View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 11/07/2015 4:04 pm Post subject: |
|
|
ขอบคุณที่พาชมครับ ผมเคยไปที่นั่น 2 ครั้งแล้ว แต่ไม่รู้ว่าสามารถเดินผ่านซุ้มประตูด่านสิงขรไปได้หรือครับ เพราะคิดว่าเป็น ด่านข้ามแดนซะอีก และเพิ่งทราบว่า จุดชมวิวด่านสิงขร อยู่เลยซุ้มประตูเข้าไปอีก พี่เข้าไปต้องเสียเงินไหมครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44820
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 24/07/2015 2:03 pm Post subject: |
|
|
เที่ยวพม่าเฮ! จ่อฟรีวีซ่า หลังครม.อนุมัติยกเว้นวีซ่าไม่เกิน 14 วัน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 กรกฎาคม 2558 13:53 น.
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบอนุมัติการจัดทำความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตรา (วีซ่า) สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาระหว่างไทย-พม่า อนุญาตให้ผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของแต่ละฝ่ายที่เดินทางเข้าประเทศผ่านทางท่าอากาศยานนานาชาติได้รับยกเว้นวีซ่าและพำนักในประเทศผู้รับได้ไม่เกิน 14 วัน เตรียมให้ รมต.ต่างประเทศลงนามในความตกลงดังกล่าว
วานนี้ (21 ก.ค. 58) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติการจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ว่าด้วยยกเว้นการตรวจลงตราผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้ คือ
1. เห็นชอบร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ว่าด้วยยกเว้นการตรวจลงตราผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ เพื่อให้สอดคล้องกับผลประโยชน์และนโยบายของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง และ
2. อนุมัติให้ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลงนามในความตกลงดังกล่าว
สาระสำคัญของร่างความตกลงฯ ฉบับแก้ไขล่าสุดมีเนื้อหาคล้ายคลึงกับร่างความตกลงฯ ฉบับที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2556 โดยมีรายละเอียดที่แตกต่าง ดังนี้ คือ
1. ข้อ 1 อนุญาตให้ผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของแต่ละฝ่ายที่เดินทางเข้าประเทศผ่านทางท่าอากาศยานนานาชาติได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราและพำนักในประเทศผู้รับได้เป็นเวลาไม่เกิน 14 วัน
2. ข้อ 5 การปฏิเสธการเข้าเมือง การลดระยะเวลา และการบอกเลิกการอนุญาต พำนัก สามารถทำได้โดยจะแจ้งเหตุผลหรือไม่ก็ได้ (ร่างความตกลงฯ เดิมระบุว่า สามารถทำได้โดยไม่ต้องแจ้งเหตุผล)
3. ข้อ 8 วรรค 2 การยกเลิกความตกลงฯ จะต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่องทางทางการทูต และความตกลงฯ จะสิ้นสุดลงและไม่มีผลบังคับใช้อีกต่อไปหลังจาก 90 วัน (ร่างความตกลงฯ เดิมระบุที่ 60 วัน) จากวันที่ได้มีการแจ้ง ซึ่งจำนวนวันที่ระบุในร่างความตกลงฯ อ้างอิงจากกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตรา (ASEAN Framework Agreement on Visa Exemption) ซึ่งได้มีการลงนามเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2549
