View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44791
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 26/03/2018 11:41 am Post subject: |
|
|
รฟท.เพิ่มเส้นทางรถไฟ "หัวหิน-ชุมพร"
โพสต์ทูเดย์ วันที่ 26 มี.ค. 2561 เวลา 07:25 น.
รฟท.รับลูก “สมคิด” เตรียมตั้งงบศึกษาแผนเพิ่มเส้นทางรถไฟไฮสปีดหัวหิน-ชุมพร เล็งต่อขยายยาวไปถึงหาดใหญ่
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการกระทรวงคมนาคมศึกษาการพัฒนาเส้นทางรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-หัวหิน ให้ต่อขยายเพิ่มเติมช่วงหัวหิน-ชุมพร เพื่อส่งเสริมนโยบายการท่องเที่ยวเมืองรองและไทยแลนด์ริเวียร่านั้น
การศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการรถไฟความเร็วสูงส่วนต่อขยายช่วงหัวหิน-ชุมพร จะเป็นความรับผิดชอบของ รฟท. ภายใต้กระทรวงคมนาคมศึกษา โดย รฟท.กำลังพิจารณาของบประมาณเพื่อดำเนินการศึกษา โดยยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะตั้งของบกลางปี 2561 หรือของบปี 2562 แต่คาดว่าจะใช้เวลาศึกษาโครงการกว่า 1 ปี ควบคู่ไปกับเร่งจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เพื่อเสนอสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.)
สำหรับงบประมาณดำเนินการจะต้องให้ รฟท.พิจารณา ก่อนเสนอหลักการและแนวทางดำเนินการเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เพื่อพิจารณาต่อไป
ขณะที่ด้านความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทาง 211 กิโลเมตร วงเงิน 9.5 หมื่นล้านบาทนั้น ได้ทำรายละเอียดโครงการเรียบร้อยแล้วทั้งขั้นตอนเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) และการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดย รฟท.อยู่ระหว่างเสนอข้อสรุปทั้งหมดเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (บอร์ดพีพีพี)พิจารณาบรรจุเป็นโครงการภายใต้แนวทางพีพีพีต่อไป
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่อย่างรถไฟความเร็วสูงเส้ทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทาง 211 กิโลเมตร เป็นโครงการที่ทำเพื่อเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟความเร็วสูงเส้น ทางกรุงเทพฯ-หนองคาย และกรุงเทพฯ-ระยอง ซึ่งโดยปกติรถไฟความเร็วสูงที่มีความเร็ว 250-300 กิโลเมตร จะมีจุดคุ้มทุนตามความยาวของเส้นทางที่ 500-800 กิโลเมตร เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากกว่าการเดินทางโดยรถยนต์
ดังนั้น การต่อขยายเส้นทางช่วงหัวหิน-ชุมพร จะส่งผลให้ระยะทางรวมยาวและอาจเพิ่มความคุ้มค่าของโครงการได้สอดคล้องกับที่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ที่ยินดีรับเรื่องไปศึกษา โดยจะไม่หยุดอยู่แค่ จ.ชุมพร พร้อมดูรายละเอียดต่อขยายเส้นทางไฮสปีดจากช่วงหัวหินไปจนถึง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวภาคใต้เชื่อมต่อไทย-มาเลเซีย |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 26/03/2018 11:59 am Post subject: |
|
|
ศึกษาไฮสปีดหัวหิน-ชุมพร ต่อเส้นทางยาวถึงหาดใหญ่
จันทร์ที่ 26 มีนาคม 2561 เวลา 12.09 น.
รฟท. เตรียมตั้งงบศึกษาแผนเพิ่มเส้นทางรถไฟไฮสปีดหัวหิน-ชุมพร เล็งต่อขยายยาวไปถึงหาดใหญ่
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ส่วนต่อขยายหัวหิน-ชุมพรเป็นความรับผิดชอบของรฟท. ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาของบประมาณศึกษาและใช้เวลาศึกษามากกว่า 1 ปี ควบคู่กับการเร่งจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เพื่อเสนอสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) หลังพิจารณารายละเอียดเสร็จจะเสนอหลักการและแนวทางดำเนินการเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เพื่อพิจารณาเห็นชอบต่อไป
ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพ-หัวหินระยะทาง 211 กม. วงเงิน 9.5 หมื่นล้านบาทนั้น ขณะนี้ได้จัดรายละเอียดโครงการเรียบร้อยแล้วทั้งด้านขั้นตอนเอกสารประกวดราคา(ทีโออาร์)และขั้นตอนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม รฟท.อยู่ระหว่างเสนอข้อสรุปเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ(บอร์ดพีพีพี)พิจารณาบรรจุเป็นโครงการภายใต้แนวทางพีพีพีต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่อย่างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพ-หัวหิน เป็นโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพ-หนองคายและกรุงเทพ-ระยองซึ่งโดยปกติแล้วการใช้รถไฟฟ้าความเร็วสูงที่มีความเร็ว 250-300 กม. จะมีจุดคุ้มทุนตามความยาวของเส้นทางอยู่ที่ 500 กม.-800 กม.เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากกว่าการเดินทางโดยรถยนต์ดังนั้นการต่อขยายเส้นทางช่วงหัวหิน-ชุมพรจะส่งผลให้ระยะทางรวมยาวขึ้น จึงอาจเพิ่มความคุ้มค่าของโครงการได้ สอดคล้องกับที่นายอาคมเติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมยินดีจะรับเรื่องไปศึกษาตามแผนดังกล่าวโดยจะไม่หยุดอยู่แค่จ.ชุมพรพร้อมดูรายละเอียดการต่อขยายเส้นทางไฮสปีดเป็นภาพรวมใหญ่จากช่วงหัวหินไปจนถึงอ.หาดใหญ่จ.สงขลา เพื่อส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวภาคใต้เชื่อมไทย-มาเลเซียด้วย
นอกจากนี้รัฐบาลยังมองว่าโครงการดังกล่าวเป็นเส้นทางสำคัญในการส่งเสริมนโยบายการท่องเที่ยวตามแนวชายฝั่งใน จ.เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวระดับโลกเช่นเดียวกับประเทศฝรั่งเศสและอิตาลีตามนโยบายไทยแลนด์ริเวียร่า จึงเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเสนองบประมาณดำเนินการโครงการ
