View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 23/02/2015 5:21 pm Post subject: |
|
|
ท่านผตก.บ้าน เธอเดินมาพอดี เลยขอสักภาพกับวิวนี้ครับ แต่เนื่องจากฉากหลังสว่างจ้า ในขณะที่ยืนในร่ม ภาพเลยออกมาค่อนข้างมืดไปหน่อย ผมเลยไม่กล้าเอาไปอวดเธอ เพราะเธอกลัวนักเรื่องสีผิวนี่
ผมเดินทะลุผ่านบริเวณนั่งกินข้าวของร้านอาหารไปยังบันได ที่จะลงไปยังแพข้างล่างนะครับ แม้จะดูชันแต่ก็มีราวบันไดให้ทั้งสองข้างด้วย
ตรงเชิงบันไดด้านซ้ายมือ เป็นหัวมุมลานที่นั่ง มีการจัดเป็นมุมถ่ายภาพกับป้ายชื่อร้าน โดยมีรูปปั้นนก 2 ตัวอยู่ด้วย แต่เนื่องจากทางเดินเข้าไปมีโต๊ะอาหารที่มีคนกำลังนั่งทานอยู่ เลยไม่กล้าถ่ายภาพจากเชิงบันไดเข้าไปครับ
แต่หลังจากลงบันไดมาแล้วเล็กน้อย ก็หันกลับไปเก็บภาพตรงหัวมุมนั้นอีกที เป็นด้านหลังของป้ายครับ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 23/02/2015 5:44 pm Post subject: |
|
|
มองต่อมาทางขวามืออีกเล็กน้อย จะเป็นมุมมองที่สวยไม่เบา กับเรือนไทย ใกล้ร่มไม้ใหญ่ มีดอกไม้แซมด้วยครับ
มองไปทางซ้ายมือบ้าง จะเห็นเป็นอย่างไร ก็คือขั้นบันไดแนวลาดของเขื่อนนั่นเอง ดูแล้วก็คล้ายกับอัฒจันท์ ที่ใช้ชมการแข่งเรือได้เลยนะครับ ซึ่งอันที่จริงทาง อบจ.สามารถใช้จัดการแสดงอะไรก็ได้ตรงกลางน้ำ แล้วให้คนนั่งชมกันตรงนี้ได้เช่นกันครับ
หันกลับมาดูด้านขวามืออีกที ซึ่งเป็นจุดเล่นน้ำ ที่ผมไปเก็บภาพมาเมื่อครู่นี้เองนะครับ สามารถเดินลัดมายังตรงนี้ได้ (แต่คงไ่ม่มีใครเดินกัน) จะเห็นแพกลางบึงอยู่ไกลลิบๆ โน่น แต่เอ๊ะ.. กำลังมีเรือแล่นมานี่นา
ลองใช้กล้องซูมดูภาพเรือ สักหน่อยครับ กำลังแล่นเฉียดกำแพงทุ่นที่ใช้กั้นคนเล่นน้ำอยู่พอดีครับ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 23/02/2015 6:54 pm Post subject: |
|
|
นึกขึ้นได้ว่า เรือลำนี้ต้องมาจอดที่แพริมน้ำข้างล่างแน่นอน ผมเลยรีบเดินลงมายังแพทันทีครับ
ผมมาทันเรือยังมาไม่ถึงแพ เป็นเรือที่พานักท่องเที่ยวไปชมบึงบอระเพ็ด ตามป้ายแผนภาพก่อนหน้าที่ผมเห็น เป็นเรือท้องแบน ทำให้สามารถเข้าถึงน้ำตื้น ได้มาก แต่จะไม่เร็ว เหมาะแก่การนั่งชมวิว น่านั่งมากๆ เลยนะครับ
เรือเทียบแพแล้วครับ ในเรือมีที่นั่ง 3 ด้านพร้อมโต๊ะตรงกลาง ไว้รับประทานอาหาร ที่สั่งก่อนลงเรือ น่าเสียดายที่ชาวคณะตอนนั้นลังเลว่าจะอยู่กินอาหารที่นี่ดีไหม เลยไม่ได้นั่งเรือ เพราะต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงสำหรับ รอบการเที่ยวที่สั้นที่สุด เอาไว้คราวหน้าค่อยมาอีกทีดีกว่าครับ
