View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
Posted: 16/03/2015 12:24 am Post subject:
พัฒนาระบบรางไทยเริ่มใกล้ความเป็นจริง!
หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ
ฉบับวันที่ 14 - 20 มี.ค. 2558
การพัฒนาระบบราง ใกล้ความจริงขึ้นมาทุกขณะ เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องการลดค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์ ที่สำคัญการพัฒนาระบบรางนี้หลายภาคส่วนต่างยกนิ้วให้การสนับสนุน เพราะเป็นระบบที่เข้าถึงได้ทุกภาคส่วน โดยในเมืองนั้นก็จะมีรถไฟฟ้าหลากสี ออกต่างจังหวัดก็จะมีทั้งรถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง หรือไฮ สปีดเทรน
ล่าสุด ท่านนายกรัฐมนตรี "ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ได้เป็นประธานพิธีเปิดเดินเครื่องหัวเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาอุโมงค์ที่สองโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย สัญญา 2 ช่วงสถานีสนามไชยสถานีท่าพระ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ท่านผู้นำได้เห็นและได้ข้อมูลด้วยตัวเอง
ก่อนหน้านี้ "พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เปิดงานสัมมนาทางวิชาการงานวิจัยระบบรางมุ่งเป้า เพื่อการพัฒนาระบบรางของประเทศ ในหัวข้อ "นโยบายในการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมเพื่อผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ระบบราง"และกล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมีแผนก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดราง 1 เมตรเพิ่มเติมอีกประมาณ 2,500 กิโลเมตร (กม.) จากปัจจุบันมีระยะทางประมาณ 4,000 กม. หากรวมระยะทางรถไฟที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในอนาคตจะมีระยะทางรวมทั่วประเทศประมาณ 6,500 กม. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าและบริการให้สะดวกยิ่งขึ้น และเพื่อรองรับแผนโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบรางในอนาคต กระทรวงคมนาคมมีแผนที่จะพัฒนาบุคลากรขึ้นมารองรับทั้งรถไฟทางคู่ขนาดราง 1 เมตร และรถไฟทางคู่รางมาตรฐาน 1.435 เมตร
ส่วนการพัฒนาบุคลากรนั้น จะต้องร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ กระทรวงศึกษาธิการ ในการปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนระบบรางเข้าไปอยู่ในหลักสูตรของมหาวิทยาลัย และวิทยาลัยอาชีวะต่างๆ สนับสนุนให้มีการฝึกงาน ตลอดจนการพัฒนางานวิจัยระบบราง การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้เกิดความปลอดภัย การพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถลดใช้พลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้ได้มาตรฐานระดับสากลเพื่อรองรับการเป็นศูนย์การขนส่งทางรางของอาเซียน
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมยังมีแผนก่อสร้างรถไฟทางคู่รางมาตรฐาน 1.435 เมตร ที่สามารถวิ่งได้ความเร็วปานกลาง 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประมาณ 3,000 กิโลเมตร โดยโครงการแรกที่เป็นการนำร่อง คือ เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอยมาบตาพุด และแก่งคอย-กรุงเทพฯ ระยะทาง 687 กิโลเมตร ที่ไทยได้ร่วมลงทุนกับจีน
ส่วนโครงการที่ 2 คือ เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 700-800 กิโลเมตร เส้นทางที่ 3 คือ เส้นทางกรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์ ระยะทางประมาณ 970 กิโลเมตร เส้นทางที่ 4 คือ เส้นทางตาก-พิษณุโลก-มุกดาหาร ระยะทางประมาณ 900 กิโลเมตร โดยจะเป็นเส้นทางแนวตะวันออก-ตะวันตก ที่เชื่อมไปยังพม่าและลาว เส้นทางที่ 5 คือ เส้นทางกาญจนบุรีกรุงเทพฯ กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทราอรัญประเทศ และกรุงเทพฯฉะเชิงเทราแหลมฉบัง เพื่อเป็นการพัฒนาการเชื่อมโยงโครงข่ายทางรางกับประเทศเพื่อนบ้านในเส้นทางแนวระเบียงเศรษฐกิจด้านใต้จากตะวันออกไปตะวันตก
ขณะที่การสร้างทางคู่รางมาตรฐาน 1.435 เมตร เส้นที่ 6 คือเส้นทางท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล-ท่าเรือสงขลา ระยะทาง 150 กิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาและสำรวจเชิงยุทธศาสตร์เกี่ยวกับความเหมาะสมของโครงการแล้ว เบื้องต้นได้อนุมัติงบประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่รับฟังความเห็นเกี่ยวกับผลดีและผลเสียจากประชาชนและผู้ประกอบการท้องถิ่น คาดว่าจะศึกษาแล้วเสร็จภายในปลายปีนี้ และหากผลการศึกษาระบุว่าเหมาะสมและคุ้มค่าต่อการดำเนินงาน กระทรวงคมนาคมก็จะบรรจุโครงการดังกล่าวไว้ในแผนการดำเนินการปี 2559 ทันที คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 5-6 ปีจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าและบริการระหว่างทะเลฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน
โดยเส้นทางปากบารา-สงขลา นั้นถือเป็นโครงการสะพานเศรษฐกิจหรือ แลนด์บริดจ์ มีความสำคัญต่อการขนส่งของไทยมาก เพราะจะเป็นเส้นทางรถไฟที่เชื่อมต่อการเดินทางและการขนส่งสินค้าจากท่าเรือปากบารา บริเวณฝั่งอันดามันไปยังท่าเรือสงขลาแห่งที่ 2 ในฝั่งอ่าวไทยลดระยะเวลาการขนส่งได้ถึง 2 วันไม่ต้องอ้อมผ่านช่องแคบมะละกา
http://www.southdeepoutlook.com/brief/85919/%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87 !
