตาปูน ถ้าจะไปสะพานพระราม 7 ให้ตรงมาที่แยกบางโพและให้เลี้ยวขวาไปสะพานพระราม 7 ได้เลย ส่วนผู้ที่จะไปแยกเกียกกายให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสะพานขวางขับตรงไปจนถึงซอยสะพานขวางแล้วเลี้ยวขวาขับต่อไปจนถึงถนนประชาราษฏร์สาย1 ซอย 10 ให้เลี้ยวขวาขับตรงไปจนถึงถนนถนนประชาราษฏร์สาย 1 เลี้ยวซ้ายเพื่อไปเกียกกาย
ทั้งนี้ การปิดการจราจรดังกล่าวอาจทำให้ผู้ใช้เส้นทางไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง ดังนั้นหากไม่มีความจำเป็น โปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวและ รฟม. ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้

[Mongwin]

รฟม.ตั้ง “รณชิต แย้มสอาด”เป็นปธ.หาเอกชนเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย-เร่งหาข้อสรุปภายในเดือนนี้
มติชนออนไลน์ วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 16:01:39 น.

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้มีการเปลี่ยนแปลงประธาน คณะกรรมการตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35) จากนายพีรยุทธ์ สิงห์พัฒนากุล รองผู้ว่าการ รฟม. ฝ่ายวิศวกรรมและก่อสร้าง มาเป็นนายรณชิต แย้มสอาด รองผู้ว่าการ รฟม.ฝ่ายบริหาร รวมทั้งเปลี่ยนเลขานุการจากนายภัคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้อำนวยการการ ฝ่ายบริหารก่อสร้าง 1 มาเป็น นายสุชิน ศศิประภากุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ รฟม. เพื่อให้การดำเนินการหาผู้มีสิทธิเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายโดยเร็ว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการตามมาตรา 13 ได้มีมติให้มีการเปิดประมูลเพื่อหาผู้ดำเนินการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย แต่หลังจากนั้น นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล อดีตผู้ว่าการ รฟม. ได้มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการตามมาตรา 13 โดยให้นายพีรยุทธ์เป็นประธาน แต่ความคืบหน้าในการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวกลับมีน้อยมาก

“หลังจากที่นายยงสิทธิ์ได้ลาออก จึงได้มีการแต่งตั้งนายรณชิตเป็นรักษาการ ผู้ว่าการ รฟม.ตามพระราชบัญญัติ รฟม. ปี 2535 ซึ่งคณะกรรมการตามมาตรา 13 ไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ เลย เป็นเวลากว่า 2 เดือน ดังนั้น จึงมีการเปลี่ยนตัวประธานคณะกรรมการตามมาตรา 13 เพื่อให้การทำงานเดินหน้าต่อไป เพื่อเร่งโครงการให้ดำเนินการแล้วเสร็จได้เร็วขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสีน้ำเงิน”

ข่าวแจ้งว่า คาดว่าภายในเดือนพ.ย.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการตามมาตรา 13 เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว เนื่องจากมีบางฝ่ายเห็นว่าควรเจรจาตรงกับบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล ให้ดำเนินการในกรณีของการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย แต่มติคณะกรรมการตามมาตรา 13 เดิม กำหนดให้เปิดประมูล ซึ่งฝ่ายกฏหมาย ของรฟม. ได้ยืนยันว่า มติคณะกรรมการมาตรา 13 สามารถดำเนินการได้

[Wisarut]

บอร์ด รฟม.เตรียมแขวน "รักษาการผู้ว่าการฯ" -เหตุผลแปลก "ไม่สนองนโยบายเจรจาเอกชน"
มติชน
วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 16:59:32 น.