ระหว่างนั้นผมก็มองวิวไกลๆ จากในแพไปพลางๆ เพราะถือว่าอยู่ใกล้บึงที่สุดแล้ว แต่ก็มองไม่เห็นอะไรเช่นเคย
เลยใช้กล้องซูมดูวิวไกลๆ ได้เรื่องครับ คือนอกจากเห็นแพกลางน้ำ แล้วยังได้เห็นหอสูงอยู่ไกลๆ ด้วย ผมจำได้จากป้ายแผนที่นำเที่ยวบอกว่า อยู่บนเกาะวัด ถ้าได้ไปที่นั่น อาจขึ้นไปชมวิวและดูนกได้รอบๆ บึงบอระเพ็ดเลยนะครับ อ้อ..แพกลางน้ำที่เห็นนั้น บังเอิญเห็นข้อมูลในเน็ตพบว่าเป็นแพประทับ ของรัชกาลที่ 6 เมื่อคราวแปรพระราชฐานมาที่นี่ครับ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 23/02/2015 7:19 pm Post subject: |
|
|
ได้เวลาเดินกลับขึ้นไปบนฝั่งแล้วครับ ยามนี้น้ำแล้ง แพเลยอยู่ห่างจากบันไดไปพอสมควร ถ้าหากเป็นฤดูน้ำหลาก แพอาจพาดไปบนขั้นบันไดเลยนะครับ (ยิ่งเป็นปีน้ำท่วมใหญ่ ปลาย พ.ศ.2554 แพอาจขึ้นไปจอดบนเขื่อนข้างบนได้เลยนะครับ )
ขึ้นมาเจอชาวคณะ ก็เกิดตกลงว่าจะหาอะไรทานกันที่นี่ โดยมีอาหารบางส่วนในรถมาสมทบ พอประหยัดกันไปได้ครับ แต่ก็ไม่ตกลงว่าจะไปนั่งทานในเรือเพราะกลัวเรือกลับมาเย็น แบบเราไ่ม่สามารถควบคุมเวลาได้นั่นเอง
ไม่นาน อาหารที่สั่งก็ทะยอยมาเสริฟครับ เ็ป็นแบบพื้นบ้านง่ายๆ
เจ้าลูกผมก็รีบคว้าก่อนใคร ดูเขามีความสุขกับการกินที่สุด รูปร่างเลยเป็นอย่างที่เห็นทั้งๆ ที่อายุยังน้อย (เทียบกับผมตอนอายุเท่านี้ ยังผอมบางราวกับเป็นโรคเลยครับ) |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 23/02/2015 7:32 pm Post subject: |
|
|
ขอภาพมาทางฝั่งผมบ้าง (ให้เจ้าลูกถ่ายให้นะครับ) เห็นรูปคุณพ่อตาทางขวามือแล้วใจหาย อดคิดถึงไม่ได้ นับเป็นทริปสุดท้ายที่ได้ไปเที่ยวไกลๆ ด้วยกัน ไม่งั้นคงได้ขึ้นเชียงใหม่กันอีกครั้งตอนปีใหม่ที่ผ่านมาครับ
นั่งตรงนี้ก็พอเห็นวิวบึงบอระเพ็ดบ้างละครับ แต่เป็นแบบแอบๆ เพราะอยู่ใต้ร่มไม้่ครึ้มๆ อีกที
นั่งๆ ไปก็เหลือบเห็นโคมไฟแขวนอยู่ข้างบน เข้าใจคิดทำ ประหยัดไฟแต่ได้บรรยากาศโรแมนติคแดงเรื่อๆ ออกมา
เสร็จแล้วก็เช็คบิล คิดค่าเสียหายออกมา เป็นเพราะอาหารมาแจมด้วย ไม่งั้นคงเฉียดพันบาทแน่นอนครับ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 23/02/2015 8:14 pm Post subject: |
|
|