Note: ยืดไปชุมพร - สุราษฏร์ธานี หนะ สนับสนุนเต็มที เพราะ ฝรั่งชอบเที่ยวสมุยและเกาะเต่าโดยลงที่ชุมพรและสุราษฏร์ธานีกันนัก ไปถึงหาดใหญ่ก็คุ้ม เพราะ จอดทุ่งสง เพื่อลงไปตรัง งานนี้ได้ฟื้นฟูการเดินรถ ทุ่งสง - กันตังเป็นรถชานเมืองโดยืดไปถึงสุราษฏร์ธานีและ นครศรีธรรมราช ด้วย ไปหาดใหญ่ก็เพราะเพราะ เดี๋ยวนี้ พวกจากมาเลย์ก็ไปเที่ยวสงขลา พัทลุงก็เยอะ ที่น่าคิดก็คือ คนมาเลย์อยากให้ทำทางรถไฟ ไปภูเก็ตโดยผ่านทางสตูลหรือไม่ก็ ไปทางเส้นกันตัง |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44791
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 27/03/2018 4:21 pm Post subject: |
|
|
ครม.ไฟเขียวรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน220 กม.รูปแบบ PPP Net Cost
27 มีนาคม 2561
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)(27 มี.ค. 61) อนุมัติโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ระยะทาง 220 กม. ในรูปแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐจะเป็นผู้ลงทุนค่ากรรมสิทธิ์ที่ดิน ส่วนเอกชนลงทุนด้านงานโยธา โดยมีระยะเวลา 50 ปี
สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้จะจัดทำร่างเอกสารเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) เพื่อหาผู้ประมูลโครงการ และจะเสนอเข้าครม.อีกครั้ง |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44791
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 27/03/2018 6:43 pm Post subject: |
|
|
ครม.อนุมัติเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
โพสต์ทูเดย์ วันที่ 27 มี.ค. 2561 เวลา 18:22 น.
ครม.ไฟเขียวรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ใหเปิดประมูลแบบ "PPP Net Cost" กรอบวงเงินร่วมทุน 1.19 แสนล้านบาท
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินนานาชาติ ซึ่งถือเป็นแฟลกชิพของโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งจะทำให้ภาพลักษณ์ของ EEC เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดย ครม.อนุมัติให้เปิดการประมูลโครงการแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐลงทุนค่างานจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน
ขณะที่ภาคเอกชนลงทุนค่างานโยธา ค่างานระบบรถไฟฟ้าและขบวนรถไฟฟ้า ค่าพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟและบริการผู้โดยสาร และค่าจ้างที่ปรึกษาโครงการ รวมทั้งดำเนินงานบริหารและซ่อมบำรุงโครงการ โดยให้เอกชนร่วมลงทุนรวมเป็นเวลา 50 ปี และเอกชนเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสารและความเสี่ยงด้านจำนวนผู้โดยสารของโครงการ (Ridership Risk) จัดเก็บรายได้จากการพัฒนาพื้นที่โครงการ ซึ่งคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กนศ.) ได้ให้ความเห็นชอบด้วยแล้ว
ทั้งนี้ ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามขั้นตอนของประกาศ กนศ.โดยเคร่งครัดต่อไป
นายณัฐพร กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติกรอบวงเงินที่รัฐร่วมลงทุนกับเอกชนในโครงการดังกล่าววงเงินไม่เกิน 119,425.75 ล้านบาท ที่เป็นมูลค่าปัจจุบันตามที่ตกลงในสัญญาร่วมลงทุน โดยทยอยจ่ายให้เอกชนหลักจากเริ่มเปิดเดินรถไฟความเร็วสูงทั้งระบบแล้ว และแบ่งจ่ายเป็นรายปี โดยกำหนดระยะเวลาแบ่งจ่ายไม่ต่ำกว่า 10 ปี และอนุมัติให้ รฟท. มีอำนาจร่วมลงทุนกับเอกชนที้ได้รับคัดเลือก
อีกทั้ง อนุมัติค่างานที่เกี่ยวข้องกับการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและค่าสำรวจอสังหาริมทรัพย์โครงการรถไฟความเร็วสูงฯ ในกรอบวงเงินจำนวน 3,570.29 ล้านบาท และยังเห็นชอบให้รัฐบาลรับภาระหนี้โครงสร้างพื้นฐานของโครงการแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ของ รฟท. เป็นจำนวนเงิน 22,558.06 ล้านบาท
พร้อมกันนั้น ให้กำหนดพื้นที่โครงการรถไฟความเร็วสูงฯ ตั้งแต่สนามบินดอนเมืองถึงสุดเขตกรุงเทพฯ และรวมถึงสถานีสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นพื้นที่ภายนอกระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เป็นพื้นที่ "ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก" เพิ่มเติม ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 2/2560 เรื่อง การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ รฟท. สกรศ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
"เมื่อวิเคราะห์ทั้งโครงการจะให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจราว 7 แสนล้านบาท ผลตอบแทนจะมาจากมูลค่าเพิ่มของสนามบินอู่ตะเภา ผลตอบแทนจากพัฒนาเศรษฐกิจตลอดเส้นทาง ลดการใช้น้ำมัน ลดมลพิษ ความเจริญที่จะเกิดขึ้นรอบๆสถานีรถไฟ การจ้างงาน การใช้ปัจจัยการผลิตในประเทศ และภาษีที่คาดว่าจะจัดเก็บได้มากขึ้น เพราะโครงการนี้จะรวมถึงการพัฒนาที่ดินมักกะสันด้วย"
สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้จะจัดทำร่างเอกสารเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) เพื่อหาผู้ประมูลโครงการ และเมื่อได้ตัวเลขงบประมาณที่แน่ชัดก็จะเสนอเข้าครม.อีกครั้ง |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 27/03/2018 9:01 pm Post subject: |
|
|
ครม. เคาะรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน อู่ตะเภาเข้ากทม.แค่ 45 นาที ค่าโดยสารขั้นต่ำ 330 บาท
วันที่ 27 มีนาคม 2561 - 16:22 น.
