Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311304
ทั่วไป:13278350
ทั้งหมด:13589654
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 256, 257, 258 ... 475, 476, 477  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44710
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/06/2015 4:52 pm    Post subject: Reply with quote

เตรียมย้ายขบวนรถไฟให้บริการที่บางซื่อ ปี 62
VoiceTV by Preeyarat Boonmee 25 มิถุนายน 2558 เวลา 11:39 น.

การรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมย้ายขบวนรถไฟจากสถานีหัวลำโพงไปให้บริการที่สถานีกลางบางซื่อ คาดว่าจะใช้เวลา 3-4 ปี หลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ

ในงาน "99 สู่ 100 ปี สถานีหัวลำโพง" นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การรถไฟฯ มีแผนย้ายขบวนรถร้อยละ 80-90 ย้ายไปให้บริการที่สถานีบางซื่อ หลังจากการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อแล้วเสร็จในปี 2562 คาดว่าจะใช้เวลาในการย้ายประมาณ 3-4 ปี ส่วนสถานีกรุงเทพฯ หรือ หัวลำโพง จะปรับเปลี่ยนและพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้านประวัติศาสตร์การรถไฟฯ

ส่วนการจัดระเบียบผู้ที่มาอาศัยในพื้นที่สถานีรถไฟหัวลำโพง จำนวนกว่า 50 ราย ได้ประสานงานกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มูลนิธิและองค์กรเอกชนเพื่อสาธารณประโยชน์ ทำแผนดำเนินงานด้านการพัฒนาอาชีพและการฟื้นฟูจิตใจ คาดว่าจะแล้วเสร็จในสัปดาห์นี้

การรถไฟฯ ยังได้จัดนิทรรศการ "99 สู่ 100 ปี สถานีหัวโพง" เนื่องในโอกาสสถานีกรุงเทพ หรือ หัวลำโพง มีอายุครบ 99 ปี หลังจากเปิดบริการเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2459 เพื่อเผยแพร่ประวัติและวิวัฒนาการแห่งการเดินทางด้วยรถไฟ โดยจะจัดตั้งแต่วันนี้ (25 มิ.ย.) ไปจนถึงวันที่ 29 มิถุนายนนี้ ที่สถานีกรุงเทพฯ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44710
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/06/2015 9:45 am    Post subject: Reply with quote

พัฒนา “ส้วมสถานีรถไฟสะอาด”
บ้านเมือง วันอาทิตย์ ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2558, 08.51 น.

สาธารณสุข จับมือคมนาคม ท่องเที่ยวและกีฬา พัฒนาส้วมสถานีรถไฟในแหล่งท่องเที่ยว รองรับปีท่องเที่ยววิถีไทย เริ่มในแหล่งท่องเที่ยวแนะนำ 77 สถานี เผยสำรวจพบพฤติกรรมการใช้ส้วมสาธารณะไม่ถูกต้อง เช่น ใช้เท้าเหยียบบนที่นั่ง ยกที่รองนั่งขึ้นแล้วขึ้นไปเหยียบ หลังใช้ส้วมไม่ใช้น้ำชำระและไม่ล้างมือ เร่งส่งเสริมให้ประชาชนมีพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ถูกต้อง ลดการแพร่เชื้อโรคต่างๆ เข้าสู่ตนเองและผู้อื่น

ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “ส้วมรถไฟสะอาดเพื่อการท่องเที่ยว” ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง กทม. เพื่อพัฒนาส้วมในสถานีรถไฟในแหล่งท่องเที่ยวให้ผ่านมาตรฐานส้วมสาธารณะและมาตรฐาน ส้วมสาธารณะสะอาดเพื่อการท่องเที่ยว รองรับปีท่องเที่ยววิถีไทยของรัฐบาล ที่ตั้งเป้าสร้างรายได้ 2.2 ล้านล้านบาท

ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข โดย กรมอนามัย ได้ดำเนินการพัฒนาส้วมสาธารณะไทยตั้งแต่ปี 2548 เน้นให้ส้วมสาธารณะได้มาตรฐาน 3 ด้าน คือ สะอาด (Health) เพียงพอ (Accessibility) ปลอดภัย (Safety) หรือ HAS โดยส่งเสริมให้ประชาชนมีพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ถูกต้อง ปัจจุบันมีส้วมสาธารณะทั่วประเทศผ่านมาตรฐาน 70% สำหรับการพัฒนาส้วมรถไฟ เริ่มตั้งแต่ปี 2549 ขณะนี้มีส้วมของสถานีรถไฟได้ผ่านมาตรฐาน HAS ของกรมอนามัยแล้ว 251 สถานี จาก 443 สถานี คิดเป็น 57%

โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับกระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เร่งรัดพัฒนาส้วมสถานีรถไฟในแหล่งท่องเที่ยวหลักของประเทศ ให้สะอาดได้มาตรฐาน HAS พร้อมให้บริการทุกสถานี เพื่อรองรับปีการท่องเที่ยววิถีไทยตลอดจนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เริ่มที่สถานีรถไฟในแหล่งท่องเที่ยวแนะนำ 77 สถานี อาทิ สถานี จ.ชุมพร, ตรัง, นครศรีธรรมราช, บุรีรัมย์, ราชบุรี, ลำปาง และสมุทรสงคราม ตั้งเป้าพัฒนาให้แล้วภายใน 150 วัน เริ่มจากสถานีหัวลำโพงเป็นที่แรก ส่วนส้วมบนขบวนรถไฟ กรมอนามัยได้สำรวจสุขาภิบาลรถไฟและคุณภาพสิ่งแวดล้อมบนรถนอนชั้น 1 ปรับอากาศ เพื่อการรถไฟจะได้นำข้อมูลจากการสำรวจไปปรับปรุงให้ได้ตามมาตรฐานต่อไป

ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ทั้งนี้ เมื่อปี 2555 กรมอนามัยสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับส้วมสาธารณะพบส้วมสาธารณะที่ประชาชนเลือกใช้บริการมากที่สุด คือ ส้วมในห้างสรรพสินค้า/ศูนย์การค้า 48% ส้วมสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง 46% และส้วมแหล่งท่องเที่ยว 39% ประชาชนเลือกใช้ส้วมสาธารณะคำนึงถึงความสะอาดถึง 81% ส้วมสาธารณะที่ควรปรับปรุงมากที่สุดคือ ส้วมตลาดสด 50% ส่วนพฤติกรรมการใช้ส้วมสาธารณะ พบว่าประชาชนเลือกใช้ส้วมประเภทนั่งยอง 51% ส้วมนั่งราบ 49% ส่วนพฤติกรรมการใช้ส้วมนั่งราบพบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม คือ ใช้เท้าเหยียบบนที่นั่ง 4% ยกที่รองนั่งขึ้นแล้วขึ้นไปเหยียบ 6% หลังใช้ส้วมสาธารณะ ไม่ใช้น้ำชำระ 14% โดยให้เหตุผลว่าสายฉีดน้ำชำระไม่สะอาด ไม่ล้างมือหลังใช้ส้วมพบ 0.2%

กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์การใช้ส้วมสาธารณะอย่างถูกวิธี ขอความร่วมมือประชาชนไม่ขึ้นไปเหยียบบนโถส้วมแบบนั่งราบ ไม่ทิ้งวัสดุอื่นนอกจากกระดาษชำระลงโถส้วม และราดน้ำหรือกดชักโครกทุกครั้งหลังการใช้ส้วม และล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดทุกครั้งหลังจากใช้ส้วม เพื่อสุขลักษณะที่ดี ลดการแพร่เชื้อโรคต่างๆ เข้าสู่ตนเองและผู้อื่น
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
milkonline
2nd Class Pass (Air)
2nd Class Pass (Air)


Joined: 02/07/2009
Posts: 810
Location: อ.เมือง จ.ลพบุรี

PostPosted: 28/06/2015 10:12 am    Post subject: Reply with quote

เท่าที่ใช้บริการห้องน้ำที่สถานีกรุงเทพ คงต้องปรับปรุงเรื่องที่กันของเกาะกลางห้องน้ำที่ติดตั้งโถปัสสาวะนะครับ เพราะเกาะกลางโถปัสสาวะมันต่ำเกิน จนไม่รู้สึกเป็นส่วนตัวในการทำธุระ ถ้ามีคนอื่นมาใช้โถฝั่งตรงข้ามก็จะจ้องหน้ากันพอดี

คนที่เข้าไปใช้บบริการส่วนใหญ่ เลยเลือกเข้าห้องส้วมแทน
_________________
N-Scale model train lovers.
Back to top
View user's profile Send private message
nutsiwat
2nd Class Pass
2nd Class Pass


Joined: 03/03/2011
Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร

PostPosted: 28/06/2015 3:34 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
เตรียมย้ายขบวนรถไฟให้บริการที่บางซื่อ ปี 62
VoiceTV by Preeyarat Boonmee 25 มิถุนายน 2558 เวลา 11:39 น.

การรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมย้ายขบวนรถไฟจากสถานีหัวลำโพงไปให้บริการที่สถานีกลางบางซื่อ คาดว่าจะใช้เวลา 3-4 ปี หลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ

ในงาน "99 สู่ 100 ปี สถานีหัวลำโพง" นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การรถไฟฯ มีแผนย้ายขบวนรถร้อยละ 80-90 ย้ายไปให้บริการที่สถานีบางซื่อ หลังจากการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อแล้วเสร็จในปี 2562 คาดว่าจะใช้เวลาในการย้ายประมาณ 3-4 ปี ส่วนสถานีกรุงเทพฯ หรือ หัวลำโพง จะปรับเปลี่ยนและพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้านประวัติศาสตร์การรถไฟฯ

ส่วนการจัดระเบียบผู้ที่มาอาศัยในพื้นที่สถานีรถไฟหัวลำโพง จำนวนกว่า 50 ราย ได้ประสานงานกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มูลนิธิและองค์กรเอกชนเพื่อสาธารณประโยชน์ ทำแผนดำเนินงานด้านการพัฒนาอาชีพและการฟื้นฟูจิตใจ คาดว่าจะแล้วเสร็จในสัปดาห์นี้

การรถไฟฯ ยังได้จัดนิทรรศการ "99 สู่ 100 ปี สถานีหัวโพง" เนื่องในโอกาสสถานีกรุงเทพ หรือ หัวลำโพง มีอายุครบ 99 ปี หลังจากเปิดบริการเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2459 เพื่อเผยแพร่ประวัติและวิวัฒนาการแห่งการเดินทางด้วยรถไฟ โดยจะจัดตั้งแต่วันนี้ (25 มิ.ย.) ไปจนถึงวันที่ 29 มิถุนายนนี้ ที่สถานีกรุงเทพฯ


ด้วยจำนวนรถยนต์ที่มีเพิ่มมากขึ้น ทำให้รถไฟที่มุ่งหน้าส่งผู้โดยสารที่สถานีกรุงเทพ จึงต้องมีการชะลอขบวนรถที่เข้าสถานีกรุงเทพเพื่อระบายรถยนต์ให้คล่องตัวก่อนที่จะให้ขบวนรถไฟผ่านไปได้ ทำให้ขบวนรถที่เข้ากรุงเทพทุกขบวนล่าช้าบ้าง หากเป็นเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา รถยนต์ต้องรอให้รถไฟผ่านไปก่อนถึงจะปล่อยให้รถยนต์ผ่านไปได้ ณ เวลานี้มันกลับกันแล้วครับ รถไฟต้องรอให้รถยนต์คล่องตัวถึงจะผ่านไปได้ แล้วถ้าหากว่าเอาที่กั้นลงก่อน คนขับรถยนต์ก็ด่าและบ่นกัน แต่ทำไมถึงไม่คิดว่า เส้นทางรถไฟมันมาก่อนที่จำนวนรถยนต์จะเพิ่มมากขึ้น ณ ขณะนี้ ทำให้ต้องมีแผนที่จะย้ายสถานีรถไฟออกไปอีกให้พ้นตัวเมือง เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัด แล้วถ้าหากว่ากิจการรถไฟเจริญยิ่ง ๆ ขึ้น ระบบขนส่งและรางดีขึ้น มีจำนวนหัวรถจักร และขบวนรถเพิ่มมากขึ้น มีการขยายเส้นทางรถไฟสายใหม่เพิ่มขึ้น จึงต้องมีขบวนรถเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ผมว่าถึงเวลานั้น รับรองสถานีกรุงเทพ แออัดด้วยขบวนรถไฟแน่ ๆ ทุก ๆ 30 นาที จะมีขบวนรถถึง 4-5 ขบวนแน่ ๆ โดยเฉพาะช่วงตอนเช้าและตอนเย็นที่จะมีขบวนรถเข้า ๆ ออก ๆ ที่สถานีกรุงเทพ