บอร์ดรฟม.เร่งประชุมด่วน14พ.ย. จับตาเตรียมปลด "รณชิต"จากรักษาการผู้ว่าการ เหตุไม่สนองนโยบายให้เจรจากับเอกชนเฉพาะรายในโครงการสายสีน้ำเงินส่วนต่อ ทั้งๆที่มติคณะกรรมการม.13 สั่งให้เปิดประมูลเป็นการทั่วไป

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เปิดเผยว่า พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานบอร์ด รฟม. ได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการ รฟม.เป็นการเร่งด่วนในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 24 พฤศจิกายน โดยคาดว่าจะมีวาระเร่งด่วนในการโยกย้ายนายรณชิต แย้มสอาด รองผู้ว่าการ รฟม. ฝ่ายบริหาร และ รักษาการ ผู้ว่าการ รฟม. ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา รฟม.รวมทั้งอาจจะมีการปลดออกจากรักษาการผู้ว่าการ รฟม. เนื่องจากต้องการให้นายพีรยุทธ์ สิงห์พัฒนากุล รองผู้ว่าการ รฟม. ฝ่ายวิศกรรมและก่อสร้าง ขึ้นมาเป็นรักษาการ ผู้ว่าการ รฟม. แทน เนื่องจากตามพระราชบัญญัติ รฟม. พ.ศ.2535 จะต้องให้รองผู้ว่าการ ที่มีอาวุโสสูงสุดขึ้นเป็นรักษาการ ผู้ว่าการ เท่านั้น

แหล่งข่าว กล่าวว่า สาเหตุที่จะมีการย้ายนายรณชิตออกจากรักษาการ ผู้ว่าการ รฟม. นั้น เนื่องจากทำงานไม่ต้องกับความต้องการของพล.อ.ยอดยุทธ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปลี่ยนแปลงประธานคณะกรรมการตามมาตรา 13 ที่ล่าสุดได้มีการปลดนายพีรยุทธ์ออกจากตำแหน่ง แล้วให้นายรณชิตขึ้นมาเป็นแทน เรื่องจากนายรณชิต ต้องการให้มีการเปิดประมูลในการดำเนินการก่อสร้างสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย วงเงินเกือบแสนล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามมติของคณะกรรมการตามมาตรา 13 เดิม แต่ทางพล.อ.ยอดยุทธ ต้องการที่จะให้มีการเจรจาตรงกับเอกชนเฉพาะราย โดยอ้างว่า เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน ดังนั้น จึงต้องมีการโยกย้ายดังกล่าว

"ทางประธานบอร์ด ได้มีการโทรศัพท์แจืงไปยังกรรมการ รฟม.แต่ละคนด้วยตัวเอง เพื่อขอเร่งการประชุมบอร์ด รฟม.มาเป็นวันที่ 14 พ.ย.นี้ ซึ่งมีกรรมการหลายคนไม่เห็นด้วย แต่ต้องเข้ามาประชุม ซึ่งคงจะต้องรอดูว่าในการประชุมจะมีการเสนอเรื่องการโยกย้ายเข้ามาหรือไม่ เพราะกรรมการหลายคนเห็นว่าควรที่จะมีการเปิดประมูลเพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสมและมีการแข่งขันกันอย่างแท้จริงมากกว่าที่จะให้เอกชนแค่รายเดียวเข้ามาเสนอราคาแล้วเจรจากันซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก"

[Wisarut]

ค้าปลีกใต้ดินโต "เมโทรมอลล์" ปักธง 2 สาขาใหม่
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 13:30:09 น.


เศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นดันมู้ดดีดกลับ "เมโทรมอลล์" ค้าปลีกใต้ดินเดินทัพเปิดเพิ่ม 2 สถานี ศูนย์วัฒนธรรมฯ-ลาดพร้าวรับอสังหาฯโต พร้อมรับปัจจัยบวกรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายหนุนผู้โดยสารทะลัก เตรียมขนแบรนด์เนมกลาง-ล่างเจาะหนุ่มสาวออฟฟิศ

นายสมบัติ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการร่วม บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด (บีเอ็มเอ็น) และผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล ผู้ดำเนินธุรกิจ 3 ด้าน คือให้บริการด้านสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ในรถไฟฟ้าใต้ดิน ธุรกิจโทรคมนาคม และค้าปลีกในรถไฟฟ้าใต้ดิน (เมโทรมอลล์) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่ชะลอตัวตั้งแต่ต้นปี ทำให้ธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งรถไฟฟ้าใต้ดินได้รับผลกระทบ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวในช่วงต้นไตรมาส 4 จากปัจจัยบวกกำลังซื้อคนไทยเริ่มกลับมา ทำให้มู้ดจับจ่ายเริ่มกลับมาอีกครั้ง หลังการเมืองมีเสถียรภาพ รัฐบาลเริ่มอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ จะทำให้ธุรกิจค้าปลีกรถไฟฟ้าใต้ดินทั้ง 5 สถานี ได้แก่ สถานีพระราม 9 สุขุมวิท กำแพงเพชร พหลโยธิน จตุจักร ที่เปิดให้บริการแล้วนั้นปรับตัวดีขึ้น