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
Posted: 16/03/2015 5:26 pm Post subject:
รถไฟไทย-จีน คมนาคมตั้งบริษัทร่วมทุนเดินรถ จีน 40 ไทย 60 ใช้เวลา 7 ปีคืนไทย ยืดเคาะแหล่งเงินสิงหาคม นัดถกต่อ 6-8 พ.ค. ที่จีน
Thai Publica
12 มีนาคม 2558
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2558 พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือไทย-จีน ครั้งที่ 3 ด้านรถไฟ เส้นทางรถไฟกรุงเทพฯ-หนองคาย และแก่งคอย-มาบตาพุด ในช่วงวันที่ 10-11 มีนาคม 2558 โดยมีการลงพื้นที่ที่จังหวัดหนองคายว่ามี 4 เรื่องสำคัญคือ(อ่านคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 2)
1.ยืนยันรูปแบบความร่วมมือในการดำเนินโครงการ ว่าเป็นรูปแบบรับจ้างก่อสร้างเบ็ดเสร็จ หรือ EPC ซึ่งการแบ่งความรับผิดชอบให้เป็นไปตามที่ตกลงไว้ในการประชุมครั้งที่ 2 คือในฝ่ายไทยจะรับผิดชอบเรื่องของรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและเวนคืนที่ดิน รวมทั้งจัดทำข้อมูลสนับสนุนให้กับฝ่ายจีนในการสำรวจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแผนที่ ภาพถ่ายดาวเทียม ภาพถ่ายทางอากาศ และสถานที่สร้างสถานีรถไฟตลอดเส้นทาง ส่วนของฝ่ายจีนจะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องสำรวจออกแบบและงานระบบเดินรถ ทั้งนี้ กระทรวงจะจัดให้มีเครื่องมือกับเจ้าหน้าที่พิเศษลงพื้นที่ร่วมด้วย
ทั้งนี้ งานก่อสร้างฐานรากพื้นฐานอาจจะให้เอกชนเข้าร่วม โดยปัจจุบันทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้จัดทำรายชื่อเอกชนที่มีศักยภาพแล้วประมาณ 12-15 ราย แต่ยังไม่ได้เลือกต้องพิจารณาอีกครั้ง
2.สรุปแนวทางการฝึกและถ่ายทอดเทคโนโลยี รวมไปถึงการพัฒนาบุคลากรของกระทรวงคมนาคม ร.ฟ.ท. และเอกชนไทย โดยเสนอแนวคิดที่จะฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ด้วยการจัดหลักสูตรสั้น-ยาว ในสาขาที่จำเป็น โดยนายวรเดช หาญประเสริฐ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ยกตัวอย่างสาขาที่จำเป็น เช่น วิศวกรรมโยธารถไฟ, วิศวกรรมเครื่องกล, การบริหารระบบเดินรถ และเทคโนโลยีข้อมูลและการสื่อสาร โดยมอบหมายให้ ร.ฟ.ท. และการรถไฟจีนจัดทำหลักสูตรมานำเสนอในการประชุมครั้งหน้า แบ่งเป็นหลักสูตรระยะสั้น 3-6 เดือน หรือ 4-8 เดือน เริ่มต้นสิงหาคม 2558 ระยะกลาง 1-1.5 ปี เริ่มต้นเดือนตุลาคม 2558 และระยะยาวมากกว่า 1.5 ปี เริ่มต้นกลางปี 2559
3.เห็นชอบข้อตกลงเรื่องการปฏิบัติงานร่วมกันในบันทึกความร่วมมือ หรือเอ็มโอซี ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการ ตั้งแต่เดือนมีนาคมจนแล้วเสร็จว่า ขั้นต้น-ขั้นกลางจะทำอะไรก่อนลงนามสัญญาบ้าง ส่วนขั้นปลายจะตกลงกันในการประชุมครั้งที่ 4 ซึ่งคาดว่าจะประชุมหานอีกครั้งช่วงต้นเดือนเมษายนหรือปลายเดือนเมษายนนี้
ทั้งนี้ การประชุมครั้งนี้ฝ่ายจีนเสนอให้บรรจุข้อตกลงดังกล่าวลงในรายงานการประชุม ซึ่งถือว่ามีผลผูกมัดอยู่แล้ว จึงยังไม่มีการลงนามอย่างเป็นทางการ ส่วนร่างข้อตกลงฝ่ายไทยจะยังเก็บไว้ เผื่อได้ใช้ในโอกาสต่อไป
4.แหล่งเงินทุนและรูปแบบการลงทุน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ได้กล่าวเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2558 ว่า จะแยกรูปแบบลงทุนเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนก่อสร้างเป็นรูปแบบ EPC และส่วนที่ 2 เรื่องการเดินรถ จะเป็นรูปแบบบริษัทร่วมทุนระหว่างไทยกับจีน
ส่วนเรื่องแหล่งเงินทุน ไทยเสนอว่าให้เป็นการระดมทุนจากหลายแหล่ง แบ่งเป็น 4 ส่วน ได้แก่ 1.กรรมสิทธิ์ที่ดินและการเวนคืน จะใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน 2.การก่อสร้าง จะใช้เงินกู้ภายในประเทศ เนื่องจากใช้วัสดุก่อสร้างและวัตถุดิบในประเทศเป็นส่วนใหญ่ 3.เทคโนโลยี ระบบราง ระบบอาณัติสัญญาณ ระบบไฟฟ้า จะใช้เงินกู้จากประเทศจีน เนื่องจากจำเป็นต้องซื้อสินค้าจากจีน 4. เป็นเรื่องของบริษัทร่วมทุน
พล.อ.อ. ประจินกล่าวเสริมว่า สัดส่วน การดำเนินงาน ของบริษัทร่วมทุนจะแบ่งออกเป็น 3 ช่วง 1) ช่วง 1-3 ปีแรก จะให้จีนเป็นผู้ดำเนินการหลัก 2) ช่วง 4-7 ปี ไทยและจีนร่วมดำเนินการในสัดส่วนเท่าๆ กัน และ 3) ช่วง 7 ปีเป็นต้นไป ไทยเป็นผู้ดำเนินการหลัก และให้จีนเป็นที่ปรึกษา
ขณะที่สัดส่วน เงินลงทุน จะต้องดูเนื้องานก่อน ซึ่งในหลักการเนื้องานที่เกี่ยวกับการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานความรับผิดชอบเป็นของไทย 2 ใน 3 ส่วน ของจีนเป็น 1 ใน 3 ส่วน ส่วนการวางระบบอาณัติสัญญาณ การควมคุมการเดินรถ และเทคโนโลยีต่างๆ จีนจะรับผิดชอบ 2 ใน 3 ของไทยจะเหลือเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น แต่ต้องสรุปความชัดเจนก่อนว่าเนื้องานส่วนต่างๆ จะมีแผนการเงินและจะได้สัดส่วนของการลงทุนเท่าไร ทั้งนี้ คาดว่าจะได้กรอบสัดส่วนในการประชุมครั้งหน้า แต่วงเงินจะไม่ทราบจนกว่าจะมีความชัดเจนของการสำรวจและออกแบบ
อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงมีความตั้งใจจะแบ่งสัดส่วนเงินลงทุนในบริษัทเป็น 3 ส่วน และให้จีนมีสัดส่วนไม่เกิน 40% ที่เหลือให้เป็นของ ร.ฟ.ท. และเอกชนไทย เนื่องจากต้องการให้ ร.ฟ.ท. มีบทบาทอยู่