ถ้าหากในปี 62 จะให้ย่านสถานีบางซื่อ ย่านพหลโยธิน ให้เป็นสถานีกลางสำหรับรถไฟ เพื่อเลี่ยงปัญหาเรื่องการจราจรในตัวเมือง ต่อไปย่านสถานีบางซื่อ ย่านพหลโยธิน และหมอชิตจะกลายเป็นชุมทางสำหรับการขนส่งโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ส่วนสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) อยากจะให้มีขบวนรถด่วนพิเศษ และรถด่วน วิ่งเข้าไปถึงสถานีรถไฟกรุงเทพ สำหรับรถเร็ว รถธรรมดา รถชานเมือง สุดปลายทางที่สถานีกลางบางซื่อ ย่านพหลโยธิน ก็เป็นจุดพักรถสินค้า รถขนส่งปูน และรถบรรทุกน้ำมัน ที่จะไปยังสายเหนือ สายอีสาน และสายตะวันออกและสถานีแม่น้ำต่อไป หากในอนาคตการจราจรในเมืองกรุงโดยเฉพาะบนถนนประชาสงเคราะห์ที่จะมุ่งหน้าไปประชานิเวศน์ 1 ถ.งามวงศ์วาน ถ.แจ้งวัฒนะ และ ถ.แถว ๆ ดอนเมืองมีมาก คงจะต้องสร้างเส้นทางรถไฟลอยฟ้าเริ่มต้นจาก กม.11 ยาวไปจนถึงหลักหก และต้องสร้างสถานีรถไฟลอยฟ้าแน่ ๆ ครับ
_________________
Laughing Laughing Laughing Laughing
--------------------------

สถานีต่อไป สถานีเรณูนคร
next station Renunakorn
Back to top
View user's profile Send private message Yahoo Messenger MSN Messenger
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42772
Location: NECTEC

PostPosted: 29/06/2015 9:47 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟเร่งปรับโฉมบริการใหม่ จัดหาหัวจักร-ยกระดับส้วมทั่วประเทศ
บ้านเมือง
วันจันทร์ ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558, 07.06 น.


การเดินทางไปยังจังหวัดต่างนั้น ประชาชนสามารถเลือกใช้การเดินทางด้วยระบบสาธารณะได้หลายด้าน ไม่ว่าเป็นทางถนนซึ่งก็มีการให้บริการของรถโดยสารประจำทาง ทางอากาศก็มีการให้บริการของสายการบินต่างๆ นอกจากนี้ยังจะมีระบบรางที่การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นผู้ให้บริการไว้เป็นอีก 1 ทางเลือกด้วย วันนี้ “บ้านเมือง” ขอนำเสนอรายละเอียดโครงการของการรถไฟ ว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้างที่ผ่านมา


เดินหน้าจัดหาหัวจักร


นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวถึงนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลทั้งในอดีตและปัจจุบัน ว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการให้บริการระบบรางอย่างยิ่ง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ต้องการเดินทาง เพื่อเป็นการสอดคล้องกับนโยบายของ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย อยู่ระหว่างปรับเปลี่ยนแผนการจัดหาหัวรถจักรใหม่ ซึ่งตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม ต้องการให้เปลี่ยนไปใช้หัวรถจักไฟฟ้าภายในปี 2575 โดยให้มีการนำร่องการเดินรถไฟฟ้าด้วยระบบ 1 เส้นทาง ซึ่งพบว่า มีความต้องการหัวรถจักรใหม่ประมาณ 100 คัน อย่างไรก็ตาม ในระยะเวลา 15-17 ปี จากนี้ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนเข้าสู่ระบบไฟฟ้า โดยในระยะเปลี่ยนผ่าน การจัดหารถทดแทนรถที่มีสภาพเก่า จะใช้วิธีการเช่าใช้พร้อมเหมาซ่อมบำรุงระยะเวลา 15 ปี โดยจะเช่าทั้งหัวรถจักร โบกี้โดยสาร แคร่บรรทุกสินค้า ตู้สินค้า โดยจะใช้รายได้จากการเดินรถมาจ่ายค่าเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายและภาระหนี้สิน


อนาคตดีเซลวิ่งท้องถิ่น


สำหรับโครงการรถไฟฟ้าที่จะมีการจัดหาในอนาคต เป็นระบบไฟฟ้าจะใช้วิธีซื้อหรือเช่า จะต้องพิจารณาสภาพคล่ององค์กร ซึ่งเป็นไปได้ที่จะใช้วิธีการจัดซื้อส่วนหนึ่ง เช่าส่วนหนึ่ง โดยมีความเป็นไปได้ทั้ง 2 ทางเลือก ส่วนรถดีเซลนั้น ในอนาคตก็มีแผนที่จะแบ่งเป็นการเดินรถให้บริการ ในส่วนของผู้โดยสารเส้นทางท้องถิ่น และการให้บริการในส่วนของผู้โดยสารเส้นทางสายย่อย ซึ่งจะมีการคุ้มทุนมากกว่าการลงทุนด้วยระบบรถไฟฟ้า