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2561 เห็นชอบโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน คือ สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินอู่ตะเภา เพื่อสร้างภาพลักษณ์โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเห็นชอบให้ภาครัฐร่วมลงทุนกับเอกชนในรูปแบบ PPP NET COST โครงการรถไฟความเร็วสูง ระยะทาง 220 กิโลเมตร ความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะใช้เวลาจากสนามอู่ตะเภาเข้ากรุงเทพฯ ไม่เกิน 45 นาที
ทั้งนี้ ภาครัฐลงทุนรับผิดชอบค่างานงานจัดสรรกรรมสิทธิ์ที่ดิน ส่วนเอกชนลงทุนค่างานโยธา ระบบรถไฟฟ้า ขบวนรถไฟฟ้า พัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสุนนบริการรถไฟ และบริการผู้โดยสาร ค่าจ้างผู้ปรึกษาโครงการ ค่าบริหารซ่อมบำรุงโครงการ โดยให้เอกชนร่วมลงทุนระยะเวลา 50 ปี เอกชนจัดเก็บค่าโดยสาร ความเสี่ยงจำนวนผู้โดยสาร และจัดเก็บรายได้จากการพัฒนาพื้นที่โครงการ กำหนดอัตราค่าโดยสารเริ่มต้น มักกะสัน-พัทยา 270 บาท มักกะสัน-อู่ตะเภา 330 บาท
นายณัฐพร กล่าวว่า ครม. ยังอนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีอำนาจร่วมลงทุนกับเอกชนที่ได้รับเลือก และอนุมัติค่างานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการกรรมสิทธิ์ที่ดิน และสำรวจอสังหาริมทรัพย์โครงการรถไฟความเร็วสูง ในกรอบวงเงิน 3,570.29 ล้านบาท รวมทั้งอนุมัติกรอบวงเงินร่วมลงทุนกับเอกชนในกรอบวงเงิน 119,425.75 ล้านบาท โดยรัฐทยอยจ่ายให้เอกชนแบ่งจ่ายเป็นรายปี ไม่ต่ำกว่า 10 ปี และให้รัฐรับภาระหนี้โครงสร้างพื้นฐานโครงการแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ของ รฟท. ในวงเงิน 22,558.06 ล้านบาท โดยมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ รฟท. สำนักงาน อีอีซี และส่วนงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการต่อไป
นอกจากนี้ ครม. เห็นชอบให้พื้นที่โครงการรถไฟความเร็วสูงตั้งแต่ สนามบินดอนเมือง-สุดเขตกรุงเทพ และสนามบินสุวรรณภูมิ ที่เป็นพื้นที่นอกอีอีซี ให้เป็นพื้นที่อีอีซีเพิ่มเติม จากปัจจุบันที่ประกาศพื้นอีอีซี 3 จังหวัด และประกาศพื้นที่พิเศษเป็นหย่อมๆ เนื่องจากพื้นที่บางสถานที่ไม่ได้อยู่ในอีอีซี ถ้าจะพัฒนาได้ก็ต้องมีการประกาศให้เป็นพื้นที่พิเศษก่อน ทั้งในส่วนที่เป็นทางรถไฟวิ่งผ่านรวมถึงรอบๆ สถานี หากมีการพัฒนาเชิงพาณิชย์ จะได้ครอบคลุมถึงในนั้นด้วย เช่น พื้นที่มักกะสัน และแอร์พอร์ตลิงก์ที่รวมเป็นพื้นที่พิเศษทั้งหมด ทำให้แอร์พอร์ตลิงก์ มีเที่ยวเดินทางถี่ขึ้น ขบวนละทุก 10 นาที
โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จะเป็นการเปิดพื้นที่พัฒนา 3 จังหวัดในอีอีซีด้วย เพราะมีการสร้างสถานีรถไฟใน 5 สถานี ที่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ศรีราชา พัทยา อู่ตะเภา ทำให้พื้นที่ 3 จังหวัดนี้มีการพัฒนาตัวเมืองมากขึ้น ขณะที่ค่าโดยสาร ถูกกว่าการเดินทางโดยวิธีอื่น รวมถึงระยะเวลาที่ใช้น้อยลงด้วย ซึ่งหลังจากนี้ ขั้นตอนต่อไปอยู่ที่การร่างเงื่อนไขโครงการ (ทีโออาร์) การสรรหาผู้ประมูล และได้ตัวเลขงบประมาณก็จะเข้าครม. อีกครั้งโดยเร็วที่สุด นายณัฐพร กล่าว
นายณัฐพร กล่าวว่า ผลการวิเคราะห์ผลตอบแทนโครงการ (EIRR) คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 7 แสนล้านบาท แบ่งเป็น 50 ปีแรก 4 แสนล้านบาท และ 50 ปีหลัง 3 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการผลตอบแทนจากมูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นของสนามบินอู่ตะเภา ลดการใช้น้ำมัน ลดการเดินทาง มลพิษ สิ่งแวดล้อมจากการใช้รถยนต์ ผลตอบแทนจากการพัฒนาเศรษฐกิจตลอดเส้นทาง และความเจริญที่เกิดขึ้นตลอดเส้นทาง การจ้างงานและการใช้ปัจจัยการผลิตในประเทศ จัดเก็บภาษีมากขึ้น |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44791
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 28/03/2018 7:38 am Post subject: |
|
|
ฉลุย"ไฮสปีดเทรน"3สนามบินเตรียมร่างทีโออาร์ร่วมทุนเอกชน50ปี
คมชัดลึก 28 มี.ค. 61
เป็นผลสืบเนื่องมาจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561 มีการพิจารณาอนุมัติโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง, สุวรรณภูมิ, อู่ตะเภา) รวมระยะทาง 220 กิโลเมตร วงเงินกว่า 236,700 ล้านบาท
