View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 11/11/2016 8:26 pm Post subject: |
|
|
มองเลยป้ายต่อไป ทำนองว่าฝากไว้ก่อน เอาไว้คราวหน้าจะมาแก้ตัว โดยมาให้เร็วกว่านี้ อาจต้องมานอนค้างที่กาญจนบุรีก่อน เพราะถ้ามาจากกรุงเทพฯ ก็จะมาถึงที่นี่บ่ายๆ ไปแล้วก็จะมีเวลาเดินได้ไม่พอครับ
หันกลับไปดูหุบเหวหน้าป้าย ที่เพิ่งปีนขึ้นมา ต่อจากนี้ก็ถึงเวลาคืนทุน เอ๊ย.. เดินกลับแล้วละครับ จากเวลาตอนนี้ 16:32 น. ผมน่าจะใช้เวลาเดินกลับสักหนึ่งชั่วโมง ถึงอาคารพิพิธภัณฑ์ก็คงไม่มืด แต่ได้เวลาระทึกแล้ว เพราะจะเป็นการเดินกลับเพียงคนเดียว นักท่องเที่ยว 2 คนนั้นป่านนี้คงเดินไปไกลแล้ว (เพราะไม่ได้รอผมตรงจุดที่แยกกัน)
จากบนเนินเขื่อนหินเจ็ดเมตรนี้ ซูมไปที่เนินที่ 5 จะเห็นบันไดที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน งานนี้ต้องควบคุมสติอารมณ์ให้ได้ ไม่ตื่นกลัว ค่อยๆ เดินขึ้นช้าๆ แม้จะดูเปล่าเปลี่ยวและใกล้ค่ำปานใด
ผมเดินลงเนินเขื่อนหินเจ็ดเมตรมาแล้ว มองไปที่บันไดปูนกลับขึ้นไปเนินที่ 5 แต่สังเกตุเห็นตรงยอดบันได มีกองหินที่คล้ายกับกำแพงเมืองจีน ช่างสวยแบบคลาสสิคจริงๆ นะครับ
Last edited by mirage_II on 12/10/2017 1:48 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
nutsiwat
2nd Class Pass
Joined: 03/03/2011 Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร
|
Posted: 14/11/2016 9:25 am Post subject: |
|
|
จากภาพที่ได้ชมที่ คุณ mirage_II ได้เดินทางสำรวจในเส้นทางบางช่วงก็เป็นเหว เป็นพื้นที่ต่ำกว่าระดับเส้นทาง แสดงว่าเส้นทางสมัยก่อนที่ก่อนจะถูกรื้อ น่าจะสร้างเป็นสะพานไม้เพื่อให้ทางรถไฟวิ่งในแต่ละจุด บางจุดก็จะลึกพอสมควร ถ้าหาก ณ ปัจจุบันนี้ยังไม่โดนรื้อและยังมีเดินรถอยู่ ผมว่าเป็นเส้นทางที่หวาดเสียวและดึงดูดนักท่องเที่ยวพอ ๆ กับทางรถไฟสายมรณะเช่นกันนะครับ เพราะผ่านช่องเขาขาด ผ่านเหวลึกของอีกฟากหนึ่งของเส้นทาง ผ่านป่าเขา และผ่านสะพานข้ามเหวในหลายจุด ขอบคุณคุณ mirage_II ที่สำรวจเส้นทางสายนี้มาให้ได้ชมกันแบบเต็ม ๆ นะครับ ผมเองก็ค่อนข้างสนใจกับเส้นทางสายนี้เช่นกันครับ ว่าเส้นทางสายนี้ผ่านจุดใด ๆ บ้างก่อนที่จะถูกรื้อรางออกไป เป็นกำลังใจให้กับคุณ mirage_II ด้วยนะครับ _________________
--------------------------
สถานีต่อไป สถานีเรณูนคร
next station Renunakorn
|
|
Back to top |
|
|
nutsiwat
2nd Class Pass
Joined: 03/03/2011 Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร
|
Posted: 14/11/2016 9:25 am Post subject: |
|
|
จากภาพที่ได้ชมที่ คุณ mirage_II ได้เดินทางสำรวจในเส้นทางบางช่วงก็เป็นเหว เป็นพื้นที่ต่ำกว่าระดับเส้นทาง แสดงว่าเส้นทางสมัยก่อนที่ก่อนจะถูกรื้อ น่าจะสร้างเป็นสะพานไม้เพื่อให้ทางรถไฟวิ่งในแต่ละจุด บางจุดก็จะลึกพอสมควร ถ้าหาก ณ ปัจจุบันนี้ยังไม่โดนรื้อและยังมีเดินรถอยู่ ผมว่าเป็นเส้นทางที่หวาดเสียวและดึงดูดนักท่องเที่ยวพอ ๆ กับทางรถไฟสายมรณะเช่นกันนะครับ เพราะผ่านช่องเขาขาด ผ่านเหวลึกของอีกฟากหนึ่งของเส้นทาง ผ่านป่าเขา และผ่านสะพานข้ามเหวในหลายจุด ขอบคุณคุณ mirage_II ที่สำรวจเส้นทางสายนี้มาให้ได้ชมกันแบบเต็ม ๆ นะครับ ผมเองก็ค่อนข้างสนใจกับเส้นทางสายนี้เช่นกันครับ ว่าเส้นทางสายนี้ผ่านจุดใด ๆ บ้างก่อนที่จะถูกรื้อรางออกไป เป็นกำลังใจให้กับคุณ mirage_II ด้วยนะครับ _________________