เล็งประกวดราคา ก.ค.นี้


ทั้งนี้ ตามแผนภายในเดือน มิถุนายน-กรกฎาคม 2558 นี้ จะประกวดราคาโครงการจัดซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า (Diesel Electric Locomotive) น้ำหนักกดเพลา 16 ตัน/เพลา จำนวน 50 คันพร้อมเครื่องอะไหล่ได้ หลังจากมีการยกเลิกร่างทีโออาร์เดิมที่ประกาศเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา เพื่อปรับลดราคากลางลงจาก 6,151 ล้านบาท และการเช่ารถจักร 20 คัน รวมถึงประกาศทีโออาร์ โครงการรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง คือ ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กม. วงเงิน 11,348.36 ล้านบาท, ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กม. วงเงิน 26,007.20 ล้านบาท และประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร วงเงิน 17,000 ล้านบาท ซึ่งผ่านสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้วได้ ส่วนการจัดซื้อหัวรถจักร น้ำหนักกดเพลา 16 ตัน/เพลา จำนวน อีก 30 คัน กรอบวงเงินประมาณ 3,360 ล้านบาทนั้นต้องยกเลิกและปรับไปอยู่ในแผนการเช่าแทนเนื่องจากไม่ได้รับงบปี 2558
ส่วนรถไฟทางคู่สาย ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ต้องรอสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทำหนังสือตอบมายัง รฟท.อย่างเป็นทางการ ว่าไม่มีข้อท้วงติงอื่นๆ อีกเนื่องจากก่อนหน้านี้ สตง.มีหนังสือทักท้วงว่า รฟท.คำนวณราคาโครงการผิดพลาด 4 รายการ ซึ่งกรมบัญชีกลางให้ความเห็นว่า รฟท.ควรปรับราคากลางและร่าง ทีโออาร์ ใหม่ ส่วนทางคู่ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เหลือขั้นตอนการจัดจ้างที่ปรึกษาควบคุมงาน เมื่อแล้วเสร็จก็จะทำการประกาศประกวดราคางานก่อสร้างทันที


แจงสีแดงสัญญา 3


สำหรับความคืบหน้า โครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต สัญญาที่ 3 (งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมตู้รถไฟฟ้าบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน) มูลค่า 27,926 ล้านบาทนั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2558 กลุ่มกิจการร่วมค้า MHSC Consortium (บริษัท MITSUBISHI Heavy Industrial Ltd บริษัท Hitachi และ บริษัท Sumitomo Corporation) ได้ยืนยันราคาเดิมที่ 32,850 ล้านบาท ซึ่งยังสูงกว่าราคากลางที่ รฟท.ได้ปรับราคากลางใหม่อยู่ที่ 30,500 ล้านบาท ดังนั้นในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ จะมีการเจรจาอีกครั้งโดยตั้งเป้าว่าราคาที่ยอมรับได้ อาจต้องปรับมาพบกันครึ่งทางที่ 31,000 ล้านบาทเศษ ซึ่งต้องรอการเจรจาก่อน ทั้งนี้ไม่ว่ากลุ่ม MHSC จะยอมปรับลดหรือไม่ จะต้องสรุปเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ตัดสินใจแล้ว นายวุฒิชาติ ยังได้ระบุว่า ในส่วนตัวผมอยากให้โครงการนี้ไปต่อได้ เนื่องจากเสียเวลามามากแล้ว อย่างไรก็ตามหากสรุปสัญญา 3 ได้เลยนั้น เราก็ยังต้องใช้เวลาอีก 48 เดือน ในการดำเนินการจัดหารถ และเราอาจต่อรองกับกลุ่ม MHSC ช่วยเร่งจัดรถมาวิ่งในช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันก่อน แต่หากต้องเปิดประมูลใหม่ก็จะต้องเพิ่มเวลาตรงนี้ไปอีก 6 เดือน-1 ปี


นายวุฒิชาติ กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย ว่าเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา ว่าที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ได้พิจารณาแผนฟื้นฟู เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานรวม 7 แผนงาน ประกอบด้วย การเพิ่มประสิทธิภาพการเดินรถ การพัฒนาบุคลากร, การใช้ระบบสารสนเทศ, การหาแนวทางบริหารทรัพย์สินขนาดใหญ่ ซึ่งบอร์ดมีข้อสังเกตและแนะนำเพิ่มเติม ประกอบด้วย กำหนดเป้าหมายของการดำเนินงานและผลสำเร็จ ส่วนการปรับโครงสร้างองค์กร จะมีการปรับกระบวนและขั้นตอนการทำงานภายในที่มีความล่าช้าและต้องผ่านการพิจารณาหลายฝ่ายใหม่ เช่น ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน ปรับการทำงานการพิจารณาเป็น One stop service โดยลดขั้นตอนการให้บริการตั้งแต่การยื่นจนได้รับอนุญาต จาก 24 ขั้นตอนเหลือ 9 ขั้นตอน ซึ่งมีการโอนย้ายบางหน่วยงานมาอยู่ในฝ่ายบริหารทรัพย์สินเพื่อความรวดเร็ว พร้อมกันนี้จะจ้างที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการทรัพย์สินขนาดใหญ่เข้ามาช่วยประเมินราคาในช่วงแรก ซึ่งในภาพรวมจะลดการรั่วไหล เพิ่มรายได้ด้านการบริหารทรัพย์สินมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีรายได้จากการบริหารทรัพย์สินปีละกว่า 2,000 ล้านบาทเท่านั้น


ยกระดับส้วมรถไฟ


นอกจากนี้ ที่ผ่านมาการรถไฟได้มีการพัฒนาเรื่องของสุขอนามัยให้กับประชาชนที่ใช้บริการทั้งสถานีรถไฟ และบนขบวนรถ ซึ่งตรงกับนโยบายของกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการให้รถไฟมีการปรับปรุงการให้บริการทุกด้าน เพื่อเป็นการยกระดับให้กับผู้โดยสารที่ใช้บริการ ซึ่งเมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ร่วมเปิดตัวโครงการ “ส้วมสะอาดเพื่อการท่องเที่ยว” พัฒนาส้วมในสถานีรถไฟ เพื่อเป็นการตอบรับปีท่องเที่ยววิถีไทย ให้ห้องส้วมตามสถานที่ราชการและสถานที่ท่องเที่ยวรวมถึงสถานีรถไฟ และบนขบวนรถสะอาดได้มาตรฐานสำหรับการให้บริการนักท่องเที่ยว โดยนโยบายในการปรับปรุงส้วม รถไฟนั้นจะมีทั้งในสถานี บนขบวนรถ โดยขณะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านเนื่องจากหลายสถานีมีสัญญากับผู้ประกอบการรายย่อยในการบริหารจัดการส้วม ซึ่งจะทยอยหมดสัญญาในปี 2558-2559 จากนั้นจะมีการปรับปรุงสภาพและการให้บริการให้สะอาดได้มาตรฐาน ให้แล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2559 โดยจะเป็นการให้บริการฟรีกับประชาชน จะใช้งบประมาณ และรายได้ของรถไฟมาดำเนินการปรับปรุงและบริหารจัดการ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42772
Location: NECTEC