และ 4. ยกเลิกข้อความภาคผนวกเอ (จุดผ่านแดนระหว่างประเทศที่ได้รับอนุญาตซึ่งจัดตั้งโดยราชอาณาจักรไทย) และภาคผนวกบี (จุดผ่านแดนระหว่างประเทศที่ได้รับอนุญาตซึ่งจัดตั้งโดยสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์
----
ไทย-เมียนมาลงนามยกเว้นวีซ่าอยู่ได้ 14 วัน ใช้เฉพาะเข้าทางอากาศ-ทางบกชะลอไว้ก่อน
ThaiPBS Fri, 24/07/2015 - 16:19
ไทย-เมียนมาลงนามยกเว้นวีซ่าอยู่ได้ 14 วัน ใช้เฉพาะเข้าทางอากาศ-ทางบกชะลอไว้ก่อน
รมว.ต่างประเทศของไทยและเมียนมา เตรียมลงนามบันทึกข้อตกลงยกเว้นวีซ่าของทั้งสองประเทศ แต่ขั้นต้นให้ใช้เฉพาะท่าอากาศยานเท่านั้น ส่วนด่านทางบกยังชะลอไว้ก่อน ให้มีผลบังคับใช้วันที่ 27 ส.ค.นี้่
วันนี้ (24 ก.ค.2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลเมียนมา (MOU) เรื่องยกเว้นการตรวจลงตราหรือยกเว้นวีซ่า ให้ผู้ถือหนังสือเดินทางแบบธรรมดา เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2558
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงนามข้อตกลงระหว่างทั้งสองประเทศ จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าที่ จ.เชียงใหม่ โดยรมว.ต่างประเทศของไทย และเมียนมาเป็นผู้ลงนาม ซึ่งผู้ที่เดินทางไปยังประเทศเมียนมา และผู้ที่เดินทางจากประเทศเมียนมา มายังประเทศไทย ที่ถือหนังสือเดินทางแบบธรรมดาได้รับยกเว้นวีซ่า จำกัดเฉพาะการเดินทางผ่านท่าอากาศยานนานาชาติเท่านั้น โดยมีสิทธิ์พำนักในประเทศนั้นๆ ได้ไม่เกิน 14 วัน ร่างเนื้อหาของข้อตกลงนี้เคยเป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2556 แต่การเดินหน้าลงนามข้อตกลงหยุดไปกลางคัน ช่วงการมีรัฐประหารเมื่อปี 2557
สำหรับการอนุญาตยกเว้นวีซ่าในเมียนมา จะบังคับใช้กับสนามบินนานาชาติ 3 แห่ง ได้แก่ กรุงเนปิดอว์ ย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์ ขณะที่ในประเทศไทยมีสนามบินนานาชาติ 23 แห่ง ซึ่งทั้งสองประเทศมีสายการบินที่มีเส้นทางการบินระหว่างกันทั้งหมด 7 สายการบิน
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์สำนักข่าวอิระวดี (http://www.irrawaddy.org) ของเมียนมา ระบุว่า ก่อนหน้าทางการเมียนมาต้องการให้ยกเว้นวีซ่าครอบคลุมไปถึงการผ่านแดนทางบกด้วย แต่ข้อเสนอนี้ตกไปเนื่องจากไทยเห็นว่า ข้อตกลงยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศผ่านทางเขตแดนทางบกยังไม่ควรใช้ ให้ทดลองผ่านทางอากาศไปก่อน ทั้งนี้ทางกระทรวงต่างประเทศเมียนมา ระบุว่า นักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศที่ผ่านเขตแดนทางบกมีเป็นจำนวนมาก เมียนมาจึงต้องการให้ไทยยกเว้นวีซ่า ณ จุดข้ามแดนเหล่านี้ด้วย