ก่อนลุกไปจากโต๊ะอาหาร เห็นเมนูอาหารทำได้สวยดี น่าทาน ราคาก็ไม่แพงนัก เลยหยิบมาถ่ายไว้อ้างอิง ในคราวหน้าถ้าแวะมาทานใหม่อีกครั้งครับ (ขอนำมาแสดงให้ดูเล็กน้อย แต่ความจริงผมถ่ายไว้ครบทุกหน้าเลย )
ไม่ลืมพาไปถ่ายรูปหมู่ กันที่ป้ายชื่อร้าน ซึ่งถือเป็นจุดชมวิวบึงบอระเพ็ด ครับ คล้ายกับการปิดกล้อง ของกองถ่าย ถึงความสำเร็จของทริปนี้นะครับ (แต่กระทู้ยังไม่จบตรงนี้นะครับ ยังมีอีกนิดในเส้นทางกลับบ้าน)
ตรงจุดถ่ายภาพ มองไปทางบ้านเรือนไทย ก็อดถ่ายภาพอีกภาพไม่ได้ ลองค้นข้อมูลดูในเน็ต พบว่าเป็นบ้านพักครับ บริหารโดย อบจ.นครสวรรค์ ตัวอย่างภาพข้างในดังข้างล่างนี้ครับ
ที่มาของภาพ บล๊อกของคุณชมจันทร์ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 25/02/2015 5:32 pm Post subject: |
|
|
เสร็จภาระกิจทานมื้อบ่าย แล้วก็ต้องรีบเข้ากรุงเทพฯกันละครับ แต่ก่อนอื่นขอกางแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมให้ทราบถึงจุดต่างๆ ในบริเวณที่ทำการบึงบอระเพ็ดกันหน่อยครับ
เส้นสีต่างๆ ก็แสดงการเดินทางของผมนะครับ สีแดงเข้า สีเหลืองกลับออกไป ซึ่งผมได้แสดงให้เห็นว่า มีทางเข้าด้านทิศตะวันออกอีกทาง โดยผ่านศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดนครสวรรค์ ซึ่งเส้นทางนี้มาตามสีฟ้า โดยจะลอดใต้สะพานรถไฟด้วย ข้างในมีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ จุดชมวิวบึงบอระเพ็ดที่เห็นได้มุมกว้างกว่าส่วนของ ที่ทำการบึงบอระเพ็ดเองด้วยซ้ำ (แถมอยู่ใกล้แพประทับ ร.6 อีกด้วย)
อนึ่ง ถนนบริเวณทางเข้าบึงบอระเพ็ดนั้นดูสับสนไม่น้อย ยิ่งเข้ามาแล้วโดนเลี้ยวซ้ายกลับไปขนานถนน225 เส้นเดิมอีก ก็เริ่มงง แล้วก็งงกันไปใหญ่เมื่อพบว่ามีทางรถไฟอยู่้ข้างๆ ถนนภายในช่วงนี้มีระยะคู่ขนานทางรถไฟประมาณ 600 เมตรกว่าๆ ตรงทางเข้าส่วนแสดงจระเข้ (มีฟาร์มอยู่ข้างในด้วย) เท่าที่สังเกตุไม่มีป้ายบอกให้ชัดเจนว่ามีการแสดงจระเข้อยู่ เลยไม่ทราบ จนมารู้เอาจากในเน็ตนี่แหละครับ (เห็นไหม.. ว่าการไปเที่ยวสถานที่จริง บางทีก็ไม่รู้อะไรเท่ากับท่องเน็ตที่บ้าน )
ขอขยายแผนที่อีกสักหน่อย เพื่อให้เห็นบริเวณภายในที่ทำการบึงบอระเพ็ด ที่ผมผ่านไปจริงๆครับ
เท่าที่สรุปดู น่าจะมีเพียงแค่นี้นะครับ เพราะมันเยอะจริงๆ มานครสวรรค์ เข้ามาเที่ยวในบึงบอระเพ็ดก็สามารถหมดไป 1 วันได้สบายๆ ครับ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 25/02/2015 5:56 pm Post subject: |