ล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (27 มี.ค.) มีมติเห็นชอบอนุมัติโครงการดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย ณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ระยะทาง 220 กม. ในรูปแบบร่วมทุนกับเอกชนหรือพีพีพี (PPP Net Cost) โดยภาครัฐจะเป็นผู้ลงทุนค่ากรรมสิทธิ์ที่ดิน ส่วนเอกชนลงทุนด้านงานโยธา โดยมีระยะเวลา 50 ปี สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้จะจัดทำร่างเอกสารเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) เพื่อหาผู้ประมูลโครงการและจะเสนอเข้าครม.อีกครั้ง
ณัฐพร กล่าวอีกว่า ครม.ยังอนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) มีอำนาจร่วมลงทุนกับเอกชนที่ได้รับเลือก และอนุมัติค่างานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการกรรมสิทธิ์ที่ดินและสำรวจอสังหาริมทรัพย์โครงการรถไฟความเร็วสูงในกรอบวงเงิน 3,570.29 ล้านบาท รวมทั้งอนุมัติกรอบวงเงินร่วมลงทุนกับเอกชนในกรอบวงเงิน 119,425.75 ล้านบาท โดยรัฐทยอยจ่ายให้เอกชนแบ่งจ่ายเป็นรายปีไม่ต่ำกว่า 10 ปี และให้รัฐรับภาระหนี้โครงสร้างพื้นฐานโครงการแอร์พอร์ต เรลลิงก์ ของร.ฟ.ท. ในวงเงิน 22,558.06 ล้านบาท โดยมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ ร.ฟ.ท. สำนักงานอีอีซี และส่วนงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการต่อไป
นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบให้พื้นที่ที่เป็นทางรถไฟวิ่งผ่านรวมถึงรอบๆ สถานีเป็นพื้นที่พิเศษด้วยเพื่อรองรับหากมีการพัฒนาเชิงพาณิชย์ จะได้ครอบคลุมถึงในนั้นด้วย เช่น พื้นที่มักกะสัน และแอร์พอร์ตลิงก์ขณะที่ค่าโดยสารจะถูกกว่าการเดินทางโดยวิธีอื่น รวมถึงระยะเวลาที่ใช้น้อยลงด้วย ซึ่งหลังจากนี้ขั้นตอนต่อไปอยู่ที่การร่างเงื่อนไขโครงการ (ทีโออาร์) การสรรหาผู้ประมูล และได้ตัวเลขงบประมาณก็จะเข้าครม. อีกครั้งโดยเร็วที่สุด
ส่วนเอกชนเป็นผู้ลงทุนงานโยธา ติดตั้งระบบเดินรถและซ่อมบำรุงตลอดอายุสัญญา พร้อมสิทธิพัฒาพื้นที่รอบ 9 สถานี ประกอบด้วย ดอนเมือง บางซื่อ มักกะสัน สุวรรณภูมิ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ศรีราชา พัทยา และอู่ตะเภา ระยะทาง 226 กิโลเมตร รวมที่ดินมักกะสัน 140 ไร่ และศรีราชาอีก 30 ไร่ เนื่องจากรัฐบาลกำหนดให้สถานีมักกะสันเป็นเกตเวย์เชื่อมพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ทั้งยังได้สิทธิการเดินรถและพัฒนาพื้นที่ 8 สถานีที่จอดรถแอร์พอร์ต เรลลิงก์ (พญาไท-สุวรรณภูมิ) รวมในสัมปทานเดียวกันด้วย เพื่อรองรับผู้ใช้บริการซิตี้ ไลน์ (รับส่งระหว่างสถานี)
ส่วนทรัพย์สินของแอร์พอร์ตลิงก์ยังเป็นของร.ฟ.ท. แต่พนักงาน 400-500 คนของบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูก ร.ฟ.ท.จะต้องเดินรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน) ที่จะเปิดใช้ปี 2563 ด้วย
ในขณะที่เอกชนรายใหม่ที่รับสัมปทานรถไฟเชื่อม 3 สนามบินนั้นจะได้สิทธิบริหารและเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์ เพราะเป็นแนวเส้นทางเดียวกัน สามารถบริหารปรับปรุงระบบเก่าใหม่ได้ รวมถึงซื้อรถใหม่ด้วย เนื่องจากการบริหารของเอกชนจะคล่องตัวกว่าการรถไฟ
จากนี้ไปจะเป็นการร่างเอกสารเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) โครงการให้แล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2561 และเริ่มประกวดราคาในเดือนเมษายน 2561 จากนั้นจะให้เอกชนเตรียมเอกสารเพื่อยื่นประมูลระยะเวลา 4 เดือน ซึ่งคาดว่าจะได้ผู้คัดเลือกและลงนามในสัญญาได้ไม่เกินเดือนธันวาคม 2561
ก่อนหน้านี้ จเร รุ่งฐานีย รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้แจงในรายละเอียดของโครงการ โดยระบุว่าโครงการดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 5 ส่วน ได้แก่
1.ส่วนที่เป็นรถไฟแอร์พอร์ต เรลลิงก์ เส้นทางเดินรถปัจจุบัน (พญาไท-สุวรรณภูมิ)
2.ส่วนรถไฟแอร์พอร์ต เรลลิงก์ ส่วนต่อขยายช่วงพญาไท-ดอนเมือง
3.ส่วนรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-อู่ตะเภา
4.ส่วนการพัฒนาที่ดินมักกะสันในเชิงพาณิชย์ และ
5.ส่วนการพัฒนาที่ดินรอบสถานีรถไฟความเร็วสูง