ประชุมไทยจีน_1
นายอาคมกล่าวเพิ่มเติมว่าด้านเงื่อนไขการกู้เงิน ประเด็นแรกไทยเสนอว่าอยากได้ดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดกว่า 2% แต่ฝ่ายจีนระบุว่าประเทศไทยมีระดับรายได้ปานกลางแล้ว เงื่อนไขในการกู้ดอกเบี้ยจะต้องสูงกว่า 2% แต่ว่าโครงการนี้เป็นโครงการแรกระหว่างไทย-จีน จีนจึงให้ดอกเบี้ยต่ำสุดที่ 2% เท่าเดิมและไม่อาจให้ต่ำกว่านี้ได้ เนื่องจากยังติดข้อกฎหมายของจีนที่บอกว่าการปล่อยเงินกู้ต่างประเทศในโครงการพื้นฐานต่างๆ จะต้องไม่ต่ำกว่า 2%
ประเด็นที่ 2 เรื่องระยะเวลาของการปลอดหนี้และการชำระหนี้คืน เบื้องต้นฝ่ายจีนระบุว่าเป็นกฎของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของจีนว่าต้องมีระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ 20 ปี ปลอดหนี้ 5-7 ปี (รวมอยู่ในระยะคืนหนี้ 20 ปี) ขณะที่ฝ่ายไทยพยายามต่อรองที่ 25-30 ปี ปลอดหนี้ 7-10 ปี ซึ่งฝ่ายจีนระบุว่าจะนำไปพิจารณาก่อน
ประเด็นที่ 3 ฝ่ายไทยต่อรองลดค่านายหน้าและค่าบริหารจัดการเงินกู้ ซึ่งคิดรวมทั้ง 2 ประเภท ประมาณ 0.5% ของเงินกู้ อย่างละ 0.25% แต่ฝ่ายจีนขอให้คำตอบหลังจากศึกษาความเป็นไปได้แล้วเสร็จ
ประเด็นสุดท้าย ฝ่ายไทยขอให้ใช้กฎหมายไทย เนื่องจากเราเป็นผู้กู้ ซึ่งฝ่ายจีนได้ขอเวลาศึกษาก่อน รวมไปถึงรายละเอียดการใช้อนุญาโตตุลาการ รวมทั้งเงื่อนไขอื่นๆ ทั้งนี้ โดยปกติสัญญาเงินกู้แบบนี้จะต้องใช้ระบบของอนุญาโตตุลาการ และไทยยังต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีด้วย
เงื่อนไขการเงินต่างๆ ยังต้องหารือกันก่อน หลังจากศึกษาความเป็นไปได้แล้ว รวมไปถึงเรื่องการออกแบบด้วย ซึ่งจะทำให้รู้ต้นทุนของโครงการ เมื่อรู้ต้นทุนแล้วจึงจะมาดูเรื่องของต้นทุนการเงินอีกที ซึ่งเราได้เร่งทั้งสองกระบวนการให้เสร็จในเดือนสิงหาคม ก็ต้องรอสิงหาคมจึงได้ข้อสรุปจริงๆ ส่วนเรื่องสัดส่วนการร่วมทุน ต้องศึกษาออกแบบบริษัทร่วมทุนร่วมกันก่อน คงจะเป็นการประชุมครั้งหน้า นายอาคมกล่าว
พล.อ.อ. ประจินกล่าวเสริมเรื่องเงื่อนไขเงินกู้ว่า ดอกเบี้ย 2% นี้ ทางจีนยังต้องกำหนดหลักเกณฑ์มาเสนอในการประชุมครั้งหน้าด้วยว่า ไทยต้องกู้เงินจำนวนเท่าไหร่ถึงจะได้ดอกเบี้ยอัตรา 2% แต่จำนวนเงินกู้ต่างๆ ยังต้องรอการศึกษาและออกแบบในเดือนสิงหาคมก่อน
พล.อ.อ. ประจินกล่าวถึงความคืบหน้าอื่นๆ ว่า ปัจจุบัน การรถไฟจีน (China Railway Corporation: CRC) ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาเป็นชุดสำรวจ 20 คน แล้วคาดว่าจะตามมาอีก 30 คนรวมเป็น 50 คน ทั้งนี้ กระทรวงได้เตรียมไซต์ทำงานไว้ 3 แห่ง คือ 1) ชุดประสานงาน หรือ war-room ที่กระทรวงคมนาคม 2) เป็นส่วนที่ ร.ฟ.ท. จัดเตรียมไว้ให้ 3) เป็นในพื้นที่อาจจะเป็นที่แก่งคอยและนครราชสีมา ซึ่งเมื่อทีมงานครบแล้วจะรีบลงพื้นที่สำรวจออกแบบทันที ขณะเดียวกัน การประสานงานกับกระทรวงต่างๆ ให้กระทรวงต่างประเทศจะดูแลเรื่อง VISA กระทรวงแรงงานดูเรื่องใบอนุญาตทำงานและกระทรวงการคลังเข้ามาดูแลเรื่องการนำเข้าอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับภาษีหรือการยกเว้นภาษี
ขณะเดียวกัน ปัจจุบันมีเรื่องที่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ 2 เรื่อง คือรายงานผลการดำเนินงานที่ผ่านมา และของบประมาณสนับสนุนส่วนสำนักงานประสานงานไทย-จีน และค่าที่ปรึกษาการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม, ประเมินสินทรัพย์กรณีต้องเวนคืนที่ดิน, การบริหารโครงการ และประเมินมูลค่าโครงการ คาดว่าจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้วันที่ 27 มีนาคม 2558
ขอสรุปประเด็นให้ทราบว่า นับแต่การประชุมครั้งที่ 1-3 เรามีความก้าวหน้าเรื่องของการกำหนดรูปแบบการลงทุน รูปแบบความร่วมมือ และขอบเขตของงาน ที่จะเริ่มสำรวจตั้งแต่มีนาคมเป็นต้นไป และจะมีผลสำเร็จสำหรับช่วง 1-2 ในปลายสิงหาคมถึงต้นกันยายน และจะก่อสร้างได้ช่วงต้นตุลาคมปีนี้เป็นต้นไป 30 เดือน ส่วนช่วงที่ 3-4 จะสำรวจเดือนมีนาคม สำรวจเสร็จธันวาคม 2558 และก่อสร้างต้นปี 2559 เป็นต้นไป 36 เดือน พล.อ.อ. ประจินกล่าว
ทั้งนี้ นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกำหนดการประชุมร่วมครั้งที่สี่ว่าจัดขึ้นที่คุนหมิง ประเทศจีน ในวันที่ 6-8 พฤษภาคม 2558 โดยมีวาระฝ่ายจีนคือเสนอหลักเกณฑ์เกี่ยวกับเงื่อนไขเงินกู้และรูปแบบบริษัทร่วมทุน, เสนอผลการศึกษาเบื้องต้นของโครงการ, เสนอหลักสูตรถ่ายทอดเทคโนโลยี และคำตอบข้อเสนอของไทยที่จะไปเยี่ยมชมกิจการรถไฟที่จีน ส่วนฝ่ายไทยจะเสนอความคืบหน้าผลการศึกษาสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ทางจีน ยังขอให้ไทยจัดทำเรื่องแนวทางการบริหารจัดการและบำรุงรถไฟมาเสนอด้วย
https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=h1rlYCwtRdc
//-------------------
'ประจิน'ถกจีนสร้างทางรถไฟ เชื่อ'คุนหมิง-มาบตาพุด'เกิดแน่
แนวหน้า
วันพุธ ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558, 20.19 น.