PostPosted: 29/06/2015 5:35 pm    Post subject: Reply with quote

จ่อชิงเค้กหมอนคอนกรีต ยักษ์รับเหมา-ผู้ผลิตคอนกรีตรับรถไฟทางคู่
REAL ESATE
ฐานเศรษฐกิจ
วันจันทร์ ที่ 29 มิถุนายน, 2558
แหล่งข่าวระดับสูงของกระทรวงคมนาคมเปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าจากแผนเร่งผลักดันโครงการรถไฟและรถไฟฟ้าที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) จึงคาดการณ์จะมีการใช้วัสดุในการก่อสร้างจำนวนมากในปลายปีนี้และปี 2559 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “หมอนคอนกรีตอัดแรง” มีความต้องการใช้งานค่อนข้างสูงถึง 6.7 แสนชิ้น เนื่องจากการรถไฟฯจะมีโครงการรถไฟทางคู่หลายเส้นทาง ในเฟสแรกนี้จำนวน 6-8 เส้นทาง ทั้งนี้ เส้นทางที่คาดว่าจะสามารถเปิดขายเอกสารประกวดราคาได้ในปีนี้ได้แก่ เส้นทางฉะเชิงเทรา–คลองสิบเก้า–แก่งคอย, เส้นทางชุมทางถนนจิระ–ขอนแก่น และเส้นทางประจวบคีรีขันธ์–ชุมพร


นอกจากนี้ยังมีโครงการรถไฟสายสีแดงอ่อน เส้นทางบางซื่อ–พญาไท–มักกะสัน–หัวหมาก และสายสีแดงเข้มช่วงบางซื่อ–หัวลำโพงหรือมิสซิ่งลิงก์ และโครงการรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานดอนเมือง ช่วงพญาไท – บางซื่อ– ดอนเมือง ในส่วนโครงการรถไฟฟ้าที่รฟม.เป็นเจ้าของโครงการ ประกอบไปด้วย โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู เส้นทางแคราย–มีนบุรี สายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒน
ธรรมฯ– มีนบุรี และสายสีเหลือง เส้นทางลาดพร้าว–สำโรง

ขณะที่นายประสาธน์โฆสรัสวดีรองประธานบริหารฝ่ายจัดหาทางวิศวกรรมและฝ่ายจัดซื้อทั่วไปบริษัทอิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์จำกัด(มหาชน) บริษัทก่อสร้างชั้นนำ เปิดเผย ว่า ได้เตรียมความพร้อมผลิตวัสดุที่จะใช้กับโครงการรถไฟที่รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมเร่งผลักดันในปีนี้และปี 2559 ซึ่งมีทั้งผลิตเซ็กเมนต์ หมอนคอนกรีต พรีแคสต์ ชีตไพล์คอนกรีตที่ใช้งานกับทางด่วนและรถไฟฟ้าครั้งละไม่ตํ่ากว่าหลักหมื่นชิ้น ปริมาณคอนกรีตที่ใช้หลักล้านคิว โดยโรงงานของอิตาเลียนไทยจะเน้นผลิตเพื่อใช้งานเองเป็นหลัก ซึ่งมีการจัดระบบการผลิตเป็นแต่ละงาน หากไลน์การผลิตเดิมไม่เพียงพอจึงจะขยายเพิ่ม ในขณะนี้กำลังการผลิตยังเพียงพอกับความต้องการ

นายอาทิตย์ทีปกรสุขเกษมกรรมการผู้จัดการบริษัทผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรีจำกัด(มหาชน) หรือ CCP กล่าวว่า บริษัทมีความสนใจขยายธุรกิจจากผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำหรับงานโครงสร้างพื้นฐานด้านถนนและทางนํ้าเป็นหลัก มาผลิตหมอนคอนกรีตอัดแรง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับกลุ่มทุนจีนซึ่งสนใจจะร่วมทุนคาดจะได้ข้อยุติในเร็วๆนี้ ทั้งนี้ประเมินค่าทางการตลาดหมอนคอนกรีตค่อนข้างสูงมาก บริษัทสนใจจะผลิตป้อนให้กับบริษัทรับเหมาในรายกำลังการผลิตของเขาไม่เพียงพอ ถือว่าจะได้รับงานระยะยาว

ด้านนายกมลวรรธนคณินกรรมการผู้จัดการหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์คอนกรีตบริษัทไทยเนชั่นแนลโปรดัคท์จำกัดหรือทีเอ็นพีหนึ่งในผู้ประกอบการผลิตหมอนคอนกรีตให้กับโครงการรถไฟของการรถไฟฯกล่าวว่าปัจจุบันมีผู้ประกอบการผลิตหมอนคอนกรีตรถไฟจำนวนไม่กี่รายและทีเอ็นพีถือว่าอยู่ในระดับ 3 มีการผลิตวันละ 1,200 ก้อนป้อนให้กับบริษัทรับเหมาชั้นนำของไทยที่สั่งซื้อไปดำเนินการสายต่างๆดังนั้นหากจะผลิตป้อนให้กับรถไฟฟ้าก็สามารถทำได้โดยจะต้องปรับปรุงสายการผลิตอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“หากดูรายละเอียดโครงการรถไฟของร.ฟ.ท.จะเห็นว่ามีไม่น้อยกว่า 10 โครงการ แต่ละเส้นทางจะต้องใช้หมอนคอนกรีตจำนวนมาก จึงมองว่ายังมีศักยภาพและเป็นโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันส่งให้กับผู้รับเหมาทุกรายที่สั่งซื้อ”

ปัจจุบันธุรกิจนี้ยังมีผู้ผลิตน้อยรายกว่าปริมาณการนำไปใช้งานฉะนั้นโอกาสการผลิตจึงยังมีอีกมากตลาดยังเปิดกว้างจากกรณีที่รัฐบาลมีแผนเร่งผลักดันอีกหลายเส้นทาง ซึ่งทีเอ็นพีน่าจะครองมาร์เก็ตแชร์ทางการตลาดไม่ตํ่ากว่า 30% อยู่ในลำดับ 3 รองจากกลุ่มอิตาเลียนไทยและไทยพีคอน
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44710
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/07/2015 6:41 pm    Post subject: Reply with quote

สายเรือต่างชาติติงประมูลไอซีดีลาดกระบัง “ประจิน”ยันพร้อมส่งคตร.ตรวจสอบโปร่งใส
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 กรกฎาคม 2558 18:01 น.