ทั้งนี้มีระยะสัมปทาน 50 ปี โดยใช้ระยะเวลาดำเนินการก่อสร้าง 5 ปี และระยะเวลาใช้พื้นที่ 45 ปี ซึ่งจากผลการศึกษาโครงการนี้จะใช้ทางรถไฟขนาด 1.435 เมตร ช่วงพญาไท-ดอนเมือง และลาดกระบัง-อู่ตะเภา รวมระยะทางประมาณ 220 กิโลเมตร
สำหรับการเดินรถช่วงดอนเมือง-สุวรรณภูมิ ความเร็ว 160 กม./ชม. ขณะที่ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ใช้ความเร็ว 250 กม./ชม. ส่วนค่าโดยสาร ซิตี้ ไลน์ คิดค่าแรกเข้า 13 บาท และเก็บ 2 บาท/กม. และค่าโดยสารรถไฟความเร็วสูงคิดค่าแรกเข้า 80 บาท และเก็บ 1.80 บาท/กม. โดยค่าโดยสารจากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินอู่ตะเภา และจากสนามบินสุวรรณภูมิไปยังสนามบินอู่ตะเภา จะอยู่ที่ประมาณ 500 และ 300 บาทต่อเที่ยว ตามลำดับ
อย่างไรก็ตามโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน แบบไร้รอยต่อดังกล่าว เป็นโครงการที่ใช้โครงสร้างและแนวเส้นทางการเดินรถเดิมของระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน (แอร์พอร์ต เรลลิงก์) ที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน โดยจะก่อสร้างทางรถไฟขนาด 1.435 เมตร (Standard Gauge) ส่วนต่อขยาย 2 ช่วง จากสถานีพญาไทไปยังสนามบินดอนเมือง และจากสถานีลาดกระบังไปยังสนามบินอู่ตะเภา และจ.ระยอง พร้อมเชื่อมเข้าออกสนามบิน ซึ่งการเดินรถในช่วงที่ผ่านกรุงเทพฯ ชั้นใน อัตราความเร็วจะอยู่ที่ 160 กม./ชม. และจะวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.ในเขตนอกเมือง
ส่วนสถานีรถไฟความเร็วสูงมีจำนวน 10 สถานี ได้แก่ สถานีดอนเมือง สถานีบางซื่อ สถานีมักกะสัน สถานีสุวรรณภูมิ สถานีฉะเชิงเทรา สถานีชลบุรี สถานีศรีราชา สถานีพัทยา สถานีอู่ตะเภา และสถานีระยอง โครงสร้างส่วนใหญ่เป็นทางยกระดับ โดยมีส่วนที่เป็นอุโมงค์ คือ ช่วงถนนพระรามที่ 6 ถึงถนนระนอง 1 ช่วงเข้าออกสนามบินสุวรรณภูมิ ช่วงผ่านเขาชีจรรย์ และช่วงเข้าออกสถานีอู่ตะเภา รวมทั้งจะมีการก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟความเร็วสูงบนพื้นที่ประมาณ 400 ไร่ บริเวณ จ.ฉะเชิงเทราด้วย
ในขณะที่แนวเส้นทางโครงการจะผ่านพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง โดยเริ่มต้นที่บริเวณท่าอากาศยานดอนเมือง วิ่งขนานไปตามเขตทางรถไฟปัจจุบันเข้าสู่สถานีกลางบางซื่อ ข้ามถนนประดิพัทธ์ และเชื่อมเข้ากับสถานีพญาไทของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (เออาร์แอล) ซึ่งจะวิ่งบนโครงสร้างปัจจุบันของโครงการเออาร์แอล วิ่งผ่านสถานีมักกะสัน และเข้าสู่สถานีสุวรรณภูมิ
ส่วนเส้นทางจากสถานีสุวรรณภูมิจะใช้แนวเส้นทางของโครงการรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-ระยอง เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งใช้แนวเส้นทางเลียบทางรถไฟสายตะวันออกในปัจจุบัน ยกเว้นบริเวณสถานีฉะเชิงเทรา ซึ่งจะต้องเวนคืนที่ดินใหม่เพื่อให้รัศมีความโค้งของทางรถไฟสามารถทำความเร็วได้ โดยสถานีรถไฟความเร็วสูงฉะเชิงเทราจะตั้งอยู่ด้านข้างของถนนทางหลวงหมายเลข 304 ประมาณ 1.5 กิโลเมตรไปทางทิศเหนือของสถานีรถไฟเดิม หลังจากนั้นแนวเส้นทางจะเข้าบรรจบกับเขตทางรถไฟเดิม และผ่านนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งเป็นปลายทางของรถไฟเดิม จากนั้นจะวิ่งอยู่บนเกาะกลางของถนนทางหลวงหมายเลข 363 และ 36 ไปสิ้นสุดที่สถานีปลายทาง จ.ระยอง บริเวณจุดตัดของทางหลวงหมายเลข 36 กับ 3138
ถึงกระนั้นโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง เชื่อม 3 สนามบิน มูลค่ากว่า 236,700 ล้านบาทนั้น ถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โครงการรถไฟฟ้าทางคู่เชื่อมโยงการขนส่งทั้งภาคเหนือ กลาง อีสานและใต้ รวมถึงโครงการพัฒนาท่าอากาศยาน รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 1 ล้านล้านบาท ซึ่งโครงการทั้งหมดจะเห็นความชัดเจนก่อนสิ้นปีนี้ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 28/03/2018 10:48 am Post subject: |
|
|
ไทย-เทศจ้องงบ2.2แสนล้าน-ครม.ไฟเขียวรถไฟเชื่อม3สนามบิน
โดย: MGR Online
เผยแพร่: วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2561 03:09:
ผู้จัดการรายวัน360 องศา- ครม.ผ่านฉลุยลงทุนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน 2.2 แสนล้าน ร.ฟ.ท.เร่งเคาะ TOR ประกาศเชิญชวนก่อนสงกรานต์