11 มี.ค.58 เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมโรงแรมบุศยรินทร์ อ.เมืองหนองคาย ได้มีการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย จีน ครั้งที่ 3 โดย พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นำคณะของไทย ประชุมร่วมกับ นายหวัง หมิน (Huang Min) รองกรรมการผู้จัดการบริษัทไชน่า เรลเวย์ คอร์ปอเรชั่น (Deputy General Manager China Railway Corporation) ซึ่งหลังจากร่วมประชุมได้คณะทั้งหมดได้ไปชมพื้นที่ก่อสร้างสะพานสำหรับรถไฟแห่งใหม่เพื่อเชื่อมทางรถไฟระหว่างหนองคาย เวียงจันทน์
พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การประชุม 2 ครั้งที่ผ่านมามีความคืบหน้าไปมาก ทั้งในฝ่ายของไทย และฝ่ายจีน รวมถึงได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจของทั้งสองฝ่ายที่กรุงเทพฯ จากนั้นได้มีการตั้งคณะกรรมการทำงานร่วมกันเพื่อร่วมกันผลักดันสร้างทางรถไฟขนาดมาตรฐาน ความเร็ว 168 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เส้นทางที่ร่วมกันคือ หนองคายอุดรธานีขอนแก่นนครราชสีมาสระบุรีกรุงเทพฯ จากนั้น จะแยกออกไป แก่งคอยมาบตาพุด ระยะทาง 870 กิโลเมตร นับเป็นเส้นทางเชื่อมโยงภาคอีสานกับภาคกลางเข้าด้วยกัน ในอนาคตทราบว่ารัฐบาลจีนมีแผนสร้างเส้นทางรถไฟทางมาตรฐาน จากคุนหมิง มายัง นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งจะสามารถเชื่อมต่อมายังจังหวัดหนองคายได้ หลังจากการหารือร่วมในครั้งที่ 3 นี้ ทั้งสองฝ่ายจะนำเข้าสู่การทำบันทึกความเข้าใจร่วมกัน
ด้านนายหวัง หมิน รองกรรมการผู้จัดการบริษัทไชน่า เรลเวย์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า รัฐบาลจีนจะบรรจุแผนพัฒนาจังหวัดหนองคายเข้าไปในแผนงานสำคัญด้านโลจิสติกส์ และอยู่ระหว่างการหารือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน การสร้างทางรถไฟหนองคายกรุงเทพมาบตาพุด จะมีประโยชน์ต่อประเทศไทยและกลุ่มอาเซียนเป็นอย่างมาก เส้นทางนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเชื่อมต่อภาคอีสาน กรุงเทพ และท่าเรือเข้าด้วยกันแล้ว ยังอยู่ในเส้นทางส่วนประกอบแห่งเอเชียด้วย ทางการจีนวางแผนสร้างรถไฟจากคุนหมิง หรือยูนนาน มาเวียงจันทน์ เข้าหนองคาย สู่กรุงเทพ และสิ้นสุดที่ระยอง ช่องทางนี้จะมีบทบาทสำคัญในอนาคต หลังจากสร้างเส้นทางรถไฟสายนี้เสร็จ ทั้งจีน ลาว และไทย 3 ประเทศนี้ จะกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ช่วยลดต้นทุนในการขนส่งสินค้าทางรถยนต์ และเครื่องบินได้เป็นอย่างมาก
ในส่วนของท่าเรือของจีน ซึ่งมี 7 ท่าเรือใหญ่ระดับโลก ปริมาณสินค้าขนส่งมากกว่า 8,000 ล้านตัน หรือร้อยละ 70 นำสินค้าออกสู่ยุโรป เอเชีย และอเมริกา โดยผ่านท่าเรือเหล่านี้ เป็นผลผลิตจากทางตะวันตกของจีน ปัจจุบันภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มีประชากรหลายร้อยล้านคน จีดีพี หมื่นล้านหยวน สินค้าเหล่านี้ถ้าขนผ่านท่าเรือเซี่ยงไฮ้ ระยะทาง 200 กิโลเมตร ขึ้นไป ถ้าผ่านทะเลใต้ของจีนจะมีอีกหลายพันกิโลเมตร หลังจากเส้นทางนี้สร้างเสร็จอยากพัฒนาท่าเรือมาบตาพุดเป็นท่าเรือสากล สินค้าจีนสามารถผ่านทางนี้ได้ จะเป็นการช่วยกระชับระยะทางและช่วยลดต้นทุน หากมีการนำสินค้าผ่านทั้งรถไฟและทางเรือร่วมกัน เชื่อว่าในอนาคตเมื่อเชื่อมทางรถไฟจากจีน เวียงจันทน์ หนองคาย มาบตาพุดเสร็จ นำสินค้าลงเรือมาบตาพุดได้จะเป็นมิติใหม่ของเอเชียแปซิฟิก จ.ระยองจะเป็นเมืองโลจิสติกส์ที่สำคัญมากกว่าที่เป็นอยู่
ภายหลังการประชุมได้ข้อสรุป ข้อมูลที่ได้ในการประชุมทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมาจะมีการนำไปหารือกันอีกครั้งในการประชุมครั้งที่ 4 ที่ คุนหมิง ประเทศจีน โดยจะมีประเด็นในการหารือ ทั้งในเรื่องของความก้าวหน้าเรื่องข้อตกลงด้านการเงิน รูปแบบการร่วมทุน ความคืบหน้าความเหมาะสมของโครงการ หลักสูตรการจัดอบรมบุคลากร และจะมีการพูดคุยกันในเรื่องของการศึกษาดูงาน ในการบริหารจัดการด้านการรถไฟของจีน
สำหรับรูปแบบการบริหารจัดการและการลงทุนนั้น จะแยกออกมาเป็นในช่วงแรก 1-3 ปี แรกให้จีนเป็นตัวหลัก ไทยเป็นตัวเสริม ช่วงปีที่ 4-7 จีนกับไทย จะร่วมกันบริหารจัดการในการเดินรถฝ่ายละครึ่งทาง ส่วนปีที่ 7 เป็นต้นไปนั้น ไทยจะเป็นผู้รับผิดชอบหลัก ขณะที่จีนจะเป็นฝ่ายสนับสนุน ส่วนเรื่องของการลงทุนนั้น จะเป็นการจัดตั้งบริษัทขึ้นมา และกำหนดสัดส่วนการลงทุนนั้นว่าจะเป็นเท่าไหร่ ในภาพรวมนั้นไทยจะเป็นหลักในการกำหนดสัดส่วน โดยส่วนไปอาจจะเป็น 2 ส่วน คือการรถไฟไทย ร้อยละ 30 เอกชนที่มีศักยภาพ อีกร้อยละ 30 ฝ่ายไทยจะมีสัดส่วนที่สูงกว่าจีนแน่นอน ซึ่งเชื่อว่าความก้าวหน้าในเรื่องของการสำรวจ นั้นจะมีผลชัดเจนในเดือนพฤษภาคมนี้ แน่นอน ส่วนเรื่องการฝึกอบรมทางการจีนจะเป็นผู้กำหนด เราจะต้องเร่งดำเนินการในเรื่องการให้เรียบร้อยในการจ้างที่ปรึกษาสำรวจผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม และจ้างที่ปรึกษาในเรื่องของการบริหารโครงการและการประเมินคุณภาพของโครงการ ซึ่งเราจะต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือน มีนาคม นี้ จะทำเรื่องขอการสนับสนุนเรื่องของบประมาณจากรัฐบาล ต่อไป.