“ประจิน”ยันประมูลไอซีดีลาดกระบังเป็นธรรม โปร่งใส เผย สายเดินเรือ Maersk ของเดนมาร์ก เข้าพบติงเลือกรายเดียวบริหาร 6 สถานี หวั่นได้เอกชนไม่มีคุณภาพ ชี้ขายซองถึง 14 ส.ค. หากมีร้องเรียนพร้อมส่งเรื่องให้คตร.ตรวจสอบ ด้านร.ฟ.ท.เผยเลือกผู้เสนอเก็บค่าบริการต่ำสุด เพื่อจูงใจใช้ขนส่งทางรางเพิ่มขึ้น ย้ำไม่ปิดกั้น 6 รายเดิมรวมกลุ่มเข้าประมูลได้ ด้าน”บอมบาร์ดิเอร์” พบประจิน โชว์ระบบโมโนเรล หวังร่วมชิงรถไฟฟ้าสีเหลือง-ชมพู

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ค. H.E. Mr. Mikael Hemniti Winther เอกอัคราชทูตอาณาจักรเดนมาร์กประจำประเทศไทยและกัมพูชา พร้อมด้วย ผู้บริหาร Maersk Group ได้เข้าพบ เพื่อหารือถึงโครงการประกวดราคาเพื่อสรรหาเอกชนรับสัมปทานเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ลาดกระบัง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เนื่องจากเห็นว่าเงื่อนไขในร่างทีโออาร์ ที่กำหนดให้เป็นผู้ประกอบการรายเดียวบริหาร 6 สถานีนั้น อาจจะทำให้ได้ผู้ประกอบการที่ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เพราะหากเป็นรายเล็กๆรวมตัวกันและให้บริการที่ไม่มีประสิทธิภาพจะทำให้ลูกค้าผู้ใช้บริการไม่พอใจ ขณะที่ Maersk Group นั้นนอกจากเป็นผู้บริหารสายเดินเรือแล้ว ยังเป็นผู้ให้ดำเนินงานบริหารสถานีขนส่งสินค้า หรือไอซีดี ลาดกระบัง 1 ใน 6 รายเดิมอีกด้วย โดยระบุว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินงานในกิจการนี้ในประเทศไทย 20 ปี และอยู่ในธุรกิจนี้มาเป็น 100 ปี

ทั้งนี้ ร.ฟ.ท.ได้ประกาศขายซองประกวดราคาไอซีดี ลาดกระบังไปแล้ว และจะสิ้นสุดขายซองในวันที่ 14 ส.ค. 2558 ดังนั้นในระหว่างนี้จะต้องดำเนินการประกวดราคาตามพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 56 ซึ่งหากมีประเด็นร้องเรียนใดที่มีมูลสามารถนำมาพิจารณา และส่งเรื่องให้ คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ช่วยพิจารณาตรวจสอบได้ หากคตร.เห็นว่า ไม่มีประเด็นที่ต้องแก้ไขจะเดินหน้าประกวดราคาต่อไป หรือให้ทบทวน ร.ฟ.ท.จะนำข้อมูลที่มีการร้องเรียน เสนอแนะมาปรับปรุง

รายงานข่าวจากร.ฟ.ท.แจ้งว่า การสรรหาเอกชนเพื่อรับสัมปทานเป็นผู้ประกอบการ ไอซีดี ที่ลาดกระบัง ร.ฟ.ท.ดำเนินการตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 โดยเงื่อนไขในทีโออาร์กำหนดคุณสมบัติให้ผู้ยื่นข้อเสนอต้องเป็นนิติบุคคลรายใหญ่ หรือกิจการร่วมค้า เพียงรายเดียวเข้าบริหารทั้ง 6 สถานี และจะข้อเสนอด้านราคา จะตัดสินเลือกรายที่เสนอค่าบริการต่ำที่สุด โดยมีเป้าหมายเพื่อจูงใจให้ใช้รางในการขนส่งสินค้าเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ร.ฟ.ท.ได้ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานสิ่งอำนวยความสะดวกไว้แล้ว โดยเอกชนจะรับผิดชอบลงทุน เครื่องมือให้บริการต่างๆ และค่าบำรุงรักษาถนนและสิ่งอำนวยความสะดวกให้มีความสภาพสมบูรณ์เท่านั้น

ส่วนผลตอบแทนภาครัฐนั้นกำหนดเป็นอัตราคงที่ โดยปีที่ 1-5 ที่อัตรา 67 บาทต่อตารางเมตร และปรับทุกๆ 5 ปี ในอัตราคงที่ จนครบ อายุสัมปทาน 20 ปี ซึ่งมีผลดีคือ เอกชนจะมีต้นทุนที่ชัดเจนและกำหนดค่าบริการที่เหมาะสมได้ นอกจากนี้ ร.ฟ.ท.ได้มีหัวจักรเพิ่ม 8 คันสำหรับการขนส่งเส้นทางลาดกระบัง-ท่าเรือแหลมฉบัง และในอนาคต ร.ฟ.ท.จะมีการจัดหาแคร่สินค้าอีก 308 คัน และโครงการศูนย์การขนส่งสินค้าทางรถไฟ ท่าเรือแหลมฉบัง (SRTO) ขิองการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เกิดขึ้นซึ่งล้วนจะสนับสนุนให้การขนส่งทางรางมีความสะดวกมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทีโออาร์เปิดกว้างให้ผู้ประกอบการรายเดิมรวมตัวกันเข้ามายื่นข้อเสนอได้ ไม่ได้ปิดกั้นแต่อย่างใด เป็นธรรมกับเอกชนทุกราย โดยขณะนี้บริษัท อีสเทิร์นซี แหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด (ESCO) และบริษัท สยามชอร์ไซด์ เซอร์วิส จำกัด (SSS) ซึ่งอยู่ในเครือสายเดินเรือ Maersk Group ได้ซื้อซองประมูลไปแล้ว