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (27 มี.ค.) มีมติอนุมัติโครงการลงทุนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. โดยอนุมัติกรอบวงเงินที่รัฐร่วมลงทุนกับเอกชนวงเงินไม่เกิน 119,425.75 ล้านบาท ที่เป็นมูลค่าปัจจุบันตามที่ตกลงในสัญญาร่วมลงทุน โดยทยอยจ่ายให้เอกชนหลักจากเริ่มเปิดเดินรถไฟความเร็วสูงทั้งระบบแล้ว และแบ่งจ่ายเป็นรายปี โดยกำหนดระยะเวลาแบ่งจ่ายไม่ต่ำกว่า 10 ปี และอนุมัติให้ ร.ฟ.ท. มีอำนาจร่วมลงทุนกับเอกชนที่ได้รับคัดเลือก และอนุมัติค่างานที่เกี่ยวข้องกับการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและค่าสำรวจอสังหาริมทรัพย์โครงการรถไฟความเร็วสูงฯ ในกรอบวงเงินจำนวน 3,570.29 ล้านบาท และเห็นชอบให้รัฐบาลรับภาระหนี้โครงสร้างพื้นฐานของโครงการแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ของ รฟท. เป็นจำนวนเงิน 22,558.06 ล้านบาท
รูปแบบลงทุนรัฐและเอกชนลงทุนร่วมกัน (PPP) ภาครัฐจะเป็นผู้ลงทุนค่ากรรมสิทธิ์ที่ดิน ส่วนเอกชนลงทุนด้านงานโยธา ประเภท PPP Net Cost โดยเอกชน 1 ราย รับงานโครงการไปทั้ง 100% (ก่อสร้างและเดินรถ) อายุสัมปทาน 50 ปี เอกชนจะเป็นผู้บริหาร จัดเก็บรายได้ และแบ่งผลประโยชน์ให้รัฐ ขณะที่รัฐจะช่วยอุดหนุนโครงการไม่เกินมูลค่างานโยธาที่ 1.6 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อครบสัมปทาน 50 ปีแล้ว จะไม่มีการต่อสัญญาอีก โครงการก็จะโอนคืนสู่รัฐ ซึ่งขั้นตอนจากนี้ คือ การจัดทำเอกสารเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) เพื่อหาผู้ลงทุน และจะเสนอเข้าครม.อีกครั้ง โดยสายทางนี้จะใช้ความเร็วที่ 250 กม.ต่อชั่วโมง มีทั้งหมด 5 สถานี คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ศรีราชา พัทยา และอู่ตะเภา ค่าโดยสารสูงสุด 330 บาท
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการจัดทำ TOR โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินคืบหน้าแล้ว 90% ซึ่งหลังจากที่ครม.มีมติเห็นชอบโครงการ ทางคณะกรรมการร่าง TOR ที่มีตนเป็นประธาน จะประชุมเพื่อปรับเงื่อนไข TOR ให้สอดคล้องกันกับรายละเอียดโครงการที่ครม.เห็นชอบ ซึ่งร่าง TOR จะแล้วเสร็จภายในต้นเดือนเม.ย. และจะออกประกาศเชิญชวนเอกชนได้ก่อนเทศกาลสงกรานต์
โดยขณะนี้มีเงื่อนไขที่ยังไม่สรุป เช่น สัดส่วนของต่างชาติที่จะเข้ามาร่วมลงทุนว่าควรจะไม่เกิน 49% ไทย 51% หรือจะให้ต่างชาติเกิน50% ได้เสนอให้คณะกรรมการ นโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ตัดสินใจ และประเด็น กรณีที่อาจจะมีบริษัทจีนยื่นประมูลใน 2 กลุ่ม ซึ่งอาจจะเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน เนื่องจาก บริษัทจีนส่วนใหญ่ มีรัฐบาลจีนเป็นผู้ถือหุ้นด้วยดังนั้นหากมี บริษัท จีน 2 บริษัท แยกประมูลกันคนละกลุ่มจะเกิดปัญหา เพราะมีรัฐบาลจีนถือหุ้นเหมือนกัน เข้าข่ายเป็นการถือหุ้นไขว้และมีประโยชน์ทับซ้อนกันของ 2 กลุ่ม ได้เสนอให้คณะกรรมการกฤษฏีกาพิจารณา โดยคณะกรรมการกฤษฎีกาจะมีการประชุมภายในสัปดาห์นี้
//---------------------
รถไฟ 3 สนามบินฉลุย ครม.ไฟเขียวเปิดประมูลสัมปทาน 50 ปี รัฐร่วมทุน 1.19 แสนล้าน
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 27 มีนาคม พ.ศ. 2561 19:09:
ปรับปรุง: 27 มีนาคม พ.ศ. 2561 19:26:
ครม.ผ่านฉลุย ลงทุนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน สัมปทาน 50 ปี รัฐร่วมลงทุนเอกชน วงเงินไม่เกิน 1.19 แสนล้าน พ่วงพัฒนาที่ดินมักกะสัน 150 ไร่ สถานีศรีราชา 25 ไร่ ร.ฟ.ท.เร่งเคาะ TOR ประกาศเชิญชวนก่อนสงกรานต์
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 27 มี.ค. มีมติอนุมัติโครงการลงทุนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กิโลเมตร (กม.) โดยอนุมัติกรอบวงเงินที่รัฐร่วมลงทุนกับเอกชนวงเงินไม่เกิน 119,425.75 ล้านบาท ที่เป็นมูลค่าปัจจุบันตามที่ตกลงในสัญญาร่วมลงทุน โดยทยอยจ่ายให้เอกชนหลักจากเริ่มเปิดเดินรถไฟความเร็วสูงทั้งระบบแล้ว และแบ่งจ่ายเป็นรายปี โดยกำหนดระยะเวลาแบ่งจ่ายไม่ต่ำกว่า 10 ปี และอนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) มีอำนาจร่วมลงทุนกับเอกชนที่ได้รับคัดเลือก