"ตั้งแต่ปี 2558-2561 จากช่วงต่อขยายรถไฟฟ้าหลายสาย เช่น สายสีน้ำเงินและสายสีม่วง ทำให้มีจำนวนผู้โดยสารเดินทางเชื่อมโยงรถไฟฟ้าใต้ดินเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล จากปัจจุบันอยู่ที่ 300,000 คนต่อวัน"

ทั้งนี้ หากโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าทั้งหมดแล้วเสร็จ จะเป็นแม็กเนตดึงนักช็อปเดินทางมาช็อปปิ้งยังเมโทรมอลล์ในอัตราที่สูงขึ้น ซึ่งในปีหน้าบริษัทมีแผนจะเปิดอีก 2 สถานี คือศูนย์วัฒนธรรมฯและลาดพร้าว โดยเป็นสถานีที่แวดล้อมด้วยโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่หลายโครงการตามแนวถนนรัชดาภิเษก และกลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ รวมทั้งอาคารสำนักงานขนาดใหญ่

จึงทำให้เป็นโอกาสที่จะทำการตลาดเจาะกลุ่มพนักงานหนุ่มสาวออฟฟิศแวะมาช็อปปิ้งได้ ควบคู่กับการดึงสินค้าแบรนด์ระดับกลาง-ล่างเข้ามาเสริมทัพเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่เน้นสินค้ากลุ่มโอท็อปในสัดส่วน 50-50% นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมดึงบริการจ่ายบิลเพย์เมนต์เข้ามาเสริม เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าสังคมเมืองที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น

นายสมบัติกล่าวว่า ปีนี้บริษัทจะมีรายได้ทั้งหมดรวมทุกธุรกิจประมาณ 400 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 10% ของรายได้ที่มาจากพื้นที่ให้เช่าธุรกิจค้าปลีกในรถไฟฟ้าใต้ดิน ในอนาคตสัดส่วนรายได้จะเพิ่มขึ้นตามลำดับ ตามการขยายตัวของธุรกิจนี้

[Wisarut]

เร่งพิจารณาวิธีเดินรถสายสีน้ำเงินยึดหลักเดินรถต่อเนื่อง
เดลินิวส์
วันอังคาร 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา 09:57 น.

รฟม.เร่งหาวิธีสรรหา เอกชนเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายหัวลำโพง-บางแค-บางซื่อ-ท่าพระยึดหลัก เดิยรถต่อเนื่องพร้อมเรียกคกก.ม.13ประชุมภายในสัปดาห์นี้ยันได้ผู้รับเหมา ช้าไม่กระทบงานโครงสร้าง

นายรณชิต แย้มสอาด รักษาการผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการมาตร13 เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ(คตร.) ดำเนินการตรวจสอบโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายหัวลำโพง-บางแค-บางซื่อ-ท่าพระ โดยทางคตร.อนุมัติให้เดินหน้าโครงการต่อได้นั้นคณะทางคณะกรรมการมาตรา13จะมีการประชุมกันอีกครั้งเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางจัดหาเอกชนเข้ามาเดินรถในส่วนต่อขยาย โดยในการพิจารณาจะยึดตามมติของคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด)รฟม. เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2557 ที่มีเงื่อนไขให้เดินรถต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นการเจรจาหรือเปิดประมูล ซึ่งทางคณะกรรมการมาตรา13จะต้องมีการวิเคราะห์และเปรียบเทียบวิธีการสรรหาเอกชนที่จะเข้ามาเดินรถโดยภายในสัปดาห์นี้จะมีประชุมกันอีกครั้งเพื่อเร่งหาข้อสรุปโดยเร็ว อย่างไรก็ตามหาสรรหาเอกชนเข้ามาเดินรถนั้นถึงแม้จะมีความล้าช้าแต่คาดว่าจะไปส่งผลกระทบต่อระบบโครงสร้างแต่อย่างใด

สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วยต่อขยายขณะนี้เนื้องานมีความคืบหน้ากว่าร้อยละ56.24 จากแผนงานร้อยละ 55.74 ซึ่งเร็วกว่าแผนร้อยละ 0.50 ด้านการออกแบบระบบรางสัญญาที่ 5 งานออกแบบและก่อสร้างระบบรางรถไฟฟ้าบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินงานโดยมีความก้าวหน้าเท่ากับร้อยละ 69.10 เร็วกว่าแผนร้อยละ 0.20 โดยมีงานก่อสร้างที่สำคัญ ได้แก่ ได้นำเข้ารางที่สามและเครื่องยึดเหนี่ยวรางที่ใช้ในโครงการแล้วผลิตหมอนรองรางคอนกรีต ทั้งนี้หารสรรหาเอกชนเข้ามาเดินรถจะไม่มีความล้าช้ามากเกินไปจนรฟม.จะต้องจ่ายค่ารักษาสภาพของโครงสร้างแต่อย่างใด.

[Wisarut]

MRT ใจดีมอบโชคใหญ่


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2557 10:34 น.

นายวิทูรย์ หทัยรัตนา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BMCL ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า MRT และคณะผู้บริหาร พร้อมด้วยผู้แทนจาก รฟม. สำนักงานเขตห้วยขวาง สน.ห้วยขวาง และสื่อมวลชน ร่วมจับรางวัล iPad Mini และรางวัลอื่นๆ มูลค่ารวมกว่า 50,000 บาท ในโครงการ “คืนบัตรฯ ลุ้นโชค กับ MRT” ให้แก่ผู้โชคดีที่ร่วมคืนบัตรโดยสารรถไฟฟ้า MRT ที่หมดอายุแล้ว ณ อาคารบริหาร BMCL เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้โดยสารสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้โชคดีได้ที่ www.bangkokmetro.co.th และที่สถานีรถไฟฟ้า MRT ทั้ง 18 สถานี หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 0-2624-5200

[Wisarut]

หึ่ง! ล็อกสเปกสรรหาผู้ว่าการ รฟม.คนใหม่-ตั้งบอร์ดบริษัทคู่สัญญาเป็นกก.สรรหา

มติชน
วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 20:17:21 น.

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ได้ออกประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเป็นผู้ว่าการ รฟม. มีนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานคณะกรรมการสรรหา โดยประกาศให้ผู้ที่สนใจยื่นใบสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษจิกายน ถึง 12 ธันวาคม 2557

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาเป็นอย่างมากในประกาศดังกล่าว โดยในข้อ 3.1.12 ได้ระบุถึงคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาคัดเลือกเป็นผู้ว่าการ รฟม. ว่า “ไม่เป็นผู้รักษาการ รฟม. ในวันยื่นใบสมัคร” เนื่องจากที่ผ่านมา ตั้งแต่มีการก่อตั้ง รฟม.ตั้งแต่ปี 2535 ไม่เคยมีการกำหนดคุณสมบัติดังกล่าวแต่อย่างใด “หลังจากประกาศดังกล่าวออกมา เกิดกระแสออกมาจากคนใน รฟม.โดยตั้งข้องสังเกตว่า ว่า คณะกรรมการสรรหา อาจมีความไม่เป็นธรรม ในการสรรหาผู้ที่จะมาเป็นผู้ว่าการ รฟม.

เนื่องจาการกำหนดคุณสมบัติดังกล่าวออกมา ทำให้รองผู้ว่าการ รฟม.ที่มีอาวุโสสูงสุดที่ต้องเป็นรักษาการ ผู้ว่ารฟม.ไม่สามารถสมัครได้ หรือ หากจะสมัคร จะต้องลาออกจากตำแหน่งก่อน ซึ่งอาจจะมีความผิด ตามพระราชบัญญัติ รฟม. พ.ศ.2535”

นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตอีกว่า มีการตั้งคณะกรรมการ(บอร์ด) ที่มาจากบริษัทเอกชนที่เป็นคู่สัญญากับ รฟม.เข้ามาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสรรหา ซึ่งอาจจะมีส่วนได้ส่วนเสียกับเอกชนบางราย

ทั้งนี้ คณะกรรมการสรรหาผู้ว่า รฟม.ประกอบด้วย นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน กรรมการประกอบด้วยนายเพิ่มศักดิ์ สัจจะเวทะ นายสุนทร ทรัพย์ตันติกุล พลตรีพิเชษฐ์ คงศรี นางพรรณขนิตา บุญครอง

[Wisarut]

ประธานสรรหาผู้ว่าฯรฟม.มาแปลก กำหนดเงื่อนไขห้ามรักษาการผู้ว่าฯลงสมัคร


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
24 พฤศจิกายน 2557 21:52 น.