//-------------------------
ประจินนำจีนลงพื้นที่สร้างรถไฟ เชื่อมไทย-ลาวที่หนองคาย
แนวหน้า
วันพฤหัสบดี ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558, 06.00 น.
ประจินนำจีนลงพื้นที่สร้างรถไฟ เชื่อมไทย-ลาวที่หนองคาย ทำรางวิ่งตรงมาบตาพุด
เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2558 พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม และผู้แทนฝ่ายจีน ได้ลงพื้นที่จ.หนองคายเพื่อสำรวจเส้นทางการก่อสร้างโครงการรถไฟไทย-จีน พร้อมทั้งประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านการพัฒนาโครงการรถไฟ ไทย-จีน โดยมีผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้บริหารจังหวัด และองค์กรส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมประชุม ณ โรงแรมบุศยรินทร์ จ.หนองคาย
ทั้งนี้ หลังจากการประชุมทางคณะทำงานทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ก็จะลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมชมสถานที่ก่อสร้างสะพานสำหรับรถไฟแห่งใหม่ เพื่อเชื่อมทางรถไฟระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์ ไปยังประเทศจีน พร้อมทั้งสำรวจเส้นทาง และติดตามความคืบหน้าของการก่อสร้าง รวมถึงร่วมแถลงผลการประชุม
พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า การเดินทางลงพื้นที่สำรวจเส้นทางก่อสร้างรถไฟขนาดรางมาตรฐานที่จ.หนองคาย เพื่อเร่งรัดงานก่อสร้างเส้นทางรถไฟ หนองคาย-มาบตาพุด หลังจากคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน มีข้อสรุปในหลายประเด็น เช่น รูปแบบการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแบบเบ็ดเสร็จ(EPC), การพัฒนาเทคโนโลยีและบุคลากรร่วมกัน, การจัดฝึกอบรมหลักสูตรระยะยาว และความเห็นชอบในการปฏิบัติงานร่วมกันจนถึงเสร็จสิ้นโครงการ รวมถึงจะมีการกำหนดการประชุมในครั้งที่ 4 ว่าจัดสถานที่ของประเทศใด ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงเดือนเม.ย.2558 นี้
ส่วนตัวเลือกรูปแบบการลงทุนในส่วนของการเวนที่ดินจะเป็นการกู้เงินภายในประเทศ, ด้านวัสดุก่อสร้างก็จะเป็นการกู้เงินภายในประเทศเช่นกัน, ด้านระบบไฟฟ้า ระบบเทคโนโลยี ระบบรางและระบบสัญญาณจะเป็นการกู้เงินจากประเทศจีน โดยทางจีนได้เสนออัตราดอกเบี้ยการกู้เงินในการก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐาน 2% และค่าบริหารจัดการกับค่าทำสัญญาเงินกู้อย่างละ 0.25%
ทั้งนี้หลังจากการศึกษาร่วมกันแล้วจะพิจารณาความเป็นไปได้อีกครั้งว่าจะมีการปรับเปลี่ยนระยะเวลาในการผ่อนชำระทั้งหมด 20 ปี และระยะเวลาปลอดหนี้ 5 7 ปี ซึ่งไทยได้เสนอให้จีนพิจารณาใหม่และขอให้มีการลดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลงกว่าเงื่อนไขปัจจุบัน
//-----------------------------
ไทย-จีนลงพื้นที่หนองคายลุยรถไฟเร็วสูง คมนาคมวางแผนสอง
แนวหน้า
วันอังคาร ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558, 06.00 น.
ไทย-จีนลงพื้นที่หนองคายลุยรถไฟเร็วสูง
คมนาคมวางแผนสอง
ให้คลังหาแหล่งเงินทุน
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อมความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 3 มีการหารือในส่วนของรูปแบบการร่วมมือ และรูปแบบการลงทุนสัดส่วนเงินกู้,การเดินรถ ในส่วนของรายละเอียด รวมถึงการฝึกอบรบการถ่ายทอดด้านเทคโนโลยีและการพัฒนาบุคลากรสามารถรองรับการใช้เทคโนโลยีใหม่ได้ ซึ่งจะพยายามเร่งหาข้อสรุปให้ได้ภายในวันที่ 10 มี.ค. 2558 นี้ ก่อนมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 11 มี.ค.นี้ ที่จ.หนองคาย โดยมีผู้แทนส่วนท้องถิ่นทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย
โดยขณะนี้ทางคณะสำรวจออกแบบของจีนได้เดินทางมาสำรวจพื้นที่ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาและได้ประสานงานร่วมกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ซึ่งทางไทยก็ได้มีการให้ความร่วมมือทางด้านข้อมูล โดยจะพยายามในเรื่องของการสำรวจพื้นที่ให้ครบทั้ง 4 ช่วงในเดือน มี.ค.นี้ ในส่วนของการฝึกอบรมที่จะต้องมีการสรุปเกี่ยวกับหลักสูตรและสาขาวิชาให้ได้ในเดือน ส.ค. นี้
ที่ประชุมได้มีการติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการจากการประชุมทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมาโดยจะมีการสรุปรูปแบบการร่วมมือ(EPC)ว่าจะมีการรูปแบบอย่างไร รวมถึงมีการเจรจาเกี่ยวกับรูปแบบการดำเนินงาน
ด้านรูปแบบการลงทุนจะพยายามลงรายละเอียดให้ได้มากที่สุดภายในเดือน มี.ค.-เม.ย. 2558 เพื่อนำไปสู่การร่างสัญญาช่วงที่ 1-2 ให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย. 2558 และสัญญาช่วงที่ 3-4 จะให้แล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.2558
ส่วนการก่อสร้างที่เป็นพื้นฐานยังไม่มีการกำหนดสัดส่วน ซึ่งจะมีการหารือรายละเอียดอีกครั้ง สำหรับแหล่งเงินทุนหากกรณีที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ทางไทยได้เสนอความต้องการในอัตราดอกเบี้ยพิเศษไว้ก็ ได้มีการเตรียมแผนสำรองไว้ในส่วนของ กระทรวงการคลัง ทั้งการกู้ในประเทศและต่างประเทศ ด้วยการออกพันธบัตรนั้นจะอยู่ในอัตราดอกเบี้ย 2.88%-4.66%
ในการก่อสร้างที่เป็นพื้นฐานยังไม่ได้มีการกำหนดสัดส่วนว่ากี่เปอร์เซ็นต์ของใคร จะเน้นหนักในเรื่องของ Civil Work ระบบราง ระบบอาณัติสัญญาณฯ ซึ่งจีนจะเป็นหลักขึ้นอยู่ว่าจะสัดส่วนเท่าไหร่ ในส่วนของการเดินรถ การซ่อมบำรุงและการตั้งศูนย์ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ โดยจะต้องนำแต่ละส่วนโครงสร้างพื้นฐานและการวางระบบรางก่อน หากในส่วนนี้เข้าเกณฑ์ของรัฐบาลจีนก็จะเป็นดอกเบี้ยในอัตราพิเศษ พล.อ.อ.ประจิน กล่าว
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
Posted: 17/03/2015 8:36 pm Post subject:
ประธานหอการค้าจังหวัด เพชรบูรณ์ยืนยันจะให้สร้างรถไฟไปเพชรบูรณ์ให้ได้
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=605733
เพชรบูรณ์-ชัยภูมิ ชิงดำ ตัดสินแนวรถไฟทางคู่ 28 เม.ย.