และอนุมัติค่างานที่เกี่ยวข้องกับการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและค่าสำรวจอสังหาริมทรัพย์โครงการรถไฟความเร็วสูงฯ ในกรอบวงเงินจำนวน 3,570.29 ล้านบาท และเห็นชอบให้รัฐบาลรับภาระหนี้โครงสร้างพื้นฐานของโครงการแอร์พอร์ต เรลลิงก์ ของ ร.ฟ.ท.เป็นจำนวนเงิน 22,558.06 ล้านบาท
รูปแบบลงทุนรัฐและเอกชนลงทุนร่วมกัน (PPP) ภาครัฐจะเป็นผู้ลงทุนค่ากรรมสิทธิ์ที่ดิน ส่วนเอกชนลงทุนด้านงานโยธา ประเภท PPP Net Cost โดยเอกชน 1 ราย รับงานโครงการไปทั้ง 100% (ก่อสร้างและเดินรถ) อายุสัมปทาน 50 ปี เอกชนจะเป็นผู้บริหาร จัดเก็บรายได้ และแบ่งผลประโยชน์ให้รัฐ ขณะที่รัฐจะช่วยอุดหนุนโครงการไม่เกินมูลค่างานโยธาที่ 1.6 แสนล้านบาท ทั้งนี้เมื่อครบสัมปทาน 50 ปีแล้วจะไม่มีการต่อสัญญาอีก โครงการก็จะโอนคืนสู่รัฐ
สำหรับขอบเขตของโครงการรถไฟความเร็วสูงฯ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ 1. ส่วนของระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานอู่ตะเภา เป็นระบบขนส่งทางรถไฟขนาดมาตรฐาน 1.435 เมตร รวมระยะทางประมาณ 220 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ด้วยบริการรถไฟแบบด่วนพิเศษจอดบางสถานี และใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที ด้วยบริการรถไฟแบบปกติจอดทุกสถานี ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณผู้โดยสารประมาณ 147,000 คนต่อวัน ในปีที่เปิดให้บริการ (ปี 2566) ซึ่งส่วนของระบบขนส่งทางรถไฟดังกล่าว ประกอบด้วย
โครงการแอร์พอร์ต เรลลิงก์เดิม ช่วงพญาไทถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 8 สถานี ใช้ความเร็วรถไฟในเมืองสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โครงการแอร์พอร์ต เรลลิงก์ ส่วนต่อขยายช่วงท่าอากาศยานดอนเมืองถึงพญาไท จำนวน 2 สถานี ใช้ความเร็วรถไฟในเมืองสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ ถึงท่าอากาศยานอู่ตะเภา จำนวน 5 สถานี คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ศรีราชา พัทยา และอู่ตะเภา ค่าโดยสารสูงสุด 330 บาทใช้ความเร็วรถไฟระหว่างเมือง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โดยมีศูนย์ซ่อมบำรุงจำนวน 2 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ซ่อมบำรุงคลองตัน [ศูนย์ซ่อมบำรุงที่มีอยู่ในปัจจุบัน ภายใต้โครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง (Suvarnabhumi Airport Rail Link and City Air Terminal : ARL)] และศูนย์ซ่อมบำรุงในบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา (ศูนย์ซ่อมบำรุงแห่งใหม่)
สำหรับการพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟและบริการผู้โดยสารและการดำเนินกิจการทางพาณิชย์ ประกอบด้วย 1. บริเวณสถานีแอร์พอร์ต เรลลิงก์ มักกะสัน ขนาดพื้นที่รวมประมาณ 150 ไร่ เป็นสถานีศูนย์กลางการเดินทางเชื่อมโยงกรุงเทพมหานครกับระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Main Station for EEC Gateway) โดยพื้นที่ดังกล่าวติดกับบริเวณโดยรอบ ดังนี้ ด้านทิศเหนือติดกับถนนจตุรทิศ ด้านทิศตะวันออกติดกับถนนอโศกมนตรี ด้านทิศใต้ติดกับถนนกำแพงเพชร 7 และด้านทิศตะวันตกติดกับที่ดิน ร.ฟ.ท. ในส่วนศูนย์ซ่อมบำรุงของ ร.ฟ.ท. ทั้งนี้ รูปแบบการพัฒนาที่ดินดังกล่าวจะเป็นลักษณะการเช่าซึ่งมีกำหนดระยะเวลาการเช่าเท่ากับ 50 ปี ไม่เกินกว่าระยะเวลาของโครงการ
2. บริเวณสถานีรถไฟความเร็วสูง ศรีราชา ขนาดพื้นที่ประมาณ 25 ไร่ เป็นที่ดินว่างเปล่าของ ร.ฟ.ท. โดยพื้นที่ดังกล่าวติดกับบริเวณโดยรอบ ดังนี้ ด้านทิศเหนือติดกับทางหลวง 3241 ที่เชื่อมต่อ เข้ากับตัวเมืองของอำเภอศรีราชา ด้านทิศตะวันออกติดกับที่ดินเอกชน ด้านทิศใต้ติดกับถนนศรีราชา-หนองยายบู่ และด้านทิศตะวันตกติดกับที่ดินเอกชน ทั้งนี้ รูปแบบการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวจะเป็นลักษณะการเช่าซึ่งมีกำหนดระยะเวลาการเช่าเท่ากับ 50 ปี ซึ่งไม่เกินกว่าระยะเวลาของโครงการ
ส่วนระยะเวลาโครงการที่เหมาะสม คือ 50 ปี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับภาครัฐและประหยัดงบประมาณ แบ่งเป็น 1. ระยะการพัฒนาโครงการฯ ได้แก่ งานการออกแบบและงานการก่อสร้าง เป็นระยะเวลา 5 ปี 2. ระยะการดำเนินงานของโครงการและงานการบำรุงรักษา เป็นระยะเวลา 45 ปี ทั้งนี้ เงื่อนไขรายละเอียดเกี่ยวกับการเริ่มต้นและการสิ้นสุดการนับระยะเวลาดังกล่าว เป็นไปตามที่ ร.ฟ.ท.และเอกชนตกลงกัน