ประธานสรรหาผู้ว่าฯรฟม.มาแปลก กำหนดเงื่อนไขห้ามรักษาการผู้ว่าฯลงสมัคร
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลังและกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม.



“พงษ์ภาณุ”เผยกำหนดเงื่อนไขสรรหาผู้ว่าฯ รฟม.คนใหม่ ห้ามรักษาการผู้ว่าฯ ลงสมัครรับการสรรหาฯ ถูกต้องไม่ขัดกฎหมาย ชี้เพื่อความเป็นธรรมและโปร่งใส ไม่มีการกีดกันใคร เหตุรักษาการฯ มีโอกาสให้คุณและให้โทษ อาจทำให้สรรหาไม่เป็นธรรมได้ ยันเร่งสรรหา คาดผู้ว่าฯรฟม.คนใหม่ เริ่มทำงานไม่เกิน 1 ก.พ.58 เพื่อเร่งสานงานที่คั่งค้าง

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลังและกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม. เปิดเผยว่า จากที่ได้ประกาศรับสมัครผู้ว่าฯรฟม. ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน -12 ธันวาคม 2557 นั้นตามกรอบขั้นตอนหลังจากนั้นคณะกรรมการสรรหาฯ จะทำการตรวจสอบคุณสมบัติและให้ผู้สมัครแสดงวิสัยทัศน์ ก่อนสรุปผลการสรรหาฯ และนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. ต่อไป โดยคาดว่า กระบวนการการสรรหาฯ จะแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2558 เพื่อให้ผู้ว่าฯ รฟม.คนใหม่เข้าเริ่มทำงานได้ไม่เกิน 1 กุมภาพันธ์ 2558

ทั้งนี้ ในส่วนของเงื่อนไขคุณสมบัติผู้ที่สามารถสมัครเข้ารับการสรรหาผู้ว่าฯรฟม. ได้นั้น อาทิ ต้องมีอายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ ไม่เป็นข้าราชการการเมือง จบการศึกษาระดับปริญญาตรี และมีความรู้ความชำนาญด้านการบริหารองค์กร โดยจะต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งจะต้องไม่เป็นผู้รักษาการผู้ว่าฯ รฟม.

นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า การกำหนดว่าผู้สมัครจะต้องไม่เป็นรักษาการผู้ว่าฯรฟม.นั้น เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่โปร่งใสและเป็นธรรม ไม่ใช่การกีดกันใคร แต่คณะกรรมการสรรหาฯ ต้องการให้กระบวนการสรรหาโปร่งใส ไม่เอื้อประโยชน์ให้รายใดรายหนึ่ง เนื่องจากผู้ที่ดำรงตำแหน่งรักษาการผู้ว่าฯรฟม. จะมีโอกาสให้คุณและให้โทษ ซึ่งอาจทำให้การสรรหาเกิดความไม่เท่าเทียม และยืนยันว่าการกำหนดคุณสมบัตินี้เป็นไปอย่างถูกต้อง ไม่ขัดต่อกฎหมาย ส่วนการคุณสมบัติผู้สมัครให้เปิดกว้างมากที่สุด เพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งคนในและคนนอก องค์กรสามารถสมัครได้

“นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล อดีต ผู้ว่าฯรฟม.มีผู้ว่าฯ ลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการบริหารต่างๆ ของรฟม.เป็นอย่างมาก ในขณะที่รัฐบาลต้องการขับเคลื่อนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ให้สำเร็จเป็นรูปธรรม ดังนั้นภารกิจหลักของผู้ว่า รฟม. คนใหม่ คือการผลักดันโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว โดยในปี 2558 จะมีเม็ดเงินลงทุนโครงการสูงถึง 2 แสนล้านบาท ประกอบด้วย การเร่งรัดงานเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ กับหัวลำโพง-บางแค และสายสีเขียวใต้ แบริ่ง-สมุทรปราการ”นายพงษ์ภาณุ กล่าว