|
|
ขับรถออกมาผ่านลานจอดรถฝั่งตรงข้ามอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำรูปเรือ จำได้ว่ามาครั้งก่อนยังเป็นที่โ่ล่งๆ ริมน้ำ มีเพียงสุขาริมบึงที่ออกแบบได้สวยแต่เก่าเท่านั้นครับ
ออกมาถึงสะพานด้านหน้าแล้วครับ ตอนเข้าถูกบังคับเลี้ยวซ้ายเลยไม่ได้ข้ามสะพานนี้ แต่ตอนนี้สังเกตุว่า เครื่องกั้นบังคับเลี้ยวซ้ายได้ถูกย้ายออกไปแล้ว ถือว่าตอนเย็นๆ วิ่งตรงเข้ามาได้เลย ในภาพจะเห็นป้ายบอกทางเข้าบึงบอระเพ็ดขนาดใหญ่มองเห็นได้ไกล ก็เพราะทางเข้ามันดูลับตา ตรงโค้งพอดี เลยต้องมีป้ายบอกให้ชัดเจน แต่สำหรับผมแล้ว ก่อนหน้านี้ยังคิดว่าเป็นสถานที่เพาะพันธุ์ปลา ของกรมประมง ห้ามคนภายนอกเข้าด้วยซ้ำไปนะครับ (ครั้งก่อนที่เข้ามา ก็ต้องใช้ความกล้าเข้ามาเป็นครั้งแรกอยู่เหมือนกัน)
ถนนข้างนอกวิ่งรถสบายๆ แต่แผล็บเดียว ก็ติด และติดอย่างนิ่งๆ แถวยาวๆ เลย อะไรกัน! ยังอีกตั้งไกลกว่าจะถึงถนนสาย 1 (พหลโยธิน) ที่มาจากสะพานเดชาติวงศ์ ติดซะแล้วหรือนี่
แต่ถ้าสังเกตุดีๆ ลองใช้กล้องซูมดู ก็จะทราบถึงสาเหตุการติดคือ พอดีมีขบวนรถไฟ บรรทุกน้ำัมันยาวๆ กำลังวิ่งผ่าน แหม..น่าเสียดาย ผมน่าจะอยู่ตรงหน้าสุด จะได้เก็บภาพแบบโดยบังเอิญ (เคยมาแล้วเหมือนกัน ณ. จุดนี้ อยู่หน้าสุดเลย แต่กลับโดนรถตู้แซงมาบังอีกที ) |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 25/02/2015 7:30 pm Post subject: |
|
|
ระหว่างรถติดนั้น ก็สังเกตุเห็นอะไรสีขาวๆ ทอดยาวมาแต่ไกล ตอนแรกก็คิดว่าเป็นเขื่อน หรือ พนังกั้นแม่น้ำ เพราะเื่ื่มื่อปี 2554 น้ำท่วมใหญ่ เขาคงหาวิธีป้องกันพื้นที่แถบนี้ ที่อยู่คนละด้านกับแม่น้ำน่าน
มองต่อมาทางขวามือ จะเห็นว่ามีบ้านสวยหลังหนึ่งปลูกอยู่ต่ำกว่าถนนมาก และเมื่อเทียบกับสันเขื่อนที่เห็น ก็เกือบถึงหน้าจั่วหลังคาบ้านเลย จำได้ว่าตอนน้ำท่วมปีนั้น ถนนเส้นนี้ยังท่วม บ้านหลังนี้คงจมมิดหลังคาแน่นอน ตอนปลูกเขาคงนึกไ่ม่ถึง เพราะเขาปลูกชนิดติดดินเลย ไม่มีเสาสูงแบบบ้านสมัยก่อนที่อยู่แถวภาคกลาง มักทำกัน ซึ่งหน้าแล้งก็จะเข้าไปนั่งเล่นใต้ถุนบ้านกัน (ดังเช่นบ้านใกล้กัน หลังสีเขียวทางซ้ายมือ)
ขบวนรถไฟผ่านไปแล้ว รถก็เคลื่อนตัวมาเรื่อยๆ เลยถึงบังอ้อ.. ครับ เป็นคันทางรถไฟ ที่เขาปรับปรุงเทคอนกรีตกันถล่มนั่นเอง ดูยังใหม่ คงเพิ่งสร้างไม่นานนะครับ