เว็บไซต์สำนักข่าวอิระวดีเปิดเผยอีกว่า ผู้ประกอบการท่องเที่ยวโรงแรมที่พักของเมียนมา ต่างมีเสียงตอบรับอย่างดีต่อการเว้นวีซ่าระหว่างกันครั้งนี้ และคาดหวังว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวไทยจะกลับมาเติบโตเป็นอันดับต้นๆ อีกครั้ง จากสถิติของกระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวของเมียนมาบันทึกไว้ว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค.ปี 2558 คนไทยเข้าไปเที่ยวที่ประเทศเมียนมาเกือบๆ 70,000 คน รองลงมาได้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีน 45,000 คน โดยปีนี้ตั้งเป้ามีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ 5 ล้านคน เน้นเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่พื้นที่ชาวฝั่ง เขตชายแดน และมีแผนพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานในแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวิตศาสตร์เพิ่มมากขึ้น |
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 03/05/2016 3:24 am Post subject: |
|
|
mirage_II wrote: | ขอบคุณที่พาชมครับ ผมเคยไปที่นั่น 2 ครั้งแล้ว แต่ไม่รู้ว่าสามารถเดินผ่านซุ้มประตูด่านสิงขรไปได้หรือครับ เพราะคิดว่าเป็น ด่านข้ามแดนซะอีก และเพิ่งทราบว่า จุดชมวิวด่านสิงขร อยู่เลยซุ้มประตูเข้าไปอีก พี่เข้าไปต้องเสียเงินไหมครับ |
เข้าไปชมไม่ต้องเสียเงินหรอก ครับ อยู่หลังตรวจคนเข้าเมือง เอารถจอดไว้แล้วเดินขึ้นไป ก่อนถึง ฐานตชด.ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายของฝั่งไทย ครับ
ต้องขออภัยนะ ครับ ที่ตอบช้า พอดีพึ่งเข้ามาอ่านกระทู้ ครับ
เป็นอันว่าผมขอนำเรื่องราวประสบการเดินทาง จากด่านสิงขร ถึง เมืองมะริด ประเทศพม่า ซึ่งในอดีต
ก็คือดินแดนไทยนั่นแหละ ครับ มานำเสนอ เป็นลำดับต่อไปนะ ครับ
******** ******
เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน - ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ที่ผ่านมา ผมได้เดินทางร่วมกับคณะของ ท่านพระครูผาสุกวิหารการ
เจ้าอาวาสวัดอ่างสุวรรณ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เดินทางไปเมืองมะริดประเทศพม่า จากด่านสิงขร ผ่านมูด่อง-บ้านสิงขร-เมืองตะนาวศรี
สุดท้ายที่เมืองมะริด ประเทศพม่า เยือนดินแดนอดีตที่เคยเป็นดินแดนไทย นำผ้าป่าไปถวาย ตามวัดต่าง ๆ และเยื่ยมเยือน
พี่น้องคนไทย ที่ยังคงอาศัยอยู่ในดินแดนพม่า ตั้งแต่โบราณมา จนถึงปัจจุบัน มานำเสนอเป็นลำดับ ต่อไป ครับ
ผมขอนุญาตเริ่มต้นที่วัดอ่างสุววรรณ ครับ เช้าวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๙ เรานัดรวมพลกันที่นี่ ครับ
คณะที่ร่วมเดินทางไปทั้งหมดประมาณ ๓๐ คน นัดกันหกโมงเช้า รถบัสจะมารับจากที่นี่ไปส่งที่ด่านสิงขร ครับ
ในระหว่างที่รอผมขอนำบรรยากาศที่วัดอ่างสุวรรณ(หรือชื่อเดิมวัดหนองหอย) ตั้งอยู่ที่ ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์