โดยปัจจุบัน นายรณชิต แย้มสอาด รองผู้ว่าฯ รฟม.ด้านบริหาร ทำหน้าที่รักษาการผู้ว่าฯ รฟม. ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าฯ ที่ระบุว่ากรณีที่ไม่มีผู้ว่าฯ ลาออก หรือไม่มีผู้ว่าฯ ตัวจริง ให้แต่งตั้งรองผู้ว่าฯ รฟม.ที่มีอาวุโสสูงสุดรักษาการผู้ว่าฯ

สำหรับงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายใหม่ ประกอบด้วย สายสีชมพู แคราย-มีนบุรี ระยะทาง 36 กิโลเมตร วงเงิน 56,000ล้านบาท สายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร วงเงิน 54,644 ล้านบาท และสายสีส้ม เฟสแรก ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี ระยะทาง 20 กิโลเมตร วงเงิน 95,108ล้านบาท ซึ่งยอมรับว่าโครงการขยายสายทางรถไฟฟ้าของ รฟม.มีความล่าช้ามาก โดย รฟม.ได้รับการจัดตั้งมา 22 ปีแล้ว แต่สามารถเปิดเดินรถได้เพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งหากได้ผู้ว่า รฟม.คนใหม่ที่มีความสามารถในการผลักดันโครงการ ก็จะทำให้เกิดเม็ดเงินลงทุนในประเทศ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีโอกาสที่ดัชนีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ปี 2558 จะเติบโตได้ 4.5-5% ด้วย

นอกจากนี้ ในปีงบประมาณ 2558 มีโครงการรถไฟฟ้าที่ครบสัญญากู้เงินประมาณ 20,000 ล้านบาท ที่ต้องปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณา แหล่งเงินทุน ซึ่งคาดว่าใช้แหล่งเงินจากในประเทศ เป็นการกู้ระยะยาว 5-10 ปี หรืออาจจะกู้จากสถาบันการเงิน หรือองค์กรเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศก็ได้ ซึ่งที่มีผ่านมามีความสนใจที่จะปล่อยกู้ให้กับไทย

//------------------


รฟม.ห้าม”รณชิต”ลงสรรหาผู้ว่า


โดย ASTVผู้จัดการรายวัน
24 พฤศจิกายน 2557 22:11 น.

ASTVผู้จัดการรายวัน-“พงษ์ภาณุ”เผยกำหนดเงื่อนไขสรรหาผู้ว่าฯ รฟม.คนใหม่ ห้ามรักษาการผู้ว่าฯ ลงสมัครรับการสรรหาฯ ถูกต้องไม่ขัดกฎหมาย ชี้เพื่อความเป็นธรรมและโปร่งใส ไม่มีการกีดกันใคร เหตุรักษาการฯ มีโอกาสให้คุณและให้โทษ อาจทำให้สรรหาไม่เป็นธรรมได้ ยันเร่งสรรหา คาดผู้ว่าฯรฟม.คนใหม่ เริ่มทำงานไม่เกิน 1 ก.พ.58 เพื่อเร่งสานงานที่คั่งค้าง

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลังและกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม. เปิดเผยว่า จากที่ได้ประกาศรับสมัครผู้ว่าฯรฟม. ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน -12 ธันวาคม 2557 นั้นตามกรอบขั้นตอนหลังจากนั้นคณะกรรมการสรรหาฯ จะทำการตรวจสอบคุณสมบัติและให้ผู้สมัครแสดงวิสัยทัศน์ ก่อนสรุปผลการสรรหาฯ และนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. ต่อไป โดยคาดว่า กระบวนการการสรรหาฯ จะแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2558 เพื่อให้ผู้ว่าฯ รฟม.คนใหม่เข้าเริ่มทำงานได้ไม่เกิน 1 กุมภาพันธ์ 2558

ทั้งนี้ ในส่วนของเงื่อนไขคุณสมบัติผู้ที่สามารถสมัครเข้ารับการสรรหาผู้ว่าฯรฟม. ได้นั้น อาทิ ต้องมีอายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ ไม่เป็นข้าราชการการเมือง จบการศึกษาระดับปริญญาตรี และมีความรู้ความชำนาญด้านการบริหารองค์กร โดยจะต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งจะต้องไม่เป็นผู้รักษาการผู้ว่าฯ รฟม.

นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า การกำหนดว่าผู้สมัครจะต้องไม่เป็นรักษาการผู้ว่าฯรฟม.นั้น เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่โปร่งใสและเป็นธรรม ไม่ใช่การกีดกันใคร แต่คณะกรรมการสรรหาฯ ต้องการให้กระบวนการสรรหาโปร่งใส ไม่เอื้อประโยชน์ให้รายใดรายหนึ่ง เนื่องจากผู้ที่ดำรงตำแหน่งรักษาการผู้ว่าฯรฟม. จะมีโอกาสให้คุณและให้โทษ ซึ่งอาจทำให้การสรรหาเกิดความไม่เท่าเทียม และยืนยันว่าการกำหนดคุณสมบัตินี้เป็นไปอย่างถูกต้อง ไม่ขัดต่อกฎหมาย ส่วนการคุณสมบัติผู้สมัครให้เปิดกว้างมากที่สุด เพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งคนในและคนนอก องค์กรสามารถสมัครได้

“นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล อดีต ผู้ว่าฯรฟม.มีผู้ว่าฯ ลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการบริหารต่างๆ ของรฟม.เป็นอย่างมาก ในขณะที่รัฐบาลต้องการขับเคลื่อนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ให้สำเร็จเป็นรูปธรรม ดังนั้นภารกิจหลักของผู้ว่า รฟม. คนใหม่ คือการผลักดันโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว โดยในปี 2558 จะมีเม็ดเงินลงทุนโครงการสูงถึง 2 แสนล้านบาท ประกอบด้วย การเร่งรัดงานเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ กับหัวลำโพง-บางแค และสายสีเขียวใต้ แบริ่ง-สมุทรปราการ”นายพงษ์ภาณุ กล่าว

ปัจจุบัน นายรณชิต แย้มสอาด รองผู้ว่าฯ รฟม.ด้านบริหาร ทำหน้าที่รักษาการผู้ว่าฯ รฟม. ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าฯ ที่ระบุว่ากรณีที่ไม่มีผู้ว่าฯ ลาออก หรือไม่มีผู้ว่าฯ ตัวจริง ให้แต่งตั้งรองผู้ว่าฯ รฟม.ที่มีอาวุโสสูงสุดรักษาการผู้ว่าฯ

[Wisarut]

MRT ให้ลูกพาพ่อขึ้นฟรี วันพ่อแห่งชาติ


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
24 พฤศจิกายน 2557 19:50 น.

นายชาติชาย ประดิษพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเอ็มซีแอล (BMCL) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า MRT เปิดเผยว่า บริษัทฯ ร่วมเทิดพระเกียรติวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา "5 ธันวา มหาราช" และส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว พร้อมร่วมรณรงค์การประหยัดพลังงานด้วยการใช้ระบบขนส่งสาธารณะในวันพ่อแห่งชาติ (5 ธ.ค.) ประจำปี 2557 โดยให้คุณพ่อที่เดินทางพร้อมลูกโดยสารรถไฟฟ้า MRT ฟรีตลอดสายตลอดระยะเวลาให้บริการ สำหรับลูกชำระค่าโดยสารปกติ โดยติดต่อขอรับคูปองโดยสารได้ที่ห้องออกบัตรโดยสารทั้ง 18 สถานี
ทั้งนี้ BMCL ยังคงยกเว้นค่าโดยสารสำหรับเด็กที่มีส่วนสูงไม่เกิน 90 เซนติเมตร ไว้เช่นเดิม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ห้องออกบัตรโดยสาร ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร.0-2624-5200 หรือ www.bangkokmetro.co.th

[Wisarut]

“พงษ์ภาณุ” มั่นใจสรรหาผู้ว่าฯ รฟม.เป็นธรรม โปร่งใส หวังขับเคลื่อนรถไฟฟ้า


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
27 พฤศจิกายน 2557 14:17 น.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - รองปลัดกระทรวงการคลัง ประธาน กก.สรรหาผู้ว่าฯ รฟม.ลั่น สรรหาผู้ว่าฯ รฟม.คนใหม่ต้องให้ได้เร็วที่สุดหลังจากขาดผู้บริหารมานาน หวังขับเคลื่อนโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่มีความล่าช้า โดยเฉพาะสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย

ตามที่ รฟม.ได้ออกประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ รฟม. ผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน ถึง 12 ธันวาคม 2557 คาดว่าจะสรรหาแล้วเสร็จในเดือนมกราคม 2558

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง และกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการ รฟม. เปิดเผยว่า รฟม.จำเป็นต้องสรรหาผู้ว่าการให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะขณะนี้ รฟม.ไม่มีผู้ว่าการมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 ทำให้ส่งผลกระทบต่อการบริหารงานต่างๆ ของ รฟม.เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่ขณะนี้มีความล่าช้า เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ทำให้รัฐบาลต้องการเร่งรัดงานต่างๆ ให้แล้วเสร็จเป็นรูปธรรมโดยเร็วเพื่อเป็นประโยชน์แก่ประชาชนและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

นายพงษ์ภาณุกล่าวว่า การสรรหาผู้ว่าการ รฟม.เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับของ รฟม. เพื่อสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถ ความรู้ความชำนาญในการบริหารจัดการ และมีวิสัยทัศน์กว้างไกลมาขับเคลื่อน รฟม. คณะกรรมการสรรหาฯ จึงกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครให้เปิดกว้างเพื่อให้ผู้สมัครทั้งจากภายในองค์กรและภายนอกองค์กรที่มีคุณสมบัติตามประกาศสามารถเข้ารับการสรรหาได้อย่างเป็นธรรม โปร่งใส เกิดการแข่งขันอย่างเต็มที่

ในส่วนของคุณสมบัติผู้สมัครที่ต้องไม่เป็นรักษาการผู้ว่าการ รฟม. จะทำให้เกิดการแข่งขันที่โปร่งใสและเป็นธรรมแก่ผู้สมัครทุกคน เพราะตำแหน่งรักษาการผู้ว่าการอาจทำให้ผู้แข่งขันรายอื่นเสียเปรียบ ให้คุณให้โทษผู้แข่งขันรายอื่นได้ การกำหนดคุณสมบัตินี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ขัดต่อกฎหมาย และไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของ รฟม. เพราะตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.รฟม.ระบุว่า ในกรณีที่ผู้ว่าการไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้หรือตำแหน่งผู้ว่าการว่างลง ให้รองผู้ว่าการอาวุโสสูงสุดตามลำดับเป็นผู้รักษาการ ถ้าไม่มีหรือมีแต่ปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ให้แต่งตั้งกรรมการคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาการแทนได้

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า ที่ผ่านมา รฟม.ประสบปัญหาการดำเนินงานล่าช้า และมีปัญหาในองค์กรมาโดยตลอด มีการกลั่นแกล้งกันทุกครั้งที่มีการสรรหาผู้ว่าการ ทำให้ รฟม.ไม่สามารถขับเคลื่อนงานได้ตามนโยบายรัฐบาล รัฐบาล คสช.จึงต้องการแก้ปัญหานี้ให้เบ็ดเสร็จโดยสรรหาผู้ว่าการที่มีความเหมาะสมมาขับเคลื่อนองค์กร ส่วนตำแหน่งรักษาการผู้ว่าการ รฟม.เป็นเรื่องชั่วคราว สามารถให้รองอาวุโสตามลำดับเป็นผู้รักษาการได้ ถ้าไม่มีสามารถแต่งตั้งกรรมการคนใดคนหนึ่งรักษาการได้ตาม พ.ร.บ.รฟม.มาตรา 27 จึงไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด ส่วนผู้สมัครที่เป็นรักษาการผู้ว่าการหากเลือกที่จะลงสมัครสรรหาผู้ว่าการก็สามารถไม่รับเป็นรักษาการผู้ว่าการ ซึ่งเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะพิจารณา

“ต้องคอยจับตาดูกันว่าจะมีขบวนการกลั่นแกล้ง ขัดขวางการสรรหาผู้ว่าการ รฟม.อีกหรือไม่ ซึ่งอาจจะเกี่ยวโยงกับขบวนการที่เกิดขึ้นใน ร.ฟ.ท. ทำให้ขณะนี้ ร.ฟ.ท.ยังไม่มีผู้ว่าการเช่นเดียวกัน หรืออาจเชื่อมโยงไปยังกลุ่มผลประโยชน์อื่นๆ ที่ต้องการขัดขวางการดำเนินงานของรัฐบาล” แหล่งข่าวกล่าว