โดย...สุนทร คงวราคม/มัฆวาน วรรณกุล
หมวดหมู่ : ธุรกิจ-ตลาด
โพสต์ทูเดย์
โพสต์เมื่อ : 18 มี.ค. 2558, 15:01 น.
แนวรถไฟทางคู่เชื่อมโยงภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีมติเห็นชอบในแผนงานการพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง 2 แนวเส้นทาง คือ เส้นทางรถไฟระหว่างสายจัตุรัส-ชัยภูมิ-เลย-หนองบัวลำภู กับเส้นทางลำนารายณ์-เพชรบูรณ์-เลย-หนองบัวลำภู โดยขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเหมาะสมและคัดเลือกแนวเส้นทาง ซึ่งปรากฏว่าทั้ง จ.เพชรบูรณ์ และชัยภูมิ ต่างก็เสนอตัวต้องการเส้นทางรถไฟด้วยกันทั้งสองจังหวัด
กษิต โฆษิตานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดเพชรบูรณ์ ยอมรับว่า เป็นครั้งแรกที่ชาวเพชรบูรณ์ 99% เห็นด้วยกับโครงการนี้และร่วมกันแสดงพลังหรือแสดงออกอย่างพร้อมเพรียงกันแทบมิได้นัดหมาย จนต้องยกให้เป็นวาระเพชรบูรณ์ไปแล้ว
จากการพูดคุยกับทางประธานหอการค้าเลย ก็เห็นด้วยหากเส้นทางรถไฟจะผ่านเพชรบูรณ์ เพราะจะทำให้รูทท่องเที่ยวเส้นทางนี้มีความน่าสนใจและเติมเต็มมากขึ้น
ด้าน วิศัลย์ โฆษิตานนท์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ในวันที่ 28 เม.ย.นี้ ก็จะต้องตัดสินเลือกแนวเส้นทางแล้ว คณะทำงานจังหวัดค่อนข้างกังวลใจว่าบริษัทที่ปรึกษาจะมีข้อมูลเพียงพอหรือไม่ ดังนั้นจึงเสนอให้ รฟท.และบริษัทที่ปรึกษามาเปิดเวทีใหญ่เพื่อรับฟังความคิดเห็น ฟังเหตุผลที่ชาวเพชรบูรณ์ต้องการให้เส้นทางรถไฟผ่านจังหวัด และก่อนบริษัทที่ปรึกษาจะสรุปข้อมูลก็จะขอเปิดโต๊ะกลมพิจารณาข้อมูลว่านำเสนอได้ครบถ้วนสมบูรณ์มากน้อยแค่ไหน
ขณะเดียวกัน ชาว จ.ชัยภูมิ ก็แสดงความต้องการเส้นทางรถไฟสายนี้อย่างชัดเจนเช่นกัน
มนตรี ชาลีเครือ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ พร้อมสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ เขตอำเภอจัตุรัส ก็ได้ร่วมประชุมปรึกษาสาธารณะ เพื่อศึกษาความเหมาะสมของการก่อสร้างทางรถไฟที่มีแนวเส้นทางจาก อ.จัตุรัส-ชัยภูมิ-เลย-หนองบัวลำภู
มนตรี บอกว่า จะทำหนังสือในนามนายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ.ชัยภูมิ ถึง รฟท. เพื่อแสดงจุดยืนของคนชัยภูมิสนับสนุนการก่อสร้างทางรถไฟ เส้นทางสาย อ.จัตุรัส-ชัยภูมิ-เลย-หนองบัวลำภู 100%
ต้องจับตา 28 เม.ย.นี้ เส้นทางรถไฟทางคู่เส้นนี้ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคม รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั้งภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว จะได้ข้อยุติอย่างไร Last edited by Wisarut on 19/03/2015 2:19 am; edited 1 time in total
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
Posted: 19/03/2015 1:16 am Post subject:
รถไฟทางคู่ไทย-ญี่ปุ่น ทำไมต้องมาลงทุน?
by Phakaphong Udomkalayalux
Voice TV
13 มีนาคม 2558 เวลา 17:40 น.
โครงการรถไฟทางคู่ เป็นโครงการที่ประเทศญี่ปุ่นสนใจลงทุนเช่นกัน ญี่ปุ่นสนใจเส้นทางใด โอกาสการลงทุนและความเป็นไปได้มีมาก-น้อยแค่ไหน
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
Posted: 20/03/2015 1:07 am Post subject:
เลขาสภาพัฒน์เผย ครม.เศรษฐกิจ เคาะใช้บริษัทไทยก่อสร้าง พัฒนารถไฟฟ้าร่วมไทย-จีน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
18 มีนาคม 2558 เวลา 21:00:46 น.
เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจ (คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ) โดย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเลขาธิการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ได้รายงานตัวเลขเศรษฐกิจภายในประเทศและต่างประเทศในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจมีนัยยะสำคัญทางระบบเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อแก้ปัญหาภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย
นาอาคมกล่าวว่าครม.เศรษฐกิจยังพิจารณาติดตามความก้าวหน้าความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนในการพัฒนารถไฟรางมาตรฐาน2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางหนองคาย-กทม. และเส้นทางหนองคาย-มาบตาพุด ซึ่ง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รายงานว่าหลังจากประชุมร่วมกับจีน 3 ครั้งที่ผ่านมา ได้มีข้อสรุป ได้แก่ เรื่องที่หนึ่งรูปแบบการก่อสร้าง ออกแบบ แบ่งเป็น 1.การก่อสร้าง และ 2.เทคโนโลยี และ 3.ระบบราง โดยจะเป็นเทคโนโลยีของจีนทั้งหมด และว่าจ้างบริษัทไทยในการก่อสร้าง สำหรับเรื่องที่สองเรื่องการเดินรถ ได้ตกลงเบื้องต้นกับผู้แทนจีน ให้เป็นการเดินรถร่วม โดยอาจจะตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมาบริหารร่วมกัน ส่วนที่สามเรื่องแหล่งเงิน ตกลงเบื้องต้นว่าจะมาจากหลายแหล่ง ได้แก่ เงินงบประมาณ เงินกู้ในประเทศ และเงินกู้จากจีน ซึ่งจะใช้เฉพาะเรื่องเทคโนโลยี ตัวรถและอาณัติสัญญาณ
นายอาคมกล่าวว่า ควมคืบหน้าโครงการนี้ได้กำหนดตารางความก้าวหน้าไว้ว่า เดือนมีนาคม-สิงหาคม จะเป็นช่วงศึกษาความเป็นไปได้รวมกับการสำรวจ การออกแบบรถไฟเส้นทาง กทม.-หนองคาย หนองคาย-มาบตาพุด โดยวางไว้ 2 ระยะ คือ
ระยะที่หนึ่ง ช่วงเดือนสิงหาคมเรื่องการออกแบบและเรื่องการสำรวจ ได้แก่ ช่วงที่หนึ่ง กทม.-แก่งคอย ช่วงที่สองแก่งคอย-มาบตาพุด จะแล้วเสร็จเดือนสิงหาคม และใช้ช่วงเดือนกันยายนในการอนุมัติต่าง ๆ คาดว่าการก่อสร้างในช่วงต้นเดือนแรกจะเริ่มได้ในเดือนตุลาคม ทั้งนี้การออกแบบจะทำควบคู่ไปกับการจัดทำรายงานนผลกระทบสิ่งแวดล้อม
สำหรับช่วงที่สามแก่งคอย-นครราชสีมา และช่วงที่สี่นครราชสีมา-หนองคาย คาดว่าจะศึกษาและออกแบบได้เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม และเริ่มก่อสร้างต้นปี 59
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
Posted: 21/03/2015 5:35 pm Post subject:
คนเพชรบูรณ์รวมพลังขอรถไฟผ่าน
ข่าวภูมิภาค
INN News
วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2558 11:13น.