--------------------------
สถานีต่อไป สถานีเรณูนคร
next station Renunakorn
|
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 14/11/2016 5:44 pm Post subject: |
|
|
เช่นกันครับ ต้องขอบคุณ คุณnutsiwat ที่แวะเข้ามาชมและทักทายกััน
ใช่ครับ เส้นทางนี้มีสะพานข้ามเหวหลายแห่ง เพราะเป็นเชิงเขาที่มีแนวเขายื่นออกไปหลายแห่ง เนื่องจากทางรถไฟไม่สามารถตัดให้คดเคี้ยวทำมุมแคบได้เท่ากับทางรถยนต์ เลยทำให้ต้องตัดเขาให้เป็นช่อง ถมเหว และถ้าเหวลึกมากก็ต้องทำสะพานเชื่อมระหว่างเชิงเขา นับเป็นความพยายามของมนุษย์ในการต่อสู้กับธรรมชาติ เพื่อให้ได้เส้นทางที่ราบเรียบ ขนส่งจำนวนมากอย่างสะดวกสบาย แต่ก็ต้องแลกกับชีวิต ความลำบาก ทรมาน และอันตรายทั้งจากธรรมชาติ มนุษย์ด้วยกัน แม้กระทั่งเส้นทางสร้างเสร็จแล้วก็ต้องเสี่ยงต่อการถูกทำลายจากฝ่ายพันธมิตรอีก ที่น่าสงสารคือเหล่าเชลยศึกกับกรรมกรชาวเอเชียที่ถูกคัดและหลอกให้มาทำงาน ซึ่งสำหรับเชลยศึกที่ต้องจำใจสร้าง เพื่อไปสนับสนุนศตรูให้ต่อสู้ ฆ่าคนชาติเดียวกัน ไม่ทำก็ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม มันเป็นความน่ากลัวสุดที่มนุษย์จะคิดทำกันได้ ก็แค่เอาชนะ และเพื่อความยิ่งใหญ่ของผู้นำญี่ปุ่นเท่านั้นเอง
ส่วนสาเหตุหลักที่ต้องรื้อสะพานเหล่านี้ออก ก็เพราะไม่สามารถทำประโยชน์ในการเดินรถได้อย่างคุ้มค่า เนื่องจากเป็นการสร้างที่เร่งรีบและใช้วัสดุที่ไม่ทนทาน สู้ค่าซ่อมบำรุงไม่ไหว และแม้จะเลิกเดินรถก็ต้องรื้อออก เพราะไม่สามารถดูแลรักษาไว้ได้ เนื่องจากอยู่ในป่าลึก (สมัยก่อนถนนยังไม่มี) ขืนปล่อยทิ้งไว้ ก็จะโดนลักลอบตัดเอาเหล็กและไม้ไปขายหมด แต่นับว่ายังโชคดีที่เรายังเหลือ เส้นทางเลาะหน้าผาช่วงถ้ำกระแซอยู่บ้าง ซึ่งก็ต้องมีการบำรุงรักษากันอย่างต่อเนื่อง ถ้าไม่ใช่เพื่อการท่องเที่ยว เผลอๆ ก็อาจเลิกเดินรถและรื้อรางออกไปเช่นกันครับ เพราะเท่าที่ดู ชุมชนที่พอจะใช้บริการรถไฟสายนี้ ก็น่าจะแค่ตัวเมืองกาญจน์เท่านั้น นอกนั้นก็เพื่อการท่องเที่ยวซะมากกว่า แม้ปัจจุบันจะเจริญมากขึ้น ชาวบ้านก็หันมานิยมใช้รถยนต์มากกว่าอยู่ดีครับ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 17/11/2016 7:54 pm Post subject: |
|
|
ก่อนเดินทางกลับต่อไป ขอแสดงแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมของกูเกิ้ลให้ดูสักหน่อยว่า จุดที่ผมเข้าไปลึกที่สุดคือ "เขื่อนหิน 7 เมตร" มีระยะห่างจากชุดทุบและตอก ทีีผมแยกจากนักท่องเที่ยวคู่นั้นเกือบประมาณ 800 เมตร และถ้านับถึงช่องเขาขาดก็ประมาณ 1.5 กิโลเมตร ในขณะที่ ระยะทางจากช่องเขาขาดถึงเชิงบันไดที่ลงมาจากอาคารพิพิธภัณฑ์ฯ ก็ประมาณ 450 เมตร (หรือถ้านับจากเชิงบันไดเลยก็เกือบ 2 กิโลเมตร) แต่เนื่องจากเป็นการวัดระยะทางโดยโปรแกรมแผนที่กูเกิ้ล ซึ่งจะได้ค่าน้อยกว่าจริงอยู่พอสมควร ก็แสดงว่าผมน่าจะเดินมีระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร
เมื่อประมาณระยะทางที่จะต่อไปให้ถึงถนนที่ตัดผ่าน ก็ตกประมาณ 530 เมตร และไปถึงสถานีหินตก(เก่า) อีก 300 เมตร หรือ ไปให้สุดเส้นทางที่จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ฯ คือ ช่องอัดอากาศอีก 860 เมตร รวมๆ แล้วก็น่าจะเหลืออีกระยะทางประมาณ 1.7 กิโลเมตร(หรืออาจเป็น 2 กิโลเมตร) เรียกว่าผมเดินมาถึงครึ่งทางแล้ว! ทั้งๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจไว้แต่แรก คือกะจะมาแค่ช่องเขาขาด ที่มีระยะทางเพียง 450 เมตร แถมขากลับต้องเดินกลับคนเดียว ท่ามกลางเวลาโพล้เพล้ด้วย
เอาล่ะ เรามาเดินย่ำต๊อกกันต่อ ผมกำลังปีนบันไดกลับขึ้นมาที่เนินแห่งที่ 5 แล้ว
แหงนดูข้างบน ต้องค่อยๆ ก้าวขึ้นช้าๆ ควบคุมสติอารมณ์ให้ดี เพราะยังมีเนินที่ต้องขึ้นๆลงๆ อีกหลายจุด เราอยู่คนเดียวท่ามกลางป่าที่ค่อยๆ มืดลง ถ้าเกิดอันตรายอะไรจะลำบาก คนข้างนอกกว่าจะเข้ามาช่วยคงมืดซะก่อน ก็จะยิ่งอันตรายเข้าไปอีกครับ
Last edited by mirage_II on 12/10/2017 1:54 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 17/11/2016 8:06 pm Post subject: |
|
|
ในที่สุดผมก็ขึ้นมาเกือบถึงยอดบันไดของเนินที่ 5 แล้ว...
มองไปทางกองหินที่คล้ายกำแพงเมืองจีนทางขวามือ นี่ก็คือจุดที่วางตอม่อสะพานในอดีต แต่จะว่าไปแล้วผมเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นของดั้งเดิมหรือเปล่า เพราะกาลเวลาที่ผ่านมาแสนนาน น่าจะพังทลายไปมากกว่านี้ เนื่องจากสังเกตุเห็นวัสดุคล้ายปูนซิเมนต์เชื่อมระหว่างก่อนหินอยู่ ในขณะที่สมัยโน้นอยู่ในยุคสงคราม ยากที่จะหาปูนซีเมนต์ มาเชื่อมก้อนหินเหล่านี้ คืออาจมีการปรับปรุงให้เห็นชัดๆว่าเป็นเชิงสะพาน แต่ตำแหน่งนั้น น่าจะแน่นอนว่าเป็นจุดเดิมที่เคยมีสะพานรถไฟจริงๆ
เดิน(กลับ)ต่อไปบนเนินที่ 5 หนทางข้างหน้ายังอีกไกลกว่าจะถึงช่องเขาขาดครับ ตรงจุดนี้มีต้นไม้เอียงล้มขวางทางอยู่ ถ้าค่ำมืดลงคงดูหลอนน่าดูนะครับ
ลองผ่อนคลาย หันไปทางวิวฝั่งตรงข้ามหน้าผาดูบ้าง ดูจะแล้งๆ แม้ว่าฝนจะเริ่มตกกันบ้างแล้ว (เดือนที่ไปเป็นเดือนพฤษภาคม นะครับ)
Last edited by mirage_II on 12/10/2017 1:58 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 17/11/2016 8:18 pm Post subject: |
|
|
เดินมาพักนึงใกล้จะสุดเนินแล้ว มองเห็นบันไดเหล็กของเนินแห่งที่ 4 อยู่ไกลๆโน่น(ขยายดูให้ชัดในภาพเล็ก)
ผมปีนลงจากเนินที่ 5 และมาถึงเชิงบันไดเหล็กที่ดูแข็งแรง อันเป็นจุดที่แยกจากนักท่องเที่ยวคู่นั้น ซึ่งตอนนี้พวกเขาได้เดินกลับไปก่อนหน้าแล้ว ซึ่งอาจจะถึงช่องเขาขาดแล้วก็ได้ ระยะทางช่วงนี้ประมาณ 800 เมตรจะถือว่าเป็นระยะทางที่เปล่าเปลี่ยวที่แน่ใจได้ว่าไม่มีใครเข้ามาแล้ว และเย็นลงเรื่อยๆ
ผมค่อยๆ ก้าวขึ้นมาถึงยอดบันไดเหล็กที่สูง มองเห็นช่องเขาข้างหน้าอย่างวังเวง...