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการจัดทำ TOR โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินคืบหน้าแล้ว 90% ซึ่งหลังจากที่ครม.มีมติเห็นชอบโครงการ ทางคณะกรรมการร่าง TOR ที่มีตนเป็นประธานจะประชุมเพื่อปรับเงื่อนไข TOR ให้สอดคล้องกันกับรายละเอียดโครงการที่ ครม.เห็นชอบ ซึ่งร่าง TOR จะแล้วเสร็จภายในต้นเดือน เม.ย. และจะออกประกาศเชิญชวนเอกชนได้ก่อนเทศกาลสงกรานต์
โดยขณะนี้มีเงื่อนไขที่ยังไม่สรุป เช่น สัดส่วนของต่างชาติที่จะเข้ามาร่วมลงทุนว่าควรจะไม่เกิน 49% ไทย 51% หรือจะให้ต่างชาติเกิน 50% ได้เสนอให้คณะกรรมการ นโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ตัดสินใจ และประเด็นกรณีที่อาจจะมีบริษัทจีนยื่นประมูลใน 2 กลุ่มซึ่งอาจจะเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน เนื่องจากบริษัทจีนส่วนใหญ่มีรัฐบาลจีนเป็นผู้ถือหุ้นด้วย ดังนั้น หากมีบริษัทจีน 2 บริษัท แยกประมูลกันคนละกลุ่มจะเกิดปัญหา เพราะมีรัฐบาลจีนถือหุ้นเหมือนกัน เข้าข่ายเป็นการถือหุ้นไขว้และมีประโยชน์ทับซ้อนกันของ 2 กลุ่ม ได้เสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา โดยคณะกรรมการกฤษฎีกาจะมีการประชุมภายในสัปดาห์นี้
//---------------
นักลงทุน 300 ราย สนใจที่จะ ลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง, สุวรรณภูมิ, อู่ตะเภา) รวมระยะทาง 220 กิโลเมตร วงเงินกว่า 236,700 ล้านบาท
http://www.thaipr.net/general/848843 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44791
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 28/03/2018 5:58 pm Post subject: |
|
|
รมช.คมนาคมคาด2ด.ได้TORรถไฟเชื่อม3สนามบิน
INN News 28 มีนาคม 2018
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม คาดอีก 2 เดือนออก TOR โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ระบุสิ้นปีได้เอกชนเริ่มงานก่อสร้าง
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานประชุมวิชาการและแสดงนิทรรศการ อุตสาหกรรมระบบขนส่งทางรางไทย ครั้งที่ 4 และ RAIL Asia Expo 2018 ว่า ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้ อนุมัติโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา ระยะทาง 220 กิโลเมตรแล้ว คาดว่าภายใน 1 2 เดือน การรถไฟแห่งประเทศไทยจะสามารถออก TOR เพื่อเปิดประมูลโครงการตามขั้นตอน และในช่วงสิ้นปีจะได้เอกชนผู้รับเหมาก่อสร้างและเริ่มดำเนินโครงการตามแผนงาน
ทั้งนี้การพัฒนาการขนส่งระบบรางของไทยแยกเป็น 3 ระบบ ประกอบด้วยรถไฟฟ้าในกรุงเทพและปริมณฑล 10 สายทาง ระยะทาง 465 กิโลเมตรที่ขณะนี้หลายเส้นทางอยู่ระหว่างการก่อสร้าง นอกจากนี้ยังจะมีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าในต่างจังหวัด เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น เป็นระบบที่ 2 เป็นโครงการรถไฟรางคู่ ขยายรถไฟขนาดรางพื้นฐานขนาด 1 เมตรให้เป็นทางคู่ทั้งหมด ในปีที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้อนุมัติโครงการในเฟสแรก 5 เส้นทางแล้ว การรถไฟฯอยู่ระหว่างดำเนินการ ในปีนี้จะดำเนินการเฟสที่ 2 จำนวน 9 เส้นทางและระยะต่อไปจะพัฒนา เป็นรถไฟฟ้าต่อเนื่องในอนาคตและระบบที่ 3 รถไฟความเร็วสูงตามแผน 4 สายทาง
สายอีสาน เป็นโครงการรถไฟไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพ-หนองคาย ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มก่อสร้างระยะแรกช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมาไปแล้ว สายเหนือเส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ สายตะวันตกกรุงเทพ-หัวหิน สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร สนข.อยู่ระหว่างการศึกษา |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 30/03/2018 9:24 pm Post subject: |
|
|
ไฮสปีดเนื้อหอมเกาหลีจ่อลงทุน
วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 08:32 น.
เกาหลีสนลงทุนงานระบบรถไฟฟ้าสายสีส้มควบรถไฟฟ้าสนามบิน มูลค่า 3.7 หมื่นล้าน เชื่อรัฐบาลต้องจ่ายเงินอุ้มเอกชนไฮสปีด |
|
Back to top |
|
|
|