ข้าราชการ พนักงาน กว่า 500 คน รวมพลังเรียกร้องรถไฟผ่านเพชรบูรณ์ หลังรอคอยมากว่า 50 ปี
ข้าราชการและพนักงานเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ จำนวนกว่า 500 ชีวิต ได้ร่วมกันแสดงพลังที่บริเวณลานจอดรถสำนักงานเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ เพื่อเรียกร้องขอเส้นทางรถไฟผ่านเพชรบูรณ์ โดยกิจกรรมที่ชาวเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ได้ร่วมกันรณรงค์ นอกจากจะมีการชูป้ายและร่วมกันโบกธงแล้ว ยังร่วมกันส่งเสียงเรียกร้อง "รถไฟต้องผ่านเพชรบูรณ์ ปู๊น ๆ" อย่างพร้อมเพรียงกันอีกด้วย
ในการเรียกร้องดังกล่าวเพื่อต้องการให้กระทรวงคมนาคมและ ร.ฟ.ท. กระจายโอกาสให้แก่ชาวเพชรบูรณ์ได้มีเส้นทางรถไฟเป็นครั้งแรก หลังจากที่รอคอยกันมานานกว่า 50 ปี ตั้งแต่ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ต้องการจะย้ายเมืองหลวงมาที่เพชรบูรณ์ แต่ความฝันต้องจบสิ้นไปเมื่อ พ.ร.บ.นครบาลเพชรบูรณ์ ไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร
กระทั่งทาง ร.ฟ.ท.ว่าจ้างให้บริษัทที่ปรึกษา ศึกษาความเหมาะสมถึงเส้นทางรถไฟผ่านเพชรบูรณ์ เพื่อเป็นเส้นทางเลือก โดยจะคัดเลือกในปลายเดือนเมษายนนี้ จึงปลุกความหวังให้แก่ชาวเพชรบูรณ์ขึ้นมาอีกครั้ง ทุกคนคาดหวังว่าเสียงเรียกร้องของชาวเพชรบูรณ์จะได้ยินไปถึงผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
//--------------------------------
คนเพชรบูรณ์ผนึกกำลังขอรัฐตัดทางรถไฟผ่าน หลังรอมาตั้งแต่ยุค จอมพล ป.
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
21 มีนาคม 2558 09:07 น. (แก้ไขล่าสุด 21 มีนาคม 2558 10:37 น.)
เพชรบูรณ์ - ชาวเมืองมะขามหวาน ร่วมเรียกร้องเส้นทางรถไฟผ่านจังหวัด หวังคมนาคม และ ร.ฟ.ท.ให้โอกาส หลังรอคอยกันมามายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ ตั้งแต่สมัย จอมพล ป.
วันนี้ (21 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ชาวเพชรบูรณ์ทุกกลุ่ม และทุกสาขาอาชีพทั้ง 11 อำเภอ ต่างเคลื่อนไหวรณรงค์เรียกร้องขอเส้นทางรถไฟผ่านเพชรบูรณ์ พร้อมมีการแสดงออกในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะในสื่อโซเชียลมีเดีย จะมีชาวเพชรบูรณ์โพสต์รูป และข้อความสนับสนุนให้เส้นทางรถไฟผ่านจังหวัดของตนเอง
ล่าสุด ข้าราชการ และพนักงานเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์กว่า 500 ชีวิต ได้รวมตัวกันที่บริเวณลานจอดรถสำนักงานเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ วานนี้ (20 มี.ค.) เพื่อแสดงพลังเรียกร้องขอเส้นทางรถไฟผ่านเพชรบูรณ์ ด้วยการชูป้ายสนับสนุน และร่วมกันโบกธงแล้ว ยังร่วมกันส่งเสียงเรียกร้อง รถไฟต้องผ่านเพชรบูรณ์ ปู้นๆ อย่างพร้อมเพรียงกันอีกด้วย
เพื่อต้องการให้กระทรวงคมนาคม และ ร.ฟ.ท. กระจายโอกาสให้แก่ชาวเพชรบูรณ์ได้มีเส้นทางรถไฟเป็นครั้งแรก หลังจากที่รอคอยกันมานานกว่า 50 ปี ตั้งแต่สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม ต้องการจะย้ายเมืองหลวงมาที่เพชรบูรณ์ แต่ความฝันต้องจบสิ้นไปเมื่อ พ.ร.บ.นครบาลเพชรบูรณ์ ต้องตกไปหลังแพ้โหวตในสภาผู้แทนราษฎร
จากนั้นคำว่า รถไฟผ่านเพชรบูรณ์ ก็ได้ห่างหายไปจากความรู้สึกของชาวเพชรบูรณ์เป็นเวลานาน กระทั่งล่าสุด เมื่อการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ว่าจ้างให้ทางบริษัทที่ปรึกษาเร่งทำการศึกษาเพื่อเป็นเส้นทางเลือกระหว่างสายจตุรัส ชัยภูมิ เลย หนองบัวลำภู กับสายลำนาราษณ์ เพชรบูรณ์ เลย หนองบัวลำภู โดยจะมีการคัดเลือกในราวปลายเดือนเมษายนนี้ จึงปลุกความหวังให้แก่ชาวเพชรบูรณ์ขึ้นมาอีกครั้ง โดยทุกคนคาดหวังว่าเสียงเรียกร้องของชาวเพชรบูรณ์จะได้ยินไปถึงผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44872
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 22/03/2015 12:50 pm Post subject:
คนเพชรบูรณ์รวมพลังดันตัดทางรถไฟผ่านบ้านเกิด 1 เม.ย.เปิดเวทีใหญ่ปลุกกระแส
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 มีนาคม 2558 11:44 น.