สำหรับผู้ประกอบการที่บริหารไอซีดีเดิม ประกอบด้วย สถานี A บริษัท สยามเซอร์ไซด์ เซอร์วิส จำกัด สถานี B บริษัท อีสเทิร์น ซี แหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด สถานี C บริษัท เอเวอร์กรีน คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล (ประเทศไทย) จำกัด สถานี D บริษัท ทิฟฟ่า ไอซีดี จำกัด สถานี E บริษัท ไทยฮันจิน โลจิสติกส์ จำกัด สถานี F บริษัท เอ็น.วาย.เค.ดิสทริบิชั่น เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด

บอมบาร์ดิเอร์ พบประจิน โชว์ระบบโมโนเรล หวังร่วมชิงรถไฟฟ้าสีเหลือง-ชมพู

และในวันเดียวกันผู้แทนจากบริษัท บอมบาร์ดิเอร์ ประเทศฝรั่งเศล เข้าพบ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม โดย บอมบาร์ดิเอร์ แสดงความสนใจในการร่วมลงทุนด้านงานรถไฟฟ้าแบบรางเดี่ยว หรือ ระบบโมโนเรลในกรุงเทพฯ ซึ่งจะมีการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี และ สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง และโครงการระบบขนส่งผู้โดยสาร (Automated People Mover : APM) เชื่อมต่อระหว่างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งกระทรวงคมนาคมก็ได้แสดงความชัดเจน ว่ารัฐบาลไทยจะดำเนินโครงการเหล่านี้แน่นอน และพร้อมเปิดกว้างทางการประกวดราคา
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44710
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/07/2015 6:32 am    Post subject: Reply with quote

ร.ฟ.ท.เล็งทำประกันภัยผู้โดยสารรถไฟฟรี
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 06 กรกฎาคม 2558, 12:31

ร.ฟ.ท. เตรียมทำประกันภัยให้ผู้โดยสารฟรี ตายได้ 3 แสน เจ็บ 3 หมื่น มั่นใจช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายค่าชดเชยอุบัติเหตุรถไฟได้

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า เดือน พ.ย. นี้ ร.ฟ.ท.จะเริ่มนำโครงการประกันภัยฟรีให้แก่ผู้โดยสารและพนักงานของ ร.ฟ.ท.ที่โดยสารและปฏิบัติหน้าที่บนขบวนรถไฟมาบังคับใช้ เพื่อให้ความคุ้มครองในชีวิตและทรัพย์สินแก่ผู้ใช้บริการและพนักงานรถไฟ กรณีได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถไฟ

ทั้งนี้ ปัจจุบันอยู่ระห่างคณะกรรมการทีโออาร์เร่งจัดทำรายละเอียดทีโออาร์ คาดว่าจะเปิดให้มีการประมูลภายในเดือนก.ค. และตั้งเป้าหมายคัดเลือกผู้ชนะการประมูลให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 2 เดือน เพื่อให้โครงการสามารถเปิดตัวได้ตั้งแต่เดือนพ.ย. ปีนี้เป็นต้นไป เพื่อให้ความคุ้มครองแก่ผู้โดยสารได้ทันช่วงเทศกาลปีใหม่ปีหน้าที่ประชาชนจำนวนมากจะเดินทางกลับบ้านไปฉลองปีใหม่

“การซื้อประกันภัยให้ผู้โดยสารครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบกับประชาชนที่ใช้บริการแน่นอน เพราะร.ฟ.ท.จะไม่ปรับขึ้นค่าโดยสารเพื่อนำเงินส่วนต่างไปจ่ายเบี้ยประกันภัย โดยรถไฟจะเป็นผู้รับภาระจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยให้ผู้โดยสารเอง”

นายปาณฑพ มาลากุล ณ อยุธยา หัวหน้าหน่วยธุรกิจการเดินรถ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า การทำประกันภัยในโครงการนี้จะให้ความคุ้มครองทั้งกรณีอุบัติเหตุและเสียชีวิต โดยกรณีเสียชีวิตจะได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละไม่เกิน 3แสนบาท ส่วนกรณีได้รับบาดเจ็บ จะได้รับชดเชยคู่รักษาพยาบาลรายละไม่เกิน 3 หมื่นบาท โดยความคุ้มครองจะครอบคุลมไปยังผู้โดยสารทุกคนที่นั่งอยู่บนรถไฟ ไม่ว่าจะเป็นผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วรถไฟ หรือผู้โดยสารที่โดยสารรถไฟฟรีด้วย

อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ ร.ฟ.ท. มีการจัดการทำประกันภัยให้กับผู้โดยสาร ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถไฟ สามารถได้รับความคุ้มครองในรูปแบบของเงินชดเชยในเวลาอันรวดเร็วขึ้น ไม่ต้องรอขอรับเงินชดเชยจากร.ฟ.ท.ที่เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่มีขั้นตอนการจ่ายเงินล่าช้า รวมทั้งยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับ ร.ฟ.ท.อีกด้วย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44710
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/07/2015 12:40 pm    Post subject: Reply with quote

ทั่วฟ้าคมนาคมไทย EP25 TNN24 ตอนการรถไฟกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว

Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44710
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/07/2015 5:00 pm    Post subject: Reply with quote

‘ประจิน’รื้อแผนพัฒนาแก่งคอย เล็งพื้นที่รับเมืองรถไฟ ลุ้นชงอนุมัติงบกว่า 8 พันล้านบาท
วันจันทร์ ที่ 13 กรกฎาคม, 2558 ฐานเศรษฐกิจ

“ประจิน” สั่งรีวิวแผนพัฒนาพื้นที่ย่านแก่งคอยรับรถไฟไทย–จีน ตั้งศูนย์ซ่อมบำรุงและเทรนนิ่งเซ็นเตอร์ ด้านร.ฟ.ท.เล็งปรับผลศึกษาเดิมให้สอดคล้องกับกรณีการย้ายมักกะสันไปรวมไว้ในพื้นที่ ยันเตรียมพื้นที่รองรับไว้พร้อมทั้งทางคู่และไฮสปีดเทรน สจล.เสนอผลศึกษาอาจใช้พื้นที่เขาคอกรองรับเมืองคนรถไฟ คาดใช้งบกว่า 8 พันล้านพัฒนาแก่งคอย