คงจำกันได้ว่า ช่องเขานี้มีหินก้อนหนึ่งที่ดูคล้ายสัตว์ชนิดหนึ่ง ขากลับนี้ผมขอลูบหัว เอ๊ย หินก้อนนี้อย่างเอ็นดูและเซลฟี่ตัวเองไว้สักภาพนะครับ
Last edited by mirage_II on 12/10/2017 2:02 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
TONE8717
3rd Class Pass
Joined: 11/03/2015 Posts: 43
|
Posted: 17/11/2016 8:26 pm Post subject: |
|
|
กำลังติดตามอยู่ครับ อยากไปมาก แต่ดูวังเวงจัง... |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 17/11/2016 8:30 pm Post subject: |
|
|
หันมองไปข้างหน้า ซึ่งเป็นช่องเขาเล็กๆ อีกแห่ง ซึ่งเนินนี้จะมี 2 ช่องเขาอยู่ใกล้กัน (มีก้อนหินคล้ายสัตว์อยู่ระหว่างกลาง)
เดินเลยช่องเขาที่สอง มาพอสมควรก็จะเห็นเก้าอี้ม้าหินนั่งชมวิว (น่าจะเรียกว่านั่งพักเหนื่อยซะมากกว่า เพราะมีต้นไผ่บังวิวอยู่) อยู่ริมทาง ตอนขาไปไม่ทันได้ถ่ายภาพ เลยกดมาสักแชะ! ครับ
หันหลังไปมอง ทางที่เดินมา มีคนเขาบอกว่าถ้าหากเราเดินไปไหน แล้วหันหลังบ่อยๆ จะเกิดมโนเหมือนว่ามีคนกำลังเดินตามเรามาได้..บรื่อยย์
มองต่อไปข้างหน้า จะเห็นปลายเนินอยู่ลิบๆ ซึ่งจะต่อด้วยเนินที่ 3 อีก
Last edited by mirage_II on 12/10/2017 2:05 am; edited 2 times in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 17/11/2016 8:40 pm Post subject: |
|
|
ในที่สุดก็มาถึงบันไดลงเนินที่ 4 และต่อด้วยบันไดขึ้นเนินที่ 3 อยู่ไม่ไกลนัก นึกๆ แล้วก็เหมือนชีวิตคนเราที่มีขึ้นๆ ลงๆ ตลอดเวลานะครับ
บันไดลงอันนี้ไม่ยาวนัก ซึ่งก็หมายถึงบันไดขึ้นก็น่าจะไม่สูงเช่นกัน เพราะระดับความสูงของเนินทุกแห่งนั้นต้องอยู่ระดับใกล้เคียงกัน เพื่อการเดินรถไฟที่ไม่ต้องใช้แรงไต่ขึ้นลงมากนัก
ลงมาก้นเหวระหว่างเนิน 4 กับ เนิน 3 ทางเดินตรงนี้ดูเรียบและค่อนข้างตรงดี มีต้นไม้ใหญ่สีขาวอยู่ข้างทาง ดูแล้วสวยดีนะครับ
เดินเกือบจะถึงบันไดขึ้นเนินที่ 3 แล้ว สังเกตุเห็นก้อนหินที่เรียงกันเป็นฐานของเชิงสะพาน ดูเป็นระเบียบดีมาก ยิ่งทำให้คิดว่าไม่น่าจะเป็นของเดิม แหม..ถ้ามีการพาดสะพานไม้ระหว่างเนินบ้างก็จะทำให้การเดินสะดวกขึ้นเยอะนะครับ อิิอิ
Last edited by mirage_II on 12/10/2017 2:09 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
|