เพชรบูรณ์ - ชาวเมืองมะขามหวานแสดงพลังเรียกร้องขอทางรถไฟผ่านเพชรบูรณ์ ผู้ว่าฯ ชี้หากเกิดขึ้นจริงจะพัฒนาเศรษฐกิจการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว เชื่อคุ้มค่าให้ ร.ฟ.ท.ลงทุน พร้อมเปิดเวทีใหญ่ 1 เม.ย.นี้
วันนี้ (22 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสการรณรงค์เรียกร้องให้รัฐบาลพัฒนาเส้นทางรถไฟผ่านเพชรบูรณ์ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง และหลากหลายรูปแบบตั้งแต่การจัดทำป้ายไวนิล สติกเกอร์ หรือแม้กระทั่งการเขียนข้อความสนับสนุนแบบง่ายๆ ลงบนกระดาษ ประชาชนทุกระดับทั้งกลุ่มเด็ก และเยาวชน รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจภายในจังหวัด ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าทั้ง 11 อำเภอทั่วจังหวัด ต่างก็พากันออกมาร่วมสนับสนุนเรียกร้องในทิศทางเดียวกัน
นอกจากนี้ ในสื่อโซเชียลมีเดียก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการรณรงค์ โดยมีการโพสต์ภาพกิจกรรมการแสดงออกเรียกร้องให้ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) หันมามองจังหวัดเพชรบูรณ์ซึ่งมีความพร้อมทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท้องเที่ยว รวมทั้งสภาพพื้นที่เหมาะสมคุ้มค่าต่อการลงทุน
นายบัณฑิตต์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า เป็นการแสดงออกของชาวเพชรบูรณ์ถึงความต้องการอย่างแท้จริง ทุกคนต่างมีความเห็นร่วมกันว่าการบริการสาธารณะระบบรางชนิดนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคนในพื้นที่และในจังหวัดใกล้เคียง นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยพัฒนาระบบเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว ในขณะที่ทางจังหวัดเองก็ให้การสนับสนุน ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย พิจารณาเลือกแนวก่อสร้างเส้นทางสายนี้ และทำให้เกิดขึ้นจริง หลังจากที่คนเพชรบูรณ์รอคอยกันมาอย่างยาวนานมาก
นายบัณฑิตต์กล่าวว่า การวางเส้นทางระบบรางผ่านเพชรบูรณ์นั้น นอกจากจะเป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังจังหวัดเลยแล้วยังจะเชื่อมต่อไปยังประเทศลาว ผ่านทางอำเภอท่าลี่ซึ่งปัจจุบันก็มีเส้นทางคมนาคมอยู่แล้ว ฉะนั้นด้วยความเหมาะสมของสภาพพื้นที่ และเป็นระเบียงเศรษฐกิจแนวเหนือใต้อีกเส้นทางหนึ่ง ซึ่งจะคู่ขนานกับไปกับเส้นทางพิษณุโลก-กรุงเทพฯ จึงเชื่อมั่นว่าจะคุ้มค่าต่อการลงทุนเป็นอย่างยิ่ง
วันที่ 1 เมษายนนี้ ทางจังหวัดจะร่วมกับทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด รวมทั้งชาวเพชรบูรณ์ทุกภาคส่วน จัดเวทีรับฟังความคิดเห็น พร้อมทั้งเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้ง ร.ฟ.ท.และบริษัทที่ปรึกษามาแลกเปลี่ยนหรือรับทราบข้อมูล ถึงความเหมาะสมในการลงทุนก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายลำนารายณ์ เพชรบูรณ์ เลย และหนองบัวลำภู
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
Posted: 23/03/2015 12:23 am Post subject:
งานนี้ พ่อเมืองมะขามหวานก็ ร่วมหัวจมท้ายกับการให้มีทางรถไฟไป เพชรบูรณ์ด้วย
ผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ชี้สร้างทางรถไฟผ่านจังหวัดคุ้มค่า
ข่าวภูมิภาค
INN news
วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2558 14:46น.
ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ชี้ สร้างทางรถไฟผ่านจังหวัดคุ้มค่า สามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศลาวผ่านทางท่าลี่
หลังจากชาวเพชรบูรณ์ต่างพากันออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องขอเส้นทางรถไฟผ่านเพชรบูรณ์ในรูปแบบต่าง ๆ กระทั่งกลายเป็นกระแสที่ถูกจุดติด โดยเฉพาะในสื่อโซเชียลซึ่งถูกหยิบมาใช้เป็นสื่อ ในการรณรงค์กันอย่างกว้างขวาง
ล่าสุด นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า เป็นการแสดงออกถึงความต้องการอย่างแท้จริงของชาวเพชรบูรณ์ เนื่องจากต่างเห็นพ้องร่วมกันว่าการบริการสาธารณะระบบรางชนิดนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่และในจังหวัดใกล้เคียง นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยพัฒนาระบบเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว
ในขณะที่ทางจังหวัดเองก็ให้การสนับสนุนให้ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยพิจารณาเลือกแนวก่อสร้างเส้นทางสายนี้ และทำให้เกิดขึ้นจริง หลังจากที่คนเพชรบูรณ์รอคอยกันมาอย่างยาวนานมาก
นายบัณฑิตย์ ยังกล่าวอีกว่า การวางเส้นทางระบบรางผ่านเพชรบูรณ์นั้น นอกจากจะเป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังจังหวัดเลยแล้ว ยังจะเชื่อมต่อไปยังประเทศลาวผ่านทางอำเภอท่าลี่ซึ่งปัจจุบันก็มีเส้นทางคมนาคมอยู่แล้ว ฉะนั้นด้วยความเหมาะสมของสภาพพื้นที่และเป็นระเบียงเศรษฐกิจแนวเหนือใต้อีกเส้นหนึ่ง ซึ่งจะคู่ขนานกับไปกับเส้นทางพิษณุโลก-กรุงเทพฯ จึงคุ้มค่าต่อการลงทุนเป็นอย่างยิ่ง
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
Posted: 23/03/2015 7:47 pm Post subject:
11มี.ค.58 รวค.นำคณะผู้แทนจีนเยี่ยมชมพื้นที่ก่อสร้างฯ รถไฟไทย-จีน
ภาพและข่าว โดย น.ส.ประไพจิตร โภชน์พันธุ์
ผู้มีส่วนร่วม: กระทรวงคมนาคม หูกวาง (owner), โจอ้วน ปัญญะ รัตนวราหะ, กองสารนิเทศ กระทรวงคมนาคม และคนอื่นๆ อีก 2 คน
พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นำหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เยี่ยมชมพื้นที่ก่อสร้างสะพานสำหรับรถไฟแห่งใหม่ หนองคาย-เวียงจันทน์
พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายรัฐบาลไทย นำนายหวัง เสี่ยวเถา รองผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เยี่ยมชมพื้นที่ก่อสร้างสะพานสำหรับรถไฟแห่งใหม่ เพื่อเชื่อมทางรถไฟระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์ โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และประธานคณะอนุกรรมการด้านการเงินและรูปแบบการลงทุน นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้าสำนักงานบริหารโครงการภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟของประเทศไทย (สบร.) นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี นายวรเดช หาญประเสริฐ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ร่วมเยี่ยมชม ณ จังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2558
Back to top