ซึ่งอยู่รอยต่อระหว่าง อ.ทับสะแก กับอำเภอบางสะพาน ถ้่ามาจากกรุงเทพฯ อยู่ตรงยูเทอร์นสุดท้าย ในเขต อ.ทับสะแก มีป้ายบอก ครับ
บรรยากาศที่วัดหนองหอย ยามเช้า ครับ
บริเวณหน้าวัดอยู่ใต้สายส่งระบบไฟฟเ้าแรงสูงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ครับ อาศัยพื้นที่เป็นที่จอดรถพอดี ครับ
_________________
|
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 03/05/2016 3:27 am Post subject: |
|
|
จุดเด่นที่น่าสนใจของที่นี่ ก็คือ โบสถ์ไม้ตาล ครับ เป็นที่รู้จักกันดี เราเข้าไปชมเลย ครับ
เจ้าถิ่นมาทักทายอีกแล้ว
_________________
|
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 03/05/2016 3:35 am Post subject: |
|
|
ข้างหน้าโบสถ์ ครับ สร้างด้วยไม้ตาลเช่นกัน
โบสถ์ไม้ตาล ครับ ข้างในมีหลวงพ่อไทร พระพุทธรูปโบราณประดิษฐานอยู่ แต่ตอนนี้ยังเช้าอยู่ ยังไม่เปิด ครับ
ด้านหน้าวัด ครับ ยานพาหนะที่ใช้กันมาแต่โบราณ แต่ปัจจุบันไม่มีให้เห็นแล้ว
_________________
|
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 03/05/2016 3:46 am Post subject: |
|
|
ตรงหน้าโบสถ์มีรูปหล่อของท่านพระครูผาสุกวิหารการประดิษฐานอยู่ด้วย ครับ
ซ้ายมือของโบสถ์ มีทางเข้าอีกด้านหนึ่งซุ้มประตูหันหน้ามาทางลานวัด ครับ
รอบโบสถ์กั้นด้วยศิลาแลง ครับ ดูหน้าเกรงามดูคล้าย ๆ ปราสาทหิน
ถัดออกามาเป็นอาคารปฎิบัติะรรม ครับ มองด้านนี้จะไม่เห็นโบสถ์ เพราะอาคารหลังนี้บังอยู่
_________________
|
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 03/05/2016 3:57 am Post subject: |
|
|
ภาพถ่าย ของท่านพระครูผาสุกวิหารการ ภายในอาคารปฎิบัติธรรม ครับ
ขออนุญาต นำพระวัติของท่าน และวัดอ่างสุวรรณมานำเสนอ ครับ
โบสถไม้ตาลทั้งหลัง วัดอ่างสุวรรณ จ.ประจวบคีรีขันธ์
จากคำบอกเล่าในอดีต วัดอ่างสุวรรณ (วัดหนองหอย) อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ "หลวงพ่อเฉลิม สุรโข" ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส จนกระทั่งท่านมรณภาพลง จึงกลายเป็นวัดร้างไปช่วงหนึ่ง ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ชาวบ้านได้นิมนต์ พระอาจารย์สมพงษ์ อัคคปัญโญ ให้มาเป็นเจ้าอาวาส
พระครูผาสุกวิหารการ หรือ พระอาจารย์สมพงษ์ เป็นพระนักพัฒนาด้านสังคม ด้านแพทย์แผนไทยแบบโบราณ โดยได้ศึกษาเล่าเรียน เรื่องการรักษาโรคต่างๆ และเครื่องรางของขลัง มาเป็นเวลากว่า ๑๐ ปี ชื่อเสียงของท่านจึงโด่งดัง จึงเป็นเรื่องปกติที่ทุกวันจะมีญาติโยมเดินทางมาเข้ารับการรักษาอย่างไม่ขาดสาย
พระครูผาสุกวิหารการ เปิดเผยว่า หลังจากเป็นเจ้าอาวาสได้อธิษฐานไว้ว่า จะขอสร้าง "อุโบสถไม้ตาล" ไว้ที่วัดนี้หนึ่งหลัง หลังจากนั้นได้ออกหาต้นตาลจากชาวบ้านในหมู่บ้านต่างๆ มาเริ่มสร้างอุโบสถซึ่งใช้ไม้ตาลทั้งหลัง ตัวอุโบสถกว้าง ๘ เมตร ยาว ๒๙ เมตร สูง ๑๖ เมตร ทั้งประตู หน้าต่าง ใช้ไม้ตาลทั้งหลัง มีเพียงคานล่าง และไม้เครื่องบนเท่านั้นที่ใช้ไม้ตะเคียน เนื่องจากต้องใช้ในการรับน้ำหนักมหาศาล รอบอุโบสถบางส่วนแกะสลักลายไทย