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง เปิดเผยว่าได้สั่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)ปรับแผนการพัฒนาพื้นที่ย่านแก่งคอยในการรองรับโครงการพัฒนาเส้นทางรถไฟไทย–จีน เพราะต้องการจะใช้พื้นที่ก่อสร้างเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงพร้อมกับใช้เป็นศูนย์ฝึกอบรม (Training Center) ให้กับบุคลากรโครงการในพื้นที่ดังกล่าวนี้

ตามผลการศึกษาเดิมตั้งแต่ปี 2555 นั้น พื้นที่แก่งคอยมีขนาดประมาณ 400 ไร่ ได้จัดพื้นที่เป็นพื้นที่โรงซ่อมจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังมีพื้นที่บ้านพักอาศัยพนักงานและได้จัดพื้นที่เพื่อก่อสร้างโรงซ่อมบำรุงเพื่อรองรับหัวรถจักร 20 คันที่อยู่ระหว่างการทยอยรับมอบ ดังนั้นพื้นที่ส่วนที่เหลือจึงสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อีก

ด้านนายวุฒิชาติกัลยาณมิตรผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า แผนการใช้พื้นที่แก่งคอย นอกจากจะใช้เป็นพื้นที่รองรับกรณีการย้ายมักกะสันไปอยู่ในพื้นที่แล้ว ปัจจุบันต้องยังจัดเตรียมเพื่อเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงโครงการรถไฟไทย–จีนและศูนย์เทรนนิ่งเซ็นเตอร์หลักอีกด้วยโดยขณะนี้ฝ่ายจีนได้เสนอแผนการฝึกอบรมให้กับไทยเรียบร้อยแล้วซึ่งฝ่ายไทยเพียงขอปรับแก้บางส่วนเท่านั้น

“ร.ฟ.ท.ยังมีแผนการจัดตั้งศูนย์สั่งการเดินรถ(OCC)ขึ้นที่เชียงรากน้อยเนื่องจากเล็งเห็นว่าที่บางซื่อไม่สะดวกเพราะมีการก่อสร้าง ซึ่งเชียงรากน้อยมีศูนย์ซ่อมที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ให้สามารถเพิ่มศักยภาพการใช้งานได้มากขึ้นโดยสามารถประสานงานกับศูนย์ซ่อมบำรุงที่แก่งคอยได้ดีกว่า”

แหล่งข่าวจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.) ในฐานะที่ปรึกษาแผนการพัฒนาพื้นที่แก่งคอยของร.ฟ.ท. กล่าวว่าขณะนี้ผลการศึกษาได้นำเสนอไปยังร.ฟ.ท.เรียบร้อยแล้ว ซึ่งพื้นที่ประมาณ 401 ไร่ยังเหลือพื้นที่เพื่อการนำไปพัฒนาอย่างอื่นได้อีก โดยตามผลการศึกษาจัดแบ่งพื้นที่หลักๆออกเป็นพื้นที่ศูนย์ซ่อมใหญ่ในปัจจุบัน พื้นที่บ้านพักอาศัยของพนักงาน พื้นที่ศูนย์ซ่อม 20 หัวรถจักร และพื้นที่ก่อสร้างโรงงานผลิตหัวรถจักรของร.ฟ.ท.เอง

โดยโรงงานแห่งใหม่ที่แก่งคอยจะถูกออกแบบไว้ให้สามารถรองรับจำนวนและรูปแบบล้อเลื่อนที่ใช้ในปัจจุบัน (ข้อมูลจากรายงานสถานการณ์ล้อเลื่อน ณ วันที่ 7 กันยายน 2555 และรายงานประจำปีโรงงานมักกะสัน 2555) โดยอยู่บนสมมติฐานชั่วโมงการทำงานแบบ 1 กะต่อวัน และ 247 วันทำงานต่อปี ดังต่อไปนี้ รองรับรถจักรดีเซลไฟฟ้าจำนวน 206 คัน รถจักรดีเซลไฮดรอลิกจำนวน 10 คัน รถดีเซลรางจำนวน 209 คัน และรถโดยสาร 888 คัน

อย่างไรก็ดีในการคำนวณขนาดของโรงงานที่แก่งคอยได้มีการเผื่อภาระการทำงานต่างๆไว้แล้วประมาณ 30% และได้เผื่อพื้นที่จุดจอดซ่อมไว้อีกประมาณ 10% โดยไม่จำเป็นต้องขยายโรงงานแต่อย่างใด นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ว่างด้านล่างของโรงซ่อมรถจักร/รถดีเซลรางอีกประมาณ 15,048 ตารางเมตรเพื่อรองรับการขยายตัวของศูนย์ซ่อมถ้าจำเป็นในอนาคต

“สจล.ในฐานะที่ปรึกษาแนะนำให้ร.ฟ.ท. พิจารณาใช้วิธีการเพิ่มกะการทำงานเพื่อรองรับจำนวนล้อเลื่อนที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตแทนที่จะเป็นการขยายโรงงาน ทั้งนี้เพื่อเป็นการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดในศักยภาพของเครื่องมือเครื่องจักรที่ได้ลงทุนไปด้วยมูลค่าสูง และหากจะย้ายบ้านพักพนักงานไปอยู่ในพื้นที่เขาคอกที่อยู่ห่างออกไปอีกประมาณ 8 กิโลเมตรก็สามารถรองรับได้ประมาณ 1,200 คนให้เป็นเมืองใหม่ของคนรถไฟ แล้วนำพื้นที่เดิมนั้นไปพัฒนาเป็นศูนย์ซ่อมหรือสถานีรถไฟทางคู่ ทั้งนี้ในเบื้องต้นได้ประมาณงบประมาณที่จะพัฒนาโครงการต่างๆในพื้นที่ไว้เป็นเงินจำนวน 8,098 ล้านบาท(รวมก่อสร้างบ้านพักในพื้นที่เขาคอก) งบเพื่อก่อสร้างโรงประกอบรถจักร วงเงิน 3,118 ล้านบาท”
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 256, 257, 258 ... 475, 476, 477  Next
Page 257 of 477

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©