ผ่านจุดตัดทางรถไฟเสมอระดับมาเกือบ 2 กิโลเมตร มองไปทางซ้ายก็เห็นพระองค์โต ประดิษฐานอยู่โดดเด่นกลางที่โล่ง มีป้ายบอก "พุทธอุทยานนครสวรรค์" ผมเพิ่งสังเกตุเห็น ลงค้นข้อมูลดู พบว่า สร้างในปี พ.ศ.2549 อันเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี รัฐบาลสมัยนั้นได้มีโครงการสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมคล้ายกับพุทธมณฑล ใน 9 จังหวัด ซึ่งองค์พระที่เห็นก็คือ "พระพุทธศรีสัพพัญญู" พระประธานของพุทธอุทยาน ซึ่งสร้างขึ้นในภายหลัง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษาครบ 7 รอบ ในปีพ.ศ. 2554 เริ่มสร้างในปีพ.ศ.2553 จนปัจจุบันนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ครับ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 25/02/2015 8:38 pm Post subject: |
|
|
เจอป้ายบอกทางแยกข้างหน้า ซ้ายไปกรุงเทพฯ ขวาเข้าเมืองนครสวรรค์และเลยไปกำแพงเพชร ตามทางที่ผมมา ระยะทางไปกรุังเทพฯ แค่ 235 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงแบบเรื่อยๆ ตามสไตล์ของผม โดยถ้ารถไม่ติด เวลาตอนนั้นก็ 5 โมงเย็นครึ่งแล้ว ถึงกรุงเทพฯ ยังหัวค่ำอยู่
เกือบถึงแยก "บึงบอระเพ็ด" ที่มองเห็นเขาคีรีนาคพรตอยู่ไม่ไกลนัก แต่สดุดตาอาคารลักษณะคล้ายพระอุโบสถอยู่บนดาดฟ้าตึกทางซ้ายมือ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับศูนย์การศึกษาพิเศษประจำ นครสวรรค์พอดี (อีก 400 เมตรถึงสามแยก) น่าจะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเหมือนกับห้องพระของบ้านเรา แต่เจ้าของบ้านคงมีแรงศรัทธาสูง เลยสร้างไว้ซะสวยอย่างที่เห็นครับ
ผ่านสามแยกบึงบอระเพ็ดมาแล้ว ก็เลี้ยวซ้ายล่องไปทางกรุงเทพฯทันที เจอป้ายบอกระยะทางอันแรกก็ถ่ายภาพไว้ ซึ่งระยะทางก็ตรงกับป้ายก่อนหน้านี้
ไปอีกกิโลเมตรเศษๆ ก็เจออีกแยกแล้ว คือแยก "จิรประวัติ" ซึ่งเป็นสี่แยกสำคัญ เลี้ยวซ้ายไปสถานีรถไฟนครสวรรค์ เลยไป อ.ท่าตะโก ออก อ.ตากฟ้าได้ อ้อ.ผ่านอุทยานนกน้ำ ที่เป็นพื้นที่่ส่วนหนึ่งของบึงบอระเพ็ดด้วยครับ ส่วนเลี้ยวขวานั้นเข้าค่ายจิรประวัติของทหาร
ตรงมาอีกประมาณ 6 กิโลเมตรก็เจอแยกอีก แต่เป็นต่างระดับเีลี้ยวขวาไป จ.กำแพงเพชรตามถนนอ้อมเมืองด้านทิศตะวันตกครับ (เห็นป้ายแล้วอาจงงๆ ว่า จ.กำแพงเพชรอยู่ทางขวาทำไมให้เลี้ยวซ้าย) |
|
Back to top |
|
|
|