ส่วนภายในอุโบสถ พื้นใช้ไม้ตาลกระดานปูทำเป็นพื้น พระประธานในอุโบสถที่นำมาประดิษฐานไว้แล้วนั้น ประดิษฐาน พระพุทธชินราช หน้าตักกว้าง ๒ เมตร รอบด้านในอุโบสถเป็นไม้ตาล มีองค์เทพหลังพระประธาน สวมสร้อยสังวาลใช้ประดับด้วยพลอยขาว มองดูแล้วสวยงามมาก และคงจะเป็นอุโบสถหนึ่งเดียวในประเทศไทย หรือหนึ่งเดียวในโลกก็ว่าได้ที่ใช้ไม้ตาลทำทั้งหลัง อนาคตคงจะเป็นแหล่งเรียนรู้สถาปัตยกรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น
นอกจากอุโบสถไม้ตาลแล้ว ภายในวัดยังมีอุโบสถจำลอง (หลังเก่า) ศาลาหอฉัน ศาลาฌาปนกิจ โรงครัว กุฏิสงฆ์ หอประชุมหมู่บ้าน โรงเรียนศูนย์เด็กเล็ก โดยรอบๆ ภายในวัดมีไม้นานาชนิด ปลูกไว้ให้ความร่มรื่น สำหรับพระภิกษุสงฆ์ และสาธุชนที่มาทำกิจกรรมภายในวัด ส่วนพระสงฆ์ที่จำพรรษา อยู่ประจำที่วัดหนองหอยแห่งนี้ ช่วงออกพรรษาจะมีประมาณ ๒๐ รูป แต่ในช่วงเข้าพรรษา จะมีพระสงฆ์มาจำพรรษา ๓๐-๔๐ รูป
สำหรับใครที่สนใจเรื่องการรักษาแบบสมุนไพร ไปหาหลวงพ่อท่านได้ที่วัด การเดินทางสะดวกสบาย ถ้ามาจากกรุงเทพฯ ไปตามถนนเพชรเกษม ถึงหลัก ก.ม.ที่ ๓๗๖ - ๓๗๗ เลี้ยวขวาช่วงยูเทิร์นหนองหอย และวิ่งตามถนนลาดยางเข้าไปประมาณ 4 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดอ่างสุวรรณ หรือวัดหนองหอย ที่จะมีผู้คนสับเปลี่ยนกันเดินทางไปตลอดเวลา
.....................................................
คัดมาจาก เวปไซด์ ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=23912 _________________
|
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 03/05/2016 4:04 am Post subject: |
|
|
เมื่อสักครู่เราเข้าไปจากลานจอดรถเข้าไปยังบสถ์ ครับ มาที่ทางเข้าวัด ครับ มองเข้าไปร้่มรื่น
ถนนด้านหน้าวัด ครับ ผ่านชุมชนบ้านหนองหอย ตรงต้นมะพร้าวซ้ายทางนั่นคือโรงเรียนบ้านหนองหอย ครับ
หันกลับ ไปทางถนนเพชรเกษม ครับ
_________________
|
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 03/05/2016 4:09 am Post subject: |
|
|
เดินเข้าไปด้านขวามือ ศาลาปฎิบัติะรรม และโบสถ์จะอยู่ถัดไป ครับ
หันกลับไปเป็นกุฏิเข้าอาวาส ครับ
รถบัสมารับแล้ว เราเดินทางไปด่านสิงขรก่อนนะ ครับ เพื่อต่อรถไปมะริด
รอเเป๊บ อีก ๒ วันมาลงต่อ ครับ _________________
|
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 05/05/2016 8:24 am Post subject: |
|
|
เราร่วมเดินทางกันเลย ครับ ออกจารกวัดอ่างสุวรรณเราเดินทางกับรถบัส ไปส่งที่ด่าน
บรรยากาศภายในรถ ครับ
ทริปนี้ม่ีประมาณ ๓๐ คบ รวมทั้งพระสงฆ์ ๒ รูป ที่จะต้องข้ามไปฝั่งพม่า พระสงฆ์ส่วนหนึ่งขออาศัยไปลงระหว่างทาง
ขนเสบียงไปครบ ครัน ครับ
_________________
|
|
Back to top |